คุยเรื่องสมาธิกันครับ

เดาบ้าง ถูกบ้างผิดบ้าง เรื่องมันนานแล้วครับ >_<

 

คุณ bosslnwskr10 ครับตอนนี้ยังพอได้ไหมครับ ถ้าได้ ก็ทำประโยชน์ได้อีกเยอะนะครับ แล้วปฏิบัติอย่างไรครับ แชร์ได้ไหมครับ เผื่อสมาชิกท่านอื่นอยากอ่าน ขอบคุณครับ

 

ทำยังไงได้อย่างนั้นครับ ^^


ที่จริงตั้งกระทู้เพราะอยากฟังมากกว่าอยากพูดนะครับ >_<
เพราะโดนคนด่ามาว่าอีโก้สูง ไม่ฟังคนอื่น

 

หากเราเข้าใจตนเอง วันนั้นก็จะเข้าใจคนอื่นเองล่ะครับ ^^

 

คุณ bosslnwskr10 ครับ มีสติรู้ตัวนั่นล่ะครับ ดีที่สุดครับ

 

ใช่เลยครับ คุณ bosslnwskr10 ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติของขันธ์5 ของเรา เราก็จะเข้าใจ ขันธ์5 ของคนอื่นด้วย ถ้าเรารู้ใจตัวเอง เราก็รู้ใจคนอื่นด้วย เพราะความต้องการของมนุษย์ทุกรูปนาม ไม่ต่างกันครับ รู้เรา ก็รู้ทั่วจักวาลครับ

 

กำลังสนใจเรื่องสมาธิหรือสนใจเรื่องอนิสงค์ของสมาธิล่ะครับ

 

http://palungjit.org/threads/%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%AD%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C.529885/?langid=2 ไม่ทราบว่าตอบตรงคำถามใหมนะครับ พยายามตอบ เรื่องของสมาธิ ให้ออกมาเป้นวิทยาศาสตร์ ความรู้ผมมันประมาณนี้ น่ะครับ

 

เหมือนจะเคยไปเขียนเป็นเชิงวิทยาศาสตร์ไว้
ในกระทู้ข้างบนครับ คือถ้าเรามาเขียนว่ากิริยาอย่างนั้น
อย่างนี้คือระดับสมาธินั่น สมาธินี้บางทีเราอาจจะมองไม่เห็นภาพ
และถ้าลองอ่านการแบ่ง
ช่วงความถี่ที่เคยเขียนไว้ ซึ่งได้มีผลการทดลอง
มาแล้วอาจคลาดเคลื่อนได้บ้างแต่คงไม่มาก
ถ้าอยากทราบรายละเอียดลองไปค้นอากู๋กูเกิลต่อได้.
แล้วเข้าใจได้ และมาเทียบกับการปฏิบัติ
จะพอคาดเดาการไต่ระดับฌาน
และลักษณะกิริยาทางจิตที่เกิดได้.
ส่วนมากคนปฏิบัติมักจะเผลอคิดว่าช่วงความถี่
๓ ถึง ๗ Hz เป็นการไต่ระดับฌาน
บางทีส่วนตัวก็มีจำช่วงนี้สับสนเป็นช่วงคลื่น
ตอนเริ่มต้นนั่งบ้างต้องขออภัยเพราะความถี่ช่วงนี้
มันยังสามารถปรุงแต่งได้ค่อนข้างพิศดาร.
ทางปฏิบัติเรียกช่วงอุปจารสมาธิ.และบางคนที่ชำนาญ
จะยังสามารถฝึกใช้กำลังจิตช่วงนี้ได้ เพราะว่าจิตมันจะมี
ความเป็นทิพย์(ย้ำว่าฝึกใช้ไม่ใช่ฝึกสร้างนะครับ)
ใครที่นิยมถอดจิตแผนกท่องเที่ยวเชิงนันทการทั้งหลาย
หรือทำอะไรต่างๆ ไม่ว่าจะเห็นโน้นเห็นนี้ ได้ยินโน้น ได้ยินนี้
ช่วงนี้หลังจากออกจากสมาธิมาแล้ว
จึงพบว่าจิตเราไม่มีกำลังจิตเพิ่มขึ้นจะมีเพียงแต่ความ
ชำนาญเพราะว่ามันได้แค่ระดับการฝึกใช้นั่นหละครับ.
ส่วนคลื่นความถี่สมองระดับ ๑ ถึง ๓ ส่วนมากจะหลับ
หรือเป็นคลื่นสมองปกติทั่วๆไปเวลาเรานอนหลับ.
ตามตำราว่าเป็นระดับปฐมฌาน..และ.
ถ้าในขณะที่เรากำลังฝึกสมาธิไป.
แล้วไม่รู้ตัวว่าตัวเองหลับ
จริงๆคือคลื่นมันลงมาที่ระดับ ๑ ถึง ๓ Hzแบบไม่รู้ตัว
บ้างคนเรียกสัปหงก..แล้วเผลอลืมตาทันที
(คือถ้าไม่ลืมตากับค่อยๆยกร่างกายขึ้น
จะยังรักษาความถี่ได้)จะทำให้ย้อนกลับไปช่วง ๗ ถึง ๑๑
บางคนตกใจจะขึ้นไปถึง ๓๐ Hz ขึ้นไปเป็นเหตุให้ไม่มีสมาธิ
และเลิกนั่งไปเลย..
ถ้าจะวัดเทียบสมาธิระดับสูงแล้วต้องดูคลื่นความถี่สมองที่
อยู่ระหว่าง ๐ ถึง ๑ Hz มันถึงจะเป็นระดับของคลื่นความถี่
ที่ขยายสัญญาคือแตกกิ่งก้านสาขาออกไปเชื่อมได้ทุกสัญญา
ที่ฝรั่งเค้าทดลองมาแล้วเห็นนะครับเห็นเป็นคลื่นความถี่ขยายนะครับ..
.ส่วนทางปฏิบัติเรียกง่ายๆว่าการเกิดเครื่องรู้พิเศษต่างๆนั่นหละครับ
รวมทั้งมีผลต่อกำลังของจิตของผู้ฝึกด้วย
ที่พยายามเขียนบอกทั้งในเชิงวิทยาศาสตร์และเชิงปฏิบัติ
ส่วนหนึ่งก็เพื่อที่จะเป็นข้อคิดสกิดใจว่า ถ้าเรายังไม่เกิดเครื่องรู้พิเศษ
ตลอดจนกระทั่งเกิดความสามารถทางจิตบางอย่างซึ่งจะได้มากจาก
คลื่นช่วงความถี่ต่ำ ๐ ถึง ๑ Hz นั้น ให้พึงระวังให้ดีๆครับ
ว่าคลื่นความถี่ของจิตเราอาจจะยังคงวนเวียนอยู่
ที่ระดับ ๓ ถึง ๗ Hz ซึ่งสามารถปรุงแต่งได้พิศดาร
ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริงได้อยู่นั่นเองครับ
เขียนเทียบเคียงแบบนี้หวังว่าจะมีประโยชน์
และให้ข้อคิดได้บ้างนะครับ.ส่วนตัวก็สังเกตุ
จากเครื่องรู้พิเศษต่างๆกับกำลังจิตว่ามันมีเกิดขึ้นไหมนี่หละครับ
ครูบาร์อาจารย์ท่านต่างๆหรือบุคคลที่เก่งๆเค้าใช้คำว่าวิปัสสนา
ในระดับสมาธิกำลังสูง..สังเกตุได้ว่ากำลังจิตและเครื่องรู้ท่าน
จะไม่เสื่อมด้วยในเวลาลืมตาปกติ.เพราะมีผลต่อการ
ขยายสัญญาทำให้เกิดเครื่องรู้ต่างๆ(วิปัสสนา)และได้กำลังจิต
ถึงจะชัวว่าสมาธิตัวเราเองเข้าถึงในระดับสมาธิสูงได้จริงๆ .
เพราะถ้าเราไม่ทันและไม่เข้าใจจริงๆ ไม่ว่าจะเหตุอะไรก็ตามนะครับ
อาจจะทำให้เข้าใจตัวเองคลาดเคลื่อนได้ครับ..
ปล.แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังครับ..

 

พยายามอ่านจนจับใจความได้
คือที่กล่าวมานั้น ได้ข้อสรุปว่า การใช้ความคิด
ก็ใช้คลื่นความถี่เดี่ยวกับพวก สัญญาณใช่ใหมครับ
เข้าใจถูกใหมครับ

 

๓ ถึง ๗ Hz เป็นการไต่ระดับฌาน
๑ ถึง ๓ Hzแบบไม่รู้ตัว บ้างคนเรียกสัปหงก..แล้วเผลอลืมตาทันที
๗ ถึง ๑๑ Hz - ๓๐ Hzไม่มีสมาธิ (คือแย่ใช่ใหมครับ)
๐ ถึง ๑ Hz (อันนี้คือสมาธิสูงมากใช่ใหมครัข)
๓ ถึง ๗ Hz (พวกนี้โดนปรุงแต่งง่าย คือว่ามีโอกาศเพ้อแลพหลุด)

ผมไม่ทราบว่าจริงแท้แค่ใหน แต่จากที่อ่านก็เท่ากับว่า
ถ้าคนได้30 Hz นี้คือ พวกไม่มีสมาธิ
0 Hz นี้คือสมาธิสูงสุด
งั้นก็ค่า Hz ยิ่งสูง ยิ่งหมายถึงความฟุ้งซ้าน คือยิ่งนิ่งยิ่งไร้ความคิด
แต่หากทำมากลางๆ จะพบเจอ ภาพหลอน ทำให้ฟุ้งซ่าน

แล้วต้องให้สู้0 คือความว่างเปล่า จะถือว่า เป็นระดับ สูงสุด ประมาณนั้นใช่ใหมครับ
ระดับนี้ถ้าใช้คำว่าหยุดความคิดจะถูกใหมครับ

ให้ได้ 0 Hz แต่ไม่ได้หลับ ..... (;3)L)\_

 

รู้สึกผมจะเคยโพสว่า
คนเรามันก็ไม่ต่างจาก เครื่องใช้ไฟฟ้า
ตรงที่เราก็ยังมีการใช้ไฟฟ้าในการขยับร่างกายหรือความคิด

 

ปล.คลื่นความถี่จะค่อยๆลดต่ำลงมาครับในขณะที่ฌานจะไต่ระดับขึ้น
ฌานที่สูงตามคลื่นความถี่สมองที่ค่อยๆลดต่ำลง
ไม่ทราบว่าที่เขียนมาพอจะเข้าใจเพิ่่มมากขึ้นไหมครับ..

 

ก็ว่าอยู่ ให้ความคิดเป็น 0Hz มันทำได้ยังไง ขอบคุณมากครับ สำหรับผมยากนิดหน่อย แต่ลองพิจารณาดูครับ

 

ถ้าอย่างนั้น ค่า Hz คืออะไรเหรอครับ

 

ว่าแต่คุณ Boss เหอะ ยังไม่ได้เล่าเลย เป็นคนตั้งกระทู้แท้ๆ

คำถามที่ว่า...หมายถึง โพสที่ถามครั้งแรกเรื่องครูใช่ป่ะ ถ้าใช่...ไม่เกี่ยว แค่อยากรู้ว่าคนอื่นๆ เค้ามีครูกันกี่คน แล้วเสียงที่เราได้ยินเนี่ย เป็นเสียงเฉยๆ อ่ะ ไม่เห็นหน้าคนพูด แต่ตอนก่อนนั่งก็เห็นหน้าครูอยู่แล้วนะ เพียงแต่คิดว่า ทำไมเราถึงไม่เห็นครูพูดพร้อมเสียงมาทีเดียวเลย แล้วที่ว่าครูของทุกๆ คนคือพระพุทธเจ้า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า เสียงที่เราได้ยิน เป็นเสียงของครูหรือเสียงของพระพุทธเจ้า เสียงพระพุทธเจ้าจริงๆ จะเป็นยังไง>>> เลยเป็นที่มาของคำถามที่ถามคุณ Boss ไปไง ไม่ได้ต้องการทดสอบอะไรหรอก แค่อยากได้ความรู้เพิ่มเติมเท่านั้นค่ะ

หรือว่า หมายถึงคำถามอื่น งง

 

ผมไม่มีญาณ ขนาดทราบได้ว่า คนที่มาหาคือใคร
คือพระพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์ท่านใด
หรือว่าเป็นบรรพบุรุษหรือเปล่า




สำหรับตัวผม ไม่เคยได้ยินเสียงใครตอนนั่งสมาธิครับ

 

ลองพิจารณาคำพูดครับ ว่าท่านหมายถึงอะไร
เจตนาคืออะไร
เรื่องที่ถามว่า น้่ำเสียงของพระพุทธองค์เป็นยังไงผมจำไม่ค่อยได้ครับ
มันนานมากแล้วครับ เวลาฟังท่านผมเอาความหมายมากกว่า

แต่ถ้าใช่มักจะรู้ด้วยจิตเองว่าใช่ครับ เพระาหากจิตถึงท่าน เวลาเจอท่่านจะรู้ได้เลยล่ะครับ

แต่ในกรณีนี้ อาจจะเป็นและอาจจะไม่ใช่
เรื่องพระพุทธเจ้ากับการปรินิพานผมศึกษามานิดหน่อยนะครับ

ที่ว่าพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วไม่ยุ่งกับโลกอีก ผมก็เคยเชื่ออย่างนั้น
(แต่ตอนนี้ผมเชื่อว่า ท่านยังไมไ่ด้ไปใหนไกล เพราะหากท่านไปจริงๆ ประตูนิพพานคงปิด)
ผมเคยไปคุบกับครูที่สอนธรรม ท่านบอกว่าคนเห็นพระพุทธเจ้า ส่วนใหญ่เป็นพระ
จำชื่อไมไ่ด้ มีพระท่านนึง ฝัน้ห็นพระพุทธเจ้า วันต่อมาพิจารณาคำพูดก็ บรรลุธรรมในวันต่อมา

แต่ถ้าอยากพบพระองค์จริงๆ ลองฝึกเอาชนะตน เอาธรรมของพระองค์มาปฏิบัติ
ให้รู้แจ้งในวัฏจักร ศรัทธาในพระองค์ และมุ่งหวังไปในทางนิพพาน

ท่านก็ยังไมไ่ด้ไปใหนหรอกครับ ก็ยังเยี่ยม บริวารอยู่เรื่อยๆครับ ^^ อนุฌมทนานะครับ
ว่าแต่ ที่ได้ยินในสมาธิ ท่านมากล่าวว่า อะไรเหรอครับ

 

มีศีล 5 แล้วทำไมยังทุกข์ได้อีก งง คือต้องแบบเหมือนคนที่เค้า "เคร่ง" จริงๆ อ่ะ ทุกข้อต้องแบบรักษาให้ได้ เราจะยกตัวอย่างของเรานะ เช่น

ศีลข้อที่ 1 ห้ามฆ่าสัตว์ใช่ไหม เราก็ไม่ฆ่านะ อย่าง ยุง มด เงี่ยะ คือทุกทีจะเห็นมันบินๆ ผ่านหน้ามาจะตบทันที แต่พอเราปล่อยเค้าบินโฉบไปโฉบมา ล่อให้ตบประมาณห้านาที เราก็รำคาญไง ก็เลยเอานิ้วชี้ที่ไปตัวยุงที่กำลังบินไปบินมา ละพูดกับเค้าว่า "อย่ามากัดเค้านะ ถ้าเจ้ากัดเรา เราก็จะตบเจ้า" พูดเชิงขู่ไปก่อนในวันแรกที่เจอยุง เชื่อป่ะว่า เราอยู่กับเค้าได้สองสามอาทิตย์แน่ะ โดยที่เราไม่โดนยุงกัดเลย คือ ต้องไม่เบียดเบียนกันอ่ะ เราอยู่ส่วนเรา ยุงอยู่ส่วนยุง

ส่วนศีลข้ออื่นๆ ก็ได้ความสบายใจกลับมา เช่น ศีลข้อ 5 ในกรณีที่เราอยู่ในงานปาร์ตี้ ในสังคมต่างๆ ก็็เลี่ยงซะ เราเลือกได้หนิ ดื่มน้ำผลไม้แทน มีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย เห็นป่ะ อีซี่ๆ

ขอก๊อบหน่อย อิอิ "หากเราเข้าใจตนเอง วันนั้นก็จะเข้าใจคนอื่นเองล่ะค่ะ"

แง่ะ !!!!!
เล่ามาสิ สมาธิของคุณ Boss เป็นยังไงบ้าง

 

หมายถึงตอนนี้หรือ เมื่อก่อนครับ-..-