พระสงฆ์กับเงินตราและกรณีปัญหาเกี่ยวกับพระอ.เกษม อาจิณณสีโล

แล้วเลือกอาหาร ฉันแบบ บุฟเฟ่ตามใจฉัน มีในพระไตรปิฎกไหม อ่ะ

 

เพลาๆบ้างเหอะนะท่านอุรุ เรื่องเกี่ยวกับพระสงฆ์องค์เจ้าน่ะ มันเป็นดาบสองคม
เดี่ยวเครียดเปล่าๆ เอาเรื่องสามัญชนดีกว่ามั้ย...เป็นห่วง

 

ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ฮึ ฮึ ฮึ ฮึ ฮึ

 

เก็บ... เก็บอาการด้วย
อย่างไรผมก็เลือกเชื่อผู้ที่มีศีลสมบูรณ์มากกว่า ถ้าไม่ถวายปัจจัยบางโอกาสศาสนกิจก็ไม่ไปไหนพอดี พระไหนจะผิดศีลผมไม่สนใจ ผมสนใจแต่เงินของผมจะยังประโยชน์แก่ศาสนาและผู้มีศีลเท่านั้น ส่วนพระที่ผมรู้ว่าประพฤตินอกพระธรรมวินัยผมก็ไม่ถวายก็แค่นั้น

 

http://www.youtube.com/watch?&v=o7VwEAeYGjc

 

อนึ่ง การจงใจ ตั้งใจ เลือกเฝ้น ผู้รับทาน เหล่านี้เกิดจากความ โลภ ในกองบุญ

เพราะ อาศัย ทิฏฐิ ที่เคยสดับธรรมว่า ทำบุญอย่างไรได้อานิสงค์มาก แต่ทว่า
หลงลืมสติ ขาดสัมปชัญญะ มีจิตไม่ตั้งมั่น ไม่เป็นกลางต่อโลกตามความเป็นจริง
ทำให้ ทิฏฐิธรรมที่ว่าด้วยเรื่องอานิสงค์มาก หรือ น้อย ผลิกเป็น โลภะมูลจิต

ทำให้เกิดการ ปรารภไปทางขาดศีล ขาดวินัย ยกขึ้นว่า ข้าจะทำบุญกับผู้ทรง
ศีลหรืออริยเจ้าแท้เท่านั้น ทั้งๆที่ ทาน หรือ จาคะ แม้เราจะให้อาหารกับสัตว์
เดรัจฉาน ก็ถือว่า มีอานิสงค์มาก ไม่ใช่ไม่มีอานิสงค์

เช่น พระอรหนัต์ท่านหนึ่ง สำเร็จอรหันต์เป็นเนื้อนาบุญของโลก หาที่สุดไม่ได้
แล้วแต่ทว่า บุพกรรมเคย งดให้อาหารมด โดยไปทำลายรังแล้วแย่งเอาขนม
ปังของตนกลับคืนมา ด้วยเหตุทำกรรมกับสัตว์เดรัจฉานตัวเล็กเท่ามด ทำให้
พระอรหันต์ท่านนี้ไม่สามารถจะมีอาหารอยู่ในบาตรขณะฉันได้ พอจะลงมือฉัน
ข้าวปลาอาหารในบาตรก็อันตรธานหายไป

ดังนั้น แม้กับสัตว์เดรัจฉาน ยังก่อเวรกรรมได้ถึงเพียงนี้ ประสาอะไรกับ มนุษย์
ผู้มีศีลหรือไม่มีศีลเล่า !

 

จำมาผิดแล้วครับ กรรมไม่มีสำหรับพระอรหันต์ครับ

 

ผมว่าคุณอุรุเวลามีเวลาอ่านพระไตรปิฎกมากๆ ..เอาเวลาไปปฎิบัติสมาธิเทอด เพราะสมาธิกรรมฐานเป็นเหตุให้เกิดพระไตรปิฎก จะได้รู้ว่าเอาข้อธรรมต่างๆมาใช้ มันถูกต้องหรือเปล่าหรืออยากเป็นผู้ทรงใบลาน แตกฉานข้อธรรม(เข้าข้างตัวเอง)แต่ปฎิบัติเยาะแยะ เหมือนเจ้าลัทธิท่านก็ตามครับ

 

อย่าหน้ามืด นักคุณ

ผมเขียนคำว่า " บุพกรรมเคย " อ่านให้ดีๆ ก่อนสิ

ความชั่ว เลวทราม ครอบงำจน มืดบอด เลยนะนี่

ห้องวิทยาศาตร์ แอบมา ตั้งกระทู้ พระที่ตั้งโจกทย์แจ้งอาบัติแก่หลวงตามหาบัว

พอไปห้อง อภิญญา แอบมาตั้งกระทู้ สรรเสริญ หลวงตาบัว แต่ ทว่า เลือก
เฝ้นคำ หยาบ มาตั้งเป็นชื่อกระทู้ เพื่อให้ ปุถุชนที่ขาดสดับธรรมะ เกิดการ
ไม่พอใจ ไม่ศรัทธาใน หลวงตามหาบัว แต่ ปากกลับบอกว่า ศรัทธาพระ

นี่ มุ่งโจมตีหลวงตามหาบัวตลอดเลยนะ แถม ยังขุดหลุมให้คนที่
เขาขาดธรรมะรักษาให้ พลาดพลั้ง เสียศรัทธา เสียประโยชน์ที่ยังไม่เกิดอีก

หน้า มืด ไปเท่าไหร่ แล้วหละ พิจารณาเอาเองนะ

 

ลัทธิ คือธุรกิจ เปลี่ยมไปด้วยความเชื่อเหลวไหลไร้สาระทุกรูปแบบ เป็นการรวมกลุ่มของฝูงชนที่ไม่ค่อยจะฉลาด กลุ่มนักบวช และ สุดท้ายก็คือหลุมศพของผู้รู้แจ้งคนหนึ่ง ดวงดาวที่เจิดจรัสที่สุดในโลกดวงหนึ่ง แต่ทว่าศาสดาท่านนั้นก็ได้จากไปแล้ว และองค์กรศาสนาก็เกิดขึ้นมีคนมาจั้งตั้งองค์กร เขียนคัมภีร์ สร้างพธีกรรม ขึ้นมาครอบงำความคิดขจองฝูงชน สร้างรีตรอย และ เหนืออื่นใดมันก็เป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างผู้ชนที่ไม่ค่อยฉลาดที่ต้องการแสวงหาความมั้งคงทางจิตใจ กับ พระที่ต้องการอำนาจ เงินตรา การกราบไหว้บูชาแน่นอนว่าคนทั้งหลายพึ่งพอใจ และ ธุรกิจก็ดำเนินไปได้ด้วยดี แต่ทว่ามันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับจิตแห่งศาสนาเลย นะจ๊ะ นะจ๊ะ

 

เออนี่ คุณอุรุเวลา ผู้มุ่งทำลายศรัทธาของชนที่ยังไม่เกิดศรัทธา ไม่ให้เกิดศรัทธา
ในพระพุทธศาสนา คุณทราบหรือเปล่าว่า

พระวัดสามแยก ท่านออกคำสั่งไปยัง ลูศิษย์ว่า ให้เลิก ทำลายพระพุทธรูป นับแต่
บัดนี้เป็นต้นไป

นี่ก็แปลว่า คำสอนของพระท่าน มีการเปลี่ยน ......เปลี่ยนก็เพราะท่านเคารพ
มติสงฆ์ และ รู้ว่า กิจใดทำไปเพื่อความสามัคคีในหมู่สงฆ์

เมื่อท่านทำเช่นนี้ โดยหลักการของ สงฆ์ ก็จะเป็นเหตุพอให้ สงฆ์นับท่านเข้าพวก
ได้ ความสามัคคีในสงฆ์เกิดขึ้นได้ทันที

แต่คุณ อุรเวลา ผู้มุ่งทำลายศรัทธาของปวงชน จะเอาอย่างไรต่อหละ ......

คืดหรือว่า กรณีโจทย์อาบัติภิกษุที่ล่วงลับไปแล้ว จะสามารถรณรงค์ให้คุณ
ให้โทษแก่ภิกษุที่มรณะภาพไปแล้วอีกได้.............

เนี่ยะไม่ต้องคิดเลย การโจทย์บุคคลที่มรณะภาพไปแล้วเนี่ยะ เขาถือว่า ยกฟ้อง
ไปโดยปริยาย

แต่ คนไม่เคยปฏิบัติ ไม่รู้วิธีการปฏิบัติ ก็ ยังละเมอ แล้ว รณรงค์ในภาษาตัวหนังสือ
ถือสาหาความต่อ ก็เป็นเรื่องของคนไม่ฉลาดเท่านั้น จะกระทำต่อไปนะ

ก็ตลกดี .....ถึงเวลาจะไป ขุดพระธาตุ พระอังคาร ท่านมา เฆี่ยนตี บอกกล่าว
ให้พระธาตุปลงอาบัติหรือไง !?

 

เอาใจผิดหลายอย่างครับ
- ผมศึกษาธรรมทุกวัน
- ผมนั่งสมาธิทุกวัน
- ผมไม่ได้เป็นศิษย์วัดสามแยก
- เมื่อมีคนกล่าวตู่พระธรรม พูดคำของตัวเอง ใส่ร้ายผู้อื่น ขัดแย้งกับพระธรรม ผมก็ยกพระธรรมจากพระไตรปิฏกมาแสดง เพื่อให้คนที่ศึกษาได้รู้ธรรม ไม่ได้มีเจตนาอื่นครับ

 

พูดเอง ไม่มีที่มา ใครก็พูดได้ครับ ถึงหลวงพ่อเกษมจะสั่งไม่สั่ง ก็เกี่ยวกับผม
ผมไม่ได้เป็นลูกศิษย์วัดสามแยกครับ พระพุทธรูปไม่ใช่รูปพระพุทธเจ้า
ไม่เห็นว่าจะมีรูปหล่อรูปปั้น มีชื่อว่าพระพุทธเจ้า เห็นแต่พระ... หลวงพ่อ... อาจารย์...
กราบแล้วมีศรัทธาก็เป็นกุศล คิดว่าได้กราบรูปพระ... หลวงพ่อ... อาจารย์.... ก็ดีครับ
แต่อย่าได้คิดว่าได้กราบพระพุทธเจ้า เดินจับชายจีวรเดินตามหลังพระพุทธเจ้า
พระองค์ยังบอกว่า ยังอยู่ห่างไกลพระองค์

"ประโยชน์อะไรได้เห็นกายเน่านี้ ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต"

 

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๓๓ หน้าที่ ๑๒๔/๔๐๘
"เรายินดีในพระพุทธรูป จึงได้ตรัสสอนเราว่าอย่าเลยวักกลิ
ประโยชน์อะไรในรูปที่น่าเกลียดซึ่งชนพาลชอบเล่า ก็บัณฑิตใดเห็นสัทธรรม
บัณฑิตนั้นชื่อว่าเห็นเรา ผู้ไม่เห็นสัทธรรม ถึงจะเห็นเราก็ชื่อว่าไม่เห็น"

 

คุณ อุรเวลา เอ้ย

คุณอ้างว่า จะมาแก้ต่างให้ พระศาสนา อย่างเคสนี้ เรื่อง การรับเงินทองของ
หลวงตามหาบัวใช่ไหม หลวงตาท่านรับเงินแถมยังเอาไปจัดสรรแจกจ่ายให้
สร้างโรงพยาบาล โรงเรียน คุณไม่พอใจ ที่ประชาชนจะมี โรงพยาบาล โรงเรียน
อีกทั้ง ความมั่นคงของประเทศ ว่างั้นเถอะ

คุณต้องการให้ ประชาชนขาดโรงพยาบาล ขาดโรงเรียน อีกทั้ง ขาดความมั่นคง
ประเทศ งั้นเหรอ

จึงได้เอา ตัวหนังสือที่ปรากฏในพระไตรปิฏกมาอ้าง เพื่อสอดรับย่างก้าวสู่ความ
เป็นผู้มีอำนาจ ดูฉลาดกว่าคนอื่นเขา

นี่ๆ

สมมติว่า หลวงตาท่านผิด แหม ก็น่าเห็นใจนะ ท่านจากไปแล้ว ที่นี้ก็เหลือแต่
ศิษย์ ดังนั้น

ผมว่า คนฉลาดอย่างคุณ น่าจะพิจารณาได้ว่า

แก้ปัญาที่ คนเพียงคนเดียว กับ แก้ทีทั้งประเทศ เนี่ยะ คนฉลาดจะพึงทำอย่างไหน
ให้สำเร็จงลงก่อน

แน่นอนเลยว่า แก้คนๆเดียวให้สำเร็จ เสียก่อน ย่อมเป็น คำตอบสุดท้าย ไม่ต้องอาศัย
ตัวช่วย คุณได้รับคำตอบนั้นเดี๋ยวนี้

ทีนี้ ผมแนะนำว่า คุณเลือก ศิษยของหลวงตาสักคน เอา คนเดียวพอ

แล้ว คุณเดินเข้าไปสะกิด คนๆนั้น บอกว่า ท่านอาบัติปราชิก อาจิตตี นิคฯ

เดินเข้าไปเลย

เอาคนเดียวนี่แหละ คุณแก้คนเดียวให้ได้เสียก่อน

ถ้า คนๆเดียว คุณยังแก้ไม่ได้ คนไม่ฉลาดสุดๆเท่านั้น จะ พุ่งออกไป รบกับคนทั้งประเทศ

 

ใช้ปัญญาแยกแยะเอาเองครับ เจตนานั่นคือ "กรรม"

 

อ้อ อีกเรื่องหนึ่ง

สมมติว่า คุณจะ แอบไปห้องอภิญญา แล้ว ยกคำสอน หลวงตามหาบัวบ้าง

พระท่านก็มีเทศนาเรื่อง พระรับเงินผิดศีล เหมือนกัน แต่ สำนวนของหลวง
ตาท่านท่านจะใช้คำว่า "พวกหลังลาย"

ดั้งนั้น หากคุณจะหาคำสอนของหลวงตามหาบัว เรื่อง การรับเงินของภิกษุเป็นอาบัติฯ
ละก้อ เอาคำว่า "หลังลาย" ไปค้น ก็จะได้ หัวข้อธรรมให้คุณมาตั้ง เอาดูน่าสนเทห์
ไม่หยอกเลย

 

คำตอบเรื่องพระพุทธรูป โดยพระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล

http://www.youtube.com/watch?&v=ZN1g-5VDr0M

คัดลอกมาจาก http://palungjit.org/threads/คำตอบเรื่องพระพุทธรูป-โดยพระอาจารย์คึกฤทธิ์-โสตฺถิผโล.351586/

 

เอ่อ แล้วกรณี พระรับเงิน นิตยภัทร หรือ เงินเดือนประจำตำแหน่ง

อันนี้ คุณต้องไป ล้มกฏหมาย เขียนกฏหมายใหม่

ซึ่ง คนที่คุณควรเลือก เดินเข้าไปสะกิด เพียงคนเดียว ก็เป็นคนที่อยู่ในสภา

แต่สมมติว่า ไม่อยากเลือกคนในสภา เพราะเยอะ แล้วก็ดูยาก

นู้น คุณไป สำนักพระราชวังนะ แล้ว เขียน ฏีกา ..เอาเลย

แก้ที่จุดๆ เดียว มันถึงจะได้

จะมานั่งเย้วๆ กฏหมาย พระราชบัญญัติในปรมภิไทย ทำให้ พระผิดศีล
ต้องจำใจ รับเงิน อยู่แบบนี้ไม่เกิดประโยชน์หรอก ตลก เปล่าๆ

แล้วตอนเดินไปสะกิด คนตู่พระธรรม ในเคสหลังนี่ คุณอย่าลืมทำตัวเป็น
เจ้าของแผ่นดินไทยเสียเองด้วยนะ ไม่เช่นนั้น หงอยรับประทาน

 

กฏหมายไม่ได้สูงกว่าพระธรรมวินัยครับ
พระรับเงินรับได้ครับ แต่เมื่อรับแล้วอาบัติครับ

ผมถามหาที่มา เอามาแสดงก่อนครับ เขียนเองก็บอกว่าเขียนเอง
คนที่เข้ามาอ่านจะได้แยกแยะออก คนเข้าใจธรรมผิดได้ครับ
แสดงธรรมเป็นอธรรม บาปกรรมหนักครับ