หลวงพ่อสิริ สิริวัฑฒโน

ที่เห็นเป็นรูปหยดน้ำด้านหน้าเป็นพระพิฆเนศครับ

 

ตอนนี้หลวงพ่อจำพรรษาที่ไหนครับ

 

เมื่อประมาณปี 2545 ได้เกิดเหตุการณ์ปล้นรถยนต์ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นกับพี่ชายของผมเอง

พี่ชายผมได้ไปเรียนต่อปริญญาโทและทำงานอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามากว่าสิบปีจนกระทั่งปลายปี 2544 พ่อผมไม่สบายประกอบพี่ชายเกิดปัญหาในชีวิตและเบื่อหน่ายการใช้ชีวิตในต่างประเทศจึงได้เดินทางกลับมาอยู่เมืองไทย

พอกลับมาอยู่เมืองไทยได้สักพักพี่ชายผมได้ออกรถยนต์กระบะสี่ประตู4x4 เอาไว้ใช้งาน และรถยนต์คันดังกล่าวผมได้อาราธนานิมนต์หลวงพ่อสิริฯเจิมเมื่อคราวที่ผมได้นิมนต์ท่านมางานทำบุญที่บ้านผมเมื่อ ปี 2545

ขอเกริ่นเกี่ยวกับพี่ชายผมสักหน่อย พี่ชายผมเมื่อประสบกับปัญหาชีวิตและได้อ่านหนังสือธรรมะของหลวงพ่อจรัญวัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี จึงมีความศรัทธาในหลวงพ่อจรัญและสนใจแนวทางการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานในสายวัดอัมพวันเมื่อกลับมาเมืองไทยจึงได้เดินทางไปปฏิบัติกรรมฐานที่วัดอัมพวัน อย่างตั้งใจจริงจนเห็นกฎแห่งกรรมในอดีตและมีนิมิตเกี่ยวกับหลวงพ่อคูณนอกจากนั้นยังมีนิมิตหลวงปู่ทวดท่านมาสอนกรรมฐานในสมาธิให้อีกด้วย

เรียกได้ว่าการไปปฏิบัติครั้งแรกค่อนข้างได้ผลดีจึงเกิดความศรัทธาเป็นอย่างมากในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

และเมื่ออ่านประวัติของหลวงพ่อจรัญที่ว่าท่านจะใช้หนี้ให้เจ้ากรรมนายเวรให้หมดในชาตินี้ทำให้พี่ชายผมเอามาเป็นแนวทางของตัวเอง กล่าวคือ อธิษฐานว่าจะขอใช้หนี้เจ้ากรรมนายเวรให้หมดในชาตินี้เพราะไม่อยากจะเกิดอีกต่อไป

โดยหลังจากตั้งจิตอธิษฐานดังกล่าวแล้วชีวิตมีแต่ปัญหาเข้ามารุมเร้าตลอดเวลาเพราะตั้งกำลังใจว่าจะไม่มาเกิดอีกแล้ว ทำให้เจ้ากรรมนายเวรรีบทำหน้าที่ตามทวงทันทีอย่างไม่หยุดหย่อน

เมื่อพี่ชายผมกลับมาอยู่เมืองไทยได้ไปช่วยงานที่บ้านที่อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งต้องเดินทางไปมาระหว่างกรุงเทพฯ-ปากช่อง เป็นประจำ โดยเมื่อประมาณกลางปี 2545 เวลาประมาณ 5 ทุ่มกว่าในขณะที่พี่ชายผมกำลังเดินทางจากกรุงเทพฯกลับไปบ้านที่อ.ปากช่อง ซึ่งบ้านผมจะต้องเข้าไปจากถนนมิตรภาพประมาณ 3 กิโลเมตรซึ่งทางเข้าไปไม่ค่อยมีบ้านผู้คนเพราะเป็นบ้านไร่ ในขณะที่กำลังขับรถเข้าบ้านนั้นพี่ชายผมไม่ได้สังเกตและไม่เคยระวังตัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับตัวเอง

แต่ในความเป็นจริงนั้นในขณะที่พี่ชายผมขับรถเข้าบ้านไร่นั้นมีรถยนต์คันหนึ่งขับตามรถยนต์พี่ชายผมมาโดยตลอดแต่ไม่เปิดไฟหน้าทำให้มองไม่เห็นว่ามีรถยนต์ตามมาใกล้ๆ เพราะรถยนต์คันที่พี่ชายผมขับนั้นเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อยกสูง ประกอบกับเปิดเพลงในรถเสียงดังโดยไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับตัวเองจึงทำให้ไม่รู้ตัวว่ามีรถขับตามอยู่

เมื่อประมาณ 200 เมตรก่อนจะถึงบ้านผมจะเป็นทางหักเลี้ยวซ้ายไปตามถนนปรากฏว่ามีรถยนต์คันหนึ่งขับมาปาดหน้าอย่างรวดเร็วและเบรคจอดขวางหน้าพร้อมกับฉายไฟสปอร์ทไลท์เข้าหน้าพี่ชายผมซึ่งเป็นคนขับจนตาพร่าพร้อมกับมีผู้ชาย4 คน วิ่งลงมาจากรถยนต์คันดังกล่าว

ตอนนั้นพี่ชายผมยังงงอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นและคิดว่าต้องมีการเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ จึงได้เปิดกระจกเพื่อสอบถามว่ามีอะไรเกิดขึ้นพอเปิดกระจกลงชายคนหนึ่งซึ่งวิ่งมาถึงที่หน้ารถด้านคนขับได้ต่อยเข้ามาที่หน้าพี่ชายผมพร้อมกับเปิดล็อกประตูและจับพี่ชายผมลงมาด้านล่างและอีกสองคนได้จับพี่ชายผมขึ้นรถในเก๋งด้านหลังและทั้งหมดสี่คนได้ขับรถยนต์พี่ชายผมออกไป โดยพวกโจรมีคนนั่งด้านหน้าสองคนและคนนั่งด้านหลังสองคนและให้พี่ชายผมหมอบลงกับพื้นรถในเก๋งด้านหลังและเอาปืนจี้ไว้ไม่ให้พูดอะไร

เมื่อขับรถออกจากที่เกิดเหตุได้สักพักซึ่งพี่ชายผมก็ไม่รู้ว่ารถยนต์ไปทิศทางใดพวกโจรก็เริ่มรื้อค้นและปล้นทรัพย์สินที่อยู่ในตัวโดยได้ถอดนาฬิกาและเอากระเป๋าตังค์ไปได้มีคนหนึ่งได้คว้ามาที่สร้อยคอพยายามจะดึงสร้อยคอออกแต่บังเอิญพี่ชายผมไม่ได้ใส่สร้อยทอง แต่ใส่เชือกร่มธรรมดาซึ่งในเชือกร่มนั้นมีพระของหลวงพ่อสิริฯองค์เดียวที่ผมให้ไว้ห้อยคออยู่เมื่อโจรเห็นว่าเป็นเชือกธรรมดาจึงปล่อยและไม่ได้สนใจสร้อยคออีกต่อไป

เมื่อเริ่มตั้งตัวได้พี่ชายผมจึงได้พยายามพูดคุยบอกว่าให้เอาทรัพย์สินไปได้ทุกอย่างยอมยกให้หมดแต่อย่าทำอะไรเลยแต่พวกโจรไม่ยอมให้พูดและทุบตีแล้วบอกว่า “เค้าสั่งมาให้เก็บมึง” ในขณะนั้นก็ยังมีการทำร้ายอยู่ตลอดแต่มีโจรคนหนึ่งซึ่งมีลักษณะเหมือนกับหัวหน้าได้พูดขึ้นว่า “พวกมึงทำกับมันดี ๆหน่อย” ทำให้พวกมันเบามือลงและทำให้พี่ชายผมคลายความตึงเครียดลงไปได้บ้าง

รถขับไปได้ไกลพอสมควรประมาณ 20 กิโลเมตรจากจุดที่ปล้นรถยนต์ ถึงบริเวณป่ามันสำปะหลังไม่มีบ้านผู้คน พวกโจรได้จอดรถและลากตัวพี่ชายผมลงไปเหมือนกับจะไปยิงทิ้งแต่โจรที่มีท่าทีว่าเป็นหัวหน้าพวกโจรทั้งหมดได้เข้ามาพาตัวพี่ชายผมไปและเหมือนกับอีกพวกหนึ่งจะไม่ยอมและเริ่มมีปากเสียงกันว่าเค้าสั่งให้เก็บ พี่ชายผมได้ยินโจรที่เป็นหัวหน้าบอกว่า“พวกมึงอย่ายุ่ง” สุดท้ายพวกนั้นก็ไม่กล้ามีปัญหากับคนที่มีลักษณะเหมือนเป็นหัวหน้าจึงยืนอยู่เฉยๆ

โจรที่เป็นหัวหน้าได้พาพี่ชายผมไปมัดไว้กับต้นไม้ต้นหนึ่งโดยใส่กุญแจมือหลวมๆ และใช้ผ้ามัดไว้อีกครั้งหนึ่ง แล้วโจรที่เป็นหัวหน้าได้กระซิบบอกพี่ชายผมว่า “มึงนั่งเฉยๆ ก่อนอย่าเพิ่งหนี” พร้อมกับตบบ่าเบา ๆเหมือนกับให้สัญญาณว่าให้พวกมันไปเสียก่อนแล้วค่อยดิ้นรน

พอพวกโจรได้ออกรถไปสักพักหนึ่งพี่ชายผมซึ่งขณะนั้นรู้สึกหมดกำลังใจและท้อแท้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เริ่มตั้งสติได้และได้ลองดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการปรากฏว่ากุญแจมือที่ใส่ไว้นั้นเป็นกุญแจมือที่เสียแล้วจึงไม่ได้ล็อกอะไรส่วนผ้าที่มัดไว้ก็มัดไว้หลวม ๆพี่ชายผมจึงดิ้นหลุดออกมาได้และเดินไปจนพบบ้านผู้คนและได้ร้องขอความช่วยเหลือแต่กว่าจะมีคนมาช่วยเหลือก็ใช้เวลาสักพักหนึ่งเพราะขณะนั้นเป็นเวลาดึกและบริเวณนั้นเปลี่ยวมากชาวบ้านก็ไปตามกันมาหลายคนเพื่อแน่ใจว่าจะไม่มีอันตรายกับตัวเอง

ในตอนนั้นผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นกับพี่ชายผมเพราะรถคันนั้นหลวงพ่อท่านก็เป็นคนเจิม ไม่น่าจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นได้ !!!

แต่เมื่อมาพิจารณาดูแล้วถึงเข้าใจว่าจริง ๆแล้วพี่ชายผมนั้นมีครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งท่านดูแล้วบอกว่าดวงพี่ชายผมเป็นดวงชะตาต้องตายโหงเนื่องจากกรรมเก่าซึ่งทุกวันนี้ก็ต้องทำพิธีต่อดวงชะตาตลอดทุกปีต้องทำความดีอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรตลอดกับทั้งยังได้อธิษฐานจะใช้หนี้กรรมให้หมด ดังนั้นเจ้ากรรมนายเวรจึงได้ตามทวงอย่างรวดเร็ว ความจริงพี่ชายผมจะต้องตายจากเหตุครั้งนั้นแล้ว!!!

ที่พี่ชายผมรอดมาได้เพราะบารมีของหลวงพ่อสิริฯได้ช่วยชีวิตเอาไว้เพราะทั้งเนื้อทั้งตัวของพี่ชายผมมีพระของหลวงพ่อสิริฯห้อยอยู่องค์เดียว บารมีของหลวงพ่อสิริฯได้ช่วยดลจิตดลใจให้โจรเกิดใจอ่อนกลับใจไม่ฆ่าทิ้งตามที่ผู้บงการเดิมสั่งมาทั้งที่พี่ชายผมเห็นหน้าโจรที่ทำการปล้นรถในครั้งนั้นชัดเจน

ในช่วงเวลานั้นเมื่อตำรวจจับโจรที่เกี่ยวกับการปล้นรถยนต์ได้ครั้งใดก็ยังโทรตามให้ไปดูหน้าว่าเป็นโจรชุดเดียวกันหรือไม่ผมเองก็ยังเคยไปดูตัวโจรปล้นรถเป็นเพื่อนกับพี่ชายผมด้วยแต่ก็ไม่ใช่ชุดที่ปล้นรถพี่ชายผม

สาเหตุในครั้งนั้นคาดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการหักหน้าทางธุรกิจกับนายตำรวจเก่าคนหนึ่งซึ่งถูกให้ออกจากราชการไปแล้วและตำรวจที่ทำเรื่องนี้ก็สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นฝีมือของพวกตำรวจเก่าหากดูจากลักษณะการทำงานแล้ว

จากเหตุการณ์ครั้งนั้นผมได้เข้าพบอดีตนายตำรวจใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งขณะนั้นผมทำงานให้กับท่านให้ช่วยเหลือเร่งรัดในการจับตัวผู้ร้าย

ท่านให้ผมเล่าเรื่องให้ฟังพอเล่าจบท่านพูดว่า “ไม่ตายก็บุญแล้ว”

เพื่อนพี่ชายผมคนหนึ่งซึ่งเป็นนายตำรวจมือปราบอยู่ทางภาคตะวันออกได้บอกว่า“มันโชคดีแล้วที่ไม่ตาย ขนาดพี่ชายพี่เองโดนปล้นรถเองยังโดนฆ่าตายเลย”

เรื่องราวที่เกิดขึ้นใครจะมองอย่างไรไม่สำคัญแต่ผมเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่าเป็นเพราะบารมีของหลวงพ่อสิริฯท่านช่วยให้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ร้ายครั้งนั้นอย่างแน่นอน!!!

 

หลวงพ่อสิริ ณ จังหวัดชลบุรี

 

ผมได้มีโอกาสเข้าไปกราบหลวงพ่อสิริฯและได้สอบถามประเด็นที่สงสัยกันว่า ชื่อ ฉายา ท่านเขียนอย่างไร คำว่า "โณ" นั้นสะกดด้วยตัว ณ เณร หรือ น หนู

หลวงพ่อสิริฯท่านได้เมตตาบอกว่าใช้ตัว ณ เณร หรือ น หนู ก็ได้ เหมือนกัน ผมได้กราบขอให้ท่านเขียนชื่อและฉายาของท่านให้ ท่านก็เมตตาเขียนลงในกระดาษให้ตามภาพครับ

ส่วนทำไมถึงกราบขอลายมือของหลวงพ่อนั้นนอกจากจะแก้ความสงสัยดังกล่าวแล้ว ยังมีความหมายมากกว่านั้น คาวว่าภายในเดือนนี้น่าจะได้แจ้งให้ทุกท่านทราบครับ

 

ขอบพระคุณที่ทำให้เกิดความกระจ่างครับ..

 

หลวงพ่อสิริ เมตตาเจ้าอาวาสวัดหัวเมือง จ.น่าน

 

รูปหล่อลอยองค์ หลวงพ่อสิริ

 

อิอิ เคยซื้อเหรียญกลมรุ่นแรกของท่านมา 50 บาท จ่ายตังค์แล้วรีบเผ่นเลย กลัวเจ้าของจะรู้ว่าพระอะไร ปัจจุบันส่งกลับนนบุรีแล้วจ้า

 

อยากเจอแบบนี้บ้างจริงๆ

 

อยากทราบครับว่าสามารถไปกราบหลวงพ่อท่านได้ที่ไหนครับ

เข้าพบได้กี่โมง ครับ

 

ติดต่อ อาจารย์จเร ท่านไปกราบหลวงพ่อเป็นประจำ
โทร.080-450-9362
(คนในรูป ข้างหลวงพ่อ)

 

รอยมือของหลวงพ่อสิริ+รูปถ่าย+จีวร

 

คณะสงฆ์วัดศรีมงคล บ้านหินกลิ้ง ต.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ นำโดยพระครูวิเชียรวรธรรม(พรฤทธิ์ อภินันโท) เจ้าอาวาส เข้ากราบขอความเมตตาหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน ในการจัดสร้างวัตถุมงคล รุ่น "เจ้าสัว ฮก เฮง" (座山 福 興) อย่างเป็นทางการ

 

รูปหลวงพ่อสิริฯเขียนยันต์กลางอากาศบรรจุลงในแผ่นทองคำเปลว

เท่าที่ผมได้พบและกราบพระเกจิอาจารย์มา พระเกจิอาจารย์ที่ชักยันต์กลางอากาศเสมือนเขียนยันต์ตามปกติ ก็คือ หลวงปู่หมุน และหลวงพ่อสิริฯ นี่แหละครับ

ถ้าเคยพบหลวงพ่อสิริฯจะเห็นได้ว่าท่านจะเขียนยันต์โดยกำหนดจิตเขียนใส่วัตถุมงคลต่าง ๆ เป็นเรื่องปกติ เช่น กำหนดจิตเขียนยันต์กลางอากาศลงในกลุ่มด้ายสายสิญจน์ที่่จะปลุกเสกวัตถุมงคล เขียนยันต์กลางอากาศลงในเทียน หรือแม้กระทั่งการเจิมรถยนต์ หลังจากท่านเจิมด้วยแป้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านจะยืนหน้ารถแล้วชักยันต์กลางอากาศคลุมรถทั้งคันให้อีกครั้งหนึ่ง

ลองพิจารณาดูครับว่าพระเกจิอาจารย์ที่ทำอย่างนี้ได้ท่านต้องมีความคล่องแคล่วชำนาญในฌานหรือวสีหรือไม่ หรือว่าท่านสำเร็จวิชาอันใดครับ

 

แบบพิมพ์ขี้ผึ้งพระเจ้าสัว ฮก เฮง ซึ่งเป็นพระพิมพ์เจ้าสัวของหลวงพ่อสิริฯ รุ่นแรก ที่ทางวัดศรีมงคล บ้านหินกลิ้ง ต.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ขออนุญาตจัดสร้างอย่างเป็นทางการครับ

 

มีรายละเอียด หลวงพ่ออธิฐานจิตที่ วันเวลา สถานที่ แจ้งให้ทราบด้วยครับ.........

จะได้ไปกราบหลวงพ่อช่วยกันสร้างบุญ

 

รอยเท้าหลวงพ่อสิริ+จีวร+ชานหมาก+กระดาษเช็ดปาก+น้ำตาเทียนในงานอธิฐานจิต

 

กำหนดพิธีเททองหล่อและปั๊มเหรียญนำฤกษ์

วันจันทร์ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 1 ซึ่งตรงกับวันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2557 ที่โรงงานโสภณโลหะภัณฑ์ เพชรเกษม 124 โดยหลวงพ่อสิริฯท่านเมตตาไปทำพิธีเททองหล่อเหรียญหล่อเจ้าสัวและปั๊มนำฤกษ์เหรียญปั๊มเจ้าสัวฯด้วยองค์ท่านเองครับ

กำหนดพิธีพุทธาภิเษก

วันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 24 มกราคม 2558 ที่วัดศรีมงคล บ้านหินกลิ้ง ต.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ครับ

 

หลวงพ่อสิริฯได้เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกมวลสารที่จะนำไปรวมจัดสร้างวัตถุมงคล รุ่น "เจ้าสัว ฮก เฮง" (座山 福興)









หลวงพ่อสิริฯได้เมตตาจารมวลสารแผ่นเงิน นวะ ทองแดง ที่จะนำไปหลอมรวมจัดสร้างวัตถุมงคล รุ่น "เจ้าสัว ฮก เฮง" (座山 福興)





หลวงพ่อสิริฯได้เมตตาจารมวลสารตะปูสังขวานร ที่จะนำไปหลอมรวมจัดสร้างวัตถุมงคล รุ่น "เจ้าสัว ฮก เฮง" (座山 福興)



หลวงพ่อสิริฯได้เมตตาจารมวลสารแท่งทองเหลือง ที่จะนำไปหลอมรวมจัดสร้างวัตถุมงคล รุ่น "เจ้าสัว ฮก เฮง" (座山 福興)