เกาะติดสถานการณ์ ดิน น้ำ ลม ฝน พายุ **เฝ้าระวัง !!!!2556(2013)**

ชาวเทศบาลตำบลลาดยาวกระอักน้ำท่วมสูงต่อเนื่อง
วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2556 เวลา 21:19 น.










เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 22 กันยายน 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ อ.ลาดยาว ว่าจากกรณีที่มีฝนตกอย่างหนักติดต่อกันหลายวัน จนทำให้มีมวลน้ำมหาศาล ทั้งจากอ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์ อ.แม่เปิน และน้ำป่าจากเทือกเข้าแม่วงก์ ไหลบ่าเข้าสู่เขตเทศบาลตำบลลาดยาว จนเกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลัน ตั้งแต่บริเวณหน้าเทศบาลตำบลลาดยาว หน้าที่ว่าการอำเภอลาดยาว ตลาดสดไทยรุ่งเรือง ไปจนถึงสถานีขนส่งรถโดยสาร ทำให้ชาวบ้านต่างได้รับความเดือนร้อนนั้น ล่าสุด ระดับน้ำที่เข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าว ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีระดับน้ำท่วมขังอยู่ที่ประมาณเฉลี่ย 20-40 เซนติเมตร ซึ่งทางเทศบาลตำบลลาดยาว นำโดย นายวิโรจน์ วิบูลรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลลาดยาว ได้ทั้งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดนำเครื่องสูบน้ำขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ไปติดตั้งไว้รอบเขต พร้อมทั้งทำการบล็อกท่อระบายน้ำ และบริเวณสะพานข้ามคลองขุนราษฎร์บริบาล เพื่อกันไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้ามาเพิ่มขึ้น แต่สถานการณ์โดยรวม ยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาสมทบอยู่เป็นระยะๆ

อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้มีหน่วยกำลังพลทหารจากมณฑลทหารบกที่ 31 เดินทางเข้าให้การช่วยเหลือ ในการช่วยนำทรายที่ทางเทศบาลฯ ได้จัดเตรียมไว้ให้บริเวณที่หน้าว่าการอำเภอลาดยาว กรอกใส่กรสอบ เพื่อให้ประชาชนนำไปทำแนวป้องกันยังบ้านของตนเอง อีกทั้ง ยังให้การช่วยเหลือในการขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ให้กับประชาชนด้วย ส่วนบริเวณตลาดไทยรุ่งเรือง ซึ่งถือเป็นสดสำคัญของเทศบาลตำบลลาดยาวนั้น พบว่า บรรดาพ่อค้าแม่ค้าหลายราย ต่างยังคงตั้งแผงผัก และอาหารของกันต่อไปอย่างไม่ลดละ ทั้งที่มีน้ำเข้าท่วมขังอยู่ในตลาด สูงจากพื้นประมาณ 30 เซนติเมตร

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ถนนเส้นทางสายลาดยาว-หนองเบน บริเวณบ้านหนองตาเชียง รถจักรยานยนต์ และรถยนต์เล็ก ไม่สามารถใช้เส้นทางผ่านถนนดังกล่าวได้แล้ว เนื่องจากมีน้ำท่วมอยู่บนพื้นผิวถนน สูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร เป็นระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร อีกทั้ง ถนนบางช่วงของสายลาดยาวมุ่งหน้าสู่ อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี รถขนาดเล็ก ก็ไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรผ่านไปมาด้วยเช่นกัน ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในที่อื่นๆ พบว่า ที่ วังซ่าน อ.แม่วงก์ และที่ ต.ศาลเจ้าไก่ต่อ อ.ลาดยาว มีที่การเกษตรถูกน้ำท่วมรวมกันไม่ต่ำว่า 3,000 ไร่แล้ว

ชาวเทศบาลตำบลลาดยาวกระอักน้ำท่วมสูงต่อเนื่อง | เดลินิวส์

 

เตือนอยุธยาเจอน้ำระลอกสอง
วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2556 เวลา 21:26 น.


กรมชลประทาน แจ้งเตือน จ.พระนครศรีอยุธยา เจอ2 เด้ง จากน้ำเจ้าพระยาทำให้ อ.เสนา อ.บางบาล ท่วมแล้ว อีกด้าน แม่น้ำป่าสักเจอฝนหนัก ต้องเร่งปล่อยผ่านเขือนพระรามหก จนน้ำสูง 2 เมตร
รายงานจากศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน แจ้งสภาพน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง ว่า เนื่องจากมีฝนตกบริเวณภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ทําให้ปริมาณน้ําที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีลบ.ม./วินาที จึงส่งผลให้น้ําจากคลองโผงเผงและแม่น้ําน้อยเอ่อล้นตลิ่ง ท่วมพื้นที่ลุ่มต่ํานอกคันกั้นน้ําเขตอําเภอเสนา อําเภอบางบาล ระดับน้ําเฉลี่ยสูง 0.60 - 1.50 ม.

สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำป่าสัก วันที่ 22 ก.ย. 56 ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ระบุว่า มีฝนตกหนักและตกชุกในหลายพื้นที่ของภาคกลาง ตลอด 2 – 3 วันที่ผ่านมา ในเขตจังหวัดลพบุรี และสระบุรี ทำให้มีปริมาณน้ำท่าจำนวนมาก ไหลลงแม่น้ำป่าสัก ด้านท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนพระรามหกเพิ่มมากขึ้น ในเกณฑ์ 600 (ลบ.ม.) ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก ด้านท้ายเขื่อนพระรามหก ในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 1.50 – 2.00 เมตร โดยสำนักชลประทานที่ 10 ได้แจ้งเตือนสถานการณ์ให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำป่าสักทราบอย่างต่อเนื่องแล้ว

 

น้ำท่วมด่านขุนทด สวน-ไร่นา คอสะพานขาดชาวบ้านสุดลำบาก
วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2556 เวลา 21:30 น.













เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 22 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่อำเภอด่านขุนทด เมืองย่าโมโคราช หลังจากที่ได้มีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักตลอดทั้งวันทั้งคืน น้ำป่าจากเทือกเขาพังเหยได้ไหลบ่าลงมาทำให้อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนบน ที่บ้านสระพัง ต.บ้านเก่า อ.ด่านขุนทด รับน้ำไว้ไม่ไหวล้นทะลักลงมาท่วมฉับพลับ โดยเฉพาะที่บริเวณหน้าตลาด บขส.ใหม่ บนถนนสายสีคิ้ว-ชัยภูมิ ภายในเขตเทศบาลด่านขุนทด บางช่วงถนนมีน้ำท่วมสูงถึง 1.50 ถึง 2 เมตร เป็นระยะทางยาวกว่า 2 กม.รถเก๋ง รถปิกอัพเล็ก และรถจักรยานยนต์ไม่สามารถขับผ่านไปมาได้ บางช่วงก็มีรถบรรทุก 10 ล้อ และ 6 ล้อ วิ่งออกขอบถนนพลัดตกลงข้างทางเสียหายไปหลายคัน ถนนบางแห่งชำรุด คอสะพานที่ ต.บ้านเก่า ขาดไป รถยนต์และประชาชนขับผ่านกันไม่ได้ เทือกสวนไร่นาถูกน้ำท่วมเสียหายไปเป็นจำนวนมาก เส้นทางเดินรถระหว่างหมู่บ้านเข้าตัวอำเภอ และผ่านไปยังต่างจังหวัดถูกตัดขาดต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น นอกจากนี้ รถบัสโดยสารปรับอากาศสายชัยภูมิ สายเมืองเลย-กรุงเทพฯ ก็ขับผ่านไปมาอย่างยากลำบากต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นๆ คล้ายถูกตัดขาดจากโลกภายนอกยังไงยังงั้น ในขณะเดียวกัน นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา นอภ.ด่านขุนทด นางสาวสลักจิต กิมตระกูล นายกเทศ มนตรีเทศบาลด่านขุนทด จนท.ตำรวจ สภ.ด่านขุนทด และ อ.ป.พ.ร.หน่วยทหารสังกัดกองทัพบก และ จนท.หน่วยกู้ภัยฯ (ฮุก 31) ตลอดจนข้าราชการทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ก็ได้ร่วมมือช่วยกันช่วยเหลือผู้เดือดร้อนกันเต็มที่ โดยมีรถของ สนง.เทศบาลด่านขุนทด รถจากทหารช่างสังกัดกองทัพบก ก็ได้มาช่วยบริการรับส่งผู้คนข้ามฟากผ่านไปมา และทาง สนง.เทศบาลด่านขุนทด ก็ได้นำอาหารข้าวกล่องและน้ำดื่มออกไปแจกจ่ายให้กับประชาชนชาวบ้านที่ติดอยู่ในหมู่บ้านต่างๆที่ถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถออกมายังภายนอกได้อย่างทั่วถึงเต็มที่กันแล้วในเบื้องต้น คาดว่าถ้าฝนหยุดตกอีกประมาณ 2-3 วันน้ำคงยุบเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ส่วนทางด้านความเสียหายขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้

น้ำท่วมด่านขุนทด สวน-ไร่นา คอสะพานขาดชาวบ้านสุดลำบาก | เดลินิวส์

 

ภาคกลาง-ตะวันออก-กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ70
วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 เวลา 06:26 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. วันที่ 23 ก.ย.56 ว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กที่มีความยาวน้อยกว่า 10 เมตร หรือ 5 วา ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 23-25 กันยายน 2556
อนึ่ง เมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ (23 ก.ย. 56) พายุโซนร้อน “อุซางิ” (USAGI) มีศูนย์กลางอยู่บริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน กำลังเคลื่อนตัวไปทางมณฑลกวางสี คาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำในระยะต่อไป สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปมณฑลกวางตุ้ง และมณฑลกวางสี ประเทศจีน รวมทั้งเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง ส่วนพายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกจะเคลื่อนที่ไปทางประเทศญี่ปุ่น โดยไม่เคลื่อนมาทางประเทศไทย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด
น่าน อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร ยโสธร
อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี และกาญจนบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 70 ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ
โดยกลุ่มฝนจะเคลื่อนจากทางด้านตะวันตกไปทางตะวันออก
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

 

แม่น้ำวังทองล้นตลิ่งเทศบาลเร่งวางแนวป้องกัน
วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 เวลา 07:42 น.









วันที่ 23 กันยายน จากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในจังหวัดพิษณุโลกทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำวังทองได้เพิ่มระดับขึ้นอีกรอบ หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ต่ำไปแล้วรอบหนึ่ง และได้ลดระดับลงไป วันนี้ น้ำในแม่น้ำวังทองได้ไหลล้นตลิ่งในพื้นที่ต่ำในเขตต.ไชยนาม และต.ดินทอง ไหลข้ามถนนริมแม่น้ำลงสู่พื้นที่นาข้าวของประชาชนที่ม.1 ต.ดินทอง เริ่มขยายวงกว้างมากขึ้น ชาวบ้านม.1 ต.ดินทอง ที่มีนาข้าวกำลังรอการเก็บเกี่ยวได้ออกสำรวจทางน้ำไหล ที่ขณะนี้ได้เริ่มไหลรอดทางระบายน้ำลงสู่นาข้าว เปิดเผยว่า รู้สึกกังวลกับน้ำรอบนี้ เพราะถ้ามามากอย่างต่อเนื่อง ข้าวก็ก็จะได้รับความเสียหายจำนวนมาก เหลืออีก 1-2 สัปดาห์ก็จะเก็บเกี่ยวได้แล้ว ขณะที่ในเขตเทศบาลตำบลวังทอง ได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมของเทศบาลวังทอง บริเวณริมแม่น้ำวังทอง เพื่อประสานความช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำวังทองที่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำวังทองเพิ่มระดับรอบที่สอง โดยขณะนี้ ระดับน้ำในเม่น้ำวังทองบริเวณหลังตลาดเหลืออีกประมาณ 30 เซนติเมตรก็จะล้นตลิ่ง พร้อมกับระดมเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานป้องกัน นำกระสอบทรายไปอุดท่อระบายน้ำบริเวณหน้าตลาด ป้องกันไม่ให้น้ำจากแม่น้ำวังทองไหลเข้าท่อระบายน้ำเข้าท่วมเขตชุมชน จ.อ.สมเกียรติ ทับทิมทอง หัวหน้างานป้องกันเทศบาลตำบลวังทอง เปิดเผยว่า วันนี้น้ำเพิ่มขึ้นมากจึงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ได้ประสานอำเภอวังทอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยบูรพาและเทศบาลตำบลวังทองตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อทำแนวป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมเขตชุมชนและช่วยเหลือประชาชน

แม่น้ำวังทองล้นตลิ่งเทศบาลเร่งวางแนวป้องกัน | เดลินิวส์

 

รมช.ศธ.ติดตามสถานการณ์น้ำกรุงเก่า หลังระดับน้ำเพิ่มสูง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กันยายน 2556 11:25 น.
นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รายงานสถานการณ์น้ำว่า ในพื้นที่อำเภอบางบาล ผักไห่ เสนา พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน และบางไทร ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 10-15 เซนติเมตร สาเหตุเนื่องจากน้ำผ่านเขื่อนนครสวรรค์ 1,564 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 108 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผ่านสิงห์บุรี 2,044 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 84 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และผ่านอ่างทอง 2,028 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คลองบางบาล 183 เพิ่มขึ้น 13 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงมีผลทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม เช้าวันนี้นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ติดตามสถานการณ์ยาเสพติดในสถานศึกษา พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำที่เจดีย์พระศรีสุริโยทัยด้วย

 

ระดับน้ำอยุธยา-อ่างทองเพิ่มสูง แนวคันดินทรุดตัวบางจุด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กันยายน 2556 11:13 น.

เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร และชาวบ้าน เร่งช่วยกันนำกระสอบทรายวางทับลงไปในร่องใต้ฐานบังเกอร์กว่า 100 เมตร เพื่อเสริมแนวกระสอบทรายให้สูงขึ้น หลังจากบังเกอร์สูงประมาณ 1 เมตร บริเวณวัดธรรมารามมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงกว่า 30 เซนติเมตร เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา กำชับนายกองค์การบริหารส่วน ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเตรียมพร้อม เพื่อสูบน้ำออกหากพบน้ำซึมเข้า และไม่ให้เกิดความเสียหายเหมือนน้ำท่วมปี 2554 รวมทั้งให้เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่ จ.อ่างทอง เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยอ่างทอง ตรวจสภาพแนวกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่เขต อ.ไชโย ถึงรอยต่อเขต จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าหลายจุดมีปัญหาป้องกันระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ ต.ย่านซื่อ โพสะ จำปาหล่อ และ ต.บ้านแห อ.เมืองอ่างทอง ที่แนวคันดินกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทรุดตัวบางจุด จนอาจจะพังทลายไม่สามารถป้องกันน้ำได้ รวมถึงบริเวณแนวสร้างเขื่อนเรียงหินหลายจุด ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีการนำคันดินออกไป อาจจะทำให้เป็นจุดที่เสี่ยงเกิดการพังทลาย เป็นเหตุให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้ โดยขณะนี้หลายพื้นที่ของ จ.อ่างทองถูกน้ำไหลบ่าเข้าท่วม และบางส่วนของ ต.จำปาหล่อ อ.เมืองอ่างทอง และ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก มีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร

 

น้ำเจ้าพระยายังเอ่อท่วมวัดเมืองกรุงเก่า
วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 เวลา 10:35 น.




น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังเอ่อสูงขึ้นท่วมเข้าวัดริมแม่น้ำในเมืองกรุงเก่า พระลูกวัดต้องขนของหนีน้ำทั้งคืน ขณะที่ "กรมศิลปากร" ระดมป้องกันโบราณสถาน

น้ำทะลักเข้าท่วมวัดอัมพวา ต.บางหัก อ.บางบาล


น้ำทะลักเข้าท่วมวัดอัมพวา ต.บางหัก อ.บางบาล


เร่งป้องกันวัดธรรมาราม อ.พระนครศรีอยุธยา หลังน้ำซึมเข้าหลังบังเกอร์


เร่งป้องกันวัดธรรมาราม
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 ก.ย. ระดับน้ำใน อ.บางบาล อ.เสนา และ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยา สูงขึ้นเฉลี่ย 10-15 ซ.ม. โดยยังพบว่า วัดที่อยู่ริมแม่น้ำหลายแห่งยังคงถูกน้ำท่วมอย่างหนัก ที่วัดอัมพวา ม. 1 ต.บางหัก อ.บางบาล น้ำได้ทะลักเข้าไปทั่วบริเวณ มีความสูงจากพื้น 1 เมตร น้ำท่วมเข้าไปภายในพระอุโบสถ พระซึ่งอยู่ภายในวัด 7 รูป ต้องนั่งเรือลุยน้ำช่วยกันเก็บพระพุทธรูปบูชา โต๊ะหมู่ พรม และเครื่องบูชาต่าง ๆ นอกจากนี้ยังต้องเดินลุยน้ำช่วยกันเก็บสิ่งของที่อยู่นอกวัดด้วย เช่น รถสำหรับใช้ในพิธีฌาปนกิจซึ่งจมน้ำทั้งคัน


พระปรีชา กิตติปาโร อายุ 60 ปี พระลูกวัดอัมพวา เปิดเผยว่า วัดอัมพวาเป็นวัดริมแม่น้ำ และมีคันดินล้อมรอบแต่ไม่เคยป้องกันได้ น้ำพังเข้ามาเมื่อค่ำวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา พระในวัดต้องช่วยกันขนของหนีน้ำ ตอนนี้ประสบปัญหาเรื่องเรือที่ใช้บิณฑบาตร เนื่องจากเรือที่ใช้อยู่เป็นเรือใหญ่ ส่วนเรือเล็กก็เล็กจนนั่งกันหลายรูปไม่ได้ สิ่งที่ตามมาคืออาหาร ซึ่งยังคงต้องการความช่วยเหลือจากภายนอก

ส่วนการป้องกันวัดธรรมาราม ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงเหนือพื้นนอกบังเกอร์ประมาณ 30 ซ.ม. โดยเมื่อคืนวันที่ 22 ก.ย.น้ำได้ซึมเข้าทางฐานล่างของบังเกอร์เมื่อ ทำให้ต้องระดมกำลังป้องกันจุดที่น้ำซึมกันตลอดคืน ตั้งแต่เช้าวันเดียวกันนี้ กรมศิลปากรระดมกำลังกันป้องกันน้ำที่ซึมได้สำเร็จแล้ว โดยมีการสูบน้ำออกจากฐานล่างของบังเกอร์ที่น้ำซึมและมีการนำกระสอบทรายถมในจุดที่น้ำซึมเอาไว้ได้แล้วทั้งหมด คาดว่าจะสามารถป้องกันได้อย่างแน่นอน


น้ำเจ้าพระยายังเอ่อท่วมวัดเมืองกรุงเก่า | เดลินิวส์

 

"กบินทร์ฯ-ศรีมหาโพธิ์"น้ำท่วมอ่วมอรทัย
วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 เวลา 11:12 น.

"กบินทร์ฯ-ศรีมหาโพธิ์"อ่วมหนัก ทะลักท่วมเรือนจำ ต้องย้ายผู้ต้องขังเกือบพันคนไปไว้จังหวัดอื่น ส่วนตลาดเทศบาลกบินทร์บุรีเป็นไปด้วยความเงียบเหงา บรรดาร้านค้าต้องปิดกิจการไม่มีกำหนด








เมื่อวันที่ 23 ก.ย. สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองกบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ยังมีปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆกว่า 1 เมตร ประชาชนที่อาศัยในย่านชุมชน ต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางเข้า-ออก และเพื่ออำนวยความสะดวก ทางหน่วยงานภาคราชการได้นำรถบรรทุก 6 ล้อขนาดใหญ่ ออกบริการรับ-ส่งฟรี คาดว่าถ้าปริมาณน้ำยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รถยนต์ขนาดใหญ่ก็ไม่สามารถวิ่งเข้าออกได้อีกต่อไป ส่วนบรรยากาศในตลาดเทศบาลกบินทร์บุรีเป็นไปด้วยความเงียบเหงา บรรดาร้านค้าต้องปิดกิจการอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากถูกน้ำท่วม

ทางด้าน นายสมชาย เปรมใจ ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี ได้ติดต่อรถบัสของเรือนจำจังหวัดสระแก้ว ให้มาขนย้ายผู้ต้องขัง(หญิง) จำนวน 63 คน และผู้กักขังหญิงอีก 2 คน จากเรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี เพื่อไปควบคุมไว้ที่เรือนจำจังหวัดสระแก้วเป็นการชั่วคราว เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไหลทะลักเข้าไปในเรือนจำ แม้ว่าทางเรือนจำจะนำกระสอบทรายมากั้นเป็นแนวป้องกันน้ำ พร้อมใช้เครื่องสูบน้ำออกจากพื้นที่ภายในเรือนจำ แต่ไม่สามารถป้องกันกระแสน้ำได้

นายสมชายกล่าวว่าเนื่องจากเรือนจำอยู่ติดกับแม่น้ำปราจีนบุรี ขณะนี้ปริมาณน้ำสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทางเรือนจำจึงต้องย้ายผู้ต้องขังไปยังเรือนจำกลางจังหวัดชลบุรี เขต 2 และส่วนหนึ่งจะนำไปฝากขังไว้ที่จังหวัดสระแก้ว อีกส่วนหนึ่งจะไปฝากขังไว้ที่จังหวัดจันทบุรี

ขณะที่ นางสาวจิตรา พรหมชุติมา ผวจ.ปราจีนบุรี ได้พบปะชี้แจงถึงเหตุผลที่ต้องย้ายที่ควบคุมผู้ต้องขังหญิงทั้งหมด รวมทั้งได้สอบถามถึงสุขภาพร่างกายของผู้ต้องขัง ทราบว่ามีผู้ต้องขังที่กำลังตั้งครรภ์จำนวน 5 ราย จึงให้ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำช่วยดูแลสุขภาพด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลำเลียงผู้ต้องขังครั้งนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเส้นทางจากเรือนจำออกสู่ตลาดกบินทร์บุรี ถูกน้ำท่วมประมาณ 60 ซม. และปริมาณน้ำยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนต้องมีการเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังชาย 659 คน และผู้กักขังชาย 10 คน ไปไว้ที่เรือนจำจังหวัดจันทบุรี และสถานวัยหนุ่มกลางธัญบุรี จ.ปทุมธานี

ส่วนสถานการณ์น้ำ ที่อ.ศรีมหาโพธิ์ ที่รับน้ำมาจากอ.กบินทร์บุรี ปริมาณน้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร รวมทั้งตลาดท่าประชุม มีระดับสูงเฉลี่ย 30-50 ซม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และระดับน้ำยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีฝนตกลงมาตลอดเวลา

"กบินทร์ฯ-ศรีมหาโพธิ์"น้ำท่วมอ่วมอรทัย | เดลินิวส์

 

น้ำพัดสะพานขาดหลายแห่งใน"สระแก้ว"
วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 เวลา 11:55 น.

เร่งอพยพคน-สัตว์เลี้ยงขึ้นพื้นที่สูง หลังจากฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง








เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ จ.สระแก้ว ระดับน้ำในคลองพระสะทึงเส้นเลือดใหญ่ของจังหวัด ไหลผ่าน 5 อำเภอ ได้ล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ต้องเร่งอพยพขนสิ่งของ ทรัพย์สินสิ่งของมีค่ารวมสัตว์เลี้ยงออกจากพื้นที่น้ำท่วม

นายทรงยศ เทียนทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว นำเรือท้องแบนออกไปให้การช่วยเหลืออพยพประชาชนไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่สูง เช่น กางเต๊นฑ์บนถนน และตามบ้านญาติ พร้อมนำข้าวสารอาหารแห้งไปร่วมแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านที่ประสบภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจุดน้ำท่วมที่สำคัญ คือ ถนนสุวรรณศร ในเขตเทศบาลเมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว เส้นทางหลักที่นักท่องเที่ยวทั่วประเทศใช้สัญจรจากกรุงเทพฯ-อรัญประเทศ ไปยังชายแดนตลาดโรงเกลือ มีน้ำท่วมสูง 50 ซม. รถยนต์เล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เนื่องจากอิทธิพลของปริมาณน้ำฝนที่ตกหนัก และระดับน้ำหนุนมาจาก อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

ขณะรายงานข่าว ฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และกระแสน้ำได้พัดสะพานข้ามคลองพระสะทึงขาดหลายแห่ง


น้ำพัดสะพานขาดหลายแห่งใน"สระแก้ว" | เดลินิวส์

 

น้ำทะลักท่วมเมืองศรีสะเกษชาวบ้านหนีน้ำโกลาหล
วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 เวลา 12:17 น.











เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ก.ย. ที่ จ.ศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังประสบปัญหาภัยธรรมชาติจากฤทธิพายุดีเปรสชั่นที่ฝนตกหนักเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ส่งผลให้ราษฎร จำนวน 18 อำเภอ ได้รับผลกระทบน้ำท่วมฉับพลัน บ้านเรือนถูกน้ำท่วมขังสูงประมาณ 1 เมตร ในหลายพื้นที่ ถนนถูกกระแสน้ำท่วมขังตัดขาดหลายสาย เขื่อนและอ่างเก็บน้ำ มีปริมาณน้ำเต็ม 100% ทุกจุด และไหลล้นสปริงเวย์ออกมา ประกอบกับได้มีการเปิดประตูระบายน้ำ เพื่อพร่องน้ำออกเนื่องจากเกรงว่าเขื่อนและอ่างเก็บน้ำจะต้านกระแสน้ำไม่ไหวพังทลายลงมา ส่วนที่ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ชาวบ้านต่างพากันขนข้าวของหนีน้ำอย่างโกลาหล ขณะเดียวกันกระสอบทรายแนวกั้นน้ำได้พังทลายลงมาทำให้น้ำได้ทะลักเข้าท่วมเมืองอย่างรวดเร็ว สะพานห้วยสำราญจมอยู่ใต้น้ำ

ดร.ฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้น้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้ไหลลงมาถึงเขตพื้นที่เทศบาลเมืองศรีสะเกษแล้ว ส่งผลให้ระดับน้ำในลำห้วยสำราญ มีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ย 10 ซ.ม./ช.ม. และไหลเอ่อน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้ว จำนวน 9 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนสะพานขาว ชุมชนโนนสำนัก ชุมชนโนนสวรรค์ ชุมชนโนนทรายทอง ชุมชนสนามเป้า ชุมชนโนนกลาง ชุมชนหนองอุทัย ชุมชนหนองหัวหมู และชุมชนท่าเรือ ซึ่งทางเทศบาลฯได้จัดเตรียมศูนย์อพยพและกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนแล้ว

อย่างไรก็ตามคาดว่ามวลน้ำก้อนนี้จะท่วมขังอยู่ในพื้นที่ประมาณ 5-7 วัน จึงจะค่อยๆลดระดับลงและไหลลงสู่แม่น้ำมูลต่อไป และขอฝากแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนศิริทรัพย์ทวีโชค (กุลวดีเรือนจำ) ชุมชนจตุรโชค และชุมชนหนองเม็ก ให้จัดเก็บสิ่งของเครื่องใช้ขึ้นที่สูงตั้งแต่เวลานี้ เนื่องจากปีนี้ น้ำมาแรงและเร็วกว่าทุกปี รวมทั้งให้ระมัดระวังสัตว์มีพิษที่หนีน้ำ และหากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ โทร 0-4561-2646 ตลอด 24 ช.ม..

น้ำทะลักท่วมเมืองศรีสะเกษชาวบ้านหนีน้ำโกลาหล | เดลินิวส์

 

น้ำป่าคลองชมพูทะลักล้นตลิ่งท่วม 200 ครัวเรือน
วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 เวลา 12:27 น.













เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับงานงานว่าน้ำภายในคลองเนินกุ่ม ที่ไหลมาจากคลองชมพู ได้ไหลเอ่อล้นคลองบริเวณหมู่ ที่ 1 ต.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพบ นายชายนนท์ สีแดง ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 พร้อมชาวบ้านกว่า 30 คน กำลังเร่งกรอกกระสอบทราย เพื่อนำไปกั้นบริเวณริมถนนสายบ้านท่ายาง และพบว่าน้ำได้ไหลเอ่อล้นจากคลองเนินกุ่ม วัดตายม เป็นทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ชาวบ้านต้องช่วยกันนำกระสอบทรายมากั้นเป็นทางยาว ซึ่งจากผลเสียหายในครั้งนี้ พบว่ามีบ้านเรือนชาวบ้านใน ม.1 บ้านท่ายางพัฒนา ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้กว่า 200 หลังคาเรือน ที่นาสำรวจในเบื้องต้น กว่า 2 พันไร่ ที่ถูกน้ำท่วม โดยมีชาวบ้านบางกลุ่มกำลังเร่งเก็บเกี่ยวข้าวเพื่อหนีน้ำ แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากรถเกี่ยวต่างก็ปฏิเสธที่จะนำรถลงไปลุยน้ำ เพราะเกรงว่าจะเสียหาย จึงต้องใช้กำลังคนที่มีอยู่แทน บ่อปลาชาวบ้านในหมู่บ้าน กว่า 30 บ่อ ถูกน้ำท่วมเสียหาย โรงเรียน 1 แห่งต้องสั่งปิดทำการ วัด 2 แห่ง ถูกน้ำท่วมขัง

ล่าสุด นายเกษม จูไพรี อายุ 61 ปี ได้ระรมชาวบ้านในหมู่บ้านกว่า 30 คน ตัดไม้เพื่อนำมาทำเป็นแนวกั้นน้ำที่ล้นจากคลองเพื่อเป็นการชะลอน้ำที่ไหลเข้าท่วมอย่างรุนแรงให้ชะลอลดระดับลง แต่เนื่องจากยังขาดอุปกรณ์ และเครื่องไม้เครื่องมือ จึงทำไปได้ยากพร้อมกับมีการร้องขอไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เพื่อขอสนับสนุนกระสอบทราย และเรือท้องแบนมาไว้ใช้รับส่งชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านและถูกน้ำท่วมขังสูงประมาณ 50 เซนติเมตร โดยในเช้าวันนี้ ทางโรงเรียนท่ายางพัฒนา ได้ทำการสั่งปิดการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากน้ำที่ไหลเข้าท่วม มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้านนางจำเนียร พินิจ อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 50 ม.1 ต.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม บ้านที่ถูกน้ำไหลเข้าท่วมสูง 1 เมตร เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาน้ำได้ไหลเอ่อจากคลองเนินกุ่ม เข้าท่วมบ้านอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ทันได้เก็บของขึ้นที่สูง จึงทำให้น้ำได้ไหลบเข้าท่วมบ้าน จนข้าวของชั้นล่างเสียหายทั้งหมด ซึ่งในปีนี้ถือว่าน้ำมาอย่างรุนแรงและเร็วกว่าทุกครั้ง โดยไม่คิดว่าน้ำจะไหลแรงขนาดนี้ จึงทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน จากเหตุการณ์ดังกล่าว

ด้าน นายประเจตน์ สีลอย รองปลัดเทศบาลตำบลเนินกุ่ม ได้ลงพื้นที่นำกำลังเจ้าหน้าที่ออกให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจาก ค่ายกองบิน 46 พิษณุโลก นำกำลังทหารเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน ส่วนที่ อ.บางระกำ ขณะนี้ได้รับผลกระทบโดยน้ำเหนือจาก จ.สุโขทัยและ จ.กำแพงเพชร ได้ไหลเอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่ในหลายแห่ง โดยที่ฝายบางบ้า ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ ขณะนี้ระดับน้ำเกินจากจุดวิกฤตจำนวน 20 เซนติเมตร โดยน้ำก้อนดังกล่าวกำลังไหลทะลักเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตร และกระจายไปตามคลองน้ำสายต่าง ๆ

ส่วนพื้นที่ อ.นครไทย ขณะนี้มีน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ และประกอบกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้วขณะนี้ 31 หมู่บ้าน จาก 8 ตำบล ส่วนที่ อ.ชาติตระการ มีพื้นที่ประสบภัย 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน เช่นเดียวกับ อ .วังทอง ประสบปัญหาน้ำท่วม 2 ตำบล คือ ต.ดินทอง ต.วังทอง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังได้มีการเฝ้าระวังพื้นที่ อ.วัดโบสถ์ เนื่องจากน้ำในแม่น้ำแควน้อยมีระดับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และหากมีฝนตกมาสมทบก็อาจทำให้เกิดน้ำท่วมได้เช่นเดียวกัน.

น้ำป่าคลองชมพูทะลักล้นตลิ่งท่วม 200 ครัวเรือน | เดลินิวส์

 

ฮ่องกง รอดพายุอุซางิ กว่างตงโดนหนัก เสียชีวิตแล้ว 25 คน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กันยายน 2556 11:47 น.

เอเยนซี - กว่างตงเสียหายหนัก มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คนแล้ว จากพายุไต้ฝุ่นอุซางิ ซึ่งทำให้เกิดดินถล่มในหลายพื้นที่ของมณฑลฯ ขณะที่ฮ่องกงรอดพ้น หลังอุซางิ ลดกำลังจากที่คาดวิตกก่อนหน้า และเคลื่อนเฉียดผ่านไป

ซินหัว รายงาน (23 ก.ย.) อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยของจีน ว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คนแล้ว จากพายุไต้ฝุ่นอุซางิ ซึ่งทำให้เกิดดินถล่มในหลายพื้นที่ของมณฑลกว่างตง เมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (22 ก.ย.) มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 3.56 ล้านคน และกว่า 226,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว

ทางการท้องถิ่นรายงานการประเมินความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่น พบว่า มีบ้านเรือนเสียหายกว่า 7,100 หลังคาเรือน และคำนวณความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยตรงได้เป็นเงินกว่า 3,240 ล้านหยวน

สำนักงานอุตุนิยมวิทยากว่างตง รายงานว่า พายุอุซางิ เคลื่อนด้วยความเร็วที่ 162 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เข้าสู่ฝั่งเมืองซานเว่ย มณฑลกว่างตง เมื่อเวลา 19.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยก่อนหน้านั้น มีลมพายุ กรรโชกแรงนำมาก่อน จนทำให้ต้นไม้ในเมืองซ่านโถวโค่นล้มลง

เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น เจี่ยหยัง ซึ่งประจำอยู่ในภารกิจเฝ้าระวังและบรรเทาภัยฯ กล่าวว่า ตอนเที่ยงวันอาทิตย์ ก่อนที่พายุจะเข้า ทางการได้สั่งตัดน้ำ ตัดไฟฟ้าในเมือง ขณะที่หลังคาบ้านหลายหลังถูกแรงลมพายุที่มีความเร็วถึง 180 กม./ชั่วโมง พัดปลิวเสียหาย นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานว่า มีสตรีคนหนึ่งสูญหายอยู่ระหว่างค้นหา หลังเรือหาปลาที่เธอกับสามีนั่งได้คว่ำล่มในทะเล โดยสามีรอดชีวิต

หน่วยงานการรถไฟกว่างโจว รายงานว่า ได้ระงับการเดินรถไฟ ระหว่างกว่างโจว เซินเจิ้น และจูไห่ เมื่อเวลา 18.00 น. ซึ่งเที่ยวโดยสารเกือบ 50 เที่ยว รวมทั้งรถไฟความเร็วสูงระหว่าง ปักกิ่ง เซินเจิ้น และฮ่องกง ก็ต้องเลื่อนออกไปจนถึงวันอังคาร (24 ก.ย.) ความแรงของลมพายุอูซางิ ทำให้รถยนต์หลายคัน ในเมืองซ่านเหว่ย ถูกพัดลื่นไถลตกถนน การจราจรทุกเส้นทางต้องหยุดชะงัก เที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวในกว่างตง ก่วงซี ฝูเจี้ยน ฮ่องกง และมาเก๊า ต่างถูกยกเลิก เลื่อนและล่าช้าตลอดวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่วนการเดินเรือระหว่างฝูเจี้ยนและไต้หวัน ก็ถูกเลื่อนเช่นกัน

หลี่ หัวหลง ผู้อาศัยอยู่ในซ่านเหว่ย กล่าวว่าเขากำลังขับรถกลับบ้าน ตอนที่พายุพัดและกระแทกจนกระจกหลังรถแตกเสียหาย ขณะที่ หลัว ไห่หลิง ประชาชนอีกคนที่ทำงานอยู่ในสถานีเติมก๊าซฯ กล่าวว่า นับเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่เคยประสบมา ครั้งนี้ต้องถือว่าโชคดีมาก ที่มีการเตือนและเตรียมการอย่างดี โดยได้รับจดหมายเวียนจากทางการท้องถิ่นมาตั้งแต่ เมื่อวันพฤหัสบดี อาทิตย์ก่อนและได้จัดการเก็บคลุมป้องกันอย่างดี ก่อนที่พายุมาถึง

เหอ กั่วชิง รองผู้อำนวยการป้องกันน้ำท่วม ภัยแล้ง และพายุ กล่าวว่า เมืองซ่านเหว่ย จูไห่ ซ่านโถว ฮุ่ยโจว และเจี่ยหยัง เป็นเขตเสี่ยงภัยที่ได้มีการเตรียมมาตรการฉุกเฉิน ทั้งในเขตที่อยู่อาศัย และชายฝั่ง โดยเรือประมงกว่า 47,000 ลำ ได้รับคำสั่งให้นำขึ้นฝั่ง และปิดหาด อีกทั้งปิดโรงเรียนใน 14 เมือง นักท่องเที่ยวกว่า 5,000 คน ถูกอพยพออกจากเมืองไท่ซาน และคนงานกว่า 2,500 คน ที่กำลังก่อสร้างสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ก็ต้องเก็บอุปกรณ์อพยพหนีพายุเป็นการชั่วคราว

ด้านโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ที่ต้าย่า ก็ได้เริ่มปฏิบัติการฉุกเฉิน โดยลดกำลังผลิตไฟฟ้าจากเครื่องผลิต 4 เครื่องจากทั้งหมด 6 เครื่องฯ สำนักงานฯ ยังรายงานคาดว่า ซูเปอร์พายุไต้ฝุ่นอูซางิจะลดกำลังลงจนเป็นเพียงพายุเขตร้อน เข้าสู่เขตปกครองตนเองก่วงซีจ้วง ในตอนบ่ายวันจันทร์ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ศูนย์เฝ้าติดตามสถานการณ์พายุในฮ่องกงนั้น ได้รายงานว่า สถานการณ์ไต้ฝุ่นอุซางิ ในฮ่องกง นั้นกลับไม่รุนแรงอย่างที่กังวล โดยเซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ สื่อฮ่องกงรายงาน (22 ก.ย.) ว่า หลังจากเวลา 18.00 น. ของวันอาทิตย์ กำลังและทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุลูกนี้ ลดเบาลงจากระดับซูเปอร์ไต้ฝุ่น เป็นเพียงไต้ฝุ่นโซนร้อนธรรมดา และเคลื่อนตัวเฉียดผ่านออกจากฮ่องกงไป ไม่ได้สร้างความเสียหาย หรือมีผู้เสียชีวิต



นักท่องเที่ยวนั่งรอเที่ยวบิน ณ สนามบินนานาชาติฮ่องกง ในช่วงเช้าวันนี้ (23 ก.ย.) หลังการคมนาคมต่างๆ ในฮ่องกงตัดสินใจหยุดให้บริการไม่ว่าจะเป็นเรือ รถไฟ หรือเครื่องบินเพื่อหลบผลกระทบจากไต้ฝุ่นอุซางิ (ภาพเอพี)






คลื่นลมแรงพัดเข้าฝั่งเมืองเซินเจิ้น จีนแผ่นดินใหญ่วานนี้ (22 ก.ย.) (ภาพเอเอฟพี)

ฝนตกหนักที่ซัวเถา (ซ่านโถว) มณฑลกวางตุ้ง อันเนื่องมาจากผลกระทบของไต้ฝุ่นอุซางิ (ภาพเอเอฟพี)


ภาพถ่ายดาวเทียมนาซ่าวานนี้ (22 ก.ย.) แสดงให้เห็นว่าไต้ฝุ่นอุซางิมุ่งไปยังเกาะฮ่องกง โดยอิทธิพลของไต้ฝุ่นอุซางิส่งผลให้ความเร็วลมเมื่อมันเคลื่อนเข้าใกล้พื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไข่มุกบนแผ่นดินใหญ่ของจีนนั้นจะสูงถึง 165 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว (ภาพเอเอฟพี)


คลื่นลมกระแทกฝั่ง ในเมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง ก่อนที่พายุอุซางิ จะเข้าฝั่งจีนเมื่อเย็นอาทิตย์ (ภาพรอยเตอร์ส)


ก่อนพายุเข้า ที่เซี่ยะเหมิน มณฑลฝูเจียน (ภาพรอยเตอร์ส)


คลื่นโยนตัวเรือน้อยใหญ่ ลอยไปมาที่ชายฝั่งท่าเรือฉวนโจว ช่วงเวลาก่อนพายุอุซางิเข้าเช่นกัน (ภาพรอยเตอร์ส)

 

แม่น้ำเจ้าพระยายังปกติ-เกาะเกร็ดน้ำเอ่อจากทะเลหนุน
| 23 ก.ย. 2556 13:00 |

นนทบุรี 23 ก.ย.-ผู้ว่าฯ นนทบุรี เผยสถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาภาพรวมยังปกติ หลายพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมยังไม่ได้รับผลกระทบ มีเพียงบ้านเรือนริมฝั่งนอกแนวคันกั้นน้ำ เช่น ชุมชนเกาะเกร็ด ได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุน

นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยภายหลังนำคณะลงเรือติดตามสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้ (23 ก.ย.) ว่า ภาพรวมยังเป็นปกติ หลายพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมขังยังไม่ได้รับผลกระทบ มีเพียงบ้านเรือนริมฝั่งที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำและเป็นพื้นที่ต่ำ เช่น ชุมชนเกาะเกร็ดได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อ เนื่องจากช่วงนี้มีน้ำทะเลหนุนสูง แต่ระดับน้ำจะลดลงสู่ภาวะปกติ โดยช่วงเวลาน้ำทะเลหนุนสูงคือ 10.00-12.00 น. และ 19.00-21.00 น.

อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดได้ประสานกับกรมชลประทานตลอดเวลา เพื่อตรวจสอบอัตราการไหลของน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุดปริมาณการไหลของน้ำผ่านสถานีตรวจวัดน้ำบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เฉลี่ยอยู่ที่ 1,721 ลบ.ม./วินาที ถือว่าปกติ แต่ถ้าอยู่ที่ 2,000 ลบ.ม./วินาที ทางจังหวัดจะประกาศเตือนพื้นที่เสี่ยงให้เก็บทรัพย์สินขึ้นบนที่สูงล่วงหน้าทันที.-สำนักข่าวไทย

 

ปิดประตูน้ำปากคลองข้าวเม่ากันท่วมเกาะเมือง


พระนครศรีอยุธยา 23 ก.ย.- วัดหลายแห่งอยุธยาถูกน้ำท่วมสูงเข้าพระอุโบสถ ขณะที่ชลประทานปิดประตูปากคลองข้าวเม่าแล้ว ป้องกันจุดสำคัญของเกาะเมืองและเขตนิคมฯ โรจนะ

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการระบายน้ำเหนือลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก ซึ่งไหลมารวมกันที่เกาะเมืองอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้คลองหันตราและคลองกะมังได้รับผลกระทบว่า บริเวณปากคลองทั้งสองแห่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างประตูน้ำป้องกันน้ำท่วมจากงบประมาณสนับสนุนของประเทศญี่ปุ่นจำนวน 515 ล้านบาท ในการป้องกันพื้นที่ชุมชนเมืองฝั่งตะวันออกของอำเภอพระนครศรีอยุธยา และอำเภออุทัย รวมถึงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ซึ่งขณะนี้ต้องหยุดการก่อสร้างไว้ชั่วคราว เนื่องจากกระแสน้ำเพิ่มสูงและล้นท่วมพื้นที่ลุ่มสองฝั่งในเขตตำบลหันตราและตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา กว่า 30 เซนติเมตร โดยน้ำจาก 2 คลอง ยังไหลมาที่ปากคลองข้าวเม่า ซึ่งเป็นคลองหลักเชื่อมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะและชุมชนเมืองใหม่ ทางเจ้าหน้าที่ชลประทานจึงต้องปิดประตูน้ำวัดกระสัง ปากคลองข้าวเม่า และพบว่าระดับน้ำหน้าประตูสูงกว่าด้านในเกือบ 1 เมตร โดยมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอดเวลา เพราะหากน้ำทะลักผ่านประตูน้ำจะไหลเข้าพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัดทันที

ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยา วันนี้ (23 ก.ย.) เขต อ.บางบาล เสนา และผักไห่ ระดับน้ำสูงขึ้นเฉลี่ย 10-15 ซม. วัดหลายแห่งที่อยู่ริมฝั่งถูกน้ำท่วม เช่น วัดอัมพวา ม.1 ต.บางหัก อ.บางบาล น้ำสูง 1 เมตร และเข้าไปภายในพระอุโบสถ พระสงฆ์ช่วยกันเก็บเครื่องโต๊ะหมู่บูชาและพระพุทธรูป พร้อมขอความช่วยเหลือจากหน่วยงาน เพราะพระสงฆ์ไม่สามารถออกบิณฑบาตได้.

-สำนักข่าวไทย

 

น้ำปราจีนฯ ทะลักฉับพลัน โรงเรียนปิดกะทันหัน



By สำนักข่าวไทย TNA News | 23 ก.ย. 2556 14:03 |

ปราจีนบุรี 23 ก.ย.- บ่ายวันนี้ (23 ก.ย.) นายอุดม ชำนิ ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมวัดใหม่กรงทอง ย่านตลาดท่าประชุม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ประกาศปิดการเรียนการสอนกะทันหัน ซึ่งมีนักเรียนตั้งแต่ชั้น ป.1-ม.6 กว่า 4,000 คน ให้ผู้ปกครองรับกลับบ้านอย่างเร่งด่วน เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากแม่น้ำปราจีนบุรีได้เอ่อท่วมฉับพลันสูงถึง 50 เซนติเมตร ประกอบกับมีน้ำตอนบนจาก อ.กบินทร์บุรีไหลมาสมทบ ซึ่งการเดินทางกลับของนักเรียนค่อนข้างทุลักทุเล เพราะตามเส้นทางมีน้ำท่วมสูง และเป็นเส้นทางเดียวที่รถยนต์เข้าถึง ท่ามกลางการจราจรติดขัดอย่างหนัก.

- สำนักข่าวไทย

 

น้ำ “ลำห้วยสำราญ” ทะลักท่วมเมืองศรีสะเกษแล้ว 5 ชุมชน จม 100 หลัง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กันยายน 2556 13:31 น.

ศรีสะเกษ - มวลน้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรักเอ่อล้นลำห้วยสำราญ ทะลักเข้าท่วมตัวเมืองศรีสะเกษแล้ว 5 ชุมชน จมใต้น้ำ 100 หลังคาเรือน ชาวบ้านเร่งขนข้าวของหนีขึ้นที่สูง เผยน้ำล้นตลิ่ง 3.20 เมตร สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะอีก 5 อำเภอ ไร่นา บ้านเรือนยังจมน้ำเป็นบริเวณกว้าง

วันนี้ (23 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้น้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ไหลมาตามลำห้วยสำราญได้เอ่อล้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษแล้ว ซึ่งระดับน้ำได้ท่วมสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่ติดกับลำห้วยสำราญถูกน้ำท่วมแล้วประมาณ 100 หลังคาเรือน

โดยชุมชนที่ถูกน้ำท่วม คือชุมชนหนองอุทัย ชุมชนท่าเรือสนามเป้า ชุมชนสะพานขาว ชุมชนหนองหมู และชุมชนโนนสวรรค์ ชาวบ้านต้องช่วยกันขนข้าวของ ทรัพย์สินมีค่าขึ้นไปไว้บนที่สูง โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน เจ้าหน้าที่ อปพร. และ อส.จ.ศรีสะเกษ มาช่วยขนของหนีน้ำท่วม ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในลำห้วยสำราญสูง 12.20 เมตร ล้นตลิ่งแล้ว 3.20 เมตร สูงกว่าที่ทางราชการได้คาดคะเนเอาไว้และระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยบริเวณชุมชนท่าเรือสนามเป้าน้ำได้ท่วมถนนวิจิตรนคร ระดับน้ำสูงประมาณ 20 เซนติเมตร (ซม.) ทำให้รถเล็กและประชาชนสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก

ขณะเดียวกัน ในเขต อ.ขุขันธ์ อ.ปรางค์กู่ อ.วังหิน อ.ห้วยทับทัน และ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ น้ำยังคงท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน และพื้นที่ทำการเกษตรเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งนายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกับภาคเอกชน เช่น กองทุน มูลนิธิต่างๆ ลงไปให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมอย่างเต็มที่ โดยหากประชาชนพื้นที่ใดประสบปัญหาความเดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วมให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนายก อบต.ในพื้นที่ที่ตนเองอยู่ เพื่อขอความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา










มวลน้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรัก เอ่อล้นลำห้วยสำราญ ทะลักเข้าท่วมตัวเมืองศรีสะเกษ แล้ว 5 ชุมนชน จมใต้น้ำ 100 หลังคาเรือน ชาวบ้านเร่งขนข้าวของหนีขึ้นที่สูง วันนี้ ( 23 ก.ย.)

 

ศรีสะเกษเร่งอพยพ14ชุมชน
วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 เวลา 13:10 น.


เมื่อวันที่ 23 ก.ย. นายสุขสันต์ บุญโทแสง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ (ปภ.) กล่าวว่า จ.ศรีสะเกษ มีพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้ว 18 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ขุนหาญ ภูสิงห์ ปรางค์กู่ เมืองจันทร์ ขุขันธ์ ไพรบึง โนนคูณ เบญจลักษ์ ราษีไศล กันทรลักษ์ อุทุมพรพิสัย ห้วยทับทัน น้ำเกลี้ยง วังหิน ศรีรัตนะ โพธิ์ศรีสุวรรณ พยุห์ และอ.เมืองศรีสะเกษ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายประมวล จารุนัย อายุ 37 ปี ชาวอ.ขุขันธ์ นายศรี เครือวรรณ อายุ 43 ปี ชาวอ.ไพรบึง เสียชีวิตขณะออกหาปลา และด.ญ.ชุติกาญ สุภาพ ชาวอ.ไพรบึง เสียชีวิตเนื่องจากลงเล่นน้ำและถูกกระแสน้ำพัดจมจนเสียชีวิต ส่วนพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายแล้ว ประมาณ 91,196 ไร่ ถนนเสียหาย 162 สาย สะพาน 6 แห่ง ฝาย/ทำนบ 5 แห่ง และโรงพยาบาล 1 แห่ง

อย่างไรก็ตามขณะนี้พื้นที่ต้นน้ำที่ อ.ขุนหาญ อ.ภูสิงห์ ระดับน้ำได้เริ่มลดระดับลงแล้ว โดยมวลน้ำขณะนี้กำลังเข้าสู่พื้นที่ตอนกลางของจังหวัด คือ อ.ขุขันธ์ วังหิน ปรางค์กู่ อุทุมพรพิสัย และกำลังไหลเข้าเขตอ.เมืองศรีสะเกษ ก่อนที่จะไหลลงแม่น้ำมูลที่ อ.กันทรารมย์ ต่อไป

คาดว่าระดับน้ำที่ลำห้วยสำราญช่วงผ่านเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจของจังหวัด จะเอ่อล้นตะลิ่งประมาณ 2 เมตร ในช่วงเย็นวันนี้ (23 ก.ย.) เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์น้ำจะลดลง โดยจะท่วมบ้านเรือนราษฎรใน 14 ชุมชน รวมทั้งวัดและโรงเรียน แต่เนื่องจากเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา มวลน้ำได้เคลื่อนตัวมาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ระดับน้ำในลำห้วยสำราญสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ได้จัดทำแนวป้องกันน้ำท่วมไว้ ทั้ง 4 แนว และรับแรงของกระแสน้ำไม่ไหวจึงพังทลายลงมา พร้อมเร่งอพยพชาวบ้านไปยังจุดรับรองผู้อพยพที่ทางจังหวัดได้จัดเตรียมไว้ ขณะนี้ระดับน้ำที่สะพานขาว (M9) อยู่ที่ 11.86 เมตร ล้นตะลิ่งแล้ว 2.86 เมตร

ศรีสะเกษเร่งอพยพ14ชุมชน | เดลินิวส์

 

มาดูระดับน้ำในเขื่อนกันหน่อยครับ

<a href="http://pic.free.in.th/id/a2d780092aeb16c1ae3776050e55380c" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/if/130923030840.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

 

ต่อด้วยปริมาณน้ำฝน

<a href="http://pic.free.in.th/id/81ec411047cc805a32e63940263b61e3" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ib/130923030936.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>