ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 25 มกราคม 2008.

  1. poonjoss

    poonjoss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2008
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +114
    กราบสวัสดีครับ อาจารย์หมอสุวิครับ ผมได้เ้ข้าพบแพทย์ฟังผลแล้วครับ
    ก็ตรงที่อาจารย์หมอสุวิบอกไว้ครับ ผมขอขอบคุณครับ
     
  2. ดอกข้าว

    ดอกข้าว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +1,462
    คุณอาหมอขา หนูมารอหลายวันแล้วนะคร้าา มีช่วงนาทีทองรึป่าวคะ อิอิ แบบซัมเมอร์เซล ไรงี้อ่ะค่ะ
     
  3. ดอกข้าว

    ดอกข้าว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +1,462
    นั่งรอรับยา ด้วยความตื่นเต้ลลล... เง้อออ!! เห็นคุณหมอบอกแว่ มีเรื่องพังผืดไรอีกเนี่ย ฮืออ....
     
  4. parpen

    parpen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2012
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +614
    เรียนคุณหมอสุวิค่ะ ป้าเพ็ญที่เป็นโรคสะเก็ดเงินค่ะ เพิ่งจะสมัครสมาชิกและโพสเป็น ก็ลองเขียนส่งมาดูก่อนค่ะ อีก 3 - 4 วันจะรายงานอาการนะคะ ก่อนที่ยาจะหมด
     
  5. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    คุณหมอครับ ตอนนี้มีหลายท่านต้มใบรางจืดกิน ผมขอทราบข้อดีข้อเสียของสมุนไพรตัวนี้ด้วยครับ และอีกตัวที่คล้ายกันคือ ใบย่านนาง ครับทั้งสองตัวใช้ต่างกันอย่างไรครับ
     
  6. kongkiat01

    kongkiat01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +127
    คุณหมอครับ ผมเป็นคนที่เหงื่อออกง่ายและเยอะมาก ยิ่งตอนทำงานเสื้อกางเกงจะเปียกหมดเลยทำให้อ่อนเพลียมาก และผมจะเป็นตะคริวที่ฝ่าเท้าบ่อยแล้วช่วงนี้ก็นอนไม่ค่อยจะหลับ รบกวนคุณหมอช่วยวิเคราะห์และแนะนำยาด้วยครับ
     
  7. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    อาการเหงื่อออกมาก เกิดจาก การทำงานของไต และตับไม่ประสานกัน
    หากพูดแบบไทยๆเราก็คือ เสมหะและปิตะทำงานไม่สมดุลย์
    ให้กินยา ปลูกเตโช และกาญจน์มณี เพื่อปรับปิตะและเสมหะให้สมดุลย์ ก็หายแล้วครับ(รวมทั้งตะคิวและโรคนอนไม่หลับด้วย)
    แต่การปรับสมดุลย์นี้กว่าจะเข้าที่ และร่างกายคุมความสมดุลย์นี้ได้เอง จะกินเวลามากหน่อย ซึ่งในแต่ละคนไม่เท่ากัน
    ค่ายาของคุณ ตกเดือนละ ๖๕๐.- แต่ต้องกินนาน
     
  8. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ใบรางจืด เป็นยาอุ่นที่กระเดียดไปทางเย็นนิดหน่อย ทำให้กินได้นานพอควร
    ยาตัวนี้ มีผลต่อระบบ เสมหะธาตุ ในส่วนอุระเสมหะ ซึ่งหมายถึงระบบหายใจส่วนกลางและส่วนล่าง
    ทำให้แก้อาการแพ้อากาศและหอบหืดได้
    เมื่อต้มกินเป็นเวลานานๆ ในบางคนอาจทำให้เกิดอาการ อุระเสมหะพิการได้(มีผลต่อการหายใจ หายใจไม่เต็มปอด)

    ใบย่านาง เป็นยาเย็น มีผลลดการทำงานของปิตะธาตุ ในส่วน "อพัทธะ" และเสริมการทำงาน ของเสมหะธาตุ ในส่วนคูถเสมหะ และอุระเสมหะเล็กน้อย
    ทำให้ลดอาการร้อยในอก และช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยการขับถ่ายได้
    เมื่อกินนานไป อพัทธะ จะลดลงมากเกิน ทำให้เสมหะกำเริบ จะเกิดอาการ เย็นในอก อาหารไม่ย่อย ท้องอืด และตามมาด้วยอาการของกรดไหลย้อน

    อย่างไรก็ดี ผู้เรียน วิชาแพทย์แผนไทย ปกติพวกเราจะไม่ใช้ยาเดี่ยวในการรักษาโรค
    นอกจากจำเป็นจริงๆ หันซ้ายหันขวา หาอะไรไม่ได้ ก็จะใช้สมุนไพรเดึ่ยวในเวลาสั้นๆ ประมาณ ๒-๓ วัน(นานสุดไม่เกิน ๕ วัน)
    ที่เป็นดังนี้ เพราะเรารู้ว่า ร่างกายมนุษย์เราประกอบด้วยธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ
    และ ดิน น้ำ ลม ไฟ นี้ รวมกันทำงานเป็นระบบ ปิตะ วาตะ และเสมหะ ซึ่งต้องสมดุลย์ ร่างกายมนุษย์ จึงจะเป็นสุข

    สมุนไพรเดี่ยว ไม่มียาสมุนไพรตัวใดเลยที่กินไปนานๆแล้ว จะยังให้กายมนุษย์มีระบบการทำงานที่สมดุลย์ได้ตลอด
    แม้แต่ เห็ดหลินจื้อ เห็ดกระถินพิมาน โสมเกาหลี สมุนไพรพวกนี้ก็ไม่อาจกินนานได้(หากกินนาน ร่างกายก็จะเสียสมดุลย์-ทำให้ป่วยได้เช่นกัน)
     
  9. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    สูตรนมถั่วเหลือง ดังกล่าว สามารถใช้ได้ดีตามที่กล่าวมา
    แต่หากเทียบกับ สูตร นม+โยเกิร์ต+น้ำมะนาว แล้ว
    สูตร นม+โยเกิร์ต+น้ำมะนาว จะดีกว่า ให้ผลเร็วกว่า

    อย่างไรก็ดีทั้งสองสูตร ยังมีข้อดีข้อด้อยต่างกันอยู่ กินกันไม่ลงคือ
    ในสูตร นมถั่วเหลือง มีไขมัน แลคซิติน อยู่ แต่ในสูตร นมโยเกิร์ต ไม่มีไขมันตัวนี้
    ทำให้การไหลเวียนโลหิต อันเกิดจากสูตร นมถั่วเหลืองได้เปรียบ(ตามข้อ ๓ และ ๖)

    อย่างไรก็ดี อาหารสูตรนี้ ต้องใช้ไฟธาตุย่อยอาหาร ปริมาณมากกว่าปกติ
    ดังนั้น ไม่ควรกิน อาหารเสริมทั้งสองสูตร ก่อนนอนเด็จขาด(โดนเฉพาะสูตรถั่วเหลือง)
    ไม่เช่นนั้น หากกินไปนานๆ จะได้โรคกรดไหลย้อนเป็นของแถมแบบไม่รู้ตัว และไม่รู้สาเหตุ
     
  10. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เรื่อง การเบียดเบียนทางมิติ ไม่ตอบนะครับ
    เพราะในแต่ละคนไม่เคยเหมือนกัน(ต่างเหตุต่างผลกัน)
    ไม่อาจตอบเป็นความรู้กลางๆได้


     
  11. rubpy

    rubpy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2009
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +264
    ขอบพระคุณคุณหมอสำหรับคำตอบค่ะ

    ถ้าคุณหมอว่าง หนูรบกวนขอคำตอบโพสที่ #2849-2851 ด้วยนะคะ

    ตอนนี้ตัวหนูเอง มีอาการปวดขา ตรงข้างหลังหัวเข่า คิดว่าน่าจะเส้นเลือดขอด
    เพราะมันเริ่มมีเส้นเลือดเขียวๆ ปูดๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว จำได้ว่าคุณหมอเคยแนะนำให้กินตรีผลา
    ที่หมักเอาไว้ยังไม่ครบเวลา เลยสั่งซื้อ grape seed extract มากินก่อน

    แล้วไปอ่านเจอจากเวปว่า เพชรสังฆาต (Cissus quadrangularis) เป็นสมุนไพร
    ที่ให้ผลในการรักษาที่ดีพอๆ กับยาที่มี Diosmin ผสมกับ Hesperidin
    และยังช่วยลดอาการปวดและอักเสบของเส้นเลือดได้อีกด้วย

    อยากถามคุณหมอว่า เพชรสังฆาต มีผลข้างเคียงอะไรไหม และสามารถใช้เป็นสมุนไพรเดี่ยวเพื่อบรรเทาอาการเส้นเลือดขอดได้ไหมคะ

    ขอบพระคุณค่ะ
     
  12. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    มาคุยกันรายละเอียดของกราวเครืออีกนิด
    กราวเครือ มีมากมายหลายสายพันธ์ แต่ที่รู้จักและนิยมเอามาทำยากันมี ๓สายพันธ์

    กราวเครือขาว
    กราวเครือแดง
    กราวเครือดำ

    ทั้งสามพันธ์เป็นเถาไม้เลื้อยทั้งหมด แต่ส่วนที่ใช้ รูปร่างแตกต่างกันลิบไม่มีความคล้ายกันเลย รายละเอียดถามอากู๋(เกิล)ดูนะ

    กราวเครือขาว ส่วนที่ใช้เป็นหัวใต้ดิน รูปร่างคล้ายๆหัวมันแกว หัวที่สมบูรณ์มากๆหัวจะใหญ่หนักเป็นสิบๆกิโล มียางสีขาว มีฮอโมนเพศหญิงสูง

    กราวเครือแดง ส่วนที่ใช้เป็นหัวใต้ดินเช่นกัน ลักษณะหัว เป็นท่อนเหมือนตะบอง
    ดูไปคล้ายๆ หัวมันสัมปะหลัง แต่หัวเป็นท่อนตรงแหนว มีเนื้อไม้ที่แข็งกว่าและมียางสีออกแดง มีฮอโมนเพศชายสูง

    ส่วนกราวเครือดำนี่ ส่วนที่ใช้เป็นเนื้อเถาไม้ สีออกดำมากๆ(ยังไม่เห็นของจริงฟังเขาเล่ามาอีกที) มีฮอโมนเพศชายสูงเช่นกัน

    ทั้งสามสายพันธ์ มีพิษในตะกูลเดียวกันเ แต่พิษนี้ร่างกายมนุษย์สามารถขจัดออกจากร่างกายได้เอง ในปริมาณหนึ่ง-คนแต่ละคนขจัดออกได้ไม่เท่ากัน
    พิษที่กล่าวถึงนี้ ถ้าจำนวนไม่มากนักไม่มีอันตรายต่อมนุษย์(ด้วยร่างกายขับออกได้หมด)
    แต่หากสะสมมาก(กินมาก/กินนาน) จะเกิดอาการแพ้จะกระตุ้นให้ความผิดปกติในร่างให้ปรากฏเร็วขึ้น เช่นอาการร้อนใน หรือเลือดร้อน หรือเพิ่มเซลมะเร็งให้โตเร็วขึ้น

    แต่พิษนี้ไม่ไดสร้างเซลมะเร็งหมายถึงมีเซลมะเร็งอยู่เดิม พิษนี้จะกระตุ้นให้โต เร็วขึ้นเท่านั้น

    สมุนไพรที่จะเร่งให้ร่างกายขจัดพิษดังกล่าวได้ดีคือตรีผลา
    ผู้รู้แต่โบราณ กิน/ใช้กราวเครือให้เกิดผลดีไม่ว่าจะดองเหล้าหรือผสมยาใดๆ จะมีตรีผลาผสมด้วยเสมอ
    หรืออาจมีตัวยาอื่นที่คานพิษของกวาวเครือได้
    แถมยังมีกระสายยาเป็นนมเปรียว ก่อนนอนซะด้วย

    ดังนั้นการใช้กราวเครือ ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ใช้ให้ถูกเพศ ใช้ในจำนวนไม่มากเกิน
    และให้กินตรีผลาหรือมีส่วนผสมของตรีผลาเป็นประจำ จะขจัดปัญหาต่างๆได้มาก<!-- google_ad_section_end -->
     
  13. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543


    เพชรสังฆาต จะทำให้เนื้อเยื่อ(กล้ามเนื้อเรียบ) หดตัว จึงเอามาใช้กับเรื่องริดสีดวงทวาร(แค่บันเทา)
    แต่เอามาใช้กับเส้นเลือดขอด จะใช้ไม่ได้ผล
    ยาของหมอสุวิ ที่ได้ผลต่อการแก้เส้นเลือดขอดจะเป็น ปลาหมอทอง กับแก้วกิมิชาติ และอาจต้องมี กาญจน์มณีเป็นผู้ช่วยในบางคน

    อาการปวดขาหลังเข่า อาจเกิดจาก เส้นเอ็นบริเวณสะโพกเคลื่อนก็ได้
    ถ้าเป็นมาก ใต้ข้อพับเข่า จะปูดเป็นลูกเลย
    เมื่อเริ่มเป็นจะงอเข่าไม่ได้ จะเจ็บบริเวณขาอ่อนใกล้เข่า
    เขาแก้ด้วยการไปหาหมอนวดเก่งๆ ขยับไม่กี่ทีก็หายครับ

    ข้อความในโพส #2849 คงต้องตอบกันใน PM
    ข้อความในโพส #2851 ตอบให้แล้วใน โพสที่ # 2873
     
  14. JINKLE

    JINKLE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +2,226
    สามีมีอาการตากระตุกเป็นประจำ และปากเบี้ยว รบกวนคุณหมอตรวจให้ด้วยค่ะ จะมีอาการร้ายแรงต้องผ่าตัดไหมคะ แล้วทานน้ำหมักสูตรป้าเช็งจะช่วยลดไขมันในเลือ่ดได้ไหมคะ ขอบคุณค่ะ
     
  15. chaivat chinkidjakar

    chaivat chinkidjakar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    1,601
    ค่าพลัง:
    +21,786
    อาจารย์ SUWI ครับเพิ่งจะได้อ่านเจอข้อมูลว่ามะนาว+โซดา ฆ่าเซลมะเร็งได้ จริงเท็จแค่ไหนครับ

    มะนาว+โซดา ?
    มะนาว เลือกลูกเขียวๆ ใช้จำนวน 2ลูก + โซดา 1ขวด
    ขอบพระคุณครับ
     
  16. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    สามีคุณ มีอาการเส้นเลือดในสมองตีบ(ยังไม่มากนัก)
    ทำให้เกิดอาการอัมพฤกษ์อ่อนๆ
    และยังเจอกิมิชาติ(ไวรัส)ชนิดหนึ่งในโลหิต กระตุ้นให้โลหิตจับตัวเป็นลิ่มเป็นก้อนอย่างช้าๆ(ช้า-เร็ว ขึ้นอยู่กับสภาวะกรดด่างในเลือด-อาหารการกิน)
    ซึ่งกิมิชาติตัวนี้ ทำให้การตีบตันของเส้นเลือดมีโอกาสสูงขึ้น(ชายผู้นี้น่าจะมีอาการของเส้นเลือดขอดด้วย)

    ถามว่า ต้องผ่าตัดหรือไม่
    ตอบว่า ตามภาวะในปัจจุบัน มองไปข้างหน้า โอกาสผ่าตัดยัง ห้าสิบห้าสิบ อยู่
    นั่นแสดงว่า การกินยา และอาหารที่ถูกต้อง อาจทำให้หายได้

    น้ำหมักป้าเช็ง ลดไขมันได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่อาจแก้เส้นเลือดตีบของสามีคุณได้
     
  17. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ได้ทดลองซิมมูเลทดูแล้ว ได้ความว่า
    น้ำมะนาวโซดา สามารถ ฆ่าเซลมะเร็งได้จริง แต่
    แต่ไม่อาจ รักษาผู้เป็นมะเร็งให้หายขาดได้ ด้วยเป็นเพราะ

    ๑. ในผู้เป็นมะเร็ง กว่า ๙๐% ล้วนมีเจ้าของโรคอยู่ พวกเขาเหล่านี้จะกระตุ้นให้เซลมะเร็งเจริญเติบโตอยู่ตลอดเวลา(เจริญเร็วกว่าที่ถูกฆ่า)
    ๒. อีกประการ ความเข้มข้นของยา(มะนาวโซดา)ก็ยังไม่พอในการรักษา
    หากทำให้เข้มข้นพอ ก็จะมีผลข้างเคียงทำให้ร่างกายเสียสมดุล ทำให้ป่วยมากขึ้น
    ๓. ในกรณีที่เป็นไม่มาก น้ำมะนาวโซดา ก็อาจช่วยได้ อาจทำให้หาย หรือชะลอให้เป็นช้าลง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2012
  18. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035

    ขอบคุณครับขอต่ออีกนิดครับ การทำงานของรางจืดใช้แก้พิษต่างโดยทำให้สารเป็นกลางไม่แสดงผล และล้างที่สะสมในตับ ออกจากร่างกาย (ถ้าเข้าใจผิดช่วยแก้ไขด้วยครับ) แล้วมันจะมีผลกับยาที่ใช้รักษาด้วยหรือเปล่าครับเช่น
    คนที่เป็นโรค กินยาหมออยู่ แล้วกินรางจืดด้วยมันจะไปล้างเอายาที่กินเข้าไปหรือทำให้ยาไม่ออกฤทธิ์หรือเปล่าครับ
     
  19. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ความจริงแล้ว ใบรางจืด ยังมีผลกระตุ้น(ให้ตื่นตัว)น้อยๆต่อ ปิตะในส่วน พัทธะ และอพัทธะ ด้วย(ไม่มากนัก)
    และกระตุ้น(ให้ตื่นตัว) น้อยๆต่อเสมหะธาตุในส่วนคูถเสมหะด้วย
    จึงเกิดการกระตุ้นการทำงานของตับ ให้ขับพิษได้ และถ่ายออกทางอุจาระ
    เกิดการขับพิษที่สะสมในตับได้ แต่ไม่ได้ล้างยา
    (ห้วไช้เท้า ตัวนี้ล้างยา แต่ไม่ได้ขับพิษ)

    อย่างไรก็ดี ผลการกระตุ้นระงับในเรื่อง อุระเสมหะ จะค่อนข้างมาก จึงทำให้สมุนไพรตัวนี้เด่นในเรื่อง ภูมิแพ้ระรบการหายใจส่วนล่าง
     
  20. kongkiat01

    kongkiat01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +127
    คุณหมอครับขอเลขที่บัญชีด้วยครับ จะได้สั่งยามากินถึงช้าแต่ก็ไม่เป็นไรครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...