กรุพรหมประกาศิต

27.เหรียญวันเกิด ที่ระลึกเปิดพระตำหนักบางขุึนเทียน 2536 ยืนยันว่าองค์จริงเป็นสีทองแดงดังภาพ


28. เหรียญครูบาเที่ยงธรรม คณะเวฬุวัน ธรรมวิหาร 2542 (องค์ประมาณเหรียญ 5 บาท)



29.เหรียญหลวงพ่อทา รุ่นบูรณอุโบสถ วัดเพนียงแตก นครปฐม 2542


31.พระกริ่ง (องค์สูงประมาณ 1.5 นิ้ว)
ปิดการบูชา

32.พระกริ่ง (องค์สูงประมาณ 2 นิ้ว กริ่งเสียงใส)

ปิดการบูชา

33.2 หลวงปู่โต องค์สูงประมาณ 1.5 ซม.


34. หลวงพ่อเดิม องค์สูงประมาณ 2 ซม.



35.หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร องค์สูงประมาณ 1 ซ.ม.


36. เหรียญหนุมานแสดงฤิทธิ์แปดกร หลวงพ่อพูล อตตราโข
วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ปี 2544 พร้อมกล่องพลาสติกเฉพาะองค์
จองบูชาโดยคุณเด็กวัดป่า

38.เหรียญสมโภชพระพุทธชินราช วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ปี 2527
ปิดการบูชา

 

เรียนเชิญบูชาองค์ล่ะ 99 บาท (ไม่รวมค่าจัดส่งทั่วประเทศ 40 บาท)
เพื่อร่วมบุญสร้างห้องน้ำ โรงครัว วิหารองค์ปฐม องค์ปฐมปางเปิดโลกประดับเชร องค์ปฐมทรงเครื่องประดับเพชร และสถานปฏิบัติธรรมปรียนันท์ธรรมสถาน

โอนเงินบุญได้ที่

ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์ Bangkok Bank /Aree Branch
บัญชีออมทรัพย์ Saving Name : Parsiree Hensook
A/C no. 127-4-64419-2

 

ยืนยันครับผม รายการที่ 30 พระผงพิมพ์สามเหลี่ยม 1 องค์ ขอเพิ่ม36. เหรียญหนุมานแสดงฤิทธิ์แปดกร หลวงพ่อพูล อตตราโข
วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ปี 2544 พร้อมกล่องพลาสติกเฉพาะองค์และ12.สมเด็จอนันตปิน ที่ระลึกครบ 5 รอบ พระอาจารย์แม้น อยุธยา ปี 2539
<!-- / message -->

โอนเงินภายในอาทิตย์นี้แน่นอนครับ รวมทั้งหมด 3 รายการ

 

ขอร่วมบุญ
7.หลวงพ่อโสธรสีทอง องค์สูง 1 นิ้ว มหาเมตตา มหาเศรษฐี
31.พระกริ่ง (องค์สูงประมาณ 1.5 นิ้ว)
32.พระกริ่ง (องค์สูงประมาณ 2 นิ้ว กริ่งเสียงใส)

โอนแล้ว จะโพสแจ้งครับ

 

บุญของพวกเรา เอามาดูให้ชื่นใจว่าทุกท่านเป็นเจ้าภาพร่วมกัน

 

จองคะ รายการที่ 14.1 , 14.2 , 14.3 และรายการที่ 19

(sing)

 

เรียน คุณ Khunkik
โอนเรียบร้อยแล้วทาง ATM จาก BBL เข้าบัญชี 127-4-64419-2
วันที่ 22 มค. 2551 เวลา 17:14 น. จำนวน 350 บาท ครับ

ขอฝากพระไว้ก่อนครับ รบกวนส่งพระให้หลังวันที่ 1 กพ. 2551 ครับ

ส่งที่
ชาญสิทธิ์ ขจายศรสิทธิ์
ที่อยู่ 33 ถนนบูรพา แขวงวังบูรพาฯ
เขตพระนคร กทม.10200

โมทนาบุญครับ

 

คุณน้องแจ้งร่วมบุญทั้งหมดไว้ดังนี้จ้า

1.พิมพ์ปลาหลวงปู่ปาน 1 องค์
2.หลวงพ่อก๋วย 1 องค์
3.พระศิวะ 1 องค์
4.พระมหาเมตตา หลวงพ่อแผน 5 องค์ (กรณีคุณShinray01 สละสิทธิ์)
5.พระกริ่งงิ้วดำ

 

--------------------

ได้เจ้าค่ะ รับฝากเฉพาะพระน่ะ หัวใจไม่รับ อิอิ(kiss)
สงสัยเดือนกุมภาพันธ์จะมีอะไรสำมะคันแน่ๆ จะให้ห่อของขวัญด้วยม่ะ แด่วจัดให้แจ่มๆเลย(sing)ฉลาด หน้าตาดี นิสัยดี เป็นคนของประชาชน ใฝ่ธรรม ชอบเล่นกีฬา มักจะเป็นประธานรุ่น หรือหัวหน้ากลุ่มเสมอ ใครใครก็รัก เค้าว่ากันว่าคนเกิดเดือนกุมภาพันธ์ เป็นคนดี๊ดี เลิศเลอ เพอร์เฟค ทุกประการขอรับ (เหมือนคนแถวนี้แหละ)

 

อืมม์....รู้สึกว่าเด๊วนี้น้องกิ๊กหน้าตาสดใส อิ่มเอิบ น่ารักขึ้นเป็นกอง (สงสัยรัศมีบุญจับ)-เห็นรูปที่สวนลุมในวันประชุมเมื่อวานนี้ รู้สึกผิดหูผิดตาขึ้นเยอะ
ทำเอาหัวใจพีเต้นตึ๊กตั๊กเลยแฮะ (ล้อเล่นน่า)

พี่ขอจองสมเด็จหินพระธาตุ สององค์ (รู้สึกว่าพี่เม้าจะให้มา ต้องเก็บคืน)
เงินไม่โอนให้นะ จะเอาไปเปลี่ยนตอนไปทริป ภูทับเบิก นะจ๊ะ..(kiss)

 

18.เหรียญหลวงปู่ฟู ชุติปัญโญ .ยะลา รุ่นไตรมาส 2547


เรียนเชิืญบูชา : 199 บาท (ไม่รวมค่าจัดส่ง 40 บาททั่วประเทศ)
มีเพียง 1 องค์เท่าั้นั้น

สองเหรียญนี้ทำไมรูปมันเหมือนกันล่ะจ๊ะ น้องกิ๊กจ๋า
รูปนี้เป็นของเบอร์ #22 ถูกต้องครับ แล้ว # 18 มีรูปใหม่ให้ดูหรือเปล่าจ๊ะ รูปนี้ Copy มา จากอันเก่าจ้ะ
เอ่อ..แล้วเหรียญกรมหลวงชุมพร รุ่นสร้างพระตำหนักบางขุนเทียน พี่จำได้ว่ามันเป็นเนื้อเงิน ทำไมในรูปมันกลายเป็นเหมือนเหรียญทองแดงไปได้อ่ะ
หรือว่าเงินมันกลับดำก็ไม่รู้สินะ (บูชามาก็ตั้งหลายร้อยอยู่นา ตั้งแต่ประมาณปี 39 หรือ ปี 40 นี่แหล่ะ จำไม่ค่อยได้)

 

เหรียญของหลวงปู่ฟู กับพระครูบาลเย็นจะรีบตรวจสอบให้จ้า สงสัยมึน 5555
สำหรับ 27.เหรียญวันเกิด ที่ระลึกเปิดพระตำหนักบางขุึนเทียน 2536 นั้นเป็นเพราะตากล้องจ้า ไม่รู้ถ่ายรูปอย่างไร เงินกลายเป็นทองแดงอิอิ สงสัยจะเล่นแร่แปรธาตุอยู่หน้ากล้อง(one-eye)


กิ๊กว่าจะก๊กซักหลายๆองค์ ก็เกรงจายเลยเอามาให้บูชากันก่อน

 

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ kananun
ขออนุญาตมาคุยกันต่อ เรื่องพระพุทธรูปประธานที่ซุ้มบอล

ได้ลองถามพระท่านดูหลังจากที่ ตัวผมเองสองจิตสองใจว่าจะดำเนินการอย่างไรดี โดยส่วนตัวและพวกเราหลายท่านย่อมอยากได้แบบที่หนึ่ง แต่อีกใจก็กลัวว่าจะไหวหรือ งบประมาณสูง

แต่สรุปรวมถามพระท่านแล้ว ท่านบอกว่า "การสร้างพระพุทธรูป เป็นเครื่องระลึกเป็นการบูชาคุณพระพุทธเจ้าและพระพุทธศาสนา สมควรทำให้ดีที่สุด เรื่องงบประมาณนั้นไม่ต้องห่วงต่อไปที่แห่งนี้จะเป็นแหล่งรวมศรัทธา และการปฏิบัติทั้งจากคนในเขตนครสวรรค์เองและคนจากที่ไกล "

จากนั้นท่านก็บอกให้ รวมปัจจัยมัดจำช่างให้ได้หมื่นบาท ก่อนแล้วให้ช่างเริ่มทำได้เลย และช่างเองก็จะช่วยลดค่าแรงให้โดยถือว่าเป็นการร่วมทำบุญกันไปด้วยส่วนหนึ่ง ต่อไปจะมีปัจจัยมาจากที่หรือบุคคลที่เราไม่ได้คาดคิด มาช่วยเหลือจนสำเร็จ

จากนั้นก็ได้กราบขอบารมีพระท่าน ขออัญเชิญเทพพรหมเทวดาท่านที่จะมาเป็นเทพคุ้มครองพระพุทธรูปองค์นี้ ก็ปรากฏว่า ได้มี "พรหมอนาคามี" พระองค์หนึ่งจาก พรหมสุทธาวาส ท่านเมตตามาสงเคราะห์ให้ครับ


ดังนั้นผมขออนุญาต โง่ๆ เซ่อๆ ไม่คิดอะไรอย่างชาวโลกเขา พระท่านสั่งอย่างไรเราทำตามครับ การหาทุน หาปัจจัยขออนุญาตเป็นเมตตาของพระ ของเทวดา ของพรหมที่ท่านต้องการสร้างบารมีครับ ขอให้ท่านช่วยไปตามคนมาทำบุญ สร้างบารมีร่วมกันด้วยครับ

ดังนั้นขอสรุปแบบตามที่พระท่านได้ สั่งมาครับ เป็น "พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ์ ปิดทองประดับเพชร หน้าตัก 30 นิ้ว "ครับ ขอให้พวกเราทุกคนร่วมเป็นเจ้าภาพร่วมกัน พึงได้อานิสงค์ทุกอย่างทุกประการครับ

ผมขออนุญาตประเดิม บริจาค เงินสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ 1,000 บาทและขออนุญาตนำเงินจากกองทุน "พลังจิตพิชิตภัยพิบัติ"ร่วมสร้างพระพุทธรูปด้วยอีก 2,000 บาท รวมเป็น 3,000 บาทครับ

"ขอให้พระพุทธรูปที่เราร่วมสร้างองค์นี้ จงปรากฏอานิสงค์อย่างฉับพลันทันใด ขอได้เปิดสายบุญ สายสมบัติของพวกเราทั้งหลายที่ได้นอนเนื่องรอวาระอยู่จงได้หลั่งไหลเข้ามาอย่างท่วมท้นให้พวกเรา ทุกท่านในสายสัมมาทิษฐิ ได้นำมาใช้สร้างบุญสร้างบารมีกันอย่างไม่สิ้นสุด ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน ณ กาลบัดนี้ด้วยเทอญ"

 

<TABLE class=tborder id=post700240 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">12-09-2007, 05:37 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #326 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>คลิก<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_700240", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 10:43 PM
วันที่สมัคร: Nov 2006
ข้อความ: 720 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 9,083 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 15,103 ครั้ง ใน 726 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 1582


</TD><TD class=alt1 id=td_post_700240 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->(*) ภาพหินบนเขา มองดูเหมือนเป็นสิ่งปลูกสร้างในอดีต (*)

(*) บนเขาไม่มีอิฐเก่า ไม่มี ศิลาแลง มีแต่หินใหญ่ล้วน ๆ (*)

(*) นัยว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใช้หินมาก่อสร้าง (*)

(*) หินที่อยู่บนเขา มีหลายแบบ หลายสี หลายขนาด (*)

(*) เหมือนจงใจใช้สีของหินเป็นลวดลายของสิ่งก่อสร้าง (*)

(*) ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็น่าทึ่งในภูมิปัญญามาก (*) (*)(*) (*) (*)

[b-wai] [b-wai] [b-wai]
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post727383 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">27-09-2007, 04:13 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #469 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>kananun<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_727383", true); </SCRIPT>
ทีม เสียงพระธรรมเทศนา
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 10:51 PM
วันที่สมัคร: May 2006
ข้อความ: 4,397 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 36,360 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 75,289 ครั้ง ใน 4,467 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 8167


</TD><TD class=alt1 id=td_post_727383 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ ช่วยลงประวัติกับแผนที่ของสถานปฏิบัติธรรมฯให้ทุกท่านได้ทราบและร่วมโมทนากันหน่อยครับ ขอบคุณมากครับ
[b-wai] [b-wai] [b-wai] [b-wai] [b-wai]

----------------------------------------------------------------------

ขออนุญาตเพื่อนๆพี่ๆน้อง พุทธภูมิทุกๆท่าน เล่าเรื่อง และประวัติความเป็นมาของ "ปรียนันท์ธรรมสถาน" เอาไว้ให้ทราบด้วยครับ

เริ่มต้นเลย นั้น ขอเริ่มจากงานของกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ได้รวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือส่วนรวมในการทำงานเรื่องภัยพิบัติเมื่อประมาณ ปลายปีที่แล้วมา พวกเรามีการรวมกลุ่มและนัดหมายให้มี การรวมกลุ่มในภูมิภาคต่างๆกันเช่นภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน เป็นต้น

ในการออกทริปหนึ่งพวกเราได้ไปดูสถานที่ๆจังหวัดชัยนาท ซึ่งคุณลุงชัยมงคลได้จัดเตรียมเอาไว้เพื่อจัดทำระบบเศรษฐกิจพอเพียงจำนวน 150กว่าไร่ เพื่อเตรียมเป้นแหล่งเสบีงในยามเกิดภัยพิบัติ รวมทั้งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและเป็นที่ปลอดภัยในกรณีที่จุดอื่นๆรับคนเอาไว้ได้ไม่หมด

ในทริปนั้นเราได้รู้จักกันกับพี่คลิกซึ่งเป็น พุทธภูมิผู้ทรงปฏิปทา ทรงพรหมวิหารสี่ทุกลมหายใจ ปลดปล่อยจิตวิญญานที่ตกค้างอยู่ในทุกๆสถานที่ที่พี่ท่านได้พบ ได้สัมผัสด้วยจิต

พี่คลิกเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กๆ กับ พี่คลื่อนพลเจ้าของร้านอาหารปรียนันท์(ร้านซุ้มบอลเดิม) และได้พาให้พวกเรามาได้รู้จักกันกับพี่เคลื่อนพล พี่ไก่ (ภรรยาพี่เคลื่อนพล) ที่บ้านหลังร้านปรียนันท์

รวมทั้งพี่คลิกได้แนะนำให้พี่เคลื่อนพลเจ้าของบ้านได้ทราบในงาน ในวัตถุประสงค์ของกลุ่มพวกเรา ซึ่งทางเจ้าของสถานที่ก็ได้ปราวรณาให้ใช้สถานที่ในการทำงาน ในการประชุม ในการปฏิบัติธรรมที่บ้านพักนั้นได้ ซึ่งพวกเราก็ได้ซาบซึ้งในน้ำใจของทุกๆท่านที่นั้นอยู่เสมอ

พี่คลิกเองก็เคยปรารถกับผมว่าต่อไปสถานที่นี้ จะกลายเป็นสถานปฏิบัติธรรมมีคนมากันมากมาย ซึ่งผมมีนิสัยยังไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ต้องพิสูจน์ก่อน เพราะตอนนั้น ยังไม่มีใครมากัน มากนัก ทางพี่ไก่เจ้าของบ้านก็ยังไม่ได้มโนมยิทธิ ได้ฝึกโยเรมา เราก็ต้องดูกำลังใจของเจ้าของสถานที่ประกอบไปด้วย

ต่อมา ทางกลุ่มพวกเราก็ได้เดินทางมาที่ "ร้านปรียนันท์"กันบ่อยขึ้น ได้อาศัยพักแรมเวลามาทำบุญที่วัดท่าซุงบ้าง เวลาไปทริปทางเชียงใหม่บ้าง

จนกระทั่งพวกเราได้จัดทริป ทริปหนึ่งชื่อ"ทริปถึกๆ" อันเป็นการฝึกดำรงชีวิตในป่า โดยพวกเราฝึกเดินเขาที่มีอยู่ สี่ห้าลูกหลังร้านอาหารซุ้มบอลนั่นเอง

ก็ปรากฏว่า เมื่อขึ้นไปถึงภูเขาลูกแรก เราพบร่องรอยของสิ่งก่อสร้างโบราณที่อยู่ในรูปของเจดีย์ที่ก่อด้วยหิน อยู่บนยอดเขา เมื่อถ่ายรูปก็ปรากฏดวงแสงแปลกๆอยู่ในรูป ดูด้วยมโนมยิทธิกัน ก็พบว่าเป็นเจดีย์โบราณที่พังทะลายลง และถูกชาวบ้านขุดรื้อเอาของออกไปจนหมด

ในทริปเดียวกันนี้เอง เราเดินขึ้นเขาไปอีกหลายๆลูก ก็พบร่องรอยของเจดีย์ในทุกๆเขา จนถึงเขาลูกสุดท้าย ก็พบว่ามีป้ายจารึก ว่าบริเวณแห่งนี้ มีพระเจดีย์อยู่ทั้งหมดเก้าองค์ด้วยกัน ก็เลยได้เข้าใจว่า เราจัดทริปมาเดินมาลำบากกันทำไม

พี่คลิกได้กล่าวให้ฟังว่า คนเราบางครั้งก็เดินย้อนรอยอดีต รอยกรรมของตน เคยมาสร้าง เคยมาอยู่ เคยมาอธิฐานก้จึงต้องกลับมา ซึ่งนี่เป็นเหตุให้พวกเราที่เป้นชาวพุทธภูมิต้องกลับมารวมกัน ณ ที่แห่งนี้อีกครั้ง

จากที่ได้ดูด้วยมโนมยิทธิ บริเวณเขาแห่งนี้ ดั้งเดิมเป็นจุดพักทัพในการทำศึกสงครามแต่ครั้งเก่าก่อน พระเจดีย์ในชุดนี้เป็น พระเจดีย์ที่พวกเราเคยร่วมกันสร้างเพื่อบรรเทากรรมที่ได้ฆ่าฟันข้าศึกในยามศึกสงคราม บางจุดก็เป็นที่เก็บอัฐฐิของพวกเราเองก็มี การมาพบ มาทราบ ก็เพื่อมาปลดปล่อย มาถวายบุญในเพื่อนๆพวกเราที่ได้เฝ้า อยู่ ณ ที่แห่งนี้ได้หลุดพ้นไปยังที่สุขคติภูมิ ทุกอย่างจึงมีเหตุมีปัจจัยของมัน ไม่ใช่มาเดินป่ากันเล่นๆสนุกๆ

ครั้นลงมาจากเขาแล้วจึงได้ทราบว่า บริเวณนี้ พระเจ้าตากสินมหาราชท่านทรงเคยมาพักทัพที่นี้ ตำบลนี้จริงๆ ซึ่งก็ยิ่งทำให้พวกเรามั่นใจยิ่งขึ้นว่าที่รู้ที่ทราบนั้นเป็นไปอย่างถูกต้องตามความเป็นจริง

ต่อมาเมื่อประมาณสิงหาคม ที่ผ่านมา พี่ไก่ก็มาบอกกับพวกเราว่า พี่ได้ซื้อที่บนที่ลาดเชิงเขาเอาไว้ให้พวกเราทุกๆคนได้ใช้เป็นสถานที่ที่พวกเราฆราวาสได้ใช้ปฏิบัติธรรมกัน โดยพี่ไก่ได้มอบให้เป็นสิทธิของส่วนรวม ซึ่งต่อมาพวกเราก็ได้ขอชื่อจากพระท่าน และได้ชื่อว่า

"ปรียนันท์ธรรมสถาน" เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ท่านผู้บริจาคเป็นกำลังใจในการทำความดี

หลังการซื้อที่ดินแปลงนี้แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว งานต่างๆถูกสั่ง ถูกเร่งให้เร็วขึ้นเป็นอย่างมาก รวมทั้งเป็นงานที่ต้องรองรับคนหมู่มากด้วย งานสำคัญๆก็คืองานการสร้างศาลา


โดยเฉพาะงานสร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ์ ปิดทองประดับเพชร ซึ่งงานนี้ครั้งแรกหนักใจเนื่องจากกลุ่มพวกเราไม่ได้มั่งมีอะไรมาก แต่พระท่านสั่งให้สร้างอย่างดีที่สุด ซึ่งเราก็เชื่อ และปรากฏว่า ไม่ช้าก็มีผู้มาช่วยเป็นเจ้าภาพ ปิดงานจนสำเร็จเรียบร้อยลงไปได้ โดยเพียงแต่รอให้ช่างเขาทำจนสำเร็จในช่วงปลายปีนี้


จนไม่ช้า ก็ได้มาทราบข่าวการนัดหมายมหาสโมสรสันนิบาตพุทธภูมิ ที่คุณเหน่งเป็นผุ้ริเริ่มจัดขึ้นก็จึงได้ทราบว่าทำไมพระท่านจึงได้เร่งงานการเตรียมสถานที่ต่างๆที่ปรียนันท์เอาไว้มากขนาดนี้

สำหรับความเกี่ยวพันที่สถานที่แห่งนี้ เชื่อมต่อกับงานพุทธภูมิสันนิบาตและเหตุการสมัยพุทธกาลนั้นมีดังต่อไปนี้



"เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา(24 กย.) ผมเองได้นั่งสมาธิในมโนมยิทธิ และได้กราบถามพระท่าน ท่านก็ได้ถามผมว่า

"สงสัยไหม ว่าทำไม การจัดงานพุทธภูมิ จึงเลื่อนมาเป็นที่ปรีนันท์ "ผมก็ตอบท่านว่า "จริงครับ เหมือนราวกับว่าเหตุการณ์ต่างๆมันพาไปของมันเองครับ"

พระท่านก็ถามว่า "แล้วเคยสงสัยไหมว่า ทำไม จ. นครสวรรค์จึงชื่อนครสวรรค์"จากนั้นท่านก้ทำภาพให้ดู ไอ้เราจึงได้ถึงบางอ้อ

เรื่องมีอยู่ว่า ในวันที่พระพุทธเจ้าท่านทรงเสด็จลงมาจากดาวดึงส์เทวโลกนั้น มิติของสวรรค์เคลื่อนลงมาในอาณาบริเวณกว้างใหญ่ในเขตที่ปัจจุบัน เป็นรอยต่อของจ.อุทัยธานีและ จ.นครสวรรค์

จุดที่พระพุทธเจ้าท่านได้เสด็จลงมาสัมผัสพื้นโลกนั้นก็ปรากฏเป็นรอยพระพุทธบาทบนเขาสังกัสรัตนคิรี ดังที่ทุกๆท่านได้ทราบกัน และเหตุที่ท่านเสด็จลง ณ จุดนี้ ก็เพราะ บนเขาลูกนี้ เป็นจุดศูนย์กลางของโลกซึ่งมีหลักฐานยืนยันโดยการคำนวนทางวิทยาศาสตร์ และทางทหารเรือได้มาปักหมุดทำเขตยืนยันเอาไว้ และการที่พระพุทธเจ้าท่านทรงแสดงปฏิหาริย์เปิดโลก ณ จุดศูนย์กลางของโลก ทรงเปิดสามโลกให้ปรากฏเห็นแก่กันหมดนั้น ควรแก่การทั้งปวงแล้ว


การเปิดโลกสามไตรภูมิของพระพุทธองค์นั้น

เมื่อครั้นปรากฏแก่ดวงจิตของสาวกภูมิก็ปรากฏการเห็นธรรม เห็นการเวียนว่ายตายเกิดในสามภพภูมิวนเวียนไม่มีที่สุด ก็ปรากฏนิพพิทาญาณ เบื่อหน่ายในการเวียนว่ายตายเกิดมุ่งหลุดพ้นจากวัฏฏสงสารไปในที่สุด

เมื่อปรากฏกับดวงจิตของท่านผุ้มีเชื้อเป็นหน่อเนื้อพุทธางกูรก็ เห็นทุกข์ของหมู่สรรพสัตว์อันหาประมาณมิได้ เกิดดวงจิตอันเป็นกุศลเอ็นดูแก่หมู่สัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลาย มุ่งหวังที่จะรื้อขนสรรพสัตว์ผู้อยู่ในทะเลทุกข์เข้าถึงฝั่งพระนิพพานในที่สุด และต่างตั้งจิตอธิฐานปรารถนาซึ่งสัมมาสัมโพธิญาณกันเป็นจำนวนหาประมาณไม่ได้ แม้มด ปลวก สัตว์ก็ต่างตั้งจิตไว้เพื่อพุทธภูมิเช่นกัน
<!-- / message --><!-- sig -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post727392 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">27-09-2007, 04:17 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #470 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>kananun<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_727392", true); </SCRIPT>
ทีม เสียงพระธรรมเทศนา
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 10:51 PM
วันที่สมัคร: May 2006
ข้อความ: 4,397 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 36,360 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 75,289 ครั้ง ใน 4,467 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 8167


</TD><TD class=alt1 id=td_post_727392 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->จากนั้นท่านก็ถามว่า "ได้เห็นป้ายปากทางเข้า ไปปรียนันท์ธรรมสถาน ที่มีป้ายชื่อ "โบราณสถาน "เมืองบน" ใช่ไหม แล้วคิดว่า"เมืองบน"หมายความว่าอย่างไร"

ผมก็เลยถึงบางอ้อ อีกครั้ง

ท่านก็เมตตาบอกว่าบริเวณนี้เป็นจุดที่สวรรค์ชั้นดางดึงส์ได้มาบรรจบกับโลก ณ เขตนี้ และพุทธภูมิทั้งหลาย ได้มาร่วมกันอธิฐานจิตตั้งความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้ากันที่นี้ ในที่สุดบริเวณนี้ได้มีการก่อร่างสร้างเมืองขึ้นว่า "เมืองบน" เป็นเครื่องระลึกถึงเรื่องราวที่สวรรค์มาบรรจบกับโลกมนุษย์ เมืองนี้คนเจริญอยู่ในศีลในธรรมกันเนิ่นนานจนเสื่อมสลายไปตามกาลตามเวลา ตามอนิจลักษณะในที่สุด

"เหตุทั้งปวงนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้เธอทั้งหลายผู้ได้อธิฐานจิตในการบำเพ็ญบารมีร่วมกันก่อนลงมาเกิดในวาระนี้ต้องมารวมกันอีกครังหนึ่ง ด้วยแรงที่เคยอธิฐานมานั่นเอง"


เรื่องราวทั้งหมดนี้ผมเองก็เพิ่งจะได้มาทราบครบถ้วนกันในช่วงเวลาวันสองวันมานี้เองครับ ท่านอาจจะเชื่อ หรือไม่เชื่อ ก็ไม่เป็นไรครับ ต้องขอให้กราบพิจารณากันเอา จุดประสงค์สำคัญก็คือ


"ขอให้งานมหาสโมสรสันนิบาตพุทธภูมินี้สำเร็จไปอย่างราบรื่น มีพุทธภูมิผู้ทรงความเป็นสัมมาทิษฐิ พระโพธิสัตว์ พระมหาโพธิสัตว์ และสาวกภูมิผู้มีจิตบริสุทธิ์เข้ามาร่วมงาน ร่วมใจ ร่วมจิตกันให้เป็นหนึ่ง ทำคุณประโยชน์ถวายเป็นพุทธบูชา บูชาคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงเป็นพระมหาโพธิสัตว์ธรรมมิกราชเจ้า และเพื่อเป็นการบูชาคุณแผ่นดินไทย เป็นประการสำคัญที่สุด"
<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post799140 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">07-11-2007, 01:05 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #838 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>คลิก<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_799140", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 10:43 PM
วันที่สมัคร: Nov 2006
ข้อความ: 720 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 9,083 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 15,103 ครั้ง ใน 726 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 1582


</TD><TD class=alt1 id=td_post_799140 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->(b-smile) เมื่อวันเสาร์ นอน ปรียนันท์ คนเดียว รดน้ำต้นไม้ ล้างสังกะสี ( ยังไม่แล้วเสร็จ ยังไม่ได้ครึ่งทาง )

(glass) ตอนล้างสังกะสีและเดินเอาไปตากแดด ก็กำหนดรู้ ลมหายใจ ทรงอารมณ์ได้ดีพอควร แต่รู้สึกว่าใจมันหน่วง ๆ มีอารมณ์หนักอยู่ ก็รู้ว่าเพราะใจเรามันเร่งจะทำให้เสร็จไว ๆ

(glass) จึงลดกำลังใจลงหรือถอยอารมณ์ของสมาธิลดระดับลงมาแล้วก็มาใช้ตัว อิทธิบาท ๔ ตัวแรก คือ ฉันทะ ตัวพอ พอดี พอใจ ให้ใจมีความรู้สึกว่า เราพอใจในการล้างสังกะสี ทำความยินดี และพอใจ ให้เกิดขึ้นในใจ ว่า เราพอใจในการล้างสังกะสี ควบกับการมี สติรับรู้ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก เราพอใจกับการล้างสังกะสี เหมือนกับที่เราได้ดูแลของพระศาสนา เพราะเขาเอามามอบให้กับสถานที่ปฎิบัติธรรม ซึงเป็นธรรมขององค์บรมพระศาสดาของพระพุทธเจ้า ของนี้ก็เหมือนของสงฆ์เพราะพวกเราก็ปฏิบัติเพื่อความเป็นพระ

(glass) ใจก็เยือกเย็นลงมีอารมณ์ทรงตัวเป็น เอกัคตารมณ์ จิตทรงตัวมีอารมณ์ใจเยือกเย็น จิตรับรู้ลมหายใจเข้าออก เป็นอัตโนมัติ โดยที่เราไม่ต้องไปกำหนดรู้ มันรู้เป็นธรรมชาติของมันเอง ส่วนร่างกายก็เคลื่อนไหวเดินไปมา เพื่อล้างและยกสังกะสีไปตากแดด
(glass) แล้วก็เลยยกตัว จิตตะ วิริยะ วิมังสา เข้ามาตรวจเข้ามาพิจารณาให่ครบ อิทธิบาท ๔ จิตก็ทรงตัวได้ดี นึกครึ้ม ๆ ก็เลยนึกถึงลูกแก้วขึ้นมาในใจ ก็มีความสว่างไสวดี เล่นอยู่สักพัก ก็เอาลูกแก้วส่องมองดูโครงกระดูกมองดูเป็นสีขาวแล้วเปลี่ยนเป็นเพชรประกายพราวสว่างไสว สักพักก็เลื่อนไปมองร่างกายให้เป็น กายคตานุสติ ค่อยดูให้ละเอียดไปเป็นส่วน ๆ สักพัก ก็มองดูเลือด แล้วยกมาเป็น กสินสีแดง แล้วเลื่อนมามองนำดี ยกมาเป็น กสิณสีเหลือง แล้วกลับมองร่างกายเป็น อสุภะกรรมฐาน ดูร่างกายเป็นซากศพ ตาย หนึ่งวัน สองวัน สามวันขึ้นอืด ร่างกายบวมเป่งเป็นสีเขียว แช่อยู่สักพัก ก็จับสีเขียวเป็นกสิณสีเขียว พักหนึ่งก็มองอสุภะต่อไปเรื่อย ๆ จนมันเน่า เปื่อย ค่อย ๆ สลายตัวกลายเป็น ธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ แล้วก็จับมันขึ้นมาตั้งรูปใหม่ ให้มันโตจนตายแล้วขึ้นอืด จนสลายตัวไปสักสามสีรอบ ก็แยกธาตุ ทั้งสีออกมาจับขึ้นเป็น กสิณ ไป เอากับมันอยู่สักพัก ก็จับแสงสว่างภายในกายจับยกมาเป็น กสิณ อีกสักตัว เอาอยู่พัก ก็ดูในร่างกายดูช่องว่าง ดูเป็นอาสกสิณ จับขึ้นมาสักพัก ก็กลับมาเป็นลูกแก้วในตัว ให้สว่างไสว ระลึกถึงพระนิพานก็มีความสว่างไสว ดี นึกดู ก็ว่า แหม...พอใช้ได้ ....วุ้ย พอคุยกับพรรคพวกได้
(glass) ไอ้ตอนนั้นแดดร้อน นี่ ไม่รู้สึกว่าร้อน เลย มันเย็นใจแล้วมันลามมาที่กาย ไม่มีความรู้สึกร้อน มีอารมณ์สบาย ๆ ใจก็ภาวนาไป กายก็ทำงานไป ใจก็ส่วนใจ กายก็ส่วนกาย ไม่เกี่ยวข้องกัน

(glass) นึก ๆ ไป สมัยก่อนไอ้เรานี่มันโง จริง อยากดี อยากเด่น อยากดัง หาดิน หาน้ำ หาไฟ มานั่งเพ่ง เอาเป็นเอาตาย จะเอากสิณให้ได้ ลืมลมหายใจไปเสียหมด เลยไม่ได้อะไรเลย สักอย่าง ตอนนี้ก็ว่า ถ้า ลมดี ใจดี ซะแล้ว อย่างอื่นก็พลอยดีไปด้วย

(glass) เลิกล้างสังกะสี เดินไปที่แคร่ไม้ไผ่ เพราะยกไปตั้งไว้ที่ใต้ต้นคูณ ตอนบ่าย ที่นั้นจะร่มเย็น นายโคบาลพาวัวมาสามฝูงมากินหญ้าเต็มพรืดไปหมด นั่งสักพัก รู้สึกว่าทำไมมันรู้สึกว่าใจที่ละเอียดอยู่มันทำไมกระทบของหนัก ๆ ก็เลยกวาดใจมองไป โอ้.....มากันเป็นกองทัพเลย เลยทำใจดีสู้เสือ ก็เลยบอก เอาเลย เราบำเพ็ญมาตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันได้มาอย่างไรก็ อนุโมทนาเอาเถิด ง่าย ๆ สั้น ๆ ตามแบบฉบับ หลวงพ่อวัดท่าซุง ภาวนาไปเรื่อย ๆ แล้วก็มองดูวัวไป พิจารณาไป เพราะมันกินหญ้าได้สองคำ ผู้บังคับฝูงก็หวดก้นสองที ให้มันย้ายที่กิน เพราะกลัวมันจะรุกล้ำขึ้น ปรียนันท์ ดูมันเป็นทุกข์ทั้งนั้น ก็ดูกรรมอะไรหนอที่กินไม่เป็นสุข คำสองคำก็โดนหวดไล่อยู่เรื่อย
(glass) บ่ายแก่ ๆ ก็ขึ้นไปฝึกนั่งสมาธิบนเขา บนแท่นหินที่ pk. ปัดกวาดไว้ ที่นั้นอบอุ่นหน่อย พวก เยอะ เป็นกันเอง
(glass) เย็น ๆ ก็หิ้วถังกับขันพลาสติคที่มีด้าม ไม่รู้ใครให้มา แหม ดี จริง ๆ ค่อย ๆ รดลงไป ให้น้ำมันค่อย ๆ ซึม ลงดิน ถ้าลาดเร็วทีเดียว มันจะไหลออกนอกวง เสียน้ำอีก เราก็เดินกำหนด ลมหายใจไปเรื่อย ไม่เร่ง เอา สติ สัมปชัญญะ เป็นหลัก เป็นการฝึกใจอย่างดี รู้ลมไป ใจก็พิจราณาให้มันเป็นสมถะบ้าง วิปัสนาญาณบ้าง ตามที่จิตมันจะไป ไม่บังคับไม่ฝืนมัน เดี๋ยวจะกลุ้มเปล่า ๆ

(glass) อยู่สองวัน มีไอ้หลงเป็นเพื่อนติดตามไปทุกที่ แม้นไปนั่งสมาธิบนเขา ไอ้หลงก็ไปนอนเฝ้าข้าง ๆ รอได้เป็นชั่วโมง มัน แน่ จริง ๆ

(glass) สรุปว่า ไอ้หลงแน่กว่าเรา มันติดตามทุกที่ ไม่ว่าจะเดินไปไหน รดน้ำต้นไม้ ขึ้นเขานั่งสมาธิ และยังเห่าไล่วัวอีก ซึ่งเรายังไม่ได้ทำ


(555) (555) (555)

(smile) กรรมฐาน สังกะสี (smile)

(glass) ต้องขอบคุณ Ksuchet ที่เอางานล้างสังกะสีมาให้ ทำให้ได้เอกัคตารมณ์ ไปได้ช่วงหนึ่ง

(glass) ต้องขอบคุณท่านที่เอาต้นไม้มาให้รดน้ำ ทำให้ได้เจริญ สติ สัมปชัญญะ ในการเคลื่อนไหวแบบธรรมชาติ



[b-wai] [b-wai] [b-wai]
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

</FIELDSET>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post827145 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 23-11-2007, 07:45 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #955 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>คลิก<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_827145", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 10:43 PM
วันที่สมัคร: Nov 2006
ข้อความ: 720 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 9,083 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 15,103 ครั้ง ใน 726 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 1582


</TD><TD class=alt1 id=td_post_827145 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->[b-wai] [b-wai] [b-wai]
(deejai) รายงานสถานการณ์
(good) พระสงฆ์ ๓ รูป ธุดงค์ จากชลบุรี จะขึ้นไปที่เชียงใหม่ เพื่อไปกราบอาจารย์เปลี่ยน และแวะกราบนมัสการ หลวงปูจันทราที่ อำเภอวังทรายมูลที่ จว.พิจิตร เนื่องจากนิมิตเห็น หลวงปู่จันทรานั่งรถเข็นมาบอกให้ไปหา ระหว่างทางองค์หนึ่ง ข้อเท้าอักเสบและบวม จึงต้องหยุดพัก คุณ ปรียนันท์ เห็นพระจะพักในป่าข้างทาง จึงนิมนต์ให้มาปักกลดที่ ปรียนันท์ เพราะมีห้องน้ำ ห้องส้วมสดวก คณะของพระธุดงค์ จึงต้องพักรออาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าถึงสี่คืน
(good) ก็นับว่าธรรมสถานที่สร้างไว้ ก็สำเร็จประโยชน์ อย่างมาก นับเป็น นิมิตหมายที่ดี ผมก็ได้ไปรดน้ำต้นไม้ และได้ค้างคืน อยู่กับท่านในคืนสุดท้าย ตอนเช้าก็ได้ใส่บาตรท่านและสนธนาล่ำรากันอย่างคุ้นเคย นับว่า พระทั้งสามองค์ เป็นผู้ตั้งใจที่จะปฏิบัติดี จริง ๆ จากความมุ่งมั่น การอธิษฐานเดินด้วยเท้า ไม่ขึ้นรถ แม้นจะป่วย องค์ที่ป่วย นอนข้างล่างที่แคร่ไม้ไผ่ใต้ต้นคูณ อีกสององค์ ขึ้นไปปลีกวิเวกบนเขา แต่เวลาฉันก็มาฉันพร้อมกันที่ข้างล่าง องค์ที่เป็นหัวหน้าคณะ เด็ดเดี่ยวมาก ชอบแบบ อุกฤษ ชอบแบบ เนสัชชิ คือไม่นอน อีกองค์ก็พอตาม ๆ กันไป องค์ที่ป่วยก็ไปอีกแบบ ชอบแบบสบาย ๆ กลางวันก็ได้สนทนาธรรมกันทีเป็นสองสามชั่วโมง กลางคืนก็ได้สนทนาธรรมกับองค์ที่ป่วยเกือบครึ่งคืน ได้ความรู้กันไปมากมาย

(b-angry) องค์ที่เป็นหัวหน้าคณะ ไม่ค่อยได้คุย ท่านไม่ค่อยพูด นังฟังไปก็ยิ้มไป อัธยาศัยดี ชอบภาวนา ค่อนข้างอยู่ในสมาธิ เราก็ชมท่านไปกับอีกองค์ไปว่า ท่านองค์นี้ สมาธิดี ค่อนข้างทรงอยู่ในสมาธิตลอด พอเรากลับบ้าน ท่านไปเล่าให้กันฟัง ท่านก็กลับชมเราว่า โยมเขาก็มีสมาธิดี เขาเดินไปทางไหนเขาก็มีสมาธิตลอดเวลา เขาสูงกว่าผมมาก อันนี้ก็เป็นอันรู้กัน วันนั้นเราก็สงสัยแล้วว่าองค์นี้มีสมาธิขนาดนี้ ต้องมีจิตเป็นทิพย์แน่ ต้องรู้กันโดยไม่ต้องพูด ไม่ต้องมองหน้าก็รู้ใจ

(good) มาสารภาพกันภายหลังก่อนออกเดินทางต่อ ว่า สององค์ปารถนา พุทธภูมิ อีกองค์ปารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า องค์ที่เป็นหัวหน้าทีม ก็ยังคิดจะลาไม่ลาดี ยังตัดใจไม่ขาด ก็ยิ้ม ๆ กันไป ตอนเดินทางออกจาก ปรียนันท์ ก็เดินตามไปส่งจนถึงถนน มี ไอ้หลง เจ้าเก่าติดตามไปส่งถึงที่

(good) กลางคืน องค์ที่ป่วย มี ไอ้หลง นอนเฝ้า อยู่ข้าง ๆ พอเราไปนอน มันก็กลับมานอนกับเรา แล้วก็ทำหน้าที่เห่าทั้งคืน ฉะนั้นใครมานอน ที่ ปรียนันท์ ต้องทำใจ เพราะไอ้หลงอาจทำหน้าที่เกินร้อย

(deejai) มีเรื่องที่เล่าได้ และไม่ได้ อีกมากมาย การมาของพระธุดงค์ จะว่าเป็นการบังเอิญ หรือว่า เป็นบุพกรรมที่ต้องมาพบเจอกัน เพื่อแก้และส่งเสริมกัน อันนี้ก็เป็นไปได้ องค์ที่เป็นหัวหน้าคณะ ท่านว่า สถานที่นี้ เหมือนอาตมามีความคุ้นเคยมาก องค์ที่ป่วยบอกว่า อาตมาชอบที่นี่มาก ขากลับ อาตมาตั้งใจว่าจะเดินองค์เดียว และถ้ามีโอกาส จะมาพักค้างที่นี่สัก ๑๐ วัน ๑๕ วัน กลับวัดแล้ว จะชวน พระด้วยกันมา ปฏิบัติอยู่ที่นี่เป็นระยะ ๆ บ้าง เพราะ อาตมารู้สึกว่า อาตมานอนที่นี่สบายมาก ทำสมาธิได้ดี เราก็เลยว่า ได้เลย ครับ นิมนต์ เลย เพราะพระมาพัก ไม่ยุ่งยากอะไร ไม่ต้องหุงข้าวเลี้ยง พระบิณฑบาตรเองได้ ไม่เหมือนพวกโยม ต้องเตรียมข้าวปลาอาหารมาเอง เลยได้ ฮา....... กัน พอแก้ลมวิงเวียนได้บ้าง

(b-hmm) ถ่ายรูปไว้หลายช็อต แต่ยังลงให้ดูไม่ได้ เพราะ วัยรุ่นขอยืมตัวเสียบการ์ดไป
<!-- / message --><!-- edit note --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post827346 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">23-11-2007, 10:16 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #963 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>คลิก<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_827346", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 10:43 PM
วันที่สมัคร: Nov 2006
ข้อความ: 720 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 9,083 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 15,103 ครั้ง ใน 726 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 1582


</TD><TD class=alt1 id=td_post_827346 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->(good) [b-wai] [b-wai] [b-wai]
(b-angry) เล่าต่อ แบบไม่ต่อเนื่อง

(good) คณะพระธุดงค์ องค์ที่เป็นหัวหน้าคณะจบ ปริญญาตรี ได้เปรียญธรรม เป็นมหาเปรียญ อีกองค์ก็ปริญญาตรี และองค์ที่ป่วย ไม่มีปริญญา องค์ที่เป็นมหา ตั้งใจว่า ถ้าไม่สำเร็จก็จะธุดงค์ไปเรื่อยๆ จะไม่เข้าประจำวัด ยังนึกอยู่ว่า จะลาพุทธภูมิก็ยังใจไม่เด็ดขาด ยังอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เอาแน่ยังไม่ได้ แต่ก็รู้สึกว่า คงต้องลา และอาจสำเร็จในชาตินี้ แต่ไม่ได้พูด เพราะไม่ใช่หน้าที่ ที่จะพูด เมื่อถึงเชียงใหม่ ก็จะเดินไปต่อทางภาคอีสาน เพราะสององค์อยู่อีสาน อีกองค์ ที่ป่วยอยู่ภาคใต้ พอถึงอีสานก็จะแยกกันเดิน เดี๋ยว ตอนนี้องค์ที่ข้อเท้าเจ็บ เพิ่งเดินครั้งแรก ต้องติดตามเอาประสบการณ์ก่อน คล่องแล้วก็จะบินเดี่ยวทำนองนั้น

(good) องค์ที่เป็นหัวหน้าคณะ บวชตั้งแต่เป็นเณร ๗ ขวบหรือไงเนี่ย จำไม่ได้ เรื่อยมา และมาบวชเป็นพระเมื่ออายุ ๒๙ ปี เหตุผลคือ ถือตามพระพุทธเจ้า บวชเมื่ออายุ ๒๙ ใครจะเรียนแบบก็เอา

(glass) ช่วงกลางวันได้มีโอกาสคุยกับพระองค์ที่ป่วย กับ องค์ที่ปารถนาเป็นพระปัจเจกพระพุทธเจ้า เราคุยบ้างท่านคุยบ้าง องค์ที่ข้อเท้าเจ็บค่อนข้างจะมีอะไรที่พิเศษที่หาผู้แก้ไขไม่ได้ ไปมาทั่วสารทิศ บางที่ก็รู้ แต่แก้ไม่ได้ บางที่ก็ตอบส่งเดช แต่ท่านก็พอทราบเลา ๆ จากการสอบถามท่านผู้รู้ เพราะท่านบำเพ็ญมามาก และก็สร้างวีรกรรมมามาก เลยต้องรับผลกรรมที่มาก ๆ แต่เจ้าตัวไม่เข้าใจ และไปหาที่เขาไม่ถึงจริงก็ตอบมั่วเลยมีผลทำใหเข้าไขว้เขวไปในบางเรื่อง อาการของพวกนี้เราเคยผ่านมาบ้างพอเข้าใจก็เลยค่อย ๆ อธิบายเป็นจุด ๆ เป็นตอน ๆ ไป ทำให้ท่านคลายสงสัย มีความเข้าใจดีขึ้น เลยคุยกันสนุกสนานถุกใจ เฮ ฮา กัน ตามแบบ พลังจิตพิชิตภัยพิบัติ

(good) (ping-love เรื่องของเรื่องคือ ท่านมีเจ้ากรรมนายเวรที่มีบารมีธรรมสูง เรียกว่าสร้างวารกรรมกับพระโพธิสัตว์มามาก เวลาทำสมาธิตั้งมั่นจะเข้าลึก ไม่ได้ เขาไม่ให้ผ่าน ด้วยกำลังสมาธิของเขาไม่พอ ความสอาดของจิตไม่พอ เขาไม่ให้ผ่าน แล้วมันต้านกำลังกันทำให้งุนงงสงสัย เขาต้องเดินวิปัสนาญารควบคู่กัน ให้มีอารมณืตั้งมั่นเป็นฌาน เมื่อกระทบเขาหรือเริ่มมีอาการก็ต้องขอโทษ ขออภัยต่อเขา ให้เขาอภัยให้ อย่าดันทุรัง เอา กำลังสมาธิเข้าอัด เหนื่อยเปล่า ก็อธิบายไปเยอะ ยกเหตุยกผล ท่านก็เข้าใจ เห็นดีด้วย พอทำตาม ก็หลุดได้ แต่ก็มีเยอะ ต้องเหนื่อยหน่อย ในใจก็ว่าอีกสองปี โน่นแหละ ถึงจะเพลา ๆ ลง แต่ไม่ได้บอก ท่านก็ว่าสมัยก่อนท่านชอบพวก คาถาอาคม ชอบมาท่องมาสวด เอาพลังเข้าตัว กลัวว่าจะเป็นของพวกนี้หรือเปล่า เราก็ว่ามันไม่ใช่ไม่เกี่ยวหรอก บทที่ท่องให้ฟังเป็นอักระขององค์บรมพระศาสดาทั้งนั้น ดีทุกตัวอักษร เราปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่มีอะไรมาเล่นงานเราได้หรอก นอกจากกรรมที่เราเป็นผู้สร้างมาเอง ทำมาเองทั้งนั้นแล้วจะไปโทษใครเล่า ก็ได้ ฮา...... กัน ปิดท้าย.....

(b-angry) ท้าย ๆ ชั่วโมงก็คุยกันเรื่องว่า มีคนที่รู้เขาบอกว่าท่านมีญาณหนึ่งเขาออยู่ข้างใน คอยดูแลอยู่ และเป็นเจ้ากรรมนายเวรกัน เขาว่า อย่างนั้น แต่กำลังเขาสูง เมื่อก่อนสงสัยอาการที่เป็นก็ไปหาหมอพระ หมอผี ครูบาอาจารย์ต่าง ๆ ก็ไม่ได้ผล ผีไม่กลัวเสียอีก กลับไปไล่เบี้ยหมอผีจนกระเจิดกระเจิง ก็บอกท่านว่าตามที่เล่ามานี่ เขามาช่วยท่านนี้ มาช่วยในการปฏิบัติธรรมนี่ ท่านจะแสดงอะไรออกท่าทางอย่างไรก็ปล่อยไป เราก็ทรงสมาธิของเรา ท่าต่าง ๆ ที่เล่ามานั้นมันผลดีต่อร่างกายทั้งนั้น เขาช่วยต่างหาก เวลานั้งต่อหน้าชุมชน เขาไม่แสดงหรอก เขาก็จะแสดงในที่ที่ไม่มีคนเห็น ( ท่ารำมวยจีน ไทเก็ก ชีกง ท่าฤษีดัดตน ) นี่แหละทำให้รู้ว่า ของจริงต้องทรงสมาธิ ร่างกายจะเคลื่อนไหวอย่างไร ก็ปล่อยไป จิตตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์สมาธิ หรือองค์กรรมฐาน ก็ว่าที่เขาฝึก ๆ กันตาม ทีวี. นั้นมันยังไม่หัดเดินเลย จิตมันยังไม่ทรงฌาน การต่อสู้กันในอดีต นั้น เขาใช้กำลังจิต เขาใช้อำนาจของสมาธิในการต่อสู้กัน ร่างกายมันแข็งแกร่งตามอำนาจของฌาน ท่านก็บอกอยากจะดูไหมว่าอาการนั่งสมาธิแล้วจะเป็นอย่างไร ก็เลยบอก ลอง ซิ เดี๋ยวจะทำอะไรให้ดู เหมือนกัน

(good) ท่านนั่งขัดสมาธิกำหนดจิตเข้าสมาธิ ท้องเริ่มแข็ง เป็นลูกคลื่น วิ่งขึ้น วิ่งลง วนไปวนมา เราก็นั่งดูอยู่สักพัก ร่างกายท่านเริ่มแน่นขึ้น เราก็เลยลุกไปหาเอาฝ่ามือยันหน้าท้อง กำหนดสมาธิ ค่อย เพิ่มกำลังอัดขึ้น เอาแบบหนังจีนกำลังภายใน อัดกันด้วยกำลังภายในสองสามยก ยกสุดท้ายองค์ในก็เข้าคุม คราวนี้ต้องใช้กำลังมากขึ้น ท่านก็ยันออกมาสุดกำลัง และท่านบอกว่า เอา ๆ มาลองดูกันว่าใครจะแน่กว่ากัน แล้วเพิ่มกำลังอัดกันเต็มที่ เราก็บอกว่าได้ ซี่ ก็อยากจะรู้ว่าใครมันจะแน่กว่าองค์บรมพระศาสดา จบคำท่านก็ถอยกำลังลง แล้วหัวเราะ อย่างสนุกสนาน เราก็หัวเราะด้วยกันอย่างสนุกานาน ปล่อยให้พระธุดงค์สององค์งงกันไปก่อน

[b-wai] ตอนกลางคืนมาเฉลยกัน พระที่ข้อเท้าบวมบอก บอกว่า องค์ที่เขาคุม ตอนที่อัดพลังสมาธิกัน เขาเป็นมิตรกับโยม น่ะ ความรู้สึกในใจของอาตมาเป็นแบบนั้น และเขาชอบโยม เขาไม่ได้เกลียดโยม ไม่เหมือนไปที่อื่น น่ะ นั้น เขาเอาเต็มที่ ถ้าเขาไม่พอใจเขาเอาจนที่นั้นสงบเลย ตาขวางเลย พวกหนีหมด ตามสำนักที่อาตมาไป ต้องห้ามอาตมานั่งสมาธิรวมกับเขา มันเหมือนว่าพวกที่นั่งรอบ ๆ ข้าง จะโดนพลังอัดทำให้เขาอยู่ไม่ได้ ทนไม่ได้ เขาต้องให้อาตมาออกไปนั่งต่างหากตามกุฏิ ก็เลยบอกว่า เมื่อกลางวันนั้น เราก็แสดงลีลาดุดันกัน การอัดพลังก็คือการเสริมกำลังสมาธิกัน การโต้ตอบก็คือการโต้ตอบกันด้วยภูมิธรรม ลองคิดดูถ้าเป็นท่าน เมื่อโดนคำถามแบบนั้นท่านคิดได้หรือว่าจะตอบแบบที่ผมตอบ แต่ก็ยังดีที่ผมตอบได้ ท่านก็มีเมตตา หัวเราะชอบใจ ดูแบบคนทั่วไป แบบคน อาจคิดว่าผมชนะท่าน มีกำลังมากกว่าองค์ที่มาคุมท่าน แต่ไม่หรอก ต่างก็อ่อนน้อมต่อธรรมขององค์บรมพระศาสดาทั้งนั้น เหมือนท่านเป็นพ่อ เป็นปู่ มาลองปฏิภาณมาลองไหวพริบลูกหลานมากกว่า ถือว่าท่านก็สงเคราะห์ผมด้วย

(b-no) อย่าง ไง ๆ เราก็สู้ผีไม่ได้วันยังค่ำ แถมเป็นผีที่มีบารมีมาก ๆ ด้วย ขอเป็นลูกเป็นหลานดีกว่า สบายใจดี นึกอะไรไม่ออก ก็ ถามหาได้

(b-evil2) เล่าไว้เป็นเกล็ดความรู้ ว่าครั้งหนึ่งก็มีเหตุการณ์แบบนี้ ที่ ปรียนันท์ ธรรมสถาน ระหว่าง คน กับ ผี เล่นละครกัน ให้คนและผีดู
</TD></TR></TBODY></TABLE>