เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    หาที่เป็นรูปพระอานนท์ หรือ พระอุบาลีครับ

    ทั้งสอง พระคุณท่าน มีความจำล้ำเลิศ ไม่มีท่าน ไม่มีทางสังคายนา พระพุทธศาสนาให้ชัดเจนมาได้ถึง สองพันกว่าปีครับ

    โดยเฉพาะ พระอานนท์ท่าน มี ความจำล้ำเลิศกว่าผู้ใด จำคำสอนของ สมเด็จบรมครูได้มากกว่าใครๆ ต้องมีพระอานนท์ ถึง จะเริ่มสังคายนากันได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2013
  2. weerawos

    weerawos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +188
    ขอนำเอาประวัติหลวงพ่ออั๊บจากเว็บวัดท้องไทรมาเผยแพร่ที่นี่ครับเพื่อประกาศเกียรติกคุณของหลวงพ่อครับและถ้าคุณพีเสาวภามีความรู้ส่วนไหนเกี่ยวกับหลวงพ่อก็ช่วยเขียนให้พวกเราได้อ่านด้วยนะครับตอนหลวงพ่ออยู่ไม่ค่อยมีคนเขียนถึงหลวงพ่อกันเลยครับตอนนี้หลวงพ่อไม่อยู่แล้วช่วยกันให้เต็มที่นะครับอย่ากั๊กกันเลยนะครับประกาศเกียรติคุณของหลวงพ่อกันนะครับ ขอบพระคุณมากครับ
    บันทึกชีวประวัติพระเดชพระคุณ พระอธิการเกษม(อั๊บ) เขมจาโร
    เจ้าอาวาสวัดท้องไทร ต.แหลมบัว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม


    หลวงพ่อมีนามเดิมว่า เกษม ทิมมัจฉา เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2465 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 ปีจอ ที่บ้านแหลมบัว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
    บิดาชื่อ อุ๋ย ทิมมัจฉา มารดาชื่อ ผิว ทิมมัจฉา เป็นบุตรชายคนโตในบรรดาพี่น้อง 12 อาชีพเกษรตกร จบการศึกษาชั้นป.2
    ในวัยเด็กได้ไปพักกับพระน้าชายชื่อ พระเล็ก ที่วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งขณะนั้นมี พระพุทธวิถีนายก(หลวงปู่บุญ ขันธโชติ)เป็นเจ้าอาวาส
    ซึ่งหลวงปู่บุญเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันมาก แม้แต่สมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศ ยังให้ความเคารพ หลวงพ่ออั๊บได้เล่าว่า ตอนท่านเป็นเด็กยังได้เคยรับใช้ บีบนวดหลวงปู่บุญบ่อยๆครั้ง เพื่อนเด็กวัดรุ่นเดียวกันนั้น มีอยู่คนหนึ่ง ต่อมาภายหลังได้อุปสมบทเป็น พระภิกษุสงฆ์และได้ทำคุณประโยชน์ให้กับ การศึกษาทั้งทางโลกและศาสนาอย่างมากมาย คือ พระเดชพระคุณพระอุบาลีคุณปรมาจารย์ (ท่านเจ้าคุณ ปัญญา) เจ้าอาวาส วัดไร่ขิง นั่นเอง ส่วนพระเล็กพระน้าชายได้บวชที่ วัดใหม่สุคนธาราม อ.นครชัยศรีจ.นครปฐมและได้ย้ายไปจำพรรษาหลายวัด อย่างเช่น วัดห้วยตะโก วัดปลักแรด วัดหนองบัว วัดกลางบางแก้ว เป็นต้น ได้บวชเป็นพระนานอยู่ถึง 18 พรรษาจึงลาสิกขาออกมาใช้ชีวิตเป็นฆาราวาสและมีครอบครัวอย่างชาวโลกทั่วไป นับได้ว่าเป็นผู้มีวิชา อาคมขลังคนหนึ่ง ในปีที่หลวงปู่บุญ ได้มรณภาพลงนั้นตรงกับปี พ.ศ. 2478 หลวงพ่ออั๊บ มีอายุได้ 13 ปี เมื่อหลวงปู่บุญได้มรณภาพลงแล้ว หลวงพ่อเกษม (อั๊บ) ได้กลับไปอยู่กับบิดา-มารดาที่บ้านท้องไทร ช่วยกิจการงานบ้าน ทำนา อย่างขยัยขันแข็ง จนอายุครบที่จะทำการบรรพชา
    อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงได้ทำการ อุปสมบท ณ.พัทธสีมา วัดทุ่งน้อย ต.แหลมบัว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
    โดยในสมุดใบสุทธิของหลวงปู่อั๊บ ได้บันทึกไว้ดังนี้..........

    พระอุปัชฌาย์ พระอธิการมา วัดทุ่งน้อย พระกรรมวาจารย์ พระอธิการฮะ วัดโคกเขมา (อ่านโคกขะเหมา) พระอนุสานาจารย์ พระอธิการพลัด วัดท้องไทร อุปสมบท เมื่อ อายุ 20 ปี เมื่อวันที่ 28 เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2485 เวลา 15.18น. ณ.วัดทุ่งน้อย ต.แหลมบัว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม หลังจากอุปสมบทแล้วได้กลับมาอยู่ที่วัดท้องไทร อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

    เมื่อบวชได้ 3พรรษา ได้เดินเท้าไปวัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี เพื่อไปหาพระเล็กพระน้าชายซึ่งขณะนั้นได้ไปพักจำพรรษาอยู่ที่นั่น วัดหนองบัว ขณะนั้นมี หลวงปู่เหรียญ ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเป็นเจ้าอาวาสอยู่ หลวงปู่เหรียญท่านนี้ เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ยิ้ม อดีตเจ้าอาวาสองค์ก่อนซึ่งมีวิชาอาคมเก่งกล้าเป็นยิ่งนัก แม้แต่หลวงปู่ศุขวัดมะขามเฒาซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ร่วมสมัยกัน ยังเกรงใจ ในวิชาของหลวงปู่ยิ้ม และยังเคยเดินทางมาพักที่วัดหนองบัว
    ส่วนพระสหธรรมิกอีกรูป หนึ่งที่สำคัญของหลวงปู่ยิ้มคือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ในหนังสือประวัติวัดหนองบัวบันทึกไว้ว่า ในวันที่เผาศพหลวงปู่ยิ้มนั้นไม่สามารถ เผาร่างสังขารของท่านได้ จนต้องนิมนต์หลวงปู่ขึ้นไปทำพิธี จึงสามารถเผาศพของท่านติดไฟได้ นับว่าอัศจรรย์เป็นยิ่งนัก หลวงปู่อั๊บท่านเล่าว่า อยากจะขอเรียนวิชากับ หลวงปู่เหรียญแต่พระน้าชายไม่ยอมให้เรียน แต่ในขณะที่พักอยู่ที่ วัดหนองบัวประมาณ 2 เดือน ได้มีชาวบ้านในแถวนั้นได้นำ พระเนื้อดินเผาและพระเนื้อผงมาถวายท่าน ( เป็นพระที่สมัยหลวงปู่ยิ้ม แห่งวัดหบองบัวได้ทำการจัดสร้างไว้แล้วนำไปบรรจุไว้ตามในถ้ำในเขตวัดหนองบัว) อาทิเช่น พระพิมพ์ยืนประทานพร พิมพ์ขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว พิมพ์ปางมารวิชัย พิมพ์ 3 ชั้นหูบายศรี พิมพ์สมเด็จ 3 ชั้นพิมพ์สมเด็จ 7 ชั้นและพิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ เป็นต้น

    เมื่อหลวงปู่อั๊บท่านได้กลับมายังวัดท้องไทร ท่านได้นำพระเหล่านั้นกลับติดตัวมาด้วย บางส่วนท่านได้ทำการแจกให้แก่ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดไปพอประมาณ เมื่อมีผู้ที่นำไปบูชาแล้วได้เกิดอภินิหารมากมายแล้วกลับมาเล่าให้ท่านฟังท่านจึงได้นำชึ้นไปเก็บที่ห้องบนกุฎิท่านและไม่ได้นำออกมาอีกเลย หลังจากที่หลวงปู่ได้กลับมาอยู่ที่วัดท้องไทรแล้วนั้นท่านได้ไปฝากตัวขอเป็นศิษย์กับ
    หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา เพื่อขอเล่าเรียนวิชาอาคมต่างๆจากหลวงพ่อน้อย หลวงพ่อน้อยท่านนึ้มีความเก่งกล้าในวิชาอาคมเป็นอย่างยื่งนัก ยิ่งวาจาของท่านแล้วเป็นปกาศิตยิ่งนัก หรือ วาจาศักสิทธิ์นั่นเอง พูดสิ่งใดแล้วมักเป็นสิ่งนั้น แม้แต่หลวงพ่อเงิน แห่งวัดดอนยายหอมยังให้ความนับถือ ซึ่งหลวงพ่อน้อยท่านก็เมตตาถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆให้อย่างไม่ปิดปัง พร้อมทั้งยังมอบตำรายันต์พระเวทย์ให้กับหลวงปู่อั๊บมา 1 เล่ม(ของพ่อน้อยวัดธรรมศาลา1เล่ม หลวงพ่อจงวัดหน้าต่างนอก1เล่ม)

    เป็นตำรายันต์ลายมือหลวงพ่อน้อย มีบางส่วนที่เป็นลายมือของพระตุ๋ยซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อน้อยซึ่ง หลวงพ่อน้อยเรียกมาใช้บ่อยๆเพราะเขียนอักขระเลขยันต์ได้สวยงามดี(ต่อมาได้ลาสิกขาเป็นฆาราวาส)
    นับได้ว่าหลวงพ่อน้อยท่านเป็นครูอาจารย์ที่สำคัญยิ่งองค์หนึ่งของหลวงปู่อั๊บเลยที่เดียวและในช่วงเวลาที่หลวงปู่อั๊บว่างท่านได้เดินทางไปกราบ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้องและได้ขอเรียนวิชาจากหลวงพ่อแช่มมาด้วยอย่างเช่น การนำกระเบื้องแตกมาลงอักขระแล้ว นำไปไว้ในใจกลางที่ดินเพื่อที่จะขายเป็นต้น
    ส่วนอีกองค์หนึ่งคือหลวงพ่อจันทร์ วัดบ้านยางซึ่งเป็นสหธรรมมิกกันกับหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงปู่อั๊บท่านได้กราบขอเป็นศิษย์เช่นกัน แต่หลวงพ่อจันทร์ท่านสั่งให้ไปหาที่วัดและให้นำหัวหมูไปด้วย 1 หัวแล้วท่านจะถ่ายทอดวิชาให้หมด

    แต่เมื่อหลวงปู่อั๊บได้กลับมาวัดท้องไทรแล้วได้ล้มป่วยลงด้วยไข้มาลาเรียหรือสมัยนั้นเรียกว่าไข้ป่า ท่านเล่าว่าป่วยคราวนั้นเกือบตายเป็นๆหายๆอยู่ประมาณ 3 เดือน เมื่อหายจากไข้จึงทำการเดินทางไปหาหลวงพ่อจันทร์อีกครั้ง แต่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งว่าหลวงพ่อจันทร์ท่านได้มรณภาพลงเสียแล้ว จึงไม่ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงพ่อจันทร์เอาไว้เลย
    เมื่อท่านบวชได้ 8 พรรษาหลวงปู่อั๊บได้เดินทางไปยังจ.สุพรรณบุรี เพื่อไปฝากตัวเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว หลวงพ่อโบ้ยท่านมีความเชี่ยวชาญในสายวิปัสสนากรรมฐานเป็นยิ่งนัก มีความศักดิ์สิทธิ์ใน วิชาอาคมขลังเป็นเลิศ หลวงพ่ออั๊บได้ขอขึ้นกรรมฐานธุดงค์กับหลวงพ่อโบ้ย ซึ่งหลวงพ่อโบ้ย ท่านก็ได้สอนหลักการเดินธุดงค์การอยู่ในป่าให้อย่างละเอียด จึงนับได้ว่า หลวงพ่อโบ้ย คือ ครูกรรมฐานที่แท้จริงของหลวงพ่ออั๊บ

    หลังจากหลวงปู่อั๊บได้กลับมาจากวัดมะนาวแล้วท่านได้ไปจำพรรษาที่ วัดโคกเขมา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดท้องไทรมากนัก 1 พรรษา(พรรษา 10) ในปีพ.ศ.2495(พรรษา 11)ได้มีญาติโยมได้นิมนต์ท่านไปอยู่ที่ วัดใหม่ต้านทาน อ.บางซ้าย จ.อยุธยา เมื่อท่านได้มาอยู่จ.อยุธยาแล้วท่านได้มีโอกาสไปฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อ.บางไทร จ.อยุธยา ซึ่งหลวงพ่อจงท่านนี้นั้นนับได้ว่าเป็นเกจิที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นอย่างมาก จนมีผู้คนทั่วไปกล่าวขานคำคล้องจองกล่าวกันว่า จาด-จง-คง-อี๋

    จาด คือ หลวงพ่อจาด แห่งวัด บางกระเบา จ.ปราจีนบุรี
    จง คือ หลวงพ่อจง แห่งวัด หน้าต่างนอก จ.อยุธยา
    คง คือ หลวงพ่อคง แห่งวัด บางกระพร้อม จ.สมุทรสงคราม
    อี๋ คือ หลวงพ่ออี๋ แห่งวัด สัตหีบ จ.ชลบุรี
    หลวงปู่อั๊บท่านได้เรียนวิชาอาคมจาก หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.อยุธยา ไว้มากพอสมควร และหลวงพ่อจง ท่านได้สอนวิปัสนากรรมฐานให้และวิชาอื่นๆอีกหลายๆอย่างด้วยกัน อย่างเช่น วิชาตะกรุดลอยน้ำ ซึ่งเป็นวิชาชั้นสูงและอักขระเลขยันต์ต่างๆ

    ตั้งแต่ปี พ.ศ.2495- พ.ศ.2505 นั้นท่านได้จำพรรษาณ.วัดใหม่ต้านทาน อ.บางซ้าย จ.อยุธยา เป็นเวลา11 พรรษา หลังออกพรรษาเมื่อรับกฐินแล้วท่านได้ออกธุดงค์เพื่อหาความวิเวกทุกๆปี ในช่วงเวลา 11 พรรษานี้ท่านได้เรียนวิชาอาคมต่างๆเพิ่มเติมและฝึกจิตจนมีความก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วจากการที่ท่านได้ธุดงค์อยู่ในป่า ถ้ำ เขา ทำให้ท่านมีพลังจิตแกร่งกล้าเป็นยิ่งนัก ท่านเล่าว่าได้เดินธุดงค์ไปทั่วประเทศมาหมดแล้ว ในช่วงที่ท่านได้เดินธุดงค์อยู่นั้นได้พบพระธุดงค์ด้วยกันถ้าพระรูปใดได้แสดงวิชาอะไรให้ได้ดูให้เห็นเป็นที่ประจักษ์จริงแก่สายตาแล้ว ท่านขอเรียนไว้หมดโดยท่านบอกว่าไม่สามารถที่จะจำชื่อได้หมด ในช่วงที่ยู่อยุธยานี้ได้ไปขอเรียนวิชาอย่างหนึ่งที่พิศดารยิ่งคือวิชาการทำตะกรุดกัน อสรพิษ จาก หมอถ่าย หมอถ่ายนี้เป็นฆาราวาสที่พักอาศัยอยู่ใกล้ๆกับวัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี หมอถ่ายนี้สามารถเอางูเห่าใส่ย่ามสะพายไปไหนมาไหนได้โดยงูไม่กัดและสามารถนำงูออกมาอาบน้ำในกาละมังได้โดยงูไม่กัด หลวงปู่อั๊บไปขอเรียนอยู่ถึง 7 ปีหมอถ่ายจึงยอมสอนให้แต่ก็ได้ไม่หมดเพราะหลวงปู่อั๊บไม่มีฝิ่นไปบูชาครู นับว่าเป็นวิชาที่พิสดารคือถ้าผู้ใดได้คาดตะกรุดกันงูนี้อยู่กับตัว ถ้าไปเหยียบงูพิษเข้า งูไม่สามารถที่จะอ้าปากกัดได้และวิธีการทำก็ยุ่งยากมาก เคยเห็นท่านนั่งผูกตะกรุดกันงูต้องปิดปากเอาลิ้ดันเพดานปากไว้แล้วทำการภาวนาขณะถักตะกรุด ด้านหนึ่งมี 9 เปลาะแล้วเอาตะกรุดร้อยเข้าแล้วจึงถักอีกด้านหนึ่ง 7 เปลาะขณะทำการถักห้ามพูดคุยเด็ดขาด ถ้าเกิดไอหรือจามหรือเผลอพูดออกมาเป็นอันว่าตะกรุดดอกนั้นเสียทันทีต้องแก้ใหม่หมด ท่านบอกว่าเวลาถักตะกรุดกันงูทีไร ฉันอาหารไม่ค่อยได้ไปหลายวัน

    ในปีพ.ศ.2506-2507 ญาติโยมได้นิมนต์ท่านไปจำพรรษาที่วัดวังชะโด อ.บางซ้าย จ.อยุธยา เป็นเวลา 2 ปีรวมแล้วหลวงปู่อั๊บ มาจำพรรษาอยู่ที่จ.อยุธยาทั้งหมดเป็นเวลาถึง 13 ปี
    ในปีพ.ศ.2508 หลวงปู่อั๊บ มีอายุ 43 ปีญาติโยมทางท้องไทรได้มานิมนต์ให้หลวงพ่อกลับมาอยู่ที่วัดท้องไทร อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เพื่อไปโปรดญาติโยมที่บ้านเกิดบ้างท่านจึงได้กลับมาอยู่ที่วัดท้องไทรตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ปีที่ท่านได้กลับมาอยู่วัดท้องไทร นั้นอายุได้ 43 ปีย่าง 44 ปี (ได้24พรรษา)
    ในปีพ.ศ.2509 หลวงปู่อั๊บได้ดำริจะสร้างศาลาการเปรียญขึ้นมาสักหลัง ลูกศิษย์จึงขออนุญาติทำการจัดสร้างเหรียญ ซึ่งเป็นรุ่นแรกของหลวงปู่อั๊บ ขึ้นมาเป็นเหรียญรูปไข่ครึ่งองค์เนื้อทองแดง จำนวนที่จัดสร้าง 10,000 เหรียญ เพื่อมอบสมนาคุณให้แก่ญาติโยมที่บริจาคทรัพย์สร้างศาลาการเปรียญพร้อมกันนี้ท่านได้ทำการสร้างตะกรุดกันงูขึ้นมาด้วยเพื่อแจกพร้อมกับเหรียญรูปไข่ด้วย

    ญาติโยมที่ได้รับไปบูชานั้นได้พบเจอกับอภินิหารมากมายนับไม่ถ้วนเป็นการสร้างชื่อเสียงขจรขจายให้ผู้คนทั้งหลายได้รู้จักกับ หลวงพ่อปู่อั๊บ แห่งวัดท้องไทร จนโด่งดังไปทั่วมากยิ่งขึ้นและ หลวงปู่อั๊บก็ยังได้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านท้องไทรตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา


    เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2513หลวงปู่อั๊บได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสแห่งวัดท้องไทรและยังได้รับการแต่งตั้งเป็น พระกรรมวาจาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    ท่านได้นำวิชาต่างๆที่ได้ร่ำเรียนมาสงเคราะห์ผู้คนทั่วไปดังนี้....
    1. วิชาการแพทย์แผนโบราณรักษาด้วยสมุนไพร
    2. วิชาการรักษาโรคเกี่ยวกับกระดูก-เส้นเอ็น
    3. วิชาการแช่น้ำมนต์
    4. วิชาการถอนคุณไสย(ถอนของ)
    5. วิชาการสักเศกอักขระเลขยันต์
    วิชาการแช่น้ำมนต์ถอนของนี้หลวงปู่อั๊บท่านได้ไปขอเรียนกับ ก๋งสุข ซึ่งเป็นคนจีนบ้านอยู่ที่ จ.อยุธยา ก๋งสุขนี้เมื่อสมัยตอนรุ่นๆได้ต้มน้ำร้อนถวาย หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเท่า เป็นลูกศิษย์ที่รับใช้หลวงปู่ศุขอยู่ถึง 10 ปีหลวงปู่ศุขจึงถ่ายทอดให้มาและได้สั่งเอาไว้ด้วยว่า ถ้ามอบให้ใครแล้วมึงก็ต้องตายเสีย หลวงปู่อั๊บเพียรไปเรียนอยู่ประมาณ 6 ปี ก๋งสุขจึงยอมมอบวิชาให้หลังจากถ่ายทอดวิชาการทำน้ำมนต์ถอนของให้กับหลวงปู่อั๊บ แล้วประมาณ 1 เดือน ก๋งสุขก็เสียชีวิตในวัย 90 ปีเศษ

    วิธีการรักษา ของหลวงปู่อั๊บ แห่ง วัดท้องไทรนั้น
    ผู้ใดสงสัยจะถูก คุณไสย ลมเพลมพัด ท่านจะให้นำน้ำกรองสะอาดใส่ในกาละมังพอมิดหลังเท้าแล้วเอาน้ำมนต์ที่ท่านทำไว้ใส่ลงไปด้วย ล้างเท้าให้สะอาดแล้วจึงเอาเท้าแช่ลงไปในกาละมังนั้นเอาน้ำมนต์ดื่มเข้าไปด้วย ถ้าคนป่วยนั้นถูกคุณไสย ถูกของมาจริงก็จะถูกขับออกมาในกาละมังนั้นโดยแช่วันละ 3 ชั่วโมงติดต่อกัน 3 วันจนครบ 9 ชั่งโมงแล้ว หลวงพ่ออั๊บจะรดน้ำมนต์ให้อีกครั้งหนึ่ง
    บางคนเป็นหนักจนไม่ได้สติจนต้องหามกันมาก็มีก็มาหายด้วยน้ำมนต์ของหลวงปู่อั๊บ มากมายนับไม่ถ้วน บางคนอยากจะแช่ทั้งตัวก็มีอ่างปูนซีเมนต์ขนาด 4 เหลี่ยมใส่น้ำลงไปแล้วเอาน้ำมนต์ใส่ลงไปจึงลงไปนั่งแช่ทั้งตัว ค่ารักษาก็มีเพียง ธูป เทียน ดอกไม้และบุหรี่ 1 ซองกับเงินค่าครูแค่ 12 บาทเท่านั้น บางคนเป็นอัมพฤต อัมพาต มาแช่แล้วเอายาไปกินหายเดินได้มาก็มาก ท่านได้สงเคราะห์ผู้คนที่เป็นเช่นนี้มา หลายสิบปี ถ้าจะนับจำนวนผู้ป่วยที่ท่านทำการสงเคราะห์ก็ไม่อาจที่จะสรุปได้ว่ากี่หมื่นกี่พันราย

    ครูอาจารย์ที่หลวงปู่อั๊บได้ไปขอเล่าเรียนวิชามามีดังนี้.........
    1.พระเล็ก เป็นพระพี่ชายศึกษาเล่าเรียนวิชาการทำตะกรุดโพธิ์กลับพระเล็กได้ไปเล่าเรียนวิชานี้มาจากหลวงพ่อคำ วัดดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี วิชานี้เป็นวิชาสำคัญอย่างหนึ่งซึ่งหลวงพ่อไม่ค่อยได้ทำให้ใคร เนื่องจากพรรษาหนึ่งเพียง 9 ดอกเท่านั้นและต้องทำจาก แผ่นเงิน และ ทองคำเท่านั้น (ตอนที่ท่านไปเรียนวิชานี้มาจากราชบุรีนั้น หลวงพ่ออั๊บท่านขี่ม้าไปเรียน จนม้าที่หลวงพ่อขี่นั้นตายไปเป็นตัวๆ)
    2.หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา จ.นครปฐม ศึกษาเล่าเรียนวิชาอักขระเลขยันต์และพระเวทย์ต่างๆและยังได้ตำรายันต์มาจากหลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลามาอีก 1 เล่ม
    3.หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จ.นครปฐม ศึกษาเล่าเรียนวิชาการลงเลขยันต์ที่แผ่นกระเบื้องแล้วนำไปไว้กลางที่ดินเพื่อให้ขายได้ เป็นต้น
    4.หลวงพ่อจง วัดหน้าต้างนอก จ.อยุธยา ศึกษาเล่าเรียนวิชาวิปัสสนากรรมฐานและอักขระเลขยันต์ต่างๆ วิชาการทำตะกรุดลอยน้ำ ซึ่งเป็นเมตามหานิยมอย่างสูง(ตำราอีก 1เล่ม)
    5.หลวงพ่อหอม วัดหนองเสือ จ.นครปฐม ศึกษาเล่าเรียนวิชาทำน้ำมันมนต์ สมันไพรประสานกระดูกละเส้นเอ็น ซึ่งหลวงพ่อหอมเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อจวน หลวงพ่อจวนเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี
    6.หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว จ.สุพรรณบุรี ศึกษาเล่าเรียนวิชาขึ้นกรรมฐานธุดงค์
    7.ก๋งสุข ศึกษาเล่าเรียนวิชาทำน้ำมนต์ถอนของ
    8.โยมถ่าย ศึกษาเล่าเรียนวิชาการทำตะกรุดกันงู
    และยังมีครูบาอาจารย์อีกหลายๆท่านที่ไม่ได้เอ่ยชื่อไว้ (หลวงพ่อจำไม่ได้) จนนับไม่ถ้วนจนตำราที่ท่านได้ไปศึกษาเล่าเรียนมา หลวงปู่อั๊บท่านบอกเอาไว้ว่าต่อให้มีรถกระบะก็ใส่ตำราที่เรียนมานั้นก็ไม่หมดบางเล่มก็มีคนยืมเอาไปแล้วไม่ได้นำมาคืนหลวงพ่ออั๊บก็หลายเล่มและอีกส่วนหนึ่งก็อยู่ที่ วัดใหม่ต้านทาน จ.อยุธยา

    หมายเหตุ
    อนึงอ้างอิงข้อมูลมาจาก พระอาจารย์พระครูปลัด ขวัญชัย สุจิตฺโต (รักษาการเจ้าอาวาส วัดท้องไทร)
    นาย นริทร์ กำบัง ผู้จดบันทึก
    ศิษย์วัดท้องไทร ผู้จัดทำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2013
  3. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    แหะๆ...ผมไม่ได้กั๊ก ครับ แต่รู้แค่นี้ ที่รู้น้อยเพราะมาทีหลัง เขามีเจ้าที่ ก้นกุฏิ เขียนมาก่อน ผมก็ไปอ่านของเขามาเหมือนกัน

    ลอง search ๆ ดูน่ะครับ มีหลายท่าน ลองหาอ่านดูน่ะครับ มีการเขียนไว้เยอะแล้ว

    ผมแค่ศิษย์หางแถวมาก มาเจอท่าน หลวงพ่อท่านก็แก่มาก ผมก็เริ่มแก่ ...แหะๆ เลยได้อะไรมาไม่มากครับ ...หางแถวจริงๆครับ

    แต่ผมมีความรัก ความชอบในตัวท่านมาก ที่ท่าน สมถะ แบบคนโบราณดีครับ และ มากวิชา เรียนมา ท่วมหัวไปหมด ครับ...ท่านเก่งจริงๆ
     
  4. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289

    ๑. เรื่องนี้ผมได้ยินมาอีกทางแต่ไม่รับรองความถูกต้องน่ะครับ วิชาโพธิ์กลับ สุดยอดวิชาของหลวงพ่อ ด้านคุณพระ เป็น มาจากสายหลวงปู่ บญ วัดกลางบางแก้ว สมัยหลวงปู่บุญ ท่านทำให้เฉพาะคนจริงๆครับ จึงไม่แพร่หลาย ไม่ทราบว่ามาก่อน หลวงพ่อ คำ วัดดอนทรายหรือไม่

    ส่วนวิชา เด่นที่สุด ที่สำคัญที่สุดอีกอัน คือ วิชานางพิม ก็ไม่ได้กล่าวไว้ ว่าเรียนมาจากอาจารย์เขมร และ เป็นสาย ธิเบต ถ่ายทอดกันมาหลายพันปี

    และ วิชาที่เจ๋งสุดๆอีกอัน คือ กันงู ก็ไม่ทราบใครได้วิชาไว้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2013
  5. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ครับ
     
  6. weerawos

    weerawos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +188
    ขอบพระคุณมากครับ คุณพีเสาวภา ได้ความรู้ไปในหลายแนวทางครับ
     
  7. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    ตามมาแสดงตัวแบบเงียบๆครับสวัสดีครับลุงพีและญาติธรรมทุกท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2013
  8. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ไม่ต้องเงียบมากก็ได้ครับ

    เอาแบบสบายๆ ซิวๆ
     
  9. nu_wa

    nu_wa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    2,740
    ค่าพลัง:
    +10,698
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง หลวงปู่บุญศรีครับ
     
  10. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437
    น้อมกราบหลวงปู่บุญศรีด้วยเศียรเกล้า
    อรุณสวัสดิ์พี่พี พี่ช้าง พี่นก พี่แสงแข พี่โจ พี่รุ่ง คุณcc คุณส่างปา และคุณญานกร.
     
  11. monkeyboy55

    monkeyboy55 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2007
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +545
    พระนักธรรม ดีแน่นอนครับ ใส่แล้วรู้สึกปลอดโปร่ง

    ต้องขอบคุณพี่พี ที่เมตตาเขียนบทความต่างๆให้ผมได้รู้จัก มีวาสนา ได้นับถือหลวงพ่อทรงด้วยครับ
     
  12. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ถ้าท่านได้ผล

    ผมก็ดีใจ...แหะๆ ขอแค่นี้ครับ ไม่ได้มีอะไรมาขายท่าน
     
  13. SpringDove

    SpringDove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,488
    ค่าพลัง:
    +4,807
    สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ จำนำไปปฎิบัติตามค่ะ เหมือนรู้ทันเลยนนะคะ วันก่อนเพิ่งคุยกับพี่รุ่งไปเองว่า "ปลงอุเบกขาไม่ค่อยลงเลยค่ะ":':)':)'(

    ขอบพระคุณค่ะ เดี๋ยวจะลองตามแกะลายแทงค่ะ


    ใกล้ปีใหม่ไทยแล้ว รวยกันให้ฉ่ำอุราไปเลยนะคะ
     
  14. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    [​IMG]



    กราบ กราบ กราบ หลวงตาเล็ก หลวงพ่อทรง หลวงพ่ออั๊บ ค่ะ
     
  15. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ครับ

    พระนักธรรม พระแจกฟรี ของผู้เฒ่าเหรียญบิน โด่งดังทั่วประเทศ เชียงรายยันปัตตานี ตามที่มีคน เคยติดต่อขอผมมา

    ตอนนี้พระงวดมาก ผมเลิกแจกแล้วน่ะครับ ใครอยากได้ ถ้าจะเอาจากผม รอประมูลเอาอย่างเดียว เงินจะเอาไปช่วยพระพุทธศาสนา และสังคม

    พระนักธรรม พระที่ พ่อค้าพระ ขายวัตถุ รูปพระเลี้ยงชีพ แต่ยังดันปรามาสอาชีพตัวเอง ไว้ว่า

    พระ....อะไรว่ะ ใส่แล้ว เรียนเก่ง ( กูไม่เชื่อ...ประมาณนั้น และ ท่านอย่าไปเชื่อ .... อย่าไปซื้อ ไปหา ....ประมาณนี้)

    ที่เขาว่าแบบนั้นเพราะเขาไม่มีขาย กลัวผมจะมีขายรวยข้างเดียวจะรวยเกินไป...เหอๆๆ เลยปรามาสไว้

    แต่ถ้าเขามีขายสักลัง นวนิยายจะเปลี่ยนไป จะต้องดันท่านผู้เฒ่าให้เป็นพระอรหันต์ ปฎิสัมภิทาญานแบบพิเศษ มีปาฏิหาริย์เพียบ แทบจะเหาะได้ เสกพระจนขลังสุดๆ...แหะๆ ให้รีบหาไว้ หาที่ไหนไม่ได้ ....เรามีบริการ...คริๆ

    แต่เวลาผ่านไป ความจริงก็เป็นความจริง ว่า

    ๑) ผมมีแต่แจกไปตั้งแต่ ท่านผู้เฒ่ายังไม่ล่ะสังขาร ถ้าใครเคยซื้อพระนักธรรมไปจากผม
    ผมไปรับซื้อคืน ให้ราคา ๕,๐๐๐ เท่าจากที่ซื้อผมไป สมมุติ ถ้าซื้อจากผมไป ๑๐๐ บาท รับซื้อคืน ราคา ๕๐๐,๐๐๐ บาท จ่ายสดทันทีที่เห็นพระและเห็นหน้า ว่าซื้อไปจากผมจริง เงินสดๆ ไม่มี fake มาจริง จ่ายจริง ไม่มีตัวแสดงแทน

    ถ้าคนกระสันต์อยากขายเลี้ยงชีพ เอามายากะเพาะลำใส้ เลี้ยงครอบครัว ห้า...หกปี มานี่มันต้องเผลอขายไปสักองค์น่า...คริๆ แต่ดันมีสติอยู่บ้าง ...ไม่เผลอ

    ๒) พระนักธรรม ของเขาดีจริง ใครเอามาวางขาย จะหายวับไปในทันที ในอนาคตอันใกล้ มีปลอม แน่นอนๆ เพราะพระนี้ดังมาก ดังไม่ตก มาแรง มาเรื่อยๆ พระนักธรรม เป็นของจริงที่ทนคำปรามาส ทั้งปวง มีคนติดต่อ ขอซื้อผม ทีละ ๑๐๐ องค์ คงกะจะตุนไว้ขายในอนาคต ...แหะๆ กราบขอบคุณที่จะเอาเงินมาให้ แต่ผมเก็บพระไว้จะดีกว่าครับ...แหะๆ

    ผมมีเหตุ จะเขียนเรื่องนี้ต่อ แต่ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่

    ว่าใครเอาข้อเขียนผมไปอ้างการขาย เพื่อให้ได้เงินมา โดยไม่ขออนุญาตผมที่เป็นเจ้าของเรื่องก่อน ผมจะเตือนท่านว่า ท่านละเมิดลิขสิทธิ์ ข้อเขียนทาง สิ่งพิมพ์ internet ของผม เป็นคดีอาญาได้น่ะครับ ถ้าผมเอาเรื่อง และ บทลงโทษ มีปรับ และถึง ติดคุก....ได้น่ะจ้ะ ไม่ได้ขู่ แต่เขามีกฎหมายคุ้มครอง สิทธิ์โดยชอบธรรมอยู่ และ ถ้าผมไปลอกใครเอามาเขียน ก็แจ้งความได้เหมือนกัน

    แต่ถ้าท่านเอาข้อเขียนไปอ้างการขาย เพื่อเอาเงิน ไปบำรุง พระศาสนา ทำเพื่อสังคมไทย ประเทศไทย โดยไม่หักค่าใช้จ่าย ทำได้เลยไม่ต้องขออนุญาต ผมเขียนอนุญาตเป็นทางการตรงนี้และขอโมทนา ขอบุญ ขอกุศล โมทนามาแบ่งให้ผมและครอบครัวด้วย

    หรือ ท่านเอาข้อเขีนผมไปอ้างการขาย เพื่อเอาเงินมาเลี้ยงดูรักษา พยาบาล พ่อ แม่ ท่านก็ทำได้เลยผมอนุญาต และ ยินดีเป็นอย่างยิ่ง

    นอกจากนี้ผมไม่อนุญาตให้ลอกข้อมูลทางปัญญาผมไปใช้ประโยชน์ส่วนตน ท่านขายเอง ท่านต้องเขียนเอาเอง อยากจะเอาข้อมูลจริงๆ ก็ขออนุญาตตามมารยาทผู้ดี เป็น ลายลักษณ์อักษร มาทางเมล์ และ ผมจะพิจารณาตามเหตุผล ถึงจะอนุญาตให้

    เพราะการซื้อขายของท่านผมไม่รับรู้ด้วยว่าของเก๊ หรือแท้ ถ้าแท้ก็ดีไป ถ้าเก๊ใครจะรับผิดชอบ คนทั่วไปจะนึกว่าผมมีส่วนร่วมขายด้วย เพราะคนที่ซื้อคงมาอ่านข้อมูลจากบ้านเหรียญบินค่อนข้างแน่

    การอ้างข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่ผิด เมื่อไปดึงมา ก็บอกว่ามาจากไหน มาจากใคร ใครเขียน ให้เครติดคนเขียน ไม่ใช่ ไปก็อบมายำ เหมือนตัวเองเขียนเอง และ จะขายเอง

    การดึงข้อมูล ในแต่ล่ะท่อน แต่ล่ะ เหตุการณ์ เอามาผสมกัน มัน อาจจะไม่ได้ อรรถรส เจตนาตามที่คนเขียนต้องการ ท่านไปลอกเอาเอามาป่ะแต่งละเลง ตามใจของท่าน เหมือนคนลอกเอาเพลงเขามาใส่เนื้อร้องเอง เนื้อร้องอาจจะไม่ถูกใจคนแต่งเพลงคนแรก เพราะคนล่ะอารมณ์ การเขียนหนังสือเป็นศิลปะ เป็นวรรณกรรมทางปัญญา ถ้าท่านหาไม่พบ ก็อย่าไปทำลายอารมณ์ศิลปิน ของเขา ปล่อยเขาไปตามทางของเขา

    ยิ่งไปลอกอย่างเดียว อารมณ์แค่เอามาขายของ มันหลุดจากอารมณ์ศิลปินไปเลย ถ้าท่านไม่เข้าใจ ผมก็ไม่ทราบจะอธิบายต่ออย่างไรได้

    กราบขอความร่วมมือให้มีมารยาทผู้ดีกันบ้างน่ะครับ จะเอาของใคร บอกเจ้าของเขาก่อนก็ดีครับ คนดีๆ ทั่วไป เขาไม่ทำกันแบบนี้ เขาไม่เอาของคนอื่นโดยเจ้าของไม่อนุญาต ผิดทั้งศีล อทินนา ผิดทั้งธรรม เรื่องมารยาทผู้ดี

    ใจของท่านเองจะบอกผิดและถูก .....ผมแค่แจ้งให้ทราบตามสิทธิ์อันชอบธรรมของผมเอง

    กราบขอบคุณทุกท่านครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2013
  16. puedpunon

    puedpunon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    7,130
    ค่าพลัง:
    +16,093
    ภาพสังขารหลวงปู่อั๊บ นำมาฝากบ้านเหรียญบินครับ

    [​IMG]
     
  17. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    กราบหลวงปู่-หลวงตาด้วยความเคารพครับ:cool::cool:
     
  18. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410


    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่ออั๊บ วัดท้องไทร ค่ะ
     
  19. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ครับ
     
  20. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410

    คุณพี เสาวภา กับ เจตนาการสร้าง แม่พิมรุ่น รวย

    อ่านได้ครบที่นี่ค่ะ หน้า ๒๑๖๓ http://palungjit.org/threads/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%8D%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87-%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%81-%E0%B8%99-%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%97%E0%B9%97.122347/page-2163
     

แชร์หน้านี้

Loading...