ของดีราคาถูก พระหลักร้อย พุทธคุณหลักล้าน

ประวัติ พระครูธรรมโฆสิต (ลป.นิล อิสสริโก)
ชื่อเดิม นิล นามสกุล แหวนครบุรี เกิดวันพุธ ขึ้น ๑๕ค่ำเดือน ๓ ปีชวด เวลากลางคืน ตรงกับวันพุธ ที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๔๔๕ ที่บ้านครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา บิดาชื่อ สี มารดาชื่อ ทิม มีพี่น้อง ๓ คน ท่านเป็นคนที่ ๒

สมัยเป็นเด็ก ท่านมีนิสสัยเรียบร้อย ชอบสมถะ ไม่ชอบเที่ยวเตร่เหมือนเด็กทั่วๆไป มักชอบไปคลุกคลีอยู่ที่วัดเสมอ เมื่ออายุ ๑๑ ปีบิดาได้นำท่านไปฝากเรียนหนังสือกับพระที่วัดไทรโยง ต่อมาได้เรียนภาษาบาลี ไทย ขอมโบราณ ณ.สำนักวัดครบุรี โดยมี ลป.สี จากวัดเชียงสา เป็นพระที่สอนทั้งทางธรรมและคาถาอาคมต่างๆ พร้อมทำนายท่านว่า" วันข้างหน้าจะได้เป็นใหญ่เป็นโตในหมู่คณะ" เพราะเห็นท่านมีความตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียน นอกจากนี้ท่านยังได้เล่าเรียนภาษาขอมโบราณเพิ่มจาก"พระอาจารย์ชุก พระอาจารย์คอน หลวงปู่เชย"อีกด้วย และท่านได้เรียนรู้ได้เร็วกว่าเด็กรุ่นๆเดียวกัน

เมื่ออายุได้ ๒๑ปีได้เข้าอุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๖๕ ที่ วัดนกออก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา มี"ลป.กลิ่น " วัดนกออกเป็นพระอุปัชฌาย์ ลป.พรหม วัดป่าเลไลย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ลป.แก้ว เป็นอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้วจำพรรษาที่วัดครบุรี

ขณะจำพรรษาที่วัดครบุรี ท่านได้เข้าศึกษา พระปริยัติธรรมสอบได้นักธรรมตรี เมื่อลป.น้อย เจ้าอาวาสวัดสว่างหนองแวง(บ้านไผ่)เห็นลายมือของท่านสวย จึงขอให้ท่านช่วยจารคาถาพันเรื่องเวชสันดรเป็นภาษาขอมให้ และยังได้ซ่อมตำรับตำราวิชาการต่างๆ ซึ่งเป็นสมุดข่อยโบราณ จึงได้มีโอกาสได้เล่าเรียน วิชาคาถาอาคม ไสยเวทย์และยันต์ต่างๆจากลป.น้อย หลังจากนั้นได้ไปเล่าเรียนวิชากับ ลป.โต วัดปอแดง ซึ่งลป.โตได้สอน วิธีทำเครื่องรางของขลัง ซึ่งต่อมาท่านได้นำมาใช้ประโยชน์โดยการเน้นรักษาผู้ป่วยในสมัยนั้น และท่านยังได้รับคำแนะนำสั่งสอนทางด้านสมุนไพรต่างๆพร้อมกับการใช้คาถาอาคมกำกับ ทำน้ำมนต์รักษาผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรักษากระดูก ดับไฟพิษ งูสะหวัด คนถูกสุนัขกัดฯ จนเป็นที่พึ่งของชาวบ้านโดยทั่วไป นอกจากนี้ท่านยังได้เจริญสมาธิ กัมมัฎฐานและวิปัสนาไปพร้อมๆกันและทำเป็นกิจวัตรไม่เคยขาด

ลป.ท่านได้สร้างสาธารณะประโยชน์ให้แก่ชาวบ้านมากมาย ไม่ว่าจะเป็นถนน สะพาน โรงเรียน และได้พัฒนาก่อสร้างถาวรวัตถุให้กับวัดครบุรี เช่น สร้างกุฏิ ศาลาการเปรียญ โรงเรียนปรียัติธรรม ก่อสร้างโบสถ์หลังใหม่ในปี ๒๕๓๔เสร็จปี ๒๕๓๙ ปี ๒๕๓๕ได้จัดสร้างตึกอุบัติเหตุที่โรงพยาบาลครบุรีและอีกมากมาย

กิจวัตรประจำวัน
เวลา๒๐.๐๐น. ลป.จะทำวัตรสวดมนต์ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล จากนั้นจะเจริญกรรมฐาน-วิปัสนา
และเวลา๐๔.๐๐ น.ท่านจะตื่นขึ้นมา จัดทำน้ำมนต์ไว้ให้ญาติโยม จากนั้นจะเข้าห้องสวดมนต์ ทำสมาธิ-เจริญภาวนา
ท่านจะปฏิบัตรเป็นกิจวัตนประจำวัน ตอนสายท่านจะออกมารับญาติโยมที่มาหาทั้งใกล้ทั้งไกล ท่านมักจะพูดเสมอ"เขาตั้งใจมาหา อย่าทำให้เขาเสียกำลังใจเลย"

หลวงปู่ได้เริ่มอาพาธด้วยโรคประจำตัวประกอบกับได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์ และได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราช และได้มรณะภาพลงเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคา ๒๕๓๗ สิริอายุ ๙๒ ปี ๖ เดิอน พระราชทานเพลิงศพปี ๒๕๔๕

คัดและย่อมาจาก หนังสือ อิสสริโกเจติยานุสรณ์

 

ขุนแผนที่ไหนครับ..?

 

พระขุนแผนชัยวรมันต์ หลวงปู่หงษ์

สวัสดียามเช้าคร๊าบบ ทุกท่าน อากาศเปลี่ยนไปมารักษาสุขภาพกันนะคร๊าบบ

 

;aa44 อรุณสวัสดิ์ยามเช้าครับคุณเอ๊ะ พี่ปูและทุก ๆ ท่าน...

 

สวัสดียามเช้า คุณปู คุณเอ๊ะ อ.โญ และทุกๆท่าน
ทำการทำงาน ทำมาค้าขายใด ขอให้เจริญรุ่งเรือง ปลอดโปร่ง ราบรื่นนะครับ

 

สวัสดีพี่ตี๋ พี่โย พี่ปูและ สมช. ชาวหลักร้อยทุกๆท่านครับ

 

ความเมตตาของ ลป.นิล อิสสริโก

ลป.จะต้อนรับทุกคนด้วยความเมตตา ไม่แบ่งชั้นวรรณะ ไม่มีการจัดพิเศษให้แก่ผู้ใด ลป.มีแต่ให้ ด้วยริยยิ้มตลอดเวลา ไม่ว่าจะพักผ่อนอยู่ก็ตามหากได้ยินเสียงมีคนมาหา ท่านจะออกมาพบทันที ไม่เคยแสดงอาการเหน็ดเหนื่อย แม้จะอายุมากก็ตาม โดยเฉพาะความอนุเคราะห์แก่ชาวบ้านที่เจ็บป่วย ท่านจะให้การรักษาโดยไม่คิดมูลค่าใดๆ ลป.จะเป็นผู้ให้มากกว่ารับ ปัจจัยที่ได้มา ท่านจะนำไปซื้อตัวยา สมุนไพร กับการจ้ดสร้างถาวรวัตถุภายในวัด และการสร้างสาธารณะประโยชน์ให้แก่ชาวบ้าน
ลป.จึงได้รับขนานนามว่า เทพเจ้าแห่งครบุรี (ผมไม่ได้ตั้งเองนะครับ ได้ยินชาวบ้านเขาพูดกันครับ)




ลป.มักกล่าวถึงญาตืโยมที่มากราบนมัสการเสมอกับผู้ใกล้ชิด "เขาตั้งใจมาหา อย่าทำให้เขาเสียความตั้งใจเลย"

 

สวัสดีครับพี่ตี๋,คุณโญ,คุณปู,คุณวุฒิและ สมช.พระหลักร้อย ทุกๆท่าน...

 

รุ่นไหน แท้ไหมพี่ตี๋ใด้มานานแล้วพี่ชายเพื่อนให้มาครับ

 

ได้มาจากเวปนี้ครับ หลักร้อย
เกจิอาจารย์หลายท่านเสก จำไม่ได้แล้วว่าของที่ไหน และครูบาอาจารย์ท่านใดบ้างครับ

ได้มาก็เป็นพระขุนแผนธรรมดา แต่ผมนำมวลสารมาเพิ่มเติมทีหลัง
- ลูกอมมวสสารครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่น ( มันแตก ผมเลยบดใส่ )
- สีผึ้งหลายสำนัก ( ที่จำได้ มีสีผึ้งจันทร์เพ็ญ, สีผึ้งพราย, สีผึ้งต้องจิต หลวงปู่พวง ด้านหลังมีตะกรุดและผึ้ง)
- ว่านสาวหลงมั้งถ้าจำไม่ผิด และไม้เทพทาโร
- แล้วปิดทองครับ
เท่าที่จำได้ประมาณนี้ครับ.... ( และได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดพระศรี ฯ ด้วยครับ )

หลังจากนั้นก็นำแช่ช่องฟรีตให้แข่ง 1 คืน
แล้วนำไปเลี่ยม.... ตอนเย็นก็นำมาพนมสวดมนต์ เกิดอาการร้อนที่องค์พระทะลุกรอบออกมาอย่างมาก ตกใจเหมือนกันว่าทำอะไรผิดหรือเปล่า
วันต่อมาก็นำมาพนมสวดอีกเป็นประจำก็เปลี่ยนเป็นกระแสเย็นแล้วครับ

สรุป....
• ถ้าสวดคาถามหาเสน่ห์ ที่มีคำว่า กู มึง หรือ อะไรที่แรง ๆ มักจะมีเรื่องราวร้อนใจครับ
• สวดมนต์ไหว้พระธรรมดา ก็จะเมตตาดี เย็นใจครับ
• หลังจากไหว้พระสวดมนต์มาประมาณ 3-4 ปี ทำให้เข้าใจว่า ตัวผมเหมาะกับ สายพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มากกว่า แต่สายเทพจะสัมผัสไม่ค่อยได้... และสายพรายนี้มักจะมีแต่เรื่องให้ร้อนใจอยู่เรื่อย

* ตอนนี้เพิ่งนึกได้ ไม่รู้ว่าการนำพระมาทำแบบนี้ จะเป็นการปรามาสพระรัตนตรัยหรือเปล่า แต่ก็ทำไปด้วยใจศรัทธาครับ.....

 

ยินดีด้วยครับ..
สำหรับผมไม่มีนะครับ..แต่เคยเห็นจ่าทหารพรานที่เคยคุ้มครองผมในตอนปฏิบัติงานที่เขตชายแดน จ.อุบล คล้องคออยู่ถอดมาให้ดู ยังพอจำได้ครับ เมื่อป๊ 2533 ได้ถามหาจาก ลป. แต่ท่านบอกว่าไม่มีแล้ว ทำไว้ไม่มาก พออธิษฐานจิตในพรรษาเสร็จ ท่านก็เอาไว้แจก และส่วนใหญ่จะมอบให้เหล่าทหารหาญ
ที่ว่าสร้างน้อยเพราะตะกั่วเถื่อนนั้นหายากไม่ใช่ตะกั่วที่มีขายทั่วไป แต่จะเป็น ตะกั่วเถื่อน ที่เกิดเองตามธรรมชาติเป็นของดีโดยธรรมชาติ เป็นวัตถุอาถรรณ์ดีในตัว ที่ฝังอยู่ใต้ดินตามท้องไร่ท้องนา มีลักษณะเป็นก้อน มีหลายขนาด จะไม่มีทั่วไป จากคำบอกเล่าของลุงๆน้าๆที่วัดครบุรี(ผมก็ไม่เคยเห็น
เดิมท่านหล่อตะกั่วเถื่อนที่ชาวบ้านนำมาถวาย เป็นพิมพ์ใหญ่แต่ได้ไม่มาก ต่อมาท่านเลยสร้างพิมพ์เล็กขึ้นตามวัสดุที่มีเมื่อปี 2518ครับ
สำหรับของคุณวุฒิเป็นพิมพ์เล็ก ปี 2518 ดูแล้วเหมือนของจ่าทหานพรานมาก ผมว่าใช่ของแท้ครับและ ด้านหลังของรุ่นนี้ ลป.จารย์เองอีกด้วยครับ
จากสังเกตุที่ด้านหลัง รอยจาร จะคมแผ่วเบาเป็นเส้นเล็กๆ(ไม่มีการกดน้ำหนักมือ) ตัวหนังสือลายเสันจะสม่ำเสมอเป็นธรรมชาติครับ

อิจฉาคุณวุฒิแล้วละซิ(ล้อเล่นนะครับ) ยินดีมากๆครับ
ส่วนผมความจริงดูพระไม่เป็นนะครับ ถ้าเคยผ่านตาหรือที่มีอยู่และได้รับกับมือแล้วพอจะเอามาเทียบเคียงและพอจะให้ความเห็นได้นะครับ เข้าใจตามนี้ด้วยนะครับ

 

ข้อมูลเยี่ยมเลยครับ...ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับพี่ตี๋

 

สวัสดีทุกๆท่านด้วยครับผม

 

.... พระหลักร้อย พุทธคุณหลักล้าน ....​

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/wbcliQdlAlZjyfNp" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/64b/1LuFGf.jpg" /></a>

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/x4kImpRHTfnpkB5H" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/f15/JCCgs7.JPG" /></a>

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/x4kInPMr1qAPMaZh" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/c6c/36e5NL.JPG" /></a>

หลวงปู่มหาโส กัสสโป “เทพเจ้าแห่งภูเม็ง”

วัดป่าคีรีวันอรัญเขต (วัดป่าคำแคนเหนือ)
ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
หลวงปู่มหาโส กัสสโป นามสกุลเดิม ดีเลิศ เกิดเมื่อวันที่ วันจันทร์ ที่ 12 พ.ย.2458 (ตรงกับวันเพ็ญ เดือน 12 ปีเถาะ) ปัจจุบันสิริอายุได้ 94 ปี เกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี

หลวงปู่มหาโส กัสสโป เป็นศิษย์สายธรรมหลวงปู่มั่น และเป็นศิษย์ผู้พี่ของ หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต (ผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าท่านเป็นศิษย์หรือสหธรรมิกของหลวงปู่ผาง จิตตคุตโต แต่ที่จริงไม่ใช่เพราะถ้านับพรรษาหลวงปู่มหาโสพรรษามากกว่าหลวงปู่ผางถึง 20 ปี เพราะหลวงปู่ผางท่านอุปสมบทตอนอายุ 40 ปีครับ) ในขณะที่ผู้คนรู้จักชื่อเสียงของหลวงปู่ผาง หลวงปู่มหาโสยังคงธุดงธ์แสวงวิเวกอยู่ในป่าอยู่
ท่านนับเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอีกรูปหนึ่งชึ่งผู้คนยังไม่ค่อยรู้จักท่านเท่าใด เพราะปฏิปทาท่านชอบบำเพ็ญหาความสงบทางจิตในป่ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว นับตั้งแต่อายุ 70 ปี หลวงปู่พระมหาโสก็ไม่เคยออกจากวัดป่าคำแคนเหนือสู่งสังคมทางโลกอีกเลยจนถึงปัจจุบัน สมัยก่อนท่านธุดงค์บำเพ็ญเพียรที่หุบเขาต่างๆ เช่น ภูพาน ภูผาแดง ภูเม็งฯลฯ และตั้งสำนักสงฆ์ที่หุบเขาภูเม็ง แต่ด้วยอุบาสกอุบาสิกาที่ไปถือศีลเป็นไข้ป่า ต่อมาเมื่อท่านจึงตัดสินใจย้ายลงมาอยู่ที่เชิงเขาภูเม็งจนถึงปัจจุบันท่านก็ได้มาปักหลักสร้างวัดวัดป่าคีรีวันอรัญเขต (วัดป่าคำแคนเหนือ) ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
หลวงปู่มหาโส กัสสโป แห่งวัดคำแคนเหนือ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ไม่เคยพบกับหลวงปู่มั่นโดยตรง แต่ก็มีท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์(จูม) วัดป่าโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี เป็นพระอาจารย์สอนกรรมฐาน และเป็นพระอุปัฌชาย์ผู้ญัติเป็นธรรมยุติให้หลวงปู่ด้วย และท่านก็ยังมีท่านพระอาจารย์มหาสีทน กาญจโน พระวิปัสสนากรรมฐานผู้เป็นเสาหลักใหญ่ของจังหวัดขอนแก่นในขณะนั้น คอยสอนกรรมฐานให้หลวงปู่มหาโส เมื่อครั้งพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม พาหมู่คณะพระกรรมฐานมาจำพรรษาเพื่อเผยแผ่ธรรมะในจังหวัดขอนแก่น ระยะประมาณ พ.ศ.2472 -2475 พระอาจารย์มหาสีทน ก็ได้ฝากหลวงปู่มหาโส และ หลวงปู่สิงห์ สุขปัญโญ (พระวิจิตรธรรมภาณี) อดีตเจ้าคณะ จ.อุบลฯ เป็นศิษย์พระอาจารย์สิงห์ด้วย

หลวงปู่มหาโส ขณะนี้อายุได้ 94 กว่าปีแล้ว นับเป็นพระเถราจารย์ชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดขอนแก่น มีพระฝากตัวเป็นศิษย์ผู้สืบทอดปฏิปทาจากท่านมากมาย เช่น หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรม ,
เจ้าคุณพระธรรมดิลก (หลวงพ่อสมาน สุเมโธ) เจ้าคณะภาค 9 ธรรมยุติ วัดป่าแสงอรุณ จ.ขอนแก่น , หลวงปู่เขี่ยม โสรโย อดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำขาม จ.สกลนคร , หลวงพ่อนงค์ ปคุโณ วัดอุดมคงคาคีรีเขต(หลวงปู่ผาง) จ.ขอนแก่น , หลวงปู่สมาน ถาวโร เจ้าคณะ อ.มัญจาคีรี(ธรรมยุต) วัดป่าโนนสำนัก จ.ขอนแก่น ฯลฯ หลวงปู่มหาโสชราภาพมาก ๆ แต่สุขภาพแข็งแรงดี ความจำดี อยู่และยังเมตตาต่อศิษยานุศิษย์ทุกชนชั้นเข้ากราบขอพรท่านทุกวันมิได้ขาด โดยไม่เลือกชั้นวรรณะใดทั้งสิ้น

 

.... พระหลักร้อย พุทธคุณหลักล้าน ....​

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/x4PjsIuf5OBaaLkI" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/a22/SvwFih.JPG" /></a>

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/x4PjtqrBF4JUAtGs" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/a99/ZtwXIj.JPG" /></a>

 

สวัสดีครับคุณเอ็ม...หล่อเลยครับองค์นี้

 

***สวัสดีครับ เสี่ยเอ๊ะ และ ทุกๆท่าน รวย รวย รวย***

 

ดีใจด้วยครับ...ท่านเป็นพระปฏิบัติปฏิบัติชอบ รูปหนึ่งเลยละครับ

 

หวัดดีครับคุณรุ่ง ... ขอรับพรครับ
รู้สึกว่าคุณรุ่งทิ้งช่วงไปนะครับ งานรัดตัวหรือเปล่าครับ