รวมคำทำนายและวิเคราะห์ภัยพิบัติ - What's Next ?

เจอความเห็นนี้ของผู้ดูแลเว็บในกระทู้เตรียมเป้ แต่ไม่อยากเขียนในกระทู้นั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นไปป่วนกระทู้

ดิฉันถือว่าเป็นผู้ที่ท่านอ้างอิงถึงเพราะดิฉันเขียนไว้ว่าขายบ้าน จึงขอใช้สิทธิถูกพาดพิงขอให้ท่าน ZZ อธิบายค่ะ ขอเรียนว่า ไม่ได้มาชวนทะเลาะ แต่ต้องการทราบความคิดเห็นของท่านค่ะ
ขอเรียนถามท่าน ZZ ตรงนี้ว่า ท่านคิดว่าจะให้ปรึกษาว่า
1. ควรขายบ้านดีมั้ยเหรอ
2. หรือว่าท่านจะให้ถามว่า ควรเชื่อคำทำนายในเว็บบอร์ดที่ท่านดูแลมั้ยเหรอคะ
3. หรือว่า ล็อคอินนั้นๆเป็นมิจฉาชีพมั้ย
4. หรือว่า จะให้ถามว่าภัยพิบัติมันจะเกิดขึ้นจริงมั้ย

คนที่ขายบ้าน(หนีภัยพิบัติที่ถูกโหมกระหน่ำทำนายในเว็บบอร์ดที่ท่านเป็นผู้ดูแลนี่) แปลกยังไงเหรอคะ แปลกกว่าคนที่ไม่ขายบ้านในความรู้สึกของท่านยังไงคะ

ที่ดิฉันขายบ้านแล้วมาซื้อบ้านในเขตจังหวัดที่คิดว่าปลอดภัย(จากน้ำท่วม) ด้วยเหตุผลดังนี้ค่ะ
1. บ้านที่เขตสายไหมถูกน้ำท่วมเมื่อตุลา 54 เป็นระยะเวลา 1 เดือนเต็มๆ ไม่ได้อพยพ หน้าบ้านน้ำท่วมระดับครึ่งต้นขา หน้าหมู่บ้านท่วมแค่เอว หน้าปากซอยท่วมระดับอก ไม่อยากต้องขนเฟอร์ฯขึ้นชั้น 2 ไม่อยากต้องก่อปูนกั้น ฯลฯ ไม่อยากทำอย่างนั้นทุกปี ก็หนีดีกว่า

2. ไม่สามารถมี เซฟเฮ้าส์ อีกที่โดยไม่ขายบ้านเดิมได้ เพราะไม่สะดวกเดินทางบ่อยๆ + ไม่รวยพอที่จะมีบ้าน 2 หลัง

คนที่ขายบ้าน แปลกๆตรงไหน ยังไงคะท่าน ZZ ขอทราบความคิดเห็นค่ะ

 

คิดว่าคือข้อ5ตามข้างล่างมั้ง ที่คุณไทรพูดถึง


วิธีการสอนแบบล้างสมอง

การสอนโดยวิธีการล้างสมองนิยมใช้กับการปลูกฝังความเชื่อทางศาสนา ลัทธิการเมือง การขายสินค้า และสร้างอำนาจและความยิ่งใหญ่ให้กับวัตถุ หรือ บุคคล เป็นต้น การสอนโดยวิธีการล้างสมองมีขั้นตอนในการดำเนินการดังนี้

1. ทำการศึกษาผู้เรียนหรือกลุ่มเป้าหมายเพื่อหาจุดอ่อนไหวร่วมกัน แล้วทำการให้ข้อมูลใหม่หรือความคิดใหม่ ที่ขัดแย้งกับข้อมูลเดิมหรือความคิดเดิมที่อ่อนไหวซึ่งผู้เรียนไม่แน่ใจในข้อมูลหรือความคิดเดิมมากนัก ถึงแม้ข้อมูลหรือความคิดใหม่ที่ให้จะไม่เป็นความจริงหรือถูกต้องทั้งหมดก็ตาม โดยพยายามสร้างความเชื่อถือให้เกิดขึ้นกับข้อมูลหรือความคิดใหม่นั้นให้กับผู้เรียนก่อนเป็นอันดับแรกด้วยกลอุบายต่าง ๆ แม้แต่การแสดงอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ทั้งที่มีจริงหรือใช้กระบวนการทางจิตวิทยา พฤติกรรมศาสตร์ มายากล รวมทั้งใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่คนส่วนมากไม่รู้จักจัดกระทำให้เกิดขึ้นก็ตาม
2. ไม่เปิดเผยจุดประสงค์ที่แท้จริงในการสอน ให้ใช้การแสดงออกของผู้เรียนบางคนที่พร้อมรับการตอบสนองกับข้อมูลหรือความคิดใหม่ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วจะมีบุคคลประเภทนี้ปะปนอยู่ในกลุ่มเสมอแม้จะไม่ได้มีการจัดกระทำเตรียมไว้ก็ตาม โดยใช้คนเหล่านี้เป็นตัวแทนของข้อมูลใหม่หรือความคิดใหม่ เพื่อนำเสนอให้กับกลุ่มเป้าหมายโดยรวมหรือผู้เรียนที่เหลือ

3. ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องอันเป็นที่เป็นที่มาของเรื่องราวหรือเนื้อหาที่สอนในมิติที่แตกต่างไปจากที่ผู้เรียนเคยได้รับรู้หรือเรียนรู้มา เพื่อเสริมการนำเสนอข้อมูลหรือความคิดใหม่ที่ให้กับผู้เรียน ในขั้นนี้ต้องแสดงความขัดแย้งของข้อมูล และเสนอทางเลือกให้ โดยการโน้มน้าวจากข้อมูลใหม่ให้เห็นคล้อยตาม แต่จะยังไม่บังคับ ขู่เข็ญ ลงโทษในทันที ให้เริ่มใช้มาตรการขั้นเบาก่อน แล้วจึงเริ่มกดดันให้รับความคิดใหม่หรือความเชื่อใหม่ด้วยกระบวนการกลุ่มและอิทธิพลของกลุ่ม ตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก

4. สรุปบทเรียนด้วยการสร้างเป็นหลักการ หรือทฤษฎี ที่ง่ายกับการจดจำเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือในข้อมูลหรือความคิดใหม่โดยเน้น ข้อดี ตามที่ต้องการมากกว่า ข้อเสีย ที่ไม่ต้องการให้นำไปใช้และแสดงให้เห็นว่าการยอมรับความคิดใหม่เป็นทางเลือกที่ถูกต้อง ถ้าเลือกแตกต่างออกไปจะมีปัญหาในการทำกิจกรรม หรืออยู่ร่วมกับหมู่คณะ ในขั้นนี้อาจมีผู้เรียนบางคนที่ต้องออกไปเพราะไม่สามารถยอมรับได้ ถือเป็นสิ่งปกติ และไม่แสดงการขัดขวางอย่างรุนแรง

5. ทำการเลือกสัญลักษณ์ คำพูด หรือรหัสสำหรับการนำไปใช้ โดยให้สามารถสัมผัสได้ หมายถึง ทำให้นามธรรมจากการสรุปบทเรียนนั้น เป็น “รหัส” ที่มองเห็น ได้ยิน หรือสัมผัสได้ด้วยผัสสะปกติของมนุษย์ เพื่อที่จะสามารถถอดรหัสออกมาใช้ได้ตลอดเวลา และรวมถึงเป็นการสร้างความเป็นพวกเดียวกันให้กับผู้อื่นที่มีความคิดเหมือนกัน เพิ่มความเข้มแข็งให้กับพลังของกลุ่มหรืออิทธิพลของกลุ่ม
ทำไมต้องใช้วิธีการล้างสมอง

ผลของการสอนทำให้เกิด “การเรียนรู้” ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอันเป็นผลมาจากประสบการณ์ที่จัดให้จากกระบวนการสอน “การล้างสมอง” เป็นวิธีการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของบุคคลเช่นกัน

การใช้วิธีการล้างสมองในการสอนนั้นเป็นวิธีการที่เป็นอยู่จริง มีการใช้จริง และมีผลเกิดขึ้นอยู่แล้วจริง จึงถือว่าเป็นวิธีการหนึ่งที่ใช้ได้ผลถึงแม้จะเป็นวิธีการที่มีภาพลบของคำว่า “ล้างสมอง” แต่สาระสำคัญนั้นอยู่ที่การปลูกฝังสิ่งใหม่ให้กับผู้เรียน ซึ่งการกระทำเพื่อปลูกฝัง เผยแพร่ความคิดใหม่หรือให้ข้อมูลใหม่ที่ลบล้างความคิดเดิมหรือข้อมูลเดิมดังกล่าวนั้นมีการดำเนินการอยู่เป็นปกติวิสัย แต่ในโลกเสรีประชาธิปไตยอาจเลือกใช้ วาทกรรม และใช้คำพูดที่ให้ความรู้สึกทางบวก มากกว่าเท่านั้น

มีรายงานการศึกษาวิจัยพบว่า สื่อ โทรทัศน์ เป็นสื่อสำคัญที่ใช้สำหรับการล้างสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พฤติกรรมการบริโภคของแม่บ้านในการเลือกจับจ่ายสินค้า การเผยแพร่ศาสนา การโฆษณาชวนเชื่อของลัทธิต่าง ๆ จึงหันมาใช้สื่อโทรทัศน์ในการนำเสนอความคิดหรือข้อมูลให้กับประชาชนมากกว่าดำเนินการสอนศาสนาหรือความเชื่อเฉพาะในสถานที่เท่านั้น

การสร้างกลุ่มมวลชนให้มีความคิดเหมือนกัน ยึดมั่นในอุดมการณ์เดียวกัน เข้าใจตรงกันเป็นพลังที่สำคัญสำหรับการดำเนินการกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม การใช้วิธีการล้างสมองจะสามารถสร้างมวลชนให้ยึดมั่นอยู่กับกลุ่มได้คงทนและ ทุ่มเท เสียสละให้กับกิจกรรมของกลุ่มความคิดได้มากกว่า ยาวนานกว่าวิธีการสอนทั่วไปเพราะสามารถเข้าถึงจิตใจ หรือควบคุมจิตใจมวลชนได้อย่างสมบูรณ์ ผู้ที่ผ่านการล้างสมองของลัทธิบางลัทธิสามารถทำกิจกรรมได้ทุกประการเพื่อลัทธิของตนอย่างไม่เกรงกลัว

พลังของสมองและพลังของความคิดแบบนี้จึงมีพลังมากและคงทน นักการศึกษาสามารถประยุกต์และนำข้อดีเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการเรียนการสอนได้ และเชื่อว่าวิธีการนี้จะสามารถสร้างคนที่มีพลังความคิด ความสามารถไปในทางดีงามหรือทางบวกได้เช่นเดียวกัน จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ควรปรับนำมาใช้ ถึงแม้จะเป็นเสมือนดาบที่แหลมคม แต่ถ้านำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และควบคุมให้ดี ก็จะมีประโยชน์มากเช่นกัน

การหลีกเลี่ยงการถูกล้างสมอง

เมื่อเกิดความรู้สึกว่า ตนเองกำลังถูกล้างสมอง ตามกระบวนการขั้นตอนดังกล่าวข้างต้น และพิจารณาเห็นว่าข้อมูลใหม่หรือความคิดใหม่ยังไม่ตรงกับความต้องการให้ทำการหลีกเลี่ยงโดยพิจารณาและดำเนินการต่อไปนี้

1. พึงตระหนักว่า การล้างสมองเป็นวิธีและกระบวนการสอนอย่างหนึ่ง ไม่ใช่เป็นกระบวนการที่หลอกลวง แต่เป็นกระบวนการและวิธีการที่มีอยู่จริงและเป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ที่สามารถทดลองและพิสูจน์ได้ ผู้ที่อยู่ในกระบวนการล้างสมองไม่ใช่เฉพาะคนที่โง่ สมองไม่ดี หรือถูกหลอกง่ายอย่างที่เข้าใจกัน ถึงแม้คนฉลาด อัจฉริยะ ก็อยู่ในกระบวนการล้างสมองหรือถูกล้างสมองได้ ดังนั้นคนดี คนเก่ง และน่านับถือในสายตาของคนทั่วไปจึงถูกล้างสมองได้เช่นกัน คนสมองดีเสมือนเป็นดินที่ดี เอาต้นไม้อะไรไปปลูกก็งอกงามดี การล้างสมองเป็นการเอาต้นไม้เดิมออกและปลูกต้นไม้ใหม่ เป็นต้นไม้ความคิด เมื่อไปอยู่กับดินที่ดีหรือคนสมองดี จะมีพลังมาก

2. เมื่อได้รับการสอนหรือเชิญชวนในลักษณะที่แปลก ๆ อย่าใช้ตรรกศาสตร์ หรือความคิดเชิงเหตุผลมากนัก ใช้ความรู้สึกของตนเองให้มากขึ้น เพราะกระบวนการล้างสมองใช้หลักตรรกศาสตร์ที่เหนือกว่า ดีกว่าเสมอ ให้เลือกรับข้อมูลตามความรู้สึก หรือใช้สามัญสำนึกทั่วไปก่อนในอันดับแรก

3. อย่าคล้อยตามหรือชื่นชมในกิจกรรมต่าง ๆ และอย่าทำตัวเป็นฟองน้ำที่ซึมซับทุกอย่างที่ผู้ต้องการล้างสมองนำเสนอ ให้หลีกเลี่ยงการร่วมกิจกรรมจากกลวิธีต่าง ๆ

4. แสวงหาข้อเท็จจริงรายรอบที่เป็นข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ไม่เฉพาะในสาระที่ผู้ต้องการล้างสมองนำเสนอเท่านั้น ในการแสวงหาข้อเท็จจริงจะพบประเด็นที่ชัดเจนในมูลเหตุของการจูงใจของผู้ต้องการล้างสมอง และในขั้นนี้จะพบอีกว่าเป็นการสร้างความรู้สึกให้ท่านคล้อยตามมากกว่าการให้ข้อมูลที่แท้จริง หรือการใช้ความคิดเชิงเหตุผล ดังนั้นความรู้สึกท่านจึงนำมาใช้ต่อสู้กับความรู้สึกของผู้ต้องการล้างสมอง ไม่ใช่การใช้เหตุผลเพียงอย่างเดียว เพราะกระบวนการของการล้างสมองมักจะนิยมให้ข้อมูลเท็จหรือจริงเพียงบางส่วน (ดูข้อที่ 1 ของวิธีการล้างสมอง)

5. หาคำตอบ เหตุผล และเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังสำหรับผู้ที่คล้อยตามหรือชื่นชมกับการนำเสนอของผู้ล้างสมอง กระบวนการกลุ่มและอิทธิพลของกลุ่มซึ่งอาจจะประกอบไปด้วยบุคคลที่ท่านนับถือท่านไม่ต้องทำตามกลุ่มเหล่านั้น เพราะเขาเหล่านั้นได้ถูกล้างสมองไปแล้ว ท่านจะเป็นผู้ที่ก้าวออกมาและหลุดพ้นจากกระบวนการล้างสมองได้อย่างสบายใจ

ความสำคัญจึงอยู่ที่ ต้องมีความสบายใจและมั่นใจกับการก้าวออกมาจากกระบวนการล้างสมอง และสามารถตอบโต้กับการคุกคามต่าง ๆ ที่เกิดจากการใช้วาทกรรม กระบวนการกลุ่ม รวมทั้งอิทธิพลของกลุ่มได้อย่างฉลาด องอาจ กล้าหาญ และปลอดภัย

การสอนโดยวิธีการล้างสมอง (Brainwashing) | สาระ ความรู้ ข่าวสาร ความบันเทิง ของชาวมัธยมศึกษา และประถมศึกษา : Knowledge for Thai Student | ThaiGoodView.com

 

มันคงมีนะที่มิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาแล้วใช้วิธีแบบข้างบน
แต่ตอนนี้ที่เป็นอยู่ในนี้น่าจะเป็นแบบว่า มีคนเพี้ยนๆมาพูดเกี่ยวกับภัยพิบัติล้างโลกแบบซ้ำๆ คนเข้ามาอ่านมาฟังมากๆเข้าก็เลยกลายเป็นโดนสะกดจิตแบบอ้อมๆบวกกับรับข้อมูลภัยพิบัติซ้ำแล้วซ้ำเล่า พอมากๆเข้าก็เลยกลายเป็นอุปทานหมู่กันไป

ในอเมริกามันมีมาแล้วเมื่อปี2011 นักจัดรายการวิทยุทางศาสนาชื่อ Harold Campingบอกว่าจะเกิดภัยพิบัติล้างโลกในวันที่21 พฤษภาคม 2011 ดูแล้วท่านก็ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรนะแต่ท่านเชื่อเอาจริงเอาจัง ตอนนั้นมีคนแจกใบปลิวกันใหญ่โต ลือกันไปลือกันมา อุปทานหมู่ซะโกลาหลวุ่นวาย ผลสุดท้ายไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่ตอนหลังHarold Campingออกมาสารภาพผิดนะว่าท่านผิดเองดังนี้
In March 2012 Camping "humbly acknowledged" that he had been mistaken, that his attempt to predict a date was "sinful," and that his critics had been right in pointing to the scriptural text "of that day and hour knoweth no man". He said he is now searching the Bible "even more fervently... not to find dates, but to be more faithful in our understanding

 

เค้าจะไปสนใจอะไรล่ะครับ เค้าก็ช่วยกันประโคมเรื่องเพ้อเจ้อต่อไป เราทำ
อะไรกันเค้าสนใจกันเสียที่ไหน ทางทีดีต่างคนต่างอยู่กันไป เราเดินกันคนละ
ทาง ดั่งเส้นขนาน เราทำอะไรมันก็ผิดทุกอย่างในสายตาเค้า เค้าเป็นคนดูแล
เค้าจะทำอะไรกับเราก็ได้ ตอนนี้ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า แตกแยกกันนี่ล่ะถูกต้อง
แล้ว สมานฉันท์ ปรองดอง มันไม่มีทางเกิดขึ้นได้ เพราะมันฝืนธรรมชาติ
อย่าได้นึกฝันไปเลย มีใครเอาชนะธรรมชาติได้บ้าง นอกจากผู้วิเศษ 555+

ส่วนที่คุณ "ไทร" ถามมาและท่าน "webang906" นั้นมันมีทั้งสองอย่างเลย
ทั้งรูปแบบวิธีการทางจิตวิทยาและก็อำนาจลึกลับ แต่สำหรับป้ามหาภัยแกมี
ทั้งสองอย่างเลย ลำพังใช้จิตวิทยาเพื่อนผมมันไม่โดนง่ายๆแบบนี้แน่ แต่นี้
มันหลายอย่างประกอบกัน วิบากกรรม+มนต์ดำ+จิตวิทยา+ความอ่อนแอ มัน
เข้าทางพอดีก็เลยง่าย

 

โดยส่วนตัวนะพอจะอ่านภาษาอังกฤษได้บ้างแบบงูๆปลาๆ เลยพอจะจับไต๋ได้ว่าไอ้คำทำนายที่เอามาลงกัน สืบสาวเข้าจริงๆก็ปรากฏว่าไปลอกของฝรั่งมา แล้วก็มาขัดเกลาคำพูดให้มันดูไทยๆ ประเภทน้ำจะท่วมภาคกลาง ภาคใต้เหลือแต่ภาคเหนือ ฝรั่งติงต๊องมันพูดมา30กว่าปีแล้ว ฝรั่งคนนี้ทำนายมั่วๆแล้วก็ไม่เห็นมีอะไร

หรือคำทำนายพวกฟ้ามืดฟ้าดับอะไรเทือกนั้น ก็ได้ไอเดียมาจากZetatalk เค้าทำนายกำหนดวันกันมานมนานมากแล้ว ก็เหมือนเดิมคือไม่มีอะไรในกอไผ่

อีกอย่างนึงฮิตมากเมื่อปีที่แล้ว ศิลาจารึกลึกลับบันทึกพุทธทำนายคนจะคลาน อ่านดูแบบรู้ประวัติศาสตร์นิดหน่อยก็รู้แล้วว่ามันไม่ใช่ เคยพูดไว้ว่าสมัยนั้นมีกระดาษหรือมีนับปีนักษัตรแบบไทยๆซะที่ไหน แล้วก็เคยโทรศัพท์ไปถามวัดไทยในอินเดียแห่งหนึ่ง พระที่รับโทรศัพท์ก็บอกว่าไม่เคยพบเห็นเลย เดี๋ยวว่างๆว่าจะโทรไปอีกซักสามสี่วัดไทยในอินเดีย

 

เพ้อเจ้อกันได้ทุกวัน ทุกเวลา ทุกนาที ล่าสุดเอาประเด็นสะพานแขวนพังมา
บอกว่าสะพานแขวนที่ข้ามฝั่งพระนครกับฝั่งธนจะพังอีก โยงไปถึงคำทำนาย
หมอดู ET อีก เอากันเข้าไป ผมดูแล้วแต่ละคนอาการหนักมากเตรียมตัวกัน
แบบว่าโลกมันแตกวันนี้พรุ่งนี้ สงสัยคงต้องให้หมดตัวไม่เหลือแม้แต่ข้าวจะกิน
ซักเม็ดล่ะถึงจะคิดกันได้ บางคนหน้าที่การงาน การศึกษาก็ดี เป็นหมอก็มี
แต่ไม่รู้หมออะไร หมอบนดอยรึเปล่าไม่รู้ บ่องตงๆว่าอะไรๆมันก็ไม่แน่นอน
การศึกษาไม่ช่วยอะไร เด็กอนุบาลมันยังรู้เลยว่าโลกไม่แตก 555+

ไอเรื่องจารึกเนี่ยผมก็ข้องใจมานานแล้วมันมีจริงหรือเปล่า เพราะมันแปลกๆ
มาตั้งแต่ปีที่แล้ว เหมือนที่คุณบอกเลยครับ ไม่มีคนเคยเห็นรูปและก็ถ่ายรูป
แปลออกมาจริงๆจังๆ มีแต่ลือๆกันมา

9 พ.ค. 2556 เป็นวันที่น่าจับตา จับปาก จับจมูก จับหู และจับจู๋ กันไว้ให้ดี
โหมกันเหลือเกินกับกระแสวันนี้ ผมก็คงไม่ทำห่าไรเช่นเดิมนอกจากนอนกระดิกตีน
เกาตูดดูทีวีอยู่บ้านสบายๆ ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆคลายร้อนไป แล้วก็เฝ้ามองผู้วิเศษ
แข่ง Drift กัน ปีที่แล้วตายกันไปหลายศพ มาดูกันดีกว่า Season นี่จะกี่ศพ

*** และสงสัยมานานแล้วทำไมเวลาเวปมีปัญหาร้อนแรงขึ้นมามันชอบเข้าไม่ได้วะ
ผู้ดูแลเวปแอบทำอะไรรึเปล่า โพสแทบตายขึ้น Error เจตนาอะไรเปล่าครับ
ถ้าไม่ก็แล้วไป แต่ถ้าใช่ถือว่าเลวมาก

 

มาไม่ทันตอนคุณป้ามหาภัย นึกว่าหมายถึงคุณมณีซะอีก แบบอ่านแล้วปะติดปะต่อเอาเอง

 

เคยลองค้นดูนะเกี่ยวกับศิลาจารึก คณะทูตที่อ้างกันในคำทำนายคิดว่าเป็นคณะของพลเรือตรี หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ตอนที่เริ่มสร้างวัดพระศรีมหาธาตุ ซึ่งขณะนั้นดำรงยศและบรรดาศักดิ์เป็นนาวาเอกหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ เป็นหัวหน้าไปเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศอินเดีย (ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 อินเดียยังไม่ได้รับเอกราชจากอังกฤษ) คณะทูตได้ติดต่อขอดังนี้

1. พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

2. ขอกิ่งพระศรีมหาโพธิ์ 5 กิ่ง จากต้นที่สืบเนื่องมาแต่เดิม ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จประทับ ได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ณ พุทธคยาประเทศอินเดีย

3. ขอดินจากสังเวชนียสถาน 4 แห่งคือ จากที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และปรินิพพาน

อ้างอิง: วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร

ก็ไม่เห็นจะกล่าวถึงศิลาจารึกอะไร แล้วถ้ามันจะมีจริง คณะที่ไปจะมีความสามารถแปลได้หรือเพราะมันน่าจะเป็นภาษาพวกใช้อักษรพราหมีแบบบนเสาอโศก ดูหลายอย่างประกอบแล้วน่าจะเป็นศิลาจารึกกำมะลอซะมากกว่า สร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคำทำนาย

 

เห้ยทำเป็นเล่นไป ผมกลับย้อนไปหา ข้อความ ของ มณีส่องแสง มันหาไปแล้วอะ ในกระทู้ ตามรอย พระมหาชนก มันหายไปได้งัยอะ เล่นขี้โกงอะ:'(

 

ตอนนั้นพอจะรู้แกว เลยทำอ้างอิงไว้เป็นหลักฐาน
แต่ท่านเกษมเค้าก๊อบไปใส่ไว้ในกระทู้ก็มีนะท่าน ลองหาดู พวกปริศนาแมวเหมียว

 

เราเพิ่งกู้แบ๊งค์ผ่าน ซื้อบ้านใหม่ แถวถนนรัตนาธิเบศร์ (น้ำไม่ท่วม)

แถมยังจะไปเซ้งอาคารพาณิชย์ แถวถนนราชพฤกษ์ เพื่อเปิดออฟฟิศ

โดยได้ติดตามข่าวคราว คำทำนายเรื่องพิบัติภัยในเว็บพลังจิตมานานแล้ว

อย่างนี้ถือว่าผิดปกติมากป่าวคะ :d

 

ต้องถามว่าจะให้ตอบแบบไหน

- มุมมองผู้วิเศษและเหล่าสาวก

ผิด!!! ทำไม่ไม่เชื่อพวกกูวะ บอกฟังไม่เตือน กล้าล่วงละเมิดคำทำนายหรอวะ
ต้องรีบไปตุนเสบียงนะ ถ้ามาม่าไม่หมดอายุและปลากระป๋องไม่เน่าเกิน
9,999,999 รอบ ถือว่าใช้ไม่ได้ ภัยพิบัติมันจะมาแล้วอีกไม่นาน อีกไม่กี่อึด
ใจแล้ว เลื่อนมาหลายรอบ แต่มันก็ไม่นานแล้วนะ ตระกูลสืบไป 999,999
ชั่วโคตรแล้วก็ยังไม่มา ไม่รู้ล่ะยังไงต้องเชื่อต้องทำตามไม่งั้นลงนรก เลว
ชั่ว เพราะไม่เชื่อคำพูดผู้วิเศษ ลบหลู่ปรามาส


- มุมมองมนุษย์เดินดินคนธรรมดา

ไม่มีถูกและผิด เพราะคนเราต้องทำมาหากิน หากไม่อยู่กับปัจจุบันก็จะไม่มี
อนาคต คำทำนายอะไรช่างแม่ง!!! เหอะ ปล่อยให้มันบ้ากันซะให้พอ อย่าไป
สนใจคำทำนายอะไรมันไม่เกิดหรอก มีแต่คำเพ้อเจ้อ

ไม่ใช่แล้วครับ คุณป้ามหาภัยแกเจ้าของกระทู้ "สัญญาณฟ้า(หมา)เตือนภัยพิบัติ" แกบอกมีพุทธโองการ
จากสมเด็จองค์ปฐมลงมาให้ปิดกระทุ้แล้วก็บอกว่ากระทู้จะโดนมหาอัคคีปิดไปด้วยตัวมันเอง แกไม่ต้องปิด
แต่สุดท้ายแกถ่มน้ำลายขึ้นฟ้าแล้วมันก็รดใส่หน้าแกเองก็ปิดกระทู้หายเงียบไป เพราะขืนเปิดต่อไปโดน
เปิดโปงเละเทะแน่ๆ แต่ตอนนี้ก็เละไปแล้วเพราะโดนผมจัดหนักให้

ส่วนคุณ "มณีส่องแสง" ผมก็เสียดายอ่ะ ยังไม่ได้บอกรักเธอเลย เธอหนีไปซะแล้ว

จะเอาไรมากกับ "เกษม" ครับท่าน ใครจะไปรู้ "เกษม" มันไม่ใช่คน
แต่เป็น Bot ที่ทางเวปพลังจิตโปรแกรมเอาไว้ มีหน้าที่ดักจับข่าวจากที่ต่างๆมาลงจาก
เวปไซต์ต่างๆโดยค้นหาข้อมูลผ่าน Google นอกจากนี้ยังมีความพิเศษอีกสองเรื่องด้วย

- สามารถดักจับคำทำนายผู้วิเศษในเวปนี้แล้วนำมาโพสแสดงได้ด้วย
- สามารถโพสข้อความ ให้ทีมงานเวปพิจารณาเรื่องจัดการกระทู้เมื่อมีคนไปโพสคัดค้านในกระทู้นั้น

เทคโนโลยีมันล้ำไปมากที่มีระบบ AI ที่อัจฉริยะได้ขนาดนี้ ผมก็สงสัยว่าทำไมมันทำได้
อยู่แค่นั้น ที่ไหนได้เป็น AI นี่เอง ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง แต่ทำตามโปรแกรมสั่ง

ดูมันโพสซิบอกใช้ความจริง แต่สิ่งที่ตัวและพรรคพวกผู้วิเศษทำก็คือ เอาความเชื่อและความ
เห็นของตัวเองมาโพสเรื่องราวเพ้อเจ้อหลอกคน แล้วเสือกอ้าง "สัจจะ" เห็นแล้ว
บ่องตงว่า "ใครเป็นลูกหลานพามันไป รพ.บ้า ที ไม่ไหวจะเคลียร์"
ความจริงก็คือ "จะไม่มีภัยพิบัติใดๆเกิดขึ้นตามที่เพ้อเจ้อกันได้ทุกวัน มีแต่ภัยธรรมชาติเฟ้ย"

 

เรียนคุณ boonma05

ขอบคุณครับที่เปิดโอกาสให้ได้เข้ามาตอบข้อสงสัย

หากเราถอยหลังกลับมามอง บอร์ดนี้ เวบนี้ ในฐานะคนที่เพิ่งจะเข้ามาเป็นครั้งแรก
เราจะพบว่า...มีเรื่องร้ายๆ....เต็มไปหมด...มีแต่เรื่องราววันสิ้นโลก...วันถล่มโลก

ชวนให้น่าตกใจ...หรือไม่สบายใจ...อยากเอาตัวรอด

หากมองลึกลงไป...ดูรายละเอียด...จำแนก...แจกแจง...จะพบว่า...เรื่องราวต่างๆนั้น...มีที่มาที่ไป...ดังนี้

1. เรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ (ทั้งแบบปัจจุบันที่มีในตำราเรียน...และแบบที่ไม่มีในตำราเรียน)

2. เรื่องการพยกรณ์โดย...โหร...นักยากรณ์....ที่อาศัยดวงดาวในการพยากรณ์ (เช่น คัมภีร์สุริยยาตร์วิถี...อันนี้เป็นของไทย)...และการพยากรณ์โดยใช้ศาสตร์อื่นๆ (มีตำราอ้างอิง เช่น ตำราจีนโบราณ)

3. เรื่องการพยกรณ์โดย...ผู้มีญาณ...ไม่ต้องอ้างอิงตำรา...แต่ใช้จิตที่บริสุทธิ์...มีศีล 5 ขึ้นไป...ไม่โกหก...หลอกลวงแน่นอน

4. และการพยกรณ์โดย...ผู้มีเจตนาหลอกลวง

หากมองผลของการพยากรณ์...ก็อาจมีผลลัพธ์...ได้ 2 ประการ

1. แม่น
2. ไม่แม่น

เมื่อมองลึงลงไป...ในทั้งสองผลลัพธ์...และหาสาเหตุ...จะพบว่ามีปัจจัยดังนี้

ไม่แม่น...เพราะ...เรื่องเหล่านั้น...ไม่เป็นความจริง...ไม่เคยมีอยู่จริง...สร้างเรื่องขึ้นมาหลอกลวง...มีศาสตร์ใดๆรองรับ
ไม่แม่น...เพราะ...เรื่องเหล่านั้น...ไม่เป็นความจริง...แต่เอาทฤษฎีต่างๆ...มาอิงแอบ...สร้างความน่าเชื่อถือ
ไม่แม่น...เพราะ...เรื่องเหล่านั้น...ยังไม่มีปัจจัยครบถ้วน...เรื่องยังไม่เกิดเพราะ...เหตุยังไม่เกิด...จึงยังไม่มีผล

ยกตัวอย่าง (แค่ตัวอย่าง...ไม่เกี่ยวข้องกับการพยากรณ์ของท่านใด และความเชื่อของท่านใด)

คนที่เชื่อเรื่อง POLE SHIFT...ต้องทราบว่า...เหตุที่เกิด POLE SHIFT เกิดจาก...ดาวขนาดใหญ่โคจรเข้ามารบกวนวงโคจรของโลก
หากไม่มีดาวขนาดใหญ่เข้ามาในวงโคจร ในระบบสุริยะ...ก็ไม่ต้องกลัวอะไร

ดังนั้น...หากจะทำนายว่าปี 200 2012 2013 2555 จะเกิด POLE SHIFT...ก็ต้องดูว่า...เจ้าดาวดวงนี้มันมาหรือยังไม่มา (หรืออาจจะไม่เคยมีดาวขนาดใหญ่เลย...ก็ได้)

ส่วนตัวจึง...เตรียมตัวในระดับ...เตรียมพร้อม...หากต้องอพยพ (ได้ลองอพยพเมื่อน้ำท่วมปี 54 แล้ว) และไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น

ส่วนท่านอื่นที่โทรมาปรึกษา เช่น เรื่องการสร้างบ้าน ซื้อที่ดิน...ก็ได้ให้คำตอบไปอย่างที่ได้เขียน...ให้มองหาเหตุและผล

การเฝ้าระวัง...เหตุต่างๆ...ซึ่งอาจทวีความรุนแรงกลายเป็น...ผล

จึงยังทำอยู่ทุกๆวัน...และแจ้งเตือนเพื่อนๆสมาชิก...ให้ได้ระมัดระวัง...และติดตามข่าว เช่น ประเด็นทาง การเมือง (ในประเทศต่างประเทศ) เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ (เช่น CME อุกาบาต)

ไปไกลแล้ว


มาตอบคำถามกัน...ครับ

1. ไม่ควรขายบ้านครับ (ย้ายถิ่นฐาน)...เพราะมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น...การขายบ้านแปรว่าเราต้องเรื่องต้นใหม่

- ที่ทำงาน
- ที่เรียน
- การใช้ชีวิต

เราพร้อมจะเริ่มต้นใหม่...ไหม ?

แต่หากคิดว่า...จะมีบ้านอีกหลัง...หรือมี...ที่ไป....กรรีเกิดเหตุฉุกเฉิน...หรือ...เป็นบ้านตากอากาศ...เป็นบ้านยามเกียษณอายุ...เป็นมรดก...อันนี้แนะนำครับ (เพราะตัวเองก็ทำแบบนี้)

2. บอร์ดนี้มีคำทำนายหลายรูบแบบ...ดังที่แจ้งไว้

- WARROOM ทำงานในลักษณะแจ้งเตือนให้เฝ้าระวัง

- คุณหมอพราน อ.ปิยะชีพ...ห่มของคุณปุณกะ...เน้นไปทางเตรียมเซฟเฮ้าท์หรือพื้นที่หลบภัย(ดูจากกระทู้ของท่านเหล่านี้) ผมไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว...จึงไม่ทราบข้อมูลแนวลึกครับ

- ผมเองและสมาชิกเก่าๆ...ได้เคยเตรียมพื้นที่ที่ปรียนันท์ธรรมสถาน...ซึ่งปัจจุบันได้ถวายเป็นธรณีสงฆ์ไปแล้ว (มีพระจำพรรษาแล้ว)

- ท่านอื่นๆ

ดังนั้น...หากจะเชื่อเรื่องใด...ควรมีข้อมูล...และควรปรึกษาเพื่อนๆในกลุ่ม...หรือสมาชิกในครอบครัว....ว่าเราควรเชื่อหรือไม่

เพราะไม่อาจสามารถรับรองได้ว่า...คนในบอร์ดนี้เป็นคนดีทั้งหมด (พูดแบบให้คิด)

3. 4. 5. ...

คนที่ขายบ้านเพราะ...หนีพิบัติภัยน้ำท่วมปี 54 ไม่แปลกเลยครับ

แต่คนที่ขายบ้าน...เอาลูกออกจากโรงเรียน...ลาออกจากงาน...ทั้งที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ยังมีสัญญาณความรุนแรง...นี่แปลกมาก
แถมยังไปคาดคั้น...คนอื่นที่เตรียมตัว...ว่า...ต้องเกิดเหตุให้ได้ (เพราะคุณเตรียมตัวตั้งหลายล้านนี่)...คนๆนี้แปลกครับ


การเตรียมตัวไว้ไม่ประมาท....เช่นการเตรียมเป้ฉุกเฉิน...การเตรียมเส้นทางหลบภัย...ทางหนีทีไล่

เป็นคนละเรื่อง...กับ...ความแม่นยำของการเกิดเหตุ

เราไม่ทราบว่า...เหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่...เราถึงได้เตรียมตัวเฝ้าระวัง



.

 

เยี่ยมครับ ท่าน web master
ขอแถม พวกแช่งเพราะไม่เชื่อฉัน ไปในข้อหลังได้ไหมนี่ ^_^

 

แถมได้เลยจ้า

555+ได้ข่าวมาแว่วๆว่า ป้ามหาภัยแกมีลูกสองคนเห็นบอกว่าให้ออกโรงเรียน
เรียบร้อยแล้ว มันไม่อยากเรียนต่อเพราะต้องมาทำหน้าที่ตามที่ป้าแกอยากให้
ทำ พอเด็กมันลังเลสงสัยถามว่าทำไม 14 ก.พ. ไม่เกิดเหตุตามที่บอกก็จะขู่
ด้วยประโยคยอดฮิต "อย่าลังเลสงสัย" สงสารอนาคตของชาติปลูกฝังความ
เป็นผู้วิเศษให้เด็กตั้งแต่ยังเล็กๆ

ตอนนี้ต้องระวังไว้ให้ดีๆนะครับเพราะพวกผู้วิเศษกำลังโหมกระแสอย่างไม่หยุดยั้งเลย
มีคำสั่งให้เตรียมอพยพไปอยู่ในรูที่ขุดกันเอาไว้แล้ว

 

ขอแสดงความเสียดายด้วยครับ ที่มาไม่ทันเรื่องราวดังกล่าว
เล่าให้ฟังคร่าวๆได้แต่เพียงว่าป้าแกเป็นคนเชียงใหม่เพศหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง ชอบสะกดจิตครับ สะกดจิตได้แม้กระทั่งตัวแกเอง เป็นโน่นเป็นนี่ไปเรื่อย เดี๋ยวเป็นชายพูด"ครับ" เดี๋ยวเป็นหญิงพูด"ค่ะ" หลงใหลในภาพถ่ายย้อนแสงและคิดว่านั่นเป็นเรื่องปาฏิหาริย์

ป้าชอบต้มยากิน(รักษาอาการที่ยังไม่หายดี) ป้าแกบอกตัวเองเป็นเทพมาจุติ เป็นเทพในร่างมนุษย์ ชอบเข้าประชุมสภาเทวะ และสามารถทำเรื่องถึงสวรรค์เพื่อช่วยโลกไว้ชั่วครู่ได้ ป้าแกสามารถเอาภาพถ่ายก้อนเมฆมาเป็นคำทำนายได้หมด(แต่ไม่เคยถูก -_-') เดี๋ยวว่างๆจะตามหาข้อความเก่าๆที่แกเคยพูดไว้แล้ว quote มาแป่ะที่นี่ให้ดูนะครับ

ป้าแกมีบอดี้การ์ดอยู่หนึ่งคนคอยติดตาม สนับสนุนความเห็น และโต้แย้งกับผู้ที่มาปรามาส หรือมาร่วมพิสูจน์ภาพถ่าย

ป้าแกสามารถสะกดจิตจนมีสาวกผู้ร่วมอุปทานหมู่ได้มากเชียวครับ



ที่เล่ามาดังกล่าว อาจจะไม่ใช่ คุณมณีฯ ที่หลายๆคนพูดถึง
แต่กระทู้นี้ก็มีคุณมณีฯ เหมือนกันที่ห่างหายจากบอร์ดไปนานทีเดียว ชื่อคุณมณีจำปา

อยากให้หลายท่านที่มาใหม่ กลับไปอ่านย้อนกระทู้นี้ตั้งแต่หน้าแรกๆนะครับ
เพราะมีเรื่องราวสนุกๆให้ได้ทราบกันเยอะเลยทีเดียวเชียว...


.

 

ขอบคุณท่านZZ ที่มาตอบค่ะ งั้นดิฉันคงไม่แปลกหละ ถึงแม้ว่า ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ สัญญาณบอกเหตุ คำทำนาย เว็บมาสเตอร์ตั้งวอร์รูมเฝ้าระวัง การเตรียมเซฟเฮ้าส์จะมีส่วนในการตัดสินใจขายบ้านหนีน้ำท่วมและภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้น

อาจจะแปลกอยู่นิดตรงที่ ขายบ้านโดยยังไม่มีสัญญาณความรุนแรงในประเทศไทย(จะเรียก
ดิฉันว่า เป็นกระต่ายตื่นตูมก็ได้) แต่ดันเชื่อว่าจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้นใน กทม จะพูดให้หรูดูโง่น้อยลงโดยไม่ใช้คำว่า เชื่อก็ได้ ใช้คำว่า "ประเมินสถานการณ์ว่ามีโอกาสที่จะเกิดภัยพิบัติหรือไม่"

ระดับการเตรียมตัวของแต่ละคนก็ขึ้นอยู่กับระดับของผลการประเมินความเสี่ยง และศักยภาพของแต่ละคน

ดิฉันและอีกหลายๆท่านเลือกที่จะไม่เอาเงินไปลงทุนร่วมสร้างเซฟเฮ้าส์ในที่ดินของคนอื่น เลือกที่จะไม่เสี่ยงเดินทางขณะเกิดเหตุ ฯลฯ

การย้ายถิ่นฐานมันก็ไม่ได้ยากมากเกินไปสำหรับบางคนอย่างที่ท่าน ZZ คิดค่ะ และดิฉันมีความสุขกับที่ใหม่มากกว่า มีความสงบมากกว่า ท่านอื่นๆก็อาจจะเหมือนกัน และบางท่านก็อาจจะไม่

ใครเลยจะรู้ว่า กระต่ายตื่นตูมเพราะเคยโดนมะพร้าวตกเฉี่ยวหัวไปอีกกี่รายที่ไม่ได้มาโพสต์บอกว่า ขายบ้านอพยพไปแล้ว ด้วยเหตุผลอะไรอีกบ้าง หรือถูกมิจฉาชีพในนี้หลอกลวงอะไรไปบ้าง

 

4. และการพยกรณ์โดย...ผู้มีเจตนาหลอกลวง

ท่าน ZZ ทราบดีว่ามีมิจฉาชีพ มาทำมาหากินหลอกลวงผู้คนในเว็บบอร์ดที่ท่านดูแล ในบ้านของท่าน แต่ท่านไม่มีมาตรการป้องกัน

ขอเรียนถามว่า ปัจจุบันและอนาคตไม่ทราบว่าท่านจะมีมาตรการป้องกันตรงนี้หรือไม่ เช่น ผู้ตั้งกระทู้รับบริจาคสมควรต้องให้หลักฐานบัตรประชาชนและได้รับคำอนุญาตจากท่านจึงจะตั้งกระทู้รับบริจาคได้ อย่างน้อยก็เป็นการกรองได้ระดับหนึ่ง

มีใครสักกี่คนที่จะรู้ว่าผู้ดูแลเวบ ปล่อยให้มิจฉาชีพมานั่งหลอกลวงผู้คนอยู่เป็นปีๆ โดยไม่ทำอะไร มันบาปหรือเปล่าไม่ก็แน่ใจนะคะ

เมื่อมีหลายๆคนออกมาค้านคำทำนายทั้งหลายคนกลุ่มนี้กลับกลายเป็นพวกก่อกวนความสงบของเว็บ
หากหลายๆคนเหล่านี้ไม่ได้ไปคัดค้าน ไม่ได้มาแฉพฤติกรมของมิจฉาชีพในนี้ จะมีเหยื่อเกิดขึ้นอีกกี่ราย

ถึงเวลาหรือยังคะท่าน ZZ ท่านFalkman ที่ท่านจะดำเนินการปัดกวาด ตั้งกฎเพิ่ม หรืออย่างอื่นเพื่อสมาชิกและผู้อ่าน เพื่อห้องที่ท่านดูแลให้มีคุณภาพที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่เอาแต่สถิติปริมาณคนเข้าดู

ป.ล. ขออภัยหากข้อความทำให้ขุ่นข้องหมองใจ แต่อยากให้ท่านทบทวนค่ะ

 

พอเรื่องซา... คนไทยลืมง่าย มิจฉาชีพเหล่านี้มันจะอวตารมาในล็อคอินใหม่ สำนวนใหม่ วิธีการหากินแบบใหม่ อีกแน่ๆ

 

ก็ดูกันเอาไว้ไปๆมาๆ เอามาโยงกันจนได้ หรือมันจะเป็นพวกเดียวกันหว่า
นึกว่าจะจบเรื่อง เทพรักษา VS เทวราช จากคุณป้ามหาภัยซะแล้ว เพราะ
แกจะอ้างบ่นตลอดเวลาว่า พวกฝ่ายเทพชอบมาขัดขวางการทำงานของมาร
ทำให้ภัยพิบัติไม่เกิดซักที แหมเอาส้นตีนคิดกันไปได้ ก็อย่างว่าคนมันจะ
เพ้อเจ้อ ตอนนี้ตาลุง k_97 แกก็เมายาดองเลยออกมาเพ้อเจ้ออีกแล้ว
จับมาโยงกันจนได้นะลุงเอ้ย