พระพุทธเจ้าน้อย มาจากไหน

มิได้ต่อต้านการทำกุศลทั้งปวงหมายรวมถึงกุศลที่เป็น นามธรรมและรูปธรรม

แต่การคิด..ลงมือ..และสำเร็จแล้ว พึงได้ทราบว่า การเริ่มต้นที่การคิดนั้น..การขนานนามนั้นถูกต้องหรือไม่? ถ้าขนานนามเอาตามความคิดตัวเองและคนอื่นพลอยตามไปด้วยเพราะเกรงใจ มันจะนำพาความเข้าใจและความเชื่อที่ผิดไปตลอดจนสู่อนาคตกาลเบื้องหน้า คนรุ่นหลังก็เข้าใจผิดต่อไปเรื่อยๆ หากมีผู้โต้แย้งภายหน้าก็หืดขึ้นคอล่ะ

แม้เจตนาดีแต่ขนานนามผิด..เผยแพร่ต่อไป..ไม่คิดแก้ไขให้ความกระจ่างก็ไม่สมควร... บุญไม่ถึงพร้อม

เจตนาดีบริสุทธิ์..ข้อมูลถูกต้อง..วัตถุพร้อม..ศรัทธาพร้อม...บุญถึงพร้อมด้วยประการทั้งปวง

 

ผมว่าอะไรที่ผุดขึ้นใหม่ในยุคปัจจุบันที่ข้องเกี่ยวกับพุทธศาสนาความศรัทธามักจะมาพร้อมกับการปรุงแต่ง และหากมีคนมายึดถือเป็นหลักเป็นฐาน อนาคตกาลข้างหน้าเสี่ยงต่อการบิดเบือนได้นะครับ

 

เห็นด้วยครับ จะใช้คำว่าพระพุทธเจ้าน้อยดูไม่เหมาะสม เพราะตอนนั้นยังไม่เป็นพระพุทธเจ้า

 

ครับผม เป็นปางประสูตินะครับ จริง ๆ แล้ว น่าจะใช้ว่า พระมหาโพธิสัตว์ปางประสูติน่าจะเหมาะสมกว่านะครับ

พระหัตถ์นอกจากการแสดงถึงฟ้าดินแล้ว ยังหมายถึงพระมหาโพธิสัตว์ทรงเป็นหนึ่งที่ประเสร็ฐที่สุด ดีที่สุด บริสุทธิ์ที่สุด พระชาตินี้เป็นพระชาติสุดท้ายแล้วครับ

 

เรียนรู้การสร้างบาป-บุญ ด้วยการด้นเดา
ด้วยการสร้างโน่น-สร้างนี่ เพื่อหวังมหากุศล เเต่
ไม่สนใจคำสั่งสอนที่มาจากพระธรรมวินัย
พระสูตรเเละพระอภิธรรม
มันเสี่ยงต่อการลงอบายภูมินะจ๊ะ!!

 

ปาง "พระโพธิสัตว์องค์น้อย" หรือ "พระโพธิสัตว์น้อย" อย่างนี้จะได้หรือปล่าว

 

เรียนรู้บาป-บุญ ด้วยการด้นเดา
ด้วยการสร้างโน่น-สร้างนี่ เพื่อหวังมหากุศล เเต่
ไม่สนใจคำสั่งสอนที่มาจากพระธรรมวินัย
พระสูตรเเละพระอภิธรรม
มันเสี่ยงต่อการลงอบายภูมินะจ๊ะ!!

 

ตามนั้น

 

คุณหญิงคงอกห้กจากตำแหน่งการเมือง จึงหาอะไรๆมาทำแก้เซ็ง ส่วนตัวคิดแล้วคิดอีกหากมีใครเอารูปเหมือนพระพุทธเจ้าน้อยไปตั้งตามห้องน้ำ หรือโชว์ไว้แขวนอะไรต่อมิอะไร จะเกิดความรู้สึกกันอย่างไรบ้าง เหมือนที่ทำกับพระพุทธรูป อย่าไปยึดติดเลยจะดีกว่าไหมหนอ พวกเราชาวพุทธ มีแต่พระรัตนตรัยเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวดีกว่านะครับ ชอบมั่วกันจริง เช่น ชูชก พระพิคเณศร์ และอื่นๆ เอว้ง สาธุๆๆ อนุโมทนาๆๆ

 

เห็นด้วย กับความเห็นนี้ ก่อนที่พระพุทธเจ้า จะตรัสรู้ นั้น ยังอยู่ในสถานะ ตั้งแต่ พระราชกุมารน้อยสิทธัตถะ จนเติบใหญ่ก่อนที่จะออกบวช กระทั่งพระองค์ตรัสรู้สัมโพธิญาณ ณ บัดนี้เอง จึงกำเนิดพระพุทธเจ้า ตามที่เราเข้าใจมา ส่วนก่อนหน้านั้น หากตอนเป็นทารกด้วยซ้ำ มีท่านอัญญาโกณฑัญญะ ผู้ทำนายผู้เดียวที่ยืนยันว่า ทารกน้อยองค์นี้ จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่มาปลดปล่อยมนุษย์ให้ออกจากทุกข์ ไม่มีการทำนายว่า ทารกนี้เป็นพระพุทธเจ้า เพราะระหว่างเติบใหญ่ ซึ่งโหรส่วนใหญ่ กล่าวทำนายแต่เพียงว่า หากเป็นกษัตริย์จะเป็นพระมหาจักรพรรดิ์ หากเป็นใหญ่ทางศาสนา จะเป็นองค์ศาสดา เท่านั้น ส่วนเรื่องพระพุทธเจ้าน้อย คงต้องไปสอบถามกับนักการเมืองที่ออกหน้าเป็นเจ้าภาพแล้วละว่า ท่านมีข้อมูลจากที่ใด จึงกล้าหาญประกาศเช่นนี้ ไม่เป็นการตั้งเอง เช่นเดียวกับ พระปลัดพายัพ จากสมเด็จ (พระ) ดอกหรือ ตั้งกันง่าย ๆ มันก็เลอะหมดสิ

 

ขอบคุณครับที่มาต่อกระทู้ของผม ผมหวังว่าจะมีคนเข้าใจในความเป็นไปของสิ่งทั้งหมด ทั้งหลายทั้งมวลที่เกิดขึ้นในยุคนี้ คือมีความศรัทธา แต่ไม่รู้ถึงเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้น จึงเอามาปรุงแต่ง ต่อเติมไห้มันดูดีมีความหมายกัน พระพุทธองค์ท่านก็เคยกล่าวไว้ทำนองแบบว่า รูปที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนท่านนั้นไม่มีความจำเป็นเลย(คำนี้ผมว่าน่าจะเอาไว้ใช้กับผู้ที่เข้าถึงธรรมในระดับที่มีปัญญาไตร่ตรอง ของความเป็นไปที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อถึงธรรมแล้วจะมองว่าทุกสิ่งมันไม่มีประโยชน์และความหมายเลย) แต่สิ่งนี้จะดีกับผู้ที่มีความเชื่อความศรัทธา ที่จะเข้ามาเรียนรุ้และศึกษาธรรม เพื่อเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวเพื่อที่จะเรียนรู้ธรรมที่เป็นธรรมส่วนลึก ขั้นสูงที่ละเอียดต่อไป บุคคลเหล่านี้เมื่อยังไม่เข้าใจในความหมายของธรรมในส่วนที่ต้องใช้กำลังใจ ปัญญา สติ มาพิจรณาความเป็นไป เขาจะมีความเชื่อแบบว่า เออใช่ เออจริง เออน่าเคารพ น่าบูชา น่าสรรเสริญ เพราะไม่รู้ถึงสภาวะธรรมที่เกิดขึ้นว่าไม่มีสิ่งใดเลยที่เราจะต้องเข้าไปยึดกับสิ่งนั้น แต่มันก็ดีในทางอ้อมของบุคคลเหล่านี้คือ ยังเห็นความไม่เหมาะสม หรือสมควร เอาไว้ป้องกันการเสื่อมของพระพุทธศาสนา เพราะผู้ที่เข้าถึงธรรมในระดับหนึ่งแล้วส่วนมากท่านไม่ค่อยมายุ่งกับสิ่งเหล่านี้ เพราะท่านจะรู้ถึงไตรลักษณ์ในความเป็นไปของสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่ผมคิดได้ตอนนี้ก็คือ การใช้คำที่ไม่ลงตัวดูแปลกๆไปก็เท่านั้น เพราะไม่อยากไปคิดต่อ เพราะผมก็มองว่าไม่เหมาะอีกนั่นแหละครับ เพราะสิ่งที่เป็นตัวแทนนั้นคือ พระรัตนตรัย คำสั่งสอนที่เป็น มีอยู่จริงตาม ธรรม ของธรรมชาติ นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เราต้องมาเถียงหรือต่อว่ากัน ว่ามันควรหรือไม่ ผมถึงได้บอกงัยครับว่าใช้ปัญญาพิจรณาเอาเองครับ ภูมิธรรมของคนเรามีไม่เท่ากันน่ะครับ ขอให้เปิดใจของเราให้กว้างๆน่ะครับว่า ผู้คนในครั้ง สมัยก่อน(ครั้งพุทธกาลเรื่อยมา จนสมัยนี้ ที่เขาเริ่มหันมาศรัทธาพุทธศาสนา เขาเริ่มจากตรงส่วนไหนของพุทธศาสนา แล้วองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้สอนอย่างไร จงมองตามความเป็นจริงเถอะครับและยอมรับมันเถอะครับว่าสังคมสมัยนี้มันเสื่อมไปมากแล้วครับ

 

ลองอ่านบทความ 'พระพุทธเจ้าน้อย' มาจากไหน? ของคุณเปลว สีเงินดู น่าจะพอได้คำตอบคะ
'พระพุทธเจ้าน้อย' มาจากไหน? | ไทยโพสต์

 

เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะโอกาสบิดเบือนไปเรื่อย ๆ มีสูงมาก นี่อาจเป็นส่วนของปัญหาในปัจจุบัน ต่อถึงอนาคตว่า ทำไมศาสนาเราถึงเรียวเล็กไปเรื่อย ๆ เพราะมันถึงบิดเบือนตามสมัยไปเรื่อย ๆ จนห่างไกลความจริง ถึงขั้นศาสนาพุทธจะเท่าผ้าเหลืองทัดหู ตามคำทำนายหรือเปล่า หากได้สติ ก็ต้องกลับมาคิดใหม่ว่า เราจะเป็นหนึ่งในปัญหาทำให้ศาสนาเราเรียวเล็กด้วยหรือเปล่า อันตรายมากนะครับ ว่าคนสมัยนั้นจะขาดโอกาสรับฟังธรรมที่ถูกต้อง เพราะคนยุคเรา บาปมหันต์หรือเปล่า ก็ตรองดูกันเองแล้วกัน โดยเฉพาะคนต้นคิดอะไรที่นอกลู่นอกทางเพียงเพราะมีอำนาจทางสังคม

แนวคิดแบบนี้ คล้ายกับนักการเมืองกลุ่มหนึ่งที่ มักแก้กฏหมายที่ขัดกับหลักคิดตน แต่ถูกกฏหมายกับหมู่ชน แล้วต้องแก้ตามที่ตนต้องการให้ถูก หมายความว่า แม้รู้ว่าผิดจะตะแบงแก้ให้ถูกซะอย่าง ทำนองนั้น โดยไม่เคยหันมาแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ส่วนใหญ่เลยไปที่ปลายเหตุ แล้วก่อนปมเหตุใหม่ ไม่รู้จบ สักวันศาสนาเราจะถูกกระทำแบบเดียวกันหรือเปล่า อันตรายยิ่ง แม้ทุกวันนี้ยังมีลัทธิแอบแฝงมาในคราบพุทธ แต่สอนให้ยึดติดสุข ซื้อบุญ แล้วยังตะแบงว่าถูกอยู่อีก โดยไม่มีกฏหมายจัดการ แม้แต่ผู้ใหญ่ในการดูแลพระพุทธศาสนาก็ไม่เข้าจัดการ แม้มีข้อสรุปแล้วว่า ผิดพลาด ขั้นปาจิตตี ก็ตาม เอกสารเหล่านั้น อยู่ไหน ใครอยู่เบื้องหลังก็รู้กันอยู่มิใช่หรือ เราต้องการป้องกันคนนอกรีตมาทำลายศาสนาพุทธ ก็ต้องรีบแก้ไขให้ก่อนที่จะสายเกินแก้

 

จุดประสงค์ดีแน่นอน แต่ยังไงก็แปลกๆอยู่ดี เพราะว่าสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคนจำนวนมากขนาดนั้น ควรจะเป็นสิ่งที่ดูทรงพลังอำนาจ เปี่ยมด้วยเมตตาบารมี ลองเปรียบเทียบกันดูกับพระพุทธรูปตามวัดต่างๆสิ อันนี้สงสัยว่าแม่งานจริงๆน่าจะเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เพราะพวกมีอันจะกิน ก็จะชอบทำแบบนี้แหละ ประมาณว่าจัดตั้งมูลนิธิบ้าง ไปทำโน่นทำนี่บ้าง ส่วนพระพุทธเจ้าน้อยนี่สงสัยเป็นความคิดของเธอแน่นอน (อันนี้เป็นการตั้งสมมติฐาน ใครรู้ข้อมูลเชิงลึกก็บอกด้วยละกัน) เพราะตั้งแต่เกิดมา ได้เรียนวิชาพระพุทธศาสนามาก็เยอะ ได้ดูข่าวคราวเกี่ยวกับวัดวาอารามก็เยอะ ทำไมไม่เคยได้ยินชื่อนี้สักที พูดง่ายๆคืออยากได้บุญใหญ่นั่นเอง ...จบ

 

ถ้าท่านมีอคติต่อบุคคลใดแล้วไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดท่านย่อมตำหนิติเตียน ถ้าท่านได้เปิดใจแล้วหาเหตุผลย่อมเป็นสิ่งที่ชอบแล้ว คำว่า"พระพุทธเจ้าน้อย"ในความหมายคือพระองค์ซึ่งยังทรงพระเยาว์อยู่ค่ะ หลวงพ่อจรัญได้เคยกล่าวไว้ว่าคนไทยนับถือศาสนาพุทธไว้แค่ในบัตรประชาชนเท่านั้นแต่จิตใจเราห่างไกลจากพุทธไปเรื่อยๆค่ะและต้องขอโทษหากคำกล่าวใดที่ทำให้ท่านไม่พอใจค่ะ ขอขอบคุณค่ะ

 

รูปปั้นไม่ผิด
ถามว่ามาจากไหน มาจาก พวกปัญญาอ่อนตั้งชื่อว่า Little buddha

ปางนี้ที่อินเดียมี ถึงบอกว่า รูปปั้นไม่ผิด คนตั้งชื่อ น่ะ ปัญญาอ่อน พวกหลงเชื่อก็ปัญญาอ่อน เกิดมาในศาสนาพุทธ กลับไม่รู้เรื่องว่า คราวที่พระพุทธเจ้า เสร็จไปโปรดปัจจวัคคีย์ ถามกับเหล่าปัจจวัคคีย์ว่า เราเคยบอกหรือไม่ว่า เราเป็นพระพุทธเจ้า ก่อนหน้านี้ไม่เคยเรียกตัวเองว่า "ตถาคต" ซึ่งตถาคตใช้เรียกแทนตัวเองของพระพุทธเจ้า
เรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับเจตนานะ ตอนเจ้าชายทรงพระเยาว์ไม่เห็นมีใครเรียกพระุพุทธเจ้าน้อยเลย
ถ้าจะเกี่ยวกับเจตนา คงเจตนาที่ไม่ดี ต้องการบิดเบือนพระศาสนาหรือต้องการจัดอีเว้นท์ เหมือน ลัทธิธรรมกาย ที่ต้องการบิดเบือนศาสนา ด้วยการซื้อบุญ ซึ่งพระพุทธองค์ไม่เคยสั่งเคยสอนแบบนั้น พระพุทธรูปของลัทธิธรรมกาย โดยการอ้างถึงวิชชาธรรมกายของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ถ้าลองไปค้นหาอ่านกัน หลวงพ่อจะบอกว่า องค์ธรรมกาย ไม่ได้มีรูปร่างหน้าตาแบบนี้

อยากให้ศรัทธาในสิ่งที่ควรศรัทธา สิ่งที่บ่อนทำลายศาสนาก็ลบหลู่เลยผมไม่กลัว

ก่อนจะถามคนอื่นว่า เป็นฝ่ายไหน ขอให้ก้มมองดูตัวเองว่า เจตนาเป็นอย่างไร
ผู้ร่วมขบวนการปล้นหรือทำลาย ถึงแม้ไม่ได้ปล้นหรือทำลาย ก็ได้ชื่อว่า ปล้นและทำลายเหมือนกัน ไม่มีใครตัดสินคุณได้ นอกจากตัวคุณเอง ตัวเองรู้ตัวเองว่ากำลังทำอะไรกันอยู่

 

อันนี้ชัดเจนที่สุด พวกที่หลงๆ มึนๆ ลองพิจารณาดูนะ ถ้าขนาดนี้ยังไม่เข้าใจก็ถือว่าเป็น กรรมไปแล้วกันครับ

ผมค่อนข้างแรง แต่ความแรงของผมมัน เปรียบเหมือน ตีเหล็กที่กำลัังร้อนนะครับ ไม่งั้นไม่ได้ใจ

 

....ถ้าท่านมีอคติต่อบุคคลใดแล้วไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดท่านย่อมตำหนิติเตียน ถ้าท่านได้เปิดใจแล้วหาเหตุผลย่อมเป็นสิ่งที่ชอบแล้ว คำว่า"พระพุทธเจ้าน้อย"ในความหมายคือพระองค์ซึ่งยังทรงพระเยาว์อยู่ค่ะ หลวงพ่อจรัญได้เคยกล่าวไว้ว่าคนไทยนับถือศาสนาพุทธไว้แค่ในบัตรประชาชนเท่านั้นแต่จิตใจเราห่างไกลจากพุทธไปเรื่อยๆค่ะ..

.ผิดประเด็นแล้วค่ะ เรากำลังกล่าวถึงการขนานนามที่ถูกต้องต่างหาก นามนั้นมาจากไหน?..นามนั้นหมายถึงใคร?..ในพุทธกาลมีการเรียกขานอย่างนี้หรือ? คนที่มีส่วนร่วมต้องให้ความรู้ ความกระจ่างแก่สาธารณชน ไม่อย่างนั้นอนาคตเบื้องหน้าจะบันทึกไว้ว่า "พระพุทธเจ้าน้อย" มีการเรียกขานกันเมื่อปีพุทธศักราช 2555 มิใช่หลังจากที่พระศาสดาเสด็จปรินิพพาน อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับพระศาสดา..พระธรรมของพระองค์อย่าได้เข้าใจ,เรียกขานเอาเองโดยขาดหลักฐานมาอ้างอิง..เสี่ยงต่อการบิดเบือน..นรกอเวจีรออยู่เบื้องหน้า

หนึ่ง..
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ LLo
" ดูกรพระราชสมภาร นับแต่ตถาคตได้บรรลุพระสัมโพธิญาณแล้ว ก็สิ้นสุดสมมติขัตติวงศ์ เริ่มประดิษฐานพุทธวงศ์ตั้งแต่นั้นมาจนถึงวันนี้ ดังนั้น การเที่ยวบิณฑบาตจึงเป็นประเพณีของพระพุทธเจ้า ตลอดพระภิกษุสงฆ์ที่สืบสายพุทธวงศ์ชั่วนิรันดร "

สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าประกาศว่าเป็นพระพุทธเจ้าก็หลังตรัสรู้ ก่อนหน้าตรัสรู้ท่านใช้ว่าสมมติขัตติวงศ์ คือท่านไม่ยอมรับกว่าก่อนหน้านั้นท่านเป็นพระพุทธเจ้า ดังนั้นการใช้คำว่า พระพุทธเจ้าน้อย พระพุทธเจ้าเองไม่ได้ยอมรับ

ที่มา โปรดพระพุทธบิดาจนสำเร็จมรรคผลชั้นใด-วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล

สอง...
ผมว่าอะไรที่ผุดขึ้นใหม่ในยุคปัจจุบันที่ข้องเกี่ยวกับพุทธศาสนาความศรัทธามักจะมาพร้อมกับการปรุงแต่ง และหากมีคนมายึดถือเป็นหลักเป็นฐาน อนาคตกาลข้างหน้าเสี่ยงต่อการบิดเบือนได้นะครับ

สาม...
ลองอ่านบทความ 'พระพุทธเจ้าน้อย' มาจากไหน? ของคุณเปลว สีเงินดู น่าจะพอได้คำตอบคะ
'พระพุทธเจ้าน้อย' มาจากไหน? | ไทยโพสต์

น่าจะเป็นข้อพิจารณาได้นะ ที่นี่ไม่มีเรื่องการเมือง..ตัวบุคคลแต่อย่างใด


คนเราต้อง..รู้จำ..รู้จัก..รู้แจ้ง(สำคัญที่สุด)ค่ะ

 

มีความคิดผิดๆ แล้วยังเอาหลวงพ่อจรัญมาอ้างอีก

 

มาร.. หลอกพวกท่าน

.. เผ่น :x