อาการแบบนี้แปลว่าอะไรคะ เหมือนกายละเอียดกำลังจะฝึกสมาธิเอง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย pongpongu, 1 มีนาคม 2014.

  1. pongpongu

    pongpongu สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +7
    สวัสดีค่ะ ดิฉันใหม่ต่อเวบบอร์ดนี้ แต่ขอรบกวนถามนิดนึงค่ะ

    หลายวันมานี้ดิฉันใช้เวลาหมดไปกับการนอนหลับและการฝันค่ะ ก็ไม่ทราบว่าทำไมถึงต้องนอนนานขนาดนั้น แต่แต่ละครั้งที่ฝันก็มีการบอกข้อมูลอะไรบางอย่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งไปกว่านั้นสองสามวันนี้ดิฉันเริ่มมีอาการแปลกๆดังนี้

    ในระหว่างกึ่งหลับกึ่งตื่น รู้สึกได้ว่าวิญญาณ (หรือกายละเอียด) มีการขยับเขยื้อนเองโดยเหมือนมีคนดึงแขนขา หลังจากนั้นก็มีการพยายามบอกให้ดิฉันใช้พลังจิต ยกแขนของตัวเองขึ้นมา ซึ่งยกขึ้น (เป็นแขนกายละเอียดนะคะ ไม่ใช่แขนจริงๆ) พอลองปล่อยดู การตกของแขนก็จะไม่ตกแบบหล่นตุ๊บลงไปเลย แต่ค่อยๆแกว่งลง คือการร่วงหล่นไม่เหมือนของหล่นบนพื้น

    หลังจากนั้นก็ตื่นขึ้นและพบว่าเมื่อสักครู่ แค่ฝันไป แต่ไม่ใช่เพียงฝันแน่ๆ เพราะมีการบอกข้อมูลว่า ดิฉันมีพลังจิต

    หลังจากนั้นหนึ่งวัน ก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวระหว่างหลับและตื่น เป็นการลองขยับแขนและขา (ในกายละเอียดอีกเหมือนกัน)

    วันต่อมา มีการพลิกตัว ขยับ โยกหัว พอจบการกายบริหาร ก็มีเพลงของพระแม่อุมาปรากฏขึ้น และเห็นเป็นภาพหิ้งของท่าน (ดิฉันไม่ได้ไหว้ท่านนานแล้ว ประมาณ 3-4 เดือน และทิ้งของท่านไว้บนหิ้ง ท่านคงจะมาเตือนให้รับไปบูชาต่อ)

    หลังจากนั้น วันนี้เองที่ระหว่างกึ่งหลับกึ่งตื่น ดิฉันก็ลองแขนขึ้นมาสองข้าง และวัดแรงดึงดูดแบบลูกบอล (แบบที่เขาฝึกพลังจิตเบื้องต้น) ปรากฏว่าพลังที่อยู่ระหว่างสองฝ่ามือนั้นแรงมาก แทบจะง้างมือไม่ออกเลย เป็นแรงดึงดูดแม่เหล็กที่แรงมาก ในใจคิดว่า ฝึกพลังจิตสำเร็จแล้ว

    พอตื่นขึ้น พบว่าที่ผ่านมาเราฝึกในความกึ่งฝันกึ่งตื่น ไม่ใช่มิติที่ 3 จากน้ันจึงลองฝึกดูในมิติที่ 3 (ฝึกกับกายหยาบ) ปรากฏว่าไม่รู้สึกอะไรมาก เนื่องจากร่างกายในกายหยาบนี้ พลังอ่อนแรงมาก เพราะอากาศร้อน และอาหารที่มีธาตุไฟผสม

    จึงอยากเรียนถามท่านๆผู้รู้ทั้งหลายในเวบบอร์ดนี้ว่า ที่ดิฉันประสบคือ การอยู่ในระหว่างการเหลื่อมซ้อนของมิติใช่หรือไม่ ดิฉันไม่สามารถเห็นหรือรับรู้ในมิติ 3 ได้ จะรับได้ต่อเมื่อเข้ามิติ ที่ 4 หรือเหลื่อมๆ ในช่วงกึ่งหลับกึ่งตื่นเท่านั้น จึงอยากถามว่า ที่เป็นอยู่นี้คืออะไร ใครพอมีประสบการณ์เหมือนๆกัน หรือคำแนะนำเบื้องต้นที่พอจะสามารถนำความสามารถนี้ไปพัฒนาได้ ก็ขอคำแนะนำด้วยนะคะ

    ขอบคุณมากค่ะ :cool:
     
  2. pongpongu

    pongpongu สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +7
    อ้อ มีวันนึง มีผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มคนที่แต่งตัวเหมือนมนุษย์หิน เข้ามาบอกเกี่ยวกับดนตรี และการเข้าสู่ยุค New Age เราจะได้รับพลังงานจักรวาลเพิ่มขึ้นค่ะ
     
  3. ที่ว่าง

    ที่ว่าง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +8
    เข้ามาอ่านเฉยๆครับ ไม่มีภูมิรู้ด้านนี้เลย ถ้าเชื่อเรื่องวัฏฏะ การผ่านการเดินทางของหนึ่งดวงจิตนั้นไม่อาจนับได้ ณ แรงกรรมที่เกื้อหนุนและแรงบุญเป็นที่ตั้งเกาะเกี่ยวกันได้เกิดในภพภูมิมนุษย์นั้นมีร้อยแปด รวมถึงสิ่งที่ยังติดมาของแต่ละผู้แต่ละนามก็มีแตกต่างกันเช่นกัน ไม่เกินเลย ไม่เหนือครูบาอาจารย์ ไม่เหนือองค์พ่อสัมมาสัมพุทธเจ้า แค่นั้นครับ นอกเหนือจากนี้เป็นของฝากของแถม ลายมือในมือตัวไม่มีใครเห็นชัดกว่าเราเองนะครับ..
     
  4. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    วิจิกิจฉา กับสาริกาลิ้น
     
  5. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ไม่มีทางที่ไสยเวท จะสนับสนุน การภาวนาในพระพุทธศาสนา
    มีแค่เป็นอุทาหรณ์ เข็ด หายสงสัย เป็นได้แค้นั้น
    แต่นั้นก็เป็นผลจากการยอมรับว่า ธรรมารมณ์นั้นๆ
    คือทุกข์ อริยะสัจจะ

    ใครหวังว่า ไสนเวทจะสนับสนุน การบำเพ็ญภาวนาแบบพุทธ
    เป็นควาทดห็นที่ พลาด ปิดประตูจะกลับ มาภาวนาได้
    ไสยเวท ทำลายการบำเพ็ญภาวนา ในแนวทางพุทธในทุก มิติ
    คือการประกาศตัวเป็นปรปักษ์กับพระพุทธ อย่างร้ายกาจ
     
  6. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    ประจุลบ-บวกในตัวน่าจะเยอะไปนะจึงเกิดแรงดึงดูดขนาดนั้น ผ่อนคลายบ้างนะ
     
  7. jesdath

    jesdath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    3,209
    ค่าพลัง:
    +1,279
    บังคับกายทิพย์ได่แล้ว ยินดีด้วยครับ พัฒนาๆไปได้
     
  8. teww

    teww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +1,534
    อาการแบบนี้แปลว่าอะไรคะ เหมือนกายละเอียดกำลังจะฝึกสมาธิเอง

    กายละเอียดฝึกสมาธิเองไม่ได้หรอกค่ะ ต้องกาบหยาบคือตัวเรานี่แหละที่กำลังหายใจอยู่นั่งสมาธิ กายละเอียดซึ่งเป็นกายซ้อนกายเราหรือกายในกายอีกทีจึงจะนั่งตามไปด้วย

    ที่หลับแล้วฝันแบบนั้นก็อย่าไปสนใจ หากกายมนุษย์หรือตัวเรานี่แหละที่กำลังหายใจอยู่ไม่สามารถทำตามที่ฝันนั้นได้ จะทำให้ติดข้องอยู่แค่นั้น

    นอนแล้วมีใครมาดึงแขนดึงขาให้ลุกให้ตื่น ก็คงพวกญาติๆของคุณที่ตายไปแล้ว เค้าว่างจัดไม่มีอะไรทำเลยมาล้อเล่น ก็อยู่ที่ตัวเรานั่นแหละจะให้เขามารบกวนเราเวลานอนหรือเปล่า ถ้าอยากก็แล้วไป ถ้าไม่อยาก มาอีกก็ถามไปเลย สองตัว สามตัว ล่างบนออกอะไร ถามบ่อยๆเค้าจะไม่มาเอง..
     
  9. จักระที่ 7

    จักระที่ 7 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +4
    เห็นด้วยครับ กายละเอียดฝึกสมาธิเองไม่ได้แน่ กายหยาบนี่แหละได้แน่ ส่วนการฝันนี่อย่าไปใส่ใจมาก อาหารและน้ำไม่สมดุลก็ฝัน คิดซ้ำๆเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ฝัน ฝึกในกายหยาบนี่แหละได้ผลและดีที่สุดแล้ว อ้อ ปรึกษาครูบาอาจารย์บ้างก็ดีนะครับ อย่ามัวแต่นอนรอฝันให้กายทิพย์ออก...
     
  10. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    มืดแล้ว ไม่มีเวลาใช้วิชา"จิตวิเคราะห์เขี่ยคุ้ย ของทอดมันด์ ฟรอยด์"
    ขอแนะนำเบื้องต้นนะครับ จากเบาะแสที่ให้มาเพียงเล็กน้อย ที่พระแม่อุมาให้มา
    จัดบูชาท่านเลยครับ ทำให้ดีที่สุด เท่าที่จะค้นหาวิธีมาได้ แล้วท่านจะมาบอกให้เองครับ

    เดาเอานะครับ อย่าเชื่อจนหมดใจล่ะ ขอบอก 555


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  11. SP6580

    SP6580 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +1,551
    ใบไม้นอกกำมือพระพุทธเจ้ายังมีทั้งป่าน่ะครับ แต่ที่เราได้ยินได้ฟังกันตามพระไตรปิฎก นี้แค่ภายในกำมือของพระองค์ ใกล้นิพพานที่สุดแล้ว ไม่เสียเวลามาก พระองค์จึงนำมาสอน แต่ที่พระองค์ไม่ทรงสอนเพราะเห็นว่าเสียเวลา ผมคิดว่ามีมากมาย
     
  12. deep listening

    deep listening เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +536
    หางานทำนะครับ
    ทำงานเป็นการปฏิบัติธรรม ทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น

    ถ้าจะฝึกสมาธิ ก็อย่ามั่วเอง
    ให้เข้าหาพระเพื่อขอกรรมฐาน
    ลองไปเองจะช้า และอันตราย
    เสียดายเวลาทำประโยชน์เปล่าๆ
    เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เข้าสู่เส้นทางการทำบารมีได้แล้ว
    ขอเป็นกำลังใจให้จ้า
     
  13. ราชันลาง

    ราชันลาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +431
    ลองทำสมาธิกับกายละเอียดให้นิ่งและสวดมนต์บ่อยๆจะทำให้พลังงานในตัวค่อยๆปรับสมดุลย์ทำให้อาการที่น่ากลัวค่อยๆทุเลาลง และอย่ายึดติดกับพลังให้มากแต่จงใช้ธรรมะให้มากคอยช่วยเหลือผู้ที่ไม่รู้ให้รู้ด้วยสมาธิของเรา ที่เรามีพลังจิตได้ก็เพราะบุญเกิดได้ก็เพราะบุญเพราะฉะนั้นคุณต้องควบคุมพลังได้ด้วยบุญบารมีอันเกิดจากสมาธิ ความนิ่ง การสวดมนต์อื่นๆอีกมากที่เรียกว่าความดี ไม่ใช่การยึดติดนะครับ เพราะการจะยึดติดกับพลังกลัวนู่นกลัวนี่อาจจะทำให้หนักจนถึงขั้นเป็นบ้าไปเลยก็ได้หรือมีบางรายอาจจะไปสู่มิติอื่นทิ้งไว้กายหยาบ จงใช้พลังจิตเพื่อช่วยผู้อื่นด้วยธรรมะและความนิ่ง และบอกผลสำเร็จให้ผู้มีพลังแต่ยังใช้ไม่เป็นด้วยนะ ถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไง ลองแอดเฟสมาหาผมนะหรือPMมาหาผมก็ได้ แต่ส่วนมากจะเล่นเฟส คือผมรับปรึกษาสัมผัสที่6ด้วยนะครับ

    https://www.facebook.com/groups/1417730511832804/ เฟสผมครับ บุญจึงทำให้เราเจอกันนะครับ โชคดีครับ

    คุณสามารถช่วยคนได้ ถ้าคุณควบคุมพลังในตัวนะครับคึนรุ่นหลังอีกมากจะมาภายหลังเมื่อคุณควบคุมมันได้ นี่คือวิธีการสร้างบุญอีกทางนะครับ
     
  14. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ขออภัยนะขอรับ ขอตอบตามประสบการณ์ของข้าพเจ้าเองเลยนะขอรับ เพราะตัวข้าพเจ้าในสมัยเมื่ออายุไม่เกิน 45 ปี ข้าพเจ้าก็นอนนานและชอบนอน เพราะบางครั้ง ไม่ได้นอนหลับ หลายๆวันก็มี
    การที่บุคคลใดใดนอนมากเกินไป จะทำให้ระบบเส้นประสาททำงานผิดปกติ บางครั้งจะมีอาการชาไปทั่วร่าง ทำให้รู้สึกเหมือนมีกายละเอียดอย่างที่คุณเล่ามานั่นแหละ
    สิ่งที่คุณเล่าอาการมา ก็เป็นเพียงระบบการทำงานของร่างกาย ที่คุณนอนหลับแต่สมองของคุณไม่ได้หลับตามยังคงทำงานอยู่เพราะคุณนอนเกินความต้องการของร่างกาย ดังนั้นร่างกายและความรู้สึกอาจหลับ แต่สมองบางส่วนยังคงทำงานตามปกติ ซึ่งถ้าหากจะกล่าวตาม "ผลแห่งการปฏิบัติตามหลักพุทธศาสนา" ก็เรียกว่า คุณเกิด วิตก วิจารณ์ ปีติ สุข ตามความต้องการส่วนลึกที่คุณอาจจะไม่สามารถรับรู้ได้ แต่คุณเคยหวัง เคยพบเห็น เคยต้องการ
    ถ้าคุณเป็นคนชอบนอนหลับมากๆ พัฒนาไม่ได้ขอรับ เพราะการนอนหลับเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของการปฏิบัติ เพราะคุณไม่สามารถคิดพิจารณาด้วยความมีสติสัมปชัญญะ แต่คุณจะคิดพิจารณาไปตามความต้องการของคุณ จะเรียกว่า เพ้อเจ้อไปตามความต้องการ ความอยาก ความเคยหวัง ก็ว่าได้ขอรับ
     
  15. pb0110

    pb0110 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +2
    น่าจะตามนั้น เปลี่ยนเป็นปฎิบัติจริงๆจังๆ แล้วลองเปรียบเทียบดูนะ...
     
  16. L-Walkers

    L-Walkers เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2013
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +176
    เป็นอาการของ Light worker
     
  17. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ขอแสดงความเห็นนิดหนึ่งนะครับ.ค่อยๆอ่านก่อนนะครับ.ทั้งเจ้าของกระทู้
    และผู้ที่อาจจะยังไม่มีประสบการณ์ครับ..อ่านกิริยาที่เกิดขึ้นกับเจ้าของกระทู้
    จริงๆไม่มีอะไรเสียหายหรือว่าเข้าใจอะไรผิดตอนนี้หรอกครับ.เพียงแต่
    อาจยังไม่เข้าใจวิธีการและรูปแบบภาพรวมการฝึกในแนวทางที่ตนเอง
    พบเจอครับ..และกิริยาแบบนี้น้อยคนมากครับที่จะประสบพบเจอ.และบุคคล
    ที่เจอกิริยาแบบนี้.มีโอกาสพัฒนาความสามารถทางจิตไปถึงขั้นบุญฤิทธิ์
    ได้ทุกๆคนด้วยครับ.เรียกว่าเชื่อมกับภายนอกได้จากพลังงานภายในตน
    พวกนี้จะต้องข้ามเรื่องการเห็นเป็นภาพครับเพราะภาพยังอยู่
    ภายใต้สัญญาการปรุงแต่งอยู่.แต่ก็มีบางมุมที่ควรจะต้องระวังให้ดี
    เพื่อป้องกันการชงักหรือการปฏิบัติต่อยอด
    ในแนวทางของตนเองครับ...

    กิริยาอย่างนี้มักจะเกิดกับบุคคลที่เดินมาสายอภิญญาภายนอกครับ(คือเป็น
    บุคคลที่สามารถ เรียก รับ เอาพลังงานจากภายนอกและภายในของตนเอง
    แล้วสามารถ ดึงขึ้นมา สร้างให้เข็มแข็งขึ้น.ตลอดจนสามารถส่งออก
    หรือทำให้บุคคลอื่นๆรับรู้หรือว่าสัมผัสได้นั่นเองครับ)

    บางคนเน้นไปทาง ศีล สมาธิ ปัญญา บางคนเน้นไปทางช่วยรักษาคน
    ซึ่งก็สุดแล้วแต่จริตครับ...
    หลายๆคนที่ชำนาญแล้วเค้านั่งอยู่กับที่ เพียงแค่นึกปลายทางออก เค้าก็ช่วยรักษาโรคให้คนได้
    ช่วยคนในเรื่องที่โดนคุณไสย์ได้.หรือช่วยคนโดนพลังงานไม่ดีแอบแฝงได้หมด
    เพียงแต่ด้วยลักษณะนิสัยที่เป็นบุคคลที่ชอบทำงานอยู่เบื้องหลังจึง
    มักจะไม่ค่อยแสดงตนเท่าไร..
    ส่วนตัวเคยเจอจอมยุทธที่เชื่อมเก่งๆนะครับ..
    เรียกว่ารู้ทุกเรื่องที่คุณอยากรู้.เพราะเค้าสามารถเชื่อม
    มิติต่างๆได้.คล้ายหาแหล่งข้อมูลองค์ความรู้ได้นั้นหละครับ
    มันเป็นวาสนาบารมีที่เค้าได้เคยสะสมมาในอดีตชาติกับจิต
    ที่อยู่กายของเค้า ณ เวลานี้นั่นเองครับ.


    กิริยาที่ตาเราเห็นกายละเอียดของตัวเองได้..หรือรับรู้คลื่นพลังงานระหว่างมือตัวเอง
    ทั้งสองได้นั้น.เป็นเรื่องปกติธรรมดามากครับสำหรับคนมาทางสายนี้
    ..ใจเย็นๆกันนะครับ..ค่อยๆอ่านจะอธิบายให้ฟัง.ในบางประเด็นที่บอกว่ากายละเอียด
    เรานั้นฝึกสมาธิไม่ได้.ถ้าเราเข้าใจว่า.เราถอดกายออกมาแล้วกายละเอียดเรามาฝึก
    สมาธิต่อนั้นก็สามารถทำได้ครับ..อย่างในกรณีบางคนมีครูบาร์อาจารย์ทางภพภูมิแล้ว
    ท่านดึงกายละเอียดของเราให้ไปฝึกอยู่ในสถานที่ของท่าน..แบบนี้พวกมาทางสายวิชา
    พิเศษจะเจอเป็นปกติครับ.และจะเหมือนว่าจิตเราอยู่ที่กายละเอียดนั้นจริงๆ

    ..อีกกรณีหนึ่งก็คือ ให้จิตของเราสร้างภาพขึ้นมาเป็นตัวเอง
    หรือว่าเป็นอะไรก็ได้ครับ.เช่นภาพกสิณ ภาพพระ
    แล้วบังคับให้ภาพนั้นมีการเคลื่อนไหวได้..
    เป็นเสมือนการออกกำลังกายใจจิต..
    สิ่งที่เราได้มาก็คือกำลังจิตและเป็นประเด็นกิริยา
    ที่เกิดกับจากของกระทู้นี่หละครับ..
    ให้สังเกตุว่า แม้เราจะเห็นกายละเอียด
    แต่ว่าเหมือนว่ากายนั้นมันไม่ใช่ตัวเรานั่นหละครับ.
    .หลักๆก็คือจิตเราเป็นคนสร้างมันขึ้นมานั่นเองครับ
    เรียกง่ายๆว่าเหมือนเรายังต้องดูอยู่.
    แต่เราควรต้องรู้และไปให้ถูกทางครับ..


    ประเด็นเรื่องพลังงาน.เป็นการเชื่อมในส่วนของธาตุทั้ง ๔ ที่ประกอบเป็นตัวเรา
    เป็นในส่วนของรูปแบบพลังงานคลื่นความถี่แล้วครับ.จะสามารถรับรู้และสัมผัส
    ได้ดีหากว่ามีประจุไฟ้ฟ้ามาเกี่ยวข้อง..การที่เป็นเส้นๆนั้นหละครับคือคลื่น.ส่วน
    ที่มันหมุนติ้วๆเป็นวงกลมได้ก็คือมีประจุไฟฟ้ามารวมกับคลื่นมันก็เลยหมุนได้..
    .ความเร็วในการหมุนขึ้นอยู่กับระดับปริมาณน้ำในสมอง.ความหนาแน่นขึ้นอยู่
    กับประจุไฟฟ้าที่มีอยู่ในเส้นเลือดดำของเราและก็การเชื่อมแหล่งพลังงานภายนอก
    คนที่มีปริมาณเส้นเลือดดำเยอะจะสัมผัสเรื่องแบบนี้ได้ดีเช่น ไปเตะโดนเหล็กหรือ
    โลหะแล้วเกิดอาการไฟฟ้าซ๊อตแป๊บๆนั่นหละครับ.

    ซึ่งยิ่งมีมากในเลือดเท่าไร.ความสามารถในการรับรู้เรื่องพลังงานก็จะสูงตามมา.
    พวกที่เป็นเซียนทั้งหลายแหล่ จะมีประจุไฟฟ้าในเลือดดำมากกว่าปกติทุกคนครับ.
    พูดง่ายๆใครมีมากคนนั้นจะฝึกความสามารถพิเศษได้ง่ายกว่าคนทั่วไปนั่นเอง.
    หากคุณจะพัฒนาให้ฝึกสมาธิไปในระดับสูงกว่านี้ให้ได้ครับ.ถ้าไปถึงอรูปฌานได้
    แล้วเข้าใจอริญสัจ ๔ จะทำให้ดับสัญญาความจำได้.ทำให้จิตวางได้เร็ว สามารถ
    เกิดมรรค ตัดการยึดติดร่างกายได้ดีกว่าคนทั่วๆไปครับ..
    ในระดับพระอรหันต์ส่วนประกอบร่างกายท่านแปรสภาพได้
    ไม่ว่าจะไม่เน่าเปื่อยหรือกลายเป็นพระธาตุนั้น.
    ก็เพราะว่าท่านเข้าถึงในระดับพลังงานสามารถเปลี่ยนแปลง
    สภาพได้ซึ่งจะผ่านถึงขั้นนี้ได้ต้องใช้วิปัสสนากรรมฐาน
    และกำลังสมาธิระดับสูงร่วมกันครับ..
    ส่วนเรื่องพลังงานนั้น..การที่ก้อนพลังงานอยู่ที่มีได้นั้นเป็นแค่พื้นฐานอยู่ครับ.
    คุณต้องพัฒนาถึงขั้นที่วงพลังงานหมุนรอบตัวเองให้ได้ก่อน.ถึงจะสามารถพัฒนา
    เพื่อใช้รักษาตัวเอง.และรักษาคนอื่นๆได้ แต่ต้องรู้จักวิธีการ รวม หนุน ดึง ดูด
    และส่งพลังงานไปยังภายนอกและที่สำคัญต้องรู้วิธีในการนำพลังงาน
    ส่วนเกินตกค้างออกจากร่างกายด้วยครับ
    .ต้องมีกำลังสติทางธรรมมากพอและกำลังสมาธิใน
    ระดับที่ดีด้วย..เพราะถ้าไม่ทราบตรงประเด็นนี้หรือขาดกำลังสมาธิและสติตรงนี้
    โอกาสที่จะเป็นโรคร้ายแรงสูงมากครับในอนาคต
    และจะโดนพลังงานไม่ดีภายนอกควบคุมได้ง่ายๆครับ.
    เรียกว่า ดาบสองคม นั่นหละครับ..
    ..ให้คุณลองอ่านๆดูภาพรวมกว้างๆให้เข้าใจก่อนนะครับ.
    ไว้มีโอกาสแล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อครับ.

    ปล.แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังครับ ;)
     

แชร์หน้านี้

Loading...