ผลของการแยก กาย ใจ จิต

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย oatthidet, 23 สิงหาคม 2012.

  1. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885
    แม๋ คุยแบบนี้ มี แอบยกตนข่มท่าน..ด้วย
    อย่ามาคุยแบบนี้เลย ผม อ่านอออกนะ..
    ทำมาพูด แบบ มีเมตตา หุหุ ..พูดมาได้ ที่ผม กรุณามาตอบด้วย เพราะเป็นผลจากสมาธิ..หุหุ อ่านแล้ว อยากจะ ...(())

    เฮ้ออ...คนเราหลงอะไร ก็หลงได้ แต่หลงตัว้เอง เนี่ย
    ฟ้าดิน ไม่ให้ อภัยนะครับ..และ จะถูก ฟ้าดินลงโทษ ด้วย
     
  2. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885
    พอผม กล่าวเรื่องจริง..คุณ ก็รับไม่ได้
    ทำไม ล่ะ ผม จับ ไต๋ได้ รับไม่ได้หรอ อาการ แบบที่คุณเล่าน่ะ มันอาการ เด็กๆ ที่ใจแข็งหน่อย แค่ รู้จัก ระงับความเจ็บปวด แล้วแกล้งๆลืม ก็ แค่นั้น

    แต่ คุณ กลับมองว่า เป็น อิทธิฤทธิ์ ของคุณ ที่เก่ง ซะเหลือหลาย
    55555..เด็ก หนอเด็ก พอโดนจับได้ ก็ ออกอาการ งอ แง บอกไม่อยากคุยด้วยแล้ว...

    นิสัย แบบ ผู้หญิงด้วย 55+ มี งอล ด้วย..เกลียด คน รู้ทันหรอ 5555+
     
  3. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผมจะตอบเป็นครั้งสุดท้ายครับ ไม่ได้หนีอย่างที่คุณกล่าว แต่หากสนทนาเพื่อการเอาชนะ

    ผมไม่เห็นประโยชน์ ที่ผมบอกยกจิตออกนั้น ไม่ใช่กดความเจ็บปวดครับ แต่ไม่รับรู้เลยต่างหากครับ

    มือที่ถูกมีดบาด ก็สามารถล้างจานชามที่มีน้ำยาล้างจานโดยไม่รู้สึกเจ็บ

    หากสนทนาด้วยการเอาชนะ ไม่สนทนาด้วยใจจริง ไม่มีประโยชน์อะไร จึงไม่ควรสนทนาด้วย

    สาธุครับ
     
  4. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885
    คำคุย แบบไหน ก็เขียนได้ไม่มีหลักฐาน จะมาบอกเล่า อวดเพื่ออะไรล่ะ
    ที่ว่า มีดบาดมือ แล้วไปล้างจาน หากบาด นิดหน่อยใครก็ทำได้.คุณบาด มือแค่ไหนล่ะ..เนื้อ แหว่งหายไป เป็น 2นิ้ว หรือไม่ หรือ แค่ มีดสะกิดๆ

    มาคุย ในเวบแบบนี้ไม่มีหลักฐาน คุยบอกเล่า เพิ่ออะไร ไม่ทราบ หรือ หาก ว่า บาดเยอะจริงๆ เจ็บจริงๆ ผม ก็เห็นคน ที่เขาเจ็บกว่าคุณ ก็ ทำงานได้เยอะไป.คนโบราณ โดน ทำโทษ แบบทาส มีแผลเต็มตัวยังต้องทำงานเลย แม้แต่ สะพานข้ามแม่น้ำแคว เชลย ฝรั่ง ก็ เจ็บหหนัก แต่ ก็ ทำงานกันได้เพระาโดนบังคับ..เขาก็ ข่ม คงามเจ็บปวดไว้ได้

    มัน เป็นการ แยก จิต ตรงไหน...มัน ข่มความเจ็บ กันทั้งนั้น..แค่น มาคุย
     
  5. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    เท่าที่อ่านดู พอจะมีตรงนี้ ที่ดูจะพอยกมาได้

    สมาธิในฌานมันโง่
    สมาธิในอริยะมรรคมันฉลาด ...

    สมาธิในฌานจิตสงบนิ่งรู้อยู่ในสิ่ง สิ่งเดียว
    ความรู้อื่นความเห็นอื่นไม่ปรากฏขึ้น
    เป็นสมาธิแบบอารัมณูปนิชฌาน
    เป็นสมาธิในฌานสมาบัติ

    ที่นี่สมาธิในอริยมรรค มันฉลาด
    คือ จิตสงบนิ่งลงไปนิดนึง ความรู้ความคิด
    มันเกิดขึ้นมาฟุ้ง ฟุ้ง ฟุ้งขึ้นมายังกับน้ำพุ
    ที่นี้ในเมื่อความรู้ความคิดมันเกิดขึ้นมาแล้ว
    มันจะเป็นสมาธิได้อย่างไร

    ความคิด คือวิตกใช่ไหมล่ะ
    สติที่รู้พร้อมอยู่ที่ในขณะที่จิตเกิดความคิด
    คือ วิจารใช่หรือเปล่า
    ในเมื่อ จิตมีวิตก วิจาร ปีติและสุขมันก็ย่อมบังเกิดขึ้น
    สมาธิในวิปัสนานี่อาศัย องค์ฌานคือ
    วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกคัตตาเหมือนกัน
    เหมือนกันกับสมาธิในฌานสมาบัติ
    แตกต่างกันโดยที่ว่า สมาธิในฌานสมาบัติไม่เกิดภูมิความรู้
    เป็นแต่เพียงทำจิตให้ละเอียด ละเอียด ละเอียด
    จนกระทั่ง เกือบจะไม่มีอะไรเหลืออยู่
    แต่สมาธิในอริยะมรรคนี้ พอจิตสงบนิ่งลงไปปั๊บ
    บางทีก็รู้สึกแจ่มๆ แต่ความคิดมันผุดขึ้นมาผุดขึ้นมา
    ผุดขึ้นมาแบบรั้งไม่อยู่

    ซึ่งนักปฏิบัติบางท่านเข้าใจว่าจิตฟุ้งซ่าน อย่าไปเข้าใจผิด
    บางทีพอจิตสว่างแล้วก็เกิดเห็นโน่นเห็นนี่ทางนิมิตรขึ้นมา
    เมื่อจิตเลิกรู้เห็นนิมิตรแล้วก็มาเกิดภูมิความรู้ความคิดขึ้นมายังกับน้ำพุอีกเหมือนกัน

    นี่เป็นสมาธิในอริยะมรรค
    ซึ่งเรียกว่า สมาธิวิปัสนา เมื่อผู้ปฏิบัติเข้าใจถูกต้อง
    ในช่วงใดจิตต้องการสงบนิ่งปล่อยให้นิ่ง
    ช่วงใดจิตต้องการคิดปล่อยให้คิด แต่มีสติกำหนดตามรู้

    ทีนี่ถ้าหากสมาธิถึงขนาดที่เกิดภูมิความรู้ขึ้นมาเองเนี่ยะ
    เราไม่ต้องไปกำหนดอะไรหรอกเขาจะเป็นไปเองของเขา

    จิตของเราจะรู้...เฉยอยู่เท่านั้น
    บางครั้งพอจิตสงบแล้วมันเกิดมีความคิดขึ้นมา ฟุ้ง ฟุ้ง ฟุ้ง
    ฟุ้งขึ้นมา จิตอาจจะแบ่ง ออกเป็นแยกออกเป็น 3 มิติ

    มิติหนึ่ง คิดอยุ่ไม่หยุดยั้ง
    อีกมิติหนึ่งเฝ้าดูงาน
    อีกมิติหนึ่ง ถ้าร่างกายปรากฎ

    จะมาสงบนิ่งอยู่ในท่ามกลางของร่างกาย

    ตัวที่คิดอยู่ไม่หยุด เป็นจิตเหนือสำนึก
    ตัวที่เฝ้าดูคือตัวผู้รู้ได้แก่ สติ
    ตัวที่หยุดนิ่งคือจิตใต้สำนึกตัวคอยเก็บผลงาน

    ลองไปปฏิบัติดูนะ จะเป็นไปได้มั๊ย อย่างที่ว่านี้
    อันนี้เป็นโอวาทของหลวงปู่เทสก์


    อธิบายโอวาท หลวงปู่เทสก์ เทศรังสี โดยหลวงปู่พุธ ฐานิโย


    ************************************

    ทีนี้ ลองสังเกตุดูว่า
    ทำไม 3มิติ ของหลวงปู่ จึงมีความคิดไม่หยุด

    จะต่างจาก ผู้ที่ภาวนาแล้วบอกว่า ไม่มีความคิด ดับความคิด มันจะเป็นจุดต่างในบางจังหวะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 สิงหาคม 2012
  6. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885
    ตัวคุณ มี อัตตา...แต่ กลับไม่รู้ตัว...

    ผม จะ ตอบคุณ ทุก ข้อ ที่เขียน..จะไล่ให้จน ให้ได้

    อยาก ขี้ คุย ดีนัก...ผม ว่าง อยู่ ...มา ๆๆ..นาย ธิเดช..หาก แสดง ธรรม แบบที่ บอกว่าเห็นเอง ทำได้เอง ไม่ได้ จริง..มา อย่าคุย..ว่าเป็น ชาวพุทธ และ อย่ามาอ้างว่า เป็น พุทธ แบบ ไม่อ่านตำรามา อย่ามาคุย ว่่า ฝึกได้เอง..หาก จะประกาศ แบบนี้ ก้ บอกไปเลย ว่า ไม่ได้เกี่ยวกับ พุทธศาสนา..เป็น คำสอนศาสนาใหม่ ของคุณเอง....เก่งจริง ทำเองได้จริง ก็ กล้าๆ หน่อย..ประกาศ ศาสนาใหม่ไปเลย...

    ผม จะบอก อะไรให้นะ แม้ ว่าสิ่งที่คุณ รู้ จะรู้เอง ได้ ก็ สมควรให้ เกียรติ พระพุทธองค์..คุณควรจะกล่าวว่า เป็นธรรม ที่ พระพุทธอค์ ทรงค้นพบมาก่อน..ไม่ใช่ มาอ้างว่า หัดเอง ทำเอว เก่งเอง.....แล้ว มาบอกว่าเป็นชาวพุทธ..ผม ไม่ยอม ครับ ผม จะ ชี้ถุก ชี้ผิด เรื่อยๆไป.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2012
  7. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    แต่ผมไม่มีใครบังคับให้ทำครับ และ ทำได้สบายๆ ที่มาอธิบายเพื่อแสดงให้เห็นถึงผลของการแยก

    การบาดนั้น จะนำมาคุยต้องไม่ใช่เพียงเล็กน้อยแน่นอน ไม่ใช่มาโอ้อวด

    แต่คุณมาถามผมว่าจะมาโอ้อวดเพื่ออะไร เชลยเขารู้สึกเจ็บปวดไหมเวลาที่ทำอยู่นั้น

    หากไม่ซื่อตรงต่อตนเอง ไม่ซื่อตรงต่อคำพูดของตนเอง พยายามที่จะเอาชนะในทุกวิถีทาง

    ผมบอกได้แค่ว่า ไม่ควรที่จะสนทนากันอีก เพราะเป็นการปรุงแต่งที่ไม่มีที่สิ้นสุด

    ไว้คุณเห็นด้วยตัวคุณเองก่อน แล้วค่อยมาทักผมว่าผมบอกผิดเพี้ยน

    สาธุครับ
     
  8. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ได้ครับ ผมจะเล่นกับคุณสักตั้ง ผมจะเริ่มถามบ้างแล้ว ไม่ตอบเพียงอย่างเดียวแล้ว

    แต่จะมาหาว่าผมโมโห โกรธ เลยแสดงออกด้วยการพาล ไม่ได้นะครับ คุณขอลองเอง

    สาธุครับ
     
  9. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    การยกจิต ข่มความเจ็บปวด ตรงนี้ต้องถามคุณโอ๊ตอีกนิดว่า ไม่เจ็บตลอดจนแผลหายไหมครับ หรือเจ็บๆหายๆตามกำลังสมาธิ แล้ว การยกจิตที่ว่าคุณโอ๊ตหมายถึง การแยก กาย ใจ จิต หรือไม่ครับ
     
  10. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    หมดความรู้สึกในส่วนนั้นไปเลยครับ สภาวะจิตไม่ใช่ของเล่นที่จะนำมากล่าวตู่กันได้ครับ

    ที่ผมกล่าวในเรื่องการแยก กาย ใจ จิต เพราะผมทดลองในหลายครั้งแล้วครับ

    สาธุครับ
     
  11. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885
    หาก คิดว่า ตนเอง ยังเป็น พุทธบริษัท..อยู่

    กล่าวขอโทษ ต่อพระรัตนตรัย เถิด นาย ธิเดช....
    การ กล่าวอ้างว่า ทำเอง แล้วมา อวด ว่า ไม่ได้ศึกษา จาก พระไตรปิฏก
    คุณ จะยังเป็น ชาวพุทธ ได้ หรือ...คุณ ไม่ให้เกียรติ ศาสนาพุทธ
    ไม่ให้เกียรติพระพุทธเจ้า..คุณ ปรามาส ตำราศาสนาพุทธ

    หาก ศาสนาพุทธ ไม่มีพระไตรปิฏก..คุณ คิดว่า ศาสนา จะอยู่มาได้ 2555 ปีหรอ...ความ สืบเนื่องของศาสนา...ที่ดำเนินมานานนั้น มาด้วย พระไตรปิฏก ที่ สืบทอดมา ตั้งแต่ พศ ที่ 1....คุณ หัด อ่าน มากๆหน่อย เพราะ นี่คือ อาจารย์ ตัวจริง...

    ผม เตือน สติ คุณ นะ..ไม่ได้ ว่าให้ เสียคน....อย่า มาอ้าง เก่ง เกิน ครู((พระไตรปิฏก คือ ครู ))
     
  12. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    คุณ bankbankbank ครับ เมื่อจิตหยุดนิ่งถึงที่สุดแล้ว เป็นเช่นไรครับ มีอะไรให้สังเกตุไหมครับ

    แล้วจะทำเช่นไรต่อไปครับ ในเมื่อไม่มีนิมิต ไม่มีการรับรู้ในส่วนภายนอก มีแต่การรับรู้ที่อยู่เฉยๆครับ

    สาธุครับ
     
  13. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    คุณอยากคิดเห็นเช่นนั้น ก็เรื่องของคุณครับ การปฎิบัติพึ่งรู้ได้ด้วยตนเอง

    สมัยพระพุทธเจ้าทรงยังมีชีวิตอยู่ ท่านก็ไม่ได้บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร

    เพียงแต่บอกกล่าวในเชิงปฎิบัติ ส่วนเถรใบลานเปล่า ก็ไม่มีวันเข้าใจอยู่นั่นเอง

    สาธุครับ
     
  14. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885
    ชอบพูดนักว่า ให้เห้นเองก่อน...เฮ้อออ
    ตัวคุณ ขี้ คุยแบบนี้ มันพิมพ์ ง่ายไป..พิมพ์ อวด ว่า ตนเอง เก่งแล้ว ทำได้แล้ว ถึงฌาณแล้ว..ประกาศไปเรื่อยๆ แบบไม่มีหลักฐาน..แบบนี้ไม่เรียก ขี้คุย แล้วเรียกอะไร...จะคุย อะไรนแบบนี้ มันต้อง มีหลักฐาน

    แค่ พูดๆ เอง เออเอง...ใครจะเชื่อ ล่ะ มีแต่คนไม่พิจาาณรา เท่านั้นที่เชื่อ
    มันต้อง มีหลักฐาน สิ หาก แน่จริง ว่าได้ฌาณ บอกอะไร ที่ ยืนยันได้สิ ไม่มช่ พูดเอง เออเอง...

    ขี้ โม้ ครับ
     
  15. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885
    555555555555+++
    มา อีกแล้ว เถรใบลานเปล่า
    ดี แต่พูด อีกแล้ว..เมื่อวาน ลุงหมานถามไปทีแล้ว ก้ ตอบไม่ได้

    ขี้ โม้ อีก แล้ว..เด็ก วานซืน ธิเดช
     
  16. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ตอบคำถามที่ผมถามก่อนสิครับ

    สาธุครับ
     
  17. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผมตอบทุกครั้ง ไม่มีที่ไม่ตอบ กรุณานำหลักฐานมาด้วยครับ

    สาธุครับ
     
  18. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ผมกำลังจะเทียบเคียงกับที่ตนเองเคยทำ และจากที่เคยอ่านคำครูอาจารย์ครับ
    หากหมดความรู้สึกในส่วนนั้นไปเลย หมายถึงตรงมีดบาดต่อให้แผลหาย ตรงนั้นก็ไร้ความรู้สึกไปหรือเปล่าครับ
    แต่หากทำสมาธิ เข้าออกฌาณได้ไวดั่งใจ และกำลังมาก ผมว่ายังไงก็ต้องเสวยเวทนาเป็นอารมณ์อยู่ดี เพราะเป็นธรรมดาของขันธ์ครับ
    ทีนี้หากกำลังมากไปอีกเข้าอรูป นั่นก็คงเป็นอีกเรื่องที่เหนือความเข้าใจแล้วครับ
     
  19. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885

    สภาวะ แห่งธรรม..ที่เกิดนั้น ในแต่ละคน มันก็ รับรู้ กันไป..ในแนวทางของตน..คุณ จะยกมา เพื่อ จะ ตัดสินอะไร ได้...มันจับต้องไม่ได้ และ ให้ใครตัดสินล่ะว่า คุณ เม้นมา แบบนี้ ถูก หรือ ผิด..การคุย หักล้างกัน ในนี้ มันต้อง อิงหลักฐาน..ไม่ใช่ คุยแบบ ยก เมฆ ที่เพ้อฝัน มาคุยจ้อๆๆ..แล้ว กล่าวว่า อีก ฝั่ง ยัง ไม่ได้ไม่เห็น แบบยัด ข้อหา เขา......

    คำว่าจิต หยุดนิ่ง ถึงที่สุด ใครรับรอง คุณล่ะ
    คุณ คิดเอง ละป่าว..คนทีั่ จิตหยุดนิ่ง ถึงที่สุด น่าจะมี 2 อย่าง((ไม่ใช่ คนไม่หายใจ ผมลืมไป))
     
  20. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผมถามให้ตอบครับ ไม่ใช่ให้โวยวาย ผมตอบทุกครั้งที่มีการถาม ไม่เคยหลบหนี

    สาธุครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...