เปิดอบรมพลังเอกภพ ระดับพื้นฐาน (ระดับ1)

รักษาสุนัข 2

เล่าเรื่องประสบการ์ณรักษามะหมาอย่างเดียวครับช่วงนี้ เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ชอบเลี้ยงหมานะครับ ก่อนเลี้ยงควรศึกษาแต่ล่ะพันธุ์ดูก่อนว่ามันเป็นยังไง ข้างบ้านถัดไปไม่ไกล เอาหมามาเลี้ยง เป็นพันธุ์ฝรั่งขนปุกปุย หมาพันธุ์นี้ชอบอยู่ใกล้คน ต่อสู้ไม่เก่ง แต่เรื่องกินเป็นเลิศ กินอย่างกับพายุบุเคม เจ้าของเลี้ยงกินอิ่มมั่ง ไม่อิ่มมั่ง แต่ไม่ว่ามันจะอิ่ม ไม่อิ่มแค่ไหนมันก็กินได้อีก อ้วกออกมา ยังกินต่อได้ เรียกว่ายังไม่มีใครพบเห็นหมาที่กินแบบ ไม่บันยะบันยังแบบนี้เลย เรื่องมันก็เกิดขึ้นตรงนี้แหละครับ วันนั้น เอ (นามสมมุติของสุนัข) กินมากเกินร่างกายจะรับไหว เอ ก็เกิดอาการ กินไม่เข้า อ้วกไม่ออก ดูแล้วลงความเห็นกันว่าน่าจะลำไส้อักเสบ ผมเห็น ผมก็เฉย บอกช่างมัน อยากตะกละเอง (ผมไม่ชอบมัน เกิดจิตอกุศลครอบงำ) เห็นอาการกระตุกของเอ ผมก็ทนดูไม่ได้ รักษาคร่าวๆไป (นี่ไม่มีใครเคยสอนให้รักษาอะไรแบบคร่าวๆนะครับ เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีมากเลย) มันก็ดูเหมือนจะอาการทรงตัว กินอาหารไม่ได้ ผอมลงไปมาก สังเกตจมูกของเอ มีเลือดไหลออกมา แม่สงสารก็บอกผมว่าไม่รักษามันหรือ ผมก็ยิ้มๆ นึกว่าถึงเอ จะเป็นหมานิสัยยังไงเราก็ควรจะช่วย ดูไปก็น่าสงสาร ผมนั่งสมาธิ ส่งพลังรักษาไปช่วงนั้น ใครๆเห็นก็ว่ามันตายแน่ (อีกแล้วครับท่าน) ผมก็ส่งต่อเนื่องอยู่สาม สี่ วัน วันที่ สี่ เอก็เดินมา เห็นมันอ้วนขึ้น ผมก็อ่าว Work แล้วนี่แสดงว่าแบบนี้กินข้าวได้แล้ว มันยังไม่หายดีก็มีอาการกระตุกบ้าง จนวันนี้น่าจะหายได้ซัก 80 เปอร์เซนต์แล้ว กลับมากินแบบมูมมาม เหมือนเดิม (แล้วมันจะซ้ำรอยเป็นอีกรึเปล่าเนี่ย).... หวังว่าจะไม่มีภาคสองแล้วนะเอ คิดถึงพี่น้องทุกคนครับ ถ้ามีเรื่องอะไรจะมาเล่าอีกครับ

 

เห็นคุณ Conductor เล่าประสบการณ์เรื่องการรักษา ผมขอเล่ามั่งครั้บ...
"เรื่องการรักษาน้องหมา" (เหมือนกัน)
...เรื่องมีอยู่ว่า มีสุนัขตัวหนึ่งอายุก็ประมาณหลายขวบแล้ว ถ้าเทียบเกับคน
ก็น่าจะประมาณซัก 30-40 ปี (วัยกลางคน)เป็นสุนัขพันธุ์ไทยสีดำ ซึ่งสุนัข
ตัวนี้ก็อยู่แถวๆ บ้านพักผม พบเจออยู่บ่อยๆ มีอยู่วันหนึ่ง ไม่ทราบว่าเกิด
อะไรขึ้นกับสุนัขตัวนี้ เห็นท่าทางไม่ค่อยดี เดินโซซัดโซเซวนไปเวียนมา
แถวๆ หน้าบ้านผม แล้วก็ล้มนอนแอ้งแม้ง หายใจรวยรินแล้วก็เห็นมีเลือด
ไหลออกมาจากปาก ดูท่าท่างแล้วเหมือนจะไม่รอด แต่ตามร่างกายบาดแผลก็ไม่มี
คิดว่าคงจะมาตายหน้าบ้านผมแน่ ผมก็เลยกำหนดจิตขอพลัง แล้วส่งเข้าไป
ที่สุนัข ซึ่งกำลังนอนรอความตาย...โดยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย
ส่งพลังเข้าไปให้ทั่วตั้งแต่หัวจรดหางเพราะไม่รู้ว่าเป็นอะไร ใช้เวลา
ประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นไม่นาน เหมือนปาฏิหารย์เกิดขึ้นอยู่ๆ สุนัขตัวนั้น
ก็มีแรงสามารถลุกขึ้นเดินจากที่นอนจะตายมิตายแหล่ เหมือนไม่มีอะไรเกิด
ขึ้น หลังจากวันนั้นเขาก็มีชีวิตอยู่ต่อไปนานหลายปี จนกระทั่งผมย้ายบ้าน
จากตรงนั้นมาก็ไม่ได้กลับไปอีกเลย คิดว่าน่าจะยังคงมีชีวิตอยู่...

...เมื่อเรามีจิตเมตตา...มีความศรัทธาและเชื่อมั่น...
...สิ่งที่เราคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้...ก็สามารถเป็นไปได้...
...ขอเพียงเรามีความมุ่งมั่น และ ไม่ย่อท้อ ... จงลงมือทำ


….............จงทำด้วย...จงทำด้วย
…..........จงทำด้วย.........จงทำด้วย
….......จงทำด้วย...............จงทำด้วย
….....จงทำด้วย....................จงทำด้วย
…....จงทำด้วย......................จงทำด้วย
…...จงทำด้วย........................จงทำด้วย.....จงทำด้วย...จงทำด้วย
….. จงทำด้วย.........................จงทำด้วย...จงทำด้วย.......จงทำด้วย
…...จงทำด้วย.........................จงทำด้วย.......................จงทำด้วย
…....จงทำด้วย.........................จงทำด้วย......................จงทำด้วย
….....จงทำด้วย......................................................จงทำด้วย
…..…...จงทำด้วย.............................................จงทำด้วย
…...........จงทำด้วย...................................จงทำด้วย
…..............จงทำด้วย...........................จงทำด้วย
…..................จงทำด้วย....................จงทำด้วย
…....................จงทำด้วย.............จงทำด้วย
…......................จงทำด้วย…..จงทำด้วย
….........................จงทำด้วย.จงทำด้วย
…...............................จงทำด้วย

 

สวัสดีครับ อ. และก็สวัสดีชาวยูเรอัสทุกๆ ท่าน
มาช่วยโพสต์กระทู้ครับ
ที่แน่ๆ หลังจากเรียนมาหลายครั้งครับ อันที่ประทับใจไม่เคยลืมเวลาที่เรียน
คือ

"ได้เห็นออร่า ด้วยตาเปล่า"

แบบว่า สุดยอดครับ แรกๆ ก็อดสงสัยไม่ได้เอ เราตาฝาดไปป่าวหว่า แต่พอเรียนไปได้ 2-3 ครั้งก็รู้อยู่แกใจว่า สิ่งที่ตาเห็นนั้นเป็นของจริงครับ
ส่วนความรู้ด้านอื่นๆ นั้นจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ได้ศึกษาและสัมผัสด้วยตัวของท่านเองแน่นอนครับ

ความเห็นส่วนตัวของกระผมเองนะครับ
วิชานี้เป็นวิชาที่คุ้มค่ากับการเรียนและนำไปใช้ประโยชน์เป็นอย่างมาก จะหา อ. ผู้สอนท่านใดถ่ายทอดได้ดีอย่างนี้ คงจะยากมากครับ
และโอกาสที่จะเปิดสอนระดับ 1 และมีผู้มาเรียนมากพอที่จะได้ทำการสอน นั้นก็หายากมาก นี่ก็ผ่านมาเป็นปี แล้วที่ไม่มีการสอนในระดับ พื้นฐานเปิดเลย ถ้าผู้ใดสนใจแล้วพลาดโอกาสนี้ อาจต้องรอไปอีกนาน

ผมขออธิฐานให้ผู้มีวาสนาทั้งหลาย ได้เปิดมาพบ อ่าน และสนใจศึกษา แล้วท่านจะได้สิ่งที่มีค่ากับชีวิต ติดตัวท่านไปใจวันตายแน่นอนครับ

ขอขอบพระคุณท่าน อาจารย์ กิติชัย สุรทิณฑ์ ที่ได้มอบโอกาสใหม่ๆ ให้กับทุกๆ คน
และ ขอขอบพระคุณที่สอนวิชาความรู้ต่างๆ ให้กับกระผมด้วยครับ

 

มาขุดกระทู้ให้นะครับ

 

ขอสมัครเข้าอบรมพลังเอกภพ

สวัสดีค่ะ. อ.กิติชัย และเพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่าน
ติดตามอ่านข่าวสารมาระยะหนึ่งแล้วสนใจกระทู้นี้มาก ขอเป็นสมาชิกด้วยคนนะค่ะ
ขอสมัครเข้าอบรมพลังเอกภพอีก 1 คนคะ(วรลักษณ์)
ขอบคุณค่ะ.

 

หากท่านใด ได้ มาเรียน ในระดับ 1 ในครั้งนี้
อยากจะ ฝาก เคล็ดลับ ที่อยากให้ทุกคนทำได้
1. จับอาการ และสังเกต การรับพลัง และ การส่งพลัง
2. การส่งพลัง อาจจะยังยากอยู่ สำหรับคนเรียน ระดับ1
3. ให้สังเกต ตอนรับพลัง ก่อน ว่า ร่างกายเรา รู้สึกอย่างไร เป็นอย่างไร
4. ในขณะ นั้น ทำใจ เบาๆ ง่ายๆ ไม่ต้องวิตก วิจารย์ เฝ้าดู เฉยๆ
5. เมื่อสังเกต พบแล้ว ให้ จำไว้​

เพื่อจะได้ไว้ ใช้ เป็น ลักษณะอ้างอิง ต่อไป​

เวลาพูด กันเรื่อง รับพลัง ส่งพลัง จะได้ เข้าใจได้ง่ายขึ้น​

ยิ่งพูด ก็ ยิ่งยาว
ยิ่งเล่า ก็ ยาวหนัก ขึ้นไปอีก เอาไว้ ไปเรียน เอง ดี กว่า นะครับ.....55​

 

หากพูดกันตรงๆ
ทุกครั้งที่ มาเรียน กับอาจารย์ ผม เห็น ทุกครั้งแหละ ตั้งแต่ วันแรกที่ เข้ามาเรียน ระดับ 1 ก็ เห็นแล้ว และ ยิ่งระดับสูง ขึ้น ก็ เห็นสิ่งที่ จะเรียกว่า อัศจรรย์ บ่อยขึ้นๆ

การที่เรียนเรื่องพลัง มิใช่ว่า เป็นเรื่อง นามธรรม หรือเรื่องสมมุติ

แต่ ท่านสอน ให้เราเข้าใจ ทั้งนามธรรม และ รูปธรรม
พลังงาน ที่เป็นกายภาค ที่ สัมผัส จับต้องได้
( พลังที่ จะเอาไปรักษาคน ที่มี ร่างกาย เป็นเนื้อหนัง ให้หายป่วยหายไข้ ก็ต้องใช้ พลังงานจริงๆ ส่งออกไป)

 

สวัสดีค่าอาจาร์ย มาเปิดกระทู้อยู่ตรงนี้เอง

ลืมบอกไป ดา...เองค่า

 

ขอขอบคุณ..คุณดาวทะเลทราย สำหรับเคล็ดลับ.ดี..ดี ที่นำมาแนะนำก่อนการเข้าอบรม หลังจากอบรมแล้วได้เรื่องอย่างไร จะมาแบ่งปันประสบการณ์นะค่ะ..ขอบคุณค่ะ

 

1Sukanya 3 คน
2คุณภควัฒน์ 2คน
3kasem_ma 2คน
4คุณวรลักษณ์
5คุณเพชรี
6คุณอัญชลี

 

ข้อแตกต่างระหว่างพลังเอกภพ กับพลังจิต
คุณลักษณะของพลังเอกภพ/พลังคอสมิค
มีมาตั้งแต่กำเนิดโลก เป็นพลังภายนอกที่อยู่รอบตัวเราอยู่ในธรรมชาติ จาก อากาศ ดิน น้ำ ลม และความร้อน (ไฟ) มาจากบ่อพลังงานธรรมชาติที่มีอยู่อย่างอนันต์ไม่มีหมด เป็นพลังงานที่ไร้ขอบเขต เกิดจากแหล่งพลังงานที่ไม่มีเสื่อมสลายในจักรวาล ถูกสร้างและดำรงอยู่เช่นนั้นตลอดไป หากผู้ใดรู้เคล็ดลับ ก็สามารถดึงดูดพลังนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ทั้งกับตัวเอง และก่อให้เกิดคุณูปการอย่างมากต่อประเทศและโลกใบนี้ เช่นนำไปใช้กับการเพาะปลูก การเกษตร การพัฒนาผลผลิต สร้างแหล่งอาหารของโลกแห่งใหม่ โดยเฉพาะกับสภาพการเพาะปลูกในปัจจุบันที่ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติ น้ำท่วม น้ำแล้ง ทำให้ผลผลิตลดลงอย่างมาก พืชผักราคาแพง ฯลฯ

การรับพลัง
เรารับพลังเข้ามาก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย เหมือนหลายๆ วิชา เช่น การฝึกปราณของอินเดีย หรือชี้กงของจีน แต่ความยากอยู่ตรงที่จะสามารถรักษาสิ่งนี้ไว้ได้นานแค่ไหน?
คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะในปัจจุบัน มีน้อยมากที่มีความพยายาม อดทน และปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยเฉพาะผลที่ได้จากการปฏิบัติในระดับสูงที่มีผลโดยตรงต่อจิตใจ การยกระดับจิต การเปลี่ยนแปลงนิสัยตัวเองอย่างถอนรากถอนโคน การไล่กำจัดอนุสัยกิเลสที่นอนสงบอยู่ในสันดานของตัวเรา โดยที่เราคอยปกป้อง หวงแหนไม่ให้ใครมาแตะต้องและรักษามันไว้จนวันที่เราตายจากโลกนี้ไป สิ่งนี้คือภาคปฏิบัติในระดับสูง (ระดับ 7-13) ทั้งสิ้น

ส่วนพลังจิตนั้นอยู่ภายในตัวเรา เราต้องสร้างขึ้นเอง เช่นต้องสวดมนต์ รักษาศีลให้บริสุทธิ์ ดูจิตอย่างเคร่งครัด พิจารณาข้อธรรม การทำวิปัสสนาเพื่อให้เกิดปัญญา จึงจะเข้าสภาวะที่ละเอียดและสามารถยกระดับจิตให้สูงขึ้นได้ ซึ่งต้องใช้เวลาและการปฏิบัติและความอดทนอย่างสูง บางคนอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10-20 ปีขึ้นไป เปรียบเทียบกับผลที่ได้จากการฝึกพลังก่อนแล้วค่อยปฏิบัติธรรมะควบกันไป จะย่นระยะเวลาหดเหลือไม่เกิน 2-5 ปี ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ของการปฏิบัติธรเท่ากัน (ผู้เขียนวัดจากระยะเวลาที่ตนเองได้ปฏิบัติมา) ประโยชน์จากการการเรียนรู้เรื่องการใช้พลังจะช่วยสร้างพื้นฐานให้เข้าใจเรื่องต่างๆได้ง่ายขึ้นก่อน ทำให้เกิด
ขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติในเบื้องต้น ก่อนจะเรียนรู้เรื่องการทำสมาธิในเชิงลึกต่อไป


การสอนพลังเอกภพมุ่งเน้น
- ปูพื้นฐานเรื่องความเมตตาผ่านการทำสมาธิและการรักษาโรค
- ผู้ที่มาเรียนคงรับทราบแล้วว่าที่นี่ เน้นภาคปฏิบัติ เน้นการใช้หัวใจ ไม่ใช่ความเข้าใจทีสมอง ไม่ใช่การท่องจำหรือตอบคำถามให้คนฟังได้
- ไม่เน้นว่าตัวคุณมีพลังมากแค่ไหน หรือจักระแต่ละจักระทำงานครบหมดทั้ง 7 จักระหรือไม่
- ไม่เน้นว่าคุณเก่ง มีความสามารถเห็นโน่น เห็นนี่ (ใช้ตาที่สาม) คล่องแค่ไหน

แต่สถาบันแห่งนี้มุ่งให้ทุกคนเข้าใจ เรื่องการอยู่เพื่อกันและกัน ฝึกให้ใช้ความรู้สึกสัมผัสของหัวใจ สิ่งที่ตัวเราอยากจะทำเพื่อคนทั่วไปไม่เลือกชั้น วรรณะหรือไม่แบ่งแยกศาสนาใดๆก็ตามไม่ว่าจะเป็น พุทธ คริสต์ อิลสาม

พลังเอกภพยูเรอัส ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานและส่งถ่ายให้พลังชีวิต (Life Force) แก่มนุษย์ สัตว์ จะมี ประตู อยู่ 7 ประตู เรียกว่า จักระ เอาไว้เปิดรับพลัง คนส่วนใหญ่มีพลังแค่พอให้หล่อเลี้ยงร่างกายได้ไปวันๆ ยังไม่ถึงระดับที่จะแบ่งปันหรือถ่ายทอดให้ผู้อื่น
จักร ทั้ง 7 นี้ทำหน้าที่ควบคุม จิต จิตใต้สำนึก อารมณ์ ปัญญา เป็นต้นฯ เซลล์พิเศษของสมอง เรียกว่า “ไมโครเซลล์ (Micro cells)” ไมโครเซลล์นี้ จะฉายแสงสีเหลืองเป็นประกายและสั่นไหวอย่างรุนแรง เป็นหลักการสั่นไหว(Vibration) เมื่อฝึกสมาธิ แบบการรับพลังจะเกิดการสั่นไหวแรงขึ้นๆ เรื่อยๆ เมื่อฝึกในระดับที่สูงขึ้น พลังจะขยายอนุภาคไปทุกส่วนของอวัยวะในร่างกายทั่วร่าง และหากผู้ปฏิบัติต่อเนื่องจะสามารถสั่งสมเพิ่มพลังงานให้มากขึ้น ไมโครเซลล์นี้ จะมีลักษณะเฉพาะพิเศษต่อกายทิพย์ (Astral Body) และกายทิพย์นี้ จะส่งผลดีกับการสร้างมหัศจรรย์ของมนุษย์ได้ครับ ระดับจิตของผู้นั้นจะค่อยๆ ถูกยกขึ้นทีละน้อยในชาตินี้ ขอย้ำเน้นว่าจะเห็นกันในชาตินี้ทีเดียว ขึ้นไปสู่ความเป็น “อภิมนุษย์ (Homo-excellence)” ความคิดอ่าน สติปัญญาจะเปลี่ยนไป “ความสามารถ สิ่งที่ต้องใช้มนุษย์หลายคนทำ แต่คุณเพียงคนเดียวจะสามารถทำสิ่งนั้นได้ และทำได้อย่างสมบูรณ์ถูกต้องด้วย”

และนี่คือที่มา ความหมายส่วนหนึ่งของวิชา “พลังเอกภพ
ยูเรอัส"(พลังฐานชีวิตและจิตวิญญาณ)ระดับเบื้องต้น

 

Uraeus for the World

นี่เป็น blog ที่จัดทำขึ้น ให้ได้อ่านและศึกษากันต่อไป คลิ๊กเข้าไปอ่านได้

 

แจ้งให้ทราบ

เพื่อให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้เข้าใจให้ถูกต้อง และรับทราบจุดประสงค์และเนื้อหาหลักของวิชา “พลังเอกภพยูเรอัส"(พลังฐานชีวิตและจิตวิญญาณ) ว่า
- เป็นเรื่องเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพร่างกาย การบำบัดรักษาโรค แพทย์ทางเลือก
- เป็นเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนายกระดับจิต
- เป็นเรื่องความรู้ต่างๆ ที่มาจากประสบการณ์ของผู้เขียนและศิษย์หลังจากที่เรียนไป
- ความรู้ในศาสตร์ที่เกี่ยวกับ พลังหินและอัญมณีบำบัด กิริยาโยคะ กรรมโยคะ การสร้างแรงบันดาลใจ การแก้ปมที่จิตใต้สำนึก ศาสตร์แอตแลนติส ความรู้อียิปต์โบราณ และศาสตร์ที่นำมาถ่ายทอดให้อ่านกัน
- บทความเตือนใจต่างๆ ให้กำลังใจ สร้างแรงบันดาลใจ ข้อความเตือนสติผู้อ่าน ไม่ให้หลงทางไปสู่มิจฉาทิฏฐิ ฯลฯ

นี่เป็นขอบเขตเนื้อหาของวิชานี้ จึงอยากจะให้ท่านที่จะเขียนโพสต์ลง กรุณาอยู่ในกรอบของเนื้อหาที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ไม่เขียนเนื้อหาแนวทางอื่นที่ทำให้ผู้อ่านคนใหม่ๆ เกิดความสับสน เข้าใจผู้สอนผิดว่าวิชานี้ จริงๆแล้วสอนอะไรกันแน่ ตัวอย่างเช่นไม่เกี่ยวกับเรื่องพระเครื่อง

จึงขอให้เข้าใจตามนี้ และปฏิบัติให้ถูกต้องโดยทั่วกัน

อจ.กิติชัย สุรทิณฑ์

 

สวัสดีครับอาจารย์ และเพื่อนๆชาวยูเรอัสทุกท่าน
หลังจากกระผมได้เข้าอบรมหลักสูตรพื้นฐานระดับหนึ่งเมื่อวันที่ 9 กย.55 กับเพื่อน ๆ แล้ว เกิดความอัศจรรย์ในระหว่างการเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด ขณะนั่งอยู่ในรถจำได้ว่า จิตขณะนั้นกลาง ๆ ชิว ๆ ไม่ได้คิดอะไร เกิดความรู้สึกว่า ที่กลางกระหม่อมมีพลังไหลเข้าสู่ร่างกาย มีความรู้สึกเหมือนมีมดหรือไร เดินวนอยู่รอบกลางกระหม่อมชัดเจน เพิ่มมากขึ้นๆ อยู่เป็นเวลานานกว่า 5 นาที จึงเกิดความกังวลว่าจะมีผลอะไรหรือเปล่า ใจสั่งให้หยุดแต่พลังงานก็ยังไหลวนอยู่อย่างนั้นไม่ยอมหยุด พยายามคิดเรื่องอื่นแต่ก็ยังเป็นเช่นเดิมอีก พอดีรถยนต์ที่นั่งมาถึงที่หมายและได้เข้าไปคุยเรื่องงาน ไม่รู้เมื่อไหร่ที่พลังได้หายไป จึงเขียนมาเล่าประสบการณ์ให้เพื่อน ๆ อ่านครับ

 

ขณะใดที่พลังไหลเข้าอัตโนมัติ (ขอเน้นกับผู้ที่เริ่มเรียนใหม่)ว่าอย่าปล่อยโอกาสอันดีให้หลุดลอยไป ให้รีบแตะรักษาตัวเอง หากไม่เป็นอะไรก็บำรุงสุขภาพตัวเองด้วยการแตะจักระ 7,3,2 หรือรักษาผู้อื่นทันที หรือแตะสัตว์เลี้ยงก็ได้ เอามือลูบเขาทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดหางก็ได้ ตัวเองจะได้เข้าใจเห็นผลลัพธ์และมีประสบการณ์ตรงไม่ต้องรอฟังจากผู้อื่น

ระดับ1-13 ยังเน้นย้ำเหมือนเดิมว่า "เมื่อรู้สึกถึงพลังที่จักระเมื่อใด ให้นำไปใช้งานทันที"


"ฟ้าได้ประทานให้มาแล้วถ้าไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์เวลานี้แล้วจะรออีกเมื่อไหร่?". "พลังไม่ได้มีไว้อวดกัน แต่มีไว้ใช้งาน"

 

สวัสดีค่ะ..อ.กิติชัย และเพื่อนยูเรอัสทุกท่าน
หลังจากเข้าอบรมเมื่อวันที่ 9 กย.55 กลับมาบ้านรู้สึกเพลียและง่วงนอนมากหลับเป็นตาย เป็นอยู่ 2 วัน จึงรู้สึกดีขึ้น
ระหว่างนี้ก็นั่งสมาธิจักระ 7 ทุกวัน รับรู้ถึงการรับพลังเข้ากระหม่อมดีขึ้นเรื่อย ๆ และทำการรักษาตนเองทุกครั้ง จับ 7,3-2= 2.5 นาที ,จับ 7
และข้อศอกขวา 2.5 นาที(เจ็บข้อศอกมาครึ่งปีแล้วไม่หายสักที ยกแขนแทบไม่ขึ้น) จะลองรักษาตนเองให้ชำนาญก่อนแล้วจึงจะรักษาผู้อื่น คืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้ทราบนะคะ
หลังจากอบรมฯ มีความรูสึกดี ๆ เกิดขึ้นหลายอย่างต้องขอขอบพระคุณอ.กิติชัย อย่างสูง ที่แนะนำสิ่งดี ๆ ให้(เอาไว้จะเล่าให้ฟังนะค่ะ)
เพื่อน ๆ ที่ไปอบรมมา เป็นอย่างไรกันบ้าง ช่วยแชร์ประสบการณ์ด้วยนะคะ.

 

จากข้อมูลที่สังเกตดูจะพบว่าประมาณร้อยละ 20-30% ของผู้เข้าเรียนจะมีอาการดังกล่าว เนื่องจาก
1. ระบบอวัยวะภายในไม่สมบูรณ์ 100% หรือมีอาการเจ็บป่วยมาก่อน
2. ได้รับพลังเข้าไปมากและจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางกายภาพทันที จึงเกิดอาการนี้ขึ้น
3. การรับพลังบางท่านยังไม่คุ้นเคย จึงเกิดอาการดังกล่าวขึ้น

ในห้องเรียนวันนั้นก็มีศิษย์คนหนึ่งโทรมาบอกว่ารู้สึกเพลียมาก กลับถึงบ้านก็แทบจะไม่ไหว เข้านอนเร็วทันที
ส่วนตัวเองเมื่อได้รับพลังจะรู้สึกสดชื่นมาก กระปรี้กระเปร่าสามารถทำงานต่อได้จนดึกทีเดียว ต่อไปเมื่อได้รับพลังบ่อยๆ ถี่ขึ้นจะค่อยๆปรับตัวได้
อีกประการหนึ่งในเวลาขณะนั่งเรียน ผู้เรียนจะได้รับพลังถ่ายทอดลงมาเป็นช่วงๆ (แบบไม่รู้ตัว) บางคนเวลามาเรียนเหมือนอดนอนมา สอบถามดู เขาก็บอกว่าไม่ง่วงแต่ตาลืมไม่ขึ้น
นับต่อแต่นี้ไป การทำงานของระบบต่างๆภายในตัวเราจะเปลี่ยนแปลงไป ขอให้สังเกตุดูเอาเอง

บางคนเมื่อเริ่มเรียนใหม่ๆ แน่นอนว่าจะให้เชื่อได้อย่างไร? ในความคิดของตนตั้งแต่เกิดมาจนโตยังไม่เคยได้ยินว่าจะมีคำว่า "ได้รับการถ่ายทอดพลัง"?
ที่มาของสิ่งนี้บวกกับการหาเหตุผลทางตรรกะ อาจทำให้เห็นผลช้า พูดง่ายๆ ก็คือ ตัวเองบล็อคจิตขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เพราะตัวเองคิดว่าทุกสิ่งต้องพิสูจน์ได้หมด ผู้สอนอยากจะบอกว่าให้ลองใช้วิธีนี้ดูคือ
สิ่งที่สอนไปทั้งหมด หากต้องการจะพิสูจน์ขอให้เปิดใจเชื่อเพียงครึ่งเดียวก่อน อย่าเชื่อทั้งหมดและก็อย่าเพ่งปฏิเสธว่าไม่จริง ขอให้ลองทำตาม แล้วค่อยๆเรียนรู้ไปทีละน้อย เวลาจะเป็นตัวพิสูจน์เอง

 

ผลการเรียนพลังเอกภพระดับ1

[FONT=&quot] เมื่อวันที่ [/FONT]9 [FONT=&quot]กย[/FONT].55[FONT=&quot] ได้มาเรียนพลังเอกภาพ เป็นครั้งแรก ก่อนหน้านั้น เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เคยมีเพื่อนชักชวนไปเรียน ฝึกพลังจักรวาล[/FONT][FONT=&quot] แต่ปฏิเสธไป และไม่ได้สนใจอะไรมากนัก นั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม อยู่ เรื่อย ๆ คงได้เวลาที่จะมารับรู้เกี่ยวกับพลังงาน พลังเอกภพ ที่ดีมากมาย อีกวิชาหนึ่ง วันที่ใกล้จะมาเรียน ก็รู้สึก ว่าได้รับพลังงานมาทางจิต และรู้สึกไม่ค่อยหิว ตั้งแต่อยู่ที่บ้านแล้ว เรื่องนี้ ก็รู้ได้เฉพาะตน นั่นแหละ ขณะที่ฟังบรรยาย ทุกคน ก็ได้กลิ่นธูป รวมทั้งดิฉันด้วย ไม่ได้สงสัยเลย อาจารย์บอกว่าความจริงจะลงพลังให้ตอนเที่ยง แต่ขณะนี้ได้กลิ่นธูป ก็ลงให้เลย เวลา [/FONT]11.00 [FONT=&quot]น[/FONT].[FONT=&quot] และ ลงให้ ครั้งแรก[/FONT] 70[FONT=&quot]% เลย ก็รู้ว่าพลังแรงมากเหมือนกับเราชาร์จแบตตารี่ นั่ง โดยไม่อยากออกจากสมาธิ อาจารย์ให้ลืมตา ตอนที่ท่านให้พลัง เห็นออร่ารอบ ๆ ตัวท่าน แต่ก็เฉย ๆ ไม่ได้สงสัย ตอนรอบบ่าย ท่านลงพลังให้อีก ได้เห็นออร่า มากกว่าเดิม เห็น ด้านหลังศรีษะท่าน มีมวยผมด้วย ก็มองอยู่นาน มวยผมก็ยังอยู่ จนครบเวลา ตอนนั้นเลย รู้มีพลังกับตัว เลยใช้พลัง ที่ได้รับนี้ทันทีรักษาตัวเอง ให้มือ ซ้าย เอื้อมไปแตะไปที่เอวด้านหลังแถวสะโพกด้านซ้าย ปวดมา [/FONT]2 [FONT=&quot] ปีแล้ว หายเดี๋ยวนั้นเลย กลับมายัง หลังปวดอยู่บ้าง ตอนนี้หายดีแล้ว คิดว่าพลังที่ได้รับดีแน่ๆ เลยอยากรักษาอะไรตรงไหน ที่บกพร่องในร่างกาย มั่นใจทำไปเลย ทำไมเหมือนกับเชื่ออะไรง่าย ๆ ไม่ใช่เลย เป็นเรื่องของใจ ก็ถือว่าโชคดี และขอบพระคุณ อาจารย์ ที่ได้มาถ่ายทอดพลังเอกภพ ซึ่งเป็นของจริง แม้จะเป็นระดับ [/FONT]1 [FONT=&quot]ก็ตาม แต่ได้รับพลังมากมายเต็มๆไปเลย กลับบ้านก็สบายดี รู้สึกร่างกายมีพลังตรึงอยู่ บางขณะที่รู้สึกและรับรู้ได้[/FONT][FONT=&quot]จริง ๆว่าพลังงาน ที่เรามองไม่เห็นนั้นมีอยู่ และสามารถนำไปใช้ได้จริง เพิ่งเข้ามาในเวบนี้ และกระทู้นี้ได้โพสข้อความเป็นครั้งแรก บางอย่างไม่สามารถบรรยายได้ละเอียด ที่ได้ประสบการณ์ครั้งนี้ ถ้ามีเวลา จะอ่านของท่านอื่น ๆ ที่โพสไว้ก่อนหน้านี้บ้างค่ะ
(เพราะมัวแต่ไปเพลิดเพลินกับเวบท่องเที่ยวมากมาย)
<o></o>[/FONT]

 

น้ำมาประชิดติดรอบๆกรุงเทพแล้ว ยังไงก็เตรียมเรื่องเสบียงอาหาารกันไว้บ้าง ก็เตือนไว้เมื่อ2-3เดือนก่อนแล้วให้รีบซื้อก่อนของขึ้นราคา ดีที่ตัวเองเริ่มสำรองไว้ก่อนหน้านี้ ทยอยซื้อไปเรื่อยๆ อีกอย่างเรื่ิองเอกสารสำคัญทั้งหลายควรเก็บรวบรวมไว้ที่เดียว หากมีอะไรเกิดขึ้นจะได้ไม่ตะลีตะลาน วิ่งกันวุ่น
วันนี้ขอเตือนแค่นี้ก่อน
ครู