คาถา...พา(ฉัน)ฉงน?

https://pbs.twimg.com/media/BRhw7ZkCcAEbWBy.jpg
คาถาบทนี้ ก็ไม่ทราบว่าท่านเรียกนางภิกษุณีเข้าไปเพื่อสั่งเสียรึเปล่า ต้องไปค้นประวัติอีกที แต่เท่าที่รู้มา ท่านอนุญาติบวชให้ชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นพระสงฆ์รูปสุดท้ายที่ท่านบวชให้ และชี้คำสอนทั้งหมดลงไปที่ ความไม่ประมาท ตามที่คุ้นเคยในบทเรียน(ไม่รู้ว่ารูปประกอบจะกดขยายดูได้ไหม?)

 

คาถาบทนี้ มีส่วนประกอบของคาถาฆเฏสิ ช่วยกันภัยเวลานอนหลับ คาถาบทนี้น่าจะเป็นของพระเกจิฯเพราะมีภาษาพูดรวมอยู่ด้วย อะหัมหิมหึม แบบนี้คงจะเป็นเสียงคำรามของเสือ ให้มีอำนาจรึเปล่าไม่แน่ใจ?

 

หลวงพ่อ ต่างถิ่น แปลกหน้า ท่านหนึ่ง มาร่วมในงานศพของญาติ ท่านคงจะเห็นว่า พวกคนหนุ่มๆ พวกวัยรุ่นมัวแต่ดื่มสุรา ท่านจึงพูดใส่ไมโครโฟนว่า "ใครเข้ามาใกล้ๆจะให้คาถาดีกันปืน"? แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาจะมีก็แต่ทายกที่คอยรับใชช้อยู่แถวๆนั้น เพราะถ้าเข้าไปหาก็รู้สึกว่าน่าอาย หรืออาจถูกพวกขี้เมาลองยิงซ่ะก็ได้ คาถาบทนั้น ถ้าหลวงพ่อบอกตัวคาถาน่าจะเป็นคาถาที่สั้นจำง่าย เช่นคาถาคัดปืน แต่ถ้ายาวหน่อยอย่างคาถาอุดปืน อาจต้องใช้เวลาท่องจำถ้าคนนั้นไม่คุ้นเคยกับคำบาลี

 

คาถามหาวิเศษบทนี้ มีคำว่า สุขาวะหา แต่พอมีคำซ้ำอีกทีกลับกลายเป็น สุขาวิหา? บางแห่งก็มีชื่อเรียกว่าคาถามหามนต์ บางคำก็ต่างกัน อย่างคำว่า อิติพุทธา คาถามหาวิเศษเป็น อิติพุทธะ ?

 

เวลาที่เห็นคาถาเสกน้ำเค็มให้เป็นน้ำจืด จะนึกไปถึงหลวงปู่ทวด สงสัยว่าท่านจะใช้คาถาร่วม เวลาเหยียบน้ำทะเลให้จืดด้วยรึเปล่า หรือใช้ฤทธิ์ ถ้าใช้คาถาท่านจะใช้บทใด?ที่แน่ๆมีโอเฆ...OK...ตกลง

 

-พระพุทธเจ้าท่านก็เคยใช้คาถา รักษาอาการประชวรนะ
-บทไตรสรณคม ที่เด็กนักเรียนสวดกันในโรงเรียนหรือเราสวดกันก่อนนอน ก็เป็นคาถานะ เรียกว่าคาถาอิติปิโสธงชัย ใช้ในทางป้องกันศรัตรู พระเกจิ อาจารย์สมัยก่อนจะนำมาปลุกเสก พระเครื่อง เครื่องรางต่างๆ บางคนอาจจะมอง ว่าเป็นแค่บทขึ้นต้นในบทสวดมนต์ทำวัตรธรรมดา

 

คาถาที่ว่าเป็นตำหรับของหลวงพ่อทบนี่ก็ ช่างหลากหลายบทจริงๆ ไม่รู้ว่าอาจารย์คนแรกเจ้าของตำราเป็นใคร?

 

คาถารัดเกล้าพระเจ้า บทนี้จะใช้เสกด้ายมงคลรัดสวมหัวนักมวย เสกด้ายผูกแขนคนทั้่วไปรึเปล่า? ก็ไม่ทราบว่าจะนำไปใช้เหมือนกับคาถามงกุฏพระพุทธเจ้ารึเปล่า?

 

บางคนนิยมชานหมากของหลวงพ่อต่างๆ ก็ไม่รู้ว่าท่านใช้คาถาอะไรมาเสกบ้าง?

 

<a href="http://pic.free.in.th/id/70c2b3c5b645a5c874e9004a5a63a6dc" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/iy/130814102157.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>
คาถาบทนี้คงเป็นในยุคปัจจุบัน ที่ครูบาอาจารย์ท่านประสิทธิ์ขึ้นมา

 

ขอคาถาค้าขายดีอ่ะคะ คุณพญายา...

 

คาถาตอกฝีด้วยตะปูนี้คงจะทำวงปูนไว้ที่บนไม้กระดานก่อนหรือบนพื้นก่อน ถ้าจะตอกลงไปที่ฝีโดยตรงคนป่วยคงทรมาน ถึงตายได้

 

เป็นมหาอุด มากกว่านะ เข้าใจว่าพิมพ์ตกหล่น ใครจะเอามหาอด

 

นะโมแปดบท เอาไปร่วมสวดสักการะด้านหน้าหลวงพ่อพระพุทธชินราช คนแก่เขาก็ว่าชีวิตเจริญก้าวหน้า ใช้ค้าขาย ร้านค้าก็คงก้าวหน้าเหมือนกันหรือจะใช้บทด้านล่าง เป็นตัวอย่างคาถาที่ลงท้ายด้วยสวาหะ เคยมีคนบอกว่าจัดเป็นไสยเวทย์

 

ลงลิ้น ลงฟัน เป็นสาริกา ก็ไม่เข้าใจว่าลงเป็นรูปนกสาริกา หรือลงเป็นตัวจารอักขระที่ลิ้น,ฟัน หรือให้อาจารย์ใช้คาถาสาริกามากำกับ แต่คงไม่ใช่เอาไปลงทำให้นกสาริกาในกรงพูดภาษาคนได้หรอกนะ?

 

ลงท้ายด้วยสวาหะและสวาหาย จัดเป็นคาถาไสยเวทย์ ไสยศาสตร์ อีกบทหนึ่ง

 

บทนี้สวาหะและสวาโหม โหมเพิ่มแรงคาถารึเปล่าละนี่?อย่าหักโหมนะ

 

คาถาบทนี้ก็ยืมเอาคำบาลีของพระสงฆ์มาใช้ นัยว่าเป็นเคล็ดของการเข้า-ออกพรรษา แต่ต้องไปถามคนที่เรียนบาลีว่า ทำไมบทนี้เมื่อขึ้นทุติยัมปิและตติยัมปิ จาก สังฆัม ภันเต ต้องกลับคำเป็น ภัณเต สังฆัม? คนที่ไม่คุ้นเคยการสวดบาลี งงแน่

 

บางท่านอาจจะงงว่าน้ำมันอะไร? ก็พวกน้ำมันงา น้ำมันถั่ว น้ำมันมะพร้าว เอาที่เรากินได้ถ้าคาถาที่ใช้ทางเสน่ห์เพื่อทาตัวก็ใช้พวกน้ำมันหอม มาทา บางท่านอาจนึกสนุกใช้ดีเซลหรือเบนซินหรือแก๊สโซฮอลล์ อิอิ

 

เคยเห็นที่เขาเขียนอุปเท่ห์ว่าเป็นมหาอุดมไหมครับ แค่ม.ม้าต่อท้ายด.เด็กความหมายคนละเรื่องเลย (มหาอุด)