จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

กฏแห่งความสำเร็จ
โดยหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

ได้พูดถึงวิธีการต่างๆ มามาก ต่อแต่นี้ไปจะพูดถึง
กฎบังคับตายตัวในพระพุทธศาสนาอีกอย่างหนึ่ง
ที่นักปฏิบัติไม่ว่าระดับใดต้องยึดถือเป็นกฎบังคับ
สำหรับการปฏิบัติ ถ้าทิ้งอิทธิบาท๔ นี้เสียแล้ว
ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่มีทางสำเร็จผลสมความปรารถนา
แต่ถ้าท่านผู้ใดทรงการปฏิบัติตามในอิทธิบาท ๔ นี้แล้ว
สมเด็จพระผู้มีพระภาคตรัสรับรองผลว่า ต้องสำเร็จ
สมความมุ่งหมายทุกประการ แม้ท่านหวังพระนิพพานในชาตินี้
ก็หวังได้แน่นอน ใจความในอิทธิบาท ๔ มีดังนี้

๑. ฉันทะ มีความพอใจในปฏิปทาที่ปฏิบัติโดยสม่ำเสมอ
๒. วิริยะ มีความพากเพียรพยายามไม่ท้อถอย.............
๓. จิตตะ สนใจในข้อวัตรปฏิบัตินั้นเนืองนิจ..................
๔. วิมังสา ใคร่ครวญพิจารณา ในข้อวัตรปฏิบัตินั้นโดยถูกต้อง

กฎ ๔ อย่างนี้ท่านเรียกว่า อิทธิบาท แปลว่า เข้าถึงความสำเร็จ
หมายความว่าท่านนักปฏิบัติท่านใดจะปฏิบัติในสมถะหรือวิปัสสนาก็ตาม
ถ้าท่านมีแนวความคิดรักใคร่สนใจในข้อวัตรปฏิบัติ
มีความพากเพียรไม่ท้อถอย สนใจใคร่ครวญอยู่เป็นปกติ
พิจารณาสอบสวนทบทวนปฏิปทาที่ปฏิบัติแล้วว่า เหมาะสม
ถูกต้องประการใด หรือไม่เพียงใด ต่อไปควรจะปฏิบัติอย่างไร
จึงจะเหมาะสมถูกต้อง ปฏิบัติได้อย่างนี้ สมเด็จพระชินสีห์
ตรัสว่าไม่มีอะไรที่จะทำไม่ได้ ไม่สำเร็จ

อิทธิบาท ๔ ประการนี้ นักปฏิบัติต้องยึดไว้เป็นหลักปฏิบัติ
ประจำใจ ไม่มีพระอรหันต์องค์ใดที่จะละเลย ไม่ยึดถือ
อิทธิบาท ๔ นี้เป็นหลักปฏิบัติประจำใจ แม้องค์สมเด็จ
พระผู้มีพระภาคเองก็ทรง ยึดอิทธิบาทนี้เป็นกฏในการปฏิบัติ
เช่นเดียวกัน ขอท่านนักปฏิบัติทุกท่านจงยึดถืออิทธิบาทนี้
เป็นหลักชัยประจำใจไว้เสมอ




ขอเจริญในธรรม....ด้วยจิตคารวะ

newwave1959

ปาราเมศ...จบ.๑๔​

 

ผู้รู้อยู่เหนือมหาสติ


ยอดหญ้า ดอยหมอก
ธรรมเป็นของกลางซึ่งใครๆ ก็รู้ได้ โดยมีรู้ตั้งแต่เบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุด โดยมีการให้ทาน รักษาศีล เจริญสมาธิ ทำอานาปานสติให้บริบูรณ์ เมื่ออานาปานสติบริบูรณ์ สติปัตฐานทั้งสี่ก็บริบูรณ์ เมื่อสติปัตฐานสี่บริบูรณ์ โพชฌงทั้งเจ็ดก็บริบูรณ์ เมื่อโพชฌงทั้งเจ็ดบริบูรณ์ ความจริงทั้งหมดในโลกก็ปรากฏ พอถึงครานี้ทุกๆคนก็จะเข้าใจว่าสิ่งที่ถูกรู้ กับผู้รู้ไม่ใช่เป็นอันเดียวกัน จะเข้าใจที่เดียวว่าธรรมะ เป็นสิ่งที่ถูกรู้ ผู้รู้ธรรมะไม่ใช่ธรรมะ แต่จะเข้าถึงรู้ตรงนี้ก็ต้องไม่มีคนอื่น คือการขัดเกลาไม่ได้ขัดคนอื่น ที่อื่นนอกจากใจของเรา เพราะว่าความโกรธ ความโลภ ความหลง มีอยู่ในใจเราพร้อม ถ้าเรารู้ว่าคิดเองโกรธเอง เลิกคิดเองหายโกรธเอง แล้วเราจะหลงไปพึ่งใครอื่น นอกจากพึ่งตัวเอง จึงจะตรงกับที่ว่า อัตตาหิ อัตตะโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งของตน สมดั่งที่พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนไว้ นี้เรียกว่ารู้เบื้องต้น ต่อไปท่ามกลางและเบื้องปลาย ก็จะตามมาโดยลำดับ ทำที่ตนเอง ให้รู้ที่ตนเองก่อน จึงค่อยๆ แผ่ขยายออกไป ใช่ว่าจะให้เขาเป็นก่อน รู้ก่อน อันนี้ไม่ถูก ถ้ามีคนอื่นอยู่ก็ไม่พ้นการเปรียบเทียบ ก็ไม่พ้นทิฏฐิมานะ ก็ไม่เห็นใจตนของตนอยู่นั้นนั่นเอง
อาศรมไผ่มรกต.com

 

๐ ธรรมในพุทธศาสนา ต้องถูกกระทบก่อนจึงจักเป็นของจริง
อุปสรรคของการปฏิบัติธรรมอยู่ที่กายเรา คือ ขันธมาร และอยู่ที่จิตเรา คือ กิเลสมาร
ผู้มีปัญญาท่านใช้มารทั้ง ๒ เป็นเครื่ิองทดสอบอารมณ์จิตได้อย่างดี

๐ ธรรมเนียมของคนไทย เมื่อพบกันมักถามว่า สบายดีหรือ
หากตอบว่าสบายดี ก็สอบตกทุกคนเพราะคนมีร่างกายมันมีแต่ทุกข์
ทุกข์มากหรือทุกข์น้อยเท่านั้น โดยเฉพาะโรคหิวกำเริบมีกันทุกคน
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ชิคัทฉา ปรมาโรคา ความหิวเป็นโรคอย่างยิ่ง
(โรคา แปลว่า เสียดแทง)

๐ โลกทั้งโลกไม่มีอะไรสุขจริง นี่ คือ อริยสัจของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
ต่างบรรลุธรรมเป็นพระพุทธเจ้าได้ด้วยอริยสัจ ๔ และพระอรหันต์สาวก
ของพระองค์ทุกองค์ ก็บรรลุธรรมจบกิจเป็นพระอรหันต์ได้ก็ด้วย อริยสัจ
มีทางนี้ทางเดียว ทางอื่นไม่มี นักปฏิบัติธรรมจึงไม่มีใครทิ้ง อริยสัจ

(พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง)
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ที่มาข้อมูล
ธรรมนำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๖

 

หลวงพ่อชา


ลูกขอน้อมกราบหลวงปู่ชาด้วยเศียรเกล้า และพระสงฆ์สาวกของท่านทุกๆรูปค่ะ หลวงปู่ชาเป็นพระที่ปฏิบัติ ปฏิบัติชอบ เพราะท่านเห็นธรรม รู้ธรรมตาม พระพุทธเจ้า ท่านสอนคนอีสานที่เป็นภาษาธรรม แบบง่ายๆ เพราะคนอีสานก็จะได้เข้าใจง่าย เพราะเป็นภาษาธรรม ที่เป็นธรรมชาติ ท่านจะสอนเป็นภาษาเปรียบเทียบมากกว่า เพราะฟังแล้วไม่ต้องแปล และไม่บังคับ ไม่ฝืนใจคน ผู้จะรับเขาก็รับและเข้าใจเอง..เพราะธรรมก็ต้องรู้เอง..เห็นเอง หลวงพ่อชาท่านจึงสอนภาษาจิต ภาษาใจ ท่านสอนฝรั่งองค์ แรกคือ หลวงพ่อสุเมโท ท่านเป็นชาวอเมริกา ที่ถูกสอนมาแบบทุกๆอย่างต้องเป็นแบบใจต้องการ โดยไม่ถูกฝึกจิตมาก่อน ท่านก็มาสอนให้ดูจิต เพราะท่านหลวงพ่อชาเทศน์เป็นภาษาลาว ส่วนหลวงพ่อสุเมโท ฟังลาวไม่ออก และจะขออนุญาติกลับไปภาวนา ที่กุฏิ แต่หลวงพ่อไม่ยอม ท่านก็ไม่พอใจ หลวงปู่ชา ท่านก็รู้ บอกสุเมโท ดูใจชิ ตอนนี้เป็นอย่างไร? ท่านก็ทั้งโกธร ทั้งโมโห เพราะท่านไม่ได้ดั่งใจ หลวงพ่อชาท่านก็รู้หมด ให้ดูใจ นานๆเข้าหลวงพ่อสุเมโท รู้รู้ใจตนเอง..แล้วเกิดความรัก เคารพในตัวของหลวงพ่อชา อย่างมาก ต้องการอยู่ใกล้ คอยรับใช้ท่าน และก็มีญาติโยมมาถามหลวงพ่อชามากมาย ว่าสอนฝรั่งได้อย่างไร? ท่านก็บอกว่า แล้วนํ้าร้อนนั้น เอามือไปจับ ทุกๆคนก็รู้ว่านํ้านั้นร้อนเหมือนกัน ไม่จําเป็นจะเป็นฝรั่ง จะเป็นไทย จะเป็นลาว ก็ร้อนเหมือนกันใช่ไหม? นั้นเป็นธรรมชาติของทุกๆคนนั้นเอง..สาธุค่ะ







หลวงพ่อชา

 

"คติธรรมหลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ "

...เราไม่รู้หรอกว่า เราเคยทำกรรมอะไรมาบ้างในอดีด...

...แต่หากวันนี้ใครกำลังทุกข์ ก็คิดเสียว่า นี่จะเป็นชาติสุดท้ายที่เราจะทุกข์...

...เพราะต่อจากนี้ไป เราจะสร้างคุณงามความดีไว้เป็นทุน...

...เพื่อวันข้างหน้า เราก็จะได้รับแด่ผลของความดี ที่เราได้ทำมา...

...อย่าน้อยใจกับโชคชะตา...ใคร...จะใหญ่เกินกว่ากรรม.

...น้อมกราบพระธรรมของหลวงตาม้า และน้อมกราบหลวงตาม้าด้วยเศียรเก้ลากราบๆๆ

 

"มรดกธรรมหลวงพ่อปัญญานันทะ"

(อุปมาอุปมัยธรรม)

...พระพุทธเจ้า..ได้ตรัสบอกว่า...อย่าไปเชื่อง่าย ๆ อย่าเชื่องมงาย...

...ให้เชื่อด้วยการคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ...เช่นไม่ให้เชื่อข่าวลือ...

...ไม่ไปเชื่อว่าอย่างนั้น อย่างนี้...ไม่ให้ไปเชื่อว่าคนนี้พูดเก่ง คนนี้ต้องเชื่อไม่ให้เชื่อ

- ว่าคนนี้เป็นครูอาจารย์ของเรา พูดอะไรเราก็เชื่อไปหมด...มันก็ไม่ได้เรื่องทั้งนั้นเราจะ

- ต้องเอาไปกรองหลายชั้น...กรองให้เหลือแต่เนื้อแท้ ๆ เหมือกับกรองน้ำกะทิ...

...ถ้ากระชอนมันห่าง มันก็มีกากติดเข้าไป...

...น้อมกราบพระธรรม ของพระพุทธองค์ และน้อมกราบหลวงพ่อปัญญากราบๆๆๆเจ้าค่ะ

 

รู้ ทั น ก ร ร ม !!

​

 

​

 

​

 

พี่ๆ ครับ ผมอยากจะฝึกวิชาจิตเกาะพระบ้างต้องทำอย่างไรบ้างครับ

 

ธรรมะสดๆ ประจำวันนี้ ....

ตามหา มรรค ผล นิพพาน อยู่ที่ใด?

ไม่มีใครมาทำให้เราทุกข์จริงๆหรอก ไม่มีใครมาทำให้เราเสียกำลังใจหรอก
มีแต่เราเท่านั้นเองแหล่ะ ที่เรากำลังรับรู้หรือแปลความตามอารมณ์ใจเอาเอง
ผู้ไม่รู้ ไม่เข้าใจคือตามไม่ทันอารมณ์จิตของตนเองเป็นหลักนั่นเอง
เมื่อเข้าใจจิตตนเองแล้ว ย่อมเข้าใจธรรมชาติ ธรรมดา ธรรมะ หรือไตรลักษณ์ อริสัจจ์ เป็นต้น

เพราะฉะนั้น นักภาวนาที่ดีจะต้องมีวินัยเป็นของตนเอง คือพยายามดูจิต สนใจแต่เรื่องจิตตนเอง
ผู้ที่เดินมรรคตรง ถูกทาง เพราะเน้นดูจิตคือดูอารมณ์จิตเฉพาะตนเอง
คำว่า ผลหรือนิพพาน มันอยู่ไกลสักทีไหนเล่า มันอยู่ที่ตัว อยู่ที่ใจของเราเองทั้งนั้น
มัวแต่เดินไปเล่นไป เมื่อไหร่จะถึงบ้าน เมื่อไหร่จะถึงนิพพานของเราสักทีนึง

สิ่งที่มนุษย์ว่า สวยงามทางโลกคือสวยเฉพาะนอกจิตตนนั้น ท่านแน่ใจหรือว่ามันสวยจริง
สวยยั่งยืนจริงๆ จะไปสู้ความสวยภายใน คือจิตตนเองได้หรือ ลองคิดดูเอาเอง
ถ้าสวยจริงดีจริง แล้วทำไมพระพุทธเจ้า พระอรหันต์จึงไม่ยินดีเล่า
คนดีจริงเขาพากันปฎิบัติตามพระพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้าเหล่านั้น

เพราะฉะนั้น ธรรมคือของจริง จะต้องดูที่จิตตนเป็นหลัก
เพราะคำว่า มรรคผลนิพพานของตนนั้นก็อยู่ที่ภายใน คือจิตตนเอง
สำหรับผู้ที่นิยมดูอย่าง มิใช่ดูจิตตนเป็นหลัก ไม่ต้องไปสงสัยตนเองเลยว่า ทำไม ?...
ไม่เจริญในธรรมเท่าที่ควร เพราะก็เรามัวแต่ไปสนใจสิ่งที่มิใช่ธรรมจริงๆ
โดยเฉพาะนักภาวนา อย่าสนใจจริยาผู้อื่น

ผู้ที่เดินตามพระพุทธองค์ย่อมพบผล คือมีพระนิพพานเป็นที่ตั้ง เป็นที่ไป เป็นที่จุติ
เพราะฉะนั้น เราๆท่านๆ หรือผู้ที่ยังไม่หลุดพ้นจริง อย่าไปเชื่อตนมากนัก อย่าไปยึดตนเป็นหลัก
แต่ให้ ยึดพระรัตนตรัย คือแก้วสามประการของตนเองแทน
ถ้าผู้ปฎิบัติสามารถเข้าถึงพระรัตนตรัยแล้วย่อมมีพระมาสอนภายในแน่นอน
เมื่อสอนแล้วก็อย่าไปดีอกดีใจ พยายามสำรวมจิตตนให้มั่น
ขอย้ำเรื่อง อารมณ์ ธรรมารมณ์ของตนให้มาก เพราะในที่สุดแล้ว
ผู้เจริญหรือผู้ปฎิบัติธรรมทั้งหลาย ย่อมไม่เอาทั้งรูปนาม หรือขันธ์๕ตนเอง
ถึงจะเป็นผู้ที่หลุดพ้นจริงๆ ตามที่พระท่านสอนต่อๆกันมานั้น สาธุ...

ภูทยานฌาน

 

สวัสดีค่ะ คุณ chart2k... ยินดีต้อนรับค่ะ เพิ่งแวะมากระทู้นี้หรือคะ หรือว่าใครแนะนำมาเอ่ย? ...คำว่า อยากจะฝึกวิชาจิตเกาะพระ เนี่ย ...บอกได้มั้ยว่า เป็นแค่อารมณ์ ความอยากธรรมดา รู้สึกคล้อยตามผู้อื่น หรือว่า รู้จักกระทู้นี้แล้วเกิดศรัทธาอยากฝึก แบบว่าปรารถนาหาทาง มานานแล้วคะ?

...ตั้งคำถามมาว่า ต้องทำอย่างไรบ้าง?

เอ๊า ...ตรวจสอบจิตตนเองดังนี้ ก่อนค่ะ ว่ามีคุณสมบัติพร้อมหรือเปล่า?

1.ศรัทธาในพระรัตนตรัย มากน้อยแค่ไหน?
2.ช่วยตามหาศรัทธาในพระนิพพานด้วยว่ามีอยู่ในจิตของท่านไหม
ถ้าไม่มีก็จงหยุดอยู่แค่ข้อนี้....
3.ศีล5 ข้อครบถ้วนเป็นปกติมั้ย? ...
ถ้ามีลังเลในคำตอบแรกในจิต...ค่อยแวะมาใหม่นะคะ

*-*-*-*-*-

 

กราบสวัสดีทุกๆท่านครับ คือผมได้ดูรายการทีวีคนอวดผี แล้วมีช่วงหนึ่งผู้ดำเนินรายการถามว่าหากน้องของคุณที่ตายไปมายืนอยู่ตรงคุณจะพูดอะไรกับเขาไหมครับ ผู้หญิงที่เป็นพี่สาวตอบว่าขอให้ชาติหน้าเราเกิดมาเป็นพี่น้องกันอีกนะ แว๊บหนึ่งใจจิตผมบอกมาว่าทำไมเขาไม่พูดว่าขอให้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายที่เราต้องเกิดมาพบกับความทุกข์ ทำไมมีแต่คนบอกขอให้ชาติหน้าให้ได้เกิดมาเป็นพี่เป็นน้อง เป็นพ่อลูกกันอีกแล้วก็ร้องไห้กัน เฮ้อ...

 

คือผมอยากฝึกมานานแล้วครับ แล้วมีคนแนะนำให้เข้ามาให้ห้องนี้ว่ามีพี่ๆ คอยให้คำแนะนำได้ผมเลยลองเข้ามาถามพี่ๆ ดูครับ
1. ผมมีความศรัทธาให้พระรัตนตรัย เต็มร้อยครับ
2. มีความปราถนานิพพานอยู่ครับ และจะทำให้กิเลสเบาบางลงครับให้มากที่สุดให้ชาตินี้ครับ
3. พยายามจะทำให้ศิล 5 ครบถ้วน บางครั้งอาจเผลอไปบ้างแต่ก็พยายามครับ
ขอคำแนะนำด้วยครับพี่ๆ

 

โมทนาสาธุกับจิตคุณด้วยครับ ที่คิดได้แบบนั้น
นั่นก็แสดงว่า คุณเห็นธรรมบ้างแล้ว พยายามทำเพื่อหลุดพ้น ต่อไป สาธุ

คำตอบง่ายๆ ก็คือ ถ้าบุคคลใดหรือใครก็ตาม ที่พูดแบบนั้น
แสดงว่า จิตยังหลงอยู่มาก แต่ก็น่าเห็นอก เห็นใจ เพราะความไม่รู้คือต้นเหตุ

แต่ถ้าจิตผู้ใดเป็นดั่ง..พระอริยเจ้าหรือพระอรหันตเจ้า คงไม่มีใครคิดหรือพูดอย่างนั้น แน่นอน
เพราะเห็นธรรมดั่ง..พระพุทธเจ้า นั่นเอง

ใครก็ตาม ถ้าได้มีโอกาสปฎิบัติธรรม ก็พอจะเข้าใจธรรม เข้าถึงธรรมบ้าง

สรุปแล้ว ถ้าเรายังไปยึดอะไรก็ตาม นั่นแสดงว่า จิตผู้นั้น ยังไม่ปล่อยวางหรือปล่อยวางไม่เป็น

ผมในฐานะนักภาวนาคนนึง คนธรรมดาๆเท่านั้นเอง
ขออวยพรให้ทุกท่าน ทุกดวงจิต มีโอกาสปฎิบัติธรรม มีดวงตาเห็นธรรม
คือเห็นตามความเป็นจริงดั่ง..พระพุทธเจ้า พระสงฆ์สาวกฯด้วยเทอญ สาธุ

 

สวัสดีค่ะ คุณ chart2k ขออนุโมทนาสาธุ ในจิตอันเป็นกุศลด้วยค่ะ
บังเอิญว่าตอนนี้ครูพี่แนท ติดขัดเรื่องการย้ายสัญญาณ Internet ใหม่
อาจใช้เวลาอีกประมาณ 1 อาทิตย์ จึงจะกลับมาใช้ Net ได้อีกครั้ง

หากคุณสนใจจะฝึกวิชา "จิตเกาะพระ" จริงๆ
ก่อนอื่นขอแนะนำให้ รักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ ได้อย่างมั่นคงเสียก่อนค่ะ
คุณ chart2k ลองไปฝึกรักษาศีล 5 ดูก่อนนะค่ะ ขอแบบไม่ให้ด่างพร้อย
สักประมาณ 2 อาทิตย์แล้วกลับมาว่ากันใหม่นะค่ะ
(ถึงเวลานั้นครูพี่แนทก็กลับมาแล้วล่ะค่ะ)

โมทนาสาธุ ค่ะ
พี่ดาว

 

จะพยายามดูนะครับ ขออนุโมทนาสาธุกับพี่่ดาวและทุกๆท่านด้วยครับ

 

​

 

​

 

น้องทำได้แน่นอนค่ะหากมีความตั้งใจจริง หากเผลอไปก็ให้อภัยตัวเอง อย่าไปเพ่งโทษตนเอง หากตั้งใจจริงความเผลอจะหายไป อนุโมทนาค่ะ