ไม่มีอะไร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย หนึ่งจิต, 25 สิงหาคม 2012.

  1. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    อันโยวะสัตตะ มีระโยนะสัมปันโน อันเตสุจะริกะตานะมังสา วันนะตานะจะสิระสา เอวานันสะเต โยนะสูวันทานันมันสะเต คุนันอุรุวัน โยวาทู นะโยกันตะเยมันสินะกะลา โอมจันทะวันนะเมสุมี
    .....
    การมี อยู่ ของสรรพสิ่งทั้งหมดทั้งมวล รวมอยู่ด้วยกันใน มโนเดียวนี้ หากว่า รับมือหรือจัดการกับสิ่งที่รู้ที่มี ทั้งหมดทั้งมวลยังไม่ได้ ก็จง วางลง ทั้งหมดทั้งมวลเสีย ก่อน เพื่อให้อยู่กับ ความไม่มีอะไร ไม่รู้อะไร จนกว่าจะเข้าใจใน ความไม่มีอะไร ไม่รู้อะไร เพื่อเข้าใจความจริงในตนเอง ความจริงที่เป็นตนเอง เมื่อเข้าใจแล้วว่า ความไม่มีอะไรนั้น ก็แค่นั้นเอง ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข ไม่มีอะไรเลย ไม่รู้อะไรเลย....................แล้วก็มาเริ่มต้น การมี การรับรู้ การรู้ จาก 1 ใหม่อีกครั้ง โดย รู้ ตาม มีสติรู้ตาม เข้าใจการมี ทั้งหลาย ที่ จะ มี จะรับรู้ อีกครั้งหนึ่ง ตั้งแต่ เริ่มมี ครั้งแรก คือ 1 จนไม่ว่า มันมีอีก กี่ร้อย กี่พัน กี่ล้าน ก็ ให้รู้ ตาม รู้เท่าทัน รู้ว่า ก็แค่การมี ที่ ทั้งหมด ก็ มีด้วย เพราะ ความไม่มี นั่นเอง
    .....
    โย ธัมมัง วะสันตะปัญญา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 สิงหาคม 2012
  2. Barrage

    Barrage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +736
    คิดว่าตัวเองเป็นพระศรีเหรอ?
     
  3. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ไม่ได้คิด เลยสักนิด
    ถ้าไม่คิด จะเป็นได้มั้ย
    หรือเป็นได้ เพราะต้องคิด เท่านั้น
     
  4. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ไช่แล้ว ท่านนั่นแหล่ะ ที่เป็นพระศรี
    ตัวท่านเองนั่นแหล่ะ เป็นพระศรี
    ตัวเองนั่นแหล่ะ คือ พระศรี
    ท่านคิดหรือเปล่าล่ะ
     
  5. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ต้องรู้และเข้าใจ การไม่มีเพราะไม่คิด ก่อน
    เมื่อรู้และเข้าใจ การไม่คิด ว่า ไม่มีสิ่งใด
    ก็มาเรียนรู้ก้าวแรกของการคิด การเริ่มมีอะไร เพื่อให้รู้ว่า ไม่ว่าจะคิดมากสักเท่าไหร่ มีด้วยการคิดมากสักเท่าไหร่ ก็สามารถ กลับไปสู่ความไม่มี ไม่คิด ได้ เสมอ
     
  6. Barrage

    Barrage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +736
    5555555555555555555555555555555555555
     
  7. Uaychai

    Uaychai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +231
    ลึกซึ้งยิ่งนัก
     
  8. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    1.การรู้ ก็คือ การรู้ ก็เป็นเรื่อง ของการรับรู้ ของ สิ่งมีชีวิตอยู่แล้ว เครื่องรับรู้คือ กายกับใจ การมีชีวิต หลังจากเกิดขึ้นมาแล้ว ก็มีการรับรู้ ตามมาด้วยอยู่แล้ว ไม่รับรู้ไม่ได้หรอก ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ เป็นเครื่องรับรู้ จะมาถามว่ารู้ได้ ยังไง ก็ ตอบว่า รู้ได้ เพราะ เกิดมาเป็นสิ่งมีชีวิตไงล่ะ
    2.ส่วนของการคิด ไม่ไช่การรู้ นะ
    การคิดก็คือการคิด
    การรับรู้ ก็คือการรับรู้ คนละอันกันนะ
     
  9. vich

    vich เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +156
    55555555555555............
    มุขนี้เข้าท่า
    เข้าใจ/ไม่เข้าใจ
    คิด/ไม่คิด
    ใช่/ไม่ใช่
    ถูก/ผิด
    ทวารรับ จิตรู้ สัญญาปรุงแต่ง
    ผู้ที่วางจิตให้อยู่ในจุดที่ไม่มีอะไรเลยได้นั้น
    ซักกี่คนที่จะทำได้
    อย่างน้อยก็พระพุทธเจ้า....

    ผมคนหนึ่งแหละครับ...ที่ยังตัดไม่ได้เร้ย..!
    (ผมสรุปมา...พอใช้ได้ไหมครับ)
     
  10. vincent308

    vincent308 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +381
    รู้แล้ว เพื่ออะไรกันล่ะเนี่ย
     
  11. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    อึ่งอวดหาง ในรอยโค โชว์ว่าเป็นราชสี แล้วยังบอกสัตว์ทั้งหลายว่า สัตว์ทุกชนิดเป็นอึ่งต้องอวดหาง ในรอยโค ต้องโชว์ว่าเป็นราชสี
    เดี๋ยวคงมาตอบว่า ถ้าไม่มีไม่เป็นจะเป็นอะไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 สิงหาคม 2012
  12. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    ความรู้อย่างนี้ควรเก็บตัวเงียบๆจะดีกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 สิงหาคม 2012
  13. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    สอนคนทั้งทีต้องสอนให้มีหลักการแก่นสาร สอนอย่างนี้อย่างสอนเลย เพราะไม่มีอะไรก็ไม่มีเรื่องสอน การสอนอย่างมีประโยชน์ ควรสอน เรื่อง มรรค ผลนิพพาน
    ตามหลักศาสนา หลักของศีล หากไม่มีอะไรแล้ว แม้ศีลก็ไม่ยึด สมาธิก็ต้องวาง เป็นความ ง่าวอย่างหนึ่งที่ควร อุเบกขาตนเอง ไม่ให้เป็นครูอาจารย์ผู้ใด
    ท่านเองควรปล่อยวางเก็บตัวให้เงียบเลิกยุ่งกับมนุษย์เลิกสอนความรู้อย่างนี้เพราะเป็นความฟุ้งไม่มีประมาณ เรียกว่า ฟุ้งซ่าน แม้จะระลึกรู้ได้แต่ก็รวบรวมจิตที่แตกซ่านกลับมาไม่ได้แล้ว
    กระจัดกระจายเพื่อเรียนรู้สิ่งที่สงสัยอีกมากมายต้องรอนู้นรอพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ใหม่นั่นแหละท่านเข้าไปกราบแล้วท่านจะรวบรวมจิตกลับมาได้ ภาวนาให้ท่านปรากฏตัวเร็วๆก้แล้วกันว่ากันว่าท่านอายุขัยแปดหมื่นปี
    ผมว่าท่านอาจจะเสียชีวิตไม่น่าเกินแปดสิบ ดังนั้นท่านควรไปบวชหรือท่านไปกราบใครก็ได้ที่มีพลังแผ่นดินได้ ดวงจิตท่านจึง กลับมาเป็นคนปกติ แล้วเลิกสร้างบาปโดยการสอนคนอื่นเถอะครับอยู่เฉยๆกับครอบครัวให้ดีก็พอ
    แล้วอย่างลืมกินลูกสมอแช่เยี่ยว ด้วยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 สิงหาคม 2012
  14. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    น่าสงสารจริงๆ
     
  15. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388

    ยินดีอย่างยิ่ง สำหรับการร่วมแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้
    ขอตอบอย่างเป็นทางการว่า...
    ..
    การวางจิตให้อยู่ในจุดที่ไม่มีอะไรเลยได้นั้น ซักกี่คนจะทำได้...คำตอบคือ...ไม่ไช่การวางจิต และไม่ได้เอาจิตไปวางไว้ที่จุดใดใดเลย..เพราะความจริงแล้ว จิตไม่มีตัวตน จิตไม่จำเป็นต้องเห็นตัวจิต จิตไม่จำเป็นต้องจับต้อง สัมผัส หรือ เอาจิตไปวางที่ไหนเลย ..จิตไม่มี การรับมารู้ ต่างหาก คือ จิต เราพากันเข้าใจกันเองว่า จิต ต้องมีตัวตน ...แต่แท้ที่จริงแล้ว จิต คือ การรู้ ...การรู้ ก็ไม่ไช่ ตัวรับรู้ (ตัวรับรู้ คือ กาย คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ..สัมผัส ผัสสะ ทั้งหลาย) แต่การรู้ คือ ใจ ...คือการรู้ จากที่รับมา การรู้ ไมไช่ สมมุติ ไม่ไช่เหตุปัจจัย การรู้ รวมความ เอา ความไม่รู้ รวมอยู่ด้วยกันด้วย

    การรู้ ก็เป็นงานหนึ่งของจิต การไม่รู้ ก็คือ งานหนึ่งของจิต การไม่ทำงานของจิตก็คือ การหลับ การนอนหลับนั่นเอง ดังนั้น จิต ที่แท้จริง ก็แค่ รู้ และไม่รู้ ..เท่านั้นเอง ไม่มีตัวจิตที่แท้จริง..การรับรู้ที่แท้จริง อยู่ที่ กาย ก็คือ ตาเห็น หูได้ยิน จมูกได้กลิ่น ลิ้นรับรส กายสัมผัส

    เช่น กายใจ เรา นั่งตากแดด ที่แดดร้อน....กายจะรับรู้ตามความเป็นจริงว่าร้อน ถึงใจจะคิดหรือไม่คิด แต่การรู้ว่าร้อนนี้ ก็ยังรู้อยู่ ไม่คิดก็ร้อน

    ดังนั้น ใจ ที่รู้ ความจริง ควรจะ เข้าใจ ว่า ร้อนนี้ กายรับได้มั้ย ทนได้มั้ย ถ้าทนไม่ได้ ก็ หาทางแก้ปัญหา ด้วยปัญญาของ จิตรู้เองว่า จะพาตนเองหนี้ร้อนหรือ หาสิ่งมาป้องกันแสดงแดด นี่คือ การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง
    ...
    ไม่มีใครตัด สมมุติทั้งปวงได้ ...แต่แท้ที่จริงแล้ว เราไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข กับการรับรู้ ที่ผ่านเข้ามาทาง กาย คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย แล้วใจ ก็ ยอมรับตามจริง ว่าร้อน ว่าหนาว ว่า ดี สำหรับ กายหรือไม่ดี สำหรับกาย หรือไม่ เท่านั้นเอง

    รู้ตามจริง มันก็ ไม่หลงเข้ามา เป็น ส่วนเกิน ที่ กายรับรู้มา จริงๆ นั่นเอง
     
  16. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    รู้เพื่อที่ จะ ไม่หลง ไปกับ สมมุติ ทั้งหลาย ที่ ต้อง เรียนรู้ เข้ามา ทาง กายสัมผัส ใจสัมผัส ..เหมือน เริ่มต้นใหม่ ด้วยสติที่ไม่หลง ไปกับ สมมุติทั้งหลายที่เป็นโลก จะไม่หลงเลย จะไม่มีทางหลง เพราะ เรา รู้ตัวแล้วว่า ทุกอย่างมีเพื่อให้รู้ และ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ทุกอย่าง เหมือนกัน
     
  17. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ในคำถามนี้ สามารถ ตอบได้ รวมทั้งหมดของสมมุติทั้งหลาย ดังนี้
    ..................
    สิ่งใดก็แล้วแต่ที่เรา กำลังกระทำอยู่ หากไม่แน่ใจ ไม่เข้าใจ หรือไปต่อไม่ได้ ทำต่อไม่ได้ ...ให้หยุดการกระทำนั้นก่อน แล้ว ถอยหลัง ย้อนกลับไป ดู พิจารณา ตั้งแต่จุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ว่า มีอะไร มีสิ่งใด ไม่ถูกต้องเหมาะสม แล้วหาเหตุให้พบ แล้ว เมื่อรู้เหตุนั้นแล้ว ก็ใช้ปัญญา หาทาง แก้ไข
    ...
    ความคิดก็เช่นเดียวกัน เมื่อ สามารถคิดได้ ก็สามารถ หยุดคิดก็ได้ เมื่อหยุดคิดได้ ก็สามารถ เริ่มคิดใหม่ก็ได้
    ...
    การหยุดคิด ก็คือ การย้อนกลับ ไปที่จุดเริ่มต้นของการคิด นั่นเอง จุดที่ว่าก็คือ จุดที่ยังไม่คิด...นั่นเอง..(มันคือการย้อนกลับ ของความคิดที่กำลังคิดนั้น ไม่ไช่ ให้ความคิดนั้นผ่านพ้นไป แล้ว ..เช่น เราดู หนังแผ่น มาถึงช่วงหนึ่ง แล้วเรา เข้าห้องน้ำ เรามาดูอีกครั้ง หนังเล่นผ่านไปหลายฉากแล้ว การที่เราจะดูต่อจากที่ไม่ได้ดู ก็คือ กรอ หนัง หรือ รี กลับ นั่นเอง..)
    ความคิดก็เช่นเดียวกัน
     
  18. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ความไม่มีไม่เป็น ที่พูดถึงอยู่นี้ คือ ไม่มีไม่เป็น ในส่วนของ นาม คือ ความคิด ไม่ได้ พูดถึง กายเลย

    และสำหรับ คำถามที่มาจากความคิดนี้ของท่านเอง คำตอบก็คือ...ถ้าไม่มีไม่เป็น แล้ว จะเป็นอะไร...ก็ ไปส่องกระจกดูสิ ว่า ท่านเป็น ตัวอะไร..ถึงไม่มีไม่เป็น ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น ไอ้ตัวที่สะท้อนอยู่ในเงากระจก นั่นแหล่ะ ตัวท่านล่ะ...จะเป็นตัวอะไร ท่านก็ คิดเองสิ
    หรือ ไม่ต้องคิด ก็รู้ แล้ว ก็ คงไม่สงสัย อีกแล้ว ไช่มั้ย
     
  19. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    อันท่านผู้นี้ เป็นผู้ไม่รู้จริง เรื่อง มรรค ผล นิพพาน แต่ ก็ ยัง มา ชี้ให้คนอื่น สอนเรื่อง มรรคผล นิพพาน ไปใย..ก็ แล้ว ถ้าหากท่าน รู้ ว่า การสอน ไปสู่ มรรค ผล นิพพาน นั้น เป้นเช่นไร ก็เชิญท่าน ..ลอง สอน ลองชี้แนะ ลองแสดง การเดินทางไปสู่ มรรค ผล นิพพาน ที่ ท่านกล่าว ออกมา ให้คนอื่น ได้รับรู้ กัน ในกระทู้นี้เลย ได้หรือไม่
    ...
    อันวะ เตสะนะ อันกะระนัง นันเตสูอะมิตะวันตัง โยเตสูอันนะติงกะ อะตะระตัน ตะราโย วะสะมันทุ ปันตานิ
     
  20. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    สงสารตนเอง และครอบครัว ของท่านเถอะ ความสงสารที่ เจือปน ไปด้วย อวิชชา ท่านและครอบครัวของท่าน เก็บเอาไว้เองเถอะ
    ...
    เราไม่ต้องการ ความสงสารใดใด จาก มนุษย์เช่น ท่าน เลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...