เปิดกรุสุดยอดวัตถุมงคลฯ มาแบ่งบูชา (๑๒) ลพ.มหาโพธิ์,กริ่งพระเจ้าพรหมฯ น.สุดท้าย

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Tackled, 5 สิงหาคม 2014.

  1. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    คัดสรรพระดีเพื่อเพื่อนสมาชิกทุกท่าน เบาๆยันหนักๆ สนใจชอบเชิญครับ

    (กลับมาประจำการและรายงานตัวครับ หลังติดภารกิจประจำ พร้อมจัดของดีๆแรงๆมาฝากเช่นเคย ขอบคุณทุกท่านมากครับ ที่ให้การสนับสนุนด้วยดีมาตลอด) ทั้งใหม่เก่าบางรายการนำมาระดมทุนต่ำกว่าทุน ลองพิจารณาดูครับ

    จัดส่งวัน ถัดไปหลังจากแจ้งโอน (อังคาร-ศุกร์)

    รับประกันความพอใจภายใน 7 วัน (พระต้องอยู่ในสภาพเดิม)
    รับประกัน ความแท้ ตลอดชีพ (เก๊คืนเต็ม)



    :z2:z2:z2:z2:z2​


    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ย่อย ถนนสรงประภา
    เลขที่บัญชี 248-2-09496-0 ชื่อบัญชี ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    ธนาคาร กรุงเทพ สาขา ตลาดน้อย ออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 154-0-46507-5 ชื่อบัญชี ชยพล วรพงศ์ธนกฤต
    (มีให้เลือก 2 บช.ธนาคารเพื่อความสะดวกครับ ประหยัดค่าโอน)
    Tel:084-6698489
    E-mail:ya_tackled@hotmail.com

    ทุก ท่านสามารถจองรายการที่ต้องการได้ แต่ไม่เกิน 7 วันนับจากวันที่โพส (กรณีไม่ใช่สมาชิกเว็บนับจากวันที่โทรยืนยันการจอง) หลังจากนั้นถ้ายังไม่ชำระเงิน ผมขออนุญาติ ตัดสิทธิ์การจองให้เพื่อนสมาชิกท่านอื่นพิจารณาต่อไป และท่านจะถูกตัดสิทธิ์ไม่สามารถจองรายการอื่นๆได้อีก(รายชื่อจะปรากฎอยู่ใน หน้าแรก) กรุณาตรวจสอบความพร้อมก่อนจอง กรณีมีเหตุสุดวิสัยให้ติดต่อหรือแจ้งก่อนครบกำหนดการจอง ขอบพระคุณทุกท่านมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2014
  2. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รายการที่ 1

    เหรียญเสมารุ่นแรก หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช จ.อยุธยา ปี 2506

    ประวัติชาติกำเนิด

    พระวิสุทธาจารเถร นามเดิมว่า เทียม นามสกุล หาเรือนศรี เกิดเมื่อวันเสาร์
    ขึ้น 3 ค่ำ เดือนอ้าย ปีมะโรง ตรงกับวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2447 ในรัชกาลที่ 5 ณ ตำบล บ้านป้อม หมู่ที่
    7 อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บิดาชื่อ นายสุ่น มารดาชื่อ นางเลียบ
    ประกอบอาชีพเป็นชาวนา

    ศึกษาเบื้องต้น

    เมื่ออายุประมาณ 10 ปี บิดามารดาได้นำท่านมาฝากไว้ ณ วัดกษัตราธิราช
    เรียนหนังสือ ก ข กับพระภิกษุมอน ผู้เป็นน้าชาย เมื่อพระภิกษุมอน ลาสิกขา ท่านก็คงอยู่
    เรียนหนังสือต่อไป โดยเป็นศิษย์ของ อาจารย์ปิ่น ให้ช่วยสอนหนังสือให้ ในขณะเดียวกันก็ได้ ศึกษาความรู้ทางด้านวิชาช่างเขียน ช่างแกะสลักไปด้วย จากนั้นก็เป็นศิษย์ของอาจารย์จันทร์ เรียนภาษาขอมจนถึงอายุ 15-16 ปี จึงได้ออกจากวัด เพื่อช่วยทางครอบครัว ซึ่งประกอบอาชีพทำนา

    ผู้ใฝ่ในการศึกษา

    ขณะที่ช่วยบิดา มารดา ประกอบอาชีพ ได้เริ่มเรียนวิชาไสยศาสตร์แบบ ลบผง
    ลงยันต์กับอาจารย์ทรัพย์ ผู้เป็นลุงและนายสุ่นผู้เป็นบิดา พร้อมกับเรียนวิชาธาตุกสิณ กับนายเงิน ผู้เป็นอา เมื่อเรียนธาตุกสิณเป็นแนวทางแล้ว ได้เรียนวิชาการแขนงอื่นๆ อีกหลายสาขาเช่น การประดับตกแต่ง เรียนช่างก่อสร้าง ช่างปูน ช่างไม้ วิชากระบี่กระบอง และกลองแขกคู่ เป่าปี่ชวา เมื่อเรียนสำเร็จแล้วได้ออกไปแสดงตามสถานที่ต่างๆ เช่น ในงานสำคัญต่างๆในจังหวัด เช่น งานพระราชทานผ้าพระกฐิน ณ วัดสุวรรณดาราราม วัดเสนาสนาราม วัดศาลาปูน วัดตูม ฯลฯ และได้เรียนวิชากระบี่กระบองเพิ่มเติม จากนายเขียว บ้านห่อหมก อำเภอบางไทร
    ในระยะเวลาที่ว่างงานก็ได้ใช้วิชาที่เล่าเรียนมา นำไปประกอบอาชีพเช่น รับจ้างเป็นช่างงานไม้
    พอว่างจากงานไม้ก็ฝึกหัดแกะสลักหนังใหญ่ เมื่อหัดแกะได้ตามสมควรก็เริ่มออกแสดงเป็นครั้งคราว

    อุปสมบท

    ต่อมาเมื่ออายุ 20 ปี ท่านได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดกษัตราธิราช
    เมื่อวันศุกร์ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 8 ปีชวด ตรงกับวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ.2467 โ ดยมี พระครูวินยานุวัติคุณ
    (มาก อินทโชติ) เจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราชเป็นพระอุปัชฌายะ พระสมุห์หล่ำ วัดกษัตราธิราช
    เป้นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ทองดี วัดพระงาม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีฉายาว่า สิริปัญโญ
    เมื่ออุปสมบทแล้วได้ศึกษาพระปริยัติธรรม ณ สำนักเรียนวัดเสนาสนาราม 2 พรรษา
    และได้ศึกษากรรมฐานกับหลวงพ่อสี วัดสนามชัย และ อาจารย์จาบ วัดโบสถ์ อำเภอมหาราช ศึกษากับอาจารย์เหม็ง วัดประดู่ทรงธรรม ครั้นพรรษาที่ 3 ไปศึกษา วิปัสสนากรรมฐาน กับหลวงพ่อม่วง วัดโบสถ์ แล้วกลับมาอยู่ ณ วัดประดู่ทรงธรรม อีกครั้ง เพื่อศึกษาวิชา สมถะฝ่ายกสิณ 10 อนุสสติ 10 ยุคล 6 จงกรม พร้อมด้วนเริ่มเรียนวิทยาคมต่างๆ เช่น เป่า พ่น ปลุกเศก ลงเลขยันต์ ตามตำหรับวัดประดู่ทรงธรรม
    จนถึงพรรษาที่ 9 จึงกลับมาอยู่ วัดกษัตราธิราช เนื่องจากพระครูวินยานุวัติคุณ (มาก อินทโชติ)
    ซึ่งเป็นอุปัชฌาย์ ของท่าน ได้อาพาธหนัก จึงได้มารับใช้สนองพระคุณของพระอุปัชฌาย์
    การกลับมาครั้งนี้ของท่าน ท่านได้นำตำราพิชัยสงคราม กับตำรามหาระงับพิสดาร รวมถึง
    ตำราเลขยันต์อื่นๆติดตัวมาด้วย จนกระทั่งจากพระครูวินยานุวัติคุณ มรณภาพ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ.
    2477 หลังจากจัดการศพของท่านจากพระครูวินยานุวัติคุณ เสร็จแล้วจึงเดินทางไปศึกษากรรมฐาน ณ วัดวรนาถบรรพต (วัดเขากบ) จ.นครสวรรค์ เมื่อศึกษาสำเร็จได้ตามที่ท่านตั้งใจแล้ว
    ท่านจึงเดินทางกลับมายังวัดกษัตราธิราช ตามเดิม ท่านเป็นลูกศิษย์ ของก๋งจาบ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ยุคเก่าสายวัดประดู่ทรงธรรม ซึ่งก๋งจาบท่านนี้ยังเป็นครูบาอาจารย ์ของหลวงปู่เทียม วัดกษัตราฯ หลวงพ่อแทน และหลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง พระเกจิอาจารย์ทั้ง สาม รูปนี้ มักได้รับนิมนต์ เชิญให้ไปร่วมพิธีมหาพุทธาภิเศก อธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลอยู่เป็นประจำ โดยหลวงพ่อแทน หลวงปู่เทียม และหลวงพ่อกี๋ คือ สามพระเกจิอาจารย์ สายวัดประดู่ทรงธรรม ผู้จาร แผ่นชนวนยันต์ หลอมไม่ละลายในเบ้าหลอม ชนวนยันต์ ในพิธี วัดประสาทฯ เมื่อปี 2506 เป็นที่ฮือฮา และ โด่งดังมาก ในสมัยนั้น นั่น แสดงถึง ความเข้ม ขลัง มหายันต์ อันศักดิ์สิทธิ์ และ ความเข้ม ขลัง แห่ง พลังจิต ของพระเกจิอาจารย์ทั้ง สาม รูปนี้ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ชัยนาท ท่าน ยัง ให้ความเคารพนับถือ หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช


    รับตำแหน่งเจ้าอาวาส

    หลังจากที่ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง โดย พระมหาสิน นันโท ลาสิกขาบท เมื่อวันที่ 30
    มิถุนายน พ.ส. 2483 พระครูไพจิตรวิหารการ (บัว สีลโสภโน) จากวัดประดู่ทรงธรรม
    ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าวาสสืบต่อ ตั้งแต่ พ.ศ. 2484 จนถึง พ.ศ. 2596 พระครูไพจิตรวิหารการ
    ได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ทางคณะสงฆ์จึงเห็นสมควร แต่งตั้งให้ หลวงพ่อเทียม
    ซึ่งในคณะนั้นท่านดำรงสมณศักดิ์ พระใบฎีกา รักษาการแทน จนกระทั่งได้รับแต่งตั้ง
    เป็นเจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราช ในปี พ.ศ.2496

    สมณศักดิ์และตำแหน่งหน้าที่

    พ.ศ. 2474 เป็นพระใบฎีกา ฐานานุกรมของพระครูวินยานุวัติคุณ (มาก)
    ในตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ บางบาล
    พ.ศ. 2496 เป็นเจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราช
    วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2508 เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูพิพิธวิหารการ
    เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นตรี
    วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2509 เป็นเจ้าคณะตำบลภูเขาทอง
    วันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2512 เป็นพระอุปัชฌายะ
    วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2514 เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นโท
    วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2517 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ
    วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2522 ได้รับ พระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะ
    ที่พระวิสุทธาจารเถร ฝ่ายวิปัสสนาธุระ

    อุปนิสัยของหลวงพ่อ

    ท่านเป็นพระเถระที่ฝักใฝ่อยู่ในวิปัสสนาธุระ และมั่นคงอยู่ในเพศพรหมจรรย์
    ตลอดชีวิตสมณะท่าน ท่านตั้งอยู่ในพรหมวิหาธรรม ให้ความคุ้นเคย เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ
    บุคคลทุกชั้นวรรณะ มิได้แสดงอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง อันเป็นเหตุให้อาคันตุกะได้รับความหนักใจ
    เพราะความที่ท่านเปี่ยมไป ด้วยความเมตตากรุณา นั้นเอง ท่านจึงต้องใช้สังขารอย่าลำบากตรากตรำ
    เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุข ให้แก่บุคคล ผู้หันหน้ามาพึ่ง โดยท่านมิได้คำนึงถึงความเหน็ดเหนื่อย
    ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน ไม่มีเวลา ส่วนตัว กิจธุระนอกวัดก็มากขึ้นเป็นลำดับ
    เมื่อกลับมาถึงวัดก็ควรได้รับการพักผ่อน พอถึงกุฏิ ก็ต้องมีบุคคลมารอพบหมายจะให้ท่านช่วยแก้ปัญหาทุกข์ร้อน อยู่เป็นประจำ ด้วยความเมตตา และกรุณาของท่านนี้เอง จึงมีผู้ศรัทธาเลื่อมใสในท่านเป็นจำนวนมาก ท่านบำเพ็ญตน อยู่อย่างนี้ตลอดมา เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ความอบอุ่น ร่มเย็นแก่ชาวบ้านและชาววัดตลอดมา ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกล
    เมื่อมาถึงหลวงพ่อแล้วย่อมได้รับ ความอนุเคราะห์ โดยทั่งหน้ากัน เป็นที่ซาบซึ้งใจยิ่งนัก

    พระนักพัฒนา

    นอกจากจะมีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข ให้กับบุคคลทุกชั้นวรรณะแล้ว ท่านต้อง
    รับภาระอันหนักยิ่ง กล่าวคือ การบูรณะปฏิสังขรณ์ปูชนียวัตถ ุและถาวรวัตถุภายในวัด ควบคู่กันไป ปรากฏว่า
    ท่านเอาใจใส่งานก่อสร้างมากถึงกับ ลงมือ ทำด้วยตนเอง จนกระทั่ง ทำด้วยตนเองไม่ได้
    ท่านจะคอยควบคุมดูแลสั่งการ เพื่อให้งานนั้นๆ เป็นไปด้วย ความเรียบร้อย และได้ผลดี
    ด้วยความที่ท่านต้องมีหน้าที่รับผิดชอบ ต่องานก่อสร้างนี้เอง จึงเป็นเหตุให้ ท่านเกิดอาพาธ
    เป็นโรคอัมพาตขึ้นเมื่อประมาณกลางปี พ.ศ.2517 จนท่านไม่สามารถจะ ไปไหนต่อไหนได้เหมือนแต่ก่อน แต่หลวงพ่อ
    ท่านห่วงงานยิ่งกว่าสุขภาพ และสังขาร ตนเสียอีก ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า เมื่อท่านป่วยเป็นอัมพาตเดินไม่ได้
    หลวงพ่อท่าน ก็นั่งรถเข็น ให้พระภิกษ ุหรือสามเณรช่วยเข็นให้ท่านนั่งในตอนเช้า และตอนเย็น เพื่อตรวจตรา
    ดูความเรียบร้อยภายใน วัดเป็นพระจำวัน โดยมิได้ย่อท้อสามารถควบคุม และตรวจตรา งานก่อสร้างได้จนงานนั้นๆ
    สำเร็จเรียบร้อยหลายอย่าง ดังปรากฏแก่สายตาของพวกเรา ทั้งหลายขณะนี้แล้ว

    วัตถุมงคล
    เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.2506
    รูปหล่อโบราณ เนื้อทอง ผสมชนวนยันต์ รุ่นแรก 2508 จำนวน 1000 องค์ ใต้ฐานหลวงพ่อเทียม ได้จาร ชื่อท่าน คำว่า “เทียม” สร้างถวายโดยพระสมุห์ อำพล วัดประสาทบุญญาวาส กรุงเทพ ซึ่งพระสมุห์ อำพล ท่านได้เคารพนับถือหลวงพ่อเทียม มาก ในบุญญาอภินิหาร ที่ แผ่นยันต์ของหลวงพ่อเทียม ไม่หลอมละลาย ในพิธีที่ วัดประสาท ปี 2506 เหรียญสิทธิมหาโชค
    ตะกรุด มหาระงับ ตะกรุด 4 มหาอำนาจ ตะกรุด รัตนมาลา 9 ดอก และวัตถุมงคล ต่างๆ อีกมากมาย หลายอย่าง

    ทูลเกล้าฯ ถวายตะกรุด

    ในวโรกาสเสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราช กุศลถวายผ้ากฐินส่วนพระองค์ ณ
    วัดศีลขันธาราม ตำบลอ่างแก้ว อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2517
    ท่านจึงมอบให้พระสำรวย ฐิตปุญโญ รองเจ้าอาวาส วัดกษัตราธิราช
    นำรูปจำลองของท่านพร้อมด้วยตะกรุดมหาระงับแบบพิสดาร ลงตามตำรับเดิมของ วัดประดู่ทรงธรรม
    เป็นโลหะตะกั่วถักด้วยด้าย และลงรักปิดทอง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. ยาม 12 นิ้ว
    ขึ้นทูลเกล้าถวายแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายด้วยตนเองไม่ได้
    เนื่องจากอาพาธด้วยโรคอัมพาต ดังกล่าวแล้ว จากนั้นไม่นาน ทางวัด กษัตราธิราชก็ได้รับแจ้งจาก
    ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
    ทรงทราบว่าเจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราชอาพาธ มีพระราชประสงค์ จะนิมนต์ท่านเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร ดังนั้นท่านจึง ได้เดินทางเข้าไปรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
    โดยเป็นคนไข้ ในพระบรมราชานุเคราะห์ ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นเวลา 1เดือนพอดี
    อาการดีขึ้นโดยลำดับ คณะแพทย์จึงอนุญาตให้กลับมาพักผ่อน ที่วัดตามอัธยาศัย ในการที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ
    พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระเมตตาต่อท่านครั้งนี้นับว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นหาที่สุดมิได้

    มรณภาพ

    เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2522 หลวงพ่อละสังขาร ด้วยอาการสงบ สิริอายุได้ 75 ปี
    55 พรรษา เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2544 จึง จัดให้มีการพระราชทานเพลิงศพ พระวิสุทธาจารเถร

    (ปิดรายการจองแล้วครับ)

    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ย่อย ถนนสรงประภา
    เลข ที่บัญชี 248-2-09496-0 ชื่อบัญชี
    [/COLOR]ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    ธนาคาร กรุงเทพ สาขา ตลาดน้อย ออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 154-0-46507-5 ชื่อบัญชี ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    (มีให้เลือก 2 บช.ธนาคารเพื่อความสะดวกครับ ประหยัดค่าโอน)
    Tel:084-6698489
    E-mail:ya_tackled@hotmail.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • t1.jpg
      t1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.5 KB
      เปิดดู:
      417
    • t2.jpg
      t2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.8 KB
      เปิดดู:
      323
    • 6350768626940000001.jpg
      6350768626940000001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77 KB
      เปิดดู:
      159
    • teem_img.jpg
      teem_img.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.1 KB
      เปิดดู:
      163
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2014
  3. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รายการที่ 2

    รูปหล่อ หลวงปู่ลี วัดป่าหัวตลุก จ.นครสวรรค์ รุ่นสร้างกุฏิ รวยไม่เลิก

    ด้วยญาณบารมีของความเป็นพระสุปฏิปันโนในด้านสมถะวิปัสสนากัมมัฏฐานอย่างเคร่งครัด จึงทำให้หลวงปู่ลี ตาณํกโร เป็นที่เคารพกราบไหว้ของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่และขยายเขตกว้างขวางออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเริ่มเป็นที่รู้จักถึงสังฆบารมีอันดีงามจากประวัติการศึกษาด้านปฏิบัติธรรมะกับหลวงปู่ครูบาอาจารย์พระอริยสงฆ์ (ผู้บรรลุธรรมวิเศษมีโสดาปัตติมรรค) ศิษย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลายรูปด้วยกัน


    อาทิ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำพู จ.อุดรธานี (ปัจจุบันเป็น จ.หนองบัวลำพู), หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย และหลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พระอริยสงฆ์ดังกล่าวล้วนเป็นครูบาอาจารย์ที่หลวงปู่ลี ตาณํกโร เคยเป็นศิษย์ปรนนิบัติและศึกษาปฏิบัติธรรมมาแล้วทั้งสิ้น


    หลวงปู่ลี ตาณํกโร ท่านเป็นชาวอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่นโดยกำเนิดและท่านเป็นน้องชายของหลวงปู่พุฒ สำนักสงฆ์บ้านนาสายเหนือ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ภายหลังหลวงปู่ลี เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ท่านเริ่มรับผิดชอบช่วยเหลือครอบครัวตามวิถีชีวิตคนชนบทในภาคอีสานและอายุพอสมควรจึงบรรพชาเป็นสามเณร


    นับจากในช่วงเริ่มต้นของชีวิตในบวรพระพุทธศาสนา ท่านมีโอกาสดีได้ถวายตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อทองสุข วัดป่าบ้านหนองโน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นสำนักวิปัสสนาธุระและหลวงพ่อทองสุขท่านก็เป็นศิษย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เช่นกัน ดังนั้นการเริ่มต้นในเพศบรรพชิตท่านก็เริ่มต้นกับอาจริยสงฆ์ด้วยพื้นฐานที่ดีเยี่ยมนับตั้งแต่ก้าวแรก


    ระหว่างนั้นสามเณรลี ท่านได้พักปฏิบัติธรรม ณ ป่าช้าบ้านหนองโนนั่นเอง กระทั่งครบอายุจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์สังกัดธรรมยุติกนิกาย ณ วัดสุรพิมพาราม อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี หลังจากนั้นหลวงปู่ลี ตาณํกโร ได้ธุดงควัตรไปยังสถานที่ต่างๆ ในภาคอีสาน, ภาคกลาง, ภาคเหนือ และอีกหลายๆ แห่ง ซึ่งการธุดงควัตรคือ บุญฤทธิ์หรือความสำเร็จด้วยบุญอย่างหนึ่ง เนื่องจากท่านมีโอกาสปรนนิบัติและศึกษาธรรมปฏิบัติกับบรรดาพระอริยสงฆ์ศิษย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ดังกล่าว


    ในส่วนสหธรรมิกที่หลวงปู่ลี ตาณํกโร เคยกล่าวถึงสมัยที่ท่านปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานกับครูบาอาจารย์ข้างต้น ได้แก่ หลวงปู่คำไพ รักขิตตจิตโต วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย และพระอาจารย์อุทัย ฌานุตฺตโม (พระอาจารย์ติ๊ก) วัดป่าบ้านห้วยลาด อ.ภูเรือ จ.เลย


    ด้วยวัตรปฏิบัติอันดีงามของหลวงปู่ลี ตาณํกโร ตามข้อมูลข้างต้น จึงส่งผลให้บรรดาศิษยานุศิษย์ของท่านหลายสายหลายจังหวัดร่วมแรงร่วมใจอนุโมทนาบุญด้วยการขยายเขตพัทธสีมาซื้อที่นาเพิ่มขึ้นจาก 3 ไร่เศษเป็น 39 ไร่ พร้อมกันนี้ก็จัดทอดผ้าป่ามหากุศลปิดทอง (ทาทอง) พระพุทธรูปองค์ใหญ่ครอบองค์เดิมไว้และเปลี่ยนมงคลนามจากวัดป่าหัวตลุกเป็น “วัดหัวตลุกวนาราม” โดยการบูรณะเสนาสนะและองค์พระใหญ่ดังกล่าวเกือบจะแล้วเสร็จ แต่ยังขาดจตุปัจจัยประมาณ 3 ล้านบาท คณะศิษย์หลวงปู่ลี ตาณํกโร จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนทั่วไปผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันเป็นเจ้าภาพหลักทอดผ้าป่ามหากุศล กองละ 10,000 บาท หรือตามแต่จิตศรัทธาซึ่งนับเป็นโอกาสมหากุศลของชีวิตในการร่วมสร้างพระองค์ใหญ่ขนาดหน้าตักกว้าง 14 เมตร ซึ่งจะดำรงอยู่ไปอีกนับร้อยปี


    อนึ่ง แม้หลวงปู่ลี ตาณํกโร ท่านจะเป็นพระสงฆ์สายวิปัสสนาธุระ แต่ด้วยความศรัทธาของบรรดาสานุศิษย์ จึงมักขออนุญาตสร้างวัตถุมงคลถวายวัดเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นกุศโลบายหนึ่งที่นำวัตถุมงคลมอบให้แก่ผู้ที่ร่วมอนุโมทนาบุญในการถวายปัจจัยทำนุบำรุงวัดหัวตลุกวนาราม


    กระทั่งวัตถุนิยมหลายๆ รุ่นของหลวงปู่ลี ตาณํกโร ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีผู้ประสบเหตุอภินิหารผ่านประสบการณ์แคล้วคลาดและได้เกิดความเมตตามหานิยมนานาประการ จนเป็นที่ปรารถนาของบรรดาลูกศิษย์ทั้งที่เป็นเซียนพระเครื่องและสาธุชนทั่วไปเพื่อนำไปบูชาติดตัวไว้เป็นสิริมงคลสืบต่อไป

    บูชาองค์ละ 200 บาท ค่าจัดส่ง ครั้งละ 50 บาท

    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ย่อย ถนนสรงประภา
    เลข ที่บัญชี 248-2-09496-0 ชื่อบัญชี
    ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    ธนาคาร กรุงเทพ สาขา ตลาดน้อย ออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 154-0-46507-5 ชื่อบัญชี ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    (มีให้เลือก 2 บช.ธนาคารเพื่อความสะดวกครับ ประหยัดค่าโอน)
    Tel:084-6698489
    E-mail:ya_tackled@hotmail.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • l1.jpg
      l1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.2 KB
      เปิดดู:
      138
    • l2.jpg
      l2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.6 KB
      เปิดดู:
      88
    • l3.jpg
      l3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.6 KB
      เปิดดู:
      97
    • 81_big.jpg
      81_big.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.5 KB
      เปิดดู:
      492
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2014
  4. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รายการที่ 3

    เหรียญสมทบทุน สร้างโรงพยาบาลสงฆ์ หลวงพ่อเกษม เขมโก ปี 2526

    บูชา 200 บาท ค่าจัดส่ง ครั้งละ 50 บาท
    (คุณ beleive จองแล้วครับ)

    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ย่อย ถนนสรงประภา
    เลข ที่บัญชี 248-2-09496-0 ชื่อบัญชี
    ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    ธนาคาร กรุงเทพ สาขา ตลาดน้อย ออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 154-0-46507-5 ชื่อบัญชี ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    (มีให้เลือก 2 บช.ธนาคารเพื่อความสะดวกครับ ประหยัดค่าโอน)
    Tel:084-6698489
    E-mail:ya_tackled@hotmail.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • kasem3.jpg
      kasem3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.4 KB
      เปิดดู:
      110
    • kasem4.jpg
      kasem4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56 KB
      เปิดดู:
      98
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2014
  5. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รายการที่ 4

    พระผงน้ำมัน ปางประทับสัตว์(หนู)หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง จ.นนทบุรี


    หลวงพ่อแฉ่ง อดีตเจ้าอาวาสวัดบางพัง นับเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังผู้ทรงพุทธาคมรูปหนึ่งในอดีต ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลดัง ๆ เช่น พิธีที่วัดราชบพิธ พ.ศ. 2481 พิธีพุทธภิเษกพระเครื่อง 25 พุทธศตวรรษ ในการพุทธาภิเษกพระกริ่งในเจ้าคุณศรีฯ วัดสุทัศน์ จะต้องนิมนต์พระหลวงพ่อแฉ่งร่วมปลุกเสกทุกครั้ง

    วัตถุมงคลหลวงพ่อแฉ่งมีมากมาย ทั้งพระเนื้อผงพิมพ์ทรงสัตว์ต่าง ๆ มีหลายประเภททั้งพิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก พิมพ์สามเหรียญ เนื้อผง พระรอด ตะกรุด ผ้ายันต์ธง ทรายเสก พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พระประจำวัน นางกวัก พระพุทธกวัก สามเหลี่ยม พระสิวลีชนิดบูชา-คล้องคอ เนื้อหามีทั้ง ดิน ผงน้ำมัน ผงพุทธคุณ แต่ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ คือ ชนิดผงน้ำมัน เพราะเนื้อหาดูง่าย เนื้อจัด หนึกนุ่ม ส่องแล้วสบายตา ราคาสบายใจไม่แพงมาก

    แรงจูงใจในการจัดสร้าง บรรดาศิษย์และผู้ใกล้ชิดที่ศรัทธาพร้อมใจกันขอให้หลวงพ่อสร้างอิทธิวัตถุ เพื่อเป็นของที่ระลึกและคุ้มครองป้องกันภัย ประกอบกับในระยะนั้นสงครามมีท่าทีเกิดขึ้น ผู้คนเริ่มเสาะแสวงหาวัตถุมงคลไว้คุ้มกันตัว และเพื่อตอบแทนชาวบ้านที่มาร่วมทำบุญบริจาคทรัพย์สมทบทุนสร้างถาวรวัตถุสิ่งต่าง ๆ ภายในวัด หลวงพ่อแฉ่งได้สร้างวัตถุมงคลในปี พ.ศ.2484 แจกให้ศิษย์และชาวบ้านที่ศรัทธา

    จำนวนจัดสร้าง วัตถุมงคลสร้างขึ้นมีจำนวนเท่าไร ไม่มีใครทราบ เพราะมิได้มีการจดบันทึกไว้ เป็นการทยอยสร้างทยอยปลุกเสก พอสร้างได้จำนวนมากพอสมควรแล้วท่านก็จะทำพิธีปลุกเสกสักครั้งหนึ่ง เป็นการปลุกเสกเดี่ยว จากนั้นจึงนำมาแจกเสียคราวหนึ่ง จำนวนพระทั้งหมดสันนิษฐานกันว่าประมาณหนึ่งหมื่นองค์เศษ ๆ วัตถุมงคลที่ท่านสร้างนั้น แจกฟรี ไม่มีการให้เช่าบูชา

    ดีด้านไหน วัตถุมงคลที่หลวงพ่อสร้างและปลุกเสก มีประสบการณ์โจษขานในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งโดดเด่นด้านแคล้วคลาดจากภยันตรายต่าง ๆ ด้านเมตตามหานิยมก็ไม่เป็นรองใคร นอกจากนี้ยังใช้เป็นพระหมอแบบพระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ได้อีกด้วย

    ลักษณะและสีเนื้อพระ พระเนื้อผงที่หลวงพ่อแฉ่งสร้างขึ้นเป็นเนื้อประเภทปูนปั้นไม่ได้เผาไฟ ส่วนผสมหลักคือปูนขาวจากเปลือกหอยและน้ำมันตังอิ๊ว นอกนั้นก็เป็นผงวิเศษ 5 ประการ คือ ผงอิธะเจ ผงปถะมัง ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห นอกนั้นก็มีเกสรดอกไม้ที่ชื่อเป็นมงคลนาม ทรายเสก และข้าวสุก เป็นต้น กรรมวิธีใช้โขลกตำเนื้อพระและส่วนผสมตลอดจนการกรองผงมีความประณีตบรรจงมาก เนื้อละเอียดเนียนเข้ากันสนิท การผสมน้ำมันตังอิ๊วก็พอดี เนื้อพระแลดูนุ่มตาฉ่ำใส สีเหลืองเข้มกว่าสีของเนื้อพระกรุวัดคู้สลอดเล็กน้อย (กรณีไม่บรรจุกรุ) เรียกขานกันว่าเนื้อเทียนชัย เพราะสีของเนื้อพระแลดูคล้ายเทียนขี้ผึ้งสีเหลืองนั่นเอง แต่แลดูฉ่ำใส มีความซึ้งมากกว่าเทียน สามารถแลเห็นส่วนผสมภายในที่ลึกลงไปได้ด้วยแว่นขยาย

    แยกพิมพ์ทรง พระเนื้อผงที่หลวงพ่อสร้างมีกี่แบบกี่พิมพ์ไม่มีใครตอบได้ ทางวัดก็ไม่เก็บข้อมูลไว้ ส่วนใหญ่ก็รู้เท่าที่ตัวเองมีอยู่ และหนังสือลงข้อมูลกันไว้ หากจะแยกย่อยออกไปจริง ๆ น่าจะมีมากกว่า 30 พิมพ์ แม้ว่าพิมพ์หลัก ๆ จะมีอยู่ประมาณ 10 พิมพ์ แต่ในพิมพ์หลัก ๆ นั้นก็ยังแยกย่อยออกไปอีก ยกตัวอย่างเช่น พิมพ์ทรงหนุมานไม่ถือพระขรรค์ ถือพระขรรค์ข้างซ้าย ถือพระขรรค์ข้างขวา มีครอบแก้ว ไม่มีครอบแก้ว เป็นต้น แต่จะหาผู้ที่เก็บรวบรวมได้ครบจริง ๆ ยังไม่เคยเห็น ยิ่งปัจจุบันเข้าสนามว่าหาของแท้ของท่านยากแล้ว ให้แท้และสวยยิ่งยากเป็นเท่า ๆ ตัว เพราะพระของท่าน เนื้อค่อนข้างเปราะ แตกหัก ชำรุดง่าย ผู้ที่มีควรต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ


    (ปิดรายการจองแล้วครับ)

    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ย่อย ถนนสรงประภา
    เลข ที่บัญชี 248-2-09496-0 ชื่อบัญชี [/COLOR][/COLOR]ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    ธนาคาร กรุงเทพ สาขา ตลาดน้อย ออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 154-0-46507-5 ชื่อบัญชี ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    (มีให้เลือก 2 บช.ธนาคารเพื่อความสะดวกครับ ประหยัดค่าโอน)
    Tel:084-6698489
    E-mail:ya_tackled@hotmail.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ch1.jpg
      ch1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76.1 KB
      เปิดดู:
      101
    • ch2.jpg
      ch2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.9 KB
      เปิดดู:
      84
    • 203836_m45PD.jpg
      203836_m45PD.jpg
      ขนาดไฟล์:
      68.2 KB
      เปิดดู:
      220
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2015
  6. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รายการที่ 5

    รูปหล่อลอยองค์รุ่นแรก หลวงปู่บุญ วัดบ้านนา จ.ระยอง ปี 2535

    พระครูสุทธิวัตรสุนทร (บุญ สุสฺมโณ) วัดบ้านนา ต.บ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง
    พระผู้ถือสันโดษเป็นยิ่ง
    โดย...รณธรรม ธาราพันธุ์

    คนเก่าในเมืองระยองแทบสิ้นคึกเมื่อสิ้นหลวงปู่ทิม หลายคนพยายามมองหาพระเก่งเพื่อเพิ่มความคึก เล็งแลกันอยู่นานศิษย์รุ่นเก่าแก่ของหลวงปู่ทิมก็กระซิบกับผมว่า มีพระเก่งอยู่รูปหนึ่งนิสัยใจคอคล้ายกับหลวงปู่ทิม ความเก่งความชำนาญชาญเชี่ยวในเชิง ‘ฤทธิ์’ ก็ไม่น้อยไปกว่าหลวงปู่ทิมเท่าใดนัก

    ผมรีบกระซิบคืน “ใครครับ” ท่านว่า “หลวงปู่บุญ วัดบ้านนา”

    เมื่อผมไปเยี่ยมน้องสะใภ้ที่ ต.ซำฆ้อ ใน อ.แกลง ก็ได้ยินมารดาของสาวเจ้าเล่าความขลังของเกจิรูปหนึ่งให้ฟังว่า...

    มีครอบครัวคนทำสวนยางใกล้บ้านครอบครัวหนึ่ง มีลูกเป็นเด็กทารกอายุไม่กี่เดือนอยู่ด้วย แต่ก่อนร่อนชะไรเจ้าตัวเล็กก็ไม่มีปัญหา แต่หลังจากที่พ่อไปทำสวนยางใหม่กลับมาลูกน้อยก็ร้องไห้อย่างไม่มีสาเหตุ ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ก็กลุ้มจนนอนไม่หลับ

    แต่ ‘โชคดี’ ยังให้ความเอ็นดูผู้เป็นพ่ออยู่บ้าง

    วันหนึ่งของทำสวนยาง ผู้พ่อก็พบผ้ายันต์สีขาวผืนหนึ่งตกอยู่ในสวนของตน ไม่ทราบที่ไปและไม่ทราบที่มา แต่เมื่อเป็นรูปพระในฐานะที่เป็นคนพุทธก็ต้องให้ความเคารพไว้ก่อน ด้วยความไม่รู้จักมักจี่กับเจ้าของยันต์ก็เลยเอายันต์นั้นแปะไว้ที่หน้าบ้านตน

    ‘โชคดี’ ยังเป็นของเขาอยู่อีก

    เพราะนับจากวันที่ยันต์ปริศนามาอยู่ร่วมชายคา หนูน้อยเสียงดีก็เป็นอันหยุดร้องสนิทราวกับปิดสวิทซ์เครื่องเทป ยังความปลาบปลื้มยินดีให้พ่อแม่เป็นอันมาก

    แต่ ‘โชคร้าย’ ก็ใช่ว่าจะหนีไปไกล

    เมื่อวันหนึ่งของทำสวนยาง ผู้แม่ก็ล้มพับลงไปท่ามกลางป่ายาง ครั้นใครหลายคนจะเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหล่อนก็กลับลุกพรวดพราดทำตาขวาง พลางลุกขึ้นกรีดร้องเผ่นโผนออกจากสวนอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย หมู่พวกจึงพากันทิ้งงานกวดตามหลังอย่างตระหนกตกใจ

    พอเจ้าหล่อนห้อตะบึงมาถึงบ้านก็ทำท่าจะวิ่งตรงเข้าประตูไป และก่อนที่จะเป็นดังนั้น ความอัศจรรย์ก็พลันเกิด เมื่อเธอหยุดกึก พลางจับจ้องไปที่ผ้าผืนน้อยสีขาวหน้าบ้านชนิดตาไม่กระพริบ แล้วทรุดฮวบลงกับพื้นพลางร้องไห้คร่ำครวญเหมือนจะขาดใจ

    หมู่พวกที่ตามมาถึงก็พากันระส่ำระสายจะเข้าช่วยก็ไม่กล้า เพราะดูท่าแล้วมันไม่ใช่เรื่อง ‘ธรรมดา’ พอผู้เป็นสามีเข้าไปจับเนื้อต้องตัวเพื่อสอบถามเรื่องราว เจ้าหล่อนกลับสวนมาว่า

    “ฉันไม่ใช่เมียแก”

    เอาละสิ อยู่กันจนมีลูก จู่ ๆ มาบอกไม่ใช่เมีย ถึงตอนนี้ชาวบ้านชาวช่องก็พากันมารุมล้อมประสา ‘ไทยมุง’ คนเฒ่าคนแก่พากันซุบซิบให้ความเห็น

    “ผีเข้าแหง ๆ”

    หลายคนแสดงตนเป็นผู้รู้ คอยปลอบประโลมจนคนผีเข้าคลายทุกข์โศกลงบ้าง คนผีสิงก็ปริปากว่าตนชื่อ ลำดวน (นามสมมุติ) ถูกฆ่าตายแล้วฝังเอาไว้ในป่ายาง ทุกข์ทรมานมากทั้งมืดทั้งหนาว คิดถึงลูกมากแต่ไปหาไม่ได้ เพราะตนถูกผู้ฆ่าเอากระโหลกไปให้คนมีวิชาทำพิธีสะกดวิญญาณ แล้วไปฝังในสวนยางจึงไปไหนไม่ได้ พอได้ยินเสียงเด็กเลยคิดถึงลูก จึงมาที่บ้านทุกวันเพื่อมาเล่นด้วย แต่ตอนนี้รักเด็กคนนี้มากจึงอยากเอาไปอยู่ด้วย ได้ยินอย่างนี้ผู้เป็นพ่อก็สะดุ้งตากลับ แล้วก็ใจชื้นขึ้นเป็นกอง เมื่อเมียรักชี้ไปที่ผ้าสีขาวแล้วเอ่ยว่า แต่ตอนนี้เข้าไปหาเด็กไม่ได้แล้วเพราะกลัวผ้ายันต์นี้มาก คนทำเก่ง ร้อนมาก สู้ไม่ได้ พอเห็นแม่เด็กเดินมาใกล้ ๆ จึงเข้าทับเพื่อมาหาเด็กเข้าใจว่าจะเข้าบ้านได้ แต่ก็เข้าไม่ได้อีก คิดถึงลูกเหลือเกิน

    จากนั้นคนผีเข้าก็ร้องไห้คร่ำครวญต่อไปอีก เป็นที่เวทนานัก ชาวบ้านจึงถามชื่อแซ่ เธอก็บอกเล่าให้ฟังหมด ถามถึงฆาตกรเธอก็เล่าด้วยความแค้นเคืองได้ความว่า คนฆ่าคือสามีของตัวเองที่เกิดไปมีเมียน้อยแต่ไม่รู้จะหนีไปอย่างไร จึงเอาจอบตีเมียตอนทำครัวจนสลบ ผัวเข้าใจว่าตายแล้วจึงเอายางรถยนต์เก่ามาซ้อน จับตนขึ้นนั่งแล้วเผาทั้งเป็นที่หลังบ้านของตัวเอง แล้วผัวตัวแสบก็ไปแจ้งความทำทีว่าถูกโจรปล้นแล้วฆาตกรรมภรรยา ปรากฏว่าแผนสำเร็จด้วยดีสามีใจโหดเลยรอดตัว ได้ขายสวนยางและบ้านช่องให้คนอื่น ก่อนที่จะหอบผ้าผ่อนไปอยู่กับเมียที่ต่างตำบล

    ทุกคนได้ฟังก็ต่างสงสาร รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะช่วยเหลือทุกทางจนวิญญาณแค้นพอใจแล้วออกจากร่างไป สิ่งที่ตามมาคือการทำบุญงานใหญ่อุทิศให้ผี และการตามสืบเรื่องผ้ายันต์จนได้ความว่าเป็นของ หลวงปู่บุญ วัดบ้านนา
    ทุกบ้านเลยเป็นอันมีผ้าขาวผืนน้อยติดกันพรึ่บไปหมด

    ผมเห็นว่าเรื่องนี้แปลกดีเลยนำมาเล่าสู่กันฟัง ผมเองก็ได้ไปดูใกล้ ๆ กับที่เกิดเหตุ พบว่าเปล่าเปลี่ยววังเวกดีพิลึก ก็น่าหรอกที่ผีจะดุ

    ใช่ว่าหลวงปู่จะเก่งกล้าสามารถในเรื่องผีอย่างเดียวเมื่อไร ยิงไม่เข้า ฟันไม่เข้า ก็ประจักษ์กันมามากต่อมาก ขนาดฟันกันฉับ ๆ หน้าศาลาวัดบ้านนาก็มี แต่ไม่มีใครได้เลือดใคร เพราะมีพระหลวงปู่กันทุกคน

    พูดถึงความสันโดษอันเป็นเอกลักษณ์ของหลวงปู่นั้น ผมขอยกนิ้วให้เลย ท่านสันโดษจริง ๆ ไปไหนมาไหนไม่ต้องประคองทั้งที่มีอายุถึง 93 ปีแล้ว ผมพบท่านครั้งแรกท่านก็ลุกหนีเลย สาเหตุเพราะผมมาผิดเวลา บอกกันก่อนเลยว่าท่านจะรับแขกตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึงเที่ยง ขณะรอท่านถ้าเป็นเวลาฉันห้ามชวนคุย เวลาลุกอย่าเข้าไปประคอง เพื่อนผมเคยหวังดีตั้งท่าเข้าไปหา ท่านว่า

    “ไม่ต้องก็ได้มั้ง”

    เพื่อนผมเลยจ๋อยไป ท่านไม่ใคร่ให้ความสนิทใคร ไม่เอาใจใคร เป็นตัวของตัวเองที่สุด

    หลังเที่ยงท่านจะเข้ากุฏิเงียบ หรือไม่ก็เอนหลังลงแถว ๆ หน้ากุฏิท่าน แต่อย่าเข้าไปคุยเชียวหนา นอกจากท่านจะเป็นฝ่ายทักก่อน หรือรอจนกว่าจะ 4 โมงเย็นอันเป็นเวลารับแขกไปเรื่อยสิ้นสุดที่ 5 โมงเย็น หากพรวดพราดเข้าไปพูดคุยอาจเป็นเหตุให้มี ‘ฟ้าผ่า’ แบบไม่มี ‘เค้าฝน’ ก็เป็นได้ ด้วยท่านถือเรื่อง กาละ และ เทศะ

    ท่านชอบทดสอบคนโดยให้เหตุผลว่า ถ้าเขาต้องการพบเราจริง เขาต้องรอได้ แต่เราเองกว่าจะมาถึงทุกวันนี้เราก็ต้องใช้ความอดทน ถ้าแค่นี้ทนไม่ได้จะไปทำอะไร

    บางคน ท่านเดินผ่านหน้าไป-ผ่านหน้ามาถึงครึ่งชั่วโมง ท่านก็ยังไม่ทัก แต่คนนั้นมาบ่อยรู้แกวท่านจึงนั่งเฉย ๆไม่ทักท่านก่อน สักพักท่านก็นั่งลงแล้วเอื้อนเอ่ย “มีธุระอะไรหรือ” แต่ถ้าใครคนนั้นหมดความอดทนถามท่านก่อนที่ท่านจะเป็นฝ่ายถาม การสนทนาวันนั้นเป็นอันจบ

    นี่คือพระที่ไม่ประจบโยม

    ครั้งหนึ่งที่ท่านอาพาธด้วยโรคเกี่ยวกับหลัง ผมจึงเอาน้ำมันเลียงผาไปถวายท่านกับคุณสุมิทธิ์ ติสโส ขณะที่ท่านนอนตะแคงซ้ายคุยกับผมอยู่นั้น คุณสุมิทธิ์ก็เกิดความสงสารท่านจับใจคิดขึ้นมาว่า “เออหนอ...หลวงปู่ตั้ง 90 กว่ายังต้องมาเจ็บมาทรมาน ถ้าผมแบ่งความเจ็บมาจากหลวงปู่ได้บ้างสักครึ่ง ผมก็จะทำ” เมื่อจบห้วงความคิดนั้น หลวงปู่ก็พูดลอย ๆ ขึ้นว่า

    “ความเจ็บป่วยเป็นของเฉพาะตัว ใครจะมาช่วยแบ่งเบาก็เป็นไปไม่ได้ นอกจากเจ้าของจะช่วยเหลือตัวเอง”

    คนงงคือผม เพราะผมกำลังคุยกับท่านเรื่องถนนไปบางแสน จู่ ๆ ท่านก็ปรารภเรื่องอะไรไม่รู้ งง!! แต่คนที่ปีติคือคุณสุมิทธิ์ เพราะเขาได้ประจักษ์ชัดว่า ท่านเก่งจริง

    หรือใครว่าการรู้ความคิดคนอื่นเป็นของธรรมดา!

    บูชา 1,200 บาท ค่าจัดส่ง ครั้งละ 50 บาท
    (คุณ j999 จองแล้วครับ)

    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ย่อย ถนนสรงประภา
    เลข ที่บัญชี 248-2-09496-0 ชื่อบัญชี
    ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    ธนาคาร กรุงเทพ สาขา ตลาดน้อย ออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 154-0-46507-5 ชื่อบัญชี ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    (มีให้เลือก 2 บช.ธนาคารเพื่อความสะดวกครับ ประหยัดค่าโอน)
    Tel:084-6698489
    E-mail:ya_tackled@hotmail.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • b1.jpg
      b1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.3 KB
      เปิดดู:
      85
    • b2.jpg
      b2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.9 KB
      เปิดดู:
      77
    • b3.jpg
      b3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.9 KB
      เปิดดู:
      192
    • b4.jpg
      b4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.5 KB
      เปิดดู:
      82
    • วัดบ้านนา re1.jpg
      วัดบ้านนา re1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.2 KB
      เปิดดู:
      90
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2014
  7. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    แวะมาเยี่ยมเยียนครับท่าน :)
     
  8. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รายการที่ 6

    รูปหล่อ ลอยองค์ รุ่น ๑ หลวงปู่จันทร์ วัดป่าข่อย จ.สุโขทัย

    หนึ่งในสามเกจิ! รับนิมนต์ท่านอดีตนายกรัฐมนตรี จอมพล ป. พิบูลสงคราม ให้ขึ้นเครื่องบินโปรยทรายเสกสมัยสงครามโลก ศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่จันทร์ วัดป่าข่อย สุโขทัย พระเกจิชื่อดัง อายุ๙๑ปี(๒๕๓๗) ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อีกทั้งยังเป็นพระสหายสนิทกับ หมอพร หรือเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เมื่อปี๒๕๓๗ หลวงปู่จันทร์ ได้จัดสร้าง สุดยอดวัตถุมงคล อย่างเข้มขลังเอกอุสุดยอด เพื่อให้ศิษยานุศิษย์นำไปสักการบูชาติดตัว นั่นคือ พระรูปหล่อ รุ่นแรก หลวงปู่จันทร์ ได้จัดสร้างตามแบบฉบับพิธีกรรมโบราณกาล มีการลงอักขระแผ่นยันต์ ๑o๘ แล้วปลุกเสกก่อนเป็นปฐมฤกษ์ หลังจากนั้นจึงนำแผ่นโลหะดังกล่าวไปรีด หลอม จัดสร้างพระรูปหล่อ รุ่นแรก พระรูปหล่อรุ่นแรกนี้ หลวงปู่จันทร์ ท่านปลุกเสกเดี่ยวในค่ำคืนวันที่ ๙เดือน๙ นั่นคือวันที่๙ กันยายน ๒๕๓๗ ซึ่งหลวงปู่กล่าวว่าเป็น ฤกษ์ยามที่ดีที่สุด อีกทั้งท่านยังกล่าวอีกว่า ขณะที่ท่านปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นแรกนี้ เกิดมีเสียงดังกุกกักเหมือนพระจะกระดุกกระดิกได้ตลอดเวลา นี้คือคำกล่าวของหลวงปู่จันทร์

    http://palungjit.org/threads/ท่านใด...ู่จันทร์-วัดป่าข่อย-จ-สุโขทัยมั่งครับ.316192/

    (ปิดรายการจองแล้วครับ)

    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ย่อย ถนนสรงประภา
    เลข ที่บัญชี 248-2-09496-0 ชื่อบัญชี [/COLOR][/COLOR]ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    ธนาคาร กรุงเทพ สาขา ตลาดน้อย ออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 154-0-46507-5 ชื่อบัญชี ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    (มีให้เลือก 2 บช.ธนาคารเพื่อความสะดวกครับ ประหยัดค่าโอน)
    Tel:084-6698489
    E-mail:ya_tackled@hotmail.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • j1.jpg
      j1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.3 KB
      เปิดดู:
      97
    • j2.jpg
      j2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.5 KB
      เปิดดู:
      109
    • j3.jpg
      j3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.6 KB
      เปิดดู:
      81
    • j4.jpg
      j4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.3 KB
      เปิดดู:
      62
    • Pic_1066178_3.jpg
      Pic_1066178_3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.3 KB
      เปิดดู:
      167
    • Pic_1066178_4.jpg
      Pic_1066178_4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.6 KB
      เปิดดู:
      59
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2015
  9. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รายการที่ 7

    พระร่วง หลังรางปืน วัดชุมพลนิกายาราม อยุธยา ปี 2522

    ประวัติการสร้าง พระร่วง หลังรางปืน พระดี พิธีใหญ่ นี้ถูกจัดสร้างขึ้นเมื่อ วันที่ 9 เมษายน 2515 ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหารายได้สร้างถนนขึ้นดอยสุเทพ

    สมเด็จย่า สมเด็จพระราชินีฯ เสด็จเป็นองค์ประธาน และมีพระเกจิดัง 108 ร่วมพิธีปลุกเสก พร้อมทั้งผู้ทรงวิทยาคมฝ่ายฆราวาสด้วย อาทิเช่น

    1.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี,
    2.หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม,
    3.หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง,
    4.หลวงพ่อเกษม เขมโก,
    5.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม,
    6.อาจารย์นำ แก้วจันทร์,
    7.ลป.สิม วัดถ้ำผาปล่อง,
    8.อาจารย์ชุม ไชยคีรี (ฝ่ายฆราวาส )ฯลฯ

    ........โดยชนวนมวลสารที่นำมาจัดสร้างเป็นแผ่นยันต์ของพระเกจิดังในยุคนั้นที่ท่านจารและปลุกเสกให้ นำมาหลอมรวม หล่อขึ้นเป็นพระร่วงรางปืน และปลุกเสกโดยพระเกจิดังแห่งยุคในสมัยนั้น ซึ่งตอนนั้นท่านยังคงมีชีวิตอยู่ ในช่วงปี251กว่า หลังพิธีปลุกเสกมีการทดลองทดสอบพุทธคุณกันจริงๆ เช่น ทดลองยิงด้วยปืน ทดสอบมหาอุด ทดลองเอามีดเฉือน ทดสอบคงกระพันชาตรีตามตำรับของสำนักกุญแจไสยศาสตร์ อ.ชุม ไชยคีรี เพื่อเป็นการยืนยันถึงพุทธคุณที่มีจริงคุ้มครองได้จริง

    สำหรับพระรุ่นนี้ มี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์พระธาตุนูน กับพระธาตุจม ซึ่งเมื่อนำด้านหลังทั้งสองพิมพ์มาวางประกบกัน องค์พระธาตุจะรวมกันพอดี...

    พระชุดนี้ส่วนหนึ่งอาจารย์ชุม นำกลับมากรุงเทพ และทำพิธีปลุกเสกซ้ำอีก ก่อนแจกจ่ายแก่ลูกศิษย์ลูกหา นอกจากนี้ยังมีการขอพระชุดนี้ไปแจก และเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกซ้ำอีกหนึ่งครั้ง ณ วัดชุมพลนิกายาราม อยุธยา ในปี2522

    (ปิดรายการจองแล้วครับ)

    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ย่อย ถนนสรงประภา
    เลข ที่บัญชี 248-2-09496-0 ชื่อบัญชี [/COLOR][/COLOR]ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    ธนาคาร กรุงเทพ สาขา ตลาดน้อย ออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 154-0-46507-5 ชื่อบัญชี ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    (มีให้เลือก 2 บช.ธนาคารเพื่อความสะดวกครับ ประหยัดค่าโอน)
    Tel:084-6698489
    E-mail:ya_tackled@hotmail.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • r1.jpg
      r1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.7 KB
      เปิดดู:
      130
    • r2.jpg
      r2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.8 KB
      เปิดดู:
      111
    • r3.jpg
      r3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.8 KB
      เปิดดู:
      128
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2015
  10. beleive

    beleive เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,149
    ค่าพลัง:
    +3,409
    จองครับเดี๋ยวเที่ยงโอนให้เลยครับ
    ที่อยู่ทางPM
     
  11. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รับทราบครับ
     
  12. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รายการที่ 8

    เหรียญโชคดี หลวงปู่บุญ วัดวิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง

    เหรียญโชคดี ## เครื่องรางแห่งความโชคดี ## ทั้งด้านการเงิน หน้าที่การงาน โชคลาภ

    เหรียญที่มากด้วยประสบการณ์ ถ้าท่านทำงานมีผลงานดีแต่ไม่เข้าตาเจ้านาย อาภัพอับโชค การดำเนินชีวิตติดขัด มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับประสบการณ์กับเหรียญโชคดี ...เหรียญที่เต็มไปด้วยอักขระโบราณทั้งสองด้าน .....เครื่องรางนำโชค เพื่อการดำเนินชีวิต

    พกติดตัวหรือขึ้นคอ อาราธนา ตั้งนะโม 3 จบ ภาวนาคาถา พุทธัง อาราธนานัง ธัมมัง อาราธนานัง สังฆังอาราธณานัง พุทธังประสิทธิเม ธัมมังประสิทธิเม สังฆังประสิทธิเม

    แล้วก็นึกถึงหลวงปู่บุญครับ อธิษฐานครับ เรื่องโชค นี่บางคนช้าเร็วไม่เท่ากันแล้วแต่บุญกุศลแต่ละคนด้วยครับ เรื่องโชคไม่แน่ว่าอาจจะมาในรูปแบบไหนครับ บางคนอาจจะมาในรูปของงาน หรือบางคนอาจจะได้แบบเงินทองครับ แต่ถ้าพกไว้ตลอดจะสังเกตุว่าทำอะไรราบรื่นไม่ติดขัด เรื่องยากเป็นเรื่องง่ายครับ มีสิ่งดีๆเข้ามาเรื่อยๆ ขอเพียงมีศรัทธาด้วยครับ

    บูชา 450 บาท ค่าจัดส่ง ครั้งละ 50 บาท
    (คุณ j999 จองแล้วครับ)

    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ย่อย ถนนสรงประภา
    เลข ที่บัญชี 248-2-09496-0 ชื่อบัญชี
    ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    ธนาคาร กรุงเทพ สาขา ตลาดน้อย ออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 154-0-46507-5 ชื่อบัญชี ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    (มีให้เลือก 2 บช.ธนาคารเพื่อความสะดวกครับ ประหยัดค่าโอน)
    Tel:084-6698489
    E-mail:ya_tackled@hotmail.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • lucky1.jpg
      lucky1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.3 KB
      เปิดดู:
      132
    • lucky2.jpg
      lucky2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.6 KB
      เปิดดู:
      129
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2014
  13. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รายการที่ 9

    แหนบกะไหล่ทองลงยาลายธงชาติ หน้ากากเงิน หลวงพ่อเกษม เขมโก ปี 2538

    (ปิดรายการจองแล้วครับ)

    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ย่อย ถนนสรงประภา
    เลข ที่บัญชี 248-2-09496-0 ชื่อบัญชี [/COLOR][/COLOR]ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    ธนาคาร กรุงเทพ สาขา ตลาดน้อย ออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 154-0-46507-5 ชื่อบัญชี ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    (มีให้เลือก 2 บช.ธนาคารเพื่อความสะดวกครับ ประหยัดค่าโอน)
    Tel:084-6698489
    E-mail:ya_tackled@hotmail.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • kasem1.jpg
      kasem1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.1 KB
      เปิดดู:
      82
    • kasem2.jpg
      kasem2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.3 KB
      เปิดดู:
      76
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2014
  14. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รายการที่ 10

    พระกริ่งพุทโธจอมจักรพรรดิ วัดสัมพันธวงศ์ เนื้อทองฝาบาตร(บรรจุศิลาน้ำ แม่ชีบุญเรือน)

    พระกริ่งพุทโธจอมจักรพรรดิ วัดสัมพันธวงศ์ เนื้อทองฝาบาตร บรรจุ เส้นเกศาแก้ว ของท่านเจ้าประคุณหลวงปู่สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ สมเด็จพระราชาคณะที่พรรษากาลสูงที่สุด และ ศิลาน้ำเจ้าทรัพย์ ยอดของวิเศษของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม คำพร ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ

    หลวงปู่ สมเด็จฯ ท่านเป็นมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ ที่มีเมตตา มากล้นพ้นประมาณ ไม่มีคราวใดเลยที่เห็นท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านโกรธ หรือ ดุว่าใครเลย กิริยาส่วนใหญ่ ที่ท่านทำคือ “อุเบกขาธรรม” ท่านเมตตาต่อทุกคน แม้เมื่อ พระเล็กเณร น้อย อยู่ที่ไหน ท่าน มีธุระ ท่านจะไม่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ เรียกมาบอก เรียกมาสั่ง ก็หาไม่ ท่าน ไม่ให้ เดือด ร้อนรบกวน พระหนุ่มเณร น้อยนั้นเลย มิหนำซ้ำ ท่านจะเดินไปหา พระเด็ก เณรน้อย ถึงที่ และกิริยาที่ท่านพูด คือ “ให้ช่วยท่านหน่อยนะ” สิ่งไดๆ ที่สมเด็จ ฯ ท่านพูดท่านจะพูดว่า “ดี” เสมอ ท่านมักกล่าวว่า “ดี จ๊ะ ” “ อือ ดี” “ จ๊ะ ดี” ท่านไม่เคย ว่าดุด่าว่ากล่าว หรือ กล่าว ร้ายกับใครเลย วัตรปฏิบัติท่านเรียบง่าย บริสุทธิ์ ใช้ผ้าสามผืน นอนบนผ้าเหลือง สมถะ ดุจ สมณพุทธบุตรผู้ทระนง ใครได้กราบได้ไหว้ ได้นมัสการ ดุจกราบ พระ สุปฏิปันโน ผู้บริสุทธิ์

    มีเรื่องเล่าว่า “อือ...ดี” คำพรประกาศิต จากเซลแมนขายมอเตอร์ไซค์ เป็นเจ้าของธุรกิจ สิบล้าน

    ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านไม่เคยกล่าวร้ายใคร ไม่เคยว่าใคร ไม่เคยโกรธ ไม่มีความโมโห ท่านมักเรียบง่ายและ ไม่ยินดียินร้ายกับคำสรรเสริญ นินทา มีครั้งหนึ่ง ตอน ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ดำรง สมณศักดิ์ ที่พระธรรมบัณฑิต เซลล์แมนขายมอเตอร์ไซค์ ที่เยาวราช มากราบ ท่าน เล่าเรื่อง จะไปเปิดกิจการ ของตนเองให้ ท่านฟัง ท่านนั่งฟังเฉยจนจบ และ พูดออกมาว่า “อือ อือ ดี ดี ” จากนั้นเซลล์แมน ท่านนั้นก็ไปเปิดกิจการ ตั้งแต่วัน นั้นถึงวันนี้ เป็นเวลา 23 ปี เซลล์เเมน ธรรมดา ได้ดีสำเร็จเป็นเจ้าของกิจการ ธุรกิจ เป็นสิบล้าน จะด้วยคำพรของสมเด็จ ฯ หรือ พระเครื่องที่สมเด็จฯ ท่านให้ติดตัวตั้งแต่วันนั้นก็สุดจะเดา

    พุทธลักษณ์ พระกริ่งใหญ่ราชวงศ์ถัง
    “หน้าเจ้าสัว แปะยิ้ม อิ่มบุญ อุ่นทรัพย์ เงินล้นคลัง”

    พระกริ่งสำคัญของท่านเจ้าประคุณ หลวงปู่สมเด็จ ได้นำพระกริ่ง สมัย ราชวงศ์ถัง กริ่งเก่าโบราณ อายุกว่า 1,000 ปี เป็นต้นแบบ พระกริ่งลักษณะนี้ ตำราจีน “ ลั๊ก จั๊บ กะ จื้อ ” ท่านว่าเป็นกริ่งที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องความเป็นโภคทรัพย์ ความเป็นมหาเศรษฐี การเงินการทอง การทำมาค้าขายร่ำรวย เพราะในสมัย ราชวงศ์ถัง กษัตริย์ “ ถังไท่จง ” ได้ ส่งราชทูต ไป เจรจาค้าขายเจริญ สัมพัธไมตรี จนทำให้ ราชวงศ์นี้ เจริญรุ่งเรือง การค้าการขาย งอกงาม บริหารประเทศอย่างแข็งขันทำให้ราชวงศ์ถังเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่เคยมีมาก่อน มีคำกล่าวไว้ว่า “มี เงินล้นท้อง พระคลัง” พระกริ่งที่สร้างในสมัยราชวงศ์ถัง จึงนิยมบูชากันมาเพราะ เรียกว่า “พระกริ่งเจ้าทรัพย์ ” หรือ “พระกริ่งแห่งความเจริญรุ่งเรือง ใครได้ไว้บูชา ร่ำรวยขึ้นทันตา” ปัจจุบัน พระกริ่งราชวงศ์ถังแท้ๆ องค์ละเป็นล้าน และอยู่ในหมู่เศรษฐี หมดทุกองค์ หาชมยังยาก ครั้งนี้จึงเป็นครั้งประวัติศาสตร์ ที่ท่านเจ้าคุณโกมินทร์ ได้นำพระกริ่งราชวงศ์ถังแท้ๆ ที่เป็นของเจ้าสัวร้อยล้าน มาเป็นองค์ต้นแบบ สร้างพระกริ่ง ให้เจ้าประคุณฯ หลวงปู่ คุณสมเด็จ พระมหาวีรวงศ์ อธิฐาน จิต อธิฐานธรรม

    เกศา ใสเป็นแก้ว
    เกศา ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ที่ท่านเจ้าคุณโกมินทร์ เก็บไว้ ใส่ไว้ใน ผอบ เบญจรงค์ อย่างดี เมื่อนำออกมาดูปรากฏว่า เกศานั้น จับกันเป็นก้อน และ มีเม็ดของแข็งสีขาว เกิดขึ้นหนึ่งเม็ด แต่ที่สำคัญมากว่านั้น คือ เกศาที่ มีวรรณะสีขาว ได้ แสดงความใสสว่างให้เห็น อย่างชัดเจน ส่วน เกศาที่ อมดำ กลับ เป็นประกาย เงางาม เหมือน นิล นับเป็นเรื่องที่น่าคิดอยู่ไม่น้อย เกศา ที่ว่าทั้งหมด จะบรรจุอยู่ในองค์พระกริ่ง ฯ ทุกองค์ เพื่อเผยแพร่ ของมงคลอันประเสริฐ ให้สาธุชนได้บูชา ตาม พุทธพจน์ที่ว่า “ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ การบูชาชนที่ควรบูชาเป็นมงคลอันสูงสุด”

    ตำนาน “ศิลาน้ำ เจ้าทรัพย์ ” คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ของเก่าเก็บ กว่าครึ่งศตวรรษ ของวัดสัมพันธวงศาราม

    ย้อนไปเมื่อปี 2510 ท่านเจ้าประคุณ พระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิทฺเทสโก) พระอุปัชฌาย์ ของท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ และ เป็นอาจารย์ใหญ่ของคุณแม่บุญเรือน คุณแม่บุญเรือน ท่านถวายนามเรียกว่า “ท่านเจ้าคุณใหญ่ ” มรณภาพ ตึกบำเพ็ญบุญ (ตึกเหลือง) ที่เป็นกฏิดังเดิม ของท่านเจ้าคุณใหญ่ ได้กลายเป็นที่พำนักต่อมา ของ ท่านพระครูวิมลญาณอุดม หรือ ที่รู้จักกันดีในนาม ท่านพระครูชินเทพ ชินเทโว ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลาน ท่านเจ้าคุณใหญ่ สมบัติทั้งหมด ที่ท่านเจ้าคุณใหญ่ เก็บรักษาไว้ ได้ตกอยู่ในความดูแล ของพระครูชินเทพ จนหมดสิ้น พระสำคัญอย่างพระมงคลมหาลาภ พระพุทโธ หลวงปู่ทวด หลังยันต์ เฑาะ ยันต์เฑาะดอกบัว หลังพุทโธ พระนางพญา พระ เนื้อดิน หนังสือ สำคัญ เรื่องราวต่างๆ ได้เก็บอยู่ที่ตึกบำเพ็ญบุญแห่งนี้ รวมทั้ง พระพุทโธคลัง พระบูชาพิเศษ ศิลาน้ำจำนวนมาก ข้าวตอกพระร่วง ทรายเงินทรายทอง เบี้ยจั่น ถุงโภคทรัพย์ทุกสี หรือแม้กระทั้ง พระเก่าๆของวัดสัมพันธวงศ์ จำนวนมากจนพรรณนาไม่ได้

    เหตุที่ของเก่ามีค่าของคุณแม่ บุญเรือน ตกค้างอยู่ที่นี่มากมาย เพราะใครๆก็รู้ว่า คุณแม่ ท่านเคารพศรัทธา ในเจ้าคุณใหญ่ และ วัดสัมพันธฯ ก็เป็นวัดที่คุณแม่บำเพ็ญบารมีมาแต่เดิม ก่อนที่จะไปสร้างบ้าน สามัคคีวิสุทธิ และไปสร้างพระพุทธโธน้อยให้วัดอาวุธฯ เสียอีก ของเก่าตกค้างทั้งหมด จึงอยู่ที่วัดสัมพันธฯ นี้มากกว่าที่ไหนๆ

    กอปรกับท่านพระครูชินเทพฯ ท่านมีลักษณะที่เห็นความสำคัญกับของเก่าอย่างนี้มาก ของทั้งหมด จึงมีส่วนน้อยที่ กระเด็นไปที่อื่น ท่านไม่เอาออก และ ท่านยังเก็บรวบรวมของที่อยู่ที่อื่นกระจัดกระจายอยู่เข้าไว้ในกุฏิของท่านด้วย เมื่อคราวที่ ท่านพระครูชินเทพฯ มรณภาพลง มีการสำรวจ มงคลวัตถุต่างๆจึงมีของเก่า ปรากฏให้เราเห็นอย่างทุกวันนี้ คราวนั้นที่เปิดห้องสำรวจพบ “ศิลาน้ำ” ของเก่าที่คุณแม่บุญเรือนอธิฐานธรรมไว้ ก่อนปี 2499 ซึ่งคาดว่า คุณแม่ได้นำเข้า พิธีพุทธาภิเษกครั้งแรก ที่วัดสัมพันธวงศ์ และ พิธี โสฬสมหาพรหม ที่วัดสารนาถธรรมาราม ระยอง ทำพิธีถึง 18 วัน 18 คืน ด้วยพระสายระยอง (มีหลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง, หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เป็นอาทิ) พร้อมสายกรรมฐาน ศิษย์พระอาจารย์มั่นอีก 100 กว่าองค์ นำทีมโดยพระอาจารย์สิงห์ ขันตยคโม,หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, ท่านพ่อลี ธัมมธโร และ ยอดพระเกจิจากส่วนกลาง ที่เป็น "อริยะ" มีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี,หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เป็นต้น

    ตอนพบศิลาน้ำครั้งแรก ท่านใส่ไว้ในห่อผ้าขาว เนื้อเดียวกับ ผ้าที่ทำ “ถุงขาวเจ้าทรัพย์”แต่ด้วยการเวลาที่ยาวนาน ชั่วอายุคน ทำให้ ผ้าขาวนี้ผุขาดไป ท่านเจ้าคุณพระราชสารเวที(ท่านเจ้าคุณโกมินทร์) ยังนำผ้าขาวเจ้าทรัพย์นี้ มาผสมสร้างพระไพรีพินาศให้ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯแจกไปเมื่อปี 2540 ส่วนศิลาน้ำ ทั้งหมด ท่านเจ้าคุณโกมินทร์เก็บไว้ พร้อม มงคลวัตถุหลายอย่างของคุณแม่บุญเรือน แม้แต่ ลายเซ็นที่คุณแม่ท่านเขียนเอกสารถวาย ท่านเจ้าคุณใหญ่ ท่านเจ้าคุณโกมินทร์ก็เก็บไว้ ด้วย (มีเซียนท่าพระจันทร์ ขอบูชา ลายมือคุณแม่แผ่นละเรือนแสน แต่ท่านเจ้าคุณโกมินทร์ไม่ไห้ เพราะเป็นสมบัติเก่าของวัดฯ)

    ตอนแรก เจ้าคุณโกมินทร์ได้แจกศิลาน้ำ นี้ไปบ้างกับคนที่รู้ค่า เกิดปาฏิหาริย์มากมาย ทั้งการเงินการงาน เจริญก้าวหน้า สำเร็จทุกอย่าง อย่าได้อธิฐานอะไรเลย เป็นสำเร็จหมด ขนาดปัญหา แบบพลิกชีวิต สำคัญขนาดคอขาดบาดตาย อธิฐานต่อศิลาน้ำนี้ ก็สำเร็จ ผ่านมาได้ด้วยดี ยิ่ง เรื่องการเงินโชคลาภ ศิลาน้ำนี้ แสดงอานุภาพมานับไม่ถ้วน ท่านเจ้าคุณโกมินทร์ นำศิลาน้ำ นี้ บรรจุในล็อคเก็ต รุ่นแรกของ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ฉลองอายุ ๙๒ ปี ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่ง ท่านได้ นำมาบด บรรจุอยู่ในองค์ “พระกริ่งพุทโธจอมจักรพรรดิ” นี้แห่งเดียวเท่านั้น

    นี่แหละ ตำนาน “ตำนาน “ศิลาน้ำ เจ้าทรัพย์ ” คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ยอดของมงคลยิ่งสูงค่ายิ่งกว่าทองคำ สุกสว่างยิ่งกว่าเพชร

    จำนวนจัดสร้าง

    พระกริ่ง พุทโธ จอมจักรพรรดิ บรรจุ “ศิลาน้ำ เจ้าทรัพย์ ” และ เกศา แก้ว สมเด็จฯ

    - เนื้อเงิน ปิดฝากริ่ง ทองคำ สร้าง 593 องค์
    - เนื้อเงิน ปิดฝากริ่ง เงิน สร้าง 993 องค์
    - เนื้อนวะ ปิดฝากริ่ง นวะ สร้าง 2,993 องค์
    - เนื้อฝาบาตร ปิดฝากริ่ง ฝาบาตร สร้าง 3,993 องค์

    ก้นฝากริ่ง “พุทโธจอมจักรพรรดิ” ขนาด ๙ มิล เป็นตราวัดสัมพันธวงศาราม แสดงสัญลักษณ์ มหามงคล

    บูชา 800 บาท ค่าจัดส่ง ครั้งละ 50 บาท
    (คุณ j999 จองแล้วครับ)

    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ย่อย ถนนสรงประภา
    เลข ที่บัญชี 248-2-09496-0 ชื่อบัญชี
    ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    ธนาคาร กรุงเทพ สาขา ตลาดน้อย ออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 154-0-46507-5 ชื่อบัญชี ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    (มีให้เลือก 2 บช.ธนาคารเพื่อความสะดวกครับ ประหยัดค่าโอน)
    Tel:084-6698489
    E-mail:ya_tackled@hotmail.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pt1.jpg
      pt1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.7 KB
      เปิดดู:
      99
    • pt2.jpg
      pt2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.9 KB
      เปิดดู:
      93
    • pt3.jpg
      pt3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.3 KB
      เปิดดู:
      123
    • pt4.jpg
      pt4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.9 KB
      เปิดดู:
      101
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2014
  15. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รายการที่ 11

    เหรียญไหว้ข้าง พ่อท่านคล้าย วันสวนขันธ์ จ.นครศรีธรรมราช ปี 2500

    บูชา 1,800 บาท ค่าจัดส่ง ครั้งละ 50 บาท

    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ย่อย ถนนสรงประภา
    เลข ที่บัญชี 248-2-09496-0 ชื่อบัญชี
    ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    ธนาคาร กรุงเทพ สาขา ตลาดน้อย ออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 154-0-46507-5 ชื่อบัญชี ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    (มีให้เลือก 2 บช.ธนาคารเพื่อความสะดวกครับ ประหยัดค่าโอน)
    Tel:084-6698489
    E-mail:ya_tackled@hotmail.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • clay1.jpg
      clay1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.4 KB
      เปิดดู:
      151
    • clay2.jpg
      clay2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.8 KB
      เปิดดู:
      116
  16. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,983
    ค่าพลัง:
    +5,390
    ขอจองครับ---------------------------
     
  17. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,983
    ค่าพลัง:
    +5,390
    ขอจองครับ----------------------
     
  18. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับ
     
  19. beleive

    beleive เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,149
    ค่าพลัง:
    +3,409
    โอนให้แล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • photo(5).jpg
      photo(5).jpg
      ขนาดไฟล์:
      538 KB
      เปิดดู:
      71
  20. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รายการที่ 12

    พระเจ้าห้าพระองค์ เนื้อดิน หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา กรุงเทพ
    พระเจ้าห้าพระองค์ หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา (วัดลาดบัวขาว)

    ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่ายุคก่อนสงครามโลก ท่านมีวิชาอาคมแก่กล้า โดยเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ภูวัดเงิน ตลิ่งชันและพระอาจารย์แสงวัดมณีชลขันธ์ ลพบุรี (ผู้เป็นอาจารย์ของสมเด็จพุทธาจารย์ โต)นอกจากนั้นท่านยังได้มีโอกาสศึกษาวิชาเพิ่มเติมกับสมเด็จฯ (โต) โดยตรงอีกด้วย

    ส่วน เกจิอาจารย์ที่คุ้นเคยไปมาหาสู่กัน เช่น หลวงปู่ปั้นวัดเงิน ตลิ่งชัน หลวงพ่อปานวัดบางเหี้..ย สมุทรปราการ หลวงปู่ศุขวัดมะขามเฒ่า ชัยนาท หลวงปู่ภูวัดอินทร์ กรุงเทพฯ และท่านเจ้ามาวัดสามปลื้ม กรุงเทพฯ
    สำหรับลูกศิษย์ของท่านก็มี อาธิ

    หลวงปู่เผือกวัดกิ่งแก้ว สมุทรปราการ
    หลวงปู่เหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา,
    หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา,
    หลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม,
    หลวงปู่จาด วัดบางกะเบา ปราจีนบุรี,
    หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ,
    หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขันธ์ นครศรีธรรมราช,
    หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพระองค์ สมุทรสาคร,
    หลวงพ่ออี๋ สัตาห..ีบ
    หลวงพ่อเพชรวัดสามปลื้ม กรุงเทพฯ
    และศิษย์ที่เป็นฆราวาส เช่น อาจารย์แก้ว คำวิบูลย์ อาจารย์แถว และอาจารย์เจ็ก

    ในสมัยก่อนหลวงปู่ทอง ท่านเป็นพระที่มีอาวุโสสูงและทรงไว้ซึ่งวิทยาคมแก่กล้า
    ดังนั้นไม่ว่าใครก็ล้วนมาขอเรียนวิชาต่างๆจากท่าน หลวงปู่ทองมีอายุยืนยาวถึง 117 ปี มรณภาพด้วยโรคชราเมื่อปี 2480
    ท่านได้สร้างพระเครื่องไว้มากมายหลายรุ่นหลายพิมพ์มีทั้ง พิมพ์สมเด็จยันต์ข้าง พิมพ์ปิดตายันต์ข้าง พิมพ์แม่ธรณีบีบมวยผมยันต์ข้าง พิมพ์ปิดตาหลังยันต์อุเนื้อเมฆพัด เป็นต้น ส่วนเนื้อหาก็มีทั้ง เนื้อดิน เนื้อผง ดินผสมผง และเมฆพัด พระเครื่องของท่านมีพุทธคุณสูงทางด้านเมตตาแคล้วคลาด
    และคงกระพัน ขนาดที่ว่าพี่น้องชาวมุสลิมที่อาศัยบริเวณใกล้เคียงวัดยังให้ความเคารพนับถือท่านอย่างสูงยิ่ง

    พระเครื่องวัตถุมงคลต่างๆ หลวงปู่ทองสร้างไว้พอสมควร แต่ปัจจุบันไม่ค่อยได้เห็นกันเพราะหายากมาก
    คนรุ่นนั้นต่างเก็บไว้ใช้กันหมด ที่เราพอจะได้เห็นกันบ้างก็คือ สมเด็จเขียวเหนียวจริง หรือพระสมเด็จกรุบึงพระยาสุเรนทร์ ซึ่งท่านสร้างและปลุกเสกให้
    แม้แต่ตอนสงครามอินโดจีน พระยาพหลพลพยุหเสนา อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ยังได้นิมนต์ท่านขึ้นเครื่องบิน ไปโปรยทรายเสก รอบวัดพระแก้ว และสนามหลวง รวมทั้งบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้คุ้มครอง มิให้เป็นอันตรายจากระเบิดของข้าศึก และยังได้ขอร้องให้ท่านสร้างเสื้อยันต์เพื่อแจกทหารไปใช้ในสงคราม ซึ่งเสื้อยันต์นี้มีกิตติศัพท์เลื่องลือกันมาก ว่าแคล้วคลาดยิงไม่ถูกหรือโดนยิงแล้วไม่เป็นอะไร บางคนโดนยิงล้มลง ก็ยังลุกขึ้นมาสู้ใหม่ได้ จนได้รับฉายาว่า ทหารไทยเป็น "ทหารผี" ตอนนั้นเสื้อยันต์ที่ท่านสร้าง จะจารเขียนด้วยดินสอดำ
    ท่านเองทำให้ไม่ทัน จึงได้ขอให้พระอาจารย์อีก 5 ท่านมาร่วมสร้างด้วย คือ
    1.หลวงปู่แช่ม วัดตาก้อง นครปฐม,
    2.หลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม,
    3.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา,
    4.หลวงปู่จาด วัดบางกะเบา ปราจีนบุรี,
    5.หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว สมุทรปราการ

    หลวงปู่ทองท่านเป็นพระที่ความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง ท่านมีอภิญญาปาฏิหาริย์มากมาย แม้แต่คนจะถ่ายรูปท่าน ก็ยังถ่ายไม่ติด ทำให้ปัจจุบันไม่ค่อยมีรูปท่านให้เห็นกัน จะมีที่เห็นก็เพียงรูปเดียวก็คือ รูปที่บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายร่วมกันไปอ้อนวอนขอถ่ายรูปท่าน ซึ่งเป็นรูปที่ท่านกำลังลงจากกุฏิไปฉันเพลเท่านั้น

    จากคอลัมน์ มุมพระเก่า สรพล โศภิตกุล

    "........วัดลาดบัวขาว หรือที่เราเรียกกันอย่างคุ้นเคยว่าวัดราชโยธา กรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ในแวดวงของหมู่แขกมีบ้านแขกเรียงรายล้อมรอบอยู่ทั่วไปในบริเวณ ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าขานกันว่า ในอดีตสมัยที่หลวงปู่ทองเป็นเจ้าอาวาส หลวงปู่ทองได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์
    สร้างความดีจนบรรดาพวกแขกนับถือหลวงปู่ทองเป็นจำนวนมาก กล่าวได้ทีเดียวว่าสมัยหลวงปู่ทองเป็นเจ้าอาวาสวัดราชโยธาพวกแขกในย่านนั้นแทบทุกบ้านต่างก็พากันนับถือหลวงปู่ทอง

    เรื่องเล่าถึง "ปาฏิหาริย์" หลวงปู่ทองเรื่องหนึ่ง เล่าสืบกันมาว่ามีแขกคนหนึ่งเข้าไปตกปลาในวัด ด้วยปลาที่หน้าวัดและที่ในสระนั้นชุกชุมนัก แต่แขกคนดังกล่าวตกปลาตลอดทั้งคืนก็หาได้ปลาไม่ แม้บางครั้งเหมือนจะมีปลามาติด แต่พอวัดขึ้นมากลายเป็นใบไม้ บางครั้งก็ฮุบเหยื่อเหนี่ยวไปเหนี่ยวมา พอวัดจวนจะพ้นน้ำดิ้นไปมาจนน้ำกระจาย แต่พอพ้นน้ำขึ้นมากลับกลายเป็นใบไม้ไปเสียนี่

    ครั้งสุดท้ายคล้ายปลาจะกินเบ็ดจริงๆ แต่วัดเท่าไรก็วัดไม่ขึ้น มันกลับลากเบ็ดไปๆ มาๆ อยู่ในน้ำ ใจก็คาดคิดว่าจะเป็นปลาตัวใหญ่ ด้วยบางทีลากเสียปลายคันเบ็ดจมลงน้ำไป บางคราวก็ฉุดลากจนตัวแกเกือบคะมำลงน้ำ สุดท้ายเมื่อลากพ้นน้ำขึ้นมาได้กลับกลายเป็นหัวกะโหลก แขกคนนั้นตกใจจนนอนซมจับไข้อยู่หลายวัน เข็ดไม่กล้ามาตกปลาแถวนั้นอีก

    ***** ตัวจริงของจริง แรงแทบจะทุกด้าน ลองพิจาณาดูครับ *****

    (ปิดรายการครับ)
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ย่อย ถนนสรงประภา
    เลข ที่บัญชี 248-2-09496-0 ชื่อบัญชี [/COLOR][/COLOR]ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    ธนาคาร กรุงเทพ สาขา ตลาดน้อย ออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 154-0-46507-5 ชื่อบัญชี ชยพล วรพงศ์ธนกฤต

    (มีให้เลือก 2 บช.ธนาคารเพื่อความสะดวกครับ ประหยัดค่าโอน)
    Tel:084-6698489
    E-mail:ya_tackled@hotmail.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • th1.jpg
      th1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.6 KB
      เปิดดู:
      115
    • th2.jpg
      th2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.3 KB
      เปิดดู:
      114
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...