การอธิษฐาน วิงวอนขอเพื่อให้ผู้อื่น...

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นพณัฐ, 11 สิงหาคม 2012.

  1. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,500
    การวิงวอนขอเพื่อให้ผู้อื่นเพียงอย่างเดียว โดยไม่นึกถึงตนเองเลย เช่น

    ขอให้โลกใบนี้ จงมีแต่ ความ สงบ สุข เทอด....

    ขอให้สัตว์โลกทั้งหลาย จงพ้นจากทุกข์ นำพาจิตขึ้นสู่ พระนิพพาน เทอด....

    ถ้าหากจิตไม่ได้มาจากการปรารถนาใน พุทธภูมิ หรือไม่ได้มาจาก พรหมวิหารสี่
    ที่การอธิษฐาน วิงวอนขอ นั้นเป็นเพียงเพื่อประโยชน์ส่วนรวม มากกว่า ส่วนตัว

    สภาวะอารมณ์นี้ ท่านผู้ใด จะช่วยอธิบาย ให้ทราบกระจ่างได้บ้างครับ
     
  2. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    คือการได้เห็นแล้วว่า สัตว์ทั้งหลายในโลก ล้วนแต่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความประมาท อยู่ด้วยความทุกข์ร้อน ถูกเผาไหม้อยู่ตลอดเวลาด้วยไฟของกิเลส เมื่อเราเห็นในสิ่งที่ดีกว่า ก็อยากจะให้ผู้อื่นมีสุขตามเช่นนั้นบ้าง

    อารมณ์เช่นนี้ ถ้าจะหาชื่อเรียกให้มัน ก็คงต้องเป็นอารมณ์เมตตา และเป็นเมตตาที่แท้จริง เพียงแต่ว่า อาจจะไม่ได้ปรารถนายาวถึงขนาดจะต้องบำเพ็ญจนพาหลุดพ้น อาจจะเป็นลักษณะของการช่วยผู้อื่นเท่าที่เราช่วยได้ ตราบเข้าสู่นิพพาน ก็ได้ครับ

     
  3. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,500
    อนุโมทนาในธรรมครับ คุณปุณ ขอโทษทีผมอ่านกระทู้ตัวเองข้างบนแล้ว งง เหลือเกิน
    ( ผมเรียบเรียงเนื้อความไม่ค่อยจะเป็น เลย วกไป วนมา) ขออนุญาตกล่าวใหม่ นะครับ

    คือเห็นหลาย ๆ ท่านในที่นี้ บางส่วนก็ปรารถนา พุทธภูมิ พระโพธิ์สัตว์ หรือแม้แต่พระนิพพาน เพื่อธรรมอันเป็นประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น ได้อ่านแล้วก็รู้สึก ปิติ ยินดี ในเส้นทางที่นักปฏิบัติ ได้กระทำดีชอบแล้ว

    แต่ทั้งหมดนั้น ส่วนหนึ่งนั้นมาจากการ อธิษฐานวิงวอนขอ ด้วยจิตที่ศรัทธา และ วาจาที่สัจจะ บำเพ็ญเพียรเพื่อสร้างบารมีให้เต็ม ใช่ไหมครับ (โดยส่วนตัวแล้วไม่ค่อยเข้าใจ เพราะเรื่องนี้ ละเอียดอ่อน จริง ๆ )

    คือผมสงสัยอยู่นิดนึง ผมจะขอ อุปมาเช่นว่า

    มีเด็กคนนึง เวลาขอพรพระรัตนตรัย ก็จะกล่าวขอเพียงแต่ ให้โลกใบนี้ จงมีแต่ ความ สงบ สุข เทอด.... ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่รู้ว่า ความสงบ สุข จริง ๆ คืออะไร เพียงเข้าใจว่า มันน่าจะดีและอบอุ่น แล้วก็จะแย้งกับความคิดตนเองว่า ทำไมคนส่วนมากขอ แต่ เรื่อง เงิน งาน ความรัก หรือนั่นคือความสุขแท้จริง

    เมื่อโตมา เด็กคนนั้นได้เดินในเส้นทางธรรม แล้วเห็นทุกข์ในวิบากกรรมของตนเองและเพื่อนร่วมวัฐสงสารเดียวกัน จึงปรารถนาที่อยากจะให้ผู้อื่นพ้นจากทุกข์
    เมื่อเวลากราบขอพรพระรัตนตรัย ก็จะกล่าวขอเพียงว่า ขอให้สัตว์โลกทั้งหลาย จงพ้นจากทุกข์ นำพาจิตขึ้นสู่ พระนิพพาน เทอด....จนบางครั้งก็แย้งกับความคิดตนเองอีกเช่นเคย ว่า
    ทำไมเราถึงไม่ขออะไรเพื่อตนเองบ้าง และคิดว่าตนเองยังไม่สมควรแก่การวอนขอ...

    ที่กล่าวมาตอนต้นไว้ ผมสงสัยว่า หากจิตของเด็กนั้น ทรงอารมณ์ด้วย เมตตาธรรมจริง แต่สภาวะจิตของเด็ก ณ ขณะนั้น ก็ยังไม่เข้าใจถึงแก่นธรรมของหลักพรหมวิหารสี่ จริง ๆ
    หากเขาจะปรารถนาใน พุทธภูมิ หรือ พระโพธิ์สัตว์ ก็ต้องสร้างบารมีแก่ตนเองเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่นในกาลหน้า แล้วถ้าหากเป็นการปรารถนาให้ผู้อื่นฝ่ายเดียวโดยที่ไม่ได้หวังประโยชน์ในตนล่ะครับ? (หวังว่าคงจะไม่ งง นะครับ เพราะผมก็เริ่มจะ งง ๆ เองแร่ะ )




     
  4. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    งง ครับ ฮ่าๆๆๆ...
    เป็นอุปนิสัยเก่าก็ได้มั้งครับ คงจะสะสมมานานหลายชาติหนะ
    ซึ่งบางครั้ง อุปนิสัยเก่า ของเก่า อะไรพวกนี้ มันก็โผล่ออกมาเอง แต่เรายังไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร

    พอดีมากๆ เลย วันนี้ผมเพิ่งนึกย้อนอดีตกลับไป เพิ่งจำได้ว่า ตัวเองเคยเข้าฌานโดยไม่ได้ตั้งใจ สมัยตอนเรียนมหาวิทยาลัย (เผลอๆ เบลอๆ แล้วมันก็นิ่งไปเลย ความคิดสงบราบเรียบหมด) ตอนนั้นก็ไม่รู้อะไรเลย ไม่เข้าใจอะไรเลยเหมือนกัน ตอนนี้นึกย้อนกลับไป ถึงเข้าใจสภาวะนั้น

    อาจจะเป็นกรณีคล้ายๆ กันนะครับ
     
  5. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,500
    ว่าแล้วไง... (งง จริง ๆด้วยอ่ะ) แต่ก็... นะครับอาจจะเป็นนิสัยเก่า ๆ เราเองแหล่ะ เดี๋ยวสักพักอารมณ์นี้ก็ดับไป แล้วก็เกิดขึ้นใหม่ ตามเคยเนอะครับ

    ว่าจะเลิกสงสัยในตัวเอง แล้วก็มาสงสัยมันจนได้ ถ้าบอกไปก็สักแต่ว่ารู้แล้วผ่านไปนะครับ พอดีมีท่านผู้นึง กล่าวว่า ภูมิเก่าผมเคยเป็น พรหม จริตในปัจจุบันจึงอาจจะยังติดนิสัยเดิม ๆ บางครั้งไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเวลานั่งปฏิบัติธรรมแล้วติดอารมณ์สุขนานเกิน นั่งไปชั่วโมงนึงเหมือนนั่งแค่15นาที บางเรื่องคล้ายหน่อยก็เอามาปนเปกันมั่ว ก็พยายามจะฟังผ่าน ๆ ไม่หลง ติด แต่ก็นะ ช่วงนี้อ่าน กระทู้ในห้องนี้เยอะไป เอาสมองผม เบลอ ๆ เลย 555 (อย่างว่านะครับ เรื่องแบบนี้ละเอียดอ่อนเกินเข้าใจ) ขอบคุณมาก ๆครับ คุณปุณ
     
  6. P184

    P184 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +809
    ประเด็นเหมือนพูดเรื่องความงงไปซะงั้น

    ==========

    ผมสงสัยว่าเด็กคนนั้นคงไม่ใช่คุณ นพณัฐ
    แต่ถ้าใช่จริงๆก็ ...

    อนุโมทนาด้วย
    จะขอเกาะขาไปด้วยคนครับ

    อารมณ์เช่นนั้นมันไม่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนธรรมดาอย่างเราๆ หรือถ้าเกิดก็เกิดขึ้นได้ไม่นานแค่เพียงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น
    มนุษย์เรายังเห็นแก่ตัว ยังมีกิเลสครบถ้วน
    ไฉนเลยจะมีจิตเยี่ยงโพธิสัตว์ได้

    การวิงวอนขอเพื่อให้ผู้อื่นเพียงอย่างเดียว โดยไม่นึกถึงตนเองเลย

    เป็นไปได้หรือ?
    เป็นไปได้ครับ

    แต่ เป็น ไป ได้ ยาก

    (สงสัยเด็กคนนั้นว่ามีอยู่จริงหรือแค่สมมติขึ้นมา)
    (คงไม่งงนะครับ)
     
  7. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ถ้าเห็นความจริงของโลกแล้ว อารมณ์นี้เกิดไม่ยากครับ...

    กลับมาอ่านอีกรอบตอนเช้า... คิดว่าพอเข้าใจละ...

    พรหมวิหาร 4 = ธรรมของพระพรหม ครับ :)
    ส่วนประเด็นที่งงกัน คือ มาจากคำว่า "การขอ" ใช่ไหมครับ
    เพราะเข้าใจว่า บารมี ต้องสร้างเอง ไม่ใช่มาจากการขอผู้อื่น ใช่ไหมครับ?

    อันนี้การขอในเรื่องนี้ ก็ไม่ผิดนะครับ พระโพธิสัตว์ทั้งหลายนั้น ก็ได้รับการช่วยเหลือในการทำกิจต่างๆ จากเทวดา พรหม มาก่อนทั้งนั้น
    แล้วการขอที่ไม่ขอให้ตนเอง แต่ขอให้ผู้อื่น โดยไม่เลือก ก็เป็นการเจริญเมตตาแบบหนึ่งด้วยครับ :)
     
  8. P184

    P184 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +809
    แต่คนเราไม่ค่อยได้เห็นความจริงของโลก เหตุเพราะกิเลสบดบัง

    อารมณ์นี้จึงเกิดขึ้นได้ยาก

    ส่วนเรื่องการขอ การขอที่ไม่ขอให้ตนเอง แต่ขอให้ผู้อื่น โดยไม่เลือก ก็เป็นการเจริญเมตตาแบบหนึ่ง-ผมเห็นด้วยครับ

    ผมเคยฟังธรรมจากพระภิกษุรูปหนึ่งเป็นพระฝ่ายมหายานนะครับ ท่านเทศน์เกี่ยวกับพระสูตรๆหนึ่งเป็นพระสูตรเกี่ยวกับปณิธานของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์
    แต่มีช่วงหนึ่งท่านเทศน์แบบติดตลกครับ ว่าบางคนนับถือโพธิสัตว์กวนอิมวันๆเอาแต่ขอ ขอพรให้ตัวเองบ้างหละ ขอให้คนรักบ้างหละ ขอให้ลูกหลานบ้างหละ ขอให้รวย ขอให้ธุรกิจ ฯลฯ
    ขอ ขอ ขอ
    ขอมาตั้งแต่ตอนสาวๆ จนตอนนี้เขาเรียกอาม่า(ในภาษาจีนที่แปลว่ายายนะครับ)กันแล้วก็ยังไม่เคยได้ ไม่เห็นกวนอิมจะให้พรซักทีผมขาวหมดแล้ว ท่านก็บอกว่าที่กวนอิมไม่ให้ก็เพราะสัตว์โลกขอในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ขอให้ตัวเอง ไม่เห็นมีใครขอว่า ขอให้ฉันรับทุกข์แทนสรรพสัตว์ ขอให้ฉันเจ็บป่วยแทนเขา ขอให้เขามีกิน สมบัติฉันฉันขอยกให้เขาทั้งหมด ฯลฯ
    เปรียบดั่งสรรพสัตว์ขอยาพิษไปกิน กวนอิมก็ไม่ให้เพราะว่านั้นคือยาพิษที่จะย้อนกลับไปทำลายตัวเอง
    ท่านเลยบอกว่าบางครั้งไหว้พระไม่ต้องขอก็ได้ ถ้าอยากขอแต่ไม่รู้จะขออะไร ก็ลองขอพรให้สรรพสัตว์บ้างซิ ขอให้สรรพสัตว์ เขาได้เราก็ได้ด้วย เพราะเราก็เป็นสรรพสัตว์เช่นกัน
    ท่านไม่ได้สอนให้เราวิงวอนร้องขอต่อพระพุทธองค์หรือพระโพธิสัตว์ แต่ท่านสอนให้เรารู้จักการให้ เพราะเป็นเพียงการขอพรไม่ได้ให้วัตถุเขา สิ่งที่จับต้องไม่ได้เราให้ไม่ได้แล้วก็คงไม่ต้องพูดถึงวัตถุที่จับต้องได้

    อรุณสวัสดิ์ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2012
  9. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,500
    อนุโมทนาในธรรมครับ

    ผมต้องขอโทษด้วยครับ หากทำให้สับสนในการตีความ
    เด็กคนนั้นไม่มีหรอกครับ ผมสมมุตขึ้นมาเพื่อให้เปรียบเทียบง่าย ๆ นะครับ
     
  10. อภิราม

    อภิราม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +9,005
    บ ท แ ผ่ เ ม ต ต า

    สัพเพ สัตตา
    สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น
    อะเวรา โหนตุ
    จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
    อัพพะยาปัชฌา โหนตุ
    จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
    อะนีฆา โหนตุ
    จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
    สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
    จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ


    ก็คือการแผ่เมตตานั่นแหละครับ เอาไปวัดว่าเป็นอารมณ์ของพระโพธิสัตว์อย่างเดียวไม่ได้
    พระอรหันต์ท่านก็แผ่เมตตา เป็นพรหมวิหาร ๔ คุณธรรมของคนดี
     
  11. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328
    น่าจะเป็น อุปนิสัยของผู้ที่เกิดเป็นพรหมบ่อยๆ จนความคิดเช่นนั้นฝังลึกลงในใจ
    เป็นจิตทีเป็นกุศล
    สำหรับผู้ที่หวังจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า (พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย) คงต้องคิดต่อไปอีกว่า หากต้องการให้ การอธิษฐาน ขอให้สัตว์โลกทั้งหลาย จงพ้นจากทุกข์ นำพาจิตขึ้นสู่ พระนิพพานนั้น จะเป็นจริงขึ้นมาได้ ตัวของพระโพธิสัตว์เอง ต้องทำอะไรบ้าง ดังนั้นจึงนำไปสู่การเริ่ม สั่งสมบารมีทั้ง 30 ทัศ
     
  12. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,500

    อนุโมทนาในธรรมที่แสดงไว้ เปรียบได้แจ่มแจ้งมาก ๆ ครับ

    แม้แต่การวอนขอเพื่อตนเอง ยังเป็นเหตุแห่งทุกข์ หากไม่สำเร็จผลหรือเป็นไปตามที่หวัง ก็อาจจะเป็นเครื่องผูกมัดเราให้ยึดติดในตัณหาได้ แต่หากสมหวัง ก็อาจจะนำมาซึ่งความหลงในอวิชชาได้อีกเช่นกัน พอเข้าใจประมาณนี้อ่ะครับ

    จริง ๆ ผมก็เห็นด้วยนะครับว่า การทรงอารมณ์ พรหมวิหารสี่ เป็นเรื่องที่ ยาก
    และละเอียดอ่อนมาก แต่ก็ไม่น่าจะยาก ถ้าหากทรงอารมณ์นั้นอยู่เสมอ ๆ
    ...............................................

    ขอขมาโทษ หากได้ล่วงเกินหรือปรามาสแด่องค์พระรัตนตรัย ไว้ที่นี้ด้วยครับ
     
  13. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    พรหมวิหารสี่ จึงมีข้อสุดท้ายคือ อุเบกขา ไงครับ :)
     
  14. P184

    P184 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +809
    อนุโมทนาครับ สำหรับผู้มีจิตหวังดีต่อสรรพสัตว์ทุกท่าน
     
  15. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,579
    หลังสวดมนต์แล้วทุกครั้ง ได้แผ่บทนี้แล้วไซร์ย่อมก่อประโยชน์ตนแลท่านถ้วนหน้ามีแต่ดีกับดีแม่นบ่ๆๆๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...