เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    นิทานเรื่องน้ำค้างกับเมล็ดข้าว

    นิทานเรื่องน้ำค้างกับเมล็ดข้าว

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ดินแดนอันไกลโพ้นแห่งหนึ่ง ผืนดินปกคลุมไปด้วยนาข้าวอันอุดมสมบูรณ์ ผู้คนมีแต่ความสมบูรณ์พูนสุข เกื้อหนุนช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกันด้วยความรักและเมตตาอันปราศจากเงื่อนไข พวกเขาได้ข่าวภัยพิบัติที่ทำลายเมืองอื่นอยู่เนืองๆ ทำให้พืชไร่เสียหาย ประชาชนอดอยาก พวกเขาจึงส่งพืชพันธุ์ธัญญาหารเพื่อไปช่วยเหลือ ระหว่างที่มีการบรรทุกสัมภาระและอาหารเพื่อไปช่วยเหลือประชากรในท้องที่เหล่านั้น เกวียนบรรทุกเมล็ดข้าวเล่มหนึ่งเดินทางผ่านดินแดนอันแห้งแล้ง ผืนดินแตกระแหง กระสอบข้าวใบหนึ่งรั่ว ทำให้ข้าวบางส่วนร่วงหล่นไปตามทางที่เกวียนเล่มนั้นเดินทางผ่านไป สายลมแรงพัดพาเอาเมล็ดบางส่วนไปตกลงบนกองหินที่แดดเผา บางส่วนไปตกในหนองน้ำที่แห้งปานทะเลทราย บางส่วนก็ตกลงบนดินที่แตกระแหงปราศจากร่มเงาของไม้ใหญ่

    แต่เมล็ดข้าวสีทองหยิบมือหนึ่งถูกลมหอบไปตกลงบนดินใกล้กับหินก้อนใหญ่ แม้ว่าผืนดินจะแห้งแล้ง แต่เมล็ดข้าวสีทองเมล็ดหนึ่งก็กล่าวกับเมล็ดอื่นๆว่า "โชคดีจังนะที่พวกเราได้อาศัยร่มเงาจากหินก้อนนี้ สักวันหนึ่งเราอาจจะงอกขึ้นเป็นต้นกล้าก็ได้ แล้วเราก็จะกลายเป็นนาข้าวที่สมบูรณ์พูนสุขเหมือนกับผืนดินของบรรพบุรุษที่เราจากมา" เมล็ดข้าวสีทองเมล็ดอื่นๆได้ยินด้งนั้นก็เต็มไปด้วยความหวัง พวกมันพากันขยับเข้าไปใกล้ก้อนหินเพื่ออยู่ใต้ร่มเงา และต่างพากันขอบใจก้อนหิน ก้อนหินก้มลงมองพวกมันแล้วก็ยิ้มอย่างภาคภูมิที่มันได้กลายเป็นก้อนหินที่มีประโยชน์ขึ้นมา

    แต่มีเมล็ดข้าวสีดำสนิทเมล็ดหนึ่งซึ่งแปลกแยกไปจากเมล็ดอื่นๆแต่เพียงเปลือกนอก มันชายตามองเมล็ดข้าวอื่นๆที่แลดูเหมือนๆกันอย่างเย่อหยิ่ง แล้วมันก็ขยับตัวเข้าใกล้ก้อนหินอีกนิดเพื่อให้ได้ร่มเงา แต่มันก็ไม่นึกขอบใจก้อนหินสักเท่าไรนัก

    วันแล้ววันเล่าผ่านพ้นไป เมล็ดข้าวอื่นๆที่ตกลงบนก้อนหิน ตกลงในหนองน้ำแห้ง และกลางลานดินอันแตกระแหง ก็ตกเป็นอาหารของฝูงนกฝูงการที่บินโฉบไป

    เมล็ดข้าวอีกเมล็ดหนึ่งข้างหินก้อนใหญ่ก็กล่าวขึ้นว่า "พวกเราโชคดีจังนะ ที่ได้อาศัยร่มเงาของก้อนหิน และได้อาศัยเป็นที่กำบังจากฝูงนก" เมล็ดข้าวเมล็ดอื่นๆได้ยินด้งนั้นก็เต็มไปด้วยความหวังต่อไป เวลาผ่านไป แต่ความแห้งแล้งก็ยังคงครอบงำดินแดนแห่งนี้ และเมล็ดข้าวก็ยังไม่อาจงอกเป็นต้นกล้าได้ แต่ละเมล็ดยังคงเต็มไปด้วยความหวัง ความปรารถนาและศรัทธาในความเป็นไปได้ อันคาดการณ์ไม่ได้ ดวงตะวันเริ่มคล้อยและก้อนหินก็ไม่อาจให้ร่มเงากับเมล็ดข้าวเหล่านี้ได้เช่นเคย แต่มันก็สงบนิ่งและส่งกำลังใจให้เมล็ดข้าวต่อไปว่า "เมื่อตะวันคล้อยต่อไป สักวันหนึ่งฉันก็จะให้ร่มเงาแก่พวกเธอได้อีก อย่าเพิ่งหมดหวังนะ" เมล็ดข้าวตระหนักในน้ำใจของก้อนหิน และขอบใจที่มันได้ให้ร่มเงาแก่พวกเขามาแล้ว

    เมฆน้อยก้อนหนึ่งลอยผ่านมา มันก้มลงมองดูเมล็ดข้าวที่ออกันอยู่ข้างก้อนหิน และพยายามหลบจากแดดจ้าที่แผดเผาอย่างไร้ผล มันคล่อยๆเคลื่อนตัวน้อยๆของมันต่ำลง และทอดเงาลงไปบังเมล็ดข้าวกลุ่มนั้น เมล็ดข้าวเริ่มรู้สึกเย็นลง เมล็ดสีทองเมล็ดหนึ่งแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า มันร้องขึ้นด้วยความดีใจว่า"ดูซิ! พวกเราโชคดีอีกแล้ว ที่ได้อาศัยร่มเงาจากเมฆน้อย" เมล็ดข้าวสีทองทั้งหลายเต็มไปด้วยความหวัง พวกมันขอบใจก้อนหิน และ เมฆน้อย เมล็ดข้าวสีดำชายตามอง มันขยับตัวเขาไปใต้ร่มเงาของเมฆน้อย แต่มันก็ไม่นึกขอบใจสักเท่าไรนัก

    วันแล้ววันเล่าเมฆน้อยยังคงทอดเงาให้กับเมล็ดข้าว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเมล็ดข้าวจะงอกเป็นต้นกล้าได้อย่างไร นอกจากว่าพวกมันยังคงเต็มไปด้วยความหวัง ความปรารถนาและศรัทธาในความเป็นไปได้ อันคาดการณ์ไม่ได้

    เมื่อเมฆก้อนใหญ่กลุ่มหนึ่งลอยผ่านมาและพบเหตุการณ์นี้เข้า พวกมันมองเห็นความเมตตาของเมฆน้อยที่พากเพียงให้ร่มเงาแก่กลุ่มเมล็ดข้าว และตระหนักในความหวัง ความปรารถนาและศรัทธาของเมล็ดข้าว มันจึงลอยตัวต่ำลงจนเป็นผืนเดียวกับเมฆน้อย เมล็ดข้าวสีทองอีกเมล็ดหนึ่งแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่มืดครึ้ม แล้วมันก็ร้องว่า "ดูซิ! พวกเราโชคดีอีกแล้ว ที่ได้อาศัยร่มเงาจากเมฆใหญ่"
    เมล็ดข้าวสีทองทั้งหลายเต็มไปด้วยความหวัง พวกมันขอบใจก้อนหิน เมฆน้อย และ เมฆใหญ่ เมล็ดข้าวสีดำชายตามอง มันขยับตัวเขาไปใต้ร่มเงาของเมฆน้อยเมฆใหญ่ แต่มันก็ไม่นึกขอบใจเมฆก้อนใหญ่สักเท่าไรนัก

    คื่นที่ 1
    น้ำค้างหยดแรก พร่างพรมลงบนเมล็ดข้าวทั้งหลาย พวกมันกำลังหลับสนิท ความชุ่มชื่นของน้ำค้างทำให้สติสัมปชัญญะของมันคมชัด จนกระทั่งพวกมันระลึกถึงความจำเก่าก่อนในชาติภพทั้งหลายในอดีต ที่พวกมันเคยเป้นส่วนหนึ่งของรวงข้าวและนาข้าวอันอุดมที่มันจากมา ทำให้พวกมันตื่นขึ้นมาด้วยความคาดหวังอันยิ่งใหญ่ เมล็ดข้าวสีทองเมล็ดหนึ่งกล่าวว่า "ฉันรอคอยวันที่พวกเราจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของนาข้าวอันอุดมอีกครั้งหนึ่ง" เมล็ดข้าวสีทองทั้งหลายเต็มไปด้วยความหวัง พวกมันขอบใจก้อนหิน เมฆน้อย เมฆใหญ่ และ น้ำค้างหยดแรก

    เมล็ดข้าวสีดำชายตามอง มันขยับตัวด้วยความชุ่มชื่นของน้ำค้าง แต่มันก็ไม่นึกขอบใจน้ำค้างหยดแรกสักเท่าไรนัก


    คื่นที่ 2
    น้ำค้างหยดที่สอง พร่างพรมลงเมล็ดข้าวทั้งหลาย พวกมันกำลังหลับสนิท ความชุ่มชื่นของน้ำค้างทำให้สติสัมปชัญญะของมันคมชัด จนกระทั่งพวกมันฝันอย่างคมชัดแลเห็นทุ่งกว้างแห่งนี้กลายเป็นนาข้าวอันอุดม ทำให้พวกมันตื่นขึ้นมาด้วยความคาดหวังอันยิ่งใหญ่ เมล็ดข้าวสีทองเมล็ดหนึ่งกล่าวว่า "ฉันแลเห็นอนาคตว่า อีกไม่นานพวกเราจะทำให้ดินแดนแห่งนี้ กลายเป็นนาข้าวอันอุดม" เมล็ดข้าวสีทองทั้งหลายเต็มไปด้วยความหวัง พวกมันขอบใจก้อนหิน เมฆน้อย เมฆใหญ่ น้ำค้างหยดแรก และน้ำค้างหยดที่สอง

    เมล็ดข้าวสีดำชายตามอง มันดูดซับความชุ่มชื่นของน้ำค้าง แม้มันจะฝันไม่น้อยไปกว่าเมล็ดข้าวสีทองเมล็ดอื่นๆ แต่มันก็ไม่นึกขอบใจน้ำค้างหยดที่สองสักเท่าไรนัก


    คื่นที่ 3
    น้ำค้างหยดที่สาม พร่างพรมลงบนเมล็ดข้าวทั้งหลาย พวกมันกำลังหลับสนิท ความชุ่มชื่นของน้ำค้างทำให้สติสัมปชัญญะของมันคมชัด จนกระทั่งพวกมันตระหนักได้ว่า มันคือจิตวิญญาณผู้มาถือกำเนิด พร้อมด้วยพลังอำนาจตามธรรมชาติอันน่ามหัศจรรย์ ซึ่งจะทำให้มันเป็นเมล็ดที่สมบูรณ์และสามารถงอกเป็นต้นกลัาได้ต่อไป ทำให้พวกมันตื่นขึ้นมาด้วยความคาดหวังอันยิ่งใหญ่ เมล็ดข้าวสีทองเมล็ดหนึ่งกล่าวว่า "ฉันแลเห็นอนาคตว่า พวกเราจะงอกขึ้นเป็นต้นกล้าอันสมบูรณ์" เมล็ดข้าวสีทองทั้งหลายเต็มไปด้วยความหวัง พวกมันขอบใจก้อนหิน เมฆน้อย เมฆใหญ่ น้ำค้างหยดแรก น้ำค้างหยดที่สอง และน้ำค้างหยดที่สาม

    เมล็ดข้าวสีดำชายตามอง มันดูดซับความชุ่มชื่นของน้ำค้าง จนเมล็ดของมันพองโตไม่น้อยไปกว่าเมล็ดข้าวสีทองเมล็ดอื่นๆ และเต็มไปด้วยความเป็นได้อันคาดการณ์ไม่ได้ แต่มันก็ไม่นึกขอบใจน้ำค้างหยดที่สามสักเท่าไรนัก


    คืนที่ 4
    น้ำค้างหยดที่สี่ พร่างพรมลงบนเมล็ดข้าวทั้งหลาย พวกมันกำลังหลับสนิท ความชุ่มชื่นของน้ำค้างทำให้สติสัมปชัญญะของมันคมชัด จนกระทั่งพวกมันตระหนักได้ถึง มรดกล้ำค่าทางกายภาพและพันธุกรรมที่มันได้รับมอบมาจากบรรพบุรุษท้้งหลายของมัน มันฝันเห็นจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมมิติในอดีตและอนาคตชาติ และมองเห็นแนวโน้มและความเป็นไปได้ของพวกมัน มันฝันเห็นจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ของมันที่กำลังงอกขึ้นเป็นต้นกล้าอยู่ ณ ดินแดนอื่นๆอันชุ่มชื่นไปด้วยฝน ทำให้เมล็ดของมันชุ่มชื่นพองโตไปด้วยราวกับว่าได้ฝน มันฝันเห็นจิตวิญญาณเสมือนร่วมร่างแต่ต่างมิติในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตชาติ บนเส้นทางแห่งความเป็นได้อื่นๆ ที่พวกมันงอกงามขึ้นเป็นต้นกล้าในลักษณะต่างๆอันเป็นไปได้-หลากหลาย-เป็นอนันต์ เมล็ดข้าวสีทองทั้งหลายเต็มไปด้วยความหวัง พวกมันขอบใจก้อนหิน เมฆน้อย เมฆใหญ่ น้ำค้างหยดแรก น้ำค้างหยดที่สอง น้ำค้างหยดที่สาม และน้ำค้างหยดที่สี่

    เช้าวันรุ่งขึ้นต้นต้อยติ่งเริ่มงอกงามขึ้นมา ทำให้เมล็ดข้าวสีทองบางเมล็ดเริ่มกระสับกระส่าย บางเมล็ดกล่าวว่า "ดูสิ วัชชพืชพวกนี้มาแย่งความชื้นไปจากพวกเรา" แต่เมล็ดข้าวสีทองเมล็ดหนึ่งกลับกล่าวว่า "ต้นต้อยติ่งเป็นสัญญาณเตือนให้เรารู้ว่า เราจะงอกงามขึ้นเป็นต้นกล้าได้ในไม่ช้าด้วยน้ำค้างเหล่านี้" เมล็ดข้าวสีทองที่ยังไม่ไหวตัวพอที่จะดูดซับน้ำค้างกลับเริ่มไหวตัว และซึมซับน้ำค้างได้ขึ้น แม้ว่าต้นต้อยติ่งจะทำให้เมล็ดข้าวสีทองบางเมล็ดกระสับกระส่าย แต่มันก็ทำให้หลายๆเมล็ดตื่นตัวมากขึ้นกว่าเดิม

    เมล็ดข้าวสีดำชายตามอง มันดูดซับความชุ่มชื่นของน้ำค้างอย่างไม่เต็มใจนัก ด้วยความคิดว่า ประวัติศาสตร์และแนวโน้มของมันแตกต่างไปจากเมล็ดข้าวสีทองอื่นๆโดยสิ้นเชิง มันมองดูเพียงเปลือกนอกของมันด้วยความหยิ่งผยอง และคิดว่ามันจะรอคอยวันที่ลมใต้จะพัดพามันไปสู่ดินแดนใหม่ เพื่อขยายพันธุ์กลายเป็นนาข้าวที่พิเศษผิดแผกไปจากเมล็ดข้าวสีทองที่แสนจะธรรมดา มันไม่นึกขอบใจน้ำค้างหยดที่สี่สักเท่าไรนัก


    คืนที่ 5
    น้ำค้างหยดที่ห้า พร่างพรมลงบนเมล็ดข้าวทั้งหลาย พวกมันกำลังหลับสนิท ความชุ่มชื่นของน้ำค้างทำให้สติสัมปชัญญะของมันคมชัด จนกระทั่งพวกมันตระหนักได้ถึง อิสระแห่งความปรารถนาของแต่ละเมล็ด เมล็ดข้าวสีทองเมล็ดหนึ่งปรารถนาที่จะงอกขึ้นเป็นต้นกล้าที่ออกรวงข้าวมากมายจนลำต้นของมันน้อมลงสู่ดิน เมล็ดข้าวสีทองอีกเมล็ดหนึ่งปรารถนาที่จะงอกขึ้นเป็นต้นกล้าที่ออกรวงไม่มากนัก แต่เมล็ดของมันอิ่มเอิบแข็งแรงเป็นพิเศษ เมล็ดข้าวสีทองอีกเมล็ดหนึ่งปรารถนาที่จะงอกขึ้นเป็นต้นกล้าที่ออกรวงไม่มากและเมล็ดน้อย เพื่อที่มันจะได้ชูช่อขึ้นสู่ฟ้ากว้าง พวกมันต่างก็ตื่นขึ้นมาด้วยความคาดหวังอันยิ่งใหญ่ด้วยการตระหนักว่า เมล็ดแต่ละเมล็ดคือจิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดพร้อมกับพลังอำนาจที่จะมีได้-ทำได้-เป็นได้สมความปรารถนาทุกประการ เมล็ดข้าวสีทองทั้งหลายเต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า ความมุ่งมั่น และ ความหวัง พวกมันขอบใจก้อนหิน เมฆน้อย เมฆใหญ่ น้ำค้างหยดแรก น้ำค้างหยดที่สอง น้ำค้างหยดที่สาม น้ำค้างหยดที่สี่ และ น้ำค้างหยดที่ห้า

    เช้าวันรุ่งขึ้นต้นต้อยติ่งเริ่มออกดอกสีม่วงบานสะพรั่ง ทำให้เมล็ดข้าวสีทองบางเมล็ดกระสับกระส่ายยิ่งขึ้นไปอีก บางเมล็ดร้องถามว่า "ทำไม่เธอไม่ไปงอกขึ้นที่อื่นนะ" แต่เมล็ดข้าวสีทองเมล็ดหนึ่งกลับกล่าวว่า "วัชพ์ชเหล่านั้นเป็นสัญญาณเตือนให้เรารู้ว่า เราจะงอกงามขึ้นเป็นต้นกล้าได้และเต็มไปด้วยรวงข้าวได้ในที่สุด" เมล็ดข้าวสีทองที่เคยกระสับกระส่ายก็หันมาขมักเขม้นซึมซับน้ำค้างได้ดียิ่งขึ้นไปอีก และมันก็พบว่า เมล็ดของมันเริ่มงอกรากและมีแนวโน้มว่าจะแตกใบเลี้ยงในไม่ช้า

    เมล็ดข้าวสีดำชายตามอง มันหยุดดูดซึมความชุ่มชื่นของน้ำค้าง มันมองเห็นว่าน้ำค้างเพียงน้อยนิดเหล่านี้ไม่พอเพียงสำหรับเมล็ดสีดำที่แสนพิเศษของมัน มันไม่แยแสว่าเมล็ดสีทองจะแบ่งปันน้ำค้างกับวัชชพืช เพราะความใฝ่ฝันของมันคือทุ่งนาที่มีฝนชุ่มชื่น มันรอคอยให้ลมใต้พัดพาเมล็ดที่แห้งสนิทของมัน เพื่อที่มันจะได้ไปได้ไกลสมความปรารถนา มันไม่นึกขอบใจน้ำค้างหยดที่ห้าสักเท่าไรนัก


    คืนที่ 6
    น้ำค้างหยดที่หก พร่างพรมลงบนเมล็ดข้าวทั้งหลาย พวกมันกำลังหลับสนิท ความชุ่มชื่นของน้ำค้างทำให้สติสัมปชัญญะของมันคมชัด จนกระทั่งพวกมันตระหนักได้ถึงการเป็นส่วนหนึ่งของภาพรวมในโลกแห่งความเป็นจริง พวกมันตระหนักได้ว่า แม้ผืนดินอันแห้งแล้งและแสงแดดที่แผดจ้า ก็เป็นส่วนหนึ่งของสรรพสิ่งทั้งหลายที่ก่อให้เกิด เมฆและน้ำค้าง มันตระหนักได้ว่า มันได้รับการสนับสนุนจากแสงดาว แสงจันทร์ และแม้แต่แสงแดดอันแผดจ้าและผืนดินอันเคยแตกระแหง มันเป้นเมล็ดข้าวที่เจริญงอกงามในโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ ซึ้งสัมพันธ์กับสรรพสิ่งทั้งหลาย แม้มันจะเป็นเพียงเมล็ดที่ร่วงลงสู่ดิน แต่มันก็เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ที่จะงอกเป็นต้นกล้าต่อไปในโลกนี้ มิตินี้ และในโลกอื่น มิติอื่นๆอันหลากหลายเป็นอนันต์ แม้พวกมันจะมีความเรียบง่าย-เดินดิน แต่มันก็เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์-เหินฟ้า เมล็ดข้าวสีทองทั้งหลายเต็มไปด้วยความหวัง ความปรารถนาอันแรงกล้า และความศรัทธาในการเป้นส่วนหนึ่งของภาพรวมที่เกื้อกูลกันและกัน ทำให้พวกมันรู้สึกปลอดภัย และรู้ถึงพลังอำนาจในตนเอง แต่ถึงกระนั้นมันก็ตระหนักว่า มันเป็นไปได้ก็ด้วยการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน พวกมันจึงขอบใจก้อนหิน เมฆน้อย เมฆใหญ่ น้ำค้างหยดแรก น้ำค้างหยดที่สอง น้ำค้างหยดที่สาม น้ำค้างหยดที่สี่ น้ำค้างหยดที่ห้า และ น้ำค้างหยดที่หก

    เช้าวันรุ่งขึ้นต้นต้อยติ่งเริ่มออกฝัก ทำให้เมล็ดข้าวสีทองหายกระสับกระส่าย เพราะมันตระหนักว่า เมื่อเมล็ดต้อยติ่งแก่ และน้ำค้างพร่างพรมลงมาอีก มันจะแตกตัวและเมล็ดของมันก็จะกระเด็นไปไกล ไปงอกงามในถิ่นฐานอื่นๆ แต่เมล็ดข้าวสีทองเมล็ดหนึ่งกล่าวว่า "วัชพ์ชเหล่านั้นเป็นสัญญาณเตือนให้เรารู้ว่า เราจะงอกงามจนออกรวงได้ในที่สุด" เมล็ดข้าวสีทองทั้งหลายจึงเลิกกระสับกระส่าย หันมาขมักเขม้นซึมซับน้ำค้างได้ดียิ่งขึ้นไปอีก และมันก็พบว่า เมล็ดของมันเริ่มงอกรากและแตกใบเลี้ยงไปตามๆกัน

    เมล็ดข้าวสีดำชายตามอง มันปฏิเสธน้ำค้าง จนเมล็ดของมันแห้งสนิท มันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นด้วยความฝันว่า ทุ่งนาแห่งใหม่ของมันจะเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยฝนชุ่มฉ่ำและแสงแดดแผดจ้า มันไม่จำเป็นจะต้องคอยน้ำค้างทีละหยดเพื่อจะงอกเป็นต้นกลัา มันจึงไม่นึกขอบใจน้ำค้างหยดที่หกสักเท่าไรนัก


    คืนที่ 7
    น้ำค้างหยดที่เจ็ด พร่างพรมลงบนเมล็ดข้าวทั้งหลาย พวกมันกำลังหลับสนิท ความชุ่มชื่นของน้ำค้างทำให้สติสัมปชัญญะของมันคมชัด จนกระทั่งพวกมันตระหนักได้ว่า แม้ว่าแสงแดดอาจจะแผดเผาเมล็ดอื่นๆบนกองหิน หรือหนองน้ำแห้งจนเมล็ดเหล่านั้นไม่มีโอกาสได้งอกงาม และบางเมล็ดก็กลายเป็นอาหารของนกกาไป แต่จิตวิญญาณของพวกมันก็ดำเนินต่อไปอย่างเป็นอมตะด้วยความปรารถนาอันไม่มีวันจบสิ้น เมล็ดที่ยังไม่ได้งอกขึ้นเป็นต้นกล้าในชาติภพนี้ ยังคงปรารถนที่จะได้เผชิญกับประสบการณ์อันท้าทายต่อไปในรูปแบบที่มันเลือก มันจะเลือกไปถือกำเนิดในสภาพแวดล้อมต่างๆที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ที่จะทำให้มันเปลี่ยนความเชื่อจากมุมมองจำเพาะหนึ่งๆให้กลายเป็นความรู้ ไม่ว่ามันจะงอกขึ้นเป็นต้นกล้าได้สำเร็จหรือไม่ในโลกใด มิติใด ในเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นใด มันก็ไม่เคยเผชิญกับความล้มเหลว เพราะชีวิตทุกชาติภพ ทุกมิติ ทุกเส้นทางแเห่งความเป็นไปได้ ล้วนเป็นโอกาสอันแตกต่างกัน ที่มันเองเป็นผู้เลือก เพื่อเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และเรียนรูุ้ถึงคุณค่าของชีวิต ด้วยการใช้เอกลักษณ์ของมันในทิศทางจำเพาะและมุมมองจำเพาะนั้นๆอย่างดีที่สุด

    เมล็ดข้าวสีทองทั้งหลายเต็มไปด้วยความรักที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปทั้งในชาติภพนี้ มิติน้ี และชาติภพหน้า มิติหน้า ด้วยความมุ่งมั่น และ ความหวัง พวกมันตระหนักว่า จิตวิญญาณของมันเป็นอมตะ และมันจะต้องเผชิญกับความท้าทาย ใฝ่รู้และความสนเท่ห็ในชีวิตต่่อไปอีกจนกว่าบทเรียนของมันจะสมบูรณ์ และช่องว่างแห่งประสบการณ์ของมันจะเติมเต็มจนพอเพียง เมล็ดข้าวสีทองตื่นขึ้นมาพบว่า รากของมันก็งอกลงสู่ดินและยอดของมันก็แตกใบขึ้นสู่ฟ้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ พวกมันงอกงามร่วมกันอย่างร่าเริง พวกมันขอบใจก้อนหิน เมฆน้อย เมฆใหญ่ น้ำค้างหยดแรก น้ำค้างหยดที่สอง น้ำค้างหยดที่สาม น้ำค้างหยดที่สี่ น้ำค้างหยดที่ห้า น้ำค้างหยดที่หก และน้ำค้างหยดที่เจ็ด

    เมล็ดข้าวสีดำชายตามอง มันพร้อมแล้วที่จะให้ลมใต้พัดพามันไปสู่ดินแดนในฝันอันกว้างไกล มันปรารถนาจะเป็นข้าวพันธุ์ใหม่ที่ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร มันไม่แยแสเมล็ดข้าวสีทองที่พอใจกับการเริ่มงอกเป็นต้นกล้า ต้นเล็กต้นน้อย มันไม่แยแสน้ำค้างหยดที่เจ็ดสักเท่าไรนัก

    ใกล้รุ่ง ลมใตัพัดกระหน่ำ แต่เมล็ดสีทองทั้งหลายก็หลับสนืทด้วยความเชื่อมั่นว่า ก้อนหินและผืนดินจะปกปักรักษาและคุ้มครองพวกมัน แสงเดือนครอบคลุมพวกมันเสมือนผ้าห่มที่ห่อหุ้มและถนอมพวกมันไว้ จนกว่าจะถึงเวลางอกงามเมื่อตะวันมาเยือนขอบฟ้า ดวงดาวจะกะพริบให้กำลังใจว่า วันใหม่ของพวกมันจะรุ่งเรือง และพวกมันก็จะเจริญงอกงามต่อไป แต่เมล็ดข้าวสีดำกลับนอนไม่หลับ มันจินตนาการถึงทุ่งนาข้าวกว้างใหญ่ไพศาลที่มันจะกลายเป็นเมล็ดข้าวพันธุ์ใหม่ ที่ไม่มีใครเสมอเหมือน ความฝันของเมล็ดข้าวสีทองทั้งหลายดูจิบจ้อย มันจะแปลกอะไร เมล็ดข้าวสีทองก็ยังคงเป็นแค่เมล็ดข้าวสีทองที่แสนจะธรรมดาและดูเหมือนๆกันไปหมดและไร้ความสำคัญ

    ในคืนนั้นเอง ลมใต้ก็หอบเมล็ดข้าวสีดำไป ตามเจตนา ความเชื่อและความปรารถนาอย่างแรงกล้าของมัน และมันก็ไปตกลงบนพื้นดิน ณ ถิ่นฐานที่ไม่ไกลนัก แต่มันก็ไม่รู้ไม่เห็นเมล็ดข้าวสีทองทั้งหลายที่กำลังนอนหลับและฝันกันอย่างสนุกสนาน และมันก็คิดว่า "ความฝันของเมล็ดข้าวสีทองเหล่านั้นช่างน่าขันเสียจริง มันไม่ยิ่งใหญ่เหมือนความฝันของฉันหรอก"


    คื่นที่ 8
    น้ำค้างหยดที่แปด พร่างพรมลงบนเมล็ดข้าวทั้งหลาย พวกมันกำลังหลับสนิท ความชุ่มชื่นของน้ำค้างทำให้สติสัมปชัญญะของมันคมชัด จนกระทั่งพวกมันตระหนักได้ว่า จิตวิญญาณของมันมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปในโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ-โลกอืนๆ-ในสภาวะอื่นๆ อย่างเป็นอนันต์ ความเป็นไปทั้งหลายของเมล็ดแต่ละเมล็ดในแต่ละชาติภพ ในแต่ละโลก ในแต่ละมิติ ตลอดจนความเป็นไปของมันในโลกอื่น มิติอื่น ล้วนส่งผลกระทบกันหมด มันไม่ได้เป็นเมล็ดอันโดดเดี่ยวแต่ละเมล็ดที่จะงอกขึ้นเป็นต้นกล้า เพียงต้นเดียวในโลกนี้ มิติน้ี หากแต่ว่า มันกำล้งเป็นเมล็ดที่ได้งอกเป็นต้นกล้าและขยายพืชพันธุ์อย่างกว้างขวางแล้วในอดีต และ อนาคต และความเป็นไปทั้งหลายก็กำลังมีการถ่ายทอดแลกเปลี่ยนและสนับสนุนมันอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ พวกมันตื่นขึ้นมาด้วยความสุขสมบูรณ์ ตระหนักในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และยอดใบของมันก็เจริญงอกงามยิ่งขึ้นไปอีก

    เมล็ดข้าวสีทองทั้งหลายเต็มไปด้วยเจตนา ความเชื่อมั่นและความปรารถนาอย่างแรงกล้า มันมองเห็นต้นต้อยติ่งที่มีเมล็ดเต็มต้นดีดตัวออกไปและกระจายพันธุ์กว้างไกล เมล็ดข้าวสีทองแตกยอดแตกใบต่อไปอย่างต่อเนื่อง พวกมันเต็มไปด้วยความร่าเริ่ง และตระหนักว่าความฝันของพวกมันกลายเป็นความเป้นจริง พวกมันขอบใจก้อนหิน เมฆน้อย เมฆใหญ่ น้ำค้างหยดแรก น้ำค้างหยดที่สอง น้ำค้างหยดที่สาม น้ำค้างหยดที่สี่ น้ำค้างหยดที่ห้า น้ำค้างหยดที่หก น้ำค้างหยดที่เจ็ด และน้ำค้างหยดที่แปด

    ในที่สุดเมล็ดข้าวสีทองก็งอกงามเป็นต้นกล้าที่เต็มไปด้วยแนวโน้มและความเป็นได้ ตามเจตนา ความเชื่อและความปรารถนาอย่างแรงกล้าของแต่ละเมล็ด มันงอกงามร่วมกัน และทำให้ผืนดินปกคลุมไปด้วยสีเขียว ต้นต้อยติ่งก็งอกงามปะปันไปกับต้นข้าว ผืนดินชุ่มชิ้นขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด ฝนก็ตกแล้วตกอีก ต้นข้าวมากมายออกรวงสีทอง และเต็มไปด้วยต้นข้าวที่บ้างก็มีรวงข้าวที่แน่นจนยอดของมันโน้มลงสู่ดิน บ้างก็ชูยอดสูงสู่ฟ้า บ้างก็มีเมล็ดที่สมบูรณ์เป็นพิเศษ พวกมันมีความสุขและอกงามร่วมกันอย่างร่าเริง พวกมันขอบใจก้อนหิน เมฆน้อย เมฆใหญ่ น้ำค้างหยดแรก น้ำค้างหยดที่สอง น้ำค้างหยดที่สาม น้ำค้างหยดที่สี่ น้ำค้างหยดที่ห้า น้ำค้างหยดที่หก น้ำค้างหยดที่เจ็ด และ น้ำค้างหยดที่แปด แต่แล้วต้นข้าวตันหนึ่งก็ร้องถามว่า "เอ! ใครเห็นต้นต้อยติ่งบ้างไหม?" แม้ต้นต้อยติ่งจะยังคงแตกเป็นต้นใหม่ต่อไป ออกดอกสีม่วงสะพรั่ง มีเมล็ดและขยายพันธุ์ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ต้นข้าวก็งอกเลยสูงขึ้นไปจนมองไม่เห็นต้นต้อยติ่ง แล้วต้นข้าวตันหนึ่งก็ร้องว่า "เอ! ใครเห็นต้นข้าวที่มีเมล็ดสีดำบ้างไหม?" มีต้นข้าวที่มีเมล็ดสีดำปนเปอยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่มันก็ล้วนมีแนวโน้มและความเป็นไปได้ในทิศทางอันเป็นเอกลักษณ์ไม่ได้มากหรือน้อยไปกว่าเมล็ดข้าวสีทองที่ดูเสมือนว่ามีอยู่อย่างดาดดื่น มันอาศัยผืนดินเดียวกัน อุ้มความชุ่มชื้นให้กับผืนดินร่วมกัน และสร้างวงจรที่ทำให้ฝนตกต่อไป

    ทุ่งกว้างที่เคยแห้งแล้งกลับกลายเป็นนาข้าวอันอุดมสมบูรณ์ เมล็ดข้าวสีทองในรวงข้าวหลับ และฝันว่ามันเคยเป็นเมล็ดที่งอกงามในทุ่งนาอื่นๆมาแล้ว มันเดินทางไปกับเกวียนสัมภาระ มันร่วงหล่นจากกระสอบข้าว มันเคยเผชิญกับความแห้งแล้ง มันตื่นขึ้นและชื่นชมกับความชุ่มชื่น มันขอบคุณผืนดิน แดดจ้า มันขอบใจก้อนหิน เมฆน้อย เมฆใหญ่ น้ำค้างหยดแรก น้ำค้างหยดที่สอง น้ำค้างหยดที่สาม น้ำค้างหยดที่สี่ น้ำค้างหยดที่ห้า น้ำค้างหยดที่หก น้ำค้างหยดที่เจ็ด น้ำค้างหยดที่แปด ที่มันจดจำได้เลือนรางเสมือนความฝัน

    ห่างไกลออกไป เมล็ดข้าวสีดำเริ่มงอกรากและแตกใบเลี้ยง มันพอใจกับใบเลี้ยงของมัน มันไม่รู้ไม่เห็นนาข้าวอันอุดม มันไม่รู้จักรวงข้าวสีทองที่เกิดขึ้นใหม่มากมาย แต่มันก็พอใจกับฝนและไม่แยแสกับน้ำค้างต่อไป เวลาผ่านไป มีเมล็ดข้าวสีแปลกๆลอยมาตามลมจากนาข้าวอันอุดมแหล่งอืนๆมาร่วงหล่นในทุ่งแห่งนี้ มันมองดูเมล็ดข้าวสีดำที่กำลังแตกใบเลี้ยง และ มันก็ไม่ชืื่นชมความแปลกของสีดำ เพราะสีของมันก็แปลกไปจากเมล็ดข้าวสีทองอื่นๆไม่น้อย

    ไม่ว่าเมล็ดข้าวสีดำจะงอกงามได้เร็วช้าเพียงใด มันก็เต็มไปด้วยแนวโน้ม ความเป็นไปได้อันหลากหลายเป็นอนันต์ และมันก็จะเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์ในทิศทางของมันได้ในที่สุดไม่ว่าในช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา เมล็ดข้าวเหล่านั้นจะเรียกการเจริญงอกงามของของมันว่าเร็ว-ช้า ก่อน-หลัง ก้าวหน้า-ล้าหลัง ล้มเหลวหรือประสพความสำเร็จ

    ในโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ-นาข้าว ท้องถิ่นกันดาร ฝน น้ำค้าง และความแห้งแล้ง ล้วนเป็นมิติจำเพาะที่ทำให้เมล็ดข้าวเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และคุณค่าชีวิตของมันได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ จากมมุมมองจำเพาะ และ จากความเชื่อจำเพาะ
     
  2. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    ชวนสมัครพรรคพวกตามพี่นักเขียนไปด้วยครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  3. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ก่อนไปยังเล่านิทานให้พวกเราฟังอีก..สงสัยจะกล่อมให้หลับไวๆ
    เดี๋ยวขออ่านดูก่อน"นิทานน้ำค้างกับเมล็ดข้าว"ด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2007
  5. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    อาจารย์จะไปพักร้อนแล้วยังเป็นห่วงพวกเราอีก
    เราต้องมีความเชื่อ ความศรัทธา ความมุ่งมั่นและยังต้องมีจิตสำนึกคุณอีกด้วย อย่างเมล็ดข้าวสีทอง
    ขอบคุณอาจารย์ครับ
     
  6. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    วันนี้วันเสาร์หลายคนหยุด คงหลับไปอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริงกันฮะ(b-ahh)
     
  7. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    อ่านนิทานกันให้จบนะครับ เห็นภาพรวมหลายๆอย่างเข้ามาอยู่ในหัวเลยครับ
    พี่นักเขียนเล่าได้แนบเนียนกลมกลืนมาก เดิ๋ยวจะเอาไปเล่าต่อให้หลานฟังคับ
    นิทานเรื่องนี้สอนให้เห็นถึงความหลากหลายต่างๆของเครือข่ายจิตวิญญาณครับ เช่น...ความแปลกแยก (เมล็ดข้าวสีดำ) ความกลมกลืน (เมล็ดข้าวสีทอง) คุณค่าของชิวิต คุณค่าของสิ่งแวดล้อม ความพึงพอใจเฉพาะตัว ความคิดฝัน+จินตนาการ..ล้วนมีส่วนขยายรองรับ ส่งเสริมไปในทิศทางนั้นๆในมิติของความหลากหลายอันมีไม่จำกัด

    อ่านไปก็ลุ้นเจ้าเมล็ดสีดำว่าจะจบแบบไหน...download กันเองนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • aaa.jpg
      aaa.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.2 KB
      เปิดดู:
      43
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2007
  8. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    [​IMG]

    เด็กคนนี้ชวนแล้วไม่ยอมไปครับพี่นักเขียน (ติด net)
     
  9. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    เหอๆ เด็กคนไหนดื้อ !!...}++
    จับทำโทษยืนขาเดียวคาบไม้บรรทัดซะหน่อย !
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 0003478.gif
      0003478.gif
      ขนาดไฟล์:
      155.4 KB
      เปิดดู:
      1,475
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2007
  10. ชาไม่รู้

    ชาไม่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +878
    พระเจ้าทรงหว่านเมล็ดข้าวลงบนผืนนา "พุทธเกษตร" ก็มีบ้างค่ะ ที่ถูกนกจิกไป ไม่โตบ้าง แต่มีบางเมล็ดค่ะ หากเติบโตก็ยังประโยชน์แก่คนมากมาย เป็นต้น "โพธิ" ให้สัตว์น้อยใหญ่ได้ร่มเงา

    สาธุค่ะ
     
  11. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    คุณชา เปลี่ยนชื่อใหม่ แล้วหรือครับ
    ผมจำได้นะ สำนวนเหมือนเดิม
    ผิดตรงที่สีตัวหนังสือเท่านั้น ฮิฮิ(one-eye)
     
  12. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    ผมว่ากำลังโหลดข้อมูลจากเว็บพลังจิตอยู่ เลยไม่อยากไปไหน
     
  13. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    สวัสดีค่ะ...พึ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ ดีใจมากที่มีห้องสนทนาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ทางจิตวิญญาณ วันก่อนเห็นคุณ Mead พูดคุยเกี่ยวกับสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเทียม เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, ทีวี, ตู้เย็นหรือแม้กระทั่งคอมพิวเตอร์ ฯลฯ คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าในปัจจุบัน มนุษย์เราคงจะหลีกเลี่ยงกระแสแม่เหล็กไฟฟ้าเทียมนี้ได้ มีอาจารย์ท่านหนึ่งแนะนำว่า...
    1.หากเราอาศัยอยู่ในประเทศที่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร ให้เราหมุนตัวไปทางขวา ช้า ๆ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวได้รับอิทธิพลจากขั่วบวก
    2. หากเราอาศัยอยู่ในประเทศที่อยู่ใต้เส้นศูนย์สูตร (ประเทศไทย) ให้เราหมุนตัวไปทางซ้ายช้า ๆ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวได้รับอิทธิพลจากขัวลบ
    การหมุนตัวไปตามที่แนะนำข้างต้นเป็นการรักษาสมดุลของร่างกาย เพื่อแยกขั้วต่างทางไฟฟ้า ทำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ เหตุผลที่ให้หมุนช้า ๆ เพราะเกรงว่าจะเวียนศรีษะไปเสียก่อน จะทำให้สุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรคสมองเสื่อมด้วยนะคะ
    การที่มนุษย์เราจะรักษาความสมดุลของร่างกายไว้ได้ อาจารย์บอกว่าให้หมั่นหมุนไว้คล้าย ๆ กับลูกข่างที่หากหมดพลังงานและหยุดหมุนก็จะล้มลงทันที...
    (bb-flower
    ปล.. อ่านแล้วลองวิเคราะห์ดูก่อนนะจ๊ะ
     
  14. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ขอบคุณครับคุณขจรวรรณ ดีเลยครับมาทบทวนความรู้เดิมให้ผมอีก รู้สึกว่าเป็นอาจารย์เดียวกันครับ(อ.ปริญญา).. เรื่องหมุนตัวปรับสมดุล แต่ไทยเราอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร ต้องหมุนตัวตามเข็มนาฬิกานะครับถ้าจำไม่ผิด..ใช่มั๊ยครับ
    รู้สึกคนแถวนี้เคยไปฟังบรรยายของอ.ปริญญา มาหลายท่านเลยนะครับ..มาเรียนต่อยอดความรู้ด้วยกัน เดี๋ยวหมุนๆไปก็กลมกลีนกันได้ครับ ขอต้อนรับสมาชิคใหม่ด้วยนะครับ++
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • oth_pen07.gif
      oth_pen07.gif
      ขนาดไฟล์:
      3.2 KB
      เปิดดู:
      337
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2007
  15. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    ขอต้อนรับคุณ Khajornwan ครับผมก็สมาชิกใหม่เพิ่งไม่กี่วันเองครับ ผมยังไม่ได้ขอบคุณ คุณ mead เลย ขอขอบคุณ mead ครับที่เปิดกระทู้นี้ และได้เชิญอาจารย์นักเขียนมาให้ความรู้ มีความสุขที่ได้ใช้เว็บนี้มากครับ แต่ก่อนผมคุยกับน้องสาวผมกันสองคนที่คุยกันรู้เรื่อง ตอนนี้อบอุ่นครับมีเพื่อนเยอะขึ้น
     
  16. ต้นTKenji

    ต้นTKenji เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +683
    พี่นักเขียน/คนสวยครับ พี่เรียนเต๋ามาด้วยหรือครับ เต๋านี้เป็นของคน จีนใช่หรือเปล่า ผมไม่แน่นใจนัก ถ้าเป็นของจีน พี่สอนผมได้หรือเปล่าครับ ผมอยากเรียนอะครับ ไม่ต้องถามนะครับ ดูรูปก็รู้แล้วครับ


    ไม่ได้เข้ามาตั้ง 4 วันพระเจ้าช่วย กระทู้หายไปไหนหมด จำได้ล่าสุด 60 กว่า หายเหลือ 30กว่า อะไรกันงง อ่านตามไม่ทันเลยต้องมาไล่ใหม

    ่(b-uh)[bw-cry](b-cry)
     
  17. ต้นTKenji

    ต้นTKenji เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +683



    ผมไปด้วย ขอไปกับความฝัน แม้ว่าฝันของผมจะไม่ชัดจนบาด แต่ผมจะทำให้ เลือดออกเลยครับ
    ความเชื่อของผมจะเปลี่ยนเป็นคววามรู้ และความรู้จะสร้างให้มันเป็นโลกแห่งความเป็นจริง ครับ
    ต่างร่างรวมกันเป็นวัตถุประสงค์เีดียวกัน
    (b-deejai)[b-wai]


    (b-smile)(b-smile)(b-smile)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2007
  18. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    สวัสดีครับ ได้ลองไป Dallas ดูแล้ว ไปทาง google earth นะครับ ไม่ได้ไปทางฝัน ห่ะๆ พี่นักเขียนคงจะเชิญชวนให้ไปเที่ยวทางฝันแน่เลย

    นิทานเรื่องน้ำค้างกับเมล็ดข้าวอ่านแล้วดีมากเลย เขียนเปรียบเทียบจนเห็นภาพ

    เผอิญนึกถึงนิทานเรื่องนึงพอดีเลยจะเอามาให้อ่านกันมั่ง อาจจะยาวไปหน่อย นิทานเรื่องนี้ชื่อว่า The Little Soul and The Sun

    <hr>

    <center><img src=http://www.palungjit.org/club/uploads/zipper_littleSoul1.jpg></center>

    The Little Soul and The Sun

    By Neale Donald Walsch


    ***********************************************************************************************
    คำอุทิศผู้แปล
    แด่ "วิญญาณน้อย"ทุกดวงบนโลกใบนี้
    ***********************************************************************************************

    กาลครั้งหนึ่งซึ่งไร้กาลเวลา
    มีวิญญาณน้อยดวงหนึ่งกล่าวขึ้นกับพระเจ้าว่า
     
  19. ต้นTKenji

    ต้นTKenji เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +683
    นิทานของพี่ยาวไปหน่อย ผมเลยต้องcoppy ข้อมูลเก็บไว้อ่านต่อครับ
     
  20. ต้นTKenji

    ต้นTKenji เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +683


    ขอคุณครับพี่นักเขียนที่นำความรู้เล็กๆมาแนะนำผมครับ

    (b-smile)
     

แชร์หน้านี้

Loading...