::: ผ้าป๋าต๊ะครูบาศรีวิไชย ::: และวัตถุมงคล คบ.กฤษดา สรีกัญไชย พระปัจเจกปาฏิหาริย์

จัดส่งแล้วครับ หมายเลข EK010726415TH

 

รับทราบครับ เช้านี้ส่งไม่ทันขอเป็นรอบเย็นนะครับผม

 

ดาบสรีกัญไชยพระเจ้า ทรงมีดหมอ
ด้ามบรรจุผงมวลสารและ"ผงบุษบกพระแก้วมรกต"



1.สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดสัมพันธวงศาราม
2.พระราชภาวนาพินิจ หลวงปู่สนธิ์ อนาลโย วัดพุทธบูชา
3.พระวิมลศีลาจารย์ หลวงพ่ออำนวย ภูริสุนฺทโร วัดบรมนิวาส
4.พระครูนิทัศนพลธรรม หลวงพ่อต่อ วัดเขาแก้ว
5.พระครูนิสิตคุณากร หลวงพ่อสนม วัดพระปรางค์เหลือง
6.พุทธาภิเษกพระกริ่งพุทธชยันตี วันเสาร์5ฉัตรมงคล วัดสันติธรรม 5 พค. 2555
- พระครูปัญญาวราภรณ์ (หลวงปู่สมภาร ปญญาวโร) วัดป่าวิเวกพัฒนาราม
- พระราชวินัยโสภณ (หลวงพ่อบุญส่ง สุขปฺปตฺโต) วัดล้านนาญาณสังวราราม
- พระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป วัดอรัญญวิเวก
- หลวงตาศูนย์ จนฺทวณฺโณ วัดป่าอิสสระธรรม
- หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม
- หลวงพ่อบุญจันทร์ จนฺทสีโล วัดป่ากิ่วดู่
- พระอาจารย์บุญหนัก ถาวโร วัดพระธาตุดอยอ่างขาง
- หลวงพ่อหนูพิน ฐานุตฺตโม วัดดอยแม่ปั๋ง
- หลวงพ่อทองปาน ปญฺญาสาโร วัดป่าบ้านใหม่
7.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน 17 พค. 2555
8.มหาพุทธาภิเษกพระกริ่งอินทขิล วัดเจดีย์หลวง 19 พค. 2555
- เกจิอาจารย์ทั่วประเทสกว่า 40 รูป
9.พิธีบวงสรวงพระพุทธสิหิงค์และเทวดารักษาพระพุทธสิหิงค์ วัดพระสิงห์ 29 พค. 2555
10.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน วันวิสาขะบูชาพุทธชยันตี 5 มิย. 2555
11.พิธีเททองพระพุทธสิหิงค์จำลอง วัดพระสิงห์ คืนวันวิสาขะบูชาพุทธชยันตี
12.ครูบาพรชัย ปิยวัณโณ วัดพระพุทธาทสี่รอย 17 มิย. 2555
อัญเชิญบารมีพระพุทธบาทในเบื้องพระพุทธบาทสี่รอย
13.ครูบาอินตา กตปุญโญ วัดศาลา 17 มิย. 2555
14.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน 17 มิย. 2555
15.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน 30 มิย. 2555
16.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน 5 กค. 2555 (เสกรวม)
17.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน 5 กค. 2555 (เสกมีดสรีกัญไชยโดยเฉพาะ)
18.ครูบาอินตา กตปุญโญ วัดศาลา 5 กค. 2555
19.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน 20 กค. 2555
20.พิธีพุทธาภิเษกพระพุทธสิหิงค์จำลองพุทธชยันตี วัดพระสิงห์ 28 กค. 2555
21.พระธรรมมังคลาจารย์ ครูบาทอง สิริมังคโล วัดพระธาตุศรีจอมทอง 28 กค. 2555
22.ครูบาอินเหลา สุจิตโต วัดร้องวัวแดง 28 กค. 2555
23.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน 2 สค. 2555
24.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน 19 สค. 2555
25.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน 24 สค. 2555
26.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน 24 สค. 2555 (ทำวัตรสวดมนต์เจริญกรรมฐาน)
27.พระอาจารย์กิตติศักดิ์ กิตติสาโร วัดป่าหนองหลุบ 2 กย. 2555
28.หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม 3 กย. 2555
29.พิธีพุทธาภิเษกพระพุทธสิหิงค์ วิหารลายคำ วัดพระสิงห์ 9 กย. 2555
30.หลวงปู่บุญมา อนิญชโต วัดสวนดอก 30 กย. 2555
31.หลวงปู่บุญมา อนิญชโต วัดสวนดอก 8 ตค. 2555
32.พระครูสุนทรเจติยานุรักษ์ ครูบาพิณ วัดพระธาตุดอยคำ 26 ตค. 2555
33.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน 27 ตค. 2555
34.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน 31 ตค. 2555 ฤกษ์วันพระพุทธเจ้าเปิดโลก
35.ครูบาพรชัย ปิยวัณโณ วัดพระพุทธาทสี่รอย 3 พย. 2555
36.อัญเชิญบารมีพระพุทธบาทในเบื้องพระพุทธบาทสี่รอย 3 พย. 2555
37.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน 4 พย. 2555
38.ครูบาตั๋น ปัญโญ สำนักสงฆ์ม่อนปู่อิ่น 4 พย. 2555
39.ครูบาศรีวัย โพธิวังโส วัดหนองเงือก 4 พย. 2555
40.ครูบาตั๋น ปัญโญ สำนักสงฆ์ม่อนปู่อิ่น 5 พย. 2555
41.ครูบาศรีวัย โพธิวังโส วัดหนองเงือก 5 พย. 2555
42.หลวงพ่อสะอาด กุศลจิตโต วัดสันตินิคม 19 พย. 2555
43.หลวงปู่ครูบาบุญมา สุภัทโท 19 พย. 2555
44.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน 20 พย. 2555
45.พิธีเททองพระกริ่งชินบัญชรล้านนา วัดพระสิงห์ 21 พย. 2555
46.วาระครอบรอบ 100 ปี หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ 28 พย. 2555
47.ครูบาโอภาส โอภาโส วัดจองคำ พุทธาภิเษกพระอุปคุต 28 พย. 2555
48.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน 5 ธค. 2555 วัดเฉลิมพระชนมพรรษา
49.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน 21 ธค. 2555
50.พระอาจารย์เมธา สุเมโธ วัดถ้ำผาปล่อง 5 มค. 2556
51.พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญญวิเวก 5 มค. 2556
52.หลวงปู่อุดม ญาณรโต วัดสถิตย์ธรรมวนาราม 22 กพ. 2556
53.งานเททองหล่อพระพุทธจักรพรรดิมุณีศรีอุดมพร 23 กพ. 2556
- หลวงปู่อุดม ญาณรโต
- หลวงปู่ไพบูลย์ สุมังคโล
- หลวงปู่ทองสุก อุตตรปัญโญ
- หลวงพ่อพระราชวินัยโสภณ
54.พระครูสุนทรเจติยารักษ์ ครูบาพิณ วัดพระธาตุดอยคำ 25 กพ. 2556
55.ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) 10 มีค. 2556
56.ครูบาอินตา กตปุญโญ วัดศาลา 11 มีค. 2556
57.ครูบาตั๋น ปัญโญ สำนักสงฆ์ม่อนปู่อิ่น 11 มีค. 2556
58.ครูบาสิงห์ทอง อินทวังโส วัดป่าบุก 11 มีค. 2556
59.ครูบาศรีวัย โพธิวังโส วัดหนองเงือก 11 มีค. 2556
60.ครูบาสุข ชาตสุโข วัดป่าซางน้อย 11 มีค. 2556
61.ครูบาอ้าย โสภโณ วัดเวฬุวัน 11 มีค. 2556
62.ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) 22 มีค. 2556
63.ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) 23 มีค. 2556 ปิดท้ายการปลุกเสกมีดสรีกัญไชยพระเจ้า

หมายเหตุ... ครูบากฤษา ท่านสืบตำราสรีกัญไชยตำหรับวัดสันพระเจ้าแดง ต่อจากครูบาขันแก้ว เกจิดังผู้เปิดตำนานสรีกัญไชย

สร้างเพียง 56 ด้าม ด้ามละ 2000 บาท เหลือไม่มากแล้วครับ

 

เงินปัจจัยแบ่งทำบุญถวายมหากฐิน 16 วัด หลังออกพรรษาครับ​

​

 

ร่วมบุญครับ

 

ผมได้โอนเงิน สำหรับรายการที่ร่วมบุญ และ บูชา พระผง ครูบาบุญชุ่ม และ สีผึ้ง
ยอดโอน 1000.08 บาท พร้อมค่าจัดส่ง SCB 13/9/13 เวลา 19.19 น
รบกวนช่วยตรวจสอบอีกครั้งนะครับ
ที่อยู่เดิมที่เคยส่งผ้าป๋าตะ อ่อนนุช ..... กรุงเทพ
ถ้าหาไม่พบรบกวนแจ้งให้ทราบด้วยครับ

 

รับทราบการจองและโอนเงินทั้งสองท่านครับ

 

พระพุทธนวราชบพิตรทรงจิตรลดา และเหรียญพระชัยหลังช้าง

​

กรรมการได้เห็นความสำคัญของพระพุทธนวราชบพิตรและพระสมเด็จจิตรลดาดังกล่าว ซึ่งมีความสำคัญและหาได้ยากยิ่ง จึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเพื่อจัดสร้างพระพุทธนวราชบพิตร พระพิมพ์จิตรลดา ในโอกาสเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสสักการบูชา เมื่อได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต จึงเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ (นามพระพิมพ์จิตรลดา เพื่อให้แตกต่างจากพระสมเด็จจิตรลดา) จึงได้เกิด “โครงการสร้างพระพุทธนวราชบพิตร พระพิมพ์จิตรลดา ในพระบรมราชินูปถัมภ์” ขึ้น
โครงการ นี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับโครงการไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ คณะกรรมการนั้นมีมูลนิธิโครงการหลวง มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นที่ปรึกษา หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ทรงเป็นประธานกรรมการอำนวยการ พล.อ.ต.กำธน สินธวานนท์ เป็นรองประธานกรรมการอำนวยการ และคุณวัลลภ เจียรวนนท์ เป็นประธานกรรมการดำเนินงาน
การ จัดสร้างนั้น แบ่งเป็นพระเนื้อโลหะส่วนหนึ่ง และพระเนื้อผงอีกส่วนหนึ่งคณะกรรมการได้ดำเนินการ ดังนี้ ด้วยการจัดสร้างพระพุทธนวราชบพิตร พระพิมพ์จิตรลดาในครั้งนี้ มีทั้งพระเนื้อโลหะและพระเนื้อผง พระเนื้อโลหะมีหลายรายการ แต่สร้างจำนวนไม่มาก แต่พระเนื้อผงรายการเดียวนั้นจัดสร้าง 1 ล้านองค์ ดังนั้น การจัดเตรียมเนื้อพระจึงเป็นเรื่องใหญ่ที่คณะกรรมการได้เตรียมการล่วงหน้า ไว้เป็นเวลานาน
สำหรับ พิธีพุทธาภิเษกดังได้ให้รายละเอียดไว้ใน ลานโพธิ์ ฉบับที่ 960 ตอนพระกริ่งเจริญโภคทรัพย์ คือ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2538 สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ เป็นประธานจุดเทียนชัย และ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม ดับเทียนชัย มีพระคณาจารย์นั่งปรกปลุกเสก รวม 36 รูป

พระชัยหลังช้าง
ในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ อันเป็นปีมหามงคล มีงานเฉลิมฉลองพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบอย่างยิ่งใหญ่ คณะสงฆ์ทั้งสังฆมณฑลโดยมีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา เป็นประธาน ได้ร่วมกันจัดสร้างเหรียญพระชัยหลังช้าง ภปร. เพื่อเป็นทั้งพระราชกุศล ทั้งเฉลิมพระเกียรติ และเปิดโอกาสให้ปวงชนชาวไทย ได้มีพระชัยไว้สักการบูชาประจำตัว เป็นมหามงคลแก่ทั้งแผ่นดิน ด้วยประวัติความเป็นมาที่แสดงถึงความผูกพันธ์เกื้อหนุนกันอย่างลึกซึ้ง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในความเป็นชาติ พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์
พิธีมหาพุทธาภิเษกเหรียญพระชัยหลังช้าง มีขึ้นในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยพระเถรานุเถระ องค์แทนสงฆ์ทั้งสังฆปริมณฑล อย่างยิ่งใหญ่สมเป็นงานของแผ่นดิน พระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) ผู้เข้าร่วมทำพิธีพุทธาภิเษก ได้กล่าวกับเหล่าศิษย์ถึงพระชัยหลังช้าง อย่างยกย่องในอานุภาพแห่งความไม่แพ้ เฉกเช่นองค์พระผู้บูชาสักการะพระชัยหลังช้างองค์ต้นแบบ ผู้ทรงตรากตรำกู้ชาติกู้แผ่นดิน ปกบ้านป้องเมืองตลอดพระชนม์ชีพ ด้วยพระกฤษฎาภินิหารแห่งพระบรมโพธิสัตว์ ผู้เปี่ยมล้นด้วยพระมหาทศบารมี ทรงพระมหากรุณาธิคุณยิ่งไพศาล พระราชทานส่งทอดเอกราชและความเป็นไทให้แก่ปวงชนชาวไทยมาถึงทุกวันนี้

คู่นี้ 550 บาท มหามงคล (พระผงมีกล่องเดิมครับ)

ค่าจัดส่ง 50 บาท โอนไวส่งไว

 

พระสมเด็จจิตรลดากำลังแผ่นดิน(ผสมผงจิตรลดา) และเหรียญพระชัยหลังช้าง
ปิดรายการ

​

พระสมเด็จเนื้อว่านกำลังแผ่นดิน พิมพ์ใหญ่มวลสารจิตรลดา เฉลิมฉลองปีกาญจนาภิเษก 50 ปี พิมพ์เล็ก (คะแนน) เนื้อว่านดำผสมผงเก่าออกปี 39 ปลุกเสกวัดพระแก้ว ได้รับอนุญาติให้อัญเชิญตราสัญลักษณ์ฉลองสิริราชสมบัติครบ50ปีประดิษฐานด้าน หลังองค์พระ วัตถุประสงค์เพื่อมอบให้แก่สมทบทุนฃื้อเครื่องมือแพทย์แก่โรงพยาบาลราช พิพัฒน์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานประกอบพิธีพุ ทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวัง 2 ธันวาคม 2539 เวลา 15.19 น.โดยพระภาวนาจารย์ 109 รูปเป็นการรวบรวมเกจิอาจารย์สมัยปี40เกือบทั้งหมดเช่น ลพ.คูณ วัดบ้านไร่ ลพ.หลิว วัดไร่แตงทอง ลพ.พูล ลพ.เปิ่น วัดบางพระ นครปฐม นั่งปรกในวัดพระแก้วและนอกวัดยังมีพระสงฆ์นั่งเจริญขัยคาถาอีกเป็นพันองค์ รอบอุโบสถวัดพระแก้ว เนื้อว่านดำผสมผงเก่าออกปี 39

พระชัยหลังช้าง
ในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ อันเป็นปีมหามงคล มีงานเฉลิมฉลองพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบอย่างยิ่งใหญ่ คณะสงฆ์ทั้งสังฆมณฑลโดยมีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา เป็นประธาน ได้ร่วมกันจัดสร้างเหรียญพระชัยหลังช้าง ภปร. เพื่อเป็นทั้งพระราชกุศล ทั้งเฉลิมพระเกียรติ และเปิดโอกาสให้ปวงชนชาวไทย ได้มีพระชัยไว้สักการบูชาประจำตัว เป็นมหามงคลแก่ทั้งแผ่นดิน ด้วยประวัติความเป็นมาที่แสดงถึงความผูกพันธ์เกื้อหนุนกันอย่างลึกซึ้ง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในความเป็นชาติ พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์
พิธีมหาพุทธาภิเษกเหรียญพระชัยหลังช้าง มีขึ้นในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยพระเถรานุเถระ องค์แทนสงฆ์ทั้งสังฆปริมณฑล อย่างยิ่งใหญ่สมเป็นงานของแผ่นดิน พระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) ผู้เข้าร่วมทำพิธีพุทธาภิเษก ได้กล่าวกับเหล่าศิษย์ถึงพระชัยหลังช้าง อย่างยกย่องในอานุภาพแห่งความไม่แพ้ เฉกเช่นองค์พระผู้บูชาสักการะพระชัยหลังช้างองค์ต้นแบบ ผู้ทรงตรากตรำกู้ชาติกู้แผ่นดิน ปกบ้านป้องเมืองตลอดพระชนม์ชีพ ด้วยพระกฤษฎาภินิหารแห่งพระบรมโพธิสัตว์ ผู้เปี่ยมล้นด้วยพระมหาทศบารมี ทรงพระมหากรุณาธิคุณยิ่งไพศาล พระราชทานส่งทอดเอกราชและความเป็นไทให้แก่ปวงชนชาวไทยมาถึงทุกวันนี้

คู่นี้ 550 บาท มหามงคล (พระผงมีกล่องเดิมครับ)

ค่าจัดส่ง 50 บาท โอนไวส่งไว

 

เลขที่จัดส่งพัสดุครับ

คุณชัยรัชต์ EK010763753TH
คุณลิขิต EK010763767TH

 

โอน 15/9/56 จำนวน 600 บ.ครับ

 

จัดส่งให้วันนี้ครับผม

 

เมื่อวานได้ถวาย ผ้าป๋าต๊ะรอยมือรอยเท้าของครูบาเจ้าศรีวิไชย 100 ผืน เพื่อให้หลวงปู่ไว้แจกแก่ญาติโยม เป็นทานบารมีและเผยแพร่เหียรติคุณแห่งครูบาเจ้าศรีวิไชย เพราะครั้งหนึ่งหลวงปู่ครูบาดวงดีเคยได้ทันเจอและกราบไหว้ครูบาเจ้าศรีวิไชย เชิญอนุโมทนาบุญกันครับ

 

ล็อกเก็ตหลวงปู่สุพีร์ สุสญฺญโม วัดถ้ำซับมืด

​

ฉลองอายุ 79 ปี มวลสารแน่นเต็มด้านหลัง เกศา โลหิต จีวรอังสะ วัดถ้ำซับมืด โคราชครับ

องค์ละ 1100 บาท

ค่าจัดส่ง 50 บาท โอนไวส่งไว

 

พระปิดตาอริยทรัพย์ หลวงพ่อคูณ สุเมโธ เนื้อแก่มวลสารโรยเกศา มวลสารสุดยอดหายาก

​

สืบเนื่องจากงานทอดผ้าป่าถวายองค์หลวงพ่อคูณ สุเมโธ วัดป่าภูทอง จ.อุดรธานี
ที่จะจัดขึ้นในวันที่17พฤษภาคม 2554 เวลา9.30น.โดยจะนำเงินผ้าป่าที่ทอดได้ไปซ่อมศาลากลางน้ำ
ซึ่งศาลากลางน้ำนี้เป็นศาลากลางน้ำเก่าที่หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโรได้สร้างไว้เมื่อคราวมาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าภูทอง
ผู้ใหญ่หลายท่านเห็นควรที่จะให้สร้างพระเพื่อแจกสำหรับผู้ร่วมบุญทุกท่าน
ในการนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ใหญ่หลายท่านมอมมวลสารอันเป็นมิ่งมงคลมา
อันประกอบด้วย
ผงพระรุ่นแช่น้ำมนต์หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ตั้งแต่ยุคแรกที่องค์หลวงปู่โต๊ะ
ลบผงและสร้างเองตั้งแต่ปีพ.ศ.2468 จนถึงราวปี10 เนื่องจากพระแช่น้ำมนต์บางส่วนที่หลวงปู่แช่น้ำมนต์ปีพ.ศ.2468
และไม่ได้แจกไปเนื่องจากเกิดการเกาะกันเป็นก้อน แต่หลวงปู่ไม่ได้นำออกจากโอ่งน้ำมนต์จนปีพ.ศ.สิบกว่าๆ
อ.เบิ้ม (สุวัฒน์ พบร่มเย็น) ศิษย์ฆราวาสในองค์หลวงปู่โต๊ะได้ขอก้อนพระที่ติดกันมาทั้งก้อน
ซึ่งหลวงปู่ได้สำทับถึงความสำคัญว่าเอาผงไปทำพระหรือลูกอม แล้วไม่ต้องเอามาให้เราเสกอีกมันสำเร็จแล้ว

นอกจากนี้ยังมีผงร่วมผงพุทธคุณ ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห ผงอิทธิเจ
ที่หลวงปู่โต๊ะเขียนและลบตามสูตรโบราณด้วยองค์ท่านเอง
ที่เป็นผงล้วนจริงๆไม่ใช่ผงในพระ
ซึ่งทางอ.เบิ้มได้เมตตามอบผงที่กล่าวมาทั้งหมดนี้มาร่วมบุญด้วย

ผงว่าน108ที่หลวงปู่โต๊ะเป็นผู้กำกับชนิดว่านและการบด หลังจากเหลือผงว่านเหล่านี้หลวงปู่โต๊ะ
ได้มอบต่อหลวงพ่ออุตตมะก่อนละสังขารและหลวงพ่ออุตตมะได้อธิษฐานยาวนานนับสิบปี
ก่อนจะตกทอดถึงศิษย์ฆราวาสท่านหนึ่งและได้แบ่งส่วนมาร่วมอนุโมทนาสร้างพระปิดตา อริยทรัพย์
ทรายเสก32อาจารย์อันลือลั่นที่เหลือจากการสร้างพระพระกริ่งปรโม ปฐวีธาตุ
ที่รังสรรโดยอนันต์ สวัสดิสวนีย์ อดีตผู้อำนวยการกองช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร
ปัจจุบันค่าพระกริ่งปรโมปฐวีธาตุกลายเป็นตำนานที่เล่าขานกัน มีเงินแสนถึงจะพอมีสิทธิ์ได้อาราธนามาคุ้มครอง
ซึ่งมวลสารที่เหลือได้ตกทอดมาจากอ.อนันต์สู่อ.เบิ้มและผมได้รับมอบต่อมา

ส่วนสำคัญอีกอย่างคือว่านจำนวนมากกว่า108ชนิดซึ่งเป็นว่านเก่าวัดช้างไห้ได้รับมอบจากท่านเจ้าคุณสวัสดิ์
อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างไห้ ซึ่งท่านเจ้าคุณเล่าว่าเป็นว่าเก่าใหม่มาผสมกันตั้งแต่สร้างหลวงปู่ทวดรุ่นแรกปี2497
รุ่นพินัยกรรม รุ่นสองปี2524 ไล่จนถึงรุ่นปัจจุบัน รวมถึงรับมอบว่านเพิ่มเติมจากหลวงพ่อนอง วัดทรายขาว
และพ่อท่านพล วัดนาประดู่ รวมแล้วเกือบ2กระป๋องนมช้น
นอกจากนี้ยังมีว่านยาของสายกรรมฐานร่วมด้วยคือตัวขี้ว่านของหลวงปู่จันทร์โสม วัดป่านาสีดา
ซึ่งว่านต่างๆหลวงปู่ท่านคัดเลือกเองให้มีคุณทางรักษาโรคเป็นหลัก
หลังจากเคี่ยวว่านยาทั้งหมดโดยระหว่างเคี่ยวหลวงปู่ต้องไปนั่งกำกับด้วยสมาธิอีกชั้น
ตัวยาก็เอามาทำน้ำมันว่าน ส่วนกากยาที่เหลือท่านจะรียกขี้ว่านแต่คุณค่าตัวยาสูงกว่าตัวน้ำมันว่าน
นอกจากนี้ยังมีผงจักพรรดิ์ทั้งของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก และหลวงพ่ออุตตมะวัดวังวิเวการาม
ซึ่งของหลวงปู่ดู่หลวงปู่ท่านเคยกล่าวไว้ว่า1ช้อนชาผสมพระได้4,000องค์
พระมีอานุภาพเท่าหลวงปู่อธิษฐานเอง
ส่วนของหลวงพ่ออุตตมะเป็นผงว่านผสมผงที่ท่านลบเองและอธิษฐานจิตยาวนานกว่า12ปี

และในส่วนที่เป็นมหามงคลยิ่งคือ
ผงชันเพชรจากองค์มหาบุศบกทองคำที่ประทับขององค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร(พระแก้วมรกต)
และยังมีผงปูน อิฐโมเสส กระจกและกระเบื้องจากทั้งพระอุโบสถและพระมหาเจดีย์ ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ

ผงพวงมาลัย ดอกไม้และธูปที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงบูชา
พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร(พระแก้วมรกต)วัดพระศรีรัตนศาสดาราม, พระพุทธชินสีห์และพระไพรีพินาศ วัดบวรนิเวศวิหาร

ผงนพปดลมงคงเศวตรฉัตร พระพุทธชินสีห์
และผงสัตตปดลมงคลเศวตรฉัตร พระศาสดา วัดบวรนิเวศ
หรือจะเรียกง่ายๆคือผงที่ได้จากฉัตรเก้าชั้นที่กางกั้นอยู่บน องค์พระพุทธชินสีห์
และผงจากฉัตรเจ็ดชั้นที่กางกั้นอยู่บนองค์พระศาสดา ของวัดบวรนิเวศวิหาร
ซึ่งได้มาเมื่อคราวเปลี่ยนฉัตรเมื่อนานมาแล้ว

และยังมีผงปูนกระเทาะจากองค์พระธาตุสำคัญได้แก่
พระธาตุพนม พระธาตุจอมกิตติ พระปฐมเจดีย์ พระมหาธาตุนครศรีธรรมราช
ข้าวก้นบาตรหลวงปู่สุธัมย์ วัดเทพกัญญาราม
หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ(เสาร์5) ท่านพ่อเมือง พลวัฑโฒ
ดินเต่าดำ ดินที่ขึ้นจากรูตลิงแม่น้ำที่สตูลลอยติดตลิงต้องทำพิธีบรวงสรวงขอถึงได้มา
นับป็นอีกหนึ่งมวลสารมงคลที่ใช้สถาปนาพระปิดตา

ที่สำคัญยังได้อัญเชิญอริยขันธ์ อังคารธาตุของพ่อแม่ครูอาจารย์
มาสถาปนาพระปิดตาด้วยซึ่งประกอบไปด้วยอริยขันธ์อังคารธาตุของ
1 หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา
2 หลวงปูดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม สุรินทร์
3 เจ้าคุณนรรัตนราชมานิต วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ (ผงบุพโพ)
4 หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง หนองคาย
5 หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธานราม อุดรธานี
6 หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ เลย
7 หลวงปู่หลุย จันทสาโร วัดถ้ำผาบึ้ง เลย
8 หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล หนองบัวลำภู
9 หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดอรัญญวิเวก นครพนม
10 หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตวิเวก สุรินทร์
11 หลวงปู่จันทร์ วัดป่ามุจลินทร์ สกลนคร
12 หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่
13 หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต ขอนแก่น
14 หลวงปู่พระมหาบุญมี สิริธโร วัดป่าวังเลิง มหาสารคาม
15 หลวงปู่บุญ ชินวังโส วัดป่าศรีสว่างแดนดิน สกลนคร
16 หลวงปู่มหาเขียน ฐิตสีโล วัดป่ารังสิปาลิวัน กาฬสินธุ์
17 หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี
18 หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล วัดป่าสันติกาวาส อุดรธานี
19 หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม ปทุมธานี
20 หลวงปู่ลี ฐิตธัมโม วัดเหวลึก สกลนคร
21 หลวงปู่บัว สิริปุณโณ วัดป่าหนองแซง อุดรธานี
22 หลวงปู่พุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา
23 หลวงปู่สิงห์ทอง ธัมมวโร วัดป่าแก้วชุมพล สกลนคร
24 หลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดบรรพคีรี มุกดาหาร
25 หลวงพ่อคำพอง ติสโส วัดถ้ำกกดู่ อุดรธานี
26 หลวงปู่บุญจันทร์ จันทวโร วัดถ้ำผาผึ้ง เชียงใหม่
27 หลวงปู่ผาง ปริปุณโณ วัดประสิทธิธรรม อุดรธานี
28 หลวงปู่คำตัน ฐิตธัมโม วัดป่าดานศรีสำราญ หนองคาย
29 หลวงพ่อโชติ คุณสัมปันโน (พระเทพสุทธาจารย์) วัดวชิราลงกรณ์ นครราชสีมา
30 หลวงปู่กิ ธัมมัตตโม วัดป่าสนามชัย อุบลราชธานี
31 หลวงปู่หลวง กตปุญโญ วัดป่าสำราญนิวาส ลำปาง
32 หลวงปู่สีทน สีลธโน วัดถ้ำผาปู่ เลย
33 หลวงปู่เพ็ง พุทธธัมโม วัดป่าสามัคคีธรรม ร้อยเอ็ด
34 หลวงปู่มหาปราโมทย์ ปราโมทโช วัดป่านิโครธานราม อุดรธานี
35 หลวงพ่อแดง ธัมมรักขิโต วัดประชานิยม กาฬสินธุ์
36 หลวงปู่ทองสี กตปุญโญ วัดป่าสุทธิมงคล ยโสธร
37 หลวงพ่อปาน โสนันโท วัดบางนมโค อยุธยา
38 หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ระยอง
39 หลวงปู่กอง จันทวังโส วัดสระมณฑล อยุธยา
40 หลวงปู่ต่วน อินทปัญโญ วัดกล้วย อยุธยา
41 หลวงปู่เมตตาหลวง วัดเทพิทัก์ปุณณาราม นครราชสีมา
42 หลวงปู่ขาน ฐานวโร วัดป่าบ้านเหล่า เชียงราย
43 หลวงปู่ถิร ฐิตธัมโม วัดทิพยรัฐนิมิตร อุดรธานี
44 หลวงปู่เริ่ม วัดบางน้ำจืด สุราษฏร์ธานี
45 หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ วัดป่าเขาน้อย บุรีรัมย์
46 พระเทพโมลี (สำรอง คุณวุฑโฒ) วัดอโศการาม สมุทรปราการ
47 หลวงพ่อปัญญา ปัญญาวัฑโฒ วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี
48 พระพุทธรัตนโสภณ วัดวงษ์ฆ้องชัย อยุธยา
49 หลวงปู่ชื้น พุทธสโร วัดญาณเสน อยุธยา
50 หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม จันทบุรี
51 หลวงตาผนึก สิริมังคโล วัดป่าเขวาสินรินทร์ สุรินทร์
52 หลวงปู่แช่ม ฐิตโภ วัดมะขามเฒ่า สงขลา
53 หลวงพ่อตัด ปวโร วัดชายนา เพชรบุรี
54 หลวงปู่คำผอง กุสลธโร วัดป่านิโครธาราม อุดรธานี
55 หลวงปู่สอ พันธุโล วัดป่าบ้านหนองแสง ยโสธร
56 หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพรต หนองคาย
57 หลวงปู่พรหมจักรสังวร (ครูบาพรหมา พรหมจักโก) วัดพุทธบาทตากผ้า ลำพูน
58 พระครูขันตยาภรณ์ (คำ ขันติโก) สุสานไตรลักษณ์ เชียงใหม่
59 ครูบาบุญปั๋น ธัมมปัญโญ วัดร้องขุ้ม เชียงใหม่
60 ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง เชียงใหม่
61 ครูบาอินตา อินทปัญโญ วัดห้วยไซ ลำพูน
62 พระอาจารย์นอง ธมมภูโต วัดทรายขาว ปัตตานี
63 หลวงปู่เพียร วิริโย วัดป่าหนองกอง อุดรธานี
64 หลวงปู่พวง สุวีโร วัดป่าปูลูสันติวนา อุดรธานี
หลังจากนำมวลสารมารวมกันสามารถสร้างพระปิดตาเนื้อแก่ผงมวลสาร(สีเทา)ได้จำนวน1,500องค์
และเนื้อสีขาวจำนวน8,500องค์ โดยในวันที่26มีนาคม2554
ได้นำพระปิดตาไปขอเมตตาหลวงพ่อคูณ สุเมโธ อธิษฐานจิต

องค์ละ 2000 บาท มี 2 องค์

ค่าจัดส่ง 50 บาท โอนไวส่งไว

 

เชิญร่วมอนุโมทนาบุญกันครับ

- ร่วมเป็นเจ้าภาพบวชพระภิกษุถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชฯ เนื่องในวาระ 100 พระชันษา รวมแล้ว 201 รูป
- ถวายผ้ารอยมือรอยเท้าครูบาเจ้าศรีวิไชย เป็นกฐินทานวัดสันมะเหม้า เชียงราย 100 ผืน
- มอบผ้ารอยมือรอยเท้าครูบาเจ้าศรีวิไชย แก่กองทุนสงฆ์อาพาธโรงพยาบาลแม่อาย คุณอาหมอเฉลิม 100 ผืน เพื่อมอบแก่ผู้ทำบุญและพระภิกษุอาพาธเพื่อเป็นกำลังใจ
- มอบผ้ารอยมือรอยเท้าครูบาเจ้าศรีวิไชย แก่คุณพีรดนย์เพื่อนำไปมอบแจกให้แก่ชาวเขา 500 ผืน
- ทำบุญถวายทองคำเปลว 200 แผ่น ถวายครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง เพื่อประดับลวดลายคำวิหารพระนอน

อนุโมทนาบุญครับ

 

ดาบสรีกัญไชยพระเจ้า
ดาบล้านนาปลายบัว ใบยาว 21 นิ้ว ด้ามฝังทองแดงตรงสัน 3 แถบ
ฝังทองทิพย์ที่ปลาย 2 จุด ดาบวางบนสันมือได้ แสดงถึงฝีมือน้ำเอกแห่งช่างล้านนา
ฝักด้ามไม้สักเนื้อดี ถักหวายละเอียดฝีมืดชั้นครู พร้อมเชือกเขียวเหนี่ยวทรัพย์

ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน เสกเดี่ยว

​

" ดาบสรีกัญไชย " พระเวทย์สูงสุดแห่งแผ่นดินล้านนา

“สรีกัญไชย” คำนี้ เขียนตามอักษรธรรมล้านนา ออกเสียงว่า “สะ-หลี๋-กั๋น-ไจ” บางแห่งใช้ “สรีกัญชัย” ก็มี หมายถึงดาบวิเศษของพระโพธิสัตว์ ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันในนามของดาบศักดิ์สิทธิ์ ที่ครูบาอาจารย์พระเถระสังฆเจ้า ได้เมตตาสร้างไว้เป็นเครื่องรางทรงพุทธานุภาพ ปกป้องคุ้มครองบรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่ได้มีไว้สักการบูชา กล่าวได้ว่าเป็นที่สุดแห่งศาสตร์พระเวทย์ล้านนา เป็นวิชาชั้นสูงของภาคเหนือก็ว่าได้
ดาบชื่อนี้ เป็น ๑ ใน ๕ อย่างของเครื่องราชกกุธภัณฑ์ล้านนา มีรูปลักษณ์ต่างกันออกไป เช่น เป็นดาบยาววาก็มี เป็นดังมีดน้อยก็มี หรือมีด้ามยาวอย่างง้าว ที่ใช้เป็นเครื่องเทียมยศพระพุทธรูป ปักเรียงกับละแอบังสูรย์ ทั้งหมดต่างเรียกขานว่า ดาบสรีกัญไชย และหากจะเทียบศักดิ์แห่งดาบนี้ คงทำนองเดียวกับพระแสงขรรค์ชัยศรีของภาคกลาง รูปแบบดาบโดยละเอียดเป็นอย่างไร เนื้อเหล็กเป็นอย่างไร ในเอกสารล้านนาไม่ได้พรรณนาไว้ รู้แต่ว่าเป็นของวิเศษคู่บุญพระโพธิสัตว์

หากจะพูดถึงที่มาที่ไปของดาบสรีกัญไชย คงต้องนับย้อนไปถึงตำนานความเชื่อตามโบราณกาล ที่เล่าสืบทอดกันมาว่าพญาอินทร์ (พระอินทร์) หรือสักกะเทวราช ได้มีบัญชาให้พระเวสสุกรรมเทวบุตร ซึ่งเทพผู้เชี่ยวชาญงานช่างของสวรรค์ ลงมาตีพระขรรค์ถวายพระเกตุมาลา ตามตำนานเล่าว่า พระเวสสุกรรมเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในงานช่าง ประกอบกับมีฤทธาอภินิหารพอตัว การตีดาบจึงไม่ใช่ธรรมดา ต้องใช้เหล็กถึงสี่หาบ นำมาผ่านพิธีการเผาตีไล่เนื้อเหล็ก และใช้ว่านยาซัด จนเหลือเป็นพระขรรค์เนื้อบริสุทธิ์เพียงเล่มเดียวมาถวายพระเกตุมาลา

ด้วยความไม่รู้ถึงพิธีกรรมที่พระเวสสุกรรมได้ตั้งอกตั้งใจทำพระขรรค์วิเศษเล่มนี้ขึ้น เมื่อพระเกตุมาลาเห็นดาบเล่มเดียวก็พาให้คิดว่าพระเวสสุกรรมมีจิตคิดไม่ซื่อ ฉ้อฉลเอาเนื้อเหล็กไปถึงสี่หาบแต่นำพระขรรค์เล่มเดียวมาถวายก็เลยออกปากต่อว่าพระเวสสุกรรม แม้พระเวสสุกรรมไม่ได้พูดตอบโต้อย่างไร แต่ก็บังเกิดความน้อยใจลุกขึ้นลากพระขรรค์เล่มนั้นไปบนท้องพระโรง เกิดเป็นอัศจรรย์ คมพระขรรค์นั้นกล้านัก ผ่าท้องพระโรงแยกออกเป็นสองซีกในทันที จากนั้นเวสสุกรรมก็โยนพระขรรค์เล่มนั้นทิ้งลงไปในทะเลสาบ ดาบสรีกัญไชย จึงจมอยู่ใต้ทะเลสาบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ตำนานต่อจากนี้ค่อนข้างจะสับสนและมีหลายกระแส ตามแต่ว่าผู้รจนาไว้เป็นชนชาติใด บ้างก็ว่าพระอินทร์ใช้อิทธิฤทธิ์เรียกเอาดาบสรีกัญไชยขึ้นมามอบให้กับเจ้าเมืองผู้มีบุญาธิการพระองค์หนึ่ง ซึ่งพระองค์ก็ได้ใช้เป็นอาวุธคู่พระวรกายจนสามารถรวบรวมผู้คนตั้งตนเป็นอาณาจักรขึ้นมา อาณาจักรที่ว่านี้ จะเป็นล้านนา ล้านช้าง จะเป็นชนชาติขอม มอญ พม่า ก็สุดจะเดาได้

บางสำนวนก็ว่า พระเกตุมาลาเห็นปาฏิหาริย์ของดาบสรีกัญไชยจึงได้ไปงมขึ้นมาใช้คู่พระวรกาย และสืบทอดมาจนถึงคนรุ่นหลัง กลายเป็นดาบคู่บ้านคู่เมือง เป็นเครื่องแสดงพระเกียรติยศ หรือที่เรียกว่าเครื่องราชกกุธภัณฑ์ในที่สุด

ตำนานมักจะเป็นเช่นนี้แล... เมื่อได้ฟังจากหลายแหล่ง จากผู้เล่าแตกต่างเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ กัน ก็มักจะได้เนื้อหาที่แตกต่างหลากหลาย เพราะผู้รจนาตำนานเหล่านี้ในอดีต ต่างปรารถนาจะสรรเสริญชนเผ่าของตนนั่นเอง แต่ไม่ว่าจะเป็นตำนานฉบับไหนก็ตาม ล้วนมีความเชื่อตรงกันว่า ดาบสรีกัญไชย เป็นดาบวิเศษที่พญาอินทร์ ท่านประธานให้ผู้มีบุญ เป็นของสูง เป็นเครื่องแสดงบุญาธิการ มีอิทธิฤทธิ์ในการปราบเหล่าร้ายศัตรู เป็นต้น

ดาบสรีกัญไชยพระเจ้า (ดาบล้านนา) 10,000 บาท

ขอค่าจัดส่ง ems 200 บาท โอนไวส่งไวครับ

 

ดาบสรีกัญไชยพระเจ้า
ดาบล้านนาปลายบัว ใบยาว 7 นิ้ว (ดาบล้านนาขนาดเล็ก)
ดาบวางบนสันมือได้ แสดงถึงฝีมือน้ำเอกแห่งช่างล้านนา
ฝักด้ามไม้สักเนื้อดี ถักหวายละเอียดฝีมืดชั้นครู พร้อมเชือก

​

ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน เสกเดี่ยว
ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง เสกเดี่ยว
ครูบาตั๋น ม่อนปู่อิ่น เสกเดี่ยว
ครูบาอินตา วัดศาลา เสกเดี่ยว
ครูบาศรีวัย วัดหนองเงือก เสกเดี่ยว
ครูบาสุข วัดป่าซางน้อย เสกเดี่ยว
ครูบาอ้าย วัดเวฬุวัน เสกเดี่ยว

" ดาบสรีกัญไชย " พระเวทย์สูงสุดแห่งแผ่นดินล้านนา

“สรีกัญไชย” คำนี้ เขียนตามอักษรธรรมล้านนา ออกเสียงว่า “สะ-หลี๋-กั๋น-ไจ” บางแห่งใช้ “สรีกัญชัย” ก็มี หมายถึงดาบวิเศษของพระโพธิสัตว์ ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันในนามของดาบศักดิ์สิทธิ์ ที่ครูบาอาจารย์พระเถระสังฆเจ้า ได้เมตตาสร้างไว้เป็นเครื่องรางทรงพุทธานุภาพ ปกป้องคุ้มครองบรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่ได้มีไว้สักการบูชา กล่าวได้ว่าเป็นที่สุดแห่งศาสตร์พระเวทย์ล้านนา เป็นวิชาชั้นสูงของภาคเหนือก็ว่าได้
ดาบชื่อนี้ เป็น ๑ ใน ๕ อย่างของเครื่องราชกกุธภัณฑ์ล้านนา มีรูปลักษณ์ต่างกันออกไป เช่น เป็นดาบยาววาก็มี เป็นดังมีดน้อยก็มี หรือมีด้ามยาวอย่างง้าว ที่ใช้เป็นเครื่องเทียมยศพระพุทธรูป ปักเรียงกับละแอบังสูรย์ ทั้งหมดต่างเรียกขานว่า ดาบสรีกัญไชย และหากจะเทียบศักดิ์แห่งดาบนี้ คงทำนองเดียวกับพระแสงขรรค์ชัยศรีของภาคกลาง รูปแบบดาบโดยละเอียดเป็นอย่างไร เนื้อเหล็กเป็นอย่างไร ในเอกสารล้านนาไม่ได้พรรณนาไว้ รู้แต่ว่าเป็นของวิเศษคู่บุญพระโพธิสัตว์

หากจะพูดถึงที่มาที่ไปของดาบสรีกัญไชย คงต้องนับย้อนไปถึงตำนานความเชื่อตามโบราณกาล ที่เล่าสืบทอดกันมาว่าพญาอินทร์ (พระอินทร์) หรือสักกะเทวราช ได้มีบัญชาให้พระเวสสุกรรมเทวบุตร ซึ่งเทพผู้เชี่ยวชาญงานช่างของสวรรค์ ลงมาตีพระขรรค์ถวายพระเกตุมาลา ตามตำนานเล่าว่า พระเวสสุกรรมเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในงานช่าง ประกอบกับมีฤทธาอภินิหารพอตัว การตีดาบจึงไม่ใช่ธรรมดา ต้องใช้เหล็กถึงสี่หาบ นำมาผ่านพิธีการเผาตีไล่เนื้อเหล็ก และใช้ว่านยาซัด จนเหลือเป็นพระขรรค์เนื้อบริสุทธิ์เพียงเล่มเดียวมาถวายพระเกตุมาลา

ด้วยความไม่รู้ถึงพิธีกรรมที่พระเวสสุกรรมได้ตั้งอกตั้งใจทำพระขรรค์วิเศษเล่มนี้ขึ้น เมื่อพระเกตุมาลาเห็นดาบเล่มเดียวก็พาให้คิดว่าพระเวสสุกรรมมีจิตคิดไม่ซื่อ ฉ้อฉลเอาเนื้อเหล็กไปถึงสี่หาบแต่นำพระขรรค์เล่มเดียวมาถวายก็เลยออกปากต่อว่าพระเวสสุกรรม แม้พระเวสสุกรรมไม่ได้พูดตอบโต้อย่างไร แต่ก็บังเกิดความน้อยใจลุกขึ้นลากพระขรรค์เล่มนั้นไปบนท้องพระโรง เกิดเป็นอัศจรรย์ คมพระขรรค์นั้นกล้านัก ผ่าท้องพระโรงแยกออกเป็นสองซีกในทันที จากนั้นเวสสุกรรมก็โยนพระขรรค์เล่มนั้นทิ้งลงไปในทะเลสาบ ดาบสรีกัญไชย จึงจมอยู่ใต้ทะเลสาบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ตำนานต่อจากนี้ค่อนข้างจะสับสนและมีหลายกระแส ตามแต่ว่าผู้รจนาไว้เป็นชนชาติใด บ้างก็ว่าพระอินทร์ใช้อิทธิฤทธิ์เรียกเอาดาบสรีกัญไชยขึ้นมามอบให้กับเจ้าเมืองผู้มีบุญาธิการพระองค์หนึ่ง ซึ่งพระองค์ก็ได้ใช้เป็นอาวุธคู่พระวรกายจนสามารถรวบรวมผู้คนตั้งตนเป็นอาณาจักรขึ้นมา อาณาจักรที่ว่านี้ จะเป็นล้านนา ล้านช้าง จะเป็นชนชาติขอม มอญ พม่า ก็สุดจะเดาได้

บางสำนวนก็ว่า พระเกตุมาลาเห็นปาฏิหาริย์ของดาบสรีกัญไชยจึงได้ไปงมขึ้นมาใช้คู่พระวรกาย และสืบทอดมาจนถึงคนรุ่นหลัง กลายเป็นดาบคู่บ้านคู่เมือง เป็นเครื่องแสดงพระเกียรติยศ หรือที่เรียกว่าเครื่องราชกกุธภัณฑ์ในที่สุด

ตำนานมักจะเป็นเช่นนี้แล... เมื่อได้ฟังจากหลายแหล่ง จากผู้เล่าแตกต่างเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ กัน ก็มักจะได้เนื้อหาที่แตกต่างหลากหลาย เพราะผู้รจนาตำนานเหล่านี้ในอดีต ต่างปรารถนาจะสรรเสริญชนเผ่าของตนนั่นเอง แต่ไม่ว่าจะเป็นตำนานฉบับไหนก็ตาม ล้วนมีความเชื่อตรงกันว่า ดาบสรีกัญไชย เป็นดาบวิเศษที่พญาอินทร์ ท่านประธานให้ผู้มีบุญ เป็นของสูง เป็นเครื่องแสดงบุญาธิการ มีอิทธิฤทธิ์ในการปราบเหล่าร้ายศัตรู เป็นต้น

ดาบสรีกัญไชยพระเจ้า (ดาบล้านนา) 2,500 บาท

ขอค่าจัดส่ง ems 50 บาท โอนไวส่งไวครับ

 

ดาบสรีกัญไชยพระเจ้า
ดาบล้านนาปลายบัว ใบยาว 5 นิ้ว (ดาบล้านนาขนาดเล็ก)
ดาบวางบนสันมือได้ แสดงถึงฝีมือน้ำเอกแห่งช่างล้านนา
ฝักด้ามไม้สักเนื้อดี ถักหวายละเอียดฝีมืดชั้นครู พร้อมเชือก

​

ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน เสกเดี่ยว
ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง เสกเดี่ยว
ครูบาตั๋น ม่อนปู่อิ่น เสกเดี่ยว
ครูบาอินตา วัดศาลา เสกเดี่ยว
ครูบาศรีวัย วัดหนองเงือก เสกเดี่ยว
ครูบาสุข วัดป่าซางน้อย เสกเดี่ยว
ครูบาอ้าย วัดเวฬุวัน เสกเดี่ยว

" ดาบสรีกัญไชย " พระเวทย์สูงสุดแห่งแผ่นดินล้านนา

“สรีกัญไชย” คำนี้ เขียนตามอักษรธรรมล้านนา ออกเสียงว่า “สะ-หลี๋-กั๋น-ไจ” บางแห่งใช้ “สรีกัญชัย” ก็มี หมายถึงดาบวิเศษของพระโพธิสัตว์ ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันในนามของดาบศักดิ์สิทธิ์ ที่ครูบาอาจารย์พระเถระสังฆเจ้า ได้เมตตาสร้างไว้เป็นเครื่องรางทรงพุทธานุภาพ ปกป้องคุ้มครองบรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่ได้มีไว้สักการบูชา กล่าวได้ว่าเป็นที่สุดแห่งศาสตร์พระเวทย์ล้านนา เป็นวิชาชั้นสูงของภาคเหนือก็ว่าได้
ดาบชื่อนี้ เป็น ๑ ใน ๕ อย่างของเครื่องราชกกุธภัณฑ์ล้านนา มีรูปลักษณ์ต่างกันออกไป เช่น เป็นดาบยาววาก็มี เป็นดังมีดน้อยก็มี หรือมีด้ามยาวอย่างง้าว ที่ใช้เป็นเครื่องเทียมยศพระพุทธรูป ปักเรียงกับละแอบังสูรย์ ทั้งหมดต่างเรียกขานว่า ดาบสรีกัญไชย และหากจะเทียบศักดิ์แห่งดาบนี้ คงทำนองเดียวกับพระแสงขรรค์ชัยศรีของภาคกลาง รูปแบบดาบโดยละเอียดเป็นอย่างไร เนื้อเหล็กเป็นอย่างไร ในเอกสารล้านนาไม่ได้พรรณนาไว้ รู้แต่ว่าเป็นของวิเศษคู่บุญพระโพธิสัตว์

หากจะพูดถึงที่มาที่ไปของดาบสรีกัญไชย คงต้องนับย้อนไปถึงตำนานความเชื่อตามโบราณกาล ที่เล่าสืบทอดกันมาว่าพญาอินทร์ (พระอินทร์) หรือสักกะเทวราช ได้มีบัญชาให้พระเวสสุกรรมเทวบุตร ซึ่งเทพผู้เชี่ยวชาญงานช่างของสวรรค์ ลงมาตีพระขรรค์ถวายพระเกตุมาลา ตามตำนานเล่าว่า พระเวสสุกรรมเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในงานช่าง ประกอบกับมีฤทธาอภินิหารพอตัว การตีดาบจึงไม่ใช่ธรรมดา ต้องใช้เหล็กถึงสี่หาบ นำมาผ่านพิธีการเผาตีไล่เนื้อเหล็ก และใช้ว่านยาซัด จนเหลือเป็นพระขรรค์เนื้อบริสุทธิ์เพียงเล่มเดียวมาถวายพระเกตุมาลา

ด้วยความไม่รู้ถึงพิธีกรรมที่พระเวสสุกรรมได้ตั้งอกตั้งใจทำพระขรรค์วิเศษเล่มนี้ขึ้น เมื่อพระเกตุมาลาเห็นดาบเล่มเดียวก็พาให้คิดว่าพระเวสสุกรรมมีจิตคิดไม่ซื่อ ฉ้อฉลเอาเนื้อเหล็กไปถึงสี่หาบแต่นำพระขรรค์เล่มเดียวมาถวายก็เลยออกปากต่อว่าพระเวสสุกรรม แม้พระเวสสุกรรมไม่ได้พูดตอบโต้อย่างไร แต่ก็บังเกิดความน้อยใจลุกขึ้นลากพระขรรค์เล่มนั้นไปบนท้องพระโรง เกิดเป็นอัศจรรย์ คมพระขรรค์นั้นกล้านัก ผ่าท้องพระโรงแยกออกเป็นสองซีกในทันที จากนั้นเวสสุกรรมก็โยนพระขรรค์เล่มนั้นทิ้งลงไปในทะเลสาบ ดาบสรีกัญไชย จึงจมอยู่ใต้ทะเลสาบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ตำนานต่อจากนี้ค่อนข้างจะสับสนและมีหลายกระแส ตามแต่ว่าผู้รจนาไว้เป็นชนชาติใด บ้างก็ว่าพระอินทร์ใช้อิทธิฤทธิ์เรียกเอาดาบสรีกัญไชยขึ้นมามอบให้กับเจ้าเมืองผู้มีบุญาธิการพระองค์หนึ่ง ซึ่งพระองค์ก็ได้ใช้เป็นอาวุธคู่พระวรกายจนสามารถรวบรวมผู้คนตั้งตนเป็นอาณาจักรขึ้นมา อาณาจักรที่ว่านี้ จะเป็นล้านนา ล้านช้าง จะเป็นชนชาติขอม มอญ พม่า ก็สุดจะเดาได้

บางสำนวนก็ว่า พระเกตุมาลาเห็นปาฏิหาริย์ของดาบสรีกัญไชยจึงได้ไปงมขึ้นมาใช้คู่พระวรกาย และสืบทอดมาจนถึงคนรุ่นหลัง กลายเป็นดาบคู่บ้านคู่เมือง เป็นเครื่องแสดงพระเกียรติยศ หรือที่เรียกว่าเครื่องราชกกุธภัณฑ์ในที่สุด

ตำนานมักจะเป็นเช่นนี้แล... เมื่อได้ฟังจากหลายแหล่ง จากผู้เล่าแตกต่างเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ กัน ก็มักจะได้เนื้อหาที่แตกต่างหลากหลาย เพราะผู้รจนาตำนานเหล่านี้ในอดีต ต่างปรารถนาจะสรรเสริญชนเผ่าของตนนั่นเอง แต่ไม่ว่าจะเป็นตำนานฉบับไหนก็ตาม ล้วนมีความเชื่อตรงกันว่า ดาบสรีกัญไชย เป็นดาบวิเศษที่พญาอินทร์ ท่านประธานให้ผู้มีบุญ เป็นของสูง เป็นเครื่องแสดงบุญาธิการ มีอิทธิฤทธิ์ในการปราบเหล่าร้ายศัตรู เป็นต้น

ดาบสรีกัญไชยพระเจ้า (ดาบล้านนา) 1,250 บาท มี 5 ด้ามครับ

ขอค่าจัดส่ง ems 50 บาท โอนไวส่งไวครับ

 

พระผงนั่งตั่ง + เหรียญเศรษฐีเงินล้าน วัดบ้านจาน ปี56 หลวงปู่หมุน ปิดรายการ

​

พระผงนั่งตั่งผิวสวยเดิม มีกระเทาะตรงมุมขวาล่างนิดหน่อยไม่น่าเกลียด ใส่กรอบแล้วไม่เห็น ได้มาพร้อมกับจีวร หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน หลวงพ่อกวย ชุตินธโร ครูบาอิน อินโท ในกรอบสแตนเลสพร้อมบูชา
และเหรียญทองแดงหลวงปู่หมุน รุ่นเงินล้าน หมายเลข 816 สวยเดิมๆ ชุดนี้สุดคุ้ม แค่พระและจีวรก็หาได้ยากยิ่งแล้ว

ชุดนี้แบ่งกันไป 3000 บาท

ขอค่าจัดส่ง ems 50 บาท โอนไวส่งไวครับ