ประสบการณ์ สามครั้ง เมื่อข้าพเจ้าได้เจอพญานาค

พอรู้ตัวเวลาฝัน ผมชอบ โดดตีลังกาเล่นเหมือนหนังจีนกำลังภายในนะจ๊ะ โดดแรงไม่ได้กลัวลอยออกนอกโลก เพราะล่าสุดนี่ ลอยออกไปถึงขอบจักรวาลเลยนะจ๊ะ ลอยไปตามอุโมงแสงสว่างลายพร้อยระยิยระยับงามตาแต่ผม ไม่งามด้วย(ที่งามเพราะน้องตทิพย์เขาเห็นด้วย เวลาผมฝันอะไร ไปเล่าให้เขาฟัง เขาจะเห็น ความฝัน ที่ผมฝันนั้นด้วยหมดเลย) ส่วนตัวผมคนที่ฝัน ในฝันได้แต่หรี่ตาดูรอบๆ เพราะกลัวความเวิ่งว้าง นะจ๊ะ
และมีหลายครั้งที่เหมือนมีคนมาแกล้งเราในความฝัน เช่นล่อหลอกให้โกรธและทำร้ายคนอื่นในฝัน แล้วเขาก็แปลงเป็นตำรวจมาไล่ล่าเราซึ่งเราก็ต้องหนีเหมือนสุนัข แทบตาย แต่พอเราจะรุ้ตัวในฝันว่าโดนแกล้ง มันก็พาตื่นก่อน เพราะกลัวว่าผมจะเอาคืน ในความฝันนั่นเอง นะจ๊ะ

 

หวังว่า ทุกท่านจะเข้าใจเรื่องกามภพ ได้ไม่มากก็น้อยนะจ๊ะ
หากมีอะไรสงสัยอยากให้อธิบายก็ ถามมาได้นะจ๊ะ ลงคำถามเอาไว้นะจ๊ะ

 

เมื่อคืนก็ฝันนะจ๊ะ ถือปืนนักรบ เป็นทหารหนีทัพ ทุกที
มีหมาเป็นบอดี้การ์ดด้วยนะจ๊ะ

 

ท่านวงกลมจุดมีความกลัวด้วยเหรอ?

 

มีสิจ๊ะ กลัวความเว้หว่า กลัวตวามเหงา ที่ต้องไปทำอะไรคนเดียว เดินทางคนเดียว มันดูเหมือน ไม่มีรสชาติเลยนะจ๊ะ พระเอกไม่มีนางเอกหรือเพื่อนนี่ เหงาตายได้นะจ๊ะ แต่เมื่อคืนมีหมาเป็นเพื่อนตัวหนึ่ง ดีขึ้นมาหน่อยนะจ๊ะ

 

สิ่งที่น่ากลัวที่สุด สิ่งที่เป็นความทุกข์ที่สุด คือ การอยู่คนเดียว นะจ๊ะ ไม่รวมหมาแมวนะจ๊ะ

แต่ข้าพเจ้า ก็ผ่านมันมาได้แล้วนะจ๊ะ ซึ่งมันคือสภาวะอนัตตา นั่นเอง พ้นจากทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนเราเป็นน้ำมัน โลกเป็นน้ำ นั่นเองนะจ๊ะ

 

พระเอกเหรอ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

สภาวอนัตตา น่าจะอยู่เหนือความเหงาแล้วนะ
ไม่เคยสัมผัสเหมือนกันสภาวะอนัตตา เลยสงสัย

ถ้าการอยู่คนเดียวน่ากลัวที่สุด แล้วให้เลือกระหว่างอยู่คนเดียวกับเกิดเป็นยิวในสมัยฮิตเลอร์เนีี่ย
ท่านวงกลมจุดเลือกอะไรจ๊ะ?

อีกคำถามงูที่ท่านวงกลมจุดฝันเห็นสีอะไร ข้าพเจ้าเคยฝันเห็นงูยั๊วเียี๊ยเหมือนกัน แต่เป็นงูสีดำ ข้าพเจ้าเลยตีตายหมดเลย น่ากลัวมาก

 

ทำไมจะพาผมย้อนยุค ย้อนอดีต ทำไมกันจ๊ะ

 

ที่จริง ฮิตเล่อนี่ อยากสร้างโลกใหม่ให้เหลือแต่คนที่เชื่อฟังเขาเท่านั้น เพราฮิตเลอร์คิดว่า ถ้าในโลกมีแต่คนที่เชื่อฟังเขา โลกก็คงสงบสุข เป็นการเข้าใจผิดอย่างแรง เพราะถ้าทุกคนเชื่อฟังเขาคนเดียว ความเป็นธรรมชาติก็ไม่มี ความอิสระที่แท้จริงก็ไม่มี นั่นเพราะ ธรรมที่ฮิตเลอร์รู้นั้น มันอาจดี แต่ลงมือกระทำผิดวิธี นั่นเอง
เพราะฮิตเลอร์ไม่เรียนรู้การใช้มรรคแปด นะจ๊ะ

 

ความเห็นแก่ตัว และความโหดร้าย มีดีด้วยเหรอคะ?
ว่าแต่..งูที่ท่านวงกลมจุดเห็นในฝันสีอะไรคะ?

 

อิสระภาพที่แท้จริง นั่นมีอยู่ในใจของทุกคน ทุกคนรู้และเข้าใจในนามธรรมของทุกคน ล้วนเข้าใจในความหมายของอิสระภาพได้ แต่ทางรูปธรรม พระพุทธเจ้าท่านได้แสดงให้เห็น สมัยที่พระองค์ยังมีพระชนม์อยู่ แต่หลังจากท่านเสด็จดับขันธ์ ไปแล้ว ทุกคนล้วนรู้กันในนาม ยุคพระศรีอาริย์ ซึ่งอิสระภาพทางรูปธรรมนั้น ปัจจุบันมีผู้ที่สามารถทำได้อยู่ก็คืออาจารย์ของข้าพเจ้าเอง ท่านอยู่ที่เชียงใหม่ นามของท่านคือ สุริยะ ฉัตรสุบรรณกุล นะจ๊ะ และผมก็ทำได้เหมือนกัน นะจ๊ะ

 

ผมพูดว่าที่เขารู้นั้นดี แต่ไม่ได้บอกว่าดีจริง
และผมก็พูดว่า เขาทำได้ไม่ดี ไม่เป็น ซึ่งก็คือที่รู้มา มันไม่ดีจริง ไงจ๊ะ

 

อาจารย์ของข้าพเจ้าคือพระพุทธะ เวลาอ่านชื่อและคิด ขอให้มีความเป็นกลางในตนเองให้มากที่สุดนะจ๊ะ จะได้ไม่เกิด กรรม

 

ส่วนข้าพเจ้า อนุพุทธะ นะจ๊ะ
ใครที่เข้าใจรู้ตาม ล้วนเป็นอนุพุทธะเหมือนหมดนะจ๊ะ

 

ก็งูจงอางนี่แหล่ะ สีไม่ได้สังเกตนะจ๊ะ เพราะไม่ค่อยสนใจรายละเอียดนะจ๊ะ

 

รูปงูตัวเมื่อวานตอนเช้า สงสัยมาอาบแดดนะจ๊ะ น่าจะเป็นนางงูสิงห์นะจ๊ะ

 

คนส่วนมาก รู้ว่าการทำดีอย่างหนึ่งคือ การแผ่เมตตา แต่หลายคนไม่เข้าใจเรื่อง ว่า การแผ่เมตตาก็คือการแผ่พลังงานบุญ พลังงานดี ออกไปจากตนเองไปสู่เครื่องรับคือใจหรือจิตของคนอื่น นั่นเอง และการเทศนาธรรมของพระพุทธเจ้าก็คือ การแผ่พลังดี พลังเมตตา พลังปัญญาจากพระองค์ ไปสู่เครื่องรับคือจิตใจของผู้ฟังธรรมนั่นเองนะจ๊ะ

 

ยุคนี้ คือยุคที่ต้องเรียนรู้และเข้าใจ เรื่องการรับการส่ง พลังงานดี พลังงานเมตตา พลังงานปัญญา นะจ๊ะ จะได้เข้าใจ สัมผัสได้จริง นะจ๊ะ

 

อายะตนะคือเครื่องรับ รู้ และ ส่งได้ ในเครื่องเดียวคือ ในกายใจ นั่นเองนะจ๊ะ
เราต้องรับรู้ เข้าใจ ในผัสสะที่รับเข้ามาจากภายนอก จากคนอื่น ว่าดีไม่ดี และเราต้องรู้ว่า เวลาเราจะส่งจิตใจความคิด ต้องเลือกส่งแค่พลังดีดี นะจ๊ะ เวลาอารมณ์ไม่ดี ก็อย่าส่งถึงคนอื่น อย่าคิดถึงคนอื่นนะจ๊ะ เอาให้ตนเองสงบ เบา ดี ปกติก่อน ค่อยส่ง หรือเวลาตนเองมีความสุข ค่อยส่งค่อยคิดถึงคนอื่นนะจ๊ะ

แต่ปัจจุบันที่เป็นกันก็คือ เวลาตนเองมีความสุข ชอบเก็บเงียบเสวยสุขคนเดียว ไม่คิดถึงคนอื่นเลยแต่ พ อ ตนเองมีความทุกข์ ค่อยคิดหาคนอื่นให้มาช่วย นี่ผิดมากเลยนะจ๊ะ เพราะเป็นการส่งพลังแห่งความทุกข์ล้วนๆ นี่คือที่เรียกว่า ความเห็นแก่ตัว หรือการทำร้าย เบียดเบียนคนอื่นด้วยใจ นั่นเอง และก็ทำร้ายได้จริง และถึงเร็วด้วย นะจ๊ะ เขาเรียก มโนกรรม นะจ๊ะ

 

ดังนั้นการรับรู้ รับฟังธรรมจากผู้รู้จริง จากผู้ที่หมดสิ้นอัตตาตัวตน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะถ้ารับฟังธรรมจากผู้ที่ยังมีอัตตาตัวตน ก็เหมือนฟังธรรมที่ไม่บริสุทธิ์จริง นั่นเองนะจ๊ะ แล้วก็จะพากันหลงทางอยู่นั่นเองนะจ๊ะ ดังที่พระพุทธเจ้าท่านกล่าวว่า คนที่ไม่เคยข้ามฝั่งจะพาคนอื่นข้ามฝั่งนั้น ไม่มีในฐานะ นะจ๊ะ