ปีติน้ำตาไหล ตัวโอน เอียง อาการเหล่านี้ปกติหรือเปล่าคะ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย DharmaJaree, 20 สิงหาคม 2013.

  1. DharmaJaree

    DharmaJaree เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2013
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +107
    ตอนแรกเลยจะเริ่มจากการสมถะ นะ มะ พะ ทะ หรือบริกรรมทั่วไป
    จนได้มีโอกาสไปปฏิบัติคอร์สคุณแม่ ดร. สิริ มาค่ะ วันที่ 5 จะมีอาการปีติน้ำตาไหลแหมะๆ ทั้งที่ไม่ได้เศร้า ยินดียินร้ายอะไร แล้วก็มีตัวโอน เอียง หงาย บ้าง พอออกจากสมาธิแล้ว ยังรู้สึกเหมือนภาวนาอยู่ ทุกอย่างเหมือน slow motion บอกไม่ถูกค่ะ รู้สึกสดชื่นตื่นมีสติไปหมดซะทุกอย่าง

    พอวันที่หกเป็นคล้ายๆเดิมค่ะ แต่ไม่ได้ร้องไห้ แต่ว่ามีอาการคว่ำไปข้างหน้าทีละนิดๆ จนครูมาเรียกก็ยังคว่ำ จนคมำหน้าไปเลยค่ะ ลืมตาไม่ได้พอลืมได้ตาก็เหลือกมองครู ปล่อยโฮออกมาดังลั่น รู้สีึกตัวทุกอย่างแต่เหมือนบังคับตัวเองไม่ได้ค่ะ

    ก็ได้ไปพัก กลับมาเดินจงกรมใหม่ทีนี้รู้สึกว่าเดินได้อย่างไม่ต้องบริกรรมใด จิตว่างเปล่า เหมือนมีแรงแม่เหล็กมาดูดขาพาก้าวเดินสบายๆเลยระยะ 1-6

    สักพักจะรู้สึกเศร้าน้ำตาไหล เสียงตัวเองเริ่มเปลี่ยนค่ะ

    ครูบอกว่าไม่ต้องทำสมาธิแล้ว แต่ก็ยังจะนั่งลงสมาธิ ครูพาออกไปทีนี้ก็รู้สึกหนักขึ้นๆ ตัวหนักๆหน่วง พาไปนอนตัวสะดุ้ง พยามหลับตา ก็เหมือนตามันกระพริบปิบๆ ในใจพยามคิดตลอดเวลาอยากทำตัวให้ปกติ แต่เหมือนบังคับไม่ได้ แล้วอยากจะพูดก็พูดไม่ถนัดเป็นคำๆ บางทีก็คำรัวๆค่ะ

    วันนั้นกลัวมาก กลัวจริงๆ มันเหมือนในละครเลย

    หลังจากนั้นกลับบ้านมาพยามสมาธิอาณาปานสติปกติ แต่มันก็มักจะกลายเป็นวิปัสนาไปเอง แล้วก็มักจะมีอาการตัวโอน สั่น เอน หงาย หรือ คว่ำ หลังๆมีตาปิบๆ ไปไหนมาไหนถ้าไปคนเดียวถ้าได้นั่งแปบเดียวมันรู้สึกเหมือนจะเข้าภาวนาตรงนั้นเลย บอกไม่ถูกค่ะ

    เลยอยากจะรบกวนผู้รู้ช่วยไขข้อสงสัย

    อาการทางร่างกายที่เล่ามาปกติไหมคะ?

    แล้วทำไมเราทำสมถะไม่ได้แล้ว ทำได้แป๊บนึงจะกลายเป็นวิปัสนาเรื่อยเลยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 สิงหาคม 2013
  2. Workgroup

    Workgroup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +1,947
    นิวรณ์ ห้า ครับ ถ้ายังไม่ได้ แนะนำ แบบ ง่ายๆ ก่อนครับ

    สวดมนต์ แผ่เมตตา เอาบทนี้ก่อนครับ ฝึก สติ อยู่ในบทสวดมนต์ก่อนครับ ทำแบบนี้ ประมาณ 7 วัน คอยเปลี่ยน เป็นทำสมาธิครับ อย่าพึงรีบทำสมาธิครับ จิตยัง ไม่นิ่งครับผม

    โมทนา สาธุ

    บทสรรเสริญ พระพุทธคุณ

    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ

    สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ

    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ

    อาฎานาฎิยปริตร (คาถา พระพุทธเจ้า 28 พระองค์)

    นะโม เม สัพพะพุทธานัง อุปปันนานัง มะเหสินัง
    ตัณหังกะโร มะหาวีโร เมธังกะโร มะหายะโส
    สะระณังกะโร โลกะหิโต ทีปังกะโร ชุตินธะโร
    โกณฑัญโญ ชะนะปาโมกโข มังคะโล ปุริสาสะโภ
    สุมะโน สุมะโน ธีโร เรวะโต ระติวัฑฒะโน
    โสภีโต คุณะสัมปันโน อะโนมะทัสสี ชะนุตตะโม
    ปะทุโม โลกะปัชโชโต นาระโท วะระสาระถี
    ปะทุมุตตะโร สัตตะสาโร สุเมโธ อัปปะฏิปุคคะโล
    สุชาโต สัพพะโลกัคโค ปิยะทัสสี นะราสะโภ
    อัตถะทัสสี การุณิโก ธัมมะทัสสี ตะโมนุโท
    สิทธัตโถ อะสะโม โลเก ติสโส จะ วะทะตัง วะโร
    ปุสโส จะ วะระโท พุทโธ วิปัสสี จะ อะนูปะโม
    สิขี สัพพะหิโต สัตถา เวสสะภู สุขะทายะโก
    กะกุสันโธ สัตถะวาโห โกนาคะมะโน ระณัญชะโห
    กัสสะโป สิริสัมปันโน โคตะโม สักยะปุงคะโว ฯ

    คำแผ่เมตตาแบบทั่วไป

    สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นอะเวราโหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
    อัพยาปัชฌาโหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
    อะนีฆาโหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
    สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีแต่ความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

    สวดมนต์ ไป หนึ่ง ชั่วโมง ถึงอ่านคำแผ่เมตตา สวดมนต์ บทสรรเสริญ พระพุทธคุณ
    แล้ว อาฎานาฎิยปริตร (คาถา พระพุทธเจ้า 28 พระองค์) เส็ด กลับไปสวดมนต์
    บทสรรเสริญ พระพุทธคุณ ทำแบบนี้ 1 ชั่วโมง ถึงอ่านคำแผ่เมตตาครับ
    ทำทุกวันก่อนนอนนะครับ
    สาธุครับ ผม สวดมนต์ 2 บทนี้ประจำนะครับ
     
  3. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    จขกท. เพียรภาวนา คือ เห็นตั้งคำถามบ่อย เท่าที่เล่ามานี่ มันเป็นะรรมดาของสภาวะนามรูปมัน ผู้ฝึกศึกษาจะต้องกำหนดรู้สภาวะทุกๆอย่างที่ปรากฏขึ้น ทุกครั้งทุกๆขณะ เปนยังไง รู้สึกยังไง กำหนดยังงั้น ตามเป็นจริง หรือตามที่มันเป็นของมัน

    แนะนำให้ไปสนทนาที่นี่ครับ

    นิพพานคืออะไร ? - Wunjun Group
     
  4. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    "อาการตัวโอน สั่น เอน หงาย หรือ คว่ำ" อาการอย่างนี้เกิดขึ้นเมื่อเราปล่อยสภาวะทางกายครับ ตรงนี้ต้องควบคุม ต้องฝืน ต้องบังคับ
    การควบคุมนั้นต้องดูที่การปฏิบัติ คุณปฏิบัติอย่างไรก็ต้องดูต้องนั้น ต้องรู้วิธีที่ปฏิบัติจึงจะแนะนำวิธีทางแก้ให้ได้ (นะมะพะทะ ที่ว่านั้นกำหนดอย่างไรอธิบายแล้วจะแก้ให้ได้)
    "ทำไมเราทำสมถะไม่ได้แล้ว ทำได้แป๊บนึงจะกลายเป็นวิปัสนาเรื่อยเลย" ที่ว่าเป็นวิปัสสนาตรงนี้นั้นเป็นอย่างไร ช่วยอธิบายให้ชัดกว่านี้
    คำว่าวิปัสสนานั้นทำไมต้องอธิบาย สาเหตุเพราะว่าแต่ละสำนักมีวิธีที่แตกต่างกัน ผมอยากจะช่วยแต่ไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณเป็นครับ
    เจริญในธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2013
  5. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    อาการปกติ ไม่ต้องไปสนใจอาการเหล่านั้น และอย่าไปปรุงแต่งมันเพิ่มจากนั้นครับ
     
  6. DharmaJaree

    DharmaJaree เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2013
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +107



    >>> พอดีได้ไปฝึกคอร์สแนวทางคุณแม่ ดร. สิริมาค่ะ กำหนดรู้สิ่งที่มากระทบ
    คือตอนที่ทำสมถะสมาธิจะดูลมหายใจเข้าออกมีสติกะลมหายใจอย่างเดียว แต่พอวิปัสสนามันเหมือนประสาทสัมผัส เสียง กลิ่น รส ความรู้สึกมันจะเปิดรับขณะที่บริกรรมไปด้วย ตอนที่สมถะจะไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้เวลาที่รู้สึกว่านิ่งมากๆบางทีไม่ได้ยินเสียงหรือเสียงเบา แต่พอเป็นวิปัสนาจะรับความรู้สึกทุกอย่างไปด้วยค่ะ

    ตอนนี้ทุกครั้งที่มีอาการตัวโอน เอน สั่น พยามมีสติ กำหนดให้ตัวเองนิ่งปกตินะคะ แต่ก็ไม่เข้าใจเลยทำไมจะต้องเป็นแบบนี้ เราจะต้องมีสติกำหนดมันทุกครั้งไปเหรอคะ เลยสงสัยว่าปกติไหมน่ะค่ะ

    ขอบคุณทุกๆความเห็นเลยนะคะ
     
  7. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    การกำหนดสภาวะหรืออาการที่เกิดขึ้นทันทุกๆขณะนั่นแหละสติสัีมปชัญญะเป็นต้น เกิดแล้ว มิใช่พยายามมีสติ เน้นมิใช่พยายามมีสติ
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ก็ให้พิจารณา ตรงที่ รู้ได้

    คุณ รู้อะไรได้

    รู้ว่าตอนนี้ มี หนทางปฏิบัติอยู่ สอง วิธี ซึ่ง แตกต่างกัน

    ให้ระลึกเข้ามาที่ สภาพความต่างของ กรรมฐาน สมถะ และ วิปัสสนา

    ทำความเข้าใจ การภาวนาทั้งสองอย่างนี้ว่า มีอยู่ และ ทำความเข้า
    ใจให้มากๆว่า ต้องใช้ทั้งสองอย่าง

    อย่าให้ ทิฏฐิมานะ มาบังการเห็น

    เช่น พอเรียนวิปัสสนาแล้ว รู้รสแล้วว่า ต่างจาก ทำสมถะ ก็ ไปยึดจะ
    ทำ กรรมฐานเดียว เลยทำให้ ละล้าละลัง ไปซ้ายไปขวา ดึงหน้าดึง
    หลัง จะไปข้างหน้าไม่อยากไป ก็ไปดึงมาข้างหลัง ดึงแล้วกลายเป็น
    เห็นความแปลี่ยนแปรง แปรปรวน ก็เลยไปเข้าใจว่า วิปัสสนาอยู่

    เรียกว่า เอาไป ปนกัน ไม่ได้ แยกจากกันว่า มันมี สองอย่าง

    ถ้าแยกจากกันว่า มันมีงานอยู่สองอย่าง ก็ทำงานให้มันเสร็จเป็นอย่างๆไป

    จนชำนาญในงานอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วจึง โน้มไปสู่อีกงานหนึ่ง ด้วย
    ความเข้าใจในงาน

    อุปมาเหมือน กำลังเรียนงาน การปั้นหม้อ คุณก็ต้อง ปั้นมันขึ้นรูป
    ขึ้นมาให้ชำนาญก่อน ให้มันเป็นรูปเป็นร่างก่อน แล้ว อย่าเพลินอยู่
    กับ รูปร่างที่ก่อขึ้นมา ให้ สลายทิ้งลงไป ตามเห็นความแปรปรวนที่
    กลับไปในสภาพเดิม แล้วก็ ก่อรูปขึ้นมาใหม่ แล้ว สลายใหม่

    ทำให้ชำนาญ ในงาน ก่อรูป และ ตามดูการสลาย

    เน้นนะว่า ตามดูการสลาย ไม่ใช่ ทำให้มันสลาย ไม่ได้เน้นการ จงใจ
    ทำให้มันสลาย

    วิปัสสนานั้น จะเกิดก็ต่อเมื่อ อยู่ดีๆ รูปมันสลายของมันเอง แล้ว เราเกิด
    สติไประลึกเห็น สภาพการสลายด้วยตัวมันเอง แล้วระลึกได้ เกิดสติ
    มีสัมปชัญญะ ไม่ตกใจ ตามเห็น การเกิด ดับ ของ รูป ไปตามความเป็น
    จริง

    เห็นแล้วไม่ใช่ว่า ฮานาก้า ดีอกดีใจ เพราะนี่แค่ ฝึกตั้งไข่ งานทั้งสอง
    คือ สมถะ และ วิปัสสนา

    ยังมีอีกมากให้เพียรภาวนาต่อไป เพื่อ การรู้ยิ่งในราคะ ตัณหา ที่มันมี
    ละเอียดกว่านี้หลายคณา
     
  9. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ที่นั่นมีอะไรน่าสนใจบ้างครับ?
     
  10. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    อยากรู้ก็ไปดูซิ ไม่ไปจะรู้เหรอว่าเขามีดีอะไรมีดีแต่ตนเองเหรอ ผมยังไม่เห็นความดีของคุณเลยอินทรบุตร55
     
  11. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    เชิญคลิกไปดูสิครับ

    แต่ต้องติด web browser รุ่นใหม่ จึงเข้าได้
     
  12. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    อินทรบุตรเขาไม่เข้าไปหรอกอีโก้เขาเยอะ
     
  13. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493

    อ้าาาา จริงดิ อิๆ
     
  14. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ไม่งันเขาจะกลับมาถามเราเหรอว่าที่นันเขามีดีอะไรครับ ถ้าเป็นผมนะผมกดเข้าไปดูเรียบร้อยแล้ว เจ้าของเว็บเขาไม่ธ้รรมดานะครับที่นั้นนะ
     
  15. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    การกำหนดดูลมให้ดูที่จุดเดียวส่วนใหญ่ใช้จุดกะทบที่ปลายจมูก
    ของคุณใช้ตามลมซึ่งตรงนี้ละเมื่อจิตเริ่มจะนิ่ง ก็จะเกิดส่ายตามการไหวไปไหวมาของลม ซึ่งส่งผลให้กายไหวไปด้วย การแก้ก็ให้กำหนดรู้ลมที่จุดเดียว
    เรื่องอื่นยังไม่ต้องสนใจ ให้ปฏิบัติเช่นนี้ไปเรื่อยๆ และอย่าไปกังวลกับอาการไหว แต่ก็ไม่ปล่อยไปตามอาการนั้นๆ ให้ขืนไว้พอประมาณ และปฏิบัติค่อยเป็นค่อยไป อย่าเร่ง อย่าไปนึกถึงอดีตว่าเคยทำได้อย่างไร ให้ทำให้พอเหมาะกับความรู้สึกของตัวเอง เอาความสบายและความพอเหมาะของเราเป็นเครื่องตัดสินครับ
    เจริญในธรรมครับ
     
  16. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    บางทีคนอื่นเขาอาจจะมีความคิดอะไรที่ซับซ้อนกว่าคุณคิดก็ได้นะครับ
     
  17. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ผมรู้ว่าคุณคิดว่าที่นันนะมีดีจริงเหรอไม่น่าสนใจฉันนะรู้หมดแล้ว้
     
  18. nataphat

    nataphat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +246
    ผมว่าดีน่ะเก็บตัวทำสมาธิ ไปเลยให้ถึงที่สุดปิติที่ว่าจะค่อยๆหายไปเองหรือเกิดขึ้นแล้วผ่านเข้าสู่อารมทีาสูงขึ้น ทำอานาปานสติสิน่ะคับ พอจิตเข้าสมาธิ ก็ถ้าอยากทำวิปัสสนาก่อนก็ได้แต่จำไว้ก่อนทำให้ทรงสมาธิจนถึงอารมสบายแล้วก็เริ่มพิจจารณาถ้าไม่ก็ทรงสมาธิให้ถึงที่สุดเลย
     
  19. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ในการเดินทางในสังสารวัฏ newamazing คงไม่ค่อยได้สะสมเรื่องการคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล คิดแบบซับซ้อน
     
  20. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    คิดซับซ้อนแบบคุณนะเหรอ ยิ่งซับซ้อนคุณรู้มั้ยว่ามันจะเกิดผลอะไร มันจะทำให้ึุณยิ่งติดบ่วงตัวเอง ผมรู้จักคุณดีนะอินทรบุตรคุณเชื่อมั้ย
     

แชร์หน้านี้

Loading...