ประสบการณ์มโนมยิทธิ กรรม และเรื่องยุ่งๆของผม

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย softkid9, 18 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399

    ได้เลยครับน้องเฟม พี่ยินดีและดีใจที่มีพี่ๆน้องๆลูกหลานหลวงพ่อเข้ามาสนทนาธรรมะกัน

    จริงอย่างที่น้องกฤษณ์บอกไว้ข้างบนครับ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเนื่องเพราะกฏแห่งกรรมเค้าส่งผล จะหายปุ๊บปั๊บยากหน่อย แต่ความต้องการหรือกิเลสมันจะค่อยๆลดลงเนื่องจากผลการปฏิบัติในธรรม


    อ้อ! เรื่องที่น้องกฤษณ์ถามไว้ แฟนพี่ยืนยันตามนั้นครับ ฟันธง อิอิ


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2014
  2. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112

    เย้! ขอบคุณมากนะครับพี่เก่ง มันจะได้เป็นข้อพิสูจน์ว่าผมไม่ได้คิดไปเอง อุปาทานไปเอง ผมพิ่งลาจากการเจริญพระกรรมฐานมาเมื่อสักครู่นี้เองครับ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังนะครับผม ในโพสต์ถัดไป ^_^
     
  3. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    -๒ มิถุนายน ๒๕๕๗-

    วันนี้ผมก็เจริญพระกรรมฐานตามปรกติครับ พอสมาธิทรงตัวในระดับนึง หลังจากจับภาพพระ และ เริ่มพิจราณาตัดกาย จิตผมก็บอกว่า ณ ที่นี้แห่งนี้(ห้องพระบ้านผมครับ)มีท่านท้าวเวสสุวรรณและท่านท้าวจตุโลกบาลมาด้วยทั้งหมด คงเป็นเพราะผมเปิดเสียงหลวงพ่อที่บวงสรวงและชุมนุมเทวดา กระนั้นแล้วผมก็รู้สึกชาไปทั้งตัวเลยครับ คงเป็นเพราะเทวฤทธิ์ของท่านท้าวเวสสุวรรณและท่านท้าวจตุโลกบาล หลังจากนั้นผมก็อารธนาบารมีพระขึ้นไปที่พระจุฬามุนีย์เจดีย์สถาน จิตบอกว่ามีคนตามผมมาด้วย และจิตบอกผมว่าเป็นท่านท้าวกุเวร ผมจึงกราบพระเขี้ยวแก้ว กับ พระธาตุที่นั้นก่อน ก่อนที่จะหันไปกรราบท่านท้าวกุเวร ท่านก็ยิ้ม ผมจึงถามท่านว่า ท่านมีภารกิจอะไรให้ผมทำหรือเปล่า ท่านก็บอกว่าเดี๋ยวถึงเวลาแล้วก็จะรู้เอง ผมจึงกราบลาท่าน และ อารธนาบารมีพระไปหาท่านปู่ท่านย่าพระอินทร์ที่บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ไปกราบท่านปู่ท่านย่าและขอพรจากท่าน หลังจากนั้นผมจึงขึ้นไปกราบสมเด็จองค์ปัจจุบันที่วิมานของท่านบนพระนิพพาน(วันนี้ผมเห็นสมเด็จท่านเป็นลักษณะคล้ายพระพุทธรูปแก้วใสสวยงามมากครับ และ พระวรกายท่านก็ใหญ่โตมากด้วย) และขอข้อธรรมะจากท่านอีกเช่นเคย ท่านก็ทรงแย้มพระโอษฐ์และทรงตรัสข้อธรรมเกี่ยวกับเรื่องการทำทาน และ ท่านมักจะย้ำเสมอในเรื่องของการตัดกาย และ อย่าไปสนใจในกายของผู้อื่นให้มากนัก (เรื่องนี้เป็นเรื่องยากมากครับ แต่ผมจะพยายาม ฮ่าๆ) จากนั้นผมจึงกราบลาท่านและขอบารมีท่านไปที่วิมานของผมและขอให้ผมได้เห็นวิมานของผมตามความเป็นจริงทุกประการ ผมเห็นแล้วก็รู้สึกตกใจ เพราะมันใหญ่โตกว่าเมื่อก่อนมาก วิมานของผมมีลักษณะคล้ายปราสาท มีทางขึ้น-ลง4ด้าน ทุกอย่างเป็นแก้วใสทั้งหมด เข้ามาข้างในก็เจอฉัตรทองคำอีก สิ่งนี้คงเป็นสิ่งที่พิสูจน์คำสอนของหลวงพ่อว่า การทำบุญวิหารทานก็ตามหรือบุญกิริยาวัตถุอื่นๆก็ตาม เมื่อทำลงไปแล้ว สิ่งเหล่านั้นจะมาอยู่ที่วิมานของเรา ผมนั่งเล่นนอนเล่นอยู่สักแปป ก็กราบลาพระท่านลงมา หลังจากลาพระกรรมฐานและอุทิศบุญกุศลไปแล้ว ขาผมก็เริ่มชาจนปวดอีกครั้ง แต่อาการเหล่านั้นก็หายไปในเวลาไม่นาน ถึงแม้ว่าขาจะหายชาแล้ว แต่หน้าผมตอนนี้ยังชาอยู่เลยครับ ตอนที่นั่งพิมพ์นี้หน้ายังชาอยู่เลย คงอีกสักพักถึงจะหาย ฮ่าๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2014
  4. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    ฝอยมามากแล้ว ขออนุญาตบอกบุญต่อนะครับพี่เก่ง :p

    ทางวัดหนองเต่าคำ ตำบล มะขุมหวาน อำเภอ สันป่าตอง จังหวัด เชียงใหม่ กำลังก่อสร้างพระอุโบสถครับ ยังขาดปัจจัยอีกจำนวนมาก เพราะ วัดแห่งนี้ไม่เคยมีพระอุโบสถมาก่อน การสร้างพระอุโบสถครั้งนี้จึงเป็นพระอุโบสถหลังแรกของวัด ซึ่งจะสร้างในรูปแบบศิลปะล้านนาครับ ทางวัดยังขาดปัจจัยอยู่อีกมาก ดังนั้นแล้วผมจึงขออนุญาตนำบุญมาบอกต่อนะคร้าบบบบ อันนี้ลิงค์ของทางวัดนะครับ
    { ขาดปัจจัยจำนวนมาก! สร้างอุโบสถวัดหนองเต่าคำ ความคืบหน้าก่อสร้างอย่างรวดเร็ว น.๓,๔ - PaLungJit.org }

    *เลขที่บัญชีร่วมบุญกับวัดหนองเต่าคำ ธนาคารกรุงไทย (สาขาสันป่าตอง)

    ชื่อบัญชี วัดหนองเต่าคำ (ก่อสร้างอุโบสถ)

    เลขที่บัญชี 524-0-31159-5*



    ส่วนอีกวัดนึงกำลังจะมีการสร้างหอพระไตรปิฎก หรือ หอธรรมของคนเมืองนะครับ หอธรรมนอกจากจะเก็บรวบรวมพระไตรปิฎกแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่เก็บรวบรวมคัมภีร์โบราณทางศาสนาพุทธ(คัมภีร์ใบลาน) และ เอกสารทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญต่างๆด้วยนะครับ และนอกจากนั้นยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปอีกด้วยครับ นอกจากจะสร้างหอพระไตรปิฎกแล้วยังมีการสร้างฐานพระให้พระพุทธรูปอยู่สูงขึ้นไปด้วยนะครับ ทางวัดทุ่งอ้อ ตำบล หางแก้ว อำเภอ หางดง จังหวัด เชียงใหม่ ยังขาดปัจจัยอีกมากเลยครับ ดังนั้นแล้วผมจึงขออนุญาตนำมาบอกบุญต่อนะครับผม ^_^
    อันนี้ลิงค์ของทางวัดที่ได้ลงมาประชาสัมพันธ์ครับ { อานิสงส์แห่งปัญญาบารมี เชิญร่วมทำบุญสร้างหอพระไตรปิฏก+ฐานพระ+หลังคา(หอไตร)หน้า.13 - PaLungJit.org }



    *เลขที่บัญชีร่วมบุญกับวัดทุ่งอ้อ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหางดง เลขที่บัญชี 403-535171-3 ชื่อบัญชี วัดทุ่งอ้อ(สร้างเสนาสนะ)*
     
  5. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743

    สาธุ ขอบพระคุณสำหรับข้อธรรมนะคะพี่ สำหรับเรื่องนิพพานนี่ ยอมรับว่าเริ่มชักอยากจะไปกับเค้าบ้างเหมือนกันค่ะ T^T เจอวิบากแต่ละที เล่นเอาคิดเลยว่าถ้าเราทำพุทธภูมิต่อ แล้วกำลังใจน้อยเป๋ไปเป๋มาแบบนี้จะรอดไหมนี่


    แล้วถ้าเกิดต้องทำบารมีแบบที่ยอมลงนรก เพราะเหตุจำเป็นที่จะต้องละเมิดศีลเพื่อผู้อื่นนั้นเราจะไหวไหม เพราะส่วนตัวค่อนข้างกลัวนรกมาก และตัวอย่างที่เห็นอยู่ชัดเจนเลยก็คือกรรมของท่านโตไทยพราหมณ์ที่เป็นถึง 1 ในพระอนาคตวงศ์ ที่ขนาดท่านมีบารมีมากแล้วกำลังจะรอตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้ายังทำผิดพลาดต่อพระพุทธองค์จนเป็นเหตุให้ต้องตกอเวจีอยู่ในขณะนี้ ยอมรับว่าพอเห็นอย่างนี้แล้ว ตัวเองก็ชักจะเสียวๆอยู่เหมือนกันตามประสาพุทธภูมิที่กำลังใจยังไม่เข้มแข็ง T^T


    สุดท้ายคงต้องปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ต่อไปค่ะ ทั้งนี้ความรู้สึกของพี่เก่งไม่ผิดหรอกคะที่ว่าบารมีพุทธภูมิของเฟมยังอยู่ในขั้นต้น เพราะอารมณ์จิตของเฟมมีบารมีแค่นี้จริงๆค่ะพี่ ส่วนถ้าลาแล้วมีโอกาสจะได้ไปนิพพาน ยอมรับว่ามีกำลังใจส่วนหนึ่งมุ่งตรงที่นิพพานจริงๆค่ะ แต่ถ้าจะไปคงต้องฝึกอีกเยอะมากๆ เนื่องจากกำลังใจยังไม่ทรงตัวค่ะ ถือว่าเป็นการ feed back น้าคะพี่ :)


    ส่วนที่พี่โพสต์ไว้อีกที่หนึ่ง ตรงที่กล่าวว่า



    อันนี้เฟมยอมรับว่าเคยคิดถึงประเด็นนี้เหมือนกัน ซึ่งต้องบอกว่า ถ้าคิดในแง่ของพุทธศาสตร์ที่เป็นเรื่องทางจิตแล้ว การที่เราให้เงินขอทานนั้น จัดว่าเป็นการทำทั้งบุญและบารมีในหัวข้อของการให้ทาน ซึ่งเป็อานิสงค์ขั้นต้นที่สามารถส่งผลถึงที่สุดให้ไปพระนิพพานได้ ดังนั้นหลวงพ่อท่านจึงสอนให้พวกเรารู้จักสั่งสมบุญบารมีต่างๆให้ครบถ้วน ซึ่งจุดนี้คนที่ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวอาจจะไม่เข้าใจ


    ทั้งนี้เพราะในทางโลกนั้น การที่คนยึดการขอทานเป็นการดำรงชีพ มีสาเหตุมาจากหลายประการ ทั้งความยากจน ความรักสบายส่วนตัว หรือแม้กระทั่งการทำกันเป็นขบวนการของมิจฉาชีพ ดังนั้นเมื่อวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา จึงพบว่าการไม่สนับสนุนและหันมาส่งเสริมให้คนมีอาชีพ ให้เด็กๆได้มีพัฒนาการที่สมบูรณ์นั้น ถือเป็นเรื่องที่ควรกระทำมากกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยบริบทหลายๆอย่างของสังคมไทยเรา ยังไม่สามารถรองรับการแก้ไขปัญหาอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพได้ ทำให้ปัญหาต่างๆเหล่านี้ยังคงอยู่ต่อไป


    เลยกลายเป็นว่าคนทั่วๆไปที่ไม่ทราบถึงเหตุผลที่มาที่ไปของการกระทำดังกล่าว จึงมองว่าการให้เงินขอทานนั้นไม่น่าจะถูกต้อง ทั้งๆที่ในความเป็นจริงส่วนตัวมองว่า สิ่งนี้เป็นกุศโลบายของครูบาอาจารย์ที่ท่านมีความดี และมีความเข้า่ใจเป็นอันดีถึงบริบทของสังคม อันเป็นที่มาของการสอนให้พวกเราทั้งหลายนั้นรู้จักทำความดี และรู้ช่องทางในการทำความดีอย่างชาญฉลาดนั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2014
  6. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743

    อื้ม พี่ก็ว่าอย่างนั้นน้องกฤษณ์ เพราะตอนที่พี่ปฏิบัติธรรม พอพี่เริ่มทำสมาธิบ่อยขึ้นๆ เวลาเจอเป้าหมายที่ชอบ จะเริ่มรู้ว่านิวรณ์ 5 มาแล้ว และฝึกตัวเองให้หันกลับไปอยู่กับสมาธิอ่ะ ดังนั้นสภาวะจิตที่มีรสนิยมแบบใดก็ยังคงเป็นแบบนั้นอ่ะจ่ะ


    แต่ถ้าเป็นเรื่องของการตัดกายไปพระนิพพาน ถ้าทำไปเรื่อยๆมันจะมีความรู้สึกเริ่มไม่สนใจกายของตัวเองขึ้นมา ซึ่งเป็นการกระโดดข้ามเรื่องเพศที่หยาบกว่าออกไป แล้วมันจะเริ่มรู้สึกว่าเพศไหนมันก็ไม่ต่างกันอ่ะ


    ซึ่งอันนี้พี่ไม่รู้ว่าพี่คิดไปเองหรือเปล่านะ แต่พี่รู้สึกว่ามันทำให้พี่เบาลงในเรื่องอารมณ์ปรุงแต่งเป็นเพศตรงข้ามอ่ะ แล้วกลายเป็นว่าเริ่มไม่ค่อยสนใจกับเรื่องดังกล่าว และหันมาทำสมาธิ ตัดกาย และทำงานพุทธภูมิไปแทน ซึ่งจุดนี้พี่อยากให้มีคนลองทำดูแล้วช่วยกัน feedback อ่ะ


    ทั้งนี้พี่ไม่เรียกสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นว่าเป็นการเปลี่ยนรสนิยมทางเพศนะ แต่มันเหมือนกับว่าจิตเราเริ่มปรุงแต่งมันน้อยลงๆ หรือไม่ให้ความสำคัญกับมัน และหันมาสนใจอารมณ์สมาธิและการพิจารณากิเลสมากกว่า ซึ่งพี่มองว่าก็ไม่ต่างกับคนทั่วๆไปที่พอปฏิบัติธรรมแล้วมีอารมณ์จิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ กล่าวคือจะค่อยๆละจากกิเลสๆต่างๆเข้ามาคบกับอารมณ์ที่เป็นกุศลเรื่อยๆอ่ะ


    แต่ถ้าถามว่ารสนิยมหายไปไหม มันก็ยังมีอยู่แบบเดิมนะ ไม่ต่างกับกิเลสอื่น แต่คล้ายๆกับว่ายิ่งปฏิบัติไปเรื่อยๆ มันก็เริ่มจางลง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการปฏิบัติ และร่วมด้วยการคลายตัวลงของกฎแห่งกรรมหรือเปล่านะ


    สุดท้ายพี่เลยมองว่า คนที่กำลังใจเข้มแข็ง น่าจะทำได้และไปนิพพานได้ ขอให้มีจิตทรงตัวรักพระนิพพานจริงๆเท่านั้นอ่ะ ดังนั้นพี่เลยไม่อยากให้คนที่เป็นเพศที่ 3 มองว่าเป็นตัวเองผิดปกติ หรือไม่ดีอะไรทำนองนั้น แต่อยากให้รู้ว่าถ้าทำจริงๆเราก็สามารถไปนิพพานได้เหมือนกัน ให้มั่นใจและมีทัศนคติเกี่ยวกับตัวเองในทางบวกมากขึ้นอ่ะจ้า


    ปล. แล้วถ้าวันใดมีคนทำได้จริงๆขึ้นมา พร้อมหลักฐานพิสูจน์ พี่ก็คงเรียนรู้ครบหลักสูตรในเรื่องนี้ เพราะรู้แล้วว่ามีความเป็นไปได้ และได้ช่วยให้คนที่เป็นเพศที่ 3 ไม่ต้องรู้สึกว่าตนเองผิด และเกิดความไม่มั่นใจในความดีของตนเวลาที่อยากหันหน้าเข้าทางธรรมขึ้นมา แต่ถ้าสุดท้ายแล้วมันเป็นไปไม่ได้ ก็ถือว่าได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นไปไม่ได้จ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2014
  7. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    เมื่อก่อนพี่ก็เป็นแบบน้องเฟมนั่นละครับ ด้วยความที่เพิ่งจะเข้าใจหน้าที่ของตัวเองเมื่อไม่นานมานี่เอง คือหน้าที่ที่ต้องการสงเคราะห์ผู้อื่นหรือพุทธภูมินั้นเอง แต่พอเราเจออะไรหนักๆแรงๆมากกว่าชาวบ้านเค้าก็เหนื่อยมากมาย แต่พอลาพุทธภูมิปั๊บกำลังใจมันตัดหมดเลย มุ่งหน้าไปบ้านที่สร้างใหม่ลูกเดียว ด้วยความที่เบื่อผู้คน เบื่อในการต้องเกิดมาแล้วก็เจอทุกข์ แล้วก็มีคำถามเกิดขึ้นมาในใจว่าชาติต่อๆไปเราต้องมาเจอสภาพแบบนี้อีกเหรอ เลยกราบลาพุทธภูมิกับพระพุทธรูปท่าน แล้วก็บอกกับใจตัวเองว่าพอกับทีกับการเกิดมาเพื่อทุกข์ เพื่อต้องเดินทางไกล ไม่เอาแล้วครับ ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่ๆน้องๆลูกหลานหลวงพ่อทุกท่านนะครับ ไม่ว่าจะพุทธภูมิหรือสาวกภูมิ ก็ถึงพระนิพพานเหมือนกัน เพียงแต่ก่อน หลัง ช้า เร็ว ต่างกันแค่นั้นเอง

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2014
  8. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743

    ขอบคุณนะคะพี่เก่ง ส่วนตัวเฟมยังไงเวลาคงเป็นเครื่องพิสูจน์จริงๆค่ะ


    ขอเพิ่มเติมนิดส์นึงนะคะพี่ พอดีเฟมตกหล่นประเด็นสำคัญไปตรงที่ว่า แรงบันดาลใจอย่างหนึ่งที่ทำให้เฟมเขียนเรื่องเพศที่ 3 กับการปฏิบัติธรรมก็เพราะว่า อ.ฆราวาสเคยบอกกับเฟมว่า กรรมเพศที่ 3 เป็นตัวขัดขวางไม่ให้บรรลุธรรม ดังนั้นจะต้องแก้ไขการเป็นเพศที่ 3 ให้กลับคืนสู่เพศปกติซะก่อนอ่ะคะ


    แล้วทีนี้พอเราปฏิบัติแล้วสังเกตตรวจสอบตนเองบ้าง ก็พบประมาณว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่เป็นไปในเชิงที่เรียกว่าเปลี่ยนกลับมามีรสนิยมชอบเพศตรงข้าม(ตรงนี้ไม่ขอเรียกว่าเพศปกตินะคะ เพราะไม่อยากใช้คำพูดว่าปกติหรือไม่ปกติอ่ะคะ)
    แต่เป็นไปในลักษณะของอารมณ์จิตที่เริ่มชินกับความดีมากขึ้นมากกว่า


    จึงสรุปได้ว่า ไม่น่าจะเรียกว่าเป็นการแก้ไข แต่ให้ปฏิบัติธรรมไปเรื่อยๆตามธรรมชาติ จนจิตเข้าถึงความดีและสามารถหลุดพ้นได้ในที่สุดจะเป็นการกล่าวที่เหมาะกว่าอ่ะค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2014
  9. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    อย่างที่พี่เฟมว่านั้นแหละครับ ผมริดว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนรสนิยมทางิพศได้ เราเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น เพียงแต่จิตของเรามีความเคยชินกับอารมณ์ความดีมากขึ้นเท่านั้น และ ถ้ายกจิตไปพระนิพพานได้บ่อยเข้า จิตมันจะโหยหาความสุขแบบโลกุตระ มากกว่า โลกียะ หรือ มองความสุขทางโลกที่จิตปรุงแต่งหรือโลกปรุงแต่งว่าไม่ใช่สุขที่แท้จริงอีกต่อไปครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2014
  10. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    -๓ มิถุนายน ๒๕๕๗-

    วันนี้เจริญพระกรรมฐานตามปรกติครับ แต่ดูจะไม่ค่อยปรกติเล็กน้อย เพราะวันนี้ผมลองเจริญพระกรรมฐานบนรถเมลล์ กว่าจะเข้าที่เข้าทางก็เล่นเอาผมแทบเหนื่อยเหมือนกันครับ แต่พอขึ้นไปได้ผมก็ขึ้นไปกราบพระบนพระจุฬามุณีเจดีย์สถาน หลังจากนั้นก็ขึ้นไปกราบท่านแม่ใหญ่ หรือ ท่านแม่ศรีฯบนวิมานของท่านบนพระนิพพาน พอดีวันนี้ผมได้ร่วมบุญสร้างวิหารปฎิบัติธรรมศรีสุริยวงศ์องค์จามเทวีทำให้ผมอยากจะฝากท่านให้เป็นพยานบุญและร่วมอนุโมทนาด้วย เนื่องจากท่านแม่ใหญ่หรือท่านแม่ศรีระจิตร ท่านเคยเกิดเป็นองค์จามเทวีตามคำบอกเล่าของหลวงพ่อ ผมจึงทำเช่นนั้น จากนั้นก็ไปที่วิมานของตนเอง นั่งๆนอนๆสักพักแล้วจึงลงมา สิ่งที่ทำให้ผมรู้ว่าตัวเองได้ขึ้นไปข้างบนมาจริงๆ คงจะเป็นขาที่ชาแต่คราวนี้ไม่ชาจนถึงขั้นปวด ผมสังเกตุตัวเองมา2-3ครั้งแล้ว ทุกๆครั้งที่เจริญพระกรรมฐานมโนมยิทธิ ขามักจะชาอยู่เสมอ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2014
  11. choto

    choto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +330
    มีแต่คนขั้นเทพทั้งนั้นเลย ส่วนผมนี่ยังโต๋เต๋ๆ

    ขออนุโมทนาในกุศลทั้งปวงนะครับ
     
  12. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    ผมก็ยังไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้นหรอกครับพี่ต๋อง มีคนpmมาถามผมเรื่องเกี่ยวกับการฝึกมโนมยิทธิด้วย เจอคำถามเข้าไปผมก็งงๆเหมือนกัน ตอบไม่ค่อยถูก ไม่รู้ตอบไปเค้าจะงงกว่าเดิมรึเปล่า ฮ่าๆๆ
     
  13. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743

    5555 ไม่ใช่แค่ต๋องคนเดียวแล้วล่ะ


    รวมพี่ด้วย เพราะไม่ได้มโนมยิทธิเหมือนกันตอนนี้ เลยได้แต่โมทนาพี่ๆน้องๆเอานี่ล่ะจ้า
     
  14. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    แต่อย่างน้อยๆพี่ก็เคยมีความคล่องตัวมากนะครับ เพราะประสบการณ์ของพี่กับพี่เก่งนี่แหละครับ ที่ทำให้ผมอยากฟื้นมโนมยิมธิของตัวอง ถ้าไม่มีพวกพี่ ป่านนี้ผมก็ยังคงง๊องแง๊งๆเหมือนเดิมแน่ๆเลย
     
  15. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    อนุโมทนากับพี่ๆ น้องๆ ลูกหลานหลวงพ่อทุกท่านครับ ที่ทุกท่านพูดมาเนี๊ยะ มโนมยิทธิของพี่แค่ความรู้สึกเอง ที่เป็นของใช้งานจริงๆแล้วเป็นของภรรยาพี่นะ แฮะๆ พูดแล้วก็เขินๆทั้งน้องเฟม น้องต๋อง น้องกฤษณ์ เพราะน้องๆทุกคนมีทั้งที่เคยได้แล้ว และยังปฏิบัติอยู่ พี่นี่ต้องนับอยู่หลังสุดละครับ เพราะไม่เห็นอะไรเลย เคยเห็นอยู่ 2 อย่างคือวิมานในชาติที่แล้วกะวิมานในชาตินี้แค่นั้นเอง แต่เรื่องมั่นคงในพระนิพพานนี่ พี่ต้องขอบอกว่าเป็นที่มั่นคงและมั่นใจที่สุดจริงๆ เพราะเบื่อและหน่ายในการเกิดแล้ว แบบพวกขี้เกียจน่ะครับ ไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว อยากไปบ้านใหม่ลูกเดียว

    อ้อ!เมื่อ 2 วันก่อน ผมทำบุญสร้างวิหารทานมา 2 กองบุญ แล้วอุทิศให้น้องลูกหว้าอดีตน้องกุมาร
    ที่บ้านผมและลูกในอดีต แล้วด้วยนิสัยชอบพิสูจน์ (พวกชอบเรื่องยุ่งๆจนเคยตัวครับ) ก็ให้แฟนผมเค้าดูว่าที่ผมอุทิศให้นางฟ้าลูกหว้าเป็นไงบ้าง มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างมั๊ย แฟนผมบอกว่าแสงสว่างของลูกหว้าเพิ่มมากขึ้น สว่างมากๆ แล้วสังเกตุว่าเทวดา นางฟ้าบนสวรรค์นี่ไม่ค่อยพูดมาก พูดแต่เนื้อๆ ได้ใจความ น้ำๆนี่ไม่มีเลย ลูกหว้าเมื่อก่อนซุกซนจะตาย ขี้เล่น ปัญหาเยอะ ชอบถามโน้น ถามนี่ เดี๋ยวนี้เอาแต่ยิ้มลูกเดียว เมื่อตอนไปเป็นนางฟ้าใหม่ๆ เวลาแม่เค้า(แฟนผมเอง เพราะแม่แท้ๆชาติที่แล้ว เค้าไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้แล้ว เลยยึดแฟนผมเป็นแม่ซะเลย)ขึ้นไปดูที่วิมานว่าเป็นยังไงบ้าง พอเห็นแม่เค้าขึ้นมาดีใจจะตาย ชวนเพื่อนๆนางฟ้ามาอวดว่าแม่เค้าใจดีและทำบุญให้เค้าได้มาเป็นนางฟ้า (เทวดานางฟ้านี่หน้าตาหนุ่มสาวเหมือนกันหมด ต้องถามในจิตถึงจะเห็นภาพซ้อนว่าเป็นผู้ที่เกี่ยวเนื่องในอดีตกับเราอย่างไร)

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2014
  16. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    ถึงว่าน่ะ...เวลาผมขึ้นไปเจอคุณป้าผมบนดาวดึงส์หรือขึ้นไปหาท่านแม่ใหญ่ หลวงพ่อ หรือแม้แต่พระ ท่านไม่ค่อยพูดเลยครับ ท่านยิ้มอย่างเดียว แต่เป็นรอยยิ้มที่มีเมตตามากครับ เป็นรอยยิ้มที่อบอุ่น โดยเฉพาะหลวงพ่อกับพระ รอยยิ้มขอวท่านทั้งสองเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นมากครับ
     
  17. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    -๔ มิถุนายน ๒๕๕๗-​


    วันนี้ผมเจริญพระกรรมฐานตามปรกติ เหมือนเช่นทุกวันครับ ผมขึ้นไปกราบพระบนพระจุฬามุณีย์เจดีย์สถานบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทวโลก และได้อาราธนาบารมีพระขึ้นไปกราบสมเด็จองค์ปัจจุบันบนพระนิพพานและได้ทูลถามถึงเรื่องบางอย่าง(ซึ่งเรื่องนี้ผมคงต้องพิ่งพี่เก่งอีกครั้งหนึ่งในการพิสูจน์สิ่งที่ผมเห็น) ดังนั้นผมจะยังไม่ขอเล่าตรงนี้นะครับ หากได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเรื่องจริงผมจะนำมาเล่าให้ฟังทีหลัง หลังจากนั้นผมก็ไปที่วิมานของตนเองนั่งๆนอนๆสักพักแล้วจึงกลับลงมาครับ
     
  18. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    *เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลนะครับโปรดใช้วิจารณญานในการเสพสื่อ อย่าพิ่งเชื่อในสิ่งที่ผมเล่า แต่ลองปฎิบัติและพิสูจน์ดูเอาด้วยตัวเองครับ*



    เรื่องนี้ก็คือเรื่องที่ผมทูลถามพระถึงน้าที่เคยรู้จักกันครับ เธอเป็นลูกสะใภ้ของป้าแม่บ้านของผม(งงกับลำดับศักดิ์ไม่ครับ ฮ่าๆ) เธอเสียชีวิตหลังจากป้าแม่บ้านผมเสียได้1เดือนพอดี เรื่องมีอยู่ว่า พี่สาวของเธอโทรมาหาแม่ผมและบอกกับแม่ผมว่า เห็นคนแถวบ้านมาบอกว่า ยังเห็นคุณน้าท่านนี้ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้านตอนตี3-ตี4 นั้นทำให้ผมเกิดสงสัยว่ามีคนทำบุญให้เธอบ้างไหม วันนี้ได้โอกาสจึงทูลถามพระว่า ตอนนี้ เธออยู่ที่ไหน และ ขอบารมีท่านเพื่อตรวจสอบ ผมเห็นคุณน้าท่านนี้ที่บ้านของเธอเอง เรานั่งคุยกันหน้าบ้านของเธอซึ่งเป็นตึกแถว ดูจากสภาพกายทิพย์ของเธอก็ดูผ่องใสดี ดีกว่าตอนก่อนจะตายหลายเดือนมาก เพราะ แม่ของคุณน้าใส่บาตรพระให้เธอทุกวัน ผมจึงถามคุณน้าว่าทำไมยังไม่ไปเกิดอีก คุณน้าก็ตอบกลับมาว่า เธอยังคงห่วงลูกอยู่ ผมจึงเตือนให้เธอปล่อยวาง เพราะตอนนี้คุณน้ากับลูกคุณน้าอยู่กันละภพภูมิแล้ว จากนั้นผมจึงอุทิศบุญกุศลให้เธอตามแบบฉบับของหลวงพ่อ พบเห็นกายทิพย์ของเธอมีความสว่างไสวมาก และก็หายไป จากนั้นผมจึงทูลถามพระท่านว่า ตอนนี้คุณน้าอยู่ที่ไหน พระท่านกรุณาตอบกลับมาว่า ณ เวลานี้ เธออยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก และได้รับการยืนยันจาก(แฟน)พี่เก่งแล้วด้วยว่า ตอนนี้คุณน้าจะไปปฎิบัติธรรมต่อข้างบน


    [วิชชามโนมยิทธิของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นฤทธิ์ทางใจที่มีประโยชน์มากหากใช้ให้ถูกต้องตามวิถีทาง สามารถพิสูจน์คำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระบรมครูและสามารถช่วยเหลือเพื่อนร่วมภพภูมิได้อีกมากโขครับ]
     
  19. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    -๕ มิถุนายน ๒๕๕๗-
    (วันธรรมสวนะ : ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๗) ​


    วันนี้หลังจากผมใส่บาตรพระสงฆ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมก็นึกอยากจะลองขึ้นไปฟังเทศน์บนเทวสภาดูบ้าง จึงเริ่มต้นเจริญพระกรรมฐาน และนำพาอทิสมานกายขึ้นไปยังพระจุฬามุณีย์เจดีย์สถานบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์(เปรียบเสมือนกิโลเมตรที่0ของผมเลยก็ว่าได้ครับ เพราะเวลาจะไปไหนต้องเริ่มจากที่นี้) กราบพระ แล้วจึงอารธนาบารมีพระไปที่เทวสภา เห็นสมเด็จองค์ปัจจุบันในรูปกายพระสงฆ์ ร่างสูงใหญ่และสง่างามมาก ฉัพพรรณรังสีแผ่ออกมาจากพระวรกายของท่านสว่างไสวมาก กราบท่านแล้วจึงนั่งลงฟังเทศน์สักพัก วันนี้ท่านเทศน์เรื่องเกี่ยวกับการสร้างบารมี ท่านเทศน์ว่า "เทวดาหรือพรหมมีความสุขเพียงชั่วคราว หากไม่บำเพ็ญบารมีต่อไป เมื่อบุญของเธอหมดลง เธอจะต้องลงไปสู่อบายภูมิ อันมี สัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดียรัจฉาน เป็นต้น การเกิดเป็นมนุษย์ก็ใช่ว่าจะเป็นสุข การเป็นมนุษย์มีความทุกขเวทนามากมายเหลือเกิน สุขที่มีอยู่ก็เป็นสุขที่ไม่แท้จริง ดังนั้นเธอทั้งหลายจงเร่งสร้างบารมีเพื่อจะได้ไม่ต้องทนทุกข์อีก" ฟังคำเทศน์ของท่านแล้วทำให้ผมนึกถึงอดีตภารยาและบุตรชายของผมในอดีตชาติ ที่ผมเคยทำกรรมชั่วไว้กับเธอ ทำให้เธอเคียดแค้นผมนัก แต่บัดนี้เธออโหสิกรรมให้ผมแล้ว ผมจึงขอบารมีพระเพื่อพาผมไปหาเธอ สถานที่ปรากฎออกมาว่าเป็นวัดท่าซุง ผมเห็นเธอในรูปของหญิงสาวผมยาว นุ่งขาวห่มขาว พร้อมกับ เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ที่อายุไม่น่าจะเกิน6ขวบปี ผมถามเธอว่าเธอได้รับบุญกุศลที่ผมอุทิศให้เธอไหม เธอก็ยิ้มแล้วตอบว่าได้รับทั้งหมด อีกไม่นานเธอกับลูกจะได้ไปเลื่อนภพภูมิแล้ว เมื่อผมได้ยินดังนั้นผมก็รู้สึกยินดีกับเธอด้วย และ ขออุ้มลูกชายในอดีตชาติของผม ความรู้สึกอบอุ่นและผูกพันแผ่ซ่านเข้ามาทำให้ผมรู้สึกได้ จากนั้นผมจึงลาเธอไปกราบสมเด็จองค์ปฐมบนวิมานของท่าน ขอพรจากท่าน ถวายพวงมาลัยแก้วแด่ท่าน และ หลังจากนั้นจึงได้ไปที่วิมานองตัวเอง แล้วจึงกลับลงมา..


    *รบกวนพี่เก่งช่วยตรวจสอบเรื่องคุณเอ๋ให้ด้วยครับ หากไม่เป็นการรบกวน*
     
  20. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743

    สาธุจ้า :)


    ตอนนี้พี่ก็เริ่มกระดึ๊บๆ ทำสมาธิบ้างเวลานึกขึ้นได้อ่ะจ้า โดยเริ่มจากพรหมวิหาร ๔ ก่อนเรย (แต่ถ้าพูดกันจริงๆ เวลาทำตามที่หลวงพ่อสอนก็จะได้ทั้งทาน ศีล และภาวนาในกรรมฐานหลายๆกองรวมกัน)


    สำหรับพี่ในตอนนั้นถือว่าไม่คล่องตัวน้า เพราะว่าคนที่คล่องจริงๆจะต้องใช้ได้ทุกอิริยาบถ ทุกสภาพแวดล้อม และทุกเวลาที่ต้องการ ตามที่หลวงพ่อท่านได้กล่าวเอาไว้จ้า และความเป็นจริงก็คือ ในระยะเวลาประมาณ 6 ปีที่พี่ฝึกมโนมยิทธิ การรับรู้ต่างๆที่เล่าให้ฟังนั้นถือว่าเล็กน้อยมากจ้า ถ้าเทียบกับคำกล่าวของหลวงพ่อแล้วถือว่ายังห่างไกลลิบลับเลย :)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2014

แชร์หน้านี้

Loading...