ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

..หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ช่วยชีวิตไว้...

​

เรื่องนี้ผ่านไปเป็นปี ดิฉันไม่เคยเล่าให้ใครฟัง แม้แต่คุณแม่ จนกระทั่ง ก่อนที่จะสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ในปี ๒๕๓๗ ในขณะนั้นครอบครัวของดิฉันประสบวิกฤตหลายอย่างคุณพ่อมีภรรยาใหม่ แต่ไม่ได้ทำเรื่องหย่ากัน ทิ้งปัญหาหลายอย่างไว้ รวมทั้งภาระหนี้สินหลายล้านบาท ทำให้คุณแม่ท่านมีความทุกข์ใจมาก


ดิฉันเห็นว่าพระธรรมคำสั่งสอนจะช่วยให้คุณแม่พ้นทุกข์ครั้งนี้ได้จึงได้พาคุณแม่มาปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อย้ง ณ. สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง แถบอ.เชียงดาวจ.เชียงใหม่สถานที่นี้เอง ทำให้คุณแม่ท่านได้พบกับความสุขที่แท้จริงและเข้าถึงไตรสรณคมม์ในที่สุด


แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก คือก่อนจะกลับบ้านหลวงพ่อได้เรียกคุณแม่และดิฉันเข้าไปคุยพร้อมกับบอกว่า..

“ โยมรู้มั้ยว่า โยมเกือบจะไม่ได้เห็นหน้าลูกสาวคนนี้แล้วนะถ้าอาตมาช่วยไม่ทันลูกสาวของโยมคงตายไปแล้ว”

คุณแม่จึงได้เรียนถามรายละเอียดหลวงพ่อตอบว่า....


“ ลูกสาวของโยม เป็นโรคหัวใจ แล้วสลบไปบังเอิญอาตมาช่วยไว้ได้ทันพอดี”

<Oคำพูดนี้ทำให้ดิฉันสะดุ้งสุดตัวและได้เรียนถามท่านว่า“เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือเจ้าคะ” หลวงพ่อยิ้มและกล่าวต่อไปว่า..
“จริงซิโยม ”
จึงเรียนถามท่านต่อไปว่า“ แล้วเสียงชายชราที่ได้ยินละเจ้าคะ ท่านเป็นใคร” หลวงพ่อได้นำรูปพระภิกษุชรารูปหนึ่งมาให้ดูพร้อมกับบอกว่า
“ ท่านคือ หลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าจ. ชัยนาทท่านเป็นครูบาอาจารย์ของอาตมาเองกราบรูปท่านเสียซิ”

คุณแม่และดิฉันได้ก้มกราบรูปของท่านหลวงพ่อหันมาถามดิฉันว่า..
“ โยมจำคำที่หลวงพ่อสอนได้ไหมว่าให้ปฏิบัติธรรมจนกระทั่งมีครูที่ไม่ใช่มนุษย์”

ดิฉันตอบท่านไปว่า“ จำได้เจ้าค่ะ”

หลวงพ่อกล่าวว่า“นี่แหละท่านคือครูบาอาจารย์ที่ไม่ใช่มนุษย์ของอาตมา เสียงที่โยมได้ยินคือ เสียงของหลวงพ่อศุข ”



ดิฉันฟังแล้วถึงกับน้ำตาซึมคิดว่าการรอดชีวิตในครั้งนี้ หลวงปู่ศุข เป็นผู้ชุบชีวิตดิฉันให้เกิดใหม่ชีวิตที่เหลือของดิฉัน นอกจากใช้กายนี้ตอบแทนบุญคุณบิดามารดาแล้ว

ดิฉันตอบแทนบุญคุณหลวงปู่ศุขและหลวงพ่อโดยการนำพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์เผยแผ่แก่คนใกล้ชิด หรือผู้ที่สนใจเพื่อให้เขาได้พบกับความสุขในชีวิตดังที่ดิฉันได้ผ่านมาแล้ว

เมื่อกล่าวสมาทานพระกรรมฐาน ดิฉันได้เอ่ยนามหลวงปู่ศุข คู่กับหลวงปู่ปานทุ้กครั้ง เวลาคับขัน หลวงปู่ศุขท่านมักจะมาช่วยให้ทันเวลา ท่านใดต้องการไปกราบท่านก็สามารถกำหนดจิตไปกราบท่านที่สวรรค์ชั้นดุสิต หรือเวลาขึ้นไปพระนิพพานก็อาราธนาท่านไปที่พระนิพพานก็ได้เช่นกันค่ะ

ขอผลบุญนี้ขอน้อมถวายแด่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และท่านย้ง ผู้เป็นอาจารย์สอนกรรมฐานคนแรก และขออุทิศแด่บิดามารดาในปัจจุบัน และในอดีตที่ผ่านมา

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

...กรรมทำให้เป็นโรคหัวใจรั่ว..

กรรมเกี่ยวกับโรคหัวใจนั้น ตามที่ครูบาอาจารย์ท่านบอกไว้ เกิดจากหลายประการ เช่น กรรมที่กล่าวคำให้ผู้อื่นช้ำใจ เสียใจ

ผุ้ที่เจ้าชู้หลายใจ ทำให้คนอื่นผิดหวัง หลังจากขึ้นจากนรกแล้ว ก็มาเกิดเป็นคนมีวิบากกรรมต้องเป็นโรคหัวใจ หากท่านใดมีกรรมปาณาติบาตควบมาด้วยก็ต้องผ่าตัดหัวใจ

แต่สำหรับดิฉันไม่ได้เกี่ยวกับกรรมดังกล่าว เกิดจากการบูชายัญ คือ หลังจากนั้นเป็นเรื่องแปลกที่ไปตรวจ แพทย์ไม่พบอาการหัวใจรั่วอีกเลย ภายหลังดิฉันอยากทราบว่า โรคนี้เกิดจากกรรมใด พบว่า..

ย้อนอดีตไปก่อนสมัยพุทธกาล ๓๕๐๐ ปี ดิฉันเกิดในตระกูลกษัตริย์ เป็นมเหสีของกษัตริย์พระองค์หนึ่ง ซึ่งมีจิตใจโหดเหี้ยม ชอบล่าอาณานิคม ชาตินั้นดิฉันไม่ได้โหดร้ายตามพระสวามี เป็นคนดีมีใจเมตตา

แต่ผลกรรมที่การบูชายัญด้วยสัตว์ต่าง ๆ เช่น แพะ แกะ วัว เป็นต้น เพื่อเพิ่มบารมีให้ตัวเองตามความเชื่อในยุคนั้น ภาพของแพะที่โดนแทงที่หัวใจตัวแล้วตัวเล่า ส่งผลให้ดิฉันเกิดเป็นโรคหัวใจรั่วมาหลายร้อยชาติ ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย

เมื่อผลบุญเก่าและปัจจุบันให้ช่อง ทำให้ครูบาอาจารย์ช่วยเหลือให้หายจากโรคดังกล่าว

ก่อนที่จะปฏิบัติธรรมที่นั่น มีแม่ชีท่านหนึ่งที่สำนักสงฆ์แห่งนั้น ได้นิมิตเห็นดิฉันและหมู่คณะล่วงหน้า และได้กล่าวว่า ดิฉันเคยเกิดในมเหสีของกษัตริย์ในเมืองนั้นมาก่อน เมื่อเห็นภาพอดีต จึงไม่เกิดความสงสัยแต่อย่างใด

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญ กับพี่น้ำใส น้องตาล น้องหนู๋ดี ในธรรมทาน ครั้งนี้ค่ะ


ขอให้พี่น้ำใสหายจากโรคภูมิแพ้เร็วๆ นะค่ะ
และน้องตาลหายป่วยไวๆๆ นะค่ะ

จันทรกาล

 

และยังจะกลับไปอีก อิอิ
โมทนาบุญกับพี่น้ำใสค่ะ ธรรมทานอ่านเพียบจุใจ ^^

 

อิอิ..แหม..แอบมาแซวเชียวนะจ๊ะ ว่ากันไปตามวาระจ๊ะ ตอนนี้ไม่ได้ไปแล้วค่ะ ทางบริษัทฯรับคนอื่นไปแระ พระท่านคงไม่ให้ไปจริง ๆ จ๊ะ

Numsai

 

..มีบุญใหญ่มาฝากจ้า...

<TABLE id=post6864445 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>18-10-2012, 04:08 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#172 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Numsai<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6864445", true); </SCRIPT>
ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิตพิเศษ



วันที่สมัคร: Jun 2007
อายุ: 42
ข้อความ: 3,393
Groans: 25
Groaned at 7 Times in 7 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 16,789
ได้รับอนุโมทนา 28,196 ครั้ง ใน 2,917 โพส
พลังการให้คะแนน: 1679






</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_6864445 class=alt1><CENTER><!-- google_ad_section_start -->...ร่วมบุญถวายดวงแก้วบรมจักรพรรดิคู่บารมี นน.๑๐ กว่ากก.เพื่อเป็นบริวารมหากฐินค่ะ..<!-- google_ad_section_end -->

</CENTER>


<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->

ตามที่พระมหาวิทยา กฺลยาโณ วัดบุรณศิริมาตยาราม เขตพระนคร กรุงเทพ ฯ และคุณอริย์ธัชธ์ วงค์ปวณวัตร ได้มีความประสงค์ในการเป็นเจ้าภาพถวายดวงแก้วบรมจักรพรรดิ ขนาดน้ำหนักกว่า ๑๐ กก. ๒ ดวง เพื่อเป็นบริวารมหากฐินไตรประทาน จากสมเด็จพระสังฆราช ฯ​

อนึ่ง ในการถวายดวงแก้วมณีนั้นมีอานิสงส์แห่งบุญสูงอยู่แล้ว แต่การที่ได้ถวายร่วมในมหากฐินนั้น ทำให้อานิสงส์มีมากกว่าปกติหลายเท่า จึงขออนุญาตท่านพระมหาวิทยา และคุณอริย์ธัชธ์ เพื่อให้ท่านที่มีจิตศรัทธาได้ร่วมบุญถวายดวงแก้วในครั้งนี้​

ซึ่งมหากฐินในครั้งนี้ ประกอบด้วยบอานิสงส์แห่งบุญ ดังนี้...​

๑. การถวายพระพุทธรูปืทรงเครื่องจักรพรรดิ ปางสมาธิ ขนาด ๔ ศอก เป็นการชำระหนี้สงฆ์ หากละโลกเกิดเป็นเทวดาที่มีรัศมีกายสว่างไสว และมีอานุภาพสูง​

๒. การสร้างศาลาปฏิบัติธรรม เป็นการได้อานิสงส์วิหารทาน เป็นเหตุให้มีวิมานบนสวรรค์และพระนิพพาน​

๓. การถวายดวงแก้วบรมจักรพรรดิ ๒ ดวง เพื่อเป็นพุทธบูชา อานิสงส์ได้เกี่ยวกับทิพยจักขญาณ และความมีปัญญาสว่างไสว ​

ท่านใด มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค กรุณาโอนปัจจัยร่วมบุญได้ที่...​

ชื่อบัญชี : คุณอริย์ธัชธ์ วงค์ปวณวัตร​

เลขที่ : 127-4-79232-2​

ธนาคารกรุงเทพ , สาขาซอยอารีย์​

ประเภทออมทรัพย์/สะสมทรัพย์​

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ร่วมบุญในครั้งนี้ด้วยค่ะ​

Numsai<!-- google_ad_section_end -->




​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

..อานิสงส์แห่งการถวายดวงแก้วมณี..

​

๑. ทำให้หายจากโรคตามีดวงตาที่สดใส
๒. มีทิพยจักขญาณแจ่มใส
๓. มีญาณหยั่งรู้ได้โดยรอบ
๔. เป็นที่เคารพยกย่องแก่วิญญูชน
๕. เดินทางไปที่ใด มีผู้คนให้การต้อนรับ
๖. ทรัพย์ที่มีอยู่ไม่เสื่อมสลาย และมีทรัพย์ใหม่เข้ามา
๗. เมื่อละโลกแล้ว ก่อให้เกิดทิพยสมบัติที่ประกอบไปด้วยรัตนะทั้ง ๗ โดยมีดวงแก้วมณี เป็นต้น
๘. เมื่อลงมาเกิดเป็นมนุษย์ จะเป็นผู้มีทิพยจักขุญาณแจ่มใสตั้งแต่เยาว์วัย และเป็นผู้มีปัญญามาก

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
Numsai

 

..ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่เคยร่วมประมูลพระขรรค์-ดวงแก้วค่ะ.

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=bd_th_blk_11_pd10 vAlign=top align=left>Transfer has been made according to the following details.</TD></TR><TR><TD class=pd20 bgColor=#f4f4f4 vAlign=top align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%"><TBODY><TR><TD width=30></TD><TD width=189 align=left>From Account</TD><TD class=bd_en_blk11 width=355 align=left></TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>Account No.</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>XXXX526472</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>New Balance</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left></TD></TR><TR><TD></TD><TD align=left>To account</TD><TD class=bd_en_blk11 align=left></TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>Account No. – Account nickname</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>1274792322 - คุณ อริย์ธัชธ์ วงค์ปวณวัตร</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>Account Name</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>ARITOUCH WONG</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>Bank Name</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>BANGKOK BANK PUBLIC COMPANY LTD.</TD></TR><TR><TD></TD><TD align=left>Transfer Option</TD><TD class=bd_en_blk11 align=left></TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>Transfer Option</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>Real-time</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=15 vAlign=center align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%"><TBODY><TR><TD width=30></TD><TD width=189 align=left>Amount transferred</TD><TD class=bd_en_blk11 width=355 align=left></TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>Amount</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>500.00 Baht</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>Fee</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>25.00 Baht</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>Description</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>ร่วมบุญถวายดวงแก้วจาก ๕ ท่าน</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>Transaction Date - Time</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>23/10/2012 - 20:13:55</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>Account Debit Date - Time</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>23/10/2012 - 20:13:55</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
ได้โอนปัจจัยจากการประมูลดวงแก้วบรมจักรพรรดิ พระขรรค์ และแก้วมณีนาคราชที่ทุก ๆ ท่านได้ร่วมประมูลมา ร่วมบุญถวายดวงแก้วคู่บารมี เพื่อเป็นบริวารกฐิน จำนวน ๕๐๐ บาทค่ะ

ขอผลบุญนี้จงบังเกิดแก่ทุก ๆ ท่านที่ได้ร่วมประมูลมา ณ.ที่นี้ด้วยค่ะ

Numsai

 

วันนี้จะมาแชร์เรื่องเจ้ากรรมนายเวรที่เคยประสบมาให้ฟังบ้างนะคะ กุศลประการใดอันบังเกิดจากการนี้ ขออุทิศให้กับเดวตาผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เทพพรหมเทวาที่ดูแลรักษาทั้งหมดทั้งมวล รวมทั้งพี่นักรบเจ้าของเรื่องนี้ พี่ๆผู้มีส่วนช่วยเหลือทุกท่าน จงสุขสวัสดี สำเร็จในทางสัมมาทิฐิแด่ท่านทุกประการ

มีอยู่ช่วงหนึ่ง ให้รู้สึกแปลกๆ แถมทำอะไรก็ดูเหมือนจะเจ็บเนื้อเจ็บตัวเสมอ แถมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเอามากๆ พยายามโทรไปหาคุณตัวช่วยผู้อารี แต่แกคงไม่ว่างจะรับสาย ก็เลยเฉยๆไป แล้วนึกยังไงไม่รู้ โทรหาพี่ที่สนิทกัน แกก็แนะนำให้โทรหาพี่สาวใจดีคนหนึ่ง (คนไหนน้า) แกให้เบอร์มาเสร็จสรรพ พี่สาวบอกว่า โห มากันเรือนหมื่น มืดมิดจนพี่ตกใจ ให้ไปทำสังฆทาน ปล่อยปลาด้วย ด่วนเลย แล้วตั้งเครื่องบัดพลีที่มีเหล้าขาว เหล้าแดง อาหารอิสาน พวกลาบเลือด และอะไรพวกนั้น ให้ทั้งผู้ที่มาทวง และสัมภเวสีนอกบ้าน ให้เขาได้กิน แล้วคุ้มครองเราบ้าง วันนั้นเย็นวันอังคาร ก็กะว่าจะไปวันเสาร์ อาทิตย์

พอเช้าวันพฤหัส ลอยหน้าลอยตาขับรถอยู่ดีๆ ไม่ได้หลับ ไม่ได้หยิบอะไรกิน ตาก็มองถนน เห็นถนนเลื่อนไปเรื่อยๆปกติดี อยู่ดีๆ พวงมาลัยรถก็บิดไปทางซ้ายเสียเฉยๆ ทั้งๆที่เราจับด้วยสองมืออยู่นั่นแหละ ก็หักกลับมาทางขวา แล้วมันก็ไปทางซ้าย ทีนี้หักกลับไปกลับมา รถเสียหลักส่ายเป็นงูเลื้อย แปลกที่ไม่ได้โดนทั้งรถข้างหลังและด้านข้างเลยสักคันเดียว เพราะขับตามกันมาเป็นแถวยาว แล้วปีนขึ้นไปกระแทกเกาะกลางถนนอย่างแรง ดังสนั่น รถสะเทือนจนจะพลิก แต่อารมณ์ไหนไม่รู้ รถตบกลับมาตรงๆเกยอยู่บนเกาะกลาง ดีที่ไม่พุ่งข้ามไป เพราะแรงขนาดนั้น น่าจะพลิก ตอนพุ่งขึ้นก็น่าจะข้ามไปได้ เพราะเกาะกลางถนนเป็นแค่ เลนปลูกหญ้าเล็กๆ แบ่งเลนถนนให้เห็นเท่านั้น เล่นเอารถเสียศูนย์ ช่วงล่างเจ๊ง ขับมีเสียงก๊อกๆแก๊กๆมาจนตอนนี้ ชนเสร็จก็แทบเป็นลม ไม่มีแรงจะยืน กลับบ้านไปหาพ่อนั่งร้องไห้อย่างเดียว ไม่มีใครเชื่อว่าพวงมาลัยมันบิดไปเอง ทุกคนลงความเห็นว่าหลับใน เถียงใครไม่ได้ก็เฉยๆแต่ด้วยความแค้น ไม่ยอมจบ และสงสัยมาก พอมาถึงที่ทำงาน โทรไปหาตัวช่วยผู้อารี บอกว่านี่ๆ เมื่อเช้าขับรถชน เขารับโทรศัพท์แล้วบอกว่า ขอโทษที่ไม่ได้รับสายก่อนหน้านี้สองสามวันแล้ว เพราะยุ่งมากจริงๆ เลยลืมไปเลย เลยช่วยไม่ทัน ตอนนี้รู้แล้ว โดนแย่งพวงมาลัย ทั้งๆที่เราพูดแค่เกิดอุบัติเหตุรถชนเท่านั้นเอง แค่นี้นะ พูดมากกว่านี้ไม่ได้ เขาฟังอยู่ ไว้จัดการเสร็จแล้วจะโทรมาบอก

ก็หายไปค่อนวัน ก็โทรกลับมาบอกว่า จัดการแล้ว โล่งขึ้นไหม เราก็บอกไม่รู้หรอก ว่าแต่มันยังไงกันล่ะน่ะ เขาตอบว่า ก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ ว่าตัวเคยเกิดเป็นเพชฌฆาตในสมัยรัตนโกสินทร์ คนที่มาน่ะ เป็นนักรบ ร่างใหญ่ ไม่มีหัว เขาอาฆาตมาก เพราะเราไปตัดหัวเขา เนื่องจากเขาไปเป็นกิ๊กกับนางสนมคนหนึ่ง แล้วโดนจับได้ โดนประหาร เขาเลยแค้นที่เราไปฆ่าเขา ตอนนี้คุยให้แล้ว เขาไปแล้วนะ แต่คุยอยู่นานเหมือนกัน เสร็จแล้วก็รายงานไปที่พี่สาวใจดี บอกพี่ขา เตือนวันอังคาร ข้ามวันเดียวโดนเลยทีเดียว พี่สาวก็บอกว่าเขาน่ะกะจะเอาให้ยับทั้งรถทั้งคนแหละค่ะ นี่เขาก็ช่วยกันเต็มที่แล้ว ไม่งั้นน้องไม่ปลอดภัยแบบนี้หรอกค่ะ ว่าแต่เคลียร์แล้วก็เคลียร์ไปเหอะ อย่ามีแบบนี้อีกก็แล้วกัน หัวใจมันจะวาย ก็ตั้งแต่ขับรถมาเนี่ย เคยแต่ขับรถไปชนเขา ไม่เคยเห็นพวงมาลัยบิดเองได้ต่อหน้าต่อตาแบบนี้มาก่อน แต่ก็จะว่าบุญแล้วดีไหม เพราะไม่เห็นคนแย่งพวงมาลัย ถ้าเห็นสงสัยจะหัวใจวาย ไม่ทันได้ดึงพวงมาลัยกลับหรอก อะไรจะถึงขนาด จับพวงมาลัยรถได้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วคราวนี้

ขึ้นชื่อว่า กรรม ไม่ทำดีที่สุด แต่ถ้ากรรมดีก็ขยันทำกันเถอะนะคะ ใครจะรู้ ว่าวันไหนกรรมใดส่งผล และกรรมดีใดจักมาต้านทานได้ทันท่วงที ดังนั้น พึงดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาททุกเวลา (อันนี้บ่นๆเพื่อเตือนตนเองค่ะ)

ยังมีได้อีกนะคะ ถ้าอยากฟัง ยกไม้ยกมือขอเสียงด้วยค่ะ ถ้าว่างและเนตเป็นใจ จะมาโม้ให้ฟังใหม่ (ปล. อย่าตบแมงโม้นะคะ)

 

สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆบุญ ทุกๆท่าน ด้วยค่ะ

ขออนุญาติไปบอกบุญต่อนะค่ะ ให้กับพ่อ แม่ ญาติ พี่ น้อง จะได้มีโอกาสทำบุญใหญ่แบบนี้นะค่ะ


จันทรกาล

 

โอ น่าฉงฉานเพชรซี่เจง ๆ
มาโม้อีกนะ รอตบแมงโม้อยู่

 

โอ สาธุค่ะ ถ้าเงินเดือนออกจะโอนไปร่วมบุญด้วยค่ะ
ขอโมทนากับทุก ๆ ท่านเป็นอย่างสูง

 

เอ๊ะ ก็บอกไม่ให้ตบแมงโม้นี่นา เด๋วบาปนะ แล้วถ้าตบไป ไม่มีแมงมาโม้แล้วนะ เพราะแมงตายแว้วอะ ที่สำคัญ เด๋วแมงโม้ตายมาหลอกอีกตะหาก น่ากลัวไหม

 

ผลบุญและอานิสงฆ์แห่งการร่วมบุญในกองบุญแก้วจักรพรรดิ

​

วันนี้มีธรรมทานเรื่องการร่วมบุญในกองบุญแก้วจักรพรรดิให้ฟังค่ะ...
แข่งกันเล่า แข่งกันโม้ อิอิ เรื่องนี้เป็นปัจจัตตัง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ


ประมาณสัปดาห์ก่อน ขณะกำลังไหว้พระในห้องพระและบูชาพระด้วยของหอมอยู่นั้น
จู่ ๆ ในจิตก็เห็นเทพบุตรจำนวนมากในห้องพระของตนเอง
เทพบุตรเหล่านั้นทราบว่าเป็นเทพบุตรจากสวรรค์ชั้นดุสิต มายืนรอเพื่อจะพูดธุระบางอย่างกับตน
และมีเทพบุตรผู้หนึ่งซึ่งดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของเทพบุตรเหล่านั้น
ในขณะนั้นทราบเพียงว่าท่านเป็นหัวหน้าเทวดาของสวรรค์ชั้นดุสิต
แต่ภายหลังทราบว่าท่านมีนามในตำแหน่งว่า "ท่านท้าวสันดุสิตเทพบุตร"

​

ท่านท้าวสันดุสิตเทพบุตร ได้นั่งเบื้องหน้าตน ท่านทรงชุดเทวดาเต็มยศ
สวมหมวกแหลม ทรงชุดสีขาวแพรวระยับ
จากนั้นตาลจึงหลับตากำหนดจิตถึงท่านเพื่อสอบถามว่าท่านธุระอันใดกับตน
ปรากฏว่าได้เห็นบันไดทำด้วยแก้วปรากฎอยู่ตรงหน้าแทน


ได้ยินเสียงท่านบอกว่าให้เดินขึ้นไป ตนจึงเดินตามไปอย่างว่าง่าย
(แต่ในใจก็แอบงงว่าเกิดอะไรขึ้นหนอ?)
เมื่อถึงบันไดขั้นสุดท้ายก็เห็นประตูแก้วขนาดใหญ่ เปิดอ้าอยู่ ตนจึงเดินเข้าไปอีก
เห็นวิมานแก้วตระการตาตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า
ท่านท้าวสันดุสิตเทพบุตรนั่งบนบัลลังค์สีทองขนาดใหญ่

 

วิมานที่เห็นนั้นเข้าใจเองค่ะว่าเป็นเหมือนศาลาว่าการของสวรรค์ชั้นสี่ (ใครทราบชื่อศาลากรุณาบอกด้วยค่ะ)
มีลักษณะใหญ่โตโอ่อ่ามาก พื้นนั้นปูด้วยพรมสีแดงยาวทั้งศาลา
ตาลก้มลงกราบแทบเท้าท่านท้าวสันดุสิตเทพบุตร
(อยากไปอยู่สวรรค์ชั้นนี้ต้องรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน อิอิ)
พอเงยหน้าขึ้นก็พบว่าท่านสิทธิสัตตะมานั่งพับเพียบอยู่ข้าง ๆ


หลังจากนั้นท่านท้าวฯ ก็กล่าวว่า "เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ามีหน้าที่ต้องทำนะ"
หน้าที่อะไรเจ้าคะ ยิ้มแป้นแล้นเหรอหรา
ท่านยิ้มตอบแล้วก็พูดต่อว่า "เรารู้ว่าเจ้าอยากมาอยู่สวรรค์ชั้นนี้"
"จะเข้าสวรรค์ชั้นนี้ได้ต้องขยันทำบุญ มีความพากเพียรและวิริยะอุตสาหะนะ"
เอ๊ะ สงสัยจะหมายความว่าเรายังมีบุญไม่พอเข้าสวรรค์ชั้นนี้หรือกระไร?
ไม่เข้าใจที่ท่านต้องการสื่อค่ะ ประกอบกับชักง่วงนอนแล้ว จึงปล่อยให้ท่านสิทธิสัตตะนั่งฟังเทศน์ต่อองค์เดียว
ส่วนเรานอนหลับฉะบาย อิอิ


รุ่งเช้าขึ้นมาจึงค่อยสงสัยเรื่องเมื่อคืน อยากรู้ว่าท่านต้องการที่จะบอกอะไรกับตนกันแน่
จึงได้โทรหาที่ปรึกษาอีกครั้ง (รบกวนบ่อยเหนื่อยหน่อยนะคะ)
ที่ปรึกษายิ้มมาตามสายแถมให้ทายด้วยว่าเรื่องอะไร...
ไม่ทราบสิคะ ท่านต้องการสื่ออะไรหนอ น้องก็อยากรู้จ้ะ
ท่านสิทธิสัตตะบุญท่านถึงนะ ตอนนี้ท่านกำลังจะได้เลื่อนขั้นขึ้นเป็นท้าวสันดุสิตองค์ใหม่นะจ้ะคุณน้อง

จริงเหรอ ท่านเนี่ยนะ ...ชักงงแล้ว
ถามต่อ "แล้วท่านองค์เดิมจะไปไหนคะ?"
ตอบ "ท่านเคลื่อนภพสูงขึ้นไปค่ะ...
ต่อไปหนูก็มีหน้าที่ที่ต้องช่วยเหลือท่านสิทธิสัตตะนะ"
อึ้งกิมกี่ "พี่คะช่วยหนูด้วยนะคะ หนูทำอะไรไม่เป็น"
ที่ปรึกษาตอบมาทันใด "งานที่ท่านจะให้ช่วยก็ไม่เกินความสามารถของน้องหรอกค่ะ ท่านคิดไว้ดีแล้ว ไม่ต้องกังวลนะ"


ปกติแล้วเวลาตาลทำบุญ ตาลจะอธิษฐานเสมอค่ะ
ว่าขอให้ตาลกับท่านสิทธิสัตตะเปรียบประดุจคนผู้เดียวกัน...
เมื่อตาลได้ทำบุญใด ก็ขอให้เปรียบประดุจว่าท่านได้ทำบุญนั้นด้วยตนเอง

เนื่องมาจากคำอธิษฐานนี้ ที่ปรึกษาจึงได้กล่าวต่อว่า
"พี่ว่านะ ที่บุญท่านถึงเป็นเพราะว่าเราที่เป็นนางแก้วที่อยู่ข้างล่างตั้งใจทำบุญให้ท่านด้วย"
"ลักษณะแบบนี้ไม่ค่อยมีนะ ส่วนใหญ่ท่านต้องลงมาทำเอง"


โอ้โห...มีงี้ด้วยแฮะ อ้าปากค้าง...

 

เช้าวันต่อมา ขณะกำลังนั่งภาวนาบนรถเมล์อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกเหมือนถูกดึงจิตขึ้นไปบนศาลาว่าการนั้น
เห็นตนเองเกล้าผม แต่งชุดไทยสีทอง นั่งบนบัลลังค์ทอง งามจังนะเรา ทำไมกายหยาบไม่สวยอย่างนี้นะ อิอิ
ข้างหน้าเยื้องไปนิดหน่อย พบว่าท่านสิทธิสัตตะนั่งบนบัลลังค์ใหญ่สีทองที่ท่านท้าวสันดุสิตองค์ก่อนเคยนั่งอยู่ค่ะ
เห็นว่ามีพิธีการแต่งตั้ง เห็นว่ามีเทพบุตรและเทพธิดายืนอยู่อย่างแน่นขนัดในศาลาว่าการนั้น
มีเทวดานางฟ้าบางองค์เข้ามาและเรียกตาลว่า "พระแม่เจ้าสุธรรมาวดี" เขิลพิกลแฮะ



เมื่อพิธีจบตาลก็ลงมาข้างล่าง ท่านสิทธิสัตตะหายไปพักนึงก็ตามลงมา..
จึงได้ถามท่านว่า...ท่านได้รับแต่งตั้งจริง ๆ หรือคะ?
ท่านยิ้มแต่ไม่ตอบ ... แต่ได้ถามต่อว่าเพราะบุญที่หนูทำให้หรือคะ?
ใช่แล้ว บุญที่ร่วมบุญในกองบุญแก้วจักรพรรดิ บุญประมูลจักรเข้ากองบุญกฐินและบุญอื่น ๆ
ทำด้วยความตั้งอกตั้งใจ ทำให้บุญท่านถึงและได้ปกครองสวรรค์ชั้นสี่แทนท่านท้าวฯ องค์เดิม



ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะเนี่ยว่าบุญที่เราทำกันอยู่นี้สามารถส่งผลได้เลยทันที
สาธุ บุญกุศลที่เกิดจากการเล่าธรรมทานครั้งนี้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเพียงไร
ขอให้ทุก ๆ ท่านได้รับบุญถ้วนหน้าเสมอกันด้วยนะคะ

 

ขอฝากเนื้อฝากตัว กับพระแม่เจ้า ด้วยนะครับ
เมตตาลูกนกลูกกา ด้วยขอรับ 555

ขอแซวก่อน เดี๋ยวขึ้นไป จะพูดไม่ได้ครับ

 

สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับน้องตาลด้วยนะค่ะ อ่านแล้วรู้สึกใจเป็นปลื่ม ด้วยจังค่ะ

น้องตาลคนจ๋วย

จันทรกาล

 

ขอฝากตัวกับพระแม่เจ้า ด้วยคนนะครับ

 

ฮิฮิ ฝากตัวกันเต็มเยย เก๊าฝากด้วยนะ เด๋วตกขบวนน่ะ พระแม่เจ้าจ๋า จุ๊บๆ อ้อนไว้ก่อน เก๊ารู้จักพระแม่เจ้าตั้งสองชั้นแว้ว รอดตัวแล้วเรา ไปถึงก็อ้อนๆ ชอนไชไว้ก่อน (เอ๊ะ ตัวไรเนี่ย)