จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    โปรดรอสักครู่กำลังแก้ไขรูปภาพ สสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
     
  2. newwave1959

    newwave1959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +2,681

    โมทนา สาธุ กับจิตบุญดวงที่๑๐๑ที่สามารถฝึกปฏิบัติจนสามารถยกจิตได้ในครั้งนี้ สา ธุ

    และด้วยวันนี้เป็นวันพระใหญ่ ผมได้ไปทำบุญถวายสังฆทานมา
    ขอตั้งจิตอธิษฐานขอแผ่เมตตาและอุทิศบุญบารมีที่ได้กระทำมา
    ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันให้กับจิตบุญดวงที่๑๐๑รวมทั้งครูจิตบุญ
    ที่ได้ช่วยสอนกันจนสำเร็จกิจได้ในครั้งนี้ด้วยครับ

    และขอส่งบุญให้กับชาวจิตบุญ จิตบำเพ็ญ จิตเกาะพระ ทุกๆคน
    รวมทั้งทุกๆท่านที่สนใจเข้ามาศึกษาหาความรู้ในกระทู้นี้
    ขอให้ได้รับอานิสงค์แห่งบุญนี้โดยทั่วหน้าด้วยกันทุกท่าน เทอญฯ สาธุ

    ด้วยจิตคารวะ

    ปาราเมศ....นิวเวป จบ.๑๔




    *******************************************

    เป้าหมายสุดท้ายของชีวิต คือ พระนิพพาน
     
  3. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    คำสอนสมเด็จองค์ปฐม

    ขันธ์ ๕ หรือร่างกายเป็นรังของโรค
    สภาพการเกิดของคนเราคือชดใช้หนี้กรรม
    ไม่ว่าทั้งเก่าและใหม่ต้องใช้หนี้กันไป
    ยกเว้นผู้ไม่เกิดแล้วเท่านั้นจึงจักพ้นกรรมไปได้

    จงอย่ามุ่งหวังอะไรกับขันธ์ ๕ ว่าจักทรงตัว
    ความมีโรคย่อมเป็นธรรมชาติของร่างกาย
    ดังนั้นจึงพึงพิจารณาข้อนี้เอาไว้ให้มาก

    การไปให้หมอตรวจร่างกาย
    หากพบว่ามีโรคอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายก็ให้ยอมรับกฏของกรรม
    ร่างกายย่อมแปรปรวนเพราะสภาวะธาตุไม่ทรงตัวนี้เป็นปกติธรรม

    อย่าไปหาความเที่ยงในร่างกายหรือขันธ์ ๕
    ให้ถามแล้วตอบกับจิตตนเองให้มากๆ
    แล้วจักเกิดปัญญาพิจารณาขันธ์ ๕ ตามความเป็นจริง

    จาก ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น
    รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
     
  4. Espanda

    Espanda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +720
    ขอโมทนากับดวงจิตบุญที่ ๑๐๑ และจิตบุญทุกดวง
    ขอพรอันดี อันบริสุทธิ์ ได้มีแก่จิตบุญทุกดวงด้วยเทอญ​
     
  5. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    ขออนุโมทนาบุญกับ จิตบุญ๑๐๑ ด้วยครับ .... สาธุ

    ท่านพี่อภิชัย อยู่นครพนม รับราชการครับ

    ท่านเริ่มฝึกตั้งแต่ ๑๔-๓๐ ตค .. รวมเวลา ๑๖ วัน จบกิจครับ

    ท่านเคยฝึกมาหลายสายครับ สุดท้ายกำลังฝึกสายหลวงปู่ดู่ครับ
    ผมเจอกับท่านในกระทู้เรานี่แหละครับ รู้สึกถูกชะตาเลยทักทายกันในPMครับ ไม่ได้คิดว่าท่านจะมาฝึกด้วย...

    ตอนเย็นวันที่๑๔ ผมพาฟูจิกะแม่ฟูจิไปห้างจะทานข้าวเย็นกัน ท่านพี่ชัยก้อโทรมาคุยกัน
    สงสัยหลวงปู่ส่งให้มาเจอกัน เราคุยกันนานครับ ถึงแนวการทำจิตเกาะพระ และการเดินมรรค ยิ่งคุยยิ่งเข้าใจ ท่านเชื่อมั่นมากๆครับว่าจิตเกาะพระจะพาท่านไปนิพพานได้ ท่านตกลงฝึกกับผมครับ นับเป็นของขวัญที่หลวงปู่ดู่และท่านพ่อส่งมาครับ(๑๔ตค มีคนยกจิตและได้รับศิษย์อีกคน .. นี่แหละครับท่านพ่อประทานของขวัญให้)

    ท่านเป็นลูกศิษย์ที่เชื่อฟังดีมากๆครับ ผมบอกให้วางของเก่า อย่าสงสัย อย่าอยาก ท แบบไหน ท่านทำตามหมด เชื่อฟังครูดีมากๆมีอะไรสงสัยถามครุ ไม่แวะข้างทาง ไม่ไปหาคำตอบเอง
    จิตท่านเดินไวมากครับ ท่านตั้งใจ ไม่เครียด วางอารมณ์สบายๆ ท่านทำได้ถูกแนว
    ท่านชอบเดินจงกรม ผมจึงแนะนำเทคนิคให้ไป ทำให้ท่านเดินจิตได้ไวยิ่งขึ้น(ใครอยากรู้ เดี๋ยวจะบอกเทคนิคให้ครับ)
    ท่านมีความเพียรสูงมากๆครับ อดทน ไม่เอาอดีตมาบังจิตให้หลุดจากพระ

    ท่านเดินมรรคได้ถูกหลัด จิตจึงไม่ติดขัดอันใด มาเรื่อยๆ แบบแนบแน่น มั่นคง
    ท่านรายงานการบ้านทุกวัน ทั้งโทร และ PM ไม่เคยขาด

    วันที่๒๙ กลางคืนผมเห็นแล้วว่าท่านจะยก แต่ยังไม่ขาด ก้อยังงงๆเล็กน้อย แต่คิดว่า พรุ่งนี้ไม่พลาดแน่ๆ

    วันที่๓๐นี้ กลางวัน ก้อแอบๆบอกครูเพ็ญไปนิดนึง
    พอตกเย็น ได้สอบอารมณ์ท่าน ท่านโทรมารายงานการบ้านพอดี ...

    ท่านบอกว่า เมื่อคืน หลังจากเดินจงกรมและนั่งพักดูอารมณ์อยู่ รู้สึกว่าจิตหลุดอกไป ท่านตกใจไม่รู้ว่าคืออะไร เลยดึงกลับมา(จริงๆจิตท่านหลุดแล้วครับ ตรงกับที่ผมเห็นเลย มิน่า มันขึ้นไม่สุด ... อยากขึ้นวันออกพรรษาก้อไม่บอก อิอิ)
    ผมเลยบอกท่านว่า จริงๆจิตพี่ยกแล้วนะ แต่พี่ไม่รู้ตัว
    ผมไม่รอช้า ยิงตรงๆ .... เอาให้จะๆ
    1.ถ้าวันนี้ผมตายไป พี่คิดว่าพี่จะไปนิพพานได้ไหม ... ได้ครับ
    2.พี่คิดว่าพี่ไปนิพพานได้ไหม ... ได้ครับ ผมมั่นใจ
    3.อารมณ์ตอนนี้มันว่าง โล่งๆ สบายๆๆ .... จบกิจแล้วครับพี่
    คืนนี้ขึ้นไปรายงานตัวรับตำแหน่งกับท่านพ่อด้วยนะครับ

    ท่านพี่ชัยนี้ มีความเพียรสูง มีศรัทธาในนิพพาน ในท่านพ่อ ในตัวเอง
    มีของเก่าเยอะ แต่ไม่เอามาปนกับการเดินมรรค ไม่มีสงสัย ไม่มีความอยาก ไม่เครียด สบายๆ เกาะพระแนบแน่น ... ใช้เวลาไม่นาน ก้อทำได้
    ขอให้ทุกท่านนำแนวทางนี้ไปฝึกและวางกำลังใจแบบนี้นะครับ

    ท่านพ่อครับ ลูกส่งดวงจิตที่จะมาช่วยท่านพ่อได้อีกหนึ่งดวงครับ ดวงจิตคุณภาพด้วยครับ ... ลูกกราบท่านพ่อครับ


    ขอโมทนากับจิตบุญ๑๐๑อีกครั้งครับ


    จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2012
  6. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับจิตบุญน้องใหม่ดวงที่ 101 แล้วจ้าาาา พร้อมด้วยทั้งครูผู้สอนค่ะ สาธุ:cool::cool::cool:
     
  7. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับจิตบุญน้องใหม่ดวงที่ 101 แล้วจ้าาาา พร้อมทั้งครูผู้สอนด้วยค๊าาา สาธุ:cool::cool::cool::cool:
     
  8. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    เอ๊ะ..เกิดอะไรขึ้น เราโพสต์โมทนาบุญกับจิตบุญดวงที่ 101 ไปแล้วตั้ง 2 รอบ แต่โพสต์ไม่ยักกะโชว์ขึ้นแหะ...:':)':)'(
     
  9. Espanda

    Espanda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +720
    เมื่อกลางวัน ครูวัฒโจโฉถามว่ามีคนไปรับงานแต่ต้องจ่ายใต้โต๊ะจะแนะนำอย่างไร
    ผมตอบไปว่า งานทางโลกก็ให้ทำแบบทางโลก อาจจะไม่กระจ่างเลยจะอธิบายเพิ่มเติมซักกะหน่อย

    เรื่องทางโลกผมถือหลักว่า
    ไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น และไม่เบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่น
    ถ้าอยู่ในฐานะผู้รับใต้โต๊ะนี่นับว่าเบียดเบียนผู้อื่นแน่นอน ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
    แต่ผู้ที่ต้องจ่ายใต้โต๊ะแล้วได้งานคงไม่เบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่น
    สมมุติว่าถ้าต้องทำงานประมูลในวงราชการ แล้วไม่จ่ายใต้โต๊ะ
    ต้องเปลี่ยนอาชีพกันเลยทีเดียว อาจจะเป็นการเบียดเบียนตนเองและครอบครัวได้
    ที่บอกไปไม่ได้สนับสนุนนะครับ เป็นแง่มุมหนึ่งในโลกสมมุติเท่านั้น ทำแล้วก็...วาง


    ถ้าคนตอบอยู่ในภูมิธรรมระดับโสดาบันผมว่าต้องเซย์โนแน่นอน
    หรือผมคิดไปเองคนเดียว ฮ่าๆๆ

    หนุ่ม จบ.๔๒
     
  10. srirattana

    srirattana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,972


    สมัยก่อน เคยได้อ่านหรือ ลุงที่วัดท่าซุงแนะนำอันนี้ก็ลืมไปแล้ว

    ท่านเล่าว่า เวลาจะทำบุญอะไรก็ให้จ่าหน้าซองเขียนความประสงค์

    เพราะหากญาติโยมเอาเงินทำบุญแบบใส่ซองแต่ไม่ได้เขียน ว่าจะให้ทำอะไร ถือว่าเป็นของสงฆ์ ในเขตธรณีสงฆ์ พระองค์น้นท่านเอาไปใช้ส่วนตัวไม่ได้บาปทันที(เรียกว่าอาบัติหรือเปล่าไม่ทราบนะ)

    แต่ถ้าหากญาติโยมเขียนจ่าหน้าซองไปว่า ให้ท่านใช้ส่วนตัว

    ก็ไม่ผิดหลักทั้งผู้ให้และผู้รับ แต่ในที่นี้ไม่ได้มีเจตนาจะเบี่ยงเบนประเด็น

    ให้ใต้โต้ะไม่ได้ก็ให้บนโต้ะเลย ถ้าเป็นดิฉันจะ เขียนว่า ให้ด้วยความรัก แต่เขาจะรักตอบไหมนี่ไม่ทราบค่ะ (อันนี้ไม่ได้แนะนำนะคะ แต่ถ้ายกมาในหลักเหตุผล
    คนที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเงินโดยไม่สนใจสิ่งถูกต้อง ก็ถือว่าเขาโลภ เจอคนแบบไหนแสดงว่าเราก็อยู่ในสังคมแบบนั้น ให้ถามตัวเองว่ารังเกียจไหมความโลภ หากรังเกียจ ก็ต้องถอยออกมาไกลๆใช่ไหม ไม่ไ่ด้รังเกียจคนนะ เรารังเกียจอารมณ์โลภ ใช่ไหมคะ หากทำไม่ได้ก็ถือว่ามันเป็นแรงกรรม

    ยังอยู่ในโลกนี้ อยู่อย่างไม่เบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่นก็ถือว่าเป็นผู้ประเสริฐ และอ้างอิงในหลักเหตุและผลด้วยปัญญาค่ะ

    เหมือนคนถือศีลแปด ยังต้องอยู่ในสังคม ใจถือศีล ใจเข้าใจแล้ว

    แต่ยังเข้าวัดไม่ได้เพราะมีภาระทางโลก ท่านก็ ทำตามขอบเขตของศีลของสังคมเขา ยังต้องอาบน้ำใส่เครื่องหอม ยังต้องแต่งตัวให้พอเหมาะ กับสังคม

    โลกไม่ช้ำ ธรรมไม่เสีย ยังต้องติดตามข่าวคราว เพื่อหน้าที่การงาน

    ถามว่าท่านผิดศีลไหม อะไรมาตัดสินหรือ ก็ไม่มีอะไรมาตัดสิน มีแค่จิตดวงเดียวที่รู้

    สมัยก่อน มีท่านผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง กราบเรียนหลวงพ่อว่าอย่างนี้ ว่าใจท่านนั้น ถือศีลแปด แนบแน่น ท่านปฎิบัติตามหลักของศีลแปดทุกประการเมื่ออยู่ในบ้าน แต่เมื่ออกงานสังคม ท่านต้องแต่งตัวแต่งหน้า ต้องทำตามสังคม เขาเปิดเชมเปญ ท่านจะปติเสธ ก็ไม่ได้ เพราะไปงานบางงาน เขาถือว่า ดื่มเพื่อเป็นเกีรยต กับท่านเจ้าของงาน


    หลวงพ่อท่านบอกว่า ใจบวช ไม่ใช่เอากายไปบวช ยังต้องอยู่ในสังคม ยังมีภาระ ก็ทำๆตามเขาไป ไม่ให้ชาวโลกเขาติเตียน จิตใจถึงขั้นถือศีลแปดเป็นอธิศีลแล้ว ก็ต้องมีปัญญาในการรักษาศีลให้ทรงตัว ท่านบอกว่า

    ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ ถือแก้วไว้ ทำป็นจิบๆ พอไม่ให้เสียมรรยาทในสังคม แต่เราไม่ได้กินนี่ แค่แตะปากเฉยๆ ใครจะไปรู้กับเรา

    คนถือศีลจึงไม่ใช่คนที่แยกตัวออกจากสังคม เพราะในฆารวาส ยังต้องอยู่ในโลก ในสังคมอย่างที่ว่า ธรรมะที่แท้จริงคือ สิ่งที่นำมาใช้ได้ตลอดชีวิต

    โลกไม่ให้ช้ำ ธรรมไม่ให้เสีย แต่ถ้าไม่แน่ใจ ก็ถือศีลแปดเฉพาะอยู่ในบ้าน ออกจากบ้านก็ถือศีลห้าเป็นปรกติ แบบนี้ ใจจะได้ไม่หนัก

    ขอขอบพระคุณหลวงพ่อ พระราชพรหมญาณฯวัดท่าซุงด้วยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2012
  11. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    จ๊ากแอบเอาการบ้านศิษย์ขึ้นกระทู้ อิๆๆๆๆๆ เดี๋ยวท่านก็เขินหายไปอีกคนหรอก555555
    เรื่องนี้ผมเองว่ามันค่อนข้างสุ่มเสี่ยงพอสมควรที่เดียว แต่มองในแง่ของผมแล้วผมว่าผิดอ่ะ มันเป็นมิจฉาทิฐิ แม้ว่าอาจจะดูไม่ผิดศีลแต่ก็ไม่ควรอ่ะครับ เช่นขายเหล้าไม่ผิดศีล แต่ทำไมต้องตกนรก ประมาณนี้อ่ะครับ
    อาาาาาาาาาาาาาาา ลูกศิษย์ผม เอาเรื่องที่ผมเคยทำไปคนละนิดคนล่ะหน่อยจริงๆ ท่านพ่อช่างจัดสรรถูกคนนักครับ
    เมื่อเช้าตื่นมาผมว่าน่าจะผิดศีลละเอียดนะครับ กรณีที่เรารับเหมาแล้วจ่ายเงินใต้โต๊ะเพื่อให้ได้งานมานั้น ก็เหมือนกับเราไปเบียดเบียนเจ้าของเงินจริงๆ เช่นเขาความจริงต้องจ่าย100 แต่ต้องจ่าย120 ซึ่งก็เหมือนเรามีส่วนขโมยเงินเขาดีๆนี่เองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2012
  12. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    หนูมาดี..ชื่อนี้เป็นมงคล
    ว่าแต่ว่า..หนูมาดี เวลาจะไป ก็ขอให้ไปดีด้วยนะ
    พี่ภู มิได้หมายความว่า จะให้เธอไปตายนะ แต่จะพรกับเธอว่า..ให้เธอไปดีมาดีน่ะ หรือ ขอให้เธอโชคดีน่ะ
    สรุปว่า..ขอให้เธอสวยรวยเจ๋งเท่ระเบิด OK!...

    พี่ภู..อยากจะขอเปลี่ยน คำว่า ชอบธรรมะของพี่ภู ให้มาทำจิตเกาะพระ จะดีกว่ามั๊ย?
    เธอเป็นคนดีมาก รู้จักการให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง แค่นี้เธอก็ได้บุญมากโขแล้ว

    แต่เธออย่ามัวนำธรรมะไปสอนเพื่อนจนเพลิน จนลืมสอนตนเองด้วยนะ

    ความรักนั้นห้ามกันไม่ได้ แต่ที่จะห้ามได้ ก็คือ..ห้ามรักหมดใจ..กิ๊วววๆๆ

    พี่ภู..จะขอแนะนำว่า ในเมื่อคนเราหลงมาเกิดกันแล้ว ย่อมหนีไม่พ้นกับทุกข์ หนีไม่พ้นกับคำว่ารัก รักแท้ รักลวง หรือรักหรอกจึงหยอกเล่น จะเป็นรักประเภทไหนก็ตามแต่ ก็ขอให้รักเผื่อเลือก เอ๊ย เผื่ออกหักหรือรักลวง เผื่อใจ รักให้มีสติก็คือ หัวใจก็ปล่อยให้มันแล่นไปกับความรักไป ไหนๆเกิดมาเป็นคนทั้งที อกหักดีกว่ารักไม่เป็น เดี๋ยวตายไปลงนรกหรือว่าขึ้นสวรรค์ เดี๋ยวเพื่อนๆถามว่า ความรักของเธอนั้น เป็นยังไง เดี๋ยวจะตอบไม่ถูก แต่บางคนเจอรักไม่สมหวังก็บอกความรักนี้ไม่ได้เรื่อง อย่าไปรักคนอื่นเลย รักแม่โขงหรือรักเจ้าพระเข้าดีกว่า อย่าไปรักผู้ชาย/ผู้หญิงเฮงซวย อันนั้นก็มองโลกในแง่ร้ายเกินไป จึงไปนรกนั่นไง ก็คิดกันแบบนี้ รู้เมื่อสายหรือตื่นอีกทีก็แม่สาย

    แต่บางคนสมหวังในรัก รักจนหัวปักหัวปำ อันนั้นก็เรียกว่า ความหลง แต่ถ้ารักไม่สมหวัง อันนั้นก็เรียกว่า ความโกรธ
    สรุปแล้ว...รักทั้งสมหวังหรือไม่สมหวัง มีกิเลสเจือปนในจิต ก็คือ ทั้งความโกรธ ทั้งความหลง ตายไปก็ตกนรกทั้งนั้น
    เมื่อตายลงไปแล้ว แต่ถ้ากลับมาเกิดกันใหม่ พวกที่ได้รักสมหวังก็อาจจะได้กลับมารักกันดังเดิม แต่ถ้าคู่ไหนรักไม่สมหวัง ก็อาจจะกลับแก้แค่นกันใหม่ จากชายเกิดเป็นหญิง หรือหญิงเกิดเป็นชาย คือผลัดกันทำกรรม แก้แค้นกันไป แก้แค้นกันมาอยู่อย่างนี้ เพราะเฉพาะกรรมที่ไม่ดีที่ได้กระทำกรรมต่อเนื่องกันมาก นี่เขาเรียกว่ากฎแห่งกรรม เกิดแล้วตาย ตายแล้วก็เกิดอยู่อย่างนี้ไปไม่รู้กี่ภพ กี่ชาติ คนเราเกิดมาก็เพราะว่ามีกรรมนำมาเกิด โดยจะมีกรรมทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป ชดใช้กันไม่หวอดไม่ไหว

    ต่อไปใครจะรักกัน เราก็ไปห้ามไม่ได้ เพราะความรักนั้นเป็นนาม รักนั้นเกิดที่กลางหัวใจ แท้ที่จริงก็เกิดที่จิตหรือดวงจิตของคนเรานี้แหล่ะ
    แต่ถ้าพวกเรามีสติกัน คือจงเปลี่ยนรักมาเป็นเมตตากันซะ แต่ถ้าไม่อยากเสียใจหรือผิดหวัง ถึงรักคู่ไหนสมหวัง แต่ก็ต้องจากกันอยู่ดี
    สรุปแล้ว...ทั้งรักสมหวังและไม่สมหวังนั้น ผลสุดท้ายหรือปลายทางนั้น ก็คือ เป็นทุกข์ เพราะเมื่อคนเราได้พบเจอกันแล้ว ก็ต้องจากกันอยู่ดี หรือจากเป็นหรือว่าจากตาย สรุปแล้วจากกันแน่นอนเป็นที่สุด ควรทำใจกันเสียแต่เนิ่นๆ ก่อนที่รักขมขื่นจะเกิด หรือก่อนที่คนรักฝ่ายฝดฝ่ายหนึ่งจะต้องตายจากกันไปก่อน พวกเราจะต้องเตรียมใจไว้ทั้งสองด้าน ทั้งสองฝ่ายนั่นเอง

    ผู้ที่มีสติปัญญามาก หรือผู้ฝึกจิตมาดี จิตผู้นั้นก็จะรู้เท่าทันกิเลสแห่งตน หรือสิ่งใดๆ ที่มากระทบจิต ได้ทุกขณะจิตหรือทุกๆเรื่อง รับได้หมด ไม่ว่าทั้งดี(ชื่นชมกัน) หรือไม่ดี(ถูกตำหนิ ติเตียน ด่าว่าหรือนินทากัน)

    เพราะฉะนั้น คำว่า เมตตานั้น เหนือคำบรรยาย เหนือรักใดจะเทียบเท่า ยิ่งกว่าชายที่มีสปิริตในโลกก็หาเสมอเหมือนมิได้เลย กับคำว่าเมตตา เพราะ ชายพร่ำบอกว่ารักหญิง รักหมดหัวใจของพี่เลย พี่มีอะไรพี่จะหามาให้ พี่จะเอามาให้ได้ พี่ตามใจน้องทุกอย่าง แต่หญิงไร้สติผู้นั้นโง่ก็หลงเพลิดเพลินไปกับคำพูดของชาย แต่ฝ่ายหญิงหารู้ไม่ แต่ถ้าผู้ชายมันได้อะไรหญิงนั้นมาเชยชมแล้วหรือสมดั่งใจมันแล้วละก้อ ต่อไปนี้ที่มันพูดหาเสียงนั้น ในขณะที่เหมือนดั่งหญิงที่โดนสกดจิตฝ่ายชายนั้น พอมันได้เป็นรัญบาล อ๊าวเอ๊ย พร่ำไปพร่ำมาไง๊กลายเป็นการเมืองไปได้ เอาใหม่ๆ ฮ่าๆ ขอโทษที สงสัยจะหลุดฌาน พี่ภูขออนุญาตเข้าฌานใหม่นะ ฮ่าๆ พักโฆษณาซะงั้น ขาดตอนเลย เอาใหม่ๆ

    เมื่อเจ้าชายมันได้สมใจของมันแล้ว ลายสักจะออก เหมือนเรื่องแรงเงามั๊ย? ฮ่าๆ เห็นคนไทยติด(น้ำเน่า)กันตรึม เดี๋ยวรอให้คุณหญิงเจ้าระเบียบมาเป็นรมต.กระทรวงวัฒนธรรมสักทีนึงเห่อๆ พวกเธอจะอดดูเป็นแน่แท้
    เข้าเรื่อดีกว่า ต่อไปเมื่อเจ้าชายมันเสพสมหวังดั่งใจหมายแล้ว คราวนี้มันเริ่มกะพรือปีกเตรียมจะโผลบินแล้ว หรือเริ่มออกลายไทยฝรั่งจีนแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครมีแฟนเป็นเชื้อชาติอะไร ฝ่ายหญิงพวกเะฮยังจดจำที่ผู้ชายมันพูดก่อนที่จะได้เสียกันมั๊ย เอ่อน่ะ ตอนนี้มันกำลังจะเอาคืนทั้งหมด มันเริ่มเป็นพ่อค้าแล้ว มันจะเก็บทั้งต้น ทั้งดอกเลยคราวนี้ ฝ่ายหญิงตั้งรับไม่เคยทันมันหรอก เพราะธรรมชาติกรรมมันสร้างมาคู่กรรมกันน่ะ แต่ก็ไม่แน่เสมอไปนะ เจ้ชายอาจจะโดนฝ่ายหญิงเล่นงานกลับกันบ้างชาตินี้ เพราะชาติก่อนไปทำเขาไว้เยอะ ชดใช้กรรมกันเห่อ เดี๋ยวก็มืดค่ำ เดี๋ยวก็ตายแล้ว

    พากันรักษาศีล ทำภาวนากันดีกว่า มาหาแสงสว่างส่องจิตใจตนเองกันดีกว่า เพราะไม่มีแสงใดๆ ที่จะทำให้จิตสว่างจ้าเท่ากับแสงปัญญาในทางธรรมได้อีกแล้ว ต่อให้เป็นแสงพระอาทิตย์ก็ตาม ก็ยังสว่างไม่เท่า แสงแห่งปัญญา ที่ส่องลงมากระทบใจกลางดวงจิตของผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ หรือพวกเขาเหล่านั้น ที่ปฎิบัติถึงกระแสจิต กระแสธรรมกันได้เลย

    หรือแสงสว่างที่คนอื่นส่องทางให้เราเดินนั้น มันยังเทียบไม่ได้เลย
    ถ้าเรามีแสงสว่างในดวงจิตของตนเอง

    เพราะฉะนั้น อย่าได้หลงชื่นชมผู้อื่นที่เขามีจิตอรหันต์ เพราะเป็นจิตของผู้อื่น
    แต่ควรทำจิตของตนเองให้เป็นอรหันต์ ดั่งคนอื่นๆเขาดีกว่าไหม๊

    ปล. เพราะหนูมาดี..คนดี ทำให้พี่ภูต้องพร่ำยาวเลย
     
  13. NOKMAM

    NOKMAM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +6,157
    คำกลอนธรรมดี ๆ จาก ท่านพุทธทาส

    กรรมดี ดีกว่ามงคล
    สืบสร้าง กุศล ดีกว่า นั่งเคล้า ของขลัง
    พระเครื่อง ตะกรุด อุทกัง ปลุกเสก แสนฉมัง
    คาดมั่ง แขวนมั่ง รังรุง

    ขี้ขลาด หวาดกลัว หัวยุ่ง กิเลส เต็มพุง
    มงคล อะไร ได้คุ้ม
    อันธพาล ซื้อหา มาคุม เป็นเรื่อง อุทลุม
    นอนตาย ก่ายเครื่อง รางกอง

    ธรรมะ ต่างหาก เป็นของ เป็นเครื่อง คุ้มครอง
    เพราะว่า เป็นพระ องค์จริง
    มีธรรม ฤามี ใครยิง ไร้ธรรม ผีสิง
    ไม่ยิง ก็ตาย เกินตาย

    เหตุนั้น เราท่าน หญิงชาย เร่งขวน เร่งขวาย
    หาธรรม มาเป็น มงคล
    กระทั่ง บรรลุ มรรคผล หมดตัว หมดตน
    พ้นจาก เกิด แก่ เจ็บ ตาย

    บริสุทธิ์ ผุดผ่อง ใจกาย อุปัทวะ ทั้งหลาย
    ไม่พ้อง ไม่พาน สถานใด
    เหนือโลก เหนือกรรม อำไพ กิเลสา- สวะไหน
    ไม่อาจ ย่ำยี บีฑา ฯ
     
  14. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    พี่ภู..ขอตอบจักหน่อย มันคันปาก
    อันปัญญาอันน้อยนิด แต่จิตสว่าง ตอบได้ดังนี้...
    เมื่อมนุษย์หลงเกิดมากัน ไม่มีใครดีไปกว่ากันนักหรอก แต่นับวินาทีนี้เป็นต้นไป ก็คือ กรรมในปัจจุบันนี้ เดี๋ยวก็รู้ว่า ใครดีหรือใครชั่วเลย เพราะกรรมปัจจุบันนี้สำคัญกว่า กรรมในอดีตหรือกรรมอนาคต
    ด้วยเหตุนี้เอง ศีลหรือธรรมของมนุษย์ทางโลกนี้ มีตั้งแต่หยาบ กลาง ละเอียด
    ที่กล่าวมานี้ก็ล้วนเป็นเรื่องจิตของผู้กระทำกรรมทั้งสิ้น
    กล่าวอีกหนึ่งนัยยะ ก็คือ แต่ถ้าคนไหนที่มีจิตหยาบ หรือจิตยังไม่นิ่ง จิตปะปนเต็มไปด้วยกิเลสพอกหนาจนมิด จนมองไม่เห็นศ๊ลหรือธรรมอขนาดกลางและละเอียด เมื่อมองไม่เห็นของละเอียดจึงมองเห็นแต่ของหยาบๆ คนเราจึงเลือกเอา เลือกทำ เลือกเป็น เลือกมีแต่สิ่งหยาบๆ นั่นไงเล่า
    แต่ถ้าผู้ที่อยู่กับทางโลก ที่พอมีจิตละเอียดขึ้นมาหน่อย ของหยาบก็ไม่เอาแล้ว แต่จะเลือกเอาแต่ของละเอียด หรือจะเลือกว่า งานตัวไหนมันจะไปเบียดเบียนกับคนอื่นๆใครเขา ก็จะเกิดความละอายแก่ใจ อายผีสางนางไม้ อายเทวดา อายพรหม อายพระแล้ว อย่าลืมนะว่า หลอกคนอื่นได้ แต่หลอกตนเอง หลอกผีสาง หลอกเทวดา หลอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ อย่าลืมนะ กรรมมันทำหน้าที่ทุกลมหายใจเข้า-ออก กรรมมันบันทึกตลอดเวลาและมันฝังชิพอยู่ภายในจิตนะ มิใช่สมองของร่างกาย และมันจะจดจำไปข้ามภพข้ามชาติเลยทีเดียว

    สรุปแล้ว..ผู้ที่ยังไม่หมดวาระกรรม หรือคนดีจริงๆย่อมทำตัวเหมือนดั่งเกลือที่คอยรักษาความเค็ม จนนาทีสุดท้าย ใครฟังแล้วยังต้องกลืนน้ำลายของตนเองนั้น ก็แสดงว่า จิตยังหยาบอยู่
    ผู้ที่มีจิตละเอียดนั้น จิตย่อมแยกแยะดีชั่วได้เด่นชัด จิตมันไวกว่าสมองไม่รู้กี่ล้านเท่าตัว จิตมันรู้ล่วงหน้าก่อนที่จะมีคนนำเงินมาสอดใต้โต๊ะเสียอีก
    แต่ถ้าผู้ใดยังไม่หมดวาระกรรม หรือเป็นคนดีไม่จริง ไม่ว่าเงินใต้โต๊ะนั้นจะมีสักกี่บาท ก็จะเอาหมด ไม่มีพอ
    แต่ถ้าผู้ใดที่มีจิตละเอียดมากเท่าใด ต่อเขายกทั้งโลกนี้ให้เป็นเจ้าของก็ไม่เอา เพราะถ้าจิตหลุดพ้นจริงๆ ไม่ต้องมานนอนคิดให้เสียเวลากันแล้ว
    เพราะผู้ที่มีจิตละเอียดนั้น บาทเดียว สลึงเดียวก็ไม่เอา
    คนไม่ดี...ทำเลวทำง่าย แต่ทำดียาก
    แต่คนดีนั้น...ทำดีง่าย แต่ทำเลวยาก
    เป็นต้น

    งานประมูลทางราชการ(ประเทศไทย) ผมก็เคยหลงทำมาแล้ว(งบพันล้าน)
    ปี ๒๕๕๓ (ผู้ใหญ่ขอ ๑๐%)
    แต่บังเอิญ..จะเป็นความโชคดี หรือ โชคร้ายไม่ทราบ
    แต่ถ้าจิตปุถุชนท่านบอกว่า...โชคร้าย
    แต่ถ้าจิตอรหันต์ท่านบอกว่า...โชคดี
    เพราะจิตอรหันต์เขามักตั้งอยู่ที่เขตบุญกุศล


    (แต่ถ้าผมได้งานนั้นนะ ผมได้ร่วมกว่าร้อยล้านบาท แต่ถ้าได้ ผมไม่แน่ใจว่า จะได้วิชาจิตเกาะพระมั๊ย? เป็นใครก็ต้องตอบว่า ไม่มีแน่ๆ เพราะเมื่อคนเราได้มีเงินทองเยอะแยะมากมายแล้ว ยากที่จะไม่หลงมัน เหมือนคนที่กำลังหลงเงินหลงทอง หลงยศ หลงอำนาจหน้าที่การงาน พวกเขารู้กันบ้างมั๊ยว่า นั่นคือ หมวกหรือหัวโขน พวกเขารู้หมดแร๊ะ แต่อดสวมไม่ได้ ขนาดนักปฎิบัติ ครูบาอาจารย์ท่านสอนนักสอนหนาว่า นิมิตอย่าหลงไปดู อย่าไปสนใจ อย่าไปให้ความสำคัญกับมัน แต่ถ้าผู้ปฎิบัติจะเอาดีมรรคผล โดยเฉพาะพระนิพพาน จักต้องสอบให้ผ่าน แต่แล้วเป็นยังไง ก็ยังไม่วาย ครูผู้สอนพูดปากจะฉีกถึงรูหูแล้ว เพราะคำว่า นิมิต นั้น เปรียบเสมือนขนมหวาน อดไม่ได้ที่จะลองลิ้มชิมรสชาดมัน เหมือนดั่งชายหนุ่มเห็นรูปลักษณ์หญิงงามๆจะอดไหวหร๊อ เป็นต้น)

    แต่จิตปุถุชนมันไม่สนใจเรื่องบุญหรือกุศล เพราะเมื่อตามันเห็นเงินก้อนโต ก็ลืมหมด กิเลสมันบดบังใจไปหมด
    จิตมนุษย์ทางโลกนั้น ก็มักมีข้ออ้างเยอะแยะมากมายนักสุดจะพรรณา ข้าจะเอาใครจะทำไม...

    ด้วยเหตุนี้เอง ถ้าจิตผู้ใดะเข้าถึงความละเอียดมากๆแล้ว ส่วนใหญ่มักจะอยู่ร่วมกับผู้ที่จิตหยาบ หรืออยู่ร่วมกับคนทางโลกไม่ได้ ก็เพราะด้วยเหตุนี้แล
    บางคนทนไม่ไหว ก็หนีออกบวชไปเลย ปลีกวิเวกเลย
    แต่อย่าลืมนะว่า ความสงบ ความวิเวกนั้น มิได้อยู่ที่อื่น นอกจากจิตของตนเอง อย่าหนีออกไปไกลจากจิตตนเอง เพราะความสงบ ความสงัด หรือความสุขที่แท้จริงนั้น มันอยู่ที่จิตนิ่งหรือจิตทรงฌาน นั่นเอง

    จิตบุญ..พวกท่านคอยสังเกตดูให้ดีๆนะว่า คนดีเขารวยภายใน แต่คนโลภมากเขารวยภายนอกกัน ผู้ที่มีสติปัญญามากเท่านั้น จึงจะรู้สัจจธรรม...
    จิตผู้ไม่นิ่ง วิ่งไปตามกระแสเหล่านั้น พวกเรากำลังทำหน้าหรือชดใช้กรรมกันอยู่ แต่เมื่อไหร่สาระกรรมใกล้จะหมด เดี๋ยวเขาก็คิดได้เอง


    เพราะ...กว่าจะรู้ตนเองว่าโง่นี่ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
    แต่ถ้าคิดว่าตนเองฉลาดนี่ ง่ายนิดเดียว..ชิ๊มิ๊ๆ



    ปล.สรุปแล้วข้าพเจ้าขอบตอบว่า จิตของเรามันหยาบ หรือ ละเอียด
    (ขอให้ตอบตนเองให้ได้ ก็แล้วกัน)

    พี่ภูมีคำตอบให้กับตนเอง และก็ชาวโลกได้หมด ด้วยจิต อนัตตา สบายใจ
    ในเมื่อกายไม่มีอะไรก็เหมือนไร้น้ำหนัก
    แต่..ถ้าจิตคนเราไม่มีอันใดๆแล้ว พวกท่านคือ ผู้เจริญ หรือผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ ย่อมตอบกันได้ทั่วหล้า...เอย
     
  15. NOKMAM

    NOKMAM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +6,157
    เหยียบเรือสองแคม - หลวงปู่ดู่


    หลวงปู่ดู่แม้จะเป็นพระภิกษุชราซึ่งอยู่บ้านนอก แต่ท่านกลับเป็นผู้มีมุมมองที่กว้างขวางเป็นระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำสอนคำเตือนที่ว่า

    "เรายังอยู่ทางโลก (เป็นฆราวาส) ต้องเหยียบเรือสองแคม คือทางโลกก็ต้องไม่ให้ช้ำ ทางธรรมก็ต้องไม่ให้เสีย"

    ดังนั้น ในสมัยก่อนที่หลวงปู่ยังหนุ่ม ๆ ท่านจึงเคี่ยวเข็ญลูกศิษย์ในเรื่องการศึกษาเล่าเรียน โดยท่านจะสอนเองทั้งการอ่านการเขียน รวมไปถึงคณิตศาสตร์

    ลุงแกละเคยเล่าว่า ลุงมาอาศัยอยู่วัดสะแกกับหลวงปู่ ได้รับการอบรมสั่งสอนจากหลวงปู่โดยตรง แต่ด้วยความที่อยูในวัยซน จึงเคยโดดเรียน แอบปีนรั้ววัดไปเที่ยวเล่น กลับมาค่ำ หลวงปู่รู้ เป็นได้โดนไม่เรียว ท่านดุ ไม่เหมือนสมัยหลังนี้

    บัดนี้ทั้งผู้สอนคือ หลวงปู่ และ ผู้เรียนคือลุงแกละก็ละสังขารไปสิ้นแล้ว แต่สาระแนวทางการสอนของหลวงปู่ยังอยู่ว่า

    โลกต้องไม่ให้ช้ำ ธรรมต้องไม่ให้เสีย อย่าปฏิบัติตนสุดโต่ง ต้องปฏิบัติธรรมสมกับฐานะและสภาพของแต่ละบุคคล เช่น

    การจะทำทาน ก็ให้ดูคนข้างหลังด้วย จะเอาอย่างคนมีทรัพย์มาก ๆ ไม่ได้

    การจะรักษาศีลแปด ก็อาจไม่จำเป็นต้องรักษาในวันพระ แต่เลือกวันที่ไม่กระทบต่อการรับประทานอาหารเย็นร่วมกับครอบครัว เพราะเป็นกิจกรรมที่สำคัญ

    การภาวนาก็ไม่เน้นแต่เฉพาะนั่งหลับตาที่วัด เวลาทำการทำงาน เดินไปไหนมาไหน ก็พยายามมีสติระลึกรู้ จะปฏิบัติเก่งขนาดไหน แต่เพื่อนร่วมงานไม่คบ หรือมีแต่คนรังเกียจหรือนินทาลับหลัง จะมีประโยชน์อะไร

    โลกและธรรมสัมพันธ์กัน เราสามารถหาธรรมได้จากโลก ในขณะเดียวกันในทางธรรมก็มักมีเรื่องโลก ๆ แฝงอยู่

    จึงขึ้นกับสติปัญญาของเจ้าของ พิจารณาเลือกเฟ้นสิ่งอันเป็นสาระเอาเอง และ ไม่ลืมว่าต้องประคองทั้งโลกและธรรม บุคคลคนเดียวอยู่ในหลายฐานะหน้าที่ เราต้องเป็น

    ลูกที่ดี ศิษย์ที่ดี น้องที่ดี เพื่อนที่ดี เจ้านายที่ดี ลูกน้องที่ดี ฯลฯ ที่สำคัญ เป็นลูกพระตถาคตเจ้าที่ดีโดยการปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
     
  16. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    จนได้..จบจนได้
    ขอโมทนาบุญกับคุณอภิชัยด้วย จิตบุญดวงที่ ๑๐๑
    และขอโมทนาบุญกับครูวิทย์และผู่ที่เกี่ยวข้องด้วย ทุกท่าน
    ครูวิทย์แนะนำเรื่องการวางกำลังใจหลังจิตยกด้วยนะ
    สตินะ..สติ
    สติอย่าห่างจิต จิตก็อย่าห่างพระ ตามให้ติด จิตคอยหมั่นทรงฌานไว้ให้ตลอด เพราะเป็นเขตอภัยทาน เป็นเขตบุญ เขตกุศล
    ขอให้ท่านอภิชัย สุขกายสาบยใจและเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ
    (เลขนี้มีแต่คนอิจฉา)
    เพราะนอกจากจะเลขสวยแล้ว ยังเป็นบุคคลเริ่มต้น ร้อยที่สองแห่งจิตบุญ
    และเมื่อหายงงงวยแล้ว อย่าลืมมาเป็นครูสอนจิตเกาะพระต่อไปนะ อย่าแอบขึ้นไปพระนิพพาน แด่เพียงผู้เดียว เพราะในขณะที่คุณพ้นทุกข์ พ้นวัฎฎะกันนี้ มีผู้คนจำนวนมากที่ยังจมอยู่กองทุกข์ หรือวนเวียนหาทางออกจากสังสารวัฎนี้ยังไม่ได้ ขอให้ท่านได้ไปโปรดกับลูกหลานของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ หรือครูบาอาจารย์ทุกๆองค์กันด้วยเถิด

    พี่ภู..จบ.๒
     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,997
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    กราบสวัสดีค่ะ วันนี้พยายามโพส สิบกว่าครั้ง ทั้งอนุโมทนาทั้งพิมพ์ทั้งแปะ เหนื่อยเลยค่ะ เลย ส ว ขอพัก ค่ะ สาธุธรรมทุกๆท่านค่ะ Testing:':)z12rabbit_run_awaypig_cryy
     
  18. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    อ่านธรรมะสวัสดียามเช้าของพี่ภูฯ (ขอเรียกพี่ภูฯนะคะจะได้ดูหนิดหนม555+++) อ่านแล้วอมยิ้มตลอดรายการ ขอบคุณและขอโมทนา จะเก็บไว้พิจารณาไปเรื่อยๆ.สาธุจร๊าาา..
     
  19. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    คำสอนสมเด็จองค์ปฐม

    "ในการพิจารณาขันธ์ ๕ ก็ดี พิจารณาศีล สมาธิ ปัญญาก็ดี
    ให้พิจารณาลึกๆลงไปตามลำดับ
    จนกว่าจิตจักมีอารมณ์ สงบ สบาย ยอมรับนับถือในความเป็นจริงของขันธ์ ๕ และยอมรับนับถือในความเป็นจริงของศีล สมาธิ ปัญญา
    และจงอย่าคิดว่าที่รู้อยู่นั้นดีแล้ว
    จงเตือนจิตของตนเองไว้เสมอๆว่า
    ตราบใดที่ยังไม่เข้าถึงอรหันตผล
    ตราบนั้นอย่าคิดว่าตนเองรู้ดีแล้วเป็นอันขาด
    และจงหมั่นศึกษาพระธรรมวินัยให้มากๆ
    จิตจักได้มีความสงบเยือกเย็น และมีความละเอียดในธรรมยิ่งๆขึ้นไป"

    จาก ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น
    รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
    <!-- google_ad_section_end -->​
     
  20. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,080
    ค่าพลัง:
    +10,246
    _/\_ สาธุ
    ขออนุโมทนากับจิตบุญดวงที่ ๑๐๑ และคุณครูจิตบุญทุกท่านด้วยครับ

    เต่า แม้จะคลานไปช้า ๆ แต่ถ้าคลานไปไม่หยุด ก็ย่อมไปถึงเส้นชัย
    กระต่าย แม้จะกระโดดไปได้รวดเร็ว แต่ถ้ามัวนอนหลับอยู่ ก็ย่อมพ่ายแพ้
    เพราะความประมาทของตนเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...