จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

รายงายล่าสุดจาก ดร.ก้องภพครับ
ก้องภพ อยู่เย็น
เรามาติดตามสถานการณ์นอกโลกกันต่อครับ ในวันที่ 16 พฤศจิกายน เวลา 13:43 UT ได้เกิดปฏิกริยาขนาดใหญ่ที่ดวงอาทิตย์ที่น่าติดตามอีกครั้ง โดยพลังงานนี้แพร่กระจายออกมาเป็นมุมกว้างทางทิศตะวันออก และพบปริมาณจุดดับขยายตัวในวันที่ 17 จากโมเดลพบว่าพลังงานบางส่วนจะเดินทางมาถึงโลก ในวันที่ 19 พฤศจิกายน เวลา 6-18 UT +/- 6 ชั่วโมง ผู้ที่สนใจการเปลี่ยนแปลงของโลกโปรดติดตามสถานการณ์ดูตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 22 ครับ

 

สวัสดีค่ะครูบัว เมื่อวานได้พาคุณแม่ไปร่วมงานด้วยค่ะ หลังจากได้ฟังธรรมบรรยายจบแล้วท่านเกิดศรัทธาอยากปฏิบัติบ้างค่ะ แต่พอดีเมื่อวานไม่ได้รับเอกสารน่ะค่ะ รบกวนครูบัวส่งให้ทาง mail หน่อยนะคะ Email: kanittha10270@gmail.com ขอบพระคุณค่ะ

 

คุณจุ๋มเยอรมันค่ะ เราใกล้จะมี triple "Jum" แล้วนะ ในงานมีคนหลายท่านทักว่าเป็นคุณจุ๋มเยอรมันหรือเปล่า แสดงว่ามีคนคิดถึงคุณจุ๋มเยอรมันมากมายเลยค่ะ รวมทั้งจุ๋มเองด้วย ไว้เรารวมทีม Super Jum กันดีกว่าเนอะ

 

ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ ที่กระผมจำจากตำราและฟังครูสอนนั้น จะตรงเนื้อหาตามที่หลวงปู่เข้าใจหรือ หลวงปู่อธิบายว่า

"ศีล คือปรกติจิตที่อยู่ปราศจากโทษ เป็นจิตที่มีเกราะกำบังป้องกันการกระทำชั่วทุกอย่าง

สมาธิ ผลสืบเนื่องจากการรักษาศีล คือจิตที่มีความมั่นคง มีความสงบเป็นพลัง ที่จะส่งต่อไปอีก


ปัญญา ผู้รู้ คือจิตที่ว่าง เบาสบาย รู้แจ้งแทงตลอดตามความเป็นจริงอย่างไร

วิมุติ คือจิตที่เข้าถึงความว่าง จากความว่าง คือละความสบายเหลือแต่ความไม่มี ไม่เป็น ไม่มีความคิดเหลืออยู่เลย"


หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

 

“..เพชรอยู่ในหิน คนธรรมดาไม่รู้เอาไปทำก้อนเส้า
ได้แค่หุงข้าวกิน เอาก้อนเพชรไปหุงข้าวเสีย
คนรู้ เจียระไนออกมาเป็นเพชร เป็นก้อนโลกุตตระ
ก้อนนี้ ดุ้นนี้ คือขันธ์ ๕ รู้ก็รู้ ไม่รู้ก็ตามใจนะ
พระอรหันต์ไม่ตามใจใคร ไม่ขัดใจใคร ไม่ติดใจใครนี่..”

หลวงปู่บุดดา ถาวโร

 

เหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ทำให้ขันธ์นี้อาจจากไปโดยไม่ทันร่ำลา
เตรียมจิตไว้คือความไม่ประมาท
จิตพร้อม รับได้ทุกภัย

จบ.๓๑​

 

เพิ่งตอบการบ้านไปทำนองว่าอย่าเล็งผลเลิศในการปฏิบัติ
ค่อยๆทำไปเหมือนปลูกมะม่วง
หมั่น รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย เหมือนปฏิบัติธรรม หรือทำจิตเกาะพระ รดด้วยศีล สติ (เกาะพระให้ ถี่ ต่อเนื่อง) สมาธิ และปัญญาก็จะเกิดแก่ท่านเอง

การปฏิบัติธรรมด้วยความอยาก หรือมาเกาะพระโดยคาดหวังแบบ perfectionist ( เกาะพระแบบคาดหวังว่าจะทำใด้ดีที่สุดในเวลาอันสั้น ไม่หลุดเลย พยายามบีบเค้นให้เห็นในรายละเอียด) เหมือนเอาน้ำอุ่นจัดมารดต้นไม้ หาผลที่ดีมิได้
แต่ถ้ารดไปแล้วก็เปลี่ยนใหม่ได้ ครูก็เคยเป็น perfectionist มาก่อน อิอิ

รดด้วยศีล สติ ไปทุกวันๆ แบบสบายๆ เดี๋ยวก็ได้มะม่วงสุก หอม หวาน สมความตั้งใจ;k06

จบ.๓๑

 

"..การทำความดีนี่ ทำวันนี้จะให้ได้ผลวันพรุ่งนี้อย่างนี้มันไม่ได้ ดูแต่ปลูกต้นไม้ลงในดินนะ ต้องหลายเดือนกว่ามันจะมีดอกออกผลได้

นี่..ดูแต่ธรรมชาตินะ มันก็ยังแสดงให้เห็นแล้วนะ ธรรมชาติทั้งหลายก็ต้องอาศัยกาลเวลาเหมือนกัน กว่ามันจะได้รับผลมัน การกระทำความดีหรือความชั่วของคนเราก็เป็นเช่นนั้นแหละ

ก็ต้องอาศัยกาลเวลา ทำความดีถ้าไม่ถึงกาลเวลาที่มันจะให้ผล มันก็ยังให้ผลไม่ได้ เหมือนกับว่าทำความดีแล้วไม่เห็นมีดอกมีผลอะไรขึ้นมาเลย เหมือนกับไม่มีมรรคไม่มีผลอะไรเลยอย่างนี้นะ..เอ่อคนผู้ที่ไม่รู้จักเหตุผลโดยแจ่มแจ้งเป็นเช่นนั้น


ผู้มาพิจารณาเห็นเหตุผลโดยแจ่มแจ้ง..ก็ดังกล่าวมาแล้วนั้นนะ มันก็คิดดูเถอะเค้าปลูกต้นไม้ที่มีผล ดังนั้นก็ยังต้องอาศัยเวลานานพอสมควรนะ กว่าจะได้หมากได้ผลขึ้นมา อันนี้การที่เราทำความดี ละความชั่วก็เหมือนกันอย่างนั้นแหละ.."

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

 

ขออภัยค่ะคุณปุ๋ม เมื่อคืนพี่เพ็ญนึกว่าทางโน้นมืดแล้ว คุณปุ๋มจะรีบพาน้องจ๊อยซ์ไปนอน ที่แท้ยังสว่างโล่อยู่นั่นเอง อิอิ

 

ศิษย์คนนี้ผมไม่ได้มาโดยบังเอิญหรอกครับ
ความบังเอิญไม่มีในโลก มีเหตุที่มาที่ไปทั้งนั้น
มีธรรมะจัดสรรมาเลยล่ะ และมาดูเวลาผมตอบการบ้านด้วย

ขอให้เจริญในธรรมทุกท่านครับ

 

สวัสดีค่ะ เมื่อวานได้ไปฟังสัมมนามาด้วยค่ะ จากตอนแรกไม่ว่าง และไม่คิดว่าจะไป แต่มีเหตุให้ว่างเนื่องจากแผนไปช่วยงานกฐินที่ต่างจังหวัดถูกยกเลิก เลยคิดว่าว่าง สมัครไปแล้ว ครูเกษส่งชื่อแล้ว ถึงนึกได้ว่าวันทำงาน 555 เป็นอันว่าลางานไป :d


ดีใจค่ะ ที่ได้ไป ต้องขอบคุณ ครูน้องเกษ และ ครูทุกท่านนะคะ ขออนุโมทนากะครูแนทด้วยค่ะ

 

มรรคมีองค์แปด

มรรค คือหนทาง ในที่นี้คือหนทางที่ดี ที่จะนำพาผู้ปฏิบัติไปสู่ความไม่มีทุกข์ (นิพพาน) ดับทุกข์ทั้งปวง เข้าสู่นิพพาน

มรรคแปด บางท่านเรียก "อริยมรรค" หรือ "มรรคมีองค์แปด" พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่าประกอบด้วย สัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ, สัมมาสังกัปโป ความดำริชอบ, สัมมาวาจา การพูดจาชอบ, สัมมากัมมันโต การทำการงานชอบ, สัมมาอาชีโว การเลี้ยงชีวิตชอบ, สัมมาวายาโม ความพากเพียรชอบ, สัมมาสะติ ความระลึกชอบ, สัมมาสมาธิ ความตั้งใจมั่นชอบ

สัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ
ท่านอธิบายว่า ความเห็นชอบ นั้นคือ ความรู้ในทุกข์ เป็นความรู้ในเหตุให้เกิดทุกข์ เป็นความรู้ในความดับแห่งทุกข์ เป็นความรู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับแห่งทุกข์ ทั้งหลายนี้คือ ความเห็นชอบ

สัมมาสังกัปโป ความดำริชอบ
ท่านอธิบายว่า ความดำริชอบ นั้นคือ ความดำริในการออกจากกาม ความดำริในการไม่มุ่งร้าย ความดำริในการไม่เบียดเบียน ทั้งหลายนี้คือ ความดำริชอบ

สัมมาวาจา การพูดจาชอบ
ท่านอธิบายว่า การพูดจาชอบ นั้นคือ เจตนาเว้นจากการพูดไม่จริง เจตนาเว้นจากการพูดส่อเสียด เจตนาเว้นจากการพูดหยาบ เจตนาเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ ทั้งหลายนี้คือ การพูดจาชอบ

สัมมากัมมันโต การทำการงานชอบ
ท่านอธิบายว่า การทำการงานชอบ นั้นคือ เจตนาเว้นจากการฆ่า เจตนาเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ เว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย ทั้งหลายนี้คือ การทำการงานชอบ

สัมมาอาชีโว การเลี้ยงชีวิตชอบ
ท่านอธิบายว่า การเลี้ยงชีวิตชอบ นั้นคือ ละการเลี้ยงชีวิตที่ผิดเสีย ย่อมสำเร็จความเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตที่ชอบ ทั้งหลายนี้คือ การเลี้ยงชีวิตชอบ

สัมมาวายาโม ความพากเพียรชอบ
ท่านอธิบายว่า ความพากเพียรชอบ นั้นคือ

ทำความพอใจให้เกิดขึ้น พยายาม ปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะยังอกุศลธรรม อันเป็นบาปที่ยังไม่เกิดไม่ให้เกิดขึ้น

ทำความพอใจให้เกิดขึ้น พยายาม ปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะละอกุศลธรรม อันเป็นบาป ที่เกิดขึ้นแล้ว

ทำความพอใจให้เกิดขึ้น พยายาม ปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะยังกุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ให้เกิดขึ้น

ทำความพอใจให้เกิดขึ้น พยายาม ปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อความตั้งอยู่ ความไม่เลอะเลือน ความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ ความเจริญ ความเต็มรอบ แห่งกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว

ทั้งหลายนี้คือ ความพากเพียรชอบ

สัมมาสติ ความระลึกชอบ
ท่านอธิบายว่า ความระลึกชอบ นั้นคือ
เป็นผู้พิจารณาเห็นกายในกายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและไม่พอใจ ในโลกออกเสียได้
เป็นผู้พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและไม่พอใจ ในโลกออกเสียได้
เป็นผู้พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและไม่พอใจ ในโลกออกเสียได้
เป็นผู้พิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและไม่พอใจ ในโลกออกเสียได้
ทั้งหลายนี้คือ ความระลึกชอบ

สัมมาสมาธิ ความตั้งใจมั่นชอบ
ท่านอธิบายว่า ความตั้งใจมั่นชอบ นั้นคือ สงัดแล้วจากกามทั้งหลาย สงัดแล้วจากธรรมที่เป็นอกุศลทั้งหลาย เข้าถึงปฐมฌาน ประกอบด้วยวิตกวิจาร มีปิติและสุข อันเกิดจากวิเวก แล้วแลอยู่ เพราะความวิตกวิจารทั้งสองระงับลง เข้าถึงทุติยฌาน เป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายใน ให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกผุดมีขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีแต่ปิติและสุข อันเกิดจากสมาธิแล้วแลอยู่ อนึ่ง เพราะความจางคลายไปแห่งปิติ ย่อมเป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติและสัมปชัญญะ และย่อมเสวยความสุขด้วยนามกาย ชนิดที่พระอริยะเจ้าทั้งหลาย ย่อมกล่าวสรรเสริญผู้นั้นว่า "เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นปกติสุข" เข้าถึงตติยาฌาน แล้วแลอยู่ เพราะละสุขเสียได้ และเพราะละทุกข์เสียได้ เพราะความดับไปแห่งโสมนัสและโทมนัสทั้งสองในกาลก่อน เข้าถึงจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข มีแต่ความมีสติ เป็นธรรมชาติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขาแล้วแลอยู่ ทั้งหลายนี้คือ ความตั้งใจมั่นชอบ

ที่มา: พระราชสุทธิญาณมงคล, "คู่มือการฝึกอบรมพัฒนาจิต", วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี, ๒๕๓๔

 

ขอเอาที่ตอบคำถามลูกศิษย์ มาpost นะค่ะ เผื่อเป็นประโยชน์กับจิตเกาะพระท่านอื่นๆ

การนึกถึงพระ ผ่านสมอง กับ จิต ต่างกันยังไงคะ เห็นชอบบอกว่า อย่าใช้สมอง ให้ใช้จิตคิดถึงพระ แต่เวลาเรานึกคิดอะไร มันก็ต้องมาจากสมองไม่ใช่เหรอคะ

เคยรักใครแบบรักด้วยสมองกับรักด้วย หัวใจไหมค่ะ ต่างกันแบบนั้นละคะ อิอิ

การนึกถึงพระ ผ่านสมอง จะเป็นการนึกแบบเพ่งไปบีบเค้นให้เห็น จะพยายามลงในรายละเอียด แบบอยากให้เห็นแบบโน้นแบบนี้

การนึกถึงพระ ผ่าน จิต เหมือนเรานึกแว๊บถึงใครบางคน นึกก็เห็นหน้าคนนั้นขึ้นมา โดยเราไม่ได้คาดหวังว่าจะเห็นแบบไหน แค่เป็นการสื่อนึกถึงคนนั้น เห็นยังไงก็รู้ว่าเป็นคนที่เรานึก ไม่ได้มีการปรุงแต่งว่าจะต้องเป็นแบบไหน แค่นึกถึงเฉยๆ

 

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาธรรมเจ้าค่ะ

 

ได้ค่ะ เดี๋ยวส่งไฟล์ให้ทางอีเมล์ ยังไงไม่ได้รับแจ้งมาได้ที่ busakorn88@gmail.com
จริงๆยังมีเอกสารที่แจกในงานเหลืออยู่บ้าง ถ้าจะให้ส่งทางไปรษณีย์ก็ยินดีนะคะ PMที่อยู่มาได้เลย

ขอโมทนากับคุณแม่ด้วย ขอให้ท่านสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการค่ะ

 

มาตามหาครูค่ะ ท่านใดจะรับป้าเป็นลูกศิษย์มั่งค่ะ
อีเมล์ ค่ะ ninenile@hotmail.com

 

สวัสดีค่ะ ครูเกษตื่นมาเจอเข้าให้อีกแล้ว อิๆๆ ส่งเมล์หาแล้วนะค่ะ แล้วเจอกันที่เมล์ค่ะ({)({)({)

 

สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ พี่เต่า

 

สาธุ ขออนุโมทนากับจิตบุญ ดวงที่ 112 คุณเปิ้ลและ ครูผู้สอนทุกท่านด้วยค่ะ...

 

ขอโมทนาบุญกับพี่แนทผู้จัดงาน พี่วิทย์ผู้ดำเนินการใหญ่ พี่ภู พี่เพ็ญ พี่ลูกพลัง พี่นิวเวฟ พี่พอใจ พี่ปลื้มและลูกๆ พี่บุษ และจิตบุญ จิตบำเพ็ญทุกท่านด้วยค่ะ การพบปะครั้งนี้มีสีสันมากๆ เลย เจอหน้ากันก็บรรยายไม่ถูกแล้วค่ะ

ขอสารภาพว่าตอนแรกที่พี่วิทย์จะให้พูดที่มาจิตเกาะพระ หนูกะจะเบี้ยว เพราะหนูไม่เคยพูดต่อหน้าคนเยอะๆ (คนน้อยๆ ก็ไม่ค่อยพูดด้วย) คิดเองว่าจะซ้ำซ้อนกับท่านอื่น ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อพี่วิทย์ประการกำหนดการ ตาลีตาเหลือกหาข้อมูล แถมให้พี่เพ็ญช่วยด้วย พี่เพ็ญก็วุ้ย! ยุ่งกับตรูเจงๆ เลย งานตรูก็เยอะอยู่แล้ว

ส่งสคริปไปให้พี่เพ็ญตรวจครั้งแรกไม่ผ่าน ครั้งที่สองข้อมูลมาไหลออกมาเอง ผสมกับก็อปข้อมูลจากท่านอื่นมาบ้าง คราวนี้ส่งไปครูเพ็ญแก้มานิดหน่อย พยายามจะท่องแต่จิตมันไม่เอา ได้แต่ถือกระดาษไว้ในมือ

ตอนขึ้นพูดไม่มีตื่นเต้น ไม่มีประหม่า สติมันแปะมาก พูดนิ่งมาก และจิตก็ว่างมากด้วย ข้อมูลมันทะยอยไหลออกมาทีละขั้นทีละตอน จนตัวเองก็งงเอง กราบแทบเท้าท่านพ่อที่เมตตาเจ้าค่ะ

แม่สุมาลีบอกว่านั่งฟังบรรยายของทุกท่าน จิตมันตื่นมากเลย ท่านเป็นปลื้มค่ะ
แม่บอกว่าท่านพ่ออยู่ด้วยตลอด จ่าติ๊กถ่ายรูปแล้วมีสิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้นด้วยค่ะ
คงจะได้แชร์กันทางเมล์เมื่อจ่าติ๊กเดินทางกลับถึงเชียงราย
คราวหน้าวันเดียวคงจะไม่พอแล้วค่ะ

โมทนาสาธุค่ะ