ลป.นาค วัดระฆัง รบกวนสายตรง และ ไม่ตรง ด้วยครับ

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย kravity, 4 พฤษภาคม 2013.

  1. tin09

    tin09 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    785
    ค่าพลัง:
    +3,386
    ขออนุญาติ ท่านเจ้าของกระทู้ครับ...เนื้อหาพระของท่านดูดีครับ แต่เรื่องพิมพ์ท่านเปรียบกับภาพที่แนบมานะครับ สังเกตุใบโพธิ์ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ...


    [​IMG]

    [​IMG]
     
  2. weetak

    weetak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2013
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +232
    ด้วยความขอบพระคุณอย่างแรง มีหลายเสียงครับพี่ พระผมเริ่มมีรอยแตกรานแล้ว คงต้องแกะตามที่พี่ท่านแนะนำไว้ หากเป็นหลวงปู่นาคแท้ ๆ ก็ไม่อายใครเนาะ
     
  3. hiddenbhume

    hiddenbhume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,513
    ค่าพลัง:
    +7,067
    พุทธคุณไม่ต่างครับ
    ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนเหมือนสมเด้จท่านครับ
    ใช้ได้เหมือนกันครับ ผมก็ขึ้นคออยู่
     
  4. weetak

    weetak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2013
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +232
    อยูในกรอบก็ไม่ธรรมดาเลยนะครับ อยากเห็นนอกกรอบบ้างเนาะ ขอบคุณครับพี่
     
  5. Buddha_bless

    Buddha_bless เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2011
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +464
    หลวงปู่นาค บางพิมพ์ของท่านก็ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือนะครับ เพราะไม่ค่อยมีคนศึกษาจริงจัง
     
  6. weetak

    weetak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2013
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +232
    เออ..นะ พิมพ์ทรงของผมดูคล้าย ๆ เลยนะครับ มีหลายท่านบอกเนื้อสวยครับ ปลื้มอีกแล้วเรา อิอิ
     
  7. tin09

    tin09 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    785
    ค่าพลัง:
    +3,386
    ก็น่าจะเป็นอย่างท่านว่าครับ...เพราะไม่ค่อยศึกษากันในเชิงลึก...ก็ขอยินดีกับทุกท่านด้วยครับ...ที่ท่านมีพระสมเด็จหลวงปู่นาคไว้ครองนะครับ...:cool:
     
  8. kanunmax

    kanunmax Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2013
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +66


    เป็นไปได้ไหมครับว่า พระของผมเก็บไว้ในกล่องอย่างดี ไม่เคยผ่านการใช้ สภาพเลยยังดูใหม่อยู่ แล้วพระพิมพ์สมเด็จของหลวงปู่นาคมีคนทำเก๊ไหมครับ ผมถามเป็นความรู้น่ะครับ เพราะส่วนตัวชอบพระของหลวงปู่นาคครับ
     
  9. hiddenbhume

    hiddenbhume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,513
    ค่าพลัง:
    +7,067
    สมเด็จมีเก๊ทุกรุ่นแหละครับ
    ต้องระวังครับ
     
  10. kanunmax

    kanunmax Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2013
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +66
    ช่วยดู สมเด็จหลวงปู่หินให้ทีครับ พิมพ์ฐานหมอน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC09392.JPG
      DSC09392.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3 MB
      เปิดดู:
      98
    • DSC09393.JPG
      DSC09393.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.8 MB
      เปิดดู:
      88
  11. chen55

    chen55 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +518

    ท่าน Buddha_bless ครับ...

    ผมว่ามีนะ...ท่านที่ศรัทธา หลวงปู่ท่าน...ที่ศึกษาอย่างจริงจังมีอยู่ครับ...ถ้าไม่ยึดหลักประวัติศาสตร์...หนังสือที่มีการจดบับทึกไว้...เนื้อหา...พิมพ์...ท่านจะเอาอะไรมาอ้างอิงว่าใช่หรือไม่...ไม่ว่าจะเป็นพระสมเด็จวัดระฆัง...บางขุนพรหม...และพระอื่นๆก็ต้องยึดหลักสากล...หลักประวัติศาสตร์...หนังสือที่มีการจดบับทึกไว้เลยครับ...จะเล่นหาแบบไม่มี...ประวัติศาสตร์...และหนังสือที่มีการจดบับทึกไว้...แล้วมันจะจบที่ตรงไหนหล่ะท่าน...





    _____________________________
    คิดทุกคำที่พูด....ไม่พูดทุกคำที่คิด
     
  12. Buddha_bless

    Buddha_bless เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2011
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +464
     
  13. tin09

    tin09 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    785
    ค่าพลัง:
    +3,386
    ส่วนผมอ้างอิงจาก...หนังสือประวัติพระเทพสิทธินายก วัดระฆังโฆษิตาราม และ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พระเทพสิทธินายก (นาค โสภณเถระ) อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ณ วัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี 15 มิถุนายน 2514 จำนวนพิมพ์ 2000 เล่ม โดยเจ้าคุณเที่ยง คณะ๕ ครับ ...


    ______________________
    ขอกราบนมัสการแทบเท้าของหลวงปู่นาค หากข้อความตอนหนึ่งตอนใดผิดพลาดหรือขาดตกบกพร่องโปรดเมตตาให้อภัยด้วยเถิด
     
  14. DESIGNE-ONE

    DESIGNE-ONE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +210
    พระสมเด็จชุดหลวงปู่นาคเล่นยากพอสมควรครับ ของเก๊ทำออกมาพร้อม ๆ กับของจริง จากหนังสือ ศิษย์สมเด็จ ของคุณไพศาล พืชมงคล เขียนเล่าไว้สนุกสนานเลยทีเดียวครับ


    หลวงปู่นาคท่านเป็นพระมหาเถระผู้ใหญ่ อยู่ในวัยแปดสิบเศษ รูปร่างอ้วนท้วน หน้าตาเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา และมีศีลจริยาวัตรงดงาม ประพฤติธรรมอยู่เป็นเนืองนิจ มีอิทธิจิตในระดับที่สูง ดังนั้นจึงเป็นที่เชื่อถือกันอย่างกว้างขวางว่าหลวงปู่นาคทรงความศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นพระสมเด็จที่ปลุกเสกโดยหลวงปู่นาคจึงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย
    ท่านเจ้าคุณใหญ่หรือหลวงปู่นาคท่านทำพระสมเด็จอยู่เสมอตามความจำเป็นและความต้องการของญาติโยม แต่เป็นการทำไปเรื่อย ๆ ตามแต่สะดวกและความพร้อมของผู้ทำคือบรรดาเด็กวัดและพระเณรในคณะหนึ่ง ไม่ได้จัดตั้งเป็นการพิธีใหญ่และทำพระเป็นจำนวนมาก ๆ เพื่อจำหน่ายเป็นพุทธพาณิชย์ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

    วันไหนมีการทำพระสมเด็จ ท่านเจ้าคุณใหญ่หรือพระเถระชั้นผู้ใหญ่ประจำกุฏิใหญ่ก็จะผสมผงมาแล้วเสร็จ ใส่ในกาละมังบ้าง ในถังบ้าง และให้บรรดาพระเณรรวมทั้งเด็กวัดช่วยกันพิมพ์พระที่บริเวณชั้นล่างด้านหน้าของกุฏิใหญ่

    การทำพระสมเด็จของหลวงปู่นาคจะใช้ผงปูนปลาสเตอร์เป็นพื้น ผสมกับผงพระเก่าที่เหลือจากการทำรุ่นก่อน ๆ สืบทอดกันมา เหมือนกับน้ำมนต์ในวิหารสมเด็จที่ใช้น้ำใหม่เติมน้ำมนต์ในโอ่งที่ทำมาตั้งแต่ครั้งเจ้าประคุณสมเด็จ

    นอกจากนี้ยังใช้ผงธูปจากกระถางธูปในโบสถ์ ผงตะไคร่น้ำจากพระปรางค์และพระเจดีย์ในวัดระฆัง แม้กระทั่งดอกไม้สำหรับบูชาพระประธานในโบสถ์มาตากแห้งแล้วบดเป็นผง และใช้ข้าวก้นบาตรรวมทั้งกล้วยซึ่งบดทั้งเปลือกเป็นส่วนผสมด้วย

    เมื่อผสมผงได้ที่ตามตำรับเก่าแก่ของวัดระฆังแล้ว ก็จะพิมพ์ลงในแบบพิมพ์พระซึ่งแกะสลักในแผ่นไม้ บางแผ่นก็มีพิมพ์พระหนึ่งองค์ บางแผ่นก็สอง หรือสาม หรือห้าองค์ ตามแบบต่าง ๆ ที่วัดระฆังเคยทำมา และทรงอันเป็นที่นิยมมากก็คือแบบพิมพ์ทรงพระประธานทรงใหญ่

    ในบรรดาเด็กวัดที่ช่วยกันทำพระสมเด็จนั้นก็มีโอฬารหัวหน้าเด็กวัดคณะหนึ่งเป็นเจ้ากี้เจ้าการควบคุมเด็กวัด แต่ก็ยังมีพระผู้ใหญ่คอยควบคุมดูแลอยู่อีกชั้นหนึ่ง

    พระที่พิมพ์ก็จะเป็นพระสมเด็จซึ่งเรียกกันว่าพระสมเด็จวัดระฆังรุ่นหลวงปู่นาค มีทั้งทรงพิมพ์ใหญ่ ทรงเจดีย์ ทรงปรกโพธิ์ และอีกหลายแบบสุดแท้แต่แม่พิมพ์ที่พระผู้ควบคุมการจัดทำจะจัดมาให้ทำ

    วันไหนพิมพ์พระได้เท่าใดก็จะมีการนับจำนวนทวนสอบจนตรงกัน แล้วพระเถระผู้ควบคุมการทำพระก็จะยกเอาถาดใส่พระซึ่งพิมพ์เสร็จแล้วขึ้นไปข้างบน เพราะหลังจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการปลุกเสกตามแบบฉบับและกรรมวิธีของวัดระฆังที่สืบทอดมาตั้งแต่ครั้งเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี

    พระสมเด็จเหล่านั้นจะถูกนำไปบรรจุกล่องและวางไว้ในห้องพระของท่านเจ้าคุณใหญ่ซึ่งเป็นห้องโถงอยู่ชั้นบนของกุฏิใหญ่นั้น จากนั้นก็จะมีการวนสายสิญจน์จากพระประธานของห้องพระ วนลงมาเวียนรัดรอบกล่องพระนั้นจนครบถ้วนทุกกล่อง

    ทุกวันหลังจากหลวงปู่นาคท่านสวดมนต์ไหว้พระแล้ว ท่านก็จะเข้าสมาธิภาวนาพระคาถาชินบัญชร แล้วเพ่งพลังจิตและอธิษฐานจิตตามกรรมวิธีปลุกเสกพระสมเด็จวัดระฆัง และจะเพิ่มเวลาทำสมาธิภาวนาแผ่พลังจิตมากขึ้นสำหรับวันพระและถ้าเป็นห้วงเวลาในเทศกาลเข้าพรรษาก็ยิ่งเพิ่มเวลามากขึ้นไปอีก

    บางครั้งหลวงปู่นาคก็จะให้นิมนต์พระสงฆ์ในคณะหนึ่งมาสวดพระปริตรและสวดพระคาถาชินบัญชรปลุกเสกพระด้วย และบางทีในวันพระใหญ่คือวันขึ้น 15 ค่ำและวันมหาปาวารนา หลวงปู่นาคก็จะให้พระขนกล่องพระสมเด็จเข้าไปในโบสถ์ วนสายสิญจน์มาจากพระประธานมายังกล่องพระ

    ในบางทีเมื่อมีงานบวชหลวงปู่นาคก็จะให้ขนกล่องพระเข้าไปในโบสถ์ด้วย นัยว่าการสวดญัตติจตุตถกรรมนั้นในอุปสมบทพิธีนั้นมีผลมากต่อการปลุกเสกพระเครื่องให้เป็นพระ.


    เพราะได้ทำหน้าที่ช่วยทางวัดพิมพ์พระเช่นนี้ ผมจึงได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าคุณใหญ่ ตลอดจนพระเถระชั้นรองของกุฏิใหญ่ และได้รับพระสมเด็จจากท่านเป็นกำนัลเป็นจำนวนมาก

    ตัวผมเองไม่มีอัธยาศัยเป็นนักสะสมหรือหวงกันสิ่งใดไว้กับตัว ดังนั้นเมื่อได้รับพระสมเด็จมาคราวใดก็มักจะเอาไปแจกให้กับบรรดาเพื่อนฝูงที่โรงเรียน หรือถ้าหากวันไหนไปเยี่ยมพ่อแม่ของเพื่อนที่บ้านก็จะนำพระสมเด็จไปมอบให้เป็นของขวัญ

    จึงทำให้ผมถูกเพื่อนนักเรียนล้อว่าเป็นหมอผี จนกระทั่งถึงวันนี้บางครั้งเมื่อปะหน้าเพื่อนนักเรียนในครั้งนั้น แม้ว่าแก่เฒ่าไปด้วยกันแล้วก็ยังเรียกล้อกันว่าไอ้หมอผีอยู่นั่นเอง

    การล้อเลียนนี้เห็นทีจะเป็นวัฒนธรรมเฉพาะของคนไทยเพียงชาติเดียวเท่านั้น เพราะยังไม่เคยได้ยินหรือปรากฏว่าคนชาติอื่นๆ จะนิยมชมชอบการล้อเลียนแบบที่คนไทยกระทำกันเลย

    การล้อเลียนที่กระทำกันนั้นก็มักจะเอาของดีมาล้อเลียนให้เป็นของเสียอย่างหนึ่ง หรือไม่ก็เอาจุดอ่อนปมด้อยของคนมาล้อเลียนกันเพื่อทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องตลกโปกฮา ซึ่งดูไปแล้วก็ไม่ค่อยเข้าท่าและไม่เป็นประโยชน์ใด ๆ เลยอีกอย่างหนึ่ง

    ดังเช่นคำว่าอรหันต์ซึ่งเป็นภาวะหรือสถานะสูงสุดในพระพุทธศาสนา กลับนำมาใช้ล้อเลียนกับความเลวร้ายต่าง ๆ ดังเช่นการล้อเลียนคณะกรรมการการเลือกตั้งที่โกงเลือกตั้งว่าเป็นห้าอรหันต์ หรือล้อเลียนกรรมการตัดสินการประมูลซึ่งโกงการประมูลว่าแปดอรหันต์ หรือการนำเอาลักษณะทางกายภาพที่หัวล้านหรือฟันหลอมาเป็นเครื่องล้อเลียน เป็นต้น

    เป็นการทำของดีให้กลายเป็นของเสียหรือไม่ก็เป็นการหาความสนุกขำขันจากความอับอายขายหน้าของคนอื่น ซึ่งน่าจะได้ทบทวนวัฒนธรรมแบบนี้เสียทีหนึ่ง

    พระสมเด็จวัดระฆังรุ่นหลวงปู่นาคทรงความศักดิ์สิทธิ์และมีอิทธิปาฏิหาริย์เลื่องชื่อลือกระฉ่อนมาตั้งแต่ครั้งที่หลวงปู่นาคยังมีชีวิตอยู่ และเมื่อท่านเจ้าคุณสิ้นบุญไปแล้วพระสมเด็จวัดระฆังรุ่นหลวงปู่นาคก็ยิ่งมากค่าและหาได้ยากขึ้นทุกที แม้กระทั่งผมเองซึ่งเป็นศิษย์สำนักวัดระฆังก็ไม่มีเหลืออยู่เลยแม้แต่องค์เดียวเพราะมีเท่าไรก็ให้คนอื่นไปจนหมด

    นี่แหละที่เขาว่าใกล้เกลือกินด่าง ความจริงไม่ได้กินด่าง แต่เป็นเพราะอัธยาศัยประจำตนที่เห็นสิ่งใดดีแล้วก็อยากจะให้ผู้อื่นได้สิ่งดีนั้นด้วย

    การไปช่วยทำพระสมเด็จทำให้ผมได้รู้จักกับคนบ้านเดียวกันซึ่งมาเป็นเด็กวัดอยู่คณะหนึ่งอีกหลายคน รุ่นพี่ ๆ ก็มี 2-3 คน คือพี่วัลลภ พี่วินัย นอกนั้นเป็นรุ่นน้อง ๆ สำหรับพี่วินัยนั้นอยู่กับพระซึ่งเป็นอาคือพระมหาวิสุทธิ์ และเรียนกฎหมายอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

    ครั้นได้รู้จักมักคุ้นกันแล้ว พี่วินัยก็แนะนำว่าในวันข้างหน้าถ้ามีโอกาสก็ควรที่จะเข้าเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนวิชาความรู้ในการช่วยเหลือผู้คน จะได้นำความรู้ไปช่วยเหลือพี่น้องทางบ้านซึ่งถูกข้าราชการกดขี่ข่มเหงได้

    คนภาคใต้จะมีความรู้สึกเป็นอย่างเดียวกันว่าข้าราชการที่ส่งไปจากส่วนกลางให้ไปทำหน้าที่ในพื้นที่ภาคใต้นั้นไม่มีความเป็นมิตร เพราะวางตนเป็นเจ้านายเหนือประชาชน จนคนภาคใต้มักเรียกข้าราชการว่านาย และเป็นนายที่ข่มเหงรังแกอาณาประชาราษฎรจนสะท้อนเป็นความรู้สึกที่ตกผลึกอยู่ในหัวใจคนปักษ์ใต้ตลอดมา

    การเป็นเช่นนั้นเกิดขึ้นเพราะคตินิยมของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกรุงเทพฯ ที่มักลงโทษข้าราชการที่ไม่ดีหรือกระทำความผิดโดยการย้ายลงไปทำงานในภาคใต้ เพียงแค่คิดหวังจะลงโทษข้าราชการนั้นให้เข็ดหลาบ แต่ผลแท้จริงคนที่ถูกลงโทษก็คือประชาชนภาคใต้ เพราะคนเลวหรือคนชั่วนั้นไปอยู่ที่ไหนก็ย่อมทำชั่ววันยังค่ำ ยิ่งไปอยู่ห่างไกลสายตาของผู้มีอำนาจก็ยิ่งแสดงอำนาจบาทใหญ่ข่มเหงรังแกประชาชนมากขึ้นไปอีก

    ข้าราชการนั้นจึงไม่ได้ถูกลงโทษแต่กลายเป็นกรณีปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยจระเข้ลงน้ำ โดยประชาชนภาคใต้เป็นฝ่ายที่ถูกลงโทษแทน จึงเป็นผลให้คนภาคใต้มีความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีต่อข้าราชการ และตกทอดต่อมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้

    ผิดกันไกลกับหลักคิดและวิธีการปกครองของจีนในสมัยโบราณ ซึ่งจะถือหลักการว่าการจะแต่งตั้งขุนนางคนใดไปทำหน้าที่ในแดนไกลจะต้องคำนึงถึงหลักการสามประการ คือ ภายในระยะเวลาอย่างน้อย 15 ปี จะไม่คดโกงหักหลังผู้ใหญ่ในเมืองหลวงอย่างหนึ่ง ผู้นั้นต้องเป็นผู้มีสติปัญญาความรู้เหมาะสมกับท้องที่ที่จะให้ไปทำหน้าที่อย่างหนึ่ง และเป็นผู้มีน้ำใจเมตตาอาทรต่ออาณาประชาราษฎรอีกอย่างหนึ่ง ครบสามอย่างนี้แล้วจึงจะแต่งตั้งให้ไปปฏิบัติหน้าที่แดนไกลได้

    ศิษย์วัดคณะหนึ่งเป็นศิษย์วัดสหประชาชาติเพราะมาจากหลายภาคหลายจังหวัด ดังนั้นเมื่อมาสำนักอยู่ในคณะเดียวกัน ได้รู้จักมักคุ้นกันจึงทำให้ต่างคนต่างได้เรียนรู้ถึงการคบหาเพื่อนต่างถิ่น และได้รู้จักวิธีที่จะเรียนรู้อุปนิสัยใจคอของคนแต่ละถิ่นไปพร้อม ๆ กัน นี่นับว่าเป็นอานิสงส์ของการอยู่ร่วมกันกับคนต่างหมู่ต่างเหล่าอย่างหนึ่ง

    การไปช่วยเขาทำพระสมเด็จทำให้ผมได้มีโอกาสรู้จักกับเด็กวัดรุ่นพี่คนสำคัญที่สำนักอยู่ที่กุฏิใหญ่ของหลวงปู่นาคที่ชื่อว่าโอฬารซึ่งเป็นคนภาคอีสาน และมีฐานะเป็นลูกหลานห่าง ๆ ของหลวงปู่

    ผมได้รู้กิตติศัพท์ของโอฬารมาจากลุงต๋อมก่อนแล้วว่าโอฬารนี้เป็นคนสำคัญเพราะได้สร้างพระสมเด็จโอฬารขึ้นมาจำนวนมาก

    พระสมเด็จโอฬารก็คือพระสมเด็จที่เด็กวัดคณะหนึ่งซึ่งมีโอฬารเป็นลูกพี่ใหญ่จัดทำขึ้น โดยอาศัยช่องว่างของการบริหารจัดการในการทำพระสมเด็จเป็นโอกาสในการจัดทำ
    คือเมื่อมีการพิมพ์พระสมเด็จของทางวัด ศิษย์วัดกลุ่มนี้ก็จะเอาปูนปลาสเตอร์ผสมผงอะไรต่อมิอะไรให้คล้าย ๆ กับผงพระสมเด็จที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ ครั้นพอพิมพ์พระสมเด็จของวัดเสร็จแล้วก็ถือโอกาสนั้นนำผงปูนปลาสเตอร์ที่ผสมขึ้นเองพิมพ์พระสมเด็จเพิ่มขึ้นอีกจำนวนหนึ่ง เป็นแต่ว่าไม่ได้เข้าพิธี ไม่ได้ผ่านการปลุกเสกของหลวงปู่นาคและไม่ได้ผ่านกรรมวิธีใด ๆ ในการปลุกเสกพระตามแบบฉบับของวัดระฆังเลย

    แต่ถ้าดูพุทธลักษณะก็จะเหมือนกับพระสมเด็จวัดระฆังของแท้ทุกประการเพราะพิมพ์มาจากเบ้าเดียวกัน โดยคนพิมพ์คณะเดียวกัน เป็นแต่ไม่ได้ปลุกเสกเท่านั้น และความที่ไม่ได้ปลุกเสกนั้นไม่สามารถมองเห็นด้วยสายตาเปล่าได้

    คณะศิษย์วัดกลุ่มนี้ได้แอบจำหน่ายพระสมเด็จดังกล่าวแก่ผู้มีจิตศรัทธาทั้งที่มาขอเช่าที่วัด คือหากบังเอิญขณะนั้นไม่มีพระผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่ในเรื่องนี้ก็จะนำพระชุดนี้ออกจำหน่าย หรือไม่ก็นำออกไปจำหน่ายภายนอก

    นับเป็นวิธีทำมาหากินที่ลงทุนน้อย กำไรมาก และอาจเป็นต้นแบบของการพุทธพาณิชย์ในยุคปัจจุบันนี้ก็ได้ แต่คงจะต่างกับการพุทธพาณิชย์ในทุกวันนี้เพราะพระสมเด็จโอฬารนั้นทำตามโอกาสสะดวก และจำนวนไม่มาก ไม่เหมือนกับยุคปัจจุบันที่ทำกันเป็นล่ำเป็นสันถึงขนาดลงโฆษณาจำหน่ายกันทางสื่อมวลชนอย่างกว้างขวาง

    เคยวิตกกังวลอยู่เหมือนกันว่าบรรดาผู้มีความศรัทธาในพระสมเด็จพระวัดระฆังหากพลั้งพลาดได้พระสมเด็จโอฬารไปแล้วจะเป็นประการใด เพราะห่วงใยว่าท่านเหล่านั้นจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามที่มีความศรัทธา

    แต่ในที่สุดก็เชื่อว่าอานุภาพและความศักดิ์สิทธิ์ของพระสมเด็จวัดระฆังนั้นมีมาแต่เหตุสามสถาน คือ บารมีของเจ้าประคุณสมเด็จอย่างหนึ่ง พลังจิตที่เกิดจากการปลุกเสกอย่างหนึ่ง และจิตใจที่ประกอบด้วยศรัทธาและกุศลของผู้มีจิตศรัทธาอีกอย่างหนึ่ง

    พระสมเด็จวัดระฆังของแท้ย่อมประกอบด้วยคุณลักษณะทั้งสามประการ แต่พระสมเด็จโอฬารคงขาดในประการที่สองคือพลังจิตจากการปลุกเสก แต่เมื่อผู้ครองพระสมเด็จนั้นหมั่นท่องหมั่นสวดพระคาถาชินบัญชรก็จะเพิ่มพูนพลังจิตขึ้นได้เอง และความศรัทธานั้นจะน้อมนำเอาบารมีเจ้าประคุณสมเด็จสื่อมายังองค์พระ และทำให้พระนั้นทรงความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้เหมือนกัน

    มีตัวอย่างให้เห็นเป็นจำนวนมากว่าพระสมเด็จโอฬารหรือพระสมเด็จที่แม้เป็นของปลอมแต่ก็ยังมีความศักดิ์สิทธิ์ปรากฏให้เห็นหลายหลากกรณีนักนับแต่อดีตเป็นต้นมาถึงปัจจุบันนี้

    โอฬารนี้มีลักษณะเป็นหัวโจกคนจริง ๆ เหตุที่เรียกว่าหัวโจกโดยไม่เรียกว่าหัวหน้าก็เพราะว่าหัวหน้ากับหัวโจกนั้นต่างกัน คนเป็นหัวหน้าคนต้องรู้จักออกความคิด รู้จักใช้คนให้เหมาะสมสอดคล้องกับบุคลิกลักษณะความสามารถ รู้จักถนอมน้ำใจคน รู้จักรักษาหน้าตาผู้อื่น และมีคุณธรรมประจำตัว

    แต่คนที่เป็นหัวโจกนั้นมักไม่ค่อยมีคุณธรรมของความเป็นหัวหน้าคน แต่จะอาศัยอำนาจบางอย่างไม่ว่าอำนาจตามกฎหมาย หรืออำนาจนอกกฎหมาย หรืออำนาจที่อาศัยความเป็นวงศาคณาญาติกับผู้มีอำนาจแล้วทำตัวอยู่เหนือคนอื่น และคนอื่นซึ่งจำนนต่ออำนาจที่ว่านั้นก็ยอมตัวให้ใช้สอย ทั้งๆ ที่อาจไม่มีความนับถือศรัทธาต่อคนที่เป็นหัวโจกเลยแม้แต่นิดเดียว

    การที่ศิษย์วัดกลุ่มนี้ทำพระปลอมขึ้นจำหน่ายย่อมได้ทุนรอนเป็นจำนวนมาก เกินฐานะของเด็กวัด ดังนั้นจึงทำให้เด็กวัดกลุ่มนี้มีฐานะและความเป็นอยู่ดีกว่าเด็กวัดกลุ่มอื่นหรือเด็กวัดคณะอื่น บางคนสามารถเก็บเงินได้จำนวนมาก เป็นทุนรอนนำไปศึกษาต่อถึงต่างประเทศก็ยังมี

    พระสมเด็จแท้ที่หลวงปู่นาคทำนั้นเป็นการทำเพื่อหาเงินมาบูรณะพัฒนาวัดระฆังซึ่งเสื่อมทรุดต่อเนื่องมาแต่อดีต ศาสนสถานทั้งหลายภายในวัดทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด จะมัวรอเงินจากผ้าป่ากฐินศาสนสถานก็คงพังพินาศหมดสิ้น เพราะเหตุนี้หลวงปู่นาคท่านจึงคิดอ่านทำพระสมเด็จขึ้นเป็นอภินันทนาการแก่ผู้ที่มาทำบุญกับวัด
    พระที่หลวงปู่นาคปลุกเสกเสร็จแล้วได้มอบไว้แก่พระลูกศิษย์ซึ่งจะทำบัญชีจำหน่ายสำหรับผู้ใจบุญที่มาทำบุญกับวัด โดยหลวงปู่นาคมิได้จับต้องถือเงินหรือเก็บเงินไว้ด้วยองค์ท่านเองเลย

    ผงที่เหลือจากการทำพระแต่ละคราวก็จะเก็บใส่กะละมังไว้ แล้วขนขึ้นไปไว้บนกุฏิหลวงปู่นาค ซึ่งท่านมักจะวางไว้ข้างๆ โต๊ะหมู่บูชา

    พระที่ผ่านการทำและผ่านการปลุกเสกดังกล่าวนี้หากถึงคราววันมหาปวารณาช่วงเข้าพรรษาหลวงปู่ก็มักจะให้พระลูกศิษย์นำไปไว้ในโบสถ์ วางไว้หน้าพระประธาน โดยมีการนับจำนวนอย่างเข้มงวด ครั้นพ้นวันมหาปวารณาแล้วหลวงปู่นาคก็ให้นำพระเหล่านั้นกลับไปเก็บไว้ที่กุฏิของท่านดังเก่า ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะหลวงปู่นาคท่านรู้กรรมวิธีว่าวันเวลาและการใดที่จะอาศัยพลังแห่งความบริสุทธิ์และพลังอำนาจจิตของคณะสงฆ์เข้าเสริมพลังจิตที่ท่านเจ้าคุณได้ปลุกเสกไว้แต่เดิม

    พระสมเด็จวัดระฆังที่ผ่านกระบวนการจัดทำและกระบวนการปลุกเสกตามตำรับที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งยุคสมัยเจ้าประคุณสมเด็จนั้นจึงเป็นที่หวังและเป็นที่วางใจกันโดยทั่วไปว่าทรงไว้ซึ่งพุทธคุณ มีความศักดิ์สิทธิ์ สามารถปกป้องคุ้มครองภยันตรายทั้งปวงได้ และเป็นเครื่องส่งเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้มีความศรัทธาตลอดมา

    อาจกล่าวได้ว่าการทำพระสมเด็จโอฬารคือการปลอมพระสมเด็จวัดระฆังรุ่นแรก ๆ และยังมีการทำปลอมกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้ เป็นแต่กรรมวิธีทำให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น เช่นไปทำพระสมเด็จมาจากไหนก็ไม่รู้แล้วลงโฆษณาอ้างว่าเป็นพระสมเด็จวัดระฆัง ปลุกเสกที่วัดระฆัง

    ความจริงการปลุกเสกที่ว่าปลุกเสกที่วัดระฆังนั้นไม่ได้ผ่านกระบวนการปลุกเสกตามแบบวัดระฆังเลย เพราะเพียงแต่ขนพระใส่รถหกล้อหรือรถกระบะมาจอดไว้ที่นอกพระอุโบสถวัดระฆัง แล้วนิมนต์พระจากที่ไหนไม่รู้มานั่งสวดกันบนรถอย่างหนึ่ง หรือนิมนต์พระวัดระฆังนั่นแหละโดยไม่ได้บอกกล่าวว่าเป็นการปลุกเสกพระ แต่ทำทีเป็นทำบุญเลี้ยงพระ เมื่อเลี้ยงเสร็จแล้วพระก็ยะถา สัพพี ให้พรตามธรรมเนียม ในช่วงนั้นเองก็จะมีการต่อสายสิญจน์มาที่รถแล้วถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน คนที่เขาไม่รู้ก็พากันหลงเชื่อว่าเป็นพระสมเด็จวัดระฆัง ปลุกเสกที่วัดระฆัง

    การทำพระสมเด็จวัดระฆังปลอมขึ้นในลักษณะที่ว่านี้มีมากมายหลายครั้ง จนเป็นเหตุให้ปัจจุบันนี้ทางวัดต้องห้ามการมากระทำการแบบนี้ เพราะถือเป็นการหลอกลวงมหาชนอย่างหนึ่งและทำให้วัดระฆังเสียหายต่อชื่อเสียงอีกอย่างหนึ่ง

    แต่เป็นเรื่องแปลกที่พระสมเด็จปลอมนั้นหากจะดูให้ดีแล้วก็จะดูได้ง่ายว่าไม่เหมือนกับพระสมเด็จวัดระฆังที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นพระสมเด็จวัดระฆังที่ทำขึ้นในครั้งไหน ๆ
    สาเหตุอาจมาจากแบบพิมพ์พระ ซึ่งของวัดระฆังนั้นจะใช้ช่างมีฝีมือจากช่างบ้านช่างหล่อ ซึ่งในยุคต้นรัตนโกสินทร์ถือว่าเป็นหมู่หนึ่งในช่างสิบหมู่ที่มีชื่อเสียง และถ่ายทอดสืบต่อกันมา แบบพิมพ์พระสมเด็จที่แกะโดยช่างมีฝีมือจากช่างบ้านช่างหล่อตลอดมานั้นจะมีลักษณะที่องอาจสง่างามเด่นชัด ผิดแผกจากแบบพิมพ์ที่แกะจากที่อื่น ๆ

    เคยมีการสอบถามช่างแกะแบบพิมพ์พระบ้านช่างหล่อว่าเคยมีนักปลอมพระที่อื่นมาจ้างให้แกะแบบพิมพ์บ้างหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่ามีเหมือนกัน และช่างเองก็รู้สึกแปลกประหลาดใจว่าถึงจะแกะแบบพิมพ์อย่างไรก็ไม่เหมือน ไม่มีลักษณะเด่นเหมือนกับแบบพิมพ์พระที่ทางวัดมาว่าจ้างให้แกะเลย นี่จะว่าเป็นอภินิหารของเจ้าประคุณสมเด็จอีกอย่างหนึ่งก็ว่าได้

    ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการแกะแบบพิมพ์จากแหล่งอื่นซึ่งไม่มีวันที่จะแกะให้เหมือนกับแบบพิมพ์พระสมเด็จที่ใช้สำหรับทำพระสมเด็จวัดระฆังของแท้ได้เลย.
     
  15. kravity

    kravity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,472
    ค่าพลัง:
    +34,745
    ขอบคุณสำหรับคำตอบของ คุณBuddha_bless มากๆๆครับ รบกวนช่วยขยายความหน่อยได้ไหมครับ ว่า เก่าได้ธรรมชาติเหมาะสมกับอายุพระกว่า 70 ปี ต้องมีลักษณะแบบไหนหรอครับ จะได้เป็นวิทยาทานสำหรับท่านที่สนใจครับท่านพี่

    ปล. ผมยังไม่รู้เลยว่าของผมเรียกพิมอะไรหรอครับ แฮะๆๆ
     
  16. kravity

    kravity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,472
    ค่าพลัง:
    +34,745
    คำว่า ฉ่ำ ต้องแบบองค์ของผม ใช่ไหมครับ ผมจะได้ไว้เป็นองค์ครูครับ :cool:
     
  17. kravity

    kravity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,472
    ค่าพลัง:
    +34,745
    ขอบคุณ คุณtheblacksheep มากๆครับ:cool:
     
  18. kravity

    kravity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,472
    ค่าพลัง:
    +34,745
    เนื้อใบลานสวยมากครับ คุณBuddha_bless :cool:
     
  19. kravity

    kravity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,472
    ค่าพลัง:
    +34,745
    555 เรื่องพิมพ์นี่แหละครับที่ผมหนักใจมาก รูปจากเวปที่นำมาลง ผมก็นำไปเทียบมาเหมือนกันครับ 555 เห็นว่าพิมพ์คล้ายรูปด้านล่างๆหน่อยครับ แต่ในรูปพิมพ์เค้าไม่ค่อยชัด ครับคุณ tin09 :':)':)'(

    ร่วมกันศึกษาครับ:cool:
     
  20. kanunmax

    kanunmax Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2013
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +66
    ขอบคุณท่าน DESIGNE-ONE สำหรับข้อมูลดีๆครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...