ปิดรับบริจาค อานิสงส์มหาศาล...สร้างพระอุโบสถวัดสีหะลำดวน(ชมภาพ น.47)

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย peerakul, 13 กันยายน 2012.

  1. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์

    อำนาจจิต


    ปัญหา (เทวดาทูลถาม) โลกอันอะไรย่อมนำไป อันอะไรหนอเสือกไสไปได้ โลกทั้งหมดเป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่งคืออะไร?

    พุทธดำรัสตอบ “โลกอันจิตย่อมนำไป อันจิตย่อมเสือกใสไป โลกทั้งหมดเป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่ง คือ จิต ”

    จิตตสูตรที่ ๒ ส.สํ. (๒๘๑)
    ตบ. ๑๕ : ๕๔ ตท. ๑๕ : ๕๓
    ตอ. K.S. I : ๕๕
     
  2. gaiban

    gaiban เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +1,591
    ข้าพเจ้านายศุภชัย กิติศุภวัฒนา ได้โอนเงินเข้าบัญชีวัดสีหะลำดวน ธ.กรุงไทย # 331-015-3606 แล้วในวันนี้ จำนวน 5,936 บาท เพื่อร่วมบุญดังต่อไปนี้
    1.ร่วมบุญสร้างพระอุโบสถ 5,000 บาท
    2.ร่วมบุญสร้างกำแพงอุโบสถ 936 บาท

    ขออานิสงค์แห่งบุญกุศลที่ข้าพเจ้าทำในครั้งนี้ จงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าสมหวังทุกประการทั้งทางโลกและทางธรรม ตราบเข้าสู่พระนิพพาน สาธุ
     
  3. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493

    อนุโมทนา สาธุค่ะคุณศุภชัย กิติศุภวัฒนา

    คุณศุภชัยร่วมบุญสร้างพระอุโบสถ จำนวน 5000 บาท หลวงตาจำเนียรท่านจะเขียนชื่อไว้ในพระอุโบสถ ไม่ทราบว่าใช้ชื่อนี้ หรือเปล่าคะ
     
  4. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    รวมปัจจัยจากผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบุญสร้างพระอุโบสถ จำนวน 69,194.89 บาท

    อนุโมทนา สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2012
  5. ลินจัง

    ลินจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +589
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมบุญสร้างพระอุโบสถกัับหลวงตาวิเชียร พระอริยะสงฆ์

    ส่วนตัวร่วมบุญนี้มาตั้งแต่เริ่มพื้นที่โล่งยังไม่เริ่มการก่อสร้าง ร่วมบุญตามกำลังทรัพย์มากบ้างน้อยบ้าง แต่ทำเรื่อยๆ เพราะยิ่งได้เห็นความคืบหน้าของพระะอุโบสถ์ ก็ปิติใจซึ่งผลที่ตามมา อานิสงฆ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองคือ การงานก้าวหน้าและการเงินดีขึ้นมากอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2012
  6. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493

    ขอบคุณมากค่ะคุณลินที่บอกกล่าวเรื่องราวว่าการทำบุญกับหลวงตาแล้ว ทำให้การงานก้าวหน้า การเงินดีขึ้น

    สิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำบุญ อยู่ที่่องค์ประกอบ ๓ ประการ ถ้าประกอบถึงพร้อมด้วยองค์ประกอบทั้ง ๓ ประการต่อไปนี้แล้ว ทานนั้นย่อมมีผลมาก ได้บุญบารมีมาก กล่าวคือ

    องค์ประกอบข้อที่ ๑ . " วัตถุทานที่ให้ต้องบริสุทธิ์ "
    วัตถุทานที่ให้ ได้แก่สิ่งของทรัพย์สมบัติที่ตนได้สละให้เป็นทานนั้นเอง จะต้องเป็นของที่บริสุทธิ์ ที่จะเป็นของบริสุทธิ์ได้จะต้องเป็นสิ่งของที่ตนเองได้แสวงหา ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ในการประกอบอาชีพ ไม่ใช่ของที่ได้มาเพราะการเบียดเบียนผู้อื่น เช่น ได้มาโดยยักยอก ทุจริต ลักทรัพย์ ฉ้อโกง ปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ ฯล


    องค์ประกอบข้อที่ ๒ . " เจตนาในการสร้างทานต้องบริสุทธิ์ "
    การให้ทานนั้น โดยจุดมุ่งหมายที่แท้จริงก็เพื่อเป็นการขจัดความโลภ ความตระหนี่เหนียวแน่นความหวงแหนหลงใหลในทรัพย์สมบัติของตน อันเป็นกิเลสหยาบ คือ " โลภกิเลส " และเพื่อเป็นการสงเคราะห์ผู้อื่นให้ได้รับความสุขด้วย เมตตาธรรมของตน อันเป็นบันไดก้าวแรกในการเจริญเมตตา พรหมวิหารธรรมในพรหมวิหาร ๔ ให้เกิดขึ้น ถ้าได้ให้ทานด้วยเจตนาดังกล่าวแล้ว เรียกว่าเจตนาในการทำทานบริสุทธิ์ แต่เจตนาที่ว่าบริสุทธิ์นั้น

    องค์ประกอบข้อที่ ๓ . " เนื้อนาบุญต้องบริสุทธิ์ "
    คำว่า " เนื้อนาบุญ " ในที่นี่ได้แก่บุคคลผู้รับการทำทานของผู้ทำทานนั้นเอง นับว่าเป็นองค์ประกอบข้อที่สำคัญที่สุด แม้ว่าองค์ประกอบในการทำทานข้อที่ ๑ และข้อที่ ๒ จะงามบริสุทธิ์ครบถ้วนดีแล้ว กล่าวคือวัตถุที่ทำทานนั้นเป็นของที่แสวงหาได้มาด้วยความบริสุทธิ์ เจตนาในการทำทานก็งามบริสุทธิ์พร้อมทั้งสามระยะ แต่ตัวผู้ที่ได้รับการทำทานเป็นคนที่ไม่ดี ไม่ใช่ผู้ที่เป็นเนื้อนาบุญที่บริสุทธิ์ เป็นเนื้อนาบุญที่เลว ทานที่ทำไปนั้นก็ไม่ผลิดอกออกผล
    เปรียบเหมือนกับการหว่านเมล็ดข้าวเปลือกลงในพื้นนา ๑ กำมือ
    แม้เมล็ดข้าวนั้นจะเป็นพันธุ์ดีที่พร้อมจะงอกงาม ( วัตถุทานบริสุทธิ์ )
    และ ผู้หว่านคือกสิกรก็มีเจตนาจะหว่านเพื่อทำนาให้เกิดผลิตผลเป้นอาชีพ ( เจตนาบริสุทธิ์ )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2012
  7. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    ผลแห่งการชักชวนให้คนสร้างกุศล...(มาลาวชิโร)

    ในทางพุทธศาสนา การชักชวนผู้อื่นทำความดีนั้น
    ผู้ชักชวนก็ได้บุญ และทำให้เป็นผู้มีบริวารมาก
    หากทำด้วยตัวเองด้วยก็ยิ่งจะได้ทั้งทรัพย์สมบัติและบริวาร
    ดังเรื่องที่มีมาแต่ครั้งพุทธกาลว่า

    กาลครั้งหนึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศลได้รับสั่งให้สันตติมหาอำมาตย์
    ไปปราบปรามโจรที่กำลังฮึกเหิมอย่างหนัก
    เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลได้ทรงทราบว่า
    มหาอำมาตย์ปราบโจรได้อย่างราบคาบแล้ว
    ทรงพอพระราชหฤทัยมาก จึงพระราชทานทรัพย์สมบัติให้เป็นจำนวนมาก
    รวมทั้งหญิงสาวที่เก่งในการร้องเพลงและฟ้อนรำนางหนึ่ง
    อำมาตย์ได้ดื่มเหล้าฉลองชัยชนะจนเมามายถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน
    ในวันที่ เจ็ดเขาจัดแจงแต่งตัวด้วยอาภรณ์อย่างดี
    แล้วขี่ช้างตัวที่ดีที่สุดไปยังท่าอาบน้ำ
    เมื่อไปถึงก็เห็นพระศาสดากำลังเสด็จเข้าไปบิณฑบาตในเมือง
    เขาจึงผงกศีรษะถวายบังคมด้วยความเคารพ
    ในขณะที่นั่งอยู่บนคอช้างนั่นเอง

    เมื่อพระศาสดาทรงเห็น จึงทรงแย้มพระโอษฐ์
    พระอานนท์จึงทูลถามถึงสาเหตุที่พระองค์ทรงแสดงกิริยาเช่นนั้น
    พระพุทธองค์ตรัสว่า “อานนท์ เธอจงดูสันตติมหาอำมาตย์
    วันนี้เขาประดับด้วยอาภรณ์อย่างดี มาสู่สำนักเรา
    เขาจะบรรลุพระอรหัตเพียงเพราะไดัฟังธรรมเพียงนิดเดียวเท่านั้นเอง
    และจะปรินิพพานในอากาศ”

    บรรดาชาวบ้านที่ได้ฟังคำของพระศาสดา
    บางพวกที่เป็นมิจฉาทิฏฐิคิดว่า “ท่านทั้งหลาย จงดูกิริยาของพระสมณโคดม
    พระองค์ย่อมพูดสักแต่ปากเท่านั้น ในวันนี้สันตติมหาอำมาตย์นั้นเมาสุราอย่างหนัก
    จะได้ไปฟังเทศน์ฟังธรรมที่ไหน พวกเราจักจับผิดพระสมณโคดมที่กล่าวมุสาวาท”

    ส่วนพวกที่เป็นสัมมาทิฏฐิคิดกันว่า
    “น่าอัศจรรย์ พระพุทธเจ้าทั้งหลายมีอานุภาพมาก
    ในวันนี้ เราทั้งหลาย จักได้ดูการเยื้องกรายของพระพุทธเจ้า
    และการเยื้องกรายของสันตติมหาอำมาตย์”

    ฝ่ายมหาอำมาตย์หลังลงเล่นน้ำตลอดทั้งวันที่ท่าอาบน้ำแล้ว
    จึงกลับไปสู่อุทยาน และไปนั่งในโรงดื่ม
    ขณะที่หญิงสาวที่พระเจ้าปเสนทิโกศลพระราชทานให้นั้น
    ก็ขึ้นไปยืนอยู่ที่กลางเวทีเตรียมจะฟ้อนรำให้มหาอำมาตย์ดู
    แต่พอเริ่มจะแสดง นางก็กลับมีลมพิษเกิดขึ้นในท้องอย่างหนัก
    ปากอ้า ตาเหลือก และในที่สุดก็ขาดใจตาย
    สาเหตุเพราะกินอาหารน้อยมาตลอด ๗ วัน
    เพื่อให้ร่างกายอ้อนแอ้นน่าชมนั่นเอง

    เมื่อมหาอำมาตย์รู้ว่านางตายแล้ว
    เขาก็เกิดความเศร้าโศกอย่างแรงกล้าขึ้นมา กระทั่งส่างเมาทันที
    พิษของสุราที่ดื่มมาตลอด ๗ วัน ได้เสื่อมหายไป
    เขาคิดว่าคงไม่มีใครที่จะสามารถระงับความโศกเศร้าของเขาได้
    เขาจึงไปขอเข้าเฝ้า พระศาสดาในตอนเย็นพร้อมกับบริวาร
    และกราบทูลถึงเหตุแห่งความโศกเศร้าที่เกิดขึ้นกับตน
    และเหตุที่มาเฝ้าพระพุทธเจ้า

    ครั้นพระศาสดาได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว จึงตรัสว่า
    “ท่านมาหาเราผู้สามารถที่จะดับความโศกได้แน่นอน
    อันที่จริงน้ำตาที่ไหลออกของท่านผู้ร้องไห้ในเวลาที่หญิงนี้ตายด้วยเหตุอย่างนี้
    มากกว่าน้ำของมหาสมุทรทั้ง ๔ ซะอีก” แล้วจึงตรัสพระคาถา ว่า

    “กิเลสเครื่องกังวลใด มีอยู่ในกาลก่อน เธอจงยังกิเลสเครื่องกังวลนั้น
    ให้เหือดแห้งไป กิเลสเครื่องกังวล จงอย่ามีแก่เธอในภายหลัง
    ถ้าเธอจักไม่ยึดถือขันธ์ ในท่ามกลาง จักเป็นผู้สงบระงับเที่ยวไป”

    หลังจากพระองค์เทศน์จบ สันตติมหาอำมาตย์ก็บรรลุพระอรหัตผล
    แล้วพิจารณาดูอายุสังขารของตน ทราบว่าตัวเองจะหมดอายุขัยแล้ว
    จึงกราบทูลพระศาสดาว่า

    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระองค์จงทรงอนุญาตการปรินิพพานแก่ข้าพระองค์เถิด”

    พระพุทธองค์จึงตรัสว่า “สันตติมหาอำมาตย์ ถ้าอย่างนั้น
    เธอจงเล่ากรรมที่เธอเคยทำไว้ในอดีตแก่เรา
    แต่ก่อนจะเล่า จงอย่ายืนบนพื้นดิน จงยืนบนอากาศชั่ว ๗ ลำตาล”

    มหาอำมาตย์จึงถวายบังคมพระศาสดา
    จากนั้นก็ขึ้นไปสู่อากาศชั่วลำตาลหนึ่ง แล้วลงมาถวายบังคมพระศาสดาอีก
    และขึ้นไปนั่งโดยบังลังก์บนอากาศ ๗ ชั่วลำตาลแล้ว
    จึงเล่าบุรพกรรมของตนเองว่า

    ในกัลป์ที่ ๙๑ แต่กัลป์นี้ ครั้งพระพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี
    ตนได้บังเกิดในตระกูลแห่งหนึ่ง ในพันธุมดีนคร คิดอยู่ว่า
    อะไรหนอเป็นกรรมที่ไม่ทำการตัดรอนหรือบีบคั้นชนเหล่าอื่น
    เมื่อใคร่ครวญอยู่อย่างนี้ จึงรู้ว่ากรรมคือ
    การป่าวร้องบอกบุญ ชักชวนคนทำบุญ เป็นสิ่งที่ดี
    จึงชักชวนชาวบ้านทำบุญ เที่ยวเชิญชวนชาวบ้านทำบุญสมาทาน
    อุโบสถศีลในวันอุโบสถ ถวายทาน
    และฟังเทศน์ฟังธรรม เพื่อให้เข้าถึงพระรัตนตรัย

    ผลของการชักชวนชาวบ้านบำเพ็ญบุญบำเพ็ญกุศลนั้นมีมากมายยิ่งนัก
    ดังที่เกิดขึ้นกับตน คือ พระราชาผู้ใหญ่ทรง พระนามว่า ‘พันธุมะ’
    เป็นพระพุทธบิดา เมื่อได้ทรงสดับความดังนั้น
    จึงรับสั่งให้เรียกตนมาเฝ้า แล้วตรัสถามว่า กำลังทำอะไร ตนจึงทูลไปว่า
    ได้เที่ยวประกาศคุณของพระรัตนะตรัย ชักชวนชาวบ้านทำบุญ ทำกุศล


    พระราชาได้ตรัสถามว่า นั่งอะไรไป ตนได้กราบทูลไปว่า เดินไป
    จึงตรัสขึ้นว่าไม่เหมาะที่จะเดินไปอย่างนั้นหรอก
    จงประดับพวงดอกไม้นี้แล้วขี่ม้าไปเถิด ตรัสแล้วก็พระราชทาน
    พวงดอกไม้ และม้าที่ฝึกแล้วให้ ต่อมาพระราชาเห็นว่าม้าก็ไม่สมควร
    จึงได้พระราชทานรถที่เทียมด้วยม้าพันธุ์ดี
    และไม่นานพระราชาก็คิดว่ารถเทียมม้าก็ไม่สมควรอีก
    จึงได้พระราชทานทรัพย์สินเงินทองพร้อมทั้งเครื่องประดับเป็นจำนวนมาก
    นอกจากนั้นยังได้พระราชทานช้างเชือกหนึ่งด้วย
    ตนจึงนั่งบนคอช้าง ออกเที่ยวชักชวนคนทำบุญทำกุศลอยู่อย่างนี้สิ้นแปดหมื่นปี
    กลิ่นจันทน์ฟุ้งออกจากกาย กลิ่นอุบล ฟุ้งออกจากปากตลอดกาลมีประมาณเท่านี้”

    หลังจากสันตติอำมาตย์กราบทูลบุรพกรรมของตนแล้ว
    ท่านก็ปรินิพพานบนอากาศนั่นเอง

    ........

    วิธีการทำบุญที่สันตติอำมาตย์ได้ชวนผู้อื่นทำนั้น
    มีทั้งการให้ทาน รักษาศีล และฟังธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายๆ
    ไม่มีทรัพย์สินเงินทองก็สามารถทำได้
    เพราะวิธีการทำบุญมีมากมายหลายวิธี เราสามารถทำบุญด้วยการรักษาศีล
    ฟังธรรม และเจริญภาวนา เป็นต้น ซึ่งสิ่งต่างๆ
    เหล่านี้ล้วนแต่ให้อานิสงส์มากมายยิ่งนักแก่ผู้ปฏิบัติ
    ไม่ได้น้อยไปกว่าการทำบุญด้วยวัตถุสิ่งของเลย

    จะเห็นว่าสันตติอำมาตย์ได้ทำบุญอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
    แสดงให้เห็นถึงการมีจิตใจแน่วแน่เด็ดเดี่ยวในการทำความดี
    ดังนั้น หากเราคิดอยากจะได้บุญที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้
    ก็จงแน่วแน่ในการสร้างความดีต่างๆ อย่าท้อแท้หมดกำลังใจเมื่อมีมารมาขัดขวาง
    นอกจากนั้นจงใช้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวเป็นปัจจัยในการเข้าถึงสัจธรรม
    เพราะทุกอย่างที่อยู่รอบตัว สามารถเป็นบทเรียนให้เราได้
    หากเรารู้จักใช้สติปัญญาพิจารณาอย่างจริงจัง
    และน้อมเข้ามาเปรียบเทียบกับตัวเอง และเมื่อเรามีปัญญาเห็นความจริงแล้ว
    ก็จงพยายามถ่ายทอดต่อไปยังคนอื่นๆ การชี้ทางให้แก่คนอื่น ก็เป็นบุญอันยิ่งใหญ่
    เป็นธรรมทาน มีอานิสงส์มากมาย


    (จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 90 พ.ค. 51 โดย มาลาวชิโร)


    http://palungjit.org/threads/ผลแห่งการชักชวนให้คนสร้างกุศล-มาลาวชิโร.293869/[/COLOR]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2012
  8. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    คุณวรินท์พร ธนศักดิ์วัฒนสุข+ป๊อกกี้ ร่วมบุญสร้างพระอุโบสถ
    จำนวน 200 บาท

    อนุโมทนา สาธุ
     
  9. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    คุณณัฏฐ์ ธีรกุลและครอบครัว ร่วมบุญสร้างพระอุโบสถ จำนวน 300 บาท

    อนุโมทนา สาธุ
     
  10. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    รวมปัจจัยจากผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบุญสร้างพระอุโบสถจำนวน 69,694.89 บาท

    อนุโมทนา สาธุ
     
  11. Hongfah

    Hongfah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +148
    ผมขอร่วมบุญสร้างสร้างพระอุโบสถวัดสีหะลำดวน จ.สุรินทร์ ในครั้งนี้จำนวน 200 บาท
    และเพื่อนๆขอร่วมบุญสร้างพระอุโบสถวัดสีหะลำดวน ในครั้งนี้จำนวน 160 บาท
    รวมเป็นเงินทำบุญทั้งสิ้น 360 บาท
    โอนวันที่ 6/12/55 เวลา 11.39 น.
     
  12. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493


    อนุโมทนา สาธุค่ะคุณHongfahและเพื่อน
     
  13. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    รวมปัจจัยจากผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบุญสร้างพระอุโบสถจำนวน 70,054.89 บาท

    อนุโมทนา สาธุ
     
  14. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    "ปาก จมูก เป็นประตู...หู ตา เป็นหน้าต่าง...
    เราต้องคอยปิดเปิดให้ถูกกาลเวลา จึงจะได้รับประโยชน์และปลอดภัย"


    ...ท่านพ่อลี ธมฺมธโร
     
  15. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493


    อนุโมทนาค่ะคุณอนันตพุทธะ
     
  16. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    เมื่อเชื่อแน่ว่าสวรรค์มี นรกมี ก็ควรศึกษาว่าทำอย่างไรจักเป็นบุญ
    ทำอย่างไรจักเป็นบาป เมื่อรู้แล้วว่าอะไรไม่ควรก็ให้ละเว้นเสีย
    นั้นจึงเรียกได้ว่า เป็นผู้ไม่สร้างภัยแก่ตนเอง

    ...หลวงปู่ศรี มหาวีโร
     
  17. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    ภาพการก่อสร้างผนังพระอุโบสถวัดสีหะลำดวนกำลังดำเนินการอยู่ ส่วนที่เห็นเป็นเหล็กเส้น นั้น เป็นกำแพงแ้ก้วรอบพระอุโบสถ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  19. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    ขอเชิญผู้่มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมบุญสร้างพระอุโบสถกับพระอริยสงฆ์หลวงตาวิเชียร วัดสีหะลำดวน

    อนุโมทนา สาธุ
     
  20. bkoandko

    bkoandko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +114
    นายเจียร ภูริวัฒน์ และครอบครัว
    ขอร่วมบุญสร้างพระอุโบสถวัดสีหะลำดวน จ.สุรินทร์ ในครั้งนี้จำนวน 300 บาท
    โอนวันที่ 9/12/55 เวลา 16.17 น.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...