พุทธภูมิ ระดับ อุปบารมี

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Saber, 2 เมษายน 2013.

  1. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    "ลุงบู๊เหลาไม้ไผ่เป็นตอกเส้นเล็ก ๆ สวดอิติปิโสฯ ได้จบหนึ่งก็เด็ดตอกนิดหนึ่งใส่ปีบไว้ ไม่รู้กี่สิบปีบเต็มบ้านไปหมด พอถึงวันพระ ลุงบู๊จุดตะเกียงกระป๋องรอบบ้านเลย กี่สิบดวงก็ไม่รู้ ? แล้วเดินจงกรมรอบบ้านถวายเป็นพุทธบูชาทุกวันพระ

    เวลาคนมาขโมยข้าวของในไร่ในสวน ขโมยกล้วย ขโมยมะพร้าว ขโมยมะนาว ลูกวิ่งมาฟ้อง ลุงบู๊บอกว่า “ให้เขาไปเถอะ ถ้ามีเขาไม่มาเอาของเราหรอก” แกไม่ใช่คนมั่งมี แต่แกเน้นเรื่องของการปฏิบัติภาวนา ตั้งความปรารถนาจะขอสำเร็จพระโพธิญาณในอนาคตกาล เข้าไปในบ้านแกมีแต่ปีบ ในปีบใส่เศษตอกที่นับเอาไว้ว่าตัวเองสวดอิติปิโสฯ ไปแล้วกี่จบ ซ้อนกันเป็นตั้ง ๆ เลย

    ท่านเจ้าคุณภาวนากิจวิมล หรือว่าหลวงพ่อเจ้าคุณอนันต์ของพวกเรานั่นแหละ กราบเรียนถามหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า “หลวงพ่อครับ..นี่พุทธภูมิระดับปรมัตถบารมีแล้วใช่ไหมครับ ? ” หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า “ยัง..แค่อุปบารมีเท่านั้น” โอ้..แล้วปรมัตถ์เขาทำอะไรกันบ้าง ?

    พวกเราเอาอย่างนั้นบ้างไหม ? ภาวนาทั้งวัน ถึงเวลาลูกเมียก็ส่งข้าวปลาวันละ ๒ มื้อ เวลาที่เหลือภาวนา เดินจงกรม สวดอิติปิโสฯ ได้บทหนึ่งก็เด็ดตอกมานิดหนึ่งใส่ปีบไว้

    พอเห็นเขาทำแล้วรู้สึกอายบ้างไหม ? ว่าเขาอุปบารมีเท่านั้น พวกเราหวังจะไปนิพพานชาตินี้ก็ต้องปรมัตถบารมี ในเมื่อปรมัตถบารมีก็แปลว่าต้องทำให้เข้มกว่าลุงบู๊ ฟังแล้วไปผูกคอตายดีกว่า เผื่อจะได้ไปนิพพานบ้าง..!"

    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๕๕
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๕๕ - หน้า 5 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน
     
  2. มหาพรหมราชา

    มหาพรหมราชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +903


    น่าคิดนะคับ ว่า ระดับ ปรมัตถบารมี เขาทำอะไรกัน มีสภาวะจิตและคิดอย่างไรกัน น่าคิดๆ แต่ถ้าท่านที่บำเพ็ญมาถึงแล้วก็คงไม่สงสัย
     
  3. 26

    26 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +374
    เคยอ่านคำสอนหลวงพ่อใครฝึกมโนมยิทธิได้ก็พุทธภูมิอุปบารมีขึ้นไป
     
  4. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    บารมีต้องสร้างเอง
     
  5. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    การให้ "อนุโมทนา" ก็เป็น มุทิตา(ยินดีที่ผู้อื่นกระทำกุศล) เป็นบุญอีกตัวหนึ่ง ซึ่งต้องสร้างควบคู่กันไปกับ บารมี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 เมษายน 2013
  6. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ทานบารมี

     
  7. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    บารมี ๑๐ ประการ"หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
     
  8. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    อธิษฐานบารมี
     
  9. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ศีลบารมี

    รักษาศีล ๘ อย่างไร ​

    พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

    เป็นประเพณีของชาวพุทธตั้งแต่ครั้งพุทธกาลที่อย่างน้อยจะรักษาศีล ๘ กันในวันพระ หรือวันอุโบสถ และเรียกขานศีล ๘ ในลักษณะนี้ว่าอุโบสถศีล และคงด้วยเหตุนี้กระมังที่ชาวล้านนาเรียกวันพระเป็นคำเมืองว่า วันศีล

    หลวงพ่อเคยเล่าถึงอานิสงส์ของการรักษาอุโบสถศีลแม้เพียงครึ่งวันของคนงานในบ้านท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ได้เป็นถึงรุกขเทวดาผู้มีฤทธิ์ใหญ่

    แต่ถ้าเราพยายามรักษาศีลเพียงเพื่ออานิสงส์ผลบุญก็อาจเปรียบได้เหมือนคนซื้อของมา ๑๐๐ แต่ใช้เป็นอยู่ ๕ บาท นับว่าน่าเสียดายยิ่ง อีกทั้งการรักษาศีลนั้นก็จะเป็นของหนัก ต้องอดทนฝืนใจ ชวนให้เลิกร้างเข็ดหลาบ จึงอยากชักชวนให้รักษาศีลกันอย่างให้ได้อานิสงส์เต็ม ๑๐๐ แถมยังเบาจิตเบาใจ เป็นสุข สมกับเป็นผู้เข้าถึงศีลถึงธรรม

    ศีลนั้นก็เปรียบเหมือนกฎหมาย การที่รัฐจะตรากฎหมายขึ้นบังคับใช้ ต้องมีปัญหา หรือรู้ว่าจะมีปัญหา จึงต้องการที่จะป้องกันปัญหาโดยตรากฎหมายนั้น ๆ ขึ้นมา สิ่งนี้คือจุดประสงค์ของกฎหมาย ฉะนั้นหากพลเมืองรู้หลัก รู้จุดประสงค์ของกฎหมาย และปฏิบัติกันเป็นปกติ การกระทำผิดกฎหมายก็ยากที่จะเกิดขึ้นได้ ทั้งที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องรู้กฎหมาย การบังคับใช้กฎหมายก็แทบจะไม่จำเป็นเลย

    ฉันใดก็ฉันนั้น หากรู้ชัดถึงเป้าหมายของศีลและปฏิบัติตนเพื่อเป้าหมายนั้นอย่างซื่ออย่างตรง ศีลก็จะบริสุทธิ์เป็นธรรมชาติอย่างไม่ต้องฝืนระวัง

    เป้าหมายของศีล ๘ คืออะไร หากพิจารณาข้อจำกัดที่เพิ่มมาจากศีล ๕ ดี ๆ ก็จะพบว่าสิ่งที่เพิ่มมานั้นเป็นการสำรวมสังวรอินทรีย์ ไม่ให้เพลิดไปกับสัมผัสต่าง ๆ ฉะนั้นศีล ๘ ก็คือเครื่องมือในการขัดเกลาขจัดกิเลสนั้นเอง ผู้ที่มีเป้าหมายนี้มั่นคงอยู่ในใจเข้ารักษาศีล ๘ ก็เปรียบดังผู้ที่จะซื้อของ ๑๐๐ บาทและรู้ชัดถึงประโยชน์ของสินค้านั้น ตั้งใจจะใช้ประโยชน์ได้ทั้ง ๑๐๐ บาท

    หลวงปู่มั่นเคยตอบคำถาม รักษาศีลทั้ง ๒๒๗ ข้ออย่างไรให้บริสุทธิ์ว่า ท่านรักษาข้อเดียว คือรักษาใจ ทั้งยังมีการอรรถาธิบายขยายความอย่างเกี่ยวเนื่องว่า ผู้ปฏิบัติธรรมพึงปฏิบัติตนดังคนจับเหี้ย ๖ รู โดยอุดปิดไว้ ๕ รูให้เหลือรูเดียว แล้วคอยเฝ้าแต่รูที่เปิดไว้ ก็จะจับเหี้ยได้โดยง่าย

    ๕ รูที่ปิด คือ การสัมผัสทั้ง ๕ มี รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส รูที่ ๖ คือ ใจ

    เมื่อน้อมนำธรรมะที่หลวงปู่เมตตาแสดงไว้มาประยุกต์ใช้กับการรักษาศีล ๘ ที่เป้าหมายของศีลคือการขัดเกลาขจัดกิเลสแล้ว ก็จะเห็นว่า ที่แท้การปฏิบัติธรรมกับการรักษาศีล ๘ นั้น เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ผู้มุ่งมั่นปฏิบัติธรรมจะรักษาศีล ๘ อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่รู้สึกว่าต้องฝืนต้องบังคับ โดยผู้รักษาศีลที่เป้าหมายจะเพียรหยุดยั้งการกำเริบกิเลสที่ใจทันที ประดุจบุรุษผู้เพียรจับเหี้ย ๖ รู แม้ตาไม่เห็นรูป จมูกไม่ได้กลิ่น หูไม่ได้ยิน ลิ้มไม่ได้รับรส กายไม่ได้สัมผัส ผู้ปฏิบัติย่อมตั้งสติระวังมิให้เกิดการปรุงแต่งขึ้นที่ใจ เช่น หากระลึกนึกถึงสิ่งเร้ากระตุ้นกิเลส อาจเป็นคนรัก อาจเป็นเพลงไพเราะถูกใจ ผู้ปฏิบัติก็พึงระลึกรู้ว่าเป็นสังขารปรุงแต่งที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการประพฤติปฏิบัติธรรม พึงระงับดับไปตั้งแต่ต้นมือ สังขารนั้นก็หยุดอยู่เพียงนั้น ไม่นำไปสู่การกระตุ้นปลุกเร้ากิเลสให้กำเริบรุ่มร้อน

    ผิดกับผู้พยายามรักษาศีลอย่างไม่รู้เป้าหมายของศีล ที่รักษาเพียงบทบัญญัติตามตัวอักษร มิได้รักษาที่ใจ เช่น เมื่อเห็นรูปเพศตรงข้ามที่ชอบใจ ก็นำไปปรุงแต่งในเชิงกามราคะจนกำเริบแรงกล้า แล้วต้องฝืนทนเพราะระลึกตนว่ารักษาศีลถือพรรมจรรย์อยู่ หรือเห็นอาหาร-ได้กลิ่นอาหาร ก็นึกไปถึงของชอบของอร่อย จนความอยากนั้นกำเริบแรงกล้า และหากเป็นระหว่างยามวิกาล ก็ต้องฝืนทนความหิวความอยากที่ตนปรุงแต่งกระตุ้นให้เกิดขึ้นเองที่ใจอย่างทรมานทั้งกายและใจ อย่างนี้เป็นต้น

    ท่านใดปรารภในพระโพธิญาณ ต้องบำเพ็ญหนักเพื่อศึกษาอย่างรู้รอบเตรียมสอนสรรพสัตว์เมื่อถึงวาระ ทั้งต้องสะสมบุญบารมีเผื่อแผ่ครอบคลุมเหล่าบริวารจำนวนนับไม่ได้ อีกท่านใดที่ปรารภในพระนิพพาน ก็ขอเชิญชวนให้รักษาอุโบสถศีลกันทุกรายปักษ์เป็นอย่างน้อย เพื่อประโยชน์ใหญ่ตามจุดประสงค์เป้าหมายของตนเอง

    รักษาศีล ๘ อย่างไร
     
  10. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    สัจจะบารมี
    เวลาจะตั้งอธิษฐานจิตให้กล่าวว่า “อิมัง สัจจะวาจัง อธิษฐานมิ”

    หลวงตายังบอกอีกว่า นักปฏิบัติควรจะมีการตั้งจิตอธิษฐาน แต่ก่อนที่จะเริ่มตั้งจิตอธิษฐานนั้น
    อย่าลืมพิจารณาก่อนว่า สิ่งนั้นๆ เราต้องแน่ใจว่าเราสามารถทำได้ เราต้องเข้มแข็งพอกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
    และการตั้งจิตอธิษฐานนี้ ท่านให้เริ่มจากทีละน้อยก่อน เช่น เริ่มจาก ๓-๗ วันก่อน
    แล้วค่อยเพิ่มเป็น ๑-๓ เดือน แล้วค่อยเป็นปี ถ้าเราสามารถปฏิบัติได้ ตามที่เราตั้งจิต

    อธิษฐานแล้ว บารมีของเราก็เพิ่มมากขึ้นมหาศาลนะ ถ้าทำได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ ทำไม่สำเร็จ ก็ต้องไปเริ่มต้นที่ ก ไก่ ใหม่


    คือทุกอย่างที่เราเคยสร้างไว้ ทำไว้ เป็นอันว่าสูญนะ แต่ทุกคนต้องทำนะ อย่ามัวแต่รอช้า
     

แชร์หน้านี้

Loading...