คุณคิดว่านิยตโพธิสัตว์ มีเกิน 10 พระองค์หรือไม่ อย่างไร

({) goH9 เน็ตหลุดกว่าจะเข้าได้ นานจริงๆ
จริงๆผมตอบไปหลายที่แล้วเรื่องพระโพธิสัตว์นี่ ผมเข้ามาตอบช่วง เข้าพรรษานี้เท่านั้น ยังไม่ได้ตั้งกระทู้ของตนเองครับ อาศัยกระทู้อื่นต่อไปก่อน จริงๆก็ไม่อยากตอบแล้ว บางที่มันก็ไร้สาระ แต่เมื่อมาเจอเช่นนี้อีก จึงเข้ามาตอบ อดใจไม่ได้ ถ้ารู้มาอย่างไรจึงตอบ ถ้าไม่รู้จะไม่ตอบครับ ส่วนใหญ่แล้ว ยังรู้ไม่ลึกซึ้ง กันเสียส่วน ใหญ่ บ้างก็รู้มากบ้างก็รู้น้อย ว่ากันไปครับ ไม่มีใครที่รู้หมดทุกอย่างหรอกครับ สิ่งที่ผมรู้ แต่คุณไม่รู้นั้นมีอยู่ แต่สิ่งที่คุณรู้ แต่ผมไม่รู้ ก็เยอะครับ พระโพธิสัตว์ ที่มีบารมียังอ่อนอยู่ ต้นกับกลาง ผมว่านับไม่ถ้วนแน่นอนครับ สัตว์นรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัชฉาน ยังทำความปราถนา เลย แต่ใครจะทำไปถึงฝั่ง หรือเปล่านั่นอีกเรื่อง หนึ่งต่างหากครับ

ถ้าไม่ลา พุทธภูมิ แต่ส่วนใหญ่ ผมว่า น่าจะถึง ๙๐ เปอร์เซ็นเลย ที่ลากัน ที่ลาก็ส่วนใหญ่ บารมีใกล้เต็ม หรือเต็มแล้ว ถึงลา มาช่วยประกาศพระศาสนา พระองค์นั้นๆครับ เหมือนในปัจจุบัน หลวงปู่หลวงพ่อ ลาพุทธภูมิ กันเป็นแถว เพื่อมาช่วยประกาศพระศาสนา ให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี ไปหาอ่านได้ครับ หลวงปู่ มั่น ปู่แหวน ปู่หลุย พ่อฝั้น หลวงพ่อฤาษี สายท่านมาจาก พุทธภูมิ ลานับหลายแสนพระองค์ครับ และที่บารมีเต็ม ก็มีหลายท่านกล่าวกันมาแล้ว จึงไม่อธิบายต่อ ที่เต็มแล้วนับแสนพระองค์ พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ในกัปนี้ถึง ๑๐ พระองค์ ผมว่าท่านที่ว่าพระองค์ ท่านก็ลองไปค้นคว้า ดูว่า คำว่า ภัทรกัป กับ อายุ ๑ กัป ทศวรรต์ กับ ศัตวรรต์ มันเหมือนกันไหม เรากับหลวงปู่หลวงพ่อนั่นน่ะ ใครมีคนเคารพ หรือมีปัญญามากกว่ากัน จงใช้เหตุผม ไตร่ตรองเอาเถิด คนมีกิเลส กับกิเลสหนา และผู้ที่หลุดพ้นจาก วัตฏะ ใครจะเชื่อใคร

พระพุทธเจ้า ตรัสรู้มาแล้ว ไม่รู้กี่ล้านๆพระองค์ และอนาคตก็จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ อีก จนเมล็ดทรายในมหาสมุทร ทั้ง ๔ ก้ไม่เท่านี่พระพุทธเจ้าท่านตรัสเอง หลวงพ่อฤาษี ท่านกล่าวว่า บางกัป มีพระพุทธเจ้า มาตรัสรู้ ๑ พระองค์บ้าง บางกัป ๒-๓ พระองค์ บางกัป ๕ พระองค์หายากมาก แต่กัปนี้ ท่านกล่าวไว้ว่า มีพระพุทธเจ้า ถึง ๑๐ พระองค์ เป็นที่ที่เฮง ที่สุด ตั้งแต่มีพระพุทธเจ้า อุบัติขึ้นในโลก ถ้าเป็นอันตรายกัป กับ ศูนย์กัป จะไม่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้เลย เพราะส่วนใหญ่ ที่มาเกิดกัน จะเป็นพวกสัตว์นรกมากกว่า จึงไม่สามารถ ที่จะแสดงธรรมได้ ไม่มีคนที่จะฟังธรรม ไม่ใช่กาลสมัย ของพระโพธิสัตว์ จะลงมาตรัสรู้ พวกพระโพธฺสัตว์ ต้องขยันเกิด ขยันตาย ระหว่างคนกับสัตว์เท่านั้น เป็นเทวดากับ พรหมเขาไม่คิดให้ ถ้าเป็นสาวกภูมิ บำเพ็ญเป็นเทวดา กับ พรหม


เขาคิดให้ครับ พูดมากมันก็ไม่เหมาะนัก จึงขยายใจความแค่นี้แหละครับ อ้อยังมีต่ออีกนิด ถ้าเป็นอสงไขยกัป พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ครั้ง หนึ่ง ดังพวกท่านว่า คงแย่กว่านี้ครับ แค่กัปเดียว ก็แย่แล้ว ใช้เวลา ไม่รู้ กี่ล้านๆ ปีในเมืองมนุษย์ ผมว่าพวกท่านยังไม่เข้าใจเรื่องของ คำว่า กัป กับ อสงไขยกัป มันนับไม่ได้ คำนวนไม่ได้ เรียกว่า อายุ ๑ อสงไขยกัปครับ แค่กัปเดียว ก้เกิดกัน ไม่รู้ กี่ร้อย กี่พัน ชาติแล้ว

 

ถ้าผมกล่าวล่วงเกินใครไว้ ผมขอโทษขออภัยด้วยครับ เรื่องบางเรื่องผมอาจจะรู้
แต่เรื่องบางเรื่องผมอาจไม่รู้ก็ได้ครับ ผมต้องกราบขออภัยทุกท่านจริงๆครับ

 

คุณ Chumphon Chanjit อ่านคัมภีร์พระอนาคตวงศ์ได้ที่นี่ครับ : http://www.84000.org/anakot/index.html

 

พระโพธิสัตว์ต้องต่อสู้กับความทุกข์ เพื่อความสุขของผู้อื่น<!-- google_ad_section_end -->

<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->นพณัฐ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6901663", true); </SCRIPT>
สมาชิก

พวกที่จะไปเป็นครูเขา มันต้องเรียนรู้ถูกผิดด้วยตนเองอยู่แล้ว ต้องเรียนรู้ทุกอย่างในโลก และข้อสำคัญเรียนทางธรรมทุกรูปแบบ อย่างไหนไม่มี ไม่เต็ม มันก็ต้องลงมาเกิด ทำความเห็นให้ถูกให้เต็ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรรมฐาน ๔๐ มหาสติปัฏฐาน ๔ ต้องได้ครบ ชาตินี้ไม่ได้ ชาติต่อๆไปต้องทำให้ได้ จนกว่าบารมีจะเต็ม และเรียนรู้อารมย์ พระอริยเจ้าตั้งแต่ พระโสดาบัติ จนถึงอารมย์พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ต้องเรียนรู้หมด ไม่ใช่ ภาษาพูด มันต้องลงมือทำ และต้องไปให้ถึงครับ ไม่ถึงก็คงต้องลา ครับ ส่วนใหญ่ บารมีใกล้เต็ม หรือเต็มแล้ว จึงลากันเสียส่วนใหญ่ ใครไม่ลา ก็เรื่อง ของแต่ละบุคคล อยู่ที่แต่ละท่าน จะมีเหตุผล แต่ละท่านเพียงไร ผมเองก็เจอมาไม่น้อย สำหรับ และข้อสำคัญชาติสุดท้าย ที่ลืมกันไม่ได้ เป็นกฎตายตัวสำนักพุทธภูมิ ทั้งหลาย ต้องบริจาคลูกเมียให้เป็นทาน ถ้ายังก็หมดสิทธิที่จะมาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าครับ จนท่านทั้งหลาย ให้ลูกเมียเป็นทานเมื่อไหร่ ท่านได้สิทธินั้นทันที


พวกพุทธภูมิ ทั้งพระ ฆราวาส ทั้งผู้หญิงผู้ชาย แม้แต่สัตว์ ก็หลายท่าน ที่เจอ พบ และอยู่ด้วยกันมา จึงพอจะเข้าใจได้บ้างเท่านั้นเอง ก็ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่าน ในการตั้งใจ บำเพ็ญต่อไปให้ถึง แต่สำหรับผม ถ้าไปได้ ขอไปในชาตินี้ ถ้ายังไม่ได้ ขอต่อที่พรหม หรือเทวดา ถ้าไม่ได้จริงๆ ถ้าเกิดทันพระศรีอริย ได้ฟังธรรมจากท่าน ก็คง ได้ธรรมมะแน่นอนครับ <!-- google_ad_section_end --><!-- / message --><!-- edit note -->

 

ผมได้อ่านคัมภีร์พระอนาคตวงศ์แล้วนะครับคุณเพื่อมหาชน ขอบคุณมากครับ ตอนนี้ผมได้รู้แล้วล่ะครับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องอจินไตย คนสามัญอย่างผมไม่ควรจะไปคิดถึงเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าพยากรณ์ไว้เท่าไหร่เราสมควรรู้แค่นั้นแหละครับ มันเกินวิสัยของผมที่จะรู้ได้

 

({) เรื่องบางเรื่องถ้าเรายังไม่ถึง มันก็พูดยากมากครับ บางครั้ง ได้สำผัสมาบ้าง ยังสงสัยเลยครับ การทำความปราถนา ที่จะรื้อสัตว์ขนสัตว์ให้พ้นจากวัฏจักสงสาร เป็นของดีอย่างยิ่งครับ บางคนทำไม่ถึง ได้แค่พระปัจเจกะพุทธเจ้าก็มี พระเทวทัต ท่านก็ทำความปราถนามาไร่เรี่ยกับ พระพุทธองค์ของเรา แต่ท่านได้ถูกพระพุทธเจ้าของเราพยากรณ์ ไว้ว่า ก่อนที่พระศรีอริยะเมตตรัยมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เขาเรียกกรึ่งหนึ่ง หรือครึ่งหนึ่ง สิ้น พระศาสนาพระสมณโคดม ไปแล้ว พระปัจเจกพุทธเจ้าก็มาตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า หนึ่งในนั้นคือ พระเทวทัต พระปัจเจมาตรัสรู้ครั้งหนึ่ง เป็นหมื่นเป็นแสนพระองค์ครับ

แม้แต่พยามารยังลาพุทธภูมิบน สวรรค์แล้ว พระแม่กวนอิมก็ลา พระเจ้าตากก็ลา ลูกหลานหลวงพ่อฤาษี ลานับหลายแสนองค์ และใครจะทำถึงไม่ถึง ก็อยู่ที่บารมีแต่ละองค์ แต่ละคน ที่ไม่ลาก็เยอะครับ สำหรับ คนที่กำลังใจเข้มแข็งครับ ขนาดบำเพ็ญมาตั้ง ๑๖ อสงไขยกัป ยังลากันเป็นแถว ผมไม่ได้พูดว่าจะให้พวกท่านลา คือ เอ่ยให้พวกท่านได้ดู ตัวอย่างเท่านั้นเองครับ ถ้าคุยถึงเรื่อนี้ แล้ว ผมว่าคุยกับพวกท่าน เป็นวัน รับลองว่าไม่จบแน่นอน ยิ่งคุยมันยิ่งสนุก บันเทิงในธรรมครับ ขออนุโมทนาสาธุ ในธรรมของทุกท่านครับ สวัสดี

 

<IMG src='http://image.free.in.th/z/iq/4mj10.jpg' width=50>

พี่บุญ..ซ๊งงง....

 

ยกตัวอย่างครับว่ามีร้านอาหารร้านนึงทำอาหารอร่อยมากมีคนมาต่อคิวกันประมาณ 100000 คน ในนี้จะมีสักกี่คนที่จะรอทานอาหารบ้าง

 

แม้แต่พยามารยังลาพุทธภูมิบนสวรรค์ ใครมีหลักฐานว่าพยามารลาพุทธภูมิ ช่วยเอามาชี้แจงแถลงไขหน่อยครับ

 

({)หลักฐานน่ะไม่มีมาให้คุณดูหรอก ครับ แต่ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ ช่วงหนึ่ง เรื่องอย่างนี้ไม่ต้องหาหลักฐานหรอกครับ ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์ ผมคงไม่กล้าเหมือนกัน หลวงพ่อฤาษีท่านบอกไว้ แต่จำไม่ได้ ว่าอยู่หน้าไหน หนังสือมันเยอะครับ ขนาดหมาหลวงพ่อฤาษี พุทธภูมิ อีก ๓ ชาติเต็ม ยังไม่มีหลักฐานเลย ท่านสิงดอกไงครับ ผมเจอะมากับตัวเอง และอีกอย่าง เรื่องพูดของพระอรหันต์กับ พระท่านที่พยากรณ์ ดวงของประเทศ ไทย พระพุทธเจ้ายังไม่ได้ พยากรณ์ กษัตย์ในสมัยรัตนโกสินตร์ พระอรหันต์สมัยต่างๆ ท่านได้พยากรณ์ไว้ มันเลยไม่มีในพระไตรปิฎกมาอ้างอิงไงครับ

 

ตอนนี้กำลังสับสน คงต้องพึ่ง กาลามสูตร
กาลามสูตร คือ พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล (เรียกอีกอย่างว่า เกสปุตติยสูตร หรือเกสปุตตสูตร ก็มี) กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่

1. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
2. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
3. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
4. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
5. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
6. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
7. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
8. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน

 

({) อ๋อไม่ต้องเชื่อหรอกครับ แต่ไปพิสูตรได้ สายหลวงปู่มั่น มีออกชัดเจน สายหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี และยังมีอีกเยอะแยะครับ มีให้ท่านได้พิสูตร ถ้าเอาจริง และโดยเฉพาะ คำความปราถนาของท่าน ถ้าไม่ใจเป็นมิฏฉาทิฏฐิครับ

ท่านย่อมเห็นผลแน่นอน ถ้าเอาจริง คุณก็รู้ได้ พระพุทธองค์ ทรงตรัสไว้ ชัดเจน ว่า ถ้าพระศาสนายังมีอยู่บนโลกมนุษย์ และยังมีพระอริยะ ครบทั้ง ๕,๐๐๐ พันปี พันปี่ที่ ๑ จะมากไปด้วยพระอรหันต์ ปฏิสัมภิทาญาณ พันปีที่ ๒ จะมากไปด้วยพระอรหันต์ อภิญญาหก ระดับนี้ยังมีโลกียะครับ พันปีที่ ๓ จะมากไปด้วยพระอรหันต์ วิชชา ๓ ระดับนี้ ก็ยังมี โลกีย์ พันปีที่ ๔ จะมากไปด้วยพระอรหันต์ สุกขวิปัสโก อย่างนี้ ก็ยังมี โลกียอยู่ครับ พันปีที่ ๕ จะมากไปด้วยพระอนาคามี ครับ ทุกอย่างก็มีครบ แต่ว่า อย่าที่ไม่เอ่ย จะน้อยลงครับ นี่พระพุทธองค์ท่านตรัสเองครับ

 

คุณบุญทรงเครื่องครับ ตอนนี้ผมไม่อยากจะพิสูตรหรอกครับ คุณบุญทรงเครื่องไม่ต้องให้ความสำคัญกับผมมากถึงขนาดนั้นก็ได้ครับ ใครจะคิดว่าผมเป็นอะไรก็ช่าง แต่ผมก็เข้าใจว่าตนเองเป็นเพียงแค่คนธรรมดาเท่านั้น ไม่ได้วิเศษอะไรมาจากที่ใหนเลย ผมไม่รู้แม้แต่กะทั้งว่าในอนาคตจะได้เป็นอะไร ผมอยากเป็นอะไร ก็ไม่เห็นต้องให้ใครมาสนใจ ผมอยากเป็นของผมเองทั้งนั้นไม่ได้มีใครมาสั่งให้อยากเป็นสักหน่อย ผมไม่ได้ต้องการให้ใครมาพิสูตรว่าเป็นหรือไม่เป็น เพราะมันไม่ได้สำคัญอะไรเลย ส่วนเรื่องของกะทู้นี้นั่นผมไม่ต้องการจะรู้แล้ว เพราะเป็นอจินไตย มันเกินวิสัยผมที่จะรู้ได้ เพราะผมไม่ใช่พระพุทธเจ้า ต่อไปนี้ผมของดแสดงความคิดเห็นในกะทู้นี้อีก เพราะผมได้ข้อสรุปที่น่าพอใจแล้ว

 

รู้ตัวเองต้องการอะไร
ได้ก็ดีไม่ได้ก็ดี มันเป็นไปตามกรรม
หยู่จนจบกิจหรือลาไปก่อนขึ้นหยู่กับตัวเราและกรรมพาไป
เช่นปราถนาเป็นพุทธะแล้วชักชวนให้คนอีนปราถนาเป็นพุทธะ
แล้วได้ทำบุญใหญ่กับพระอรหันต์ก็ดีหรือแม้แต่กับองศ์พุทธะเองก็ดี
ตั้นความปราถนาเป็นพุทธะ เท่ากับสร้างกรรมหนักใว้แล้ว
ชอบใจก็ดีไม่ชอบใจก็ดี กรรมจะนำทางเราไปเองโดยทีเราไม่รู้ตัว
รอจนกระทังมีพุทธะมาบังเกิดขึ้นในโลกใหม่ถึงตอนนั้นก็จะรู้ตัวทันที
จะหยู่จะไปเลือกเอา

 

..การคิดเช่นนี้ถือว่าเจตนาดี ได้ไม่ได้ไม่รู้แต่กูได้ทำดี..

 

dH86Iw,j.=jsinv9yh'ditm^h,k


({) ก็คุณเป็นคนตั้งกระทู้มา เปิด การแสดง ให้ผู้อื่นเห็นชอบ และตั้งคำถาม มาในแนวกระทู้ ผมไม่ได้บอกเลยว่า จะให้คุณเป็นอะไร และคุณ ไปดูกระทู้ของคุณ ให้หาหลักฐานมา แสดง ผมก็แสดงตามบทของผม มาอ้างอิง เหตุไฉนจึงพูดเช่นนี้ครับ ผมชอบเป็นคนเปิดเผย ไม่รู้คือไม่รู้ รู้คือรู้ ถ้าไม่รู้มาจะไม่พูด จะนิ่งก่อน หาหลักฐานได้เมื่อไหร่ หรือประสพมาเมื่อไหร่จึงสมบูรณ์ แบบและเฟอเฟ็ก เมื่อนั้น ผมถ้าไม่รู้ จะไม่ค้านใครอยู่แล้ว แต่ถ้ารู้ต้องค้าน จะแสดงผิดให้ถูก ผิดก็แก้ไขใหม่ได้ ไม่ใช่ผิดแล้ว ยังตะแบง อยู่นั่นแหละ สิ่งใดคุณรู้ผมไม่รู้นั้นมีอยู่ แต่ไอ้สิ่งที่ผมรู้ แต่คุณไม่รู้นี่สิ ยังมีอีกเยอะ

บางคนมันมาแสดงว่า เรียนรู้มาจากพระไตรปิฎก อ้างอิงต่างๆ เพื่อจะเอา มาเบ่งทับผู้อื่น นั้นมันมีอยู่ ผมน่ะไม่เคยจะอิจฉาริษยาใครก่อนนะ และจะไม่ว่าใครก่อนเหมือนกัน ผมอาศัยประสบการณ์ จริง ถึง ๘๐-๙๐ เปอร์เซ็น และอาศัยแนวทางของครูบาอาจารย์ และตำหรับตำราของท่าน กว่าจะได้ความรู้มา บางครั้งหรือหลายๆครั้ง ผมต้องเอาชีวิตผมเข้าแรก เลยนะจะบอกให้ และผมไม่มีสันดาน อันถพาล ที่จะทำใครก่อน พร้อมที่จะให้อภัยเสมอมา คนที่ไม่ผิดเลยในโลกย่อมไม่มี ผิดแล้วแก้ไขใหม่ ก็ บรรฑิตท่านสรรเสริญ ผิดแล้ว ยังดื้อดึง คิดว่าข้านี่น่ะแน่ มันก็ไอ้เถรใบลานเปล่าเท่านั้น เท่านั้น คนอื่นเขาไม่รู้หรอก แต่คุณกับผมน่ะที่รู้กันแค่ ๒ คนเท่านั้น คุณไปฟอกใจของคุณให้ดีก่อน ว่าคุณทำอะไรไปบ้าง ในชีวิตนี้ผมทำงานมา ร้อยกว่าชนิดแล้ว ว่าอะไอถูกหรือผิด ย่อมแยกแยะได้

 

..ท่านอาวุโส ขึ้นชื่อว่าผู้ปรารถนาแบบนี้ย่อมไม่ชอบใจ แม้จะจริงจะบั่นทอนกำลังใจกัน..

 

..การพูดเช่นนี้ไม่เหมาะสมกับกาล พวกเค้าเหล่านี้คิดดีทำดี เราไม่เห็นด้วยด้วย..

 

dH86Iwxf^.shfu ก็คุณไปอ่านให้ดีก่อน เข้าใจก่อน ผมไม่ว่าอยู่แล้ว มีคนชอบแต่ก็คงไม่ถูกใจ ใครบางคน มันก็มาว่ากันไป เพราะอะไร แต่ถ้าสิ่งใดผมไม่รู้ ผมก็ไม่พูดเช่นกัน แล้วคุณไปอ่านที่ข้อผมพิมมา เขากับผมรู้กันแค่ ๒ คน คุณไม่เข้าใจอีกหรือ ก็เพราะบางอย่างผมไม่เปิดออกมา แล้วคุณรู้เขาหรือยังว่า ไอ้สิ่งที่เขาพูดกับผม แต่ผมไม่พูดออกมาคุณรู้หรือยัง ผมไม่เปิดออกมาก็บุญ เท่าไหร่แล้ว และแล้วยังพิมคล้ายท้าผมอีก เอาหลักฐานมาแสดง ผมอ้างอิงไปแล้ว หรือว่าคุณไม่ได้อ่าน ผมกายใจผมยังไม่บอดนะจะบอกให้ ทำความเข้าใจให้ถูก ขอบคุณครับ

 

ตอบเป็นสิบหลุดหมด
({) ผมว่าคุณอ่านไม่เข้าใจ มากกว่า ผมไม่ได้ว่าคนอื่น เพียงแต่ โต้ทำความเข้าใจกับเจ้าของกระทู้ครับ

(แม้แต่พยามารยังลาพุทธภูมิบนสวรรค์ ใครมีหลักฐานว่าพยามารลาพุทธภูมิ ช่วยเอามาชี้แจงแถลง)(ไขหน่อยครับ)


--------------------------------------------------------------------------------
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Chumphon Chanjit : 29-10-2012 เมื่อ 03:30 PM

(ข้อนี้เจ้าของกระทู้ ให้นำหลักฐานมาแสดง ผมก็ได้อ้างอิงไปแล้ว และตอบไปแล้ว คุณจะเอาอะไรกับผมเหตุผลมันมีอยู่คุณไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ให้คุณยอมรับ นะทุกคนมีปัญญา จะเอามันออกมาใช้หรือเปล่า คนเรามันผิดกันได้ ผิดแล้วแก้ไขมันจะมีอะไร หรือยอมรับซึ่งกันและกัน ไม่เชื่อก็ไม่ผิด จะเชื่อก็เรื่องของคุณ) ไม่เห็นต้องดันทุรังเลย