"ร้านพรหลวงปู่" แบ่งให้เช่า ลป.หงษ์ ลป.หมุน ฐิตสีโล, ลป.กาหลง เขี้ยวแก้ว, ฯลฯ

สวัสดี พี่น้องชาวพลังจิต และทุกท่านที่แวะผ่านมาชมครับ
ผมขอฝากเนื้อฝากตัว นำพระเครื่องที่ผมเก็บสะสม ออกเพื่อแบ่งบูชา, เผยแพร่บารมี ของหลวงปู่ที่ผมเคารพศรัทธา
ทั้งนี้รายได้ส่วนหนึ่งผมจะกันไว้ทำบุญเพื่อสืบสานพระพุทธศาสนา และเพื่อตอบแทนพระคุณขององค์หลวงปู่ทุก ๆ องค์ที่ผมเคารพศรัทธาด้วยใจครับ
หากภาพไม่ชัด ราคาแพงไป หลังไมค์ ได้ครับ

ขออนุญาตแจ้งกฎกติกา เพื่อเป็นบรรทัดฐาน ดังนี้
1. รับประกันพระแท้ตามหลักสากล และกฎของเวป พลังจิต หากนำไปเช็คตรวจสอบแล้ว ไม่แท้ยินดีคืนเงินเต็มจำนวน แต่ทั้งนี้พระต้องอยู่ในสภาพไม่ล้างผิว หรือเสียหายจากเดิมที่ลงในกระทู้นี้
2. ทุกรายการ รบกวนช่วยโอนค่าจัดส่ง EMS 50 บาทเพื่อท่านจะได้ของที่รวดเร็วขึ้น และสามารถแจ้งเลข EMS เพื่อติดตามสถานะได้ครับ แต่หากรายการไหนพิเศษฟรีค่าจัดส่งจะแจ้งลงในกระทู้
3. ขอให้สิทธิ์ในการจองเพียง 3 วัน หากเลยจากนั้นถือว่าท่านไม่พร้อมครับ

ข้อมูลสำหรับโอน
นายศุภกรณ์ พรเจริญโรจน์
เลขที่บัญชี 020-2-41815-5
ธนาคาร กสิกรไทย สาขาบางซื่อ
Tel.083-1361122

 

รายการแรกเป็นโชว์กำไลจักรพรรดิ์ หลวงปู่หมุน ที่ผมใส่ติดตัวประจำครับ

กำไลเนื้อสัมฤทธิ์ รุ่นจักรพรรดิ์ สร้าง 999 วง เนื้อนี้ผมใส่จนเป็นแบบนี้
เพื่อนๆ พี่ๆ ท่านใดเป็นแบบนี้เปล่าครับ ยิ่งใส่ยิ่งเงา มีประกาย

 

ขออนุญาตนำประวัติหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว เพื่อรำลึกถึงและเผยแพร่บารมีหลวงปู่ครับ

หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว

พระเถราจารย์ผู้มีฤทธิ์อำนาจวาจาประกาศิตด้วยเขี้ยวแก้วกลางเพดานปาก พระเถราจารย์ที่มีบุญอำนาจวาสนา อาคมแก่กล้า ความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์
แห่งวัดเขาแหลม อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว

ชาติภูมิของหลวงปู่กาหลง เกิดในสกุล นงนุช เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2461 ปีมะแม เป็นชาวเมืองเพชรบุรีโดยกำเนิด ก่อนที่ครอบ ครัวจะย้าย
มาอยู่ที่จ.ปทุมธานี มี เรื่องเล่าตอนท่านถือกำเนิดว่า มีชายคนหนึ่งชื่อ ลุงบาง อาชีพหาปลา มีอยู่คืนหนึ่ง ขณะที่ลุงบางออกหาปลา ได้เห็นดวงไฟลอย
มายังหน้าบ้านของหลวงปู่ จึงตามดวงไฟดัง กล่าวเพื่อดูให้รู้ว่าคือดวงไฟอะไร พอตามไปแกก็เห็นพระฤๅษีตนหนึ่งจูงเด็กน้อยเข้าไปในบ้านของหลวงปู่
เมื่อลุงบางเห็นดังนั้น จึงยกมือขึ้นไหว้ด้วยความศรัทธา แล้วตั้งจิตอธิษฐานว่าหากสิ่งที่เห็นเป็นเรื่องจริง เด็กที่เกิดในบ้านต้องเป็นเด็กชาย และหาก
เป็นจริง จะเลิกอาชีพหาปลา หันมาเข้าวัดฟังธรรม

ไม่นานโยมแม่ของหลวงปู่คลอดลูกออกมาเป็นเด็กชาย และให้ชื่อว่า กาหลง ส่วนลุงบางเมื่อพบว่าสิ่งที่ตนเห็นเป็นจริง ก็เลิกหาปลาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
พระผู้มีวัตรปฏิบัติเคร่งครัด 1 ปีสรงน้ำ 1 ครั้ง ลป.กาหลงท่านเล่าว่าเคยสิ้นลมหายใจมรณภาพมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยท้าววิษณุกรรมมารับ แต่โบสถ์วัด
เขาแหลมหลังที่ 9 ยังสร้างไม่เสร็จจึงต่ออายุขัยให้

“เขี้ยวแก้ว “ นับว่าเป็นของกายสิทธิ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเฉพาะผู้มีบุญวาสนาบารมีสูงเท่านั้นและยังสามารถงอกสูงขึ้นและหดเข้าไปได้
ด้วยแรงอธิษฐานของท่าน ซึ่งเขี้ยวแก้วนี้มีมาแต่เกิ เมื่อครั้งยังเด็กที่ปลายเขี้ยวมีลักษณะคล้ายรูปองค์พระนั่งสมาธิ แต่เมื่อท่านคิดว่าเป็นถึงรูป
องค์พระไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในปากเพราะต้องใช้ฟันบดเคี้ยวอาหาร จึงตั้งจิตอธิษฐานให้หลุดหายไปคงเหลือแต่เขี้ยวแก้วเสมือนหนุมานทหารเอก
พระรามที่พระอิศวรได้ ประทานกุณฑลขนเพชรเขี้ยวแก้วให้เป็นของวิเศษกายสิทธิ์เพื่อต่อสู้กับศัตรู

ท่านถือเพศพรหมจรรย์อุปสมบทตั้งแต่อายุ 20 ปี เป็นเวลากว่า 69 พรรษาในร่มกาสาวพัตร์ จึงได้มีโอกาสศึกษาวิชาอาคมปฏิบัติพระกัมมัฎฐาน
กับครูบาอาจารย์หลายท่าน เช่น หลวงพ่อเนียม วัดนาบุญ ปทุมธานี หลวงปู่ช้าง วัดเขียนเขต ปทุมธานี หลวงปู่ด๊วด วัดกลางคลอง 4 ปทุมธานี
หลวงปู่ทา วัดพะเนียงแตก นครปฐม หลวงพ่อแข่ม วัดตาก้อง นครปฐม หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง
เพชรบุรี หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู ลพบุรี เจ้าคุณพระอินทสมาจารย์(เงิน) วัดอินทรวิหาร กทม เจ้าคุณพระราชมงคลมุนี(สนธิ์) วัดสุทัศน์
กทม. และศึกษาสายวิชาหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

บารมีและอภินิหาร พระอาจารย์ของหลวงปู่กาหลง

1.หลวงพ่อเนียม วัดนาบุญ จ.ปทุมธานี ท่านเก่งทางหนังเหนียวคงกระพันชาตรี และเมตตามหานิยม นอกจากนี้ยังเก่งเรื่องไล่ผีอีกด้วย ครั้งหนึ่ง
หลวงพ่อเนียมท่านถูกเจ้าพ่อเขาตกลองวิชา เจ้าพ่อเขาตกมีฤทธิ์มาก ไม่ใช่ภูตผีทั่วไป เจ้าพ่อเขาตกได้เข้าสิงคน โดยไปซ่อนอยู่ในเส้นผม แต่ด้วย
ความแก่กล้าทางฌานสมาบัติของหลวงพ่อเนียมท่านรู้ว่าเจ้าพ่อเขาตกซ่อนอยู่ผมเส้นไหน จึงใช้เข็มอาคมทิ่มลงไป จนเจ้าพ่อเขาตก
ต้องยอมแพ้ กล่าวกันว่า ถ้าที่ไหนมีผีเข้าสิงคน ลองเอ่ยชื่อหลวงพ่อเนียม วัดนาบุญดู ผีที่ว่าดุๆจะหนีไปสิ้น
2.พระอาจารย์ตื้น เล่าว่าตอนที่ท่านเข้าสมาธิเขียนอักขระเลขยันต์นั้น อยู่ๆท่านก็หายตัวไป 7 วัน ลูกศิษย์หายังไงก็ไม่เจอ ที่สุดพอเงยหน้าขึ้น
ไปบนเพดาน จึงเห็นท่านลอยอยู่ในท่านั่งเข้าสมาธิ พอท่านลงมาท่านยังพูดติดตลกว่า ถ้าหากท่านทำสมาธิในที่กลางแจ้ง คงลอยไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้
ก่อนมรณะภาพ ท่านสั่งลูกศิษย์ไว้ว่า เมื่อท่านมรณะแล้วให้ผ่ากะโหลกท่านออก จะพบพระวิเศษ เป็นของดี ปรากฏว่าเมื่อท่านมรณะภาพ ลูกศิษย์
ได้ทำตามที่ท่านสั่งไว้ เมื่อผ่ากะโหลกออกมา ก็พบพระเครื่องเป็นเนื้อดินองค์เล็กๆ เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ไม่มีใครรู้ว่าพระเครื่องเหล่านี้ ไปอยู่ใน
กะโหลกท่านได้อย่างไร รู้แต่เพียงว่า ท่านคงสำเร็จสมาธิชั้นสูงแล้วอย่างแน่นอน

หลวงปู่กาหลงได้รับมอบหมายจาก หลวงพ่อเนียม และหลวงพ่อซึ้งให้เดินทางไปพบ หลวงปู่ขุขันธ์ ที่จ.ศรีสะเกษ ตอนที่หลวงปู่กาหลงไปพบท่านนั้น
อายุท่าน 120 ปี คืนแรก หลวงปู่กาหลงก็โดนพระในวัดลองวิชา เขาเสกท่อนฟืนเผาผีเป็นตะขาบ ให้มากัดท่าน เสกมานับพันตัว แต่ทำอะไร
ท่านไม่ได้ ท่านเอาตะกรุดที่ท่านทำ มาล้อมตัวท่านเอาไว้ ตะขาบอาคมที่เขาเสกมาก็ไม่กล้าเข้ามาทำร้ายท่าน แล้วท่าน ก็ร่ายคาถาอาคมจับตะขาบ
พอจับได้ ตะขาบก็กลายเป็นท่อนฟืน จากนั้นเขาก็เสก ตัวด้วงมาอีก พอท่านลูบที่ตัวด้วง ก็กลายเป็นก้อนถ่าน หลวงปู่ท่านรู้ว่าใครเป็นคน เสกของมา
พอรุ่งเช้า เจ้าอาวาสวัดที่ท่านไปพัก ได้หนีไปที่อื่นเเล้ว เพราะอาย ที่ทำอะไรหลวงปู่ไม่ได้ หลังจากได้เอาจดหมายมอบให้หลวงปู่ขุขันธ์แล้ว
หลวงปู่ขุขันธ์ท่านก็เอาหนามมากอง ไว้เต็มพื้น แล้วบอกให้หลวงปู่กาหลงถอดรองเท้า จากนั้นให้เดินเท้าเปล่าไปจนสุดทาง
แล้วเดินกลับมาหาท่าน หลวงปู่กาหลงถอดรองเท้า แล้วเดินเท้าเปล่าลุยเข้าไปใน ดงหนามทันที หนามทิ่มฝ่าเท้าท่านไม่เข้า แต่ก็แสบฝ่าเท้าเหมือนกัน
เดินได้รอบเดียว หลวงปู่ขุขันธ์บอกว่าพอแล้ว นี่ถ้าเป็นคนอื่นให้เดิน 3 รอบ แต่เห็นเป็นศิษย์ท่านเนียม และท่านซึ้งจึงให้เดินแค่รอบเดียว
หลังจากผ่านการทดสอบ หลวงปู่ขุขันธ์ก็ได้มอบ ตำราใบลานให้หลวงปู่กาหลงสำรับหนึ่ง ซึ่งท่านก็ได้ศึกษาเล่าเรียนจนครบถ้วน และยังเก็บรักษาไว้
เป็นอย่างดี

นับว่าท่านเป็นเกจิอาจารย์รุ่นเก่าที่เก่งกาจมานานเคยเข้าร่วมพิธีปลุกเสกครั้งยิ่งใหญ่ พิธี 25 พุทธศตวรรษ ณ สนามหลวง และพระวิหารหลวง วัดสุทัศน์

อีกทั้งยังสร้างผลงานฝากไว้ใน พุทธศาสนาโดยสร้างโบสถ์ไว้ถึง 10 หลัง 10 วัด เป็นพระภิกษุสงฆ์ที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบมีอาคม แก่กล้ามีอำนาจ

วาสนาบารมี ความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ เป็นผู้ประกอบด้วยคุณงามความดีเป็นเนื้อนาบุญแห่งพุทธศาสนาเป็นรอยอริยะที่ผู้มีไว้ครอบครองควรพิจารณาระลึกถึง

ความดี เดินตามรอยเส้นทางความถูกต้อง มีคุณธรรม ยึดมั่นในศีลในธรรมตามแบบอย่างท่านสืบไป

คำปรารถหนึ่งของหลวงปู่
"ของ ๆ ฉัน ๆ ตั้งใจทำมากับมือต่อไปจะมีค่ายิ่งกว่าทองคำจะหายากยิ่งกว่าเพชร ถ้าฉันไม่แน่จริงคงสร้างโบสถ์ได้ไม่ถึง 8 หลัง หรอก"
"ฉันทำเครื่องรางของขลังมาตั้แต่ปี 2485 แต่ไม่เคยประกาศให้ใครรู้มีแต่บอกต่อกัน ถ้าไม่แน่จริงฉันคงสร้างโบสถ์ได้ไม่ถึง 8 หลังหรอก
ขณะนี้กำลังสร้าง หลังที่ 9"
"วัตถุมงคลทุกอย่างที่ฉันสร้างจะไม่มีวัดเสื่อม "

หลวงปู่กาหลง เตชวัณโณ วัดเขาแหลม มรณภาพแล้ว ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้ หลวงปู่กาหลงมรณภาพอย่างสงบ ด้วยโรคมะเร็งที่ลำคอและปอด เมื่อ

เวลา 01.09 น. กลางดึกคืนวันที่ 13 ก.ย. 2552 ที่โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ สิริอายุ 92

ปี พรรษา 72

 

หลังจากลงประวัติ ลป.กาหลง ขอลงชิ้นแรกด้วย พระลักษณ์หน้าทอง เนื้อทองแดงครับ

({)ปิดรายการครับ เจ้าของตัวจริงนิมนต์แล้ว
No.1 # เศียรพระลักษณ์หน้าทอง เนื้อทองแดงนอกผสมชนวนเก่า
ยิงด้วยเลเซอร์ code 24383 บูชา 600 + ค่า EMS 50
รุ่น ครอบเศียรพระลักษณ์ ปี 50 จำนวนการสร้าง 29,999​

พระลักษณ์หน้าทอง สุวรรณผุดผ่องหน้าทองพระภักตร์ !!!!
พระลักษณ์หน้าทองของหลวงปู่กาหลงนั้น เอามาว่ากันตามประเด็นดีกว่าครับ
ประสบการณ์....... มีมากมายทั้งมหาเสน่ห์ โชคลาภร่ำรวยเงินทอง ค้าขายดีมีโชคลาภ
รวมไปถึงแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุทั้งหลาย
ซึ่งความจริงแล้ว พระลักษณ์หลวงปู่กาหลงสืบวิชามาจากคุณครูโขนในราชสำนักสมัยรัชกาลที่๖
ท่านเกิดศรัทธาในองค์หลวงปู่กาหลงมากๆ จึงอยากจะมอบวิชาให้ แต่หลวงปู่ท่านกลับบ่ายเบี่ยง
และไม่รับวิชาจนสุดท้ายคุณครูท่านจัดเครื่องบูชามาเอง ประมาณว่ามัดมือชกว่างั้น
ท่านเลยรับมอบวิชาครอบมา

พิธีกรรม
1.พิธีเทวาภิเษกเปิดฤกษ์เศียรพระลักษณ์จันทร์ซ้อนจันทร์ วันจันทร์ที่ 2 เมษายน 2550 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 หลวงปู่กาหลงปลุกเสกเดี่ยว
2.พิธีเททองและพุทธาภิเษก ณ วัดเขาแหลม สระแก้ว วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม 2550 โดยหลวงปู่กาหลง เป็นประธานพร้อมพระเกจิอาจารย์ 9 รูป
3.พิธีมหาพุทธาภิเษก ณ วัดสุทัศน์ เสาชิงช้า กทม. วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม 2550 โดยหลวงปู่กาหลง เป็นประธานพร้อมพระเกจิอาจารย์ 11 รูป
4.พิธีพุทธาภิเษกวันลอยกระทง ขึ้น15 ค่ำ เดือน 12 ณ วัดสุทัศน์ กทม.
5.พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดสุทัศน์ วันที่ 20 ธันวาคม 2550 โดยหลวงปู่กาหลง เป็นประธานพร้อมพระเกจิอาจารย์ 12 รูป
6.พิธีครอบเศียรพระลักษณ์หน้าทอง ณ ศาลาเศรษฐีทอง วัดสุทัศน์ กทม. วันที 22 ธันวาคม 2550 โดยหลวงปู่กาหลงเป็นประธาน
7.หลวงปู่กาหลงอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว ตั้งแต่ เดือนกรกฎาคม ถึง ธันวาคม

รายชื่อเกจิที่ร่วมปลุกเสก
1. หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม
2. หลวงพ่อติ๋ว วัดมณีชลขันธ์
3. หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
4. หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน
5. พ่อท่านเขียน วัดกระทิง
6. หลวงพ่อสมคิด วัดเนินสาธรณ์
7. หลวงพ่อตัด วัดชายนา
8. หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฏีทอง
9. หลวงปู่อั้น วัดโรงโค
10. หลวงปู่กาหลง
11. หลวงปู่ดี วัดสุทธาราม เป็นต้น ......

 

รายการ 2# เหรียญนารายณ์ขว้างจักร เนื้อสัมฤทธิ์ขอมโบราณ บล็อกแตก ลป.กาหลง

จัดสร้าง 9,999 เหรียญ เหรียญนี้ Code 6851
บูชา 1,000 บาท + ค่า EMS 50.-ครับ​

รุ่น จักรพรรดิ์ นารายณ์ สร้างในปี พ.ศ. 2551
ที่ระลึกงานพิธีไหว้ครูบูราพาจารย์ 51 นารายณ์ขว้างจักรฤทธิศักดิ์หนักหนา ภาวนาไว้ให้มั่น เมื่อจะขันสู้ศัตรู ฤๅลึกอยู่แต่ในใจ ศัตรูไซร้หย่อนฤทธิ์ ทั้งแขนขาให้อ่อนเพลีย ใจละเหี่ยคิดย่อท้อ ไม่แข็งข้อต่อสู้เรา ครูเฒ่ากล่าวไว้ หนึ่งตั้งใจภาวนา คนใจกล้ากลับอ่อนลง ที่ประสงค์คงสมคิดด้วยฤทธิ์เดช
เหรียญพระนารายณ์ขว้างจักรซึ่งเป็นอีกครั้งหนึ่งที่มีการถ่ายทอดตำนานแห่งพระนารายณ์เจ้าพิชัยยุทธ แห่งพระพิชัยสงครามมาสร้างเป็นเครื่องมงคลวัตถุมงคล โดยมีหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว รับญาณบารมีพระนารายณ์เป็นเจ้าพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสก แบบบินเดี่ยว และถือว่าเป็นอีกหนึ่งหน้าประวิตศาสตร์การสร้างเหรียญมหาเทวะที่ครบเครื่องด้วยสุดยอดมวลสารที่คัดสรรแล้วว่าขลังในตัว กับสุดยอดแห่งพระเป็นเจ้าองค์นารายณ์อวตารที่ถือว่าเป็นที่สุดแห่งเทวะเจ้าทั้งปวง และสุดยอดกับพระเกจิเขี้ยวแก้วอย่างหลวงปู่กาหลง เมื่อสามสุดยอดมาบรรจบกันในเหรียญนารายณ์ขว้างจักร จึงเท่ากับเป็นการการันตีพระพุทธคุณ เทวคุณภายในตัววัตถุมงคลนารายณ์ขว้างจักรได้ว่ายิ่งประเสิรฐสุดในหมู่เครื่องรางของขลังวัตถุมงคลอย่างไม่ต้องสงสัย
เหรียญพระนาราณ์ขว้างจักร มีนามเต็ม ๆ ว่า "เหรียญนารายณ์ขว้างจักรตรึงไตรภพ" ตัวยันต์ด้านหน้า เป็นรูปพระนารายณ์แผลงฤทธิ์ขว้างจักรตรึงไตรภพ โดยภาพยันต์นี้เป็นพระยันต์โบราณซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนพระยันต์พระนารายณ์ผู้เป็นเจ้าซึ่งมาหลากหลายด้วยกัน และจัดอยู่ในกลุ่มพระยันต์อิติปิโสแปดทิศที่แผลงพระนารายณ์ออกเป็นแปดภาคประจำทิศต่าง ๆ
สำหรับเทวลักษณะขององค์พระนารายณ์ขว้างจักรตรึงไตรภพนั้นมีเทวลักษณะอันเป็นคุณอย่างยอดเยี่ยมเปี่ยมด้วยศิริมงคลและอำนาจแห่งมหาปราบมหาบารมีดังนี้คือ องค์พระนารายณ์ผู้เป็นเจ้านั้นแผลงฤทธิ์เป็น 12 พักตร์ 10 กร พระกรทั้ง 10 ต่างทรงเทพอาวุธ ที่มีเดชะบารมีต่าง ๆ กันดังนี้ เช่น ตะบอง จักร ธนู เป็นต้น ทรงลักษณะในท่ายืนด้วยพระบาทซ้าย ด้านซ้าย แสดงทีท่าประดุจพระเจ้าจักรพรรดิ์ปราบสามโลก ล้วนด้วยพระยันต์ต่าง ๆ ตามสูตรหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว ซึ่งจากการตรวจทานแล้ว บางพระยันต์หาพบที่อื่นไม่ได้ พบแต่เฉพาะตำราเก่าของหลวงปู่กาหลงผู้เดียว ฉะนั้นยันต์ต่าง ๆ ได้แก่หัวใจยันต์ที่มีอิทธิอำนาจ 108 ประการ ครอบจักรวาล มีพระพุทธคุณเข้มขลังทั้งเมตตาบารมี ทั้งมหาอำนาจ ทั้งกำราบภูตผีปีศาจ ทั้งปกป้องคุ้มครองสารพัด แล้วแต่ผู้ใดจะไปอาราธนาต่างแต่สถานการณ์ และตามแต่จริตของผู้นั้น
การสร้างเหรียญพระนารายณ์ขว้างจักรครั้งนี้เต็มไปด้วยความพิถีพิถันในการเลือกใช้พระยันต์และชนวนมวลสาร รวมทั้งดิถีฤกษ์ยามในการปลุกเสก ความบรรจงพิถีพิถันทั้งหมดเพื่อให้เหรียญดังกล่าวเป็นสุดยอดแห่งตำนานเครื่องรางวัตถุมงคลของไทยไปนานเท่านาน ยิ่งนานวันยิ่งมีคุณค่ายิ่งมีราคายิ่งหายาก ให้สมดั่งที่หลวงปู่กาหลงท่านเคยกล่าวว่าวัตถุมงคลของท่านต่อไปมีคุณค่ามากกว่าทอง
ทางด้านหลังของเหรียญพระนารายณ์แผลงฤทธิ์ขว้างจักรตรึงไตรภพ ทำเป็นรูปเหมือนหลวงปู่กาหลง ตรงกลางองค์ท่านมี "นะมหาอุด" สูรยันต์ที่หลวงปู่เนียมและหลวงซึ้งคลองเจ็ด ปทุมธานี เฉพาะยันต์นะมหาอุดนี้ตัวเดียวก็มีอิทธฤทธิ์สารพัดโดยเฉพาะเรื่องหนังเหนียว คงกระพันมหาอุด หยุดสรรพเคราะห์ สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัยทั้งหลายทั้งปวงได้อย่างชะงัดยิ่งนัก และรอบ ๆ หลวงปู่กาหลงประกอบด้วยพระยันต์อันเป็นมิ่งมงคลแก่ผู้รับไปบูชา อาทิ ยันต์พระเจ้าอมโลก และนะพิสดารอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละพระยันต์นั้น มีอำนาจด้านแคล้วคลาดบ้าง เจริญในหน้าที่การงานบ้าง เป็นเมตตาผู้ใหญ่รักใคร่เอ็นดูบ้าง ดีทางด้านเสน่ห์แก่เพศตรงข้ามบ้าง มีโชคลาภเจริญรุ่งเรืองบ้าง ทั้งนี้เมื่อประกอบเข้าด้วยกันทั้งพระยันต์จากด้านหน้า และพระยันต์จากด้านหลังแล้วย่อมถือว่าเป็นที่สุดแห่งวัตถุมงคลอันทรงคุณค่าที่หลวงปู่กาหลงได้เมตตาอธิษฐานจิตชนิดฝากไว้ในแผ่นดินให้ลูกหลานมีของดีไว้ใช้ในข้างหน้า แม้กาลเวลาผ่านไปนานเท่าใดเหรียญนี้ก็จะต้องถูกจดจำจารึกไว้ในแผ่นดิน เป็นเหรียญที่วงการต้องเสาะหาเล่นกันในราคาแพงอย่างแน่นอน
หากจะสรุปอิทธิคุณเหรียญพระนารายณ์แผลงฤทธิ์ขว้างจักรตรึงไตรภพแล้ว เมื่อสอบท่านจากครูบาอาจารย์แต่โบราณท่านกล่าวไว้ดังนี้ว่า
1.สามารถบังคับคันธาตุ 4 โดยเฉพาะอย่างยิ่งธาตุลม สามารถทำให้พายุหยุดได้ หรือทำให้เกิดพายุอันแรงก็ได้ ด้วยเดชะพระนารายณ์ขว้างจักรนี้
2.เป็นมหาจังงังยิ่งแล้วแก่สัตว์โลกทั้งหลาย ทั้งสัตว์ใหญ่ไม่ว่าเสือ ช้าง ม้า วัว ควาย หรือโจรผู้ร้ายใด ๆ ก็ดี
3.เป็นที่เกรงกลัวแก่ภูตผีปีศาจทั้งปวง
4.เป็นคงกระพันสรรพาวุธทำอันตรายมิได้แล
5.ขับไล่เสนียดจัญไรกล้บกลายเป็นดี
6.เป็นเมตตาชั้นสูง มีคนอุปถัมภ์ช่วยเหลือ
7.เป็นที่มาแห่งความเจริญรุ่งเรืองประสบความสำเร็จ และโชคลาภเงินทองไหลมาเทมา
นี่ถือว่าเป็นอิทธิคุณหลัก ๆ และยังมีอิทธิคุณ ชนิดที่เรียกว่าฝอยท่วมหลังช้าง มีอนุภาพเกินกว่าจะพรรณนา ครูบาอาจารย์แต่โบราณสรรเสริญไว้มากจริง ๆ


พิธีกรรมการจัดสร้างและพุทธาภิเษก
1. ประกอบพิธีเททองหล่อพระกริ่งจักรพรรดิ์นารายณ์ นำฤกษ์ครบทุกพิมพ์ทุกเนื้อ ณ มณฑลพิธีวัดเขาแหลม จ.สระแก้ว วันที่ 23 มีนาคม 2551 พราหมณ์หลวงประกอบพิธีบวงสรวง บายศรีหัวหมู เครื่องกระยายวดเครื่องสังเวยตำรับจักรพรรดิ์โดยมีหลวงปู่กาหลงเป็นประธานในพิธีนั่งปลุกเสก พร้อมกับหลวงปู่โสฬส วัดโคกอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี, หลวงปู่สิงห์ วัดละหารใหญ่ จ.ระยอง, หลวงปู่นาค วัดหนองพะวา จ.ระยอง, หลวงพ่อจิต วัดเทพนวล จ.สระแก้ว
2. ประกอบพิธีพุทธาพิเษก ณ วัดสุทัศน์ เสาชิงช้า กทม. วันที่ 19 เมษายน 2551 โดยมีหลวงปู่กาหลงเป็นประธาน พร้อมด้วยหลวงพ่ออั้น วัดธรรมโฆษก จ.อุทัยธานี, หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม, หลวงพ่อเร่ง วัดดงแขวน จ.อุทัยธานี, หลวงพ่อดี วัดเทพากร กทม., หลวงปู่หอม สำนักสงฆ์หลวงพ่ออุตตมะ กทม., พระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขันธ์, หลวงพ่อสิริ วัดตาล จ.นนทบุรี, พระอาจารย์นพวรรณ วัดเสนานิมิตร จ.อยุธยา, หลวงพ่อบุญมา วัดบ้านแก่ง จ.ปราจีนบุรี
3. ประกอบพิธีจักรพรรดิ์พุทธาภิเษก ณ วัดสุทัศน์ เสาชิงช้า กทม. วันพฤสัสบดี ที่ 15 พฤษภาคม 2551 โดยมีหลวงปู่กาหลง เป็นประธานพร้อมด้วย หลวงพ่ออั้น วัดธรรมโฆษก จ.อุทัยธานี, หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.อยุธยา, หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี, หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี, หลวงปู่เจือ วัดหลางบางแก้ว จ.นครปฐม, หลวงพ่อสมพงษ์ วัดใหม่ปิ่นเกลียว จ.นครปฐม, หลวงพ่อปรีชา วัดเขาอิติสุคโต จ.ประจวบคีรีขันธ์, หลวงพ่อสิริ วัดตาล จ.นนทบุรี, พระอาจารย์นพวรรณ วัดเสนานิมิตร จ.อยุธยา, พระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขันธ์, พระอาจารย์ชำนาญ วัดบางกุฎีทอง จ.ปทุมธานี, หลวงปู่สินธ์ วัดสะพานสูง จ.นนทบุรี


พิธีกรรมการจัดสร้าง สำหรับเหรียญพระนารายณ์ขว้างจักนี้มีพิเศษ ในการจักสร้างคือ
1.พิมพ์ผิวไฟ จัดสร้างด้วยเนื้อสัมฤทธิ์ขอมโบราณพันปี จะมีผิวไฟ (สีดำ) อยู่บริเวณผิวเหียญส่วนขอบเรียญจะเป็นสีคล้าย ๆ ทองแดง และจะมีรายละเอียดค่อนข้างชัดเจน
2.พิเศษพิมพ์บล็อกแตก จัดสร้างด้วยเนื้อสัมฤทธิ์ขอมโบราณพันปี ทั้งพื้นผิวเหียญและขอบเหรียญ มีสีของโลหะสัมฤทธิ์คล้าย ๆ ทองแดง


หมายเหตุ เหรียญทั้ง 2 แบบ มีรูปร่างลักษณะเหมือนกันทุกประการแต่รายละเอียดความชัดเจนจะไม่เหมือนกัน เพราะเหรียญรุ่นนี้มีความหนาของโลหะและรายละเอียดรูปร่างค่อยชนข้างสลับซับซ้อน จึงเป็นสาเหตุทำให้ "บล็อกแตก" ขึ้นขณะทำการขึ้นรูปเหรียญ ซึ่งถือว่าเหรียญรุ่นนี้มีรูปร่างลักษณะสวยงามมากที่สุดของเหรียญพระเครื่องเมืองไทย และได้มีการทำลายบล็อกแม่พิมพ์ทั้ง 6 แบบ โดยหลวงปู่กาหลง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเสร็จสิ้นงานจักรพรรดิ์พุทธาภิเษก


คาถาบูชา
ตั้งนโม 3 จบ (ระลึกถึง พระรัตนตรัย พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ และหลวงปู่กาหลงเป็นที่สุด)
โอมเพชรชะนารายณ์ขับศรพระรามอันชื่อ พรหมมาศ พรายวาต อัคคเนวาต โอมสะท้านกรึงบาดาล สวาหะ (สวด 7 จบ)
อิติปาระมิตานุภาเวนะ มาระเสนาปะราชิโต ทิโสทิสังปะลายันติ สัพพศัตรูวินาศสันติ วิทังเสติอะเสสะโต (สวด 7 จบ)
ปกป้องคุ้มครองสารพันกันภัยอันตรายทั้งปวงดีนัก ทั้งเป็นคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุเภทภัยต่าง ๆ ทั้งยัง เน้นความมีมหาอำนาจเป็น มหาจังงัง ศัตรูทำร้ายเรามิได้ หากพบเจอศัตรู, สัตว์ร้าย หรืออยู่ในที่คับขันเกิดความกลัวให้รำลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ แล้วสวดพระคาถาบทข้างต้น อธิษฐานให้บังเกิดกงจักรอยู่ในมือ (นึกจินตนาการ) ขว้างจักรใส่ศัตรูหรือสัตว์ร้ายที่อยู่ตรงหน้าแม้ว่าเดินทางไปพบเสือช้างโจรผู้ร้าย จะบันดาลให้ศัตรูจังงัง หยุดยั้งไม่กล้าเข้าใกล้บรรดาศัตรูจะพ่ายแพ้สิ้นไป ด้วยอานุภาพแห่ง "จักรพระนารายณ์" ที่ศักสิทธิ์เสมือนหนึ่งแก้วสารพัดนึกที่คอยปกป้องคุ้มครองเราให้ปลอดภัยดีนักแล
หากออกรณรงค์สงครามหรือออกต่อสู้ข้าศึกศัตรูให้นำเหรียญพระนารายณ์ขว้างจักร แช่ในน้ำมนต์ จุดธูปเทียนบูชาพระแล้วว่าพระคาคานี้ นะอุด นะอัด นะยัต นะยันไว้ พะหับปิดตู ปิดรูไฟ ปิดมะหัปปิดตูปิด รูดิน ปิด ทะหัปปิดรูลม ปิดนะหัปปิดตูปิดรูพระคงคา (สวดพระคาถานี้ 7 จบ)แล้วนำน้ำมนต์ลูบหน้าดื่มกินพรมศรีษะพร้อมอธิษฐานตามความปรารถนาสำเร็จสมความปรารพนาทุกประการ แต่ในบทพระคาถานี้ห้ามใช้ประพรหมน้ำมนต์กับสินค้าในการค้าขายเด็ดขาด หากแต่จะใช้น้ำมนต์นี้ประพรมให้ทั่วบริเวณบ้านเพื่อคุ้มครองป้องกันภัยกันอาถรรพณ์กับอัคคีไฟได้

 

รายการ 3# เหรียญนารายณ์ขว้างจักร เนื้อสัมฤทธิ์ขอมโบราณ พิมพ์ผิวไฟ ลป.กาหลง

จัดสร้าง 9,999 เหรียญ Code 8604 พร้อมซองเดิมๆ จากวัด
บูชา 1,400 บาท + ค่า EMS 50.-ครับ​

 

พระหลัก ๆ สวย ๆ ทั้งนั้นเลย ขอให้เฮงๆ ครับ

 

ขอบคุณครับ ขอให้รวยๆ เช่นกันครับ

 

รายการ 4# เหรียญเศรษฐีราชหงษ์ รุ่นสรงน้ำปี 51 ลป.กาหลง

เหรียญไม่ผ่านการใช้ ซองเดิมจากวัดครับ เหรียญนี้ Code 1778
บูชา 1,800 บาท + ค่า EMS 50.-ครับ​

 

รายการ 5# เศียรพระลักษณ์หน้าทองเนื้อผงมหาว่าน 108 เหรียญที่ 1

เป็นรุ่น "ครอบเศียรพระลักษมณ์ ๒๕๕๐"
เศียรพระลักษณ์หน้าทองเนื้อผงมหาว่าน 108 ผสมแร่ทองบางสะพาน, ผงกำเนิดพระลักษณ์, ผลจากเศียรครูพระลักษณ์
เป็นรูปทรงเนื้อผง ทรงกลมขนาด 5.2 ซม. จำนวนสร้าง 29,999 องค์ ซองเดิม ๆ จากวัด
ให้บูชา 450 บาท + ค่า EMS 50.-ครับ​

วัตถุมงคลชุดพระลักษณ์หน้าทองนี้หลวงปู่กาหลงท่านกล่าวไว้ว่า "แรงมาก" แรงในที่นี้คือ เสน่ห์แรง เมตตามหานิยมแรงและยังปกป้องคุ้มครองป้องกันภัยได้ดี เพราะอำนาจของเมตตานั้นเป็นอำนาจที่รักษาคุ้มครองให้พ้นภัยในตัวอยู่แล้ว โชคลาภก็มาไม่ขาด ทั้งนี้ให้หมั่นท่องพระคาถาเป็นประจำทุกๆวัน เช้าเย็นอย่าได้ขาดอาราธนาติดตัวเป็นประจำ ก่อนออกจากบ้านไปไหนไปพบใครก็เอาวัตถุมงคลนี้ วนที่ใบหน้า ระลึกว่า ดุจเราครอบเศียรพระลักษณ์มีพระพักตร์ของพระลักษณ์อยู่บนใบหน้าเรา ให้ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าไว้ และมีเคล็ดลับอีกประการหนึ่งก็คือ ขณะที่ท่องคาถาให้ระลึกถึงใบหน้าของผู้ที่เราจะไปหา ตัวเราจะเป็นเสน่ห์แก่บุคคลนั้น เมื่อพบเราเขาจะเอ็นดูเราเสมือนหนึ่งญาติมิตรเคยชิดใกล้ หรืออาจจะอาราธนานำวัตถุมงคลชุดพระลักษณ์นี้ลงทำน้ำมนต์ ท่องพระคาถาเอาไว้ลูกหน้าเป็นเสน่ห์ก็ได้ หรือจะใช้เสกแป้งผัดหน้าโดยเอาวัตถุมงคล วางบนแป้งที่ทาหน้าแล้วสวดพระคาถา จากนั้นนำแป้งลูบหน้าจากปลายคางขึ้นบนหน้าผากสามครั้งจะเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างยิ่ง ผู้ใดหมั่นกราบไว้บูชา หมั่นท่องคาถา ทุกเช้าค่ำเป็นประจำทุกวัน ย่อมเป็นที่รักของคนทั้งหลายในโลหล้า เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา ตลอดทั้งมนุษย์หญิงชาย เจ้านาย ผู้ใหญ่ก็รักใคร่ นับเป็นบุญวาสนาของผู้ที่ได้ครอบครองวัตถุมงคลชุดพระลักษณ์หน้าทองนี้

 

รายการ 6# ลูกอมพระลักษณ์หน้าทองเนื้อผงมหาว่าน 108

ลูกอมพระลักษณ์หน้าทองผงมหาว่าน 108 ผสมแร่ทองบางสะพาน, ผงกำเนิดพระลักษณ์,
ผงจากเศียรครูพระลักษณ์
บูชาลูกละ 200 + ค่า EMS 50.-
หากเช่า 3 ลูกพิเศษ 500 บาท ฟรีค่า EMS
ตอนนี้ออกไป 1 ลูก ยังเหลือ 3 ลูก หมดแล้วหมดเลย ยิ่งนานวันยิ่งหายากครับ
ปิดรายการครับ นอกเว็บเช่าเหมา 3 ลูกครับ ขอบคุณครับ​

คาถาบูชา ตั้งนโม 3 จบ
.....โอมพระพักตร์ พระลักษณ์หน้าทอง สุวรรณผุดผ่อง หน้าทองพระพักตร์ ชายเห็นชายรัก สาวเห็นสาวรัก ผู้ใหญ่เห็นก็รักพากันโสมนัส ใครเห็นใครก็รัก รู้จักกูถ้วนหน้าไม่ว่าใคร นะจับจิตโมจับใจ พุทโยงใย ธาหลงใหล ยะร้องให้มาหากู ปะสะสัมมะปติฏฐามิ.
.....โอมพระแลงเป็นพระแสงพระลักษณ์ พระฤาษีจังปากกา พระลักษณ์จับหน้า จับตาสวาหะ นะ เห็นหน้ากูอยู่ไม่ได้ โมร้องให้ครอญคราง พุธกอดไว้มิใคร่จะวาง ธาครวญครางสะอื้นให้ ยะหลงใหลในจิต หญิงใดชายใดได้เพิ่งพิศเห็นหน้ากูก็อยู่มิได้ร้องให้มาหากู โอมสิทธิแก่กูสวาหะ เอหิชัยยะ เอหิสัพเพชนา พหูชนาเอหิ
.....พระคาถานี้ภาวนา 3 จบ พร้อมกับนำเศียรพระลักษณ์ หรือตะกรุด (ลูกอม) วนที่หน้า 3 รอบ โดยวนตามเข็มนาฬิกา (ทักษิณาวัตร) เป็นมหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม มีสง่าราศี เสริมวาสนาชะตาชีวิตบุญบารมีดีนักแล ค้าขายดีจะประกอบกิจการสิ่งใดก็สำเร็จสมความปราถนาทุกประการ

 

รายการ 7# เหรียญสาริกา พญากาหลง หรือหน้าฐานเล็กหลวงปู่กาหลง สภาพสวย โค้ดเลเซอร์ สวยมาก

รุ่น "ครอบเศียรพระลักษมณ์ ๒๕๕๐"
บูชา 300 บาท + ค่า EMS 50 บาท (บูชาสองเหรียญฟรีค่า EMS)
ปิดรายการนอกเว็บบูชาแล้วครับ ขอบคุณครับ​

 

รายการ 8# ตะกรุดพระลักษณ์หน้าทอง รุ่นครอบเศียรพระลักษณ์ปี 50

ตะกรุดพระลักษณ์หน้าทอง เนื้อทองแดง ยาว 2 นิ้ว ถักเชือกเกลียว คลุกผงวิเศษ
ลงรักปิดทองแท้ทั้งดอก ประทับยันต์และหมายเลข 17379
บูชา 800 + ค่า EMS 50 บาท ครับ​

.

 

ขออนุญาตนำประวัติหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล เพื่อรำลึกถึงและเผยแพร่บารมีหลวงปู่ครับ

​

หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน พระมหาเถราจารย์ 5 แผ่นดิน​

ประวัติปฎิปทา "หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล"

ท่านสามารถชม คลิปวิดีโอ หลวงปู่หมุน ได้จาก Link ด้านล่างนี้ครับ ชมทีไหร่ ปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เห็น ลป. ณ ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ต้องขอขอบคุณรายการเปิดบันทึกตำนาน เป็นอย่างสูงครับ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=mCtzSHQTGTU"]ประวัติหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ตอนที่ 1 [/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=VsXuNOR9rRU"]ประวัติหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ตอนที่ 2[/ame]


.....หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล เกิดในสกุล“ ศรีสงคราม” หรือ “ แก้วปักปิ่น” ถือกำเนิดเมื่อ วันพฤหัสบดี เดือน 5 ปีชวด พ.ศ. 2437 ณ บ้านจาน อ.กันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ บิดา ชื่อ " ดี " มารดาชื่อ " อั๊ว " มีอาชีพทำไร่ทำนา เป็นเด็กยากจน แต่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ต่อมาบิดามารดาเห็นแววทางด้านพระพุทธศาสนา จึงให้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 14 ปี และนำไปฝากกับพระอาจารย์สีดาเจ้าอาวาสวัดบ้านจาน ซึ่งเป็นพระที่เชี่ยวชาญด้านกรรมฐานและมีวิชาอาคมที่เก่งมาก ในปี 2460 ขณะอายุได้ 23 ปีได้เข้าอุปสมบทหมู่จำนวน 9 รูป โดยหลวงปู่เป็นรูปที่ 9 โดยมีโยมลุงของท่านเป็นเจ้าภาพ โดยมีหลวงพ่อสีดา เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเพ็งเป็นพระอนุสาวนาจารย์ และหลวงพ่อผุยเป็นพระ
กรรมวาจาจารย์ ได้รับรับฉายาว่า " ฐิตสีโล " แปลว่า " ผู้มีศีลตั้งมั่น " จากนั้นได้ศึกษาวิชาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่างๆ ในแถบนั้นเป็นเวลา 4 ปี ก่อนออกแสวงหาครูบาอาจารย์อื่นๆ เพื่อศึกษาคันธธุระและวิปัสสนาธุระในชั้นที่สูงๆ ขึ้นไป

.....ปี พ.ศ.2464 หลวงปู่หมุน เริ่มออกศึกษาแสวงหาประสบการณ์โดยได้ร่ำเรียนทั้งเวทย์วิทยา และสมถกรรมฐานจากครูบาอาจารย์หลายสำนัก การเดินทางในสมัยนั้นเป็นที่ลำบากยากเย็น ต้องเดินเท้าเปล่าผจญภัยจากผีป่า หรือสัตว์ร้ายนานัปการ แต่หลวงปู่มิได้ย่อท้อ ได้เดินทางไปศึกษาวิชาอาคมที่ สำนักตักศิลาแห่งบ้านจิกใหญ่ อ.พิบูลมังสาหาร จังหวัด อุบลราชธานี กระทั่งศึกษาคัมภีร์มหาพุทธาคม อันเป็นแม่บทของคัมภีร์ปถมัง คัมภีร์อิทธิเจ คัมภีร์มหาราช คัมภีร์ตรีนิสิงเห ซึ่งเป็นพื้นฐานแห่งอำนาจจิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำราพิชัยสงคราม เช่น คัมภีร์นิติประกาศิต คัมภีร์ธนูรเวทว่าด้วยการแต่งเครื่องครอบมนตร์ในสงคราม เป็นต้น

.....ในช่วงปี 2475-2482 เมื่อหลวงปู่สำเร็จการศึกษาวิชาการต่าง ๆ ก็เก็บบริขารออกธุดงค์ป่าผ่านถิ่นทุรกันดารในชนบทโดยเท้าเปล่ามายังกรุงเทพ ฯ ในระยะแรกหลวงปู่เข้าพักที่ วัดเทพธิดาราม เป็นการชั่วคราว โดยมีครูทองอินทร์ เป็นครูสอนของวัดเทพธิดาราม เป็นผู้เอื้อเฟื้อจัดหาที่พำนักให้ ท่านได้ให้หลวงปู่อยู่ที่วัดวัดอรุณราชวราราม พำนักอยู่กับพระพิมลธรรม(นาค) ศิษย์สายสมเด็จพระสังฆราชแพ โอกาสนี้หลวงปู่ได้ร่ำเรียนวิชาคัมภีร์มูลกัจจายน์สูตร ซึ่งเป็นหลักสูตรโบราณอันเก่าแก่ของคณะสงฆ์ไทยที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน เป็นตำราที่ละเอียดลึกซึ้ง แตกฉานพระบาลีว่าด้วยคัมภีร์อรรถกถายากยิ่งที่จะมีผู้เรียนได้สำเร็จ ปัจจุบันวิชานี้ได้ยกเลิกไปแล้ว

.....หลวงปู่หมุนได้เข้าสอบวิชามูลกัจจายน์ นั้น ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งการสอบในสมัยนั้นมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประธาน และสมเด็จพระสังฆราช(แพ) เป็นประธานกรรมการฝ่ายสงฆ์ และพระเถราจารย์เป็นผู้ทดสอบด้วย โดยมีการถามตอบแบบมุขปาฐะ (ปากเปล่า) ถ้าถามตอบบาลีผิดเกิน 3 คำ ให้ปรับเป็นตกทันที ด้วยความรู้ความสามารถที่แตกฉานในคัมภีร์หลวงปู่สามารถสอบได้เปรียญธรรมถึง 5 ประโยคในคราวเดียวเท่านั้น

.....หลังจากนั้นหลวงปู่ได้ใช้วิชาความรู้อย่าง คุ้มค่า โดยได้เป็นครูสอนมูลกัจจายน์อยู่ที่วัดหงส์รัตนาราม (ฝั่งธนบุรี) เป็นเวลานานหลายปี มีลูกศิษย์มากมาย นอกจากนี้ในช่วงหนึ่งหลวงปู่มาพักกับสมเด็จพระสังฆราชแพ ที่วัดสุทัศน์ฯ และได้ศึกษาวิชาบางอย่างกับสมเด็จพระสังฆราชแพอีกด้วย

.....จากนั้นก็เก็บ บริขารเดินธุดงค์ติดตามพระอาจารย์ทองดี ที่มาจาก อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย ธุดงค์ ไปทางภาคเหนือเข้าเขตพม่าเป็นเวลา 1 ปี จากนั้นก็เดินเท้าเปล่าลงภาคใต้ไปพำนักกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ เพื่อปฎิบัติกรรมฐานและแลกเปลี่ยนวิชาอาถรรพณ์เวทมนต์กับพระอาจารย์ทิมอยู่ ประมาณปีกว่า ๆ ก่อนธุดงค์เข้าเขตประเทศมาเลเซีย เพื่อจะเรียนวิชากับพ่อท่านครน วัดบางแซะ ใช้เวลาธุดงค์อยู่ถึง 7 วัน แต่ไม่พบจึงตัดสินใจกลับวัดช้างให้

.....ต่อจากนั้นก็ได้เรียนวิชาจาก พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช โดยได้ของที่ระลึกจากพ่อท่านคล้ายคือ ชานหมากเม็ดใหญ่เป็นที่ระลึก จากนั้นก็เดินธุดงค์เรื่อยมาจนกลับสู่เขตอีสานอีกครั้งและได้พบกับหลวงปู่สี ฉันทสิริ ในป่าแถบ จังหวัดหนองคาย และได้ วิชาลบผงสีจากหลวงปู่สี ซึ่งได้รับสืบทอดมาจากสมเด็จพุฒาจารย์โต วัดระฆังโฆษิตาราม

.....ช่วงที่ท่าน ธุดงค์แถบอุบลราชธานีได้พบกับ หลวงปู่มั่น และขอเรียนข้อวัตรปฏิบัติในพระกรรมฐาน แต่ไม่ได้ร่วมคณะธุดงค์ เพราะท่านอยู่มหานิกาย

.....หลวงปู่เคยเล่าประวัติในช่วงธุดงค์ให้กับพระภิกษุที่เป็นหลานของท่านว่า เคยได้เป็นศิษย์หลวงปู่มั่นอยู่พักหนึ่ง ในช่วงที่หลวงปู่ต้องการเจริญสมณธรรม เป็นธรรมอันล้ำลึกยากยิ่งที่ผู้ที่ยังเข้าไม่ถึงจะล่วงรู้ถึงอารมณ์ของ วิปัสสนานี้ได้ หลวงปู่หมุนได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้พระอาจารย์มั่นอยู่ระยะหนึ่งแล้วก็แสวงหา ความวิเวก เพื่อประพฤติปฏิบัติต่อไป จนกระทั่งหลวงปู่แตกฉาน เชี่ยวชาญ ครั้งนั้นหลวงปู่หมุนได้ศึกษาธรรมจนที่สห
ธรรมมิกที่เป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น รู้จักสนิทสนมกับหลวงปู่ทุกองค์ เช่น หลวงปู่แหวน สุจิณโณ เป็นต้น

.....ในตอนที่หลวงปู่หมุนไปกราบนมัสการ หลวงปู่มั่น ท่ามกลางศิษย์สายกองทัพธรรม ในขณะสนทนาธรรมหลวงปู่มั่นได้ปรารภกับหลวงปู่หมุนว่า " ท่านหมุน ท่านเก่งพอตัวอยู่แล้ว หากไม่เจอกันหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับปริยัติ ปฏิบัติ และปฎิเวธ ให้สอบถามท่านแหวนได้ เพราะเขาเก่งมาก "

.....หลวงปู่มั่นได้มอบของที่ระลึกให้หลวงปู่หมุน 2 อย่าง คือ แผ่นจารอักขระใบลาน ม้วนเป็นลูกอมกลมๆ เขียนเป็นภาษาขอมว่า เย ธมมา เหตุปภวา ฯลฯ เป็นต้น และธนบัตรรัชกาลที่ 8 พร้อมลายเซ็นหลวงปู่มั่น ภายหลังหลวงปู่ได้มอบให้โยมแม่ท่านไป ต่อมาหลวงปู่มีความกังขาสงสัยในกัมมัฏฐานในเรื่องของ จตุธาตุวัฏฐาน ซึ่งเป็นเรื่องของการปฏิบัติในธาตุทั้ง 4 เป็นมูลฐานของอิทธิปาฏิหาริย์ต่าง ๆ จึงได้เดินทางไปกราบของความรู้เพิ่มเติมจาก หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ก็ได้รับความกระจ่าง จากนั้นก็ธุดงค์ต่อไป ท่านยังได้ร่ำเรียนวิชาจาก พระอาจารย์สิงห์ วัดป่าสาลวัน หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา

.....ต่อมาไม่นานก็ ได้ร่ำเรียนวิชามีดหมอมหาปราบจากหลวงพ่อขำ วัดเขาแก้ว และหลวงพ่อเงิน วัดพระปรางค์หลวง ซึ่งวิชานี้หลวงพ่อเดิม พุทธสโร วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ก็เรียนจากหลวงพ่อขำและหลวงพ่อเงิน เช่นกัน นอกจากนี้ในช่วงที่หลวงปู่ธุดงค์มาสู่ภาคตะวันออกแถบจันทบุรี ท่านได้พำนักอยู่กับ หลวงพ่อสอน วัดเสิงสาง กระทั่งหลวงพ่อสอนไว้ใจให้วิชาอาคมและครอบครูให้กับหลวงปู่

.....หลวงปู่หมุน นับเป็นหนึ่งในทายาทผู้สืบสายเวทวิทยาพุทธาคมในสายสมเด็จลุนแห่งนครจำปา ศักดิ์ราชอาณาจักรลาวที่ยังดำรงขันธ์อยู่ในปัจจุบัน โดยสมเด็จลุนเป็นที่เลื่องลือในคุณธรรมและอภิญญาอภินิหารอาทิ สามารถเดินบนน้ำได้ ย่นระยะทางได้ แปลงร่างได้ เดินทะลุภูเขาได้กล่าวกันว่าภิกษุสงฆ์ยุคก่อนโน้นต่างดั้นด้นสืบเสาะหา สมเด็จลุน (สำเร็จลุน) เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษามหาวิทยาคม ตลอดจนวิปัสสนากรรมฐาน หลวงปู่หมุนเองก็ดั้นด้นธุดงค์ผ่านอุบลราชธานีเข้าประเทศลาวเพื่อสืบเสาะสม เด็จลุน แต่ไม่พบ แล้วมาพักอยู่กับหลายพ่อมหาเพ็ง วัดลำดวน ในช่วงนั้นหลวงปู่ได้ใช้เวลาค้นคว้าศึกษาพระไตรปิฏก ในเรื่องพระวินัยปิฏก และพระอภิธรรม ซึ่งเป็นพระคัมภีร์ที่กล่าวถึงการ
เจริญกัมฏฐานล้วนๆ ประมาณ 2 เดือนกว่า แล้วก็ออกธุดงค์กลับสู่ประเทศไทยเข้ากรุงเทพฯ มาพักนักที่วัดหงส์รัตนาราม

.....ต่อมาธุดงค์ไปทางอีสานเข้าสู่ประเทศลาวอีก หลายครั้ง จนกระทั่งท่านมีอายุ 30 ปีกว่าแล้ว คราวนั้นหลวงปู่ได้พบกับฆราวาสชื่ออาจารย์ฉันท์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นเหลนของสมเด็จลุน ที่จังหวัดนครพนม โดยเรียนวิชาจากอาจารย์ฉันท์จนหมดภูมิแล้ว อาจารย์ท่านจึงได้แนะนำฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ดำเหลนของสมเด็จลุนปรมาจารย์ ใหญ่ที่สืบสายเวทวิทยาพุทธาคมในสายสมเด็จลุน

.....ในการฝากตัวเป็นศิษย์ของ หลวงปู่ดำนั้น มีกฎเกณฑ์รายละเอียดมากทั้งยังต้องทดสอบภูมิปัญญา และอำนาจของกระแสจิตที่ต้องเข้มแข็งพอที่จะเรียนวิชาของท่านได้ ในรุ่นที่หลวงปู่ฝากตัวเป็นศิษย์นั้นมีมากกว่า 50 รูป แต่หลวงปู่ดำท่านทดสอบวิชา แล้วคัดออกจนเหลือแค่ 3 รูป มีหลวงปู่หมุน หลวงพ่อสงฆ์ (วัดม่วง ลพบุรี) และอีกรูปหลวงปู่ลืมชื่อไปแล้ว

.....สำหรับพิธีครอบครูของหลวงปู่ดำนั้นมีของยกครูที่หลวงปู่จำได้อย่างแม่นยำคือ 1.ผ้าไตรจีวร 2.บาตร 3.ทองคำหนัก 10 บาท (สำหรับทองคำ จะคืนให้เมื่อเรียนจบ) และมีข้อห้ามประการสำคัญอีกคือ ห้ามสึกตลอดชีวิต ถ้าสึกไปชีวิตก็จะหาไม่
ในการครอบวิชานี้ถือว่าเป็นสุดยอดเคล็ดวิชา วิทยาคม ในสายของสมเด็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ ซึ่งกว่าจะเรียนจบต้องใช้ความวิริยะอุตสาหะบำเพ็ญเพียรอย่างมาก ได้จำวัดพักผ่อนวันละ 4 ชั่วโมงเท่านั้น อาหารต้องฉันมื้อเดียว และขั้นตอนสุดท้ายที่จะสำเร็จวิชานี้จะมีการทดสอบอย่างพิสดาร

.....อย่างไรก็ตาม เป็นที่เชื่อกันว่าหลวงปู่หมุนท่านสำเร็จวิชาสำเร็จธาตุ 4 มาจากสายสมเด็จลุน ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าวิชาสายนี้ลึกลับเกินปุถุชนคนธรรมดาจะเรียนได้สำเร็จ ผู้ที่จะเข้าถึงได้ต้องเป็นผู้ที่มีบารมีมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน เพราะการควบคุมธาตุ 4 ได้นั้นผู้ที่จะสามารถทำการนี้ได้ต้องสำเร็จจตุตฌานเป็นบาทฐานในการทำ และยังต้องมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของกสิณจตุธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม และไฟอีกด้วย

.....หลังจากนั้น หลวงปู่ก็กลับมาจำพรรษา ที่วัดบ้านจาน จนได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส และพระอุปัชฌาย์ รับสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นประทวน ที่" พระครูหมุน ฐิตสีโล" หลวงปู่ได้ปฎิบัติศาสนกิจตามที่ได้รับมอบหมายเป็นเวลาถึง 20 ปี จึงลาออกจากทุกตำแหน่ง ต้องการใช้ชีวิตที่เหลือบำเพ็ญสมณธรรมปฏิบัติพระวิปัสสนาธุระ อย่างเดียว ประมาณปี 2487 ในช่วงที่หลวงปู่อายุ 50 ปี ท่านเก็บบริวารออกธุดงค์บำเพ็ญเพียรอยู่ในป่าดงดิบ โดยลำพังแต่ผู้เดียว และในช่วงนี้เองที่หลวงปู่ได้พบกับอาจารย์จ่อยและอาจารย์ขวัญ วัดป่าหนองหล่ม ในระหว่างที่หลวงปู่ธุดงค์โดยบังเอิญ อาจารย์ทั้ง 2 จึงได้นิมนต์หลวงปู่โปรดญาติโยมที่วัดป่าหนองหล่ม หลังจากที่หลวงปู่หมุนเดินธุดงค์แสวงหาธรรม อยู่หลายสิบปี ประมาณปี 2520 ท่านจึงกลับมายังวัดบ้านจาน ซึ่งวัดบ้านจานในยามนั้น มีอายุกว่า 200 ปี อยู่ในสภาพทรุดโทรม ท่านจึงได้พัฒนาวัด สร้างอุโบสถขึ้นมา ด้วยหยาดเหงื่อและแรงจิต ทำให้อุโบสถเสร็จสมบูรณ์ในเวลาอันสั้น

.....นอกจากนี้ท่านยังได้ช่วยเหลือ ลูกศิษย์และสหธรรมิก อีกหลายวัดเช่น วัดป่าหนองหล่ม, วัดโนนผึ้ง ,วัดซับลำใย, และคณะศิษย์วัดสุทัศน์ฯ ในการสร้างถาวรวัตถุของวัด จนเป็นที่มาของ วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมในหลายรุ่นต่อมา ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังแทบทุกรุ่น ที่ท่านจัดสร้างขึ้น จึงเป็นที่นิยมในหมู่ศิษยานุศิษย์ ด้วยเชื่อในพลังแห่งบุญฤทธิ์จิตตานุภาพของท่าน

ไม่เปียกฝน

.....เจ้าของโรงเลื่อยย่านวัฒนานครได้ประสบการณ์แปลกประหลาดเกี่ยวกับหลวงปู่คือ เมื่อช่วงกรกฏาคม 2542 เขาได้เข้าไปทำธุระยังประเทศลาว ขากลับได้อาศัยรถกระบะนั่งกลับในช่วงกลางคืน ระหว่างทางมีฝนตกฟ้าคะนองรุนแรง เขาได้นั่งอยู่ท้ายรถกระบะที่ไม่มีหลังคาคลุม ซึ่งนั่งรวมกับคนงานไทยประมาน 7-8 คน มีความกลัวมากจึงตั้งจิตอธิษฐานถึงหลวงปู่หมุนให้มาช่วยคุ้มครอง พอถึงที่หมายแถวกบินทร์บุรี ผลปรากฏว่าเจ้าของโรงเลื่อยผู้นั้นไม่เปียกฝนเลย ส่วนคนงานอื่นๆ ที่นั่งท้ายรถมาด้วยกันเปียกฝนทุกคน พอมีเวลาจึงเข้าไปกราบหลวงปู่ขอสร้างกุฏิถวาย เพราะช่วงนั้นท่านเพียงกลางกลดนอนในกระต๊อบเก่าๆ เท่านั้น

กล้องแตก

.....เมือประมานเดือนสิงหาคม 2542 มีชาวอเมริกันกลุ่มหนึ่งมาเที่ยวที่วัด เพราะเห็นมีธรรมชาติสมบูรณ์ ผ่านมาเห็นหลวงปู่หมุน จึงถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก หลวงปู่ยกมือห้ามไม่ให้ถ่ายแล้วพูดว่า “ถ่ายบ่ได้กล้องซิแตก” ฝรั่งเหล่านั้นฟังไม่เข้าใจ จึงกดชัตเตอร์ถ่ายภาพออกไป ผลปรากฏว่ากล้องราคาแพงนั้นเกิดเลนส์ร้าวขึ้นมาทันที ทำให้ฝรั่งกลุ่มนั้นเกิดแปลกประหลาดใจ และเกิดความเลื่อมใสจึงเข้ามากราบหลวงปู่และถวายเงินสดประมานสามหมืนกว่าบาท ท่านรับเงินนั้นแล้วก็โยนเงินปึกนั้นคืนให้แล้วบอกว่า “ข้าบ่ได้มาหากิน เอาเงินของเอ็งคืนไป”

ผีมาฉีดยากุฏิสั่นสะเทือน

.....เมื่อกลางพรรษานี้หลวงปู่ได้ปลุกเสกลูกอมชานหมาก และมวลสารต่างๆ เพื่อจะนำมาสร้างพระรุ่นแรกของท่าน ในกลางดึกสงัดปรากฏว่ามีเสียงสุนัขเห่าหอนกันอย่างโหยหวนอย่างที่ไม่เคยเป็น มาก่อน พอรุ่งเช้าพระอธิการจ่อยได้เข้ากราบนมัสการถามเรื่องนี้ หลวงปู่ตอบแบบเป็นปริศนาธรรมว่า “นายผีเขามา พาพวกผีป่าต่างๆ มาฉีดยา” นายผีที่ว่านี้อาจจะเป็นเจ้าแห่งภูติผีคือท่านท้าวเวสสุวรรณก็เป็น ไปได้ ส่วนพวกผีป่าที่มาฉีดยานั้น ก็พากันมาขอส่วนบุญส่วนกุศล พอดึกสงัดคืนที่ 2 ปรากฏว่ามีเสียงกุฏิท่านสั่นสะเทือนเหมือนเกิดแผ่นดินไหว พอรุ่งเช้าท่านบอกว่า “ครูบาอาจารย์มาช่วยกันปลุกเสกให้จนกุฏิสั่น” หลวงปู่จึงยกมือไหว้ครูบอกว่า “ขลังพอแล้ว เดี่ยวกุฏิจะพัง”

หนึ่งไม่มีสอง

.....คุณดารารัตน์ เจ้าของร้านสาวสวย ขายผลิตภัณฑ์พลาสติก ย่านสำเพ็ง ซึ่งเป็นคนที่ปฏิบัติธรรมจนได้มโนมยิทธิ จากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้กรุณาเล่าให้ฟังว่าหลังจากที่น้องชายได้เหรียญและลูกอมชานหมากมาก็ได้ อธิษฐานขอชมบารมี ปรากฏว่าวัตถุมงคลนั้นมีพลังมากเกินกว่าที่สัมผัสได้ เสมือนตัวเองยืนอยู่บนพื้นดินแล้วแหงนหน้าดูดวงอาทิตย์ฉันนั้น พอตกกลางคืนก็ฝันเห็นพระสูงอายุมายืนบนหัวนอนแล้วยืนชูนิ้วชี้ขึ้นมาพูดว่า “หนึ่งไม่มีสอง”

หลวงตามหาบัว บอกให้ไปหา

.....ช่วงที่พระอาจารย์ตั้ว ศิษย์เอกหลวงพ่อกวยตระเวนหาพระอาจารย์ที่เก่งๆ ได้เข้าไปกราบหลวงตามหาบัว และขอของดีจากท่าน ปรากฏว่าท่านบอกว่าไม่มี ถ้าชอบในวัตถุมงคลอิทธิปาฏิหาริย์ให้ไปหาหลวงตาหมุนโน่น ซึ่งกว่าพระอาจารย์ตั้วจะค้นหาหลวงปู่หมุนได้เป็นเวลาถึง 15 ปี กว่าจะได้เจอ โดยคำบอกเล่าของพระอาจารย์มงคล วัดสุทัศน์ จึงได้เดินทางไปกราบนมัสการด้วยกัน

คุ้นเคยกับพระคณาจารย์ยุคเก่า

.....ในช่วงหนึ่งพระคุณเจ้าทั้งสองได้เรียนถามหลวงปู่ว่า “รู้จักหลวงพ่อกวยไหม” ท่านตอบว่ารู้จักซิ องค์นี้เก่ง เคยพบกันในป่า ซึ่งคำตอบนี้ยังความปลื้มปีติแก่พระอาจารย์ตั้วเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านั้นหลวงพ่อกวยสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ได้บอกกับพระอาจารย์ตั้วว่า “มีพระที่เก่งมากอยู่รูปหนึ่งอยู่ในป่าแถบขอนแก่น ท่านสำเร็จแล้ว ต้องไปหาท่านให้พบ ชื่อหลวงพ่อหมุน” ซึ่งเป็นคำบอกเล่าของหลวงพ่อกวยโดยตรง

.....จนกระทั่งเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 11 มี.ค.2546 หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล พระอมตะเถระ 5 แผ่นดิน แห่งวัดบ้านจาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ มรณภาพลงอย่างสงบบนกุฎี สิริอายุ 109 ปี 86 พรรษา

 

รายการ 9# รูปหล่อโบราณขนาดบูชา สูง 5 นิ้ว เนื้อสัมฤทธิ์ รุ่น "ปรามาจารย์ 5 แผ่นดิน"

ปิดรายการครับ นิมนต์แล้วครับ

ใต้ฐานฝั่งลูกสกดที่ท่านปลุกเสกไว้, ตระกรุดนะมหาโชค และปิดด้วยจีวรแท้ๆ ของท่าน Code 456
แบ่งบูชา 3,500 บาท (ฟรีค่า EMS)
.​

 

รายการ 10# เหรียญเม็ดแตง หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน เนื้อทองแดง

เหรียญเม็ดแตง หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน เนื้อทองแดง ยังมีผิวไฟเดิมๆ
รุ่น "เสาร์ ๕ บูชาครู" ปี ๒๕๔๓
ราคา 3,600 บาท (ฟรีค่า EMS) ​

.






ข้อมูลสำหรับโอน
นายศุภกรณ์ พรเจริญโรจน์
เลขที่บัญชี 020-2-41815-5
ธนาคาร กสิกรไทย สาขาบางซื่อ
Tel.083-1361122

 

ขอโชว์ก่อนครับ พระผงนั่งตั่ง หลวงปู่หมุน รุ่นเจริญลาภ ปี 2542

ของดีที่ไม่ควรมองข้ามครับ
**แบ่งเช่าตอนนี้จากรูปเหลือเพียง 3 ชิ้นครับ สนใจโทร.สอบถามได้ครับ **​

.



.
ข้อมูลสำหรับโอน
นายศุภกรณ์ พรเจริญโรจน์
เลขที่บัญชี 020-2-41815-5
ธนาคาร กสิกรไทย สาขาบางซื่อ
Tel.083-1361122

 

รบกวนสอบถามคับ

ขอราคารายการนี้คับขอบคุณคับ

 

ขออภัยที่ตอบล้าช้าครับ แจ้งราคาทาง PM แล้วครับ

รบกวนพิจารณาก่อนครับ ขอบคุณมากครับ
++++++++++++++++++++

 

สนใจรายการไหนสอบถามได้ครับ

ติดต่อได้ทั้งทางมือถือครับ และ PM หากตอบล้าช้ายังไง
กราบขอประทานอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ข้อมูลสำหรับโอน
นายศุภกรณ์ พรเจริญโรจน์
เลขที่บัญชี 020-2-41815-5
ธนาคาร กสิกรไทย สาขาบางซื่อ
Tel.083-1361122 ​