เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย numthip, 14 มิถุนายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ผมยังไม่ว่างไปไปรษณีย์ ต้องขออภัยด้วย ไม่เกินวันอาทิตย์ พระสมเด็จฯ 20 องค์ ที่คุณแจ้งไว้น่าจะเรียบร้อย

    เรื่องหนุมานฯ พี่นิ่มคุยว่าจะแข่งกับหนุมานของหลวงปู่ทิมได้

    ถ้าคุณเอา 3 ตัว ก็จะกลายเป็นคุณมีมากกว่าผมทันที

    ขอเวลาสักอาทิตย์นะครับ แถบวัดฯ แถบป่าแดง เริ่มหายากแล้ว (หาง่ายเมื่อตอนพระฯสมเด็จพี่นิ่ม ออกมาใหม่ๆ คนขายหนุมานฯมาเก็บสมเด็จฯกันเยอะ)

    ผมหาผ่านผู้ใหญ่บ้าน อบต. เลยน่าจะมีโอกาส

    ขออภัยที่ต้องโพส เพราะผมpm ไปหลายครั้งแล้ว เหมือนจะส่งไม่ได้
     
  2. charoen.b

    charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,726
    ค่าพลัง:
    +15,488
    มาแจ้งข่าวว่าได้รับพระปิดตากตัญญูู และหุ่นพยนต์กับควายธนูแล้วครับ ขอบคุณมากมายครับผม

    ควายธนูกับหุ่นพยนต์ตอนจุดธูปบอกกล่าวขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางนำเข้าบ้าน ขนลุกขนชันซู่ซ่า รูสึกดีเหมือนกัน

    เล่าสู่กันฟังเฉยๆ ครับ..ไม่มีอะไร
     
  3. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    อาจจะเป็นท่านสุดท้ายที่ผมรับจองพระสมเด็จฯนะครับ เพราะตั้งใจหยุดจองเมื่อหนังสือฯเสร็จ

    คุณปัญจ มีบุญคุณกับผมอยู่ ไม่ต้องกังวลเรื่องจัดส่งครับ ผมจะบันทึกลงตารางให้ ถ้าผมพร้อมเมื่อไหร่ ก็จะใส่เติมให้เลย เรื่องการโอน ผมไม่กังวลครับ เมื่อไหร่สะดวกก็เมื่อนั้น
     
  4. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    สำหรับหลวงปู่บัว คุณต้องระวังเรื่องสุขภาพครับ ท่านฯมีคุณหมอประจำตัวคอยดูแลเรื่องสุขภาพอยู่

    หลวงปู่ฯ ไม่ค่อยพูด กำหนดจิตเป็นปรกติ แต่ถ้าถูกใจคุณ ท่านฯก็จะลุกไปหยิบของให้คุณเอง ไม่ต้องเอ่ยปากขอ

    แต่ผมขอ ว่าอย่าให้ท่านฯจารอะไร เพราะท่านฯจะจารด้วยพลังจิต เหนื่อยมาก
    จะมีศิษย์ดูแลอยู่ใกล้ๆ คุณคุยกับพี่เค้าดีๆ ก็อาจจะมีอะไรดีๆให้คุณ แต่ถ้าคุยแล้วไม่มีแววดีๆ ก็เอ่ยปากของหลวงปู่ฯไปเลย ไม่เสียตังค์

    ถ้าท่านฯเงียบ แปลว่าหมด แต่น้ำมันฯไม่น่าหมด ท่านฯทำอยู่เรื่อยๆ

    .............

    พระอาจารย์สุพจน์ ท่านฯสอนกรรมฐาน พระกรรมฐาน ต้องระวังกริยาเป็นพิเศษ
    ท่านฯใจดี ขออะไรได้หมด แต่พระกรรมฐานไม่มีแค่เวลาพักผ่อน ดังนั้นคุณอยู่นาน จะเปลื่องเวลาปฏิบัติธรรมของท่าน

    ท่านฯชอบแจกเสือ ก็ลองเอ่ยปากขอดู แต่อย่าลืมว่าที่วัดฯมีตู้ฯ จะสละทรัพย์ทำบุญก็ไม่ผิด ไม่มียักษ์ เข้าหาได้ง่าย

    ทั้งสององค์นี้ ถ้าคุณเข้าไป คุณเอาดอกไม้พวงมาลัยแบบที่คล้องมือติดไปด้วย
    กราบไหว้ครูอาจารย์ อย่าให้ขาดดอกไม้ไหว้พระฯ

    ขอให้ประสพโชคดี
    โมทนาด้วยครับ
     
  5. Berial004

    Berial004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,943
    สวัสดีครับ พี่numthip
    ลำดับที่29 ขอรับหนังสือปฐมสมโพธิกถาด้วยครับ 1เล่ม
    ขอขอบพระคุณมากครับ
     
  6. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    เปิดข่าวทีวีตอนเช้า เห็นพิธีกรรายการข่าวที่มีรายได้เดือนละกว่า 5-600,000 บาท
    แต่ไม่ทำประกันสังคม เพราะไม่มั่นใจในระบบการตอบแทนสุขภาพที่จะได้รับ
    เราเห็นรายได้ของเขาแล้ว ก็เข้าใจ ไปทำประกันฯแยกต่างหากคุ้มค่ากว่า

    ผมป่วยไม่สบาย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใกล้บ้าน
    ระหว่างรอส่งตัวพบแพทย์ ถ้าผมรอนาน ผมจะไปอาละวาดกับเจ้าหน้าที่ เพราะระบบ iso จะไม่ให้คนไข้รอนานเกิน 15 นาที
    เจ้าหน้าที่ก็ดี ไม่เคยปริปากเถียงเลย

    ระหว่างรอ ผมได้ยินเสียเพลงสุนทราภรณ์ ไพเราะมาก เลยเดินตามเสียไปดู
    เป็นการแสดงสด เป็นดนตรีบำบัด
    บำบัดคนอารมณ์ร้อน ชอบอาละวาดใส่เจ้าหน้าที่....

    เมื่อผมพบแพทย์แล้ว ก็ทราบว่าเป็นโรคคนรวย กินของแพงมากบ่อยๆ
    ถ้าอยากหาย ต้องกินแกลบ หรือยาแผนปัจจุบันตลอดชีวิต

    ระหว่างรอรับยา ผมก็ไปนั่งฟังเพลงบำบัดอาการทางจิต
    ครั้งนี้เป็นเพลงบรรเลงสนุกๆ ชื่อเพลงจริงๆไม่รู้
    แต่จำเนื้อร้องได้ มาจากเพลง Puff the megic dragon

    ผมรับยาโดยไม่ต้องจ่ายสตางค์ เพราะระบบประกันสุขภาพ

    มานั่งนึกๆถึงคนจน ที่ต้องไปโรงพยาบาลของรัฐแต่เช้ามืด
    นั่งรอคิวยาวๆ ฟังเสียงผู้คนหรืออาจจะมีเสียงครางของเพื่อนร่วมทุกข์

    ถ้าไปแสดงอาการเอ๋อๆซื่อๆ อาจจะโดนตวาดจากเจ้าหน้าที่
    ระบบ iso ไม่มี.... และคนไข้ต้องไม่ปริปากบ่น ต้องอดทนเพื่อยาถูกๆไม่กี่แผง(ถ้าโชคดี ก็กินยาหาย)

    แม้ผมจะมีระบบประกันสุขภาพที่ดี แต่ทุกเดือนผมต้องโดนหักเงินประกันสังคมจากทางบริษัทฯ
    ที่ผมยอมโดนหักทั้งที่ไม่เคยใช้ เพราะหวังว่า เงินส่วนหนึ่งของเราจะไปช่วยอุดหนุนโรงพยาบาล
    ที่ให้การรักษาผู้ประกันตน เพื่อให้ระบบประกันฯอยู่ได้ เป็นการเกื้อหนุนอย่างหนึ่งที่คนรวยบางคนบอกไม่คุ้มค่าที่จะทำ
    แต่คนจนที่ไม่อยากป่วย คุ้ม!

    ใครหลายคนก็ทำแบบนี้ เป็นการเสียสละเล็กๆน้อยๆ เพื่ออุปถัมภ์ระบบประกันสุขภาพคนยาก
    ทำด้วยความรู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่
    หน้าที่ของความเป็นมนุษย์ที่เกื้อกูลกัน
    เป็นเรื่องที่คนรวยไม่เข้าใจ...............

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. บรม

    บรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,926
    ข้อเขียนของคุณทิพย์ทำให้ผมอมยิ้ม อ้าปากยิ้มได้บ่อยครั้ง สัพยอกออกบ่อยแต่จริงใจด้วยความกรุณาเสมอ ตรงไปตรงมามีหักมุมข้อคิดและคำแนะนำที่ดีอ่านแล้วจำเริญใจและโล่ง(อาจจะมีบางคนแอบเครียด) มาเป็นสมาชิกไม่นานแต่จะติดตามตลอด เขียนต่อไปครับอ่านข้อเขียนคุณแล้วคิดถึงคุณหนุ่มเมืองจันท์ทุกที

    คอลัมน์ ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ /หนุ่มเมืองจันท์ www.facebook.com/boycitychanFC (มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับ24-30 พ.ค.2556)


    เพิ่งกลับจากเมืองจันท์มาครับ

    แต่ไปเมืองจันท์ครั้งนี้ ผมไปในสถานะใหม่

    "วิทยากรพิเศษ" ครับ

    มติชนอคาเดมี จัดทัวร์ "ศิลปวัฒนธรรม" เส้นทางกู้ชาติพระเจ้าตากสิน

    นิตยสารศิลปวัฒนธรรม เป็นนิตยสารด้านประวัติศาสตร์แบบ "เด็กแนว"

    ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ

    ไม่สนใจว่าหนังสือประวัติศาสตร์ไทยจะสอนว่าอะไร ถ้ามีหลักฐานใหม่ที่น่าเชื่อถือกว่า

    เขาจะเถียงทันที

    ตั้งแต่เรื่องคนไทยมาจากเทือกเขาอัลไต

    พี่สุจิตต์ วงษ์เทศ และ "ศิลปวัฒนธรรม" ก็เถียงทันทีว่าคนไทยไม่ได้มาจากไหน

    แต่อยู่ที่ตรงนี้แหละ

    ช่วงที่ผ่านมา "ศิลปวัฒนธรรม" นำเสนอเรื่องสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชอย่างต่อเนื่อง

    พบหลักฐานใหม่เมื่อไรจะนำเสนอทันที

    คนเขียนเป็นคนที่ศึกษาเรื่องพระเจ้าตากสินอย่างหลงใหลจริงจัง คือ "หลง" ปรามินทร์ เครือทอง

    ดังนั้น เมื่อ "มติชนอคาเดมี" จัดทัวร์เส้นทางกู้ชาติพระเจ้าตากสินขึ้นมา

    "หลง" จึงเป็นวิทยากรหลัก

    แต่เมื่อจะบุกเมืองจันท์

    ในฐานะเจ้าถิ่นคนเมืองจันท์ เขาจึงแต่งตั้งให้ผมเป็นวิทยากรพิเศษ

    ผมบอกน้องๆ ตั้งแต่แรกที่มาชวนว่าผมมีความรู้เรื่องประวัติศาสตร์เมืองจันท์น้อยมาก ขอรับผิดชอบเรื่อง "อาหาร" แทนก็แล้วกัน

    และหาเหตุผลแบบแอบอิงประวัติศาสตร์เล็กน้อยแบบไม่มีหลักฐานใดๆ

    รู้ไหมครับว่าทำไมพระเจ้าตากจึงทุบหม้อข้าวก่อนตีเมืองจันท์

    ไม่ใช่เหตุผลทางจิตวิทยาแบบ "สู้ตาย" อย่างที่เขาร่ำลือกัน

    แต่เพราะ "อาหารเมืองจันท์" อร่อยมาก

    ทุบหม้อข้าวทิ้ง ไปกินอาหารเมืองจันท์ดีกว่า

    และนี่คือ ที่มาของ "วิทยากรพิเศษ" ประจำทัวร์นี้



    ทัวร์ศิลปวัฒนธรรมนั้นมีแฟนประจำเยอะมาก

    ส่วนใหญ่เป็น "ผู้ใหญ่"

    ทริปนี้มีคุณหมออยู่ 3 คน มีอาจารย์ด้านประวัติศาสตร์

    ผู้บริหารระดับสูงของค่ายเบียร์ช้างคนหนึ่งก็มาด้วย

    นักธุรกิจที่คุ้นหน้า ก็คือ "ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ" เจ้าของ "ศิริวัฒน์แซนด์วิช" นักสู้ชีวิตที่เคยล้มเมื่อปี 2540 ก่อนจะกลับมาอีกครั้งด้วยจิตใจไม่ยอมแพ้

    ตามโปรแกรมนัดกันตอน 6 โมงครึ่ง วันเสาร์ทื่ 18 พฤษภาคม

    เช้าเว่อ...

    แต่เชื่อไหมครับ พอ 6 โมงครึ่งปั๊บ ล้อหมุนได้เลย

    ลูกทัวร์ทุกคนตรงเวลามาก

    เช้านั้นฝนตกหนักมาก ทั้งที่ กทม. อากาศร้อนมาตลอด

    ผมกระซิบ "หลง" ว่าฝนตกแบบนี้ฤกษ์ไม่ดีเลย

    "หลง" ยิ้ม ไม่พูดอะไร

    พอล้อเริ่มหมุน "หลง" ก็ลุกขึ้นมาอธิบายโปรแกรมการตามรอยพระเจ้าตากสินกู้ชาติ ก่อนจะอ่านพงศาวดาร

    "...จึงชุมนุมพรรคพวกพลทหารไทยจีนประมาณ 1,000 เศษ สรรพด้วยเครื่องศัสตราอาวุธต่างๆ และประกอบด้วยทหารผู้ใหญ่นั้น พระเชียงเงิน หลวงพรหมเสนา หลวงพิชัยราชา หลวงราชเสนา ขุนอภัยภักดี หมื่นราชเสน่หา แล้วยกออกไปตั้ง ณ วัดพิชัย อันเป็นที่มงคลมหาสถาน

    ด้วยพระบรมโพธิสมภาร เทพยดาเจ้าอภิบาลรักษาพระพุทธศาสนาซ้องสาธุการบันดาลให้วรรษาห่าฝนตกลงมาเป็นมหาพิชัยฤกษ์..."

    ครับ "หลง" ต้องการบอกว่าฝนตกวันนี้เป็น "ฤกษ์ดี"

    เหมือนตอนที่พระเจ้าตากสินตีฝ่าออกจากกรุงศรีอยุธยาเพื่อไปกู้ชาติ

    ตลอดเส้นทางผมเหมือนนักเรียนน้อยที่นั่งฟังเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อย่างสนุกสนาน

    ไม่น่าเชื่อว่าวิชาประวัติศาสตร์จะสนุกขนาดนี้

    "ประวัติศาสตร์" แบบ "ศิลปวัฒนธรรม" คือการผสมผสาน "หลักฐานทางประวัติศาสตร์" กับ "จินตนาการ"

    ตัวอย่าง เช่น "หลง" ตั้งคำถามว่าตอนที่หนีออกจากอยุธยา พระเจ้าตากสินตั้งใจกู้ชาติหรือแค่หนีทัพ

    แค่นี้ก็สนุกแล้ว

    "หลง" วิเคราะห์จากเส้นทางการเดินทัพตามพงศาวดารแล้ว เขาเชื่อว่า "จุดตัด" ของการตัดสินใจกู้ชาติอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี

    เพราะถ้าคิดแค่หนี ตามปกติแม่ทัพไทยจะหนีไปปักหลัก 2 เมือง คือ โคราช และเขมร

    แต่พระเจ้าตากสินตัดสินใจเบนเส้นทาง แทนที่จะขึ้นเหนือไปโคราช หรือตัดไปทางตะวันออกไปเขมร

    เขากลับวกกลับไปชลบุรี ระยอง และจันทบุรี

    เพื่อระดมพล

    แล้วทำไมถึงไปเมืองจันท์??

    จากคำถามหนึ่งไปสู่อีกคำถามหนึ่งกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์และวิเคราะห์ต่อ

    สนุกครับสนุก

    หลักฐานทางประวัติศาสตร์ในสมัยพระเจ้าตากสินก็น่าสนใจ คือ มีทั้งพงศาวดารและตำนานท้องถิ่น

    "หลง" บอกว่าตำนานท้องถิ่นเรื่องพระเจ้าตากสินในแถบตะวันออกเยอะมาก

    แต่นักประวัติศาสตร์จะใช้หลังอิงกับ "พงศาวดาร" เป็นหลัก

    พงศาวดารสมัยกรุงธนบุรีมีอยู่ 2 ฉบับ คือ ฉบับพระราชหัตถเลขา กับฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)

    ผมเพิ่งรู้ว่าชื่อคนที่ตามหลังคำว่า "ฉบับ" ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนเขียน

    แต่เป็นชื่อคนที่ค้นพบ

    ครับ เกร็ดประวัติศาสตร์แบบนี้เยอะมากตลอดการเดินทาง



    พอมาถึงเมืองจันท์ "วิทยากรพิเศษ" จึงเริ่มทำงาน

    ผมเติม "ข้าวเกรียบน้ำจิ้ม" ในเมนูเช้าของโรงแรมเกษมศานต์

    ให้ "อาเพียร" ช่วยจัดการให้

    "ข้าวเกรียบ" เป็นแผ่นแป้งคล้ายๆ กับ "ข้าวเกรียบปากหม้อ" แต่หนากว่า ราดด้วยน้ำจิ้มที่เป็นกุ้งแห้งตำกับน้ำยำ

    ทุกคนกด like

    พอแวะที่ค่ายตากสินก็เติม "สละลอยแก้ว" ยี่ห้อ "ภุมรินทร์" ของ "ทนายนุ" เพื่อนรักเข้าไป

    ลุกทัวร์หลายคนชอบกันมาก สั่งซื้อกันเพียบ

    มื้อกลางวันที่ร้านคุณแดง มีเมนูหมูชะมวง ก๋วยเตี๋ยวจันท์ผัดปู หมูผัดกะปิ เป็นพื้นฐาน

    ผมเติม "ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง" จากร้านอาเพียรที่เขาไร่ยาไปเป็น "ของหวาน"

    ที่บอกว่าเป็น "ของหวาน" เพราะมาเมนูสุดท้าย

    หลายคนกด love ถึงขั้นออกปากว่าครั้งหน้าพาไปร้านนี้เลย

    ขอ 2 ชาม

    ระหว่างทางเติมพลังด้วย "ทุเรียนทอดกรอบ" และ "น้ำสำรอง"

    ตอนแรกกะว่าจะเอาเงาะ กับมังคุดจากที่สวนมาให้กินกันสดๆ ให้รู้ว่าเงาะจากต้นนั้นอร่อยแค่ไหน

    แต่บังเอิญว่าน้องสาวเพิ่งตัดขายไปเมื่อวาน

    ทริปนี้เลยพลาดไป

    เวลาที่แนะนำอาหารอะไรไปแล้วทุกคนชอบ

    มีความสุขครับ

    หน้าที่ "วิทยากรพิเศษ" ก็มีเพียงเท่านี้

    ขากลับ ผมบอก "หลง" ว่าการเป็นผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์สมัยพระเจ้าตากสินนั้นเสียเปรียบมาก เพราะอย่างดีก็ได้เที่ยวแค่ฝั่งธนฯ กับเมืองจันท์

    ถ้าเชี่ยวชาญสมัยรัชกาลที่ 5

    ยังได้ตามรอยไปต่างประเทศบ้าง

    "หลง" พยักหน้า นิ่งคิดนิดนึง แล้วหันไปบอกทีมงานมติชนอคาเดมี

    "เคยรู้เกร็ดประวัติศาสตร์เรื่องนี้หรือเปล่า"

    "เรื่องอะไร"

    "หลง" ยิ้ม

    "พระเจ้าตากสินเคยไปสวิตเซอร์แลนด์กับอิตาลีด้วย"

    เป็นพงศาวดารใหม่ฉบับใหม่ครับ

    ฉบับ "หลงอยากเที่ยว"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 มิถุนายน 2013
  8. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    สมัยยังเรียนมหาลัยฯ มีชั่วโมงว่าง ผมก็แอบไปนั่งเรียนประวัติศาสตร์
    ผู้บรรยายคือ อ.เปรื่อง เปลี่ยนสายสืบ
    อ.เปรื่อง ท่านฯเป็นครูสอนศิลปกรรมชั้นครู แต่มีวิธีบรรยายได้เพลิดเพลินมาก
    นึกถึงท่านฯทุกที เวลาผมไปดูงานศิลปท้องถิ่น

    ท่านฯเคยพาผมไปเที่ยวอยุธยา ไปดูอิฐดูหิน ซึ่งเคยดูแล้วก็ไม่อยากดู แต่พอมาดูกับอาจารย์ฯ กลับเป็นคนละเรื่อง

    ท่านฯพาคณะฯไปดูวัดใหญ่ชัยมงคล หน้าพระอุโบสถ มีสระน้ำขนาดใหญ่
    ท่านฯว่า เป็นสระน้ำที่ใช้ทำพิธีฯอาบศาสตราวุธ เอาหอกดาบหลาวมีดแช่ก่อนเดินทัพ ข้าศึกหนังเหนียวเจอเข้าไปก็ยุ่ย ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

    แต่ตอนนั้นผมดูเหมือนบ่อร้าง มีขยะลอย เหมือนบ่อขยะมากกว่า
    อาจารย์เปรื่อง ท่านฯว่า เจ้าหน้าที่กำลังจะติดตั้งเป็นบ่อน้ำพุ.....

    ออกจากวัดฯ ก็แวะไปดูหมู่บ้านชาวโปรตุเกส แทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจากจุดฝังร่างของบรรพบุรุษที่ถูกขึงเชือกกั้นให้เห็นโครงกระดูก มีจุดขายของที่ระฤก มีสาวมาต้อนรับ เราอยู่กันไม่นานก็กลับ

    พอแวะร้านอาหาร ก็มีการพูดคุยถึงเรื่องที่ไปเยี่ยมชมสถานที่กัน
    ใครพูดอะไร อ.เปรื่อง ก็ยิ้ม คนโน้นพูดที คนนี้พูดที ถ้าเป็นเรื่องสำคัญ อาจารย์ฯก็จะเสริมให้ข้อคิด แล้วก็ถึงคิวผม

    "สาวที่หมู่บ้านโปรตุเกส..สวย"
    ใครได้ยินก็หัวเราะ ว่าผมไม่รู้จะดูอะไร เค้าพามาดูประวัติศาสตร์ กลับไปแอบดูสาว
    อาจารย์เปรื่อง วางช้อน เงยหน้ากระซิบข้างผม
    "คิดว่าผมแอบมองอยู่คนเดียวซะอีก..."

    ........

    พี่นิ่มเคยให้ผมเช็คประวัติ คนใกล้ชิดพระเจ้าตากสิน ว่ามีใครบ้าง เพราะสงสัยว่าท่านพล.ต.ท.ดร.สุวิระ ทรงเมตตา น่าจะเป็นหนึ่งใน 4 ท่านนี้
    ผมอ่านข้อเขียนแล้ว ก็สะดุดว่า ไม่ใครก็ใครผิดคนหนึ่ง

    "พระเชียงเงิน(ธงชัย) หลวงราชเสนา ขุนอภัยภักดี และหลวงพิชัยอาสา(จ้อย)
     
  9. บรม

    บรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,926
    พี่นิ่มเคยให้ผมเช็คประวัติ คนใกล้ชิดพระเจ้าตากสิน ว่ามีใครบ้าง เพราะสงสัยว่าท่านพล.ต.ท.ดร.สุวิระ ทรงเมตตา น่าจะเป็นหนึ่งใน 4 ท่านนี้
    ผมอ่านข้อเขียนแล้ว ก็สะดุดว่า ไม่ใครก็ใครผิดคนหนึ่ง

    "พระเชียงเงิน(ธงชัย) หลวงราชเสนา ขุนอภัยภักดี และหลวงพิชัยอาสา(จ้อย)
    __________________

    .จึงชุมนุมพรรคพวกพลทหารไทยจีนประมาณ 1,000 เศษ สรรพด้วยเครื่องศัสตราอาวุธต่างๆ และประกอบด้วยทหารผู้ใหญ่นั้น พระเชียงเงิน หลวงพรหมเสนา หลวงพิชัยราชา หลวงราชเสนา ขุนอภัยภักดี หมื่นราชเสน่หา แล้วยกออกไปตั้ง ณ วัดพิชัย อันเป็นที่มงคลมหาสถาน

    --------------------------------------------------------------------------
    หากจะหาข้อสงสัย คงต้องคันเอกสารอ้างอิงกันเยอะทีเดียวแต่เชื่อว่าคุณทิพย์มีข้อมูลอยู่แล้ว

    เย็นวันนี้ผมได้รับวัตถุมงคลด้วยความนอบน้อมเป็นอย่างยิ่ง ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 มิถุนายน 2013
  10. มดดำน้อย

    มดดำน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    621
    ค่าพลัง:
    +2,826
    "หลวงพิชัยอาสา" ต่อมาไดัรับสมญานามว่า "พระยาพิชัยดาบหัก" นั่นเอง
     
  11. ปัญจ

    ปัญจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2009
    โพสต์:
    27,523
    ค่าพลัง:
    +88,500
    โอน 1800 แล้วครับ (ส่วนเกินคือช่วยค่าส่งครับ)
    มี sms จาก Kbank ครับ แจ้งที่อยู่ทาง pm ครับ
     
  12. ปัญจ

    ปัญจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2009
    โพสต์:
    27,523
    ค่าพลัง:
    +88,500
    1800nt1206.png
    สลิปออนไลน์ครับ
     
  13. พฤศจิกา

    พฤศจิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +3,046
    วันนี้ได้รับ ควายธนู หุ่นพยนต์ และพระปิดตากตัญญูแล้วครับ
    สภาพสมบูรณ์ดีทุกประการ ขอบคุณพี่หนุ่มทิพย์มากครับ

    ขอรับหนังสือปฐมสมโพธิกถาด้วยครับ 1เล่ม ขอบคุณครับ
     
  14. seekerpunch

    seekerpunch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,028
    ค่าพลัง:
    +3,114
    ได้รับหุ่นพยนต์ วัวธนูและพระปิดตาแล้วครับ ขอบคุณครับ
     
  15. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    เมื่อคืนพี่นิ่มคิดถึง เห็นผมเงียบไป(ก็อยากจะเงียบ) เลยโทรฯมาคุยด้วย

    เล่าว่าระหว่างนี้ เอาของตระเวนเสกทุกวันเลย
    [​IMG][​IMG] [​IMG]

    รอพี่นิ่มถวายวัดฯก่อน แล้วจะเอาออกมาให้สะสมกัน
    ราคาลูกอมฯ ถูกมาก น่าดีใจ
    .................

    พระอาจารย์พิจารณ์โทรฯเข้ามา ให้หาสตางค์ให้หน่อย อยากได้สักแสน
    มีมะพร้าวมหาอุดอยู่เกือบ 20 ลูก จะเอาไปทำน้ำมันฯหรือเปล่า

    ถ้าเอามาทำน้ำมัน จำนวนมะพร้าวขนาดนี้ ทำดีๆ น่าจะได้ถึง 2 ลิตร
    เอามาใส่หลอด น่าจะได้ประมาณ 300 หลอด เป็นอย่างน้อย ต้นทุนตกหลอดละไม่กี่ร้อยบาท 200-300 บาท

    ถ้าเพื่อนสมาชิกสนใจ ก็จะรับเป็นเจ้าภาพให้ หาตังค์ช่วยพระอาจารย์ฯทำเหรียญพระประธานหน้าโบสถ์

    ....................

    หน้าพระอุโบสถ วัดโพธิผักไห่ มีพระพุทธรูปอยู่องค์หนึ่ง ดูธรรมดามาก
    แต่พี่ธวัชชัยบอกว่าเก่ง!

    ไม่นานมานี้ มีคนต่างจังหวัด อาชีพขับรถสองแถวรับจ้าง แต่ไปออกรถช่วงนโยบายรัฐบาล รถคันแรก เลยขาดทุน ไม่มีผู้โดยสาร มานั่งร้องให้ ถามหาพระประธานหน้าโบสถ์ วัดโพธิผักไห่

    พระอาจารย์ฯถามว่าเรื่องอะไร
    แก่เล่าว่า ฝันเห็นตาปะขาวแก่ๆ บอกให้มากราบไหว้บนบาน พระประธานฯองค์นี้ แล้วจะดีขึ้น ก็คลำทางหาวัดโพธิผักไห่จนเจอ ให้อาจารย์ช่วยทำพิธีฯให้หน่อย......

    ผมรับสารพระอาจารย์ฯตั้งแต่ออกจากบริษัทฯ จนจะถึงบ้าน ได้ยินท่านฯเอ่ยถึงโรงเรียนใกล้จะเรียบร้อย ทางวัดฯก็ไม่มีอะไรจะปรับปรุงแล้ว ก็จะทำเหรียญพระประธานฯสัก 10,000 เหรียญ แล้วก็จะหาช่องปลีกวิเวก

    ผมก็เห็นด้วย เพราะครูอาจารย์ของท่านฯก็ทักกันหลายองค์แล้ว
    ผมโมทนากับท่านฯด้วย ส่วนเรื่องตังค์ จะหาโอกาสเข้าไปคุยกับท่านฯภายหลัง

    ขอจัดส่งพัสดุให้เรียบร้อยก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2013
  16. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    สนใจครับ และยินดีร่วมบุญตามกำลังครับ
     
  17. sylvenus

    sylvenus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    697
    ค่าพลัง:
    +3,283
    โมทนาบุญกับพี่หนุ่มทิพย์ด้วยนะครับ...

    ยินดีช่วยเหลือตามกำลังทรัพย์ครับผม
     
  18. พ่อประดู่09

    พ่อประดู่09 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +4,378
    เรื่องเล่า : คาถาอย่าสงสัย

    ตอน : เรื่องของหลวงตาหมง(ต่อ)

    ต้องขออภัยท่านสมาชิกที่ผมได้ปล่อยให้หลวงตาหมงจำวัดนานไปหน่อย เพราะติดธุระจำเป็นหลายๆเรื่อง ในช่วงที่ผมเริ่มสู่ความเป็นวัยรุ่นก็ได้แต่มอง

    หลวงตาหมงอย่างธรรมดา ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรนัก ถ้าถามว่าแล้วผมเริ่มเป็นวัยรุ่นตอนไหน ผมคิดว่าผมเริ่มเป็นตอนที่รู้จักแอบมองผู้หญิง รู้จัก

    เก็บดอกไม้เอาไปให้นักเรียนหญิงหรือผู้หญิงที่ผมรู้จัก โดยที่ไม่ลืมว่าจะต้องเสกก่อนให้ หรือเริ่มใช้คาถาเสกแป้ง,เสกน้ำมัน,ใช้คาถาประสบเนตร,

    หรือเสกแป้งเสกน้ำมันเชยตา ความจริงใช่ว่าผมจะไม่สงสัยเรื่องคาถา ผมก็สงสัยเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ตัวคาถา คือสงสัยเรื่องการใช้ เช่นผมเปิดตำรา

    ที่เขียนว่าเสกน้ำมันเชยตา ผมก็สงสัยว่าคำว่าเชยตามันคืออะไร ตำราเขียนหรือลอกกันมาผิดๆหรือเปล่า จึงไปห้องสมุดของโรงเรียนเพื่อเปิด

    พจนานุกรมดู จึงเข้าใจว่าตำราไม่ผิด ถ้าถามว่าได้ผลไหม ตอบด้วยความภูมใจว่าได้ผล เพราะหลังจากวันนั้นครูใหญ่ที่เห็นผมเปิดพจนานุกรมอ่าน

    ท่านเที่ยวได้ไปบอกทั้งครูและนักเรียนว่า ผมเป็นตัวอย่างของนักเรียนที่สนใจเรียน? !

    เรื่องของหลวงตาหมงก็ผ่านหูผ่านตาผมเรื่อยๆ จากการที่เห็นคนทักท่านว่าจะไปไหน? ท่านก็จะตอบว่าไปโน่นไปนี่ ซึ่งก็ไกลออกไปเรื่อยๆ คนที่ถาม

    ก็จะทักว่าทำไมเดี๋ยวนี้ไปไกลจัง ท่านก็จะตอบด้วยความภูมิใจ เช่น เดี๋ยวนี้ อั๊วกิงถึงโน่ง....เลี้ยว อั๊วกิงไปถึงทังโน้ง...เลี้ยว หมายถึงมีคนขึ้นกับ

    ท่าน ให้ไปรักษาทั้งเรื่องยาเรื่องคาถาเสกเป่าอะไรทำนองนั้น และจากคนใกล้วัดที่ได้ไปบวชที่วัดไทรยืด หลายๆคนที่ได้สึกออกมาแล้วก็จะมีเรื่องเล่า

    เหมือนๆกันเกี่ยวกับหลวงตาหมง จะไปป่าช้าเพื่อโปรดหรือแผ่เมตตาที่ป่าช้าเป็นประจำทุกๆคืน ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นป่าช้าแบบเก่า....

    ผมมีเพื่อนสนิทที่เป็นนักเรียนรุ่นเดียวกัน เป็นเพื่อนรักกันมาก คงจะเป็นเพราะเป็นวัยรุ่นพร้อมกัน คือเริ่มเอากรรไกรมารนไฟแล้วเอาไปดัดผมให้มัน

    ม้วนสองแสกด้านข้างเข้าหากัน แล้วทำให้มันย้อยตรงหน้าผาก จะได้เหมือนไชยา สุริยัน พระเอกดังในยุคนั้น และต้องเอียงคอนิดๆ ต้อนรับการกลับ

    มาของพระเอกลือชัย นฤนาท(พ้นโทษ) รวมเงินหุ้นกันซื้อน้ำมันยี่ห้อ"ตันโจ"มาใส่ผม เพราะมันเหนียวทำให้อยู่ทรงได้นาน ตอนหลังเริ่มประหยัด

    มากขึ้น โดยใช้ขี้ผึ้งสีปากซึ่งคนแก่ที่กินหมากใช้ เอามาเคี่ยวรวมกันกับน้ำมันใส่ผมราคาถูก เพื่อนคนนี้ชื่อจริง นามสกุลจริงว่า กิมเซี้ยง แซ่โค้ว

    ครอบครัวเขามีบุญคุณกับผมทุกคน กิมเซี้ยงนี้ผมยกให้เขาเป็นโชติยปุตต แม่เขาชอบใส่บาตรทำบุญ ทุกๆเช้าแม่เขาจะใส่บาตร แต่เตี่ยของเขาจะ

    เฉยๆ แม่เขาเข้าวัดเข้าวาตามปกติ เตี่ยเขาจะเข้าก็ตอนที่ไปตั้งร้านขายของที่วัดเวลามีงาน ในช่วงที่โรงเรียนปิดภาคเรียนหลังจากสอบชั้น ม.ศ. ๒

    ในช่วงแรกๆ มีข่าวลือว่ากิมเซี้ยงหนีออกจากบ้านไป และหลังจากนั้นก็มีข่าวว่ากิมเซี้ยง กลับมาแล้ว แต่ไม่กลับมาที่ร้านแต่ไปบวชเณรที่วัดไทรยืด

    ซึ่งก็ห่างจากตลาดหรือร้านของเขาก็ไม่เกิน ๑ กิโลเมตร ในสมัยนั้นแม้จะไม่ใช่ระหว่างพระเข้าพรรษา แต่ทุกวันพระก็จะมีคนไปทำบุญที่วัด เวลาผ่าน

    ไปไม่นานก็มีข่าวมาเล่าให้คนที่ร้านของกิมเซี้ยงฟังว่า เณรเซี้ยง เทศน์เก่ง เสียงดังฟังชัด ไม่ประหม่า คนเล่าคงจะเจตนาที่จะให้เตี่ย ของเณรกิม

    เซี้ยง ได้ยินเรื่องดังกล่าว ในตอนหลังมีคนซุบซิบกันว่าเตี่ยของเณรเซี้ยงไปแอบฟังเณรลูกชายเทศน์ แต่จะมีความรู้สึกอย่างไรไม่มีใครเดาได้ พอ

    โรงเรียนเปิดเทอมกิมเซี้ยงก็สึกออกมาเรียน ม.ศ. ๓ กับผมตามปกติ แต่มีคนอีกคนหนึ่งเข้าวัดแทนและเป็นเรื่องที่ฮือฮากันมาก นั่นก็คือ เตี่ยของกิม

    เซี้ยงเข้าวัดและเอาจริงเอาจังกับการพัฒนาวัด สิ่งแรกที่ผมได้เห็นก็คือการทำที่เก็บศพแบบใหม่ ไม่เป็นป่าช้าแบบเก่า ซึ่งอยู่ยืนยงมาจนทุกวันนี้ ผม

    ถึงคิดอยู่เสมอว่ากิมเซี้ยงเป็นผู้จุดประกายให้บิดาหรือเตี่ยของเขาเข้าวัดและสร้างสมบารมีบุญไว้มากจริงๆ และกิมเซี้ยงก็ขอให้คุณครูมหาวงษ์ อ่อน

    ละออ เปลี่ยนชื่อของเขาให้เป็นภาษาไทย โดยมีชื่อใหม่ว่า จรัล สังข์วิเศษ เสียดายเพื่อนคนนี้เสียชีวิตตั้งแต่ยังอยู่ในวัยหนุ่ม ผมยังกรวดน้ำให้เขา

    ทุกวัน ในโอกาสที่ผมจัดงานมุทิตาจิตกับคุณครูทั้งหลาย ผมไม่เคยลืมจัดสังฆทานให้เพื่อนผู้ล่วงลับทุกครั้ง กิมเซี้ยงเมื่อสึกออกมาและมาเรียน

    หนังสือตามปกติ จะมีความเป็นหนุ่มในหัวใจ ชอบคาถาอาคม ให้ความสนใจคาถา ก็เป็นเพราะตอนที่เขาบวชเณร เขาได้สนิทกับหลวงตาหมง อาจ

    จะเป็นเพราะการที่มีเชื้อสายจีนด้วยกัน และกิมเชี้ยงคงได้อะไรมามาก เขาเป็นคนที่ชวนผมไปหาหลวงตาหมง และหลวงตาหมงได้เอาก้านไม้ขีดกวน

    ขี้ผึ้งในถ้วยเล็กๆ เหมือนกวนน้ำใสๆ แต่พอผมสองคนทำบ้างปรากฎว่า ก้านไม้ขีดหัก......

    นับจากวันนั้นมาผมถึงรู้ว่าที่กิมเซี้ยงเลิกซื้อน้ำมัน"ตันโจ"แต่มาใช้ขี้ผึ้งแทน เพราะกิมเซี้ยงได้คาถาเสกขี้ผึ้งมาจากหลวงตาหมง ผมเคยเล่าไปหลาย

    หนแล้วว่าชีวิตผมจะอยู่แถวๆตลาดเพื่อคอยรับจ้างหาบหามของต่างๆ ถ้าไม่ไปอยู่กลางทุ่งกลางนา ก็ทำให้ผมได้ฟังทั้งทางโลก,ทางทุ่ง,ทางผี จริงบ้าง

    ไม่จริงบ้าง ก็คัดสรรเอาเอง ผมจะได้ยินพวกขับเรือหางยาวที่เคยบวชที่วัดไทรยืดมาก็ดี บางคนก็ฟังคนที่เคยบวชที่วัดนี้แล้วเอาเรื่องหลวงตาหมงมา

    เล่าต่อก็ดี จะเหมือนๆกันก็คือ ท่านมีคนขึ้นมากเรื่องรักษาคน แต่เป็นคนไกลๆเสียมากกว่าคนใกล้ และเรื่องที่ท่านไปป่าช้าทุกคืน มีอยู่คนหนึ่ง

    ชื่อ"ทิดไข่"เป็นคนขับเรือหางยาว มีตัวตนอยู่จริง แต่ผมไม่รู้จักชื่อจริง เป็นคนเชื่อถือได้ เล่าให้คนฟังว่า ไอ้ที่บอกว่าหลวงตาหมงไปป่าช้าทุกคืน

    น่ะ...มันธรรมดา...ถ้าลองมาเจอแบบแกแล้วจะรู้ว่าหลวงตาหมงไม่ธรรมดา แกบวชอยู่นานหลายเดือน สังเกตดูว่าหลวงตาหมงไปป่าช้าและเข้าไปใน

    นั้นทุกคืน ตัวแกก็คอยเดินตรวจตราบริเวณวัดทั่วๆไป ไม่กล้าตามไปดู ต่อมาแกไปขอหลวงตาหมงว่าจะขอไปด้วยได้ไหม? หลวงตาหมงไม่อนุญาต

    แกอ้อนวอนอยู่หลายครั้ง จนหลวงตาหมงอนุญาต แต่ไม่ให้เข้าไปในป่าช้าด้วย ให้อยู่ได้แต่ข้างนอก และต้องเชื่อฟังทำตามที่หลวงตาหมงบอก

    ทุกอย่าง ทิดไข่ก็ตกลงตามนั้น เมื่อถึงเวลาประมาณเที่ยงคืนหลวงตาหมงก็ชวนทิดไข่ซึ่งขณะนั้นยังเป็นพระอยู่ให้ตามท่านไป ผมเคยบอกราย

    ละเอียดไปแล้วถึงแผนภูมิวัดไทรยืด คือ จากโบสถ์ ทางด้านซ้ายของโบสถ์จะเป็นวิหาร ถัดจากวิหารออกไปทางซ้ายจะเป็นต้นมะขามใหญ่ รอบๆวิหาร

    จะเป็นทราย เวลากลางวันนักเรียนชอบมาเป่าหลุมทรายหาช้างทรายเล่นกัน เลยต้นมะขามออกไปเล็กน้อยจะเป็นป่าช้า มีสะพานไม้ทอดให้คนเดิน

    เอาศพเข้า-ออกได้ ทิดไข่เล่าว่าพอไปถึงระหว่างป่าช้ากับวิหาร คืออยู่บริเวณใกล้ๆต้นมะขาม หลวงตาหมงบอกทิดไข่ว่า"ท่านต้องอยู่ตรงนี้ และอยู่

    ในนี้ ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด ให้รอจนกว่าอั๊วจะกลับออกมา" คือหลวงตาหมง ให้พระไข่ยืนหรือนั่งก็ได้ โดยท่านเอามีดเหน็บขีดเป็นวงไปบนทราย

    เป็นวงกลมแล้วให้พระไข่หรือทิดไข่อยู่ในวงนั้นห้ามออกไปไหนเด็ดขาด จนกว่าท่านจะออกจากป่าช้า ทิดไข่ก็รับคำและแกเล่าว่าก็ไม่เคยนึกกลัว

    อะไร เพียงแต่หวาดๆเท่านั้นแหละ เพราะวัดนี้ไม่เคยมีเรื่องผีดุมาก่อน ทิดไข่เล่าว่า พอหลวงตาหมงเข้าไปในป่าช้าได้สัก ๕ นาที ก็ได้ยินเสียง

    คล้ายๆมีลมพัดมาจากทางโรงเรียน พอเสียงผ่านต้นมะขามออกมา แกก็ตกใจเหมือนกับช็อกไป คือเห็นงูตัวใหญ่มากที่มากับเสียง แกยังทำอะไรไม่

    ถูก งูก็มาถึงเส้นที่หลวงตาหมงขีดไว้ งูก็วนรอบเส้นแล้วก็จากไป แกบอกว่าพอแกรู้สึกตัวกระดิกกระเดี้ยได้ก็ใจชื้นไม่กลัวอะไร และเหตุการณ์อย่างที่

    เกิดทีแรกก็เกิดขึ้นอีก คือมีเสียงเหมือนลมพายุเล็กๆมาอย่างเร็ว พอโผล่พ้นต้นมะขามก็เป็นงูใหญ่ เลื้อยมาอย่างเร็ว พอถึงเส้นที่หลวงตาหมงขีดไว้ก็

    ได้แต่เลื้อยอยู่รอบๆอย่างเร็วแล้วก็จากไป แต่เที่ยวนี้ทิดไข่บอกเฉยๆ เพราะใจมันดี ใจมันมั่นใจในหลวงตาหมง.....สาธุ...

    เมื่อเช้านี้รีบร้อนไปหน่อย เพราะฝนตก รอดใต้ราวผ้าเข้าไปเก็บของ นึกขึ้นได้ว่าผ้ายันต์หลวงพ่อกร่ายติดกระเป๋าอยู่ รีบควักออกมาดู คลี่ออกเอามา

    ผึ่งลม เพราะโดนฝนเปียกเล็กน้อย เห็นหลวงพ่อท่านยังปรกติดี และใบหน้ายังมีเมตตา ก็มั่นใจว่าไม่เสื่อม เพราะปู่เคยบอกไว้ว่า ...อย่าวิตก...

    อย่าคิดมาก...ถ้าไม่ทำผิดศีลธรรมอย่างร้ายแรง ของไม่เสื่อมหรอก ถือมากๆ เดี๋ยวก็อดกินแกงเรียงอร่อยๆ หรอก ขอขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2013
  19. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    เคยเขียนเชียร์ ให้ตามเก็บผ้ายันต์ของหลวงพ่อกร่ายไปหลายหนแล้ว
    มีพี่ศนิวาร ตามเก็บจากกระทู้เพื่อนบ้านไปผืนหนึ่ง ก็แอบนิยม

    ผมแจกไปเสียเยอะ สมัยบวชเป็นพระ ถึงตอนนี้อยากไล่ซื้อเก็บ
    แต่หายากเหลือ

    ปีก่อนผมเลยถือโอกาส คัดลอกพระยันต์พรหมสี่หน้าของหลวงพ่อกร่าย
    มาทำผืนใหม่ ถวายเจ้าอาวาสวัดป่าแดงไป 1,000 ผืน
    และทำอีก 1,000 ผืน เพื่อจะถวายหลวงปู่ฯ จึงทำรูปหลวงปู่ฯไว้ด้านบนแทนรูปเจ้าอาวาสวัดป่าแดง

    ผมฝากพี่นิ่มเข้าพิธีฯและตระเวนเสกเป็นปี ถึงตอนนี้เลยนึกขึ้นได้
    สามารถเอามาเป็นค่าปรับล่าช้าได้ เว้นเสียแต่ว่าจะเคยได้ฟรีจากผมไปแล้ว และไม่เอาอีกแล้ว

    ผู้จะได้ค่าปรับ ประสงค์จะไม่รับ โปรดแสดงตัวนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. dacha7979

    dacha7979 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +703
    สวัสดีครับพี่หนุ่มทิพย์ ถ้าทำน้ำมันแม่ทัพออกมาขอร่วมบุญด้วยนะครับ วัดโพธ์ผักให่ สมัยก่อนพาแม่ไปถวายอาหารกับเจ้าอาวาสบ่อยครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...