เก็บรวบรวมข้อมูลสัตว์ตายหมู่ สัตว์บอกเหตุ *ให้สังเกตสัตว์ตายหมู่ช่วงนี้*

อาจจะเป็นเหมือนดังคุณ falkman บอกก็เป็นได้
เกิดปฏิกิริยาอะไรสักอย่างอยู่ใต้พื้นผิวโลก
ขอบคุณสําหรับข่าวสารนะครับ จะคอยติดตามความ
เคลื่อนไหวจากข่าวที่คุณนํามาบอก ขอบคุณอีกครั้ง^-^

 

In Pics : โลมาขนาดใหญ่ราว30ตัวเกยตื้นที่บราซิล จนท.รุดตรวจสอบหาสาเหตุ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กันยายน 2556 02:02 น.




เอพี - พบโลมาขนาดใหญ่ราว 30 ตัว ว่ายขึ้นมาเกยตื้นชายหาดทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุและกำลังเร่งมือตรวจสอบ อย่างไรก็ตามสื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานวันจันทร์(23) ว่าพวกมันตายแล้วอย่างน้อยๆ 7 ตัว

โลมาเหล่านี้ถูกพบเกยตื้นในอาริยา บรังกา ราวครึ่งทางระหว่างเมืองฟอร์ตาเลซากับเมืองนาทัลตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์(22)



ภาพถ่ายที่แจกจ่ายโดยตำรวจสิ่งแวดล้อมรัฐรีโอกรันดีโดนอร์เต เผยให้เห็นชาวบ้านและผู้เดินผ่านไปมา พยายามหลีกเลี่ยงฝูงโลมา ที่หลายตัวนอนรวยรินอยู่ตรงน้ำตื้น บางครั้งคลื่นทะเลก็ซัดหางของมันเคลื่อนไปมา ขณะที่ผู้คนช่วยกันใช้เสื้อยืดซับน้ำมาบิดใส่ เพื่อให้ตัวของพวกมันเปียกอยู่ตลอดเวลา



หนังสือพิมพ์โอ โกลโบ ระบุยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทำไมโลมาเหล่านี้ถึงว่ายขึ้นมาเกยตื้นชายหาดเอง แต่เหล่านักชีววิทยาได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างเพื่อไปตรวจสอบว่ามันมีต้นตอจากผู้นำฝูงป่วยหรือไม่ อย่างไรก็ตามสื่อมวลชนฉบับนี้รายงานเป็นที่น่าเศร้าว่าจนถึงวันจันทร์(23) พบว่าพวกมันตายแล้วอย่างน้อยๆ 7 ตัว




น่าจะมีอะไรที่ในทะเลลึก ไม่เช่นนั้นปลาโลมาเหล่านี้คงไม่หนีมาเกยตื้นที่ชายฝั่งแน่นอน แค่ความเห็นส่วนตัวครับ

 

พบปลาพญานาคตัวใหญ่นอกฝั่งแคลิฟอร์เนีย

วันพุธที่ 16 ตุลาคม 2556 เวลา 02:52 น.



อาจารย์สอนวิทยาศาสตร์ทางทะเล ดำน้ำลงไปพบปลาออร์ หรือ ปลาพญานาคตัวใหญ่ นอกฝั่งตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ขนาดความยาว 5 เมตร


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ว่า น.ส.จัสมิน ซานตานา อาจารย์สอนวิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเลแห่งสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลเกาะคาตาลินา ได้ลงดำน้ำตื้น นอกชายฝั่งทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย และพบซากสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล นั่นคือ ปลาออร์ หรือที่เรียกกันว่า ปลาพญานาค ปลาทะเลน้ำลึก ความยาวประมาณ 5 เมตร เธอต้องขอให้คนช่วยรวมกันแล้ว 15 คน กว่าจะนำปลาออร์ตัวนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ เมื่อวันจันทร์ที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา

บรรดาเจ้าหน้าที่ของสถาบันฯต่างพากันประหลาดใจกับการค้นพบครั้งนี้เช่น นายมาร์ค เวดดิงตัน กัปตันเรือฝึกของสถาบันฯ เปิดเผยว่า ไม่เคยเห็นปลาตัวใหญ่ขนาดนี้เลย เพราะปลาออร์ถือเป็นปลาทะเลอาศัยอยู่ในเขตน้ำลึกกว่า 3,000 ฟุต หรือ 914 เมตร โอกาสที่จะพบเห็นจึงน้อยมาก หากโตเต็มที่อาจมีความยาวถึง 15 เมตร

สำหรับสาเหตุที่ปลาตัวนี้ตายนั้นน่าจะเป็นสาเหตุธรรมชาติ แต่ก็จะต้องนำตัวอย่างเนื้อเยื่อและภาพจากวิดีโอส่งไปให้นักชีววิทยาของมหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ซานตา บาร์บารา ทำการตรวจสอบต่อไป

พบปลาพญานาคตัวใหญ่นอกฝั่งแคลิฟอร์เนีย | เดลินิวส์

 

จากสมมุติฐานว่าพิบัติภัยที่จะเกิดแบบแรงๆ
บนโลกนี้คือการปรับสมดุลย์ใหม่ของโลก
เพื่อเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่ พอเข้าใจได้อยู่

แต่เมื่อพิจารณาเรื่องเกี่ยวกับสัตว์บก สัตว์น้ำ
สัตว์อวกาศ(อากาศ)เช่นปลา หรือนกบางชนิด
ที่ต้องตายพร้อมกันนับหมื่น นับแสน
อันนี้ใครพอจะมีคำตอบได้บ้างว่า
สัตว์เหล่านี้ไปทำร้าย ทำลาย
ความสมดุลย์ของโลกที่ตรงไหน อย่างไร
เห็นแต่พวกมันสละชีวิต เป็นอาหารอันโอชะ
ของสัตว์ที่ใหญ่กว่ารวมถึงสัตว์มนุษย์ก็ได้กัดได้กิน
สัตว์พวกนี้(กุ้ง หอย ปู ปลา นก)
ต่อลมหายใจมาทุกวี่ทุกวัน

โลกมันปรับสมดุลย์ หรือโลกมันมีรอยรั่ว
ปล่อยแก๊สที่เป็นพิษต่อสัตว์ต่าง ๆ
ออกมาจากภายในใจกลางโลกกันแน่

คนที่รู้พองูงู ปลาปลา ช่วยเฉลยหน่อยครับ!!!

 

อั๊ยย่ะ!!!

หวังว่า The Bigone คงจะไม่เกิดเร็ว ๆ นี้น่ะ ญาติติ๊กที่อยู่ที่นั่นบอกว่าเมื่อต้นปีพึ่งจะมีการซ้อมรับ The bigone ไป
นี่อยู่ ๆ ปลาพญานาคมาให้เห็นแบบนี้ ใจคอชักจะไม่ดี สวดมนต์ภาวนา ทำใจอย่างเดียวเลยค่ะ

 

สภาพแวดล้อมเสีย ก็ทำให้สมดุลย์ทางชีวภาพมันเสียตาม
เช่น โลกร้อนขึ้น อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น ทำให้แมงกระพรุนไฟแพร่พันธุ์ได้มากขึ้น ขยายตัวจนเกิดระบาดในทะเลมากขึ้น ก็ทำให้ปลาตายเป็นฝูงๆ ได้
ประจวบกับสารอินทรีย์จากโรงงานและบ้านเรือน และปุ๋ยเคมีที่หลงเหลือจากการกระทำของมนุษย์ที่ปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำและลงทะเล ทำให้สาหร่ายสีแดงมีพิษ ระบาด ก็ทำให้สัตว์น้ำตายเป็นจำนวนมากได้
พอสัตว์น้ำตายแยะ แบคทีเรียก็มากัดกิน ไวรัสก็มาลงแจมต่อ ออกซิเจนไม่พอในน้ำ สัตว์น้ำก็ตายอีก

นี่เป็นแค่ที่เห็นได้ชัด

นอกจากนี้ยังอาจมีรังสีต่างๆ ที่อาจจะผ่านชั้นโอโซนลงมาได้อีก เพราะตอนนี้โอโซนก็ลดลง ก็อาจมีผล

สนามแม่เหล็กโลกก็อ่อนลง ทั้งนก และสัตว์น้ำที่ต้องอาศัยสนามแม่เหล็กโลกในการอพยพย้ายถิ่นก็เกิดหลงทาง ไปตายน้ำตื้นกันได้อีกแยะ

ส่วนเรื่องแกสและไอร้อนรั่วจากใต้พิภพเพราะเปลือกโลกขยัยนั่นก็คงมีส่วน

 

ปลาพญานาคโผล่อีกตัวที่หาดแคลิฟอร์เนีย

วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2556 เวลา 04:42 น.



นับเป็นครั้งที่สองแล้วในช่วงไม่ถึง 1 สัปดาห์ ที่ปรากฏสัตว์ประหลาดจากท้องทะเลอย่างปลาพญานาค หรือปลาออร์ ที่ชายหาดด้านทิศใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองโอเชียนไซด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ว่า หนังสือพิมพ์ยู-ที ซัน ดิอาโก รายงานว่า นับเป็นครั้งที่สองแล้วในรอบไม่ถึง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีการพบสัตว์ประหลาดจากท้องทะเลอย่างปลาพญานาค หรือ ปลาออร์ ที่พัดขึ้นมาบนชายหาดของเมืองโอเชียนไซด์ ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา วัดความยาวได้เกือบ 14 ฟุต หรือ 4.3 เมตร มีผู้คนมามุงดูซากปลา 75 คน

ทางตำรวจเมืองโอเชียนไซด์ จึงได้ติดต่อไปยังพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซีเวิลด์ ซัน ดิอาโก สถาบันวิจัยสคริปป์ส และ สถาบันมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่จากสถาบันมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติมาเก็บซากปลาออร์ โดยถูกตัดออกเป็นชิ้น เพื่อนำไปศึกษาวิจัยต่อไป

ถือเป็นเรื่องไม่ปกตินักที่จะพบปลาที่อาศัยอยู่ในเขตน้ำลึก ลอยขึ้นมาเกยฝั่ง เพราะเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ก็มีนักดำน้ำไปพบซากปลาออร์ความยาว 18 ฟุต หรือ 5.5 เมตร จึงลากกลับมายังชายฝั่ง โดยตั้งใช้คนกว่า 10 คนช่วยกันลากซากปลาตัวดังกล่าวขึ้นมาได้

ตามรายงานของสถาบันทางทะเลเกาะคาตาลินา ระบุว่า ปลาออร์อาจมีความยาวได้ถึง 15 เมตร ถือเป็นปลากระดูกแข็งที่ยาวที่สุดในโลก

ปลาพญานาคโผล่อีกตัวที่หาดแคลิฟอร์เนีย | เดลินิวส์

 

ใกล้เคียงกับช่วงที่กำลังจะเกิดแผ่นดินไหว M6.4 ที่อ่าวแคลิฟอร์เนีย พื้นมหาสมุทรที่เป็นที่อยู่ของปลาออร์ (จุดที่ลึกสุดในอ่าว 2800 เมตร ส่วนใหญ่ลึกประมาณ 2000 เมตร ) อาจจะปริแยก ก๊าซพิษที่ผุดออกมาจากใต้เปลือกโลก น่าจะเป็นสาเหตุทำให้ปลาตายได้

.

 

ข่าวจาก LA
‘Sea Serpents’ Or Harbingers? Oarfish Washed Up Year Before Japan Quake « CBS Los Angeles

คนอเมริกันเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมเจอปลา Oar fish บ่อยนัก จะเหมือนญีุ่ป่น ที่เจอปลานี้บ่อยมากก่อนเกิดสึนามิใหญ่หรือไม่

 

เลิกสงสัยได้แล้วลูกพี่
แล้วย้ายไปหาที่อยู่ที่ปลอดภัย
ก่อนที่จะลุกขึ้นนั่งไม่ทัน!!!!

 

ในความเป็นจริงเรื่องการย้ายที่อยู่ แบบเคลื่อนรกรากไปหาที่ตั้งใหม่
ไม่ใช่เป็นเรื่องเล็กๆ

ในขณะที่ราคาที่ดินและวัสดุก่อสร้างสูงลิ่ว ๆ
และยังมีเรื่องที่กังวลใจเกี่ยวกับความสงบปลอดภัย จากโจรผู้ร้าย
ในท้องถิ่นนั้น ๆรวมถึงมาเฟียต่างๆอีก

สำหรับคนที่รายได้ต่ำ ไม่สามารถแม้แต่จะคิด
ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามชะตากรรม

คนที่จะหลบหลีกความเสี่ยงไปได้คงมีจำนวน
ไม่มากนัก เพราะเขาและครอบครัวของเขา
จะเป็นคนจำพวกมีฐานะ
การเงินดีพอสมควร และมีการตื่นรู้เกี่ยวกับ
การเเปรเปลี่ยนไปของธรรมชาติ ในหลายมิติ
สุดท้ายคือเห็นพ้องกันว่าถ้าไม่ไป ก็ตายเร็ว
กว่าปกติแน่ๆ

 

ปลาวาฬ

อิอิ น่าทึ่งกับ แกวมุง ไม่ใช่ ไทยมุง

 

ระทึก! พบปลาพิสดารจมูกยาวอยู่ใต้ท้องทะเล ผู้เชี่ยวชาญมึน ไม่รู้สายพันธุ์ที่มา (ชมภาพ)

วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 13:00:54 น.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ว่า เกิดเหตุชวนตะลึง เมื่อชาวประมงแคนาดาได้พบปลาพิสดารจมูกยาว อาศัยอยู่ใต้ท้องทะเลระดับ 3,000 ฟุต นับเป็นการจับปลาชนิดนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว



รายงานว่า ปลาดังกล่าวถูกจับโดยชาวประมงในช่องแคบฮัดสัน ในจังหวัดนูนาวัต ทางตอนเหนือสุดของแคนาดา ผู้เชี่ยวชาญตอนแรกเชื่อว่ามันเป็นปลาประหลาดที่มีลักษณะคล้ายฉลาม โดยลักษณะจมูกที่ยาวแหลมของมันทำให้มนุษย์ไม่กล้าเข้าใกล้ แต่ต่อมามีการถกกันว่ามันเป็นปลาประเภทไหน ก่อนจะสรุปว่ามันเป็นปลาประเภท "chimaera" จมูกยาวที่หายากมาก และมีสายพันธุ์เป็นเครือญาติกับฉลามและปลากระเบน และว่า การจับปลาประเภทนี้ต้องดำน้ำลึกถึงระดับ 1-2 พันเมตรทีเดียว โดยปลาจมูกยาวนี้มีหางคล้ายแส้ สามารถโตได้ยาวถึง 3 ฟุต
ระทึก! พบปลาพิสดารจมูกยาวอยู่ใต้ท้องทะเล

 

ฮือฮา พบแมงกะพรุนมรณะสุดหายาก แฝงตัวซ่อนในท้องทะเลกว่า 100 ปี (ชมภาพ)

วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 13:00:07 น.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ได้มีการพบแมงกะพรุนพิษหายากมากเป็นครั้งที่สองในรอบ 100 ปี ในเมืองมูลูลาบา ของออสเตรเลีย หลังมีการพบเป็นครั้งแรกโดยนักวิทยาศาสตร์อเมริกัน เมื่อปี 1910 ห่างชายฝั่งเมืองคุกทาวน์ ในรัฐควีนแลนด์



รายงานระบุว่า แมงกะพรุนมีชื่อพันธุ์ว่า "Crambione Cookii" มีลักษณะสีชมพู เป็นแมงกะพรุนมีพิษร้ายแรง ตัวยาวขนาด 50 ซม. สามารถต่อยได้อย่างรุนแรงจนสามารถรู้สึกได้ในท้องทะเล ถูกพบโดยเจ้าหน้าที่หญิงผู้ควบคุมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ "Underwater World aquarium" ขณะกำลังปล่อยเต่าลงสู่ท้องทะเล และบอกว่า เป็นเรื่องน่าทึ่งมากที่รู้ว่า เขาเป็นคนแรกที่พบแมงกะพรุนนี้รอบใหม่ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา แมงกะพรุนดังกล่าวถือเป็นแมงกะพรุนตัวใหญ่ที่สุดที่เธอเคยเห็นในทะเลออสเตรเลีย



ทั้งนี้ ด้านนักชีววิทยาท้องทะเลยังคงโต้เถียงกันว่า แมงกะพรุนพันธุ์นี้ ซึ่งเชื่อว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว สามารถหลบเลี่ยงการถูกพบเห็นจากมนุษย์ได้อย่างไรมาตลอดกว่า 100 ปี

ฮือฮา พบแมงกะพรุนมรณะสุดหายาก แฝงตัวซ่อนในท้องทะเลกว่า 100 ปี (ชมภาพ) : มติชนออนไลน์

 

มลพิษในทะเล การเคลื่อนตัวของเปลือกโลกเพื่อปรับสมดุล การดูดน้ำมัน และน้ำใต้ดินมาใช้ การตัดต้นไม้ ภาวะโลกร้อน การใช้นิวเครียส์ ปรมาณู การขุดถ่านหิน การทำเหมือง การใช้สารพิษต่างๆ ทั้งหมดน่าจะเป็นเหตุผลที่พอเพียงที่จะทำให้ แผ่นดิน สภาวะภูมิอากาศ โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มันน่าจะเป็นเหตุผลที่เพียงพอในการปรับเปลี่ยนแผ่นดินในยุคของพวกเรามิใช่หรือ ข้อมูลที่พี่ๆๆน้องๆทุกคนให้พวกเราเพียงพอที่จะต้องเตรียมกาย เตรียมใจ เตรียมพร้อมในทุกสถานะการณ์ แม้ต้องตายก็ต้องไม่ลงอบายภูิมิ แม้อยู่รอดก็ต้องพร้อมจะช่วยเหลือทุกคน ลองคิดเล่นๆๆกันดีกว่าค่ะ ว่าเราพร้อมหรือยัง.......