***รวมเหรียญในหลวง(นิยม)***

สวัสดีครับ ผมเพิ่งสมัครสมาชิกได้ไม่นานนี้หลังที่แอบดูมานาน วันนี้ผมได้มีโอกาสถ่ายรูปพระ จึงได้นำเอาเหรียญของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ผมได้สะสมเป็นจำนวนหนึ่ง มาเป็นเวลาค่อนข้างนาน มาเผยแผ่เพื่อให้สมาชิกได้เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
เหรียญแรกที่มานำเสนอในวันนี้ คือ เหรียญพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก พ.ศ.2493 เนื้อเงินกะไหล่ทอง ซึ่งจัดได้ว่าเป็นเหรียญแรกของในหลวง หาค่อนข้างยาก ค่านิยมแล้วแต่ความต้องการของผู้ซื้อและผู้ขาย ราคาค่อนข้างสูง สีกาอ่าง(นสพ.ไทยรัฐ)เคยกล่าวถึงว่าเป็นหลักล้าน เปี๊ยก จิตลดา เคยกล่าวในคมชัดลึกว่า 5-6แสน บอย ท่าพระจันทร์เขียนลงในหนังสือว่าหลักหลายแสนแล้วแต่ความสวยและสมบูรณ์ของเหรียญ เหรียญรุ่นนี้เคยมีผู้กล่าวว่า มีเหรียญทองคำ แต่ที่ข้าพเจ้าได้ไปดู และเห็นมา2-3เหรียญเป็นของเก๊ทั้งหมด จึงไม่แน่ใจว่าเหรียญรุ่นนี้มีเหรียญทองคำจริงหรือ แต่ที่วงการยอมรับกันก็มีเพียงเหรียญเงินกะไหล่ทองเท่านั้น

 

เหรียญพระบรมราชาภิเษก เหรียญที่2




เหรียญพระบรมราชาภิเษก เหรียญที่3

 

เหรียญพระบรมราชาภิเษก เหรียญที่4

 

ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเปล่งพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์แห่งมหาชนชาวสยาม” ตลอดรัชสมัยอันยาวนานที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจคุณูปการตราบจนกระทั่งปัจจุบัน ได้ทรงรักษาราชจรรยานุวัตรเคร่งครัด เป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่ประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศทั่วโลก อันที่จริงแล้ว ทรงประกอบ พระราชกรณียกิจมากมายเกินกว่าพระราชภาระของพระมหากษัตริย์ แต่ด้วยพระราชวิริยะอุตสาหะ พระราชกรณียกิจอันทรงคุณประโยชน์จึงไม่มีวันจบสิ้น ทั้งนี้ด้วยทรงห่วงใยในทุกข์สุข และเพื่อประโยชน์สุขของอาณาประชาราษฎร์ชาวไทย และด้วยพระปณิธานที่จะทรงช่วยขจัดความยากจน ความไม่รู้ ความทุกข์ และโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งล้วนนำไปสู่การกินดีอยู่ดี หรือสภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของพสกนิกร ไม่ว่าจะเป็นหนแห่งใดในประเทศ พระราชจริยวัตรจึงเป็นที่ชัดเจนว่า เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินและเพื่อชาวไทยโดยแท้จริง
<TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD> ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงบุญญานุภาพ ทรงครองราชย์ด้วยราชธรรมของพระมหากษัตริย์ ทรงกอร์ปด้วยความรักความใส่พระทัยในราษฎร ความเสียสละ ความมีพระวิริยอุตสาหะ ไม่ทรงท้อถอย ทรงมีพระปรีชา ความรู้ พระเมตตา ความเข้าพระทัย และยังทรงไว้ซึ่งคุณธรรมอื่นๆ ของพุทธมามกะที่ดี ทั้งหลายนี้เห็นเด่นชัดแท้จริงในพระราชกรณียกิจและพระราชภารกิจอย่างหนักนานัปการตลอดรัชสมัย </TD></TR><TR><TD>
ด้วยเหตุนี้ประชาชนชาวไทยจึงถวายความจงรักภักดีอย่างสูงสุด ด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ทรงเป็นที่รักยิ่งของประชาชนไม่ว่าจะเสด็จประทับอยู่ที่ใด ใกล้ไกลหรือในท้องถิ่นธุรกันดารใด หรือในภูมิภาคใด ทรงเป็นความชื่นชม ความหวัง และความสมหวังของราษฎร ซึ่งเล็งเห็นได้ในความสำเร็จของโครงการหลวงและโครงการในพระราชดำริต่างๆ จำนวนนับไม่ถ้วน อันมีจุดมุ่งหมายเพื่อการพัฒนาประเทศทั้งสิ้น </TD></TR><TR><TD>
ปีแล้วปีเล่าที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจมากมายกว้างขวางเพื่อประเทศ-ชาติและเพื่อช่วยเหลือราษฎรอย่างไม่ทรงเหน็ดเหนื่อย พระราชทานความช่วยเหลือแก่ผู้ยากไร้ ผู้ขัดสน ผู้ด้อยโอกาศ ผู้ขาดการศึกษา และผู้ป่วย ในจิตนาการของคนทั่วไปยากจะเป็นไปได้ที่พระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งจะทรงคุณรุ่งเรืองแก่แผ่นดินได้มากมาย ทรงเป็นทั้งพระประมุขของประเทศ ครู นักเขียน ผู้เคร่งครัดในศาสนา นักมนุษยชน นักพัฒนา เกษตรกร นักธรรมชาติวิทยา วิศวกร นักประดิษฐ์ นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นักดนตรี นักกีฬา และอื่นๆ อีกมากมาย</TD></TR></TBODY></TABLE>

แล้วจะมาต่อในเหรียญรุ่นอื่นต่อไปนะครับ ครั้งหน้าเหรียญทรงผนวช ทุกบล๊อกที่ผมสะสมไว้

 

หวัดดีครับ แวะเข้ามาชมครับ จะรอชมรุ่นต่อ ๆ ไปครับ

 

ดูไม่เป็นครับ แต่สร้างได้สวย เก่าถึงยุคจริงๆครับ ชอบครับ

 

เหรียญทรงผนวช 2508
ประวัติการสร้าง เมื่อปี พ.ศ. 2508 ทางวัดบวรฯได้ดำเนินการจัดงานอันเป็นมหามงคลยิ่ง 4 ประการ คือ วันที่ 24 สิงหาคม 2508 เป็นวันมหามงคลที่พึงจารึกเป็นประวัติการณ์พิเศษ ด้วยสมเด็จพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ในโอกาสที่มีพระชนมายุเสมอด้วยสมเด็จพระราชบิดา เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร และได้ทรง ปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการกุศลอีก 3 อย่าง ในวันมหามงคลนี้ อันควรเรียกได้ว่า "จาตุรงคมงคล"
อนึง ทางวัดบวรริเวศวิหาร ได้ขอพระบรมราชานุญาตสร้าง เหรียญพระบรมรูปทรงผนวช มีพระปรมาภิไธย ซึ่งเป็นลายพระหัตถเลขาทรงไว้ในสมุดทะเบียนวัดว่า
"ภูมิพลอดุลยเดช ปร. ภูมิพโล" อยู่ภายใต้พระบรมรูป (ถ่ายทำจากลายเซ็นตามจริง)
เบื้องบนมีอักษรว่า "ทรงผนวช ๒๔๙๙" ส่วนอีกด้านหนึ่งมีรูปพระเจดีย์วัดบวรนิเวศวิหาร มีอักษรเป็นวงกลมที่ขอบเหรียญว่า
"สมเด็จฯสมโภชพระเจดีย์ทองบวรนิเวศ ในมงคลสมัยพระชนมายุเสมอสมเด็จพระราชบิดา ๒๙ สิงห์ พ.ศ. ๒๕๐๘"
นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ถึง 4 ครั้งคือ

ในวันที่ 27 สิงหาคม 2508 เสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพุทธาภิเษกครั้งหนึ่ง

วันที่ 28 สิงหาคม 2508 เสด็จฯ ในพระราชพิธีกุศลทักษิณานุปทานถวายสมเด็จพระราชบิดาครั้งหนึ่ง

วันที่ 29 สิงหาคม 2508 เสด็จ 2 ครั้ง ตอนเช้าเสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระชนมายุเสมอด้วยสมเด็จพระราชบิดา ทรงปฏิบัติพระราชกิจทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอีก 3 อย่าง
มีทรงประกอบพิธีหล่อพระพุทธรูป ภปร. เป็นต้น

พิธีพุทธาภิเษก ได้ประกอบพิธีกันทั้งคืน มีพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณนั่งปรกถึง 5 ชุด ชุดละ 8 องค์ ล้วนแล้วแต่เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ทรงคุณและมีชื่อเสียงโด่งดัง

 

เหรียญทรงผนวช 2508 เท่าที่ข้าพเจ้าทราบ และพบเห็นมา จะมีการสร้างหลายเนื้อโลหะ ดังนี้
1.เนื้อทองคำ
2.เนื้อเงิน
3.เนื้อทองแดง กะไหล่ไฟ
4เนื้ออัลปาก้า
5.เนื้อฝาบาตรกะไหล่ทอง
ซึ่งยังแบ่งออกเป็นพิมพ์นิยม(เจดีย์เต็ม) และพิมพ์ธรรมดา
แต่ก็ยังมีแยกบล๊อกย่อยออกไปอีกเล็กน้อย

 

ขอข้ามเหรียญทองคำ และเหรียญเงินไป เพราะข้าพเจ้าไม่มีบุญญาธิการพอที่จะครอบครองได้ เหรียญที่นำมาให้ชมเป็นเหรียญแรกนี้ เป็นเนื้อทองแดงกะไหล่ไฟ พิมพ์นิยมที่สุด คือ พิมพ์เจดีย์เต็ม จิกหน้า เว้าหลัง

 

เหรียญทองคำ หรือ เหรียญเงิน ระวังไว้เถอะครับ เพราะเป็นห่วงเชื่อม ถ้าสร้างพร้อมกันทำไมเป็นห่วงเชื่อมครับ เล่นแค่ทองแดงผิวไฟ (กะไหล่นาค) ดีแล้วครับ
ทองคำ กับ เงิน เป็นเหรียญที่สร้างพิเศษแยกออกไปและน้อยมากกกกกก เหมือนกับเหรียญทองคำลงยาสีแดง ล้อมเพชร ในหลวง 3 รอบครับ ยากที่จะหาเจอในท้องตลาด

 

สวยดี แต่ผมเองก็มะเคยเจอคงบุญไม่พอแน่แท้....

 

เหรียญทรงผนวช เหรียญที่2 เป็นเนื้ออัลปาก้า พิมพ์นิยมที่สุดเช่นกัน คือ พิมพ์เจดีย์เต็ม จิกหน้า เว้าหลัง

 

ขอบพระคุณสำหรับการแบ่งปันความรู้ครับ รอชมอีกๆๆๆ....

 

เจดีย์เต็ม จิกหน้า เว้าหลัง ครบสูตรพิมพ์นิยมครับ

 

เหรียญทรงผนวช เหรียญที่3 เป็นเนื้ออัลปาก้า(เหรียญที่2) พิมพ์นิยมที่สุดเช่นกัน คือ พิมพ์เจดีย์เต็ม จิกหน้า เว้าหลัง

 

เหรียญทรงผนวชเหรียญที่4 เป็นเนื้อฝาบาตรกะไหล่ทอง เป็นพิมพ์นิยมเจดีย์เต็ม จิกหน้า(นิดนึง) แต่ไม่เว้าหลัง

 

เหรียญทรงผนวชเหรียญที่5 เป็นเนื้อฝาบาตรกะไหล่ทอง เป็นพิมพ์ธรรมดา เจดีย์ไม่เต็ม ไม่เว้าหลัง แต่มีจิกหน้า

 

เหรียญทรงผนวชเหรียญที่6 เป็นเนื้อฝาบาตรกะไหล่ทอง เป็นพิมพ์ธรรมดา ซึ่งพบเห็นกันได้ทั่วไป ขออนุญาตไม่แกะออกจากซองเดิมนะครับ เพราะต้องการคงสภาพเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด บล๊อกนี้สามารถพบเห็นกันได้ทั่วๆไป ค่านิยมก็ประมาณ2-3พันบาทสำหรับสภาพที่ยังค่อนข้างสวย ถ้าสวยมาก(เดิม) ก็ต้องเพิ่มขึ้นไปอีก ถ้าเป็นเนื้ออัลปาก้าก็จะมีค่านิยมถึง10000กว่า

 

ครั้งต่อไปที่จะนำเสนอเป็นบล๊อกที่ว่ากันว่าทางวัดบวร สร้างเสริมขึ้นภายหลัง เรียกว่า บล๊อกเจดีย์หัก

 

“ เหรียญทรงผนวช " เหรียญที่ระลึกในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันทรงคุณค่าและได้รับความนิยมอย่างสูง.......... ย้อนไปในปี พ.ศ.2499 “ สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ พระสังฆราช ” ผู้ที่ทรงนิยมนับถือโดยวิสาสะอันสนิท และทรงถือว่ามีคุณูปการส่วนพระองค์มากทรงประชวรลงพระอาการเป็นที่น่าวิตก แต่ด้วยเดชะบุญได้หายประชวรอย่างน่าประหลาด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงมีพระราชดำริว่า ถ้าได้ทรงผนวชโดย สมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว จะสมพระราชประสงค์ในอันที่จะได้ทรงแสดงพระราชคารวะและศรัทธาในพระองค์ท่าน เป็นอย่างดี แล้วในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2499 พระองค์ทรงผนวช เป็น พระภิกษุในพระบวรพุทธศาสนา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีพระสมณนามว่า “ ภูมิพโล ” และทรงจำพรรษา ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศวรวิหาร.........
เหรียญนี้จัดสร้างในปี พ.ศ.2508 ซึ่งเป็นปีที่พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในโอกาสที่มีพระชนมายุเสมอด้วย สมเด็จพระราชบิดา เจ้าฟ้า มหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ โดยทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการกุศล 4 อย่าง อันเรียกว่า “ จาตุรงคมงคล ”
อนึ่ง ทางวัดบวรนิเวศวิหารได้ขอพระบรมราชานุญาตสร้างเหรียญพระบรมรูปทรงผนวช ซึ่ง มีพระเจดีย์อยู่อีกด้านหนึ่ง เพื่อเป็นอนุสรณ์ในงานจาตุรงคมงคลนี้ เหรียญที่สร้างขึ้นนี้มีรูปกลมขนาดเหรียญบาท ด้านที่มีพระบรมรูปทรงผนวช มีพระปรมาภิไธยซึ่งเป็นลายพระหัตถเลขาทรงไว้ในสมุดทะเบียนวัดว่า “ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.ภูมิพโล ” อยู่ภายใต้พระบรมรูป (ถ่ายทำจากลายพระหัตถ์ตามจริง) เบื้องบนมีอักษรว่า “ ทรงผนวช ๒๔๙๙ ” ส่วนอีกด้านหนึ่งมีรูปพระเจดีย์มีรูปพระเจดีย์วัดบวรนิเวศวิหาร มีอักษรเป็นวงกลมที่ขอบเหรียญว่า “ เสด็จฯ สมโภชพระเจดีย์ทองบวรนิเวศ ๒๙ สิงห์ ๒๕๐๘ ในมงคลสมัยพระชนมายุเสมอสมเด็จพระราชบิดา
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเหรียญในหลวงทรงผนวช วัดบวรนิเวศวิหาร พ.ศ. 2508
1. ทรงพระผนวช...ในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2499 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกทรงผนวช ณ.อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นพระราชอุปัชยาจารย์ สมเด็จพระวันรัตน์ (ปลด) วัดเบญจบพิตร เป็นพระราชอนุศาสนาจารย์ พระศาสนโศภณ (จวน) วัดมกุฏกษัตริยาราม เป็นพระราชกรรมวาจาจารย์ พระราชอุปัชยาจารย์ ทรงถวายฉายา ว่า ภูมิพโล ตลอดระยะเวลา 15 วัน (ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม ถึง 5 พฤศจิกายน) ที่ทรงอยู่ใน เพศบรรพชิตนั้น ทรงประทับอยู่ ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศวิหาร
2.เหรียญในหลวงทรงผวช...วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2508 วัดบวรนิเวศ ได้ทรงจัดสร้างเหรียญพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงฉายไว้ขณะทรงผนวช ปี 2499 วัดบวรนิเวศวิหาร โดยกองกษาปณ์เป็นผู้ออกแบบ โดยมีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ
1.เป็นที่ระลึกในการเสด็จฯ ทรงผนวช
2.เป็นการฉลองเจดีย์ทอง
3.ที่ระลึกเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุเสมอด้วยสมเด็จพระราชบิดา
3. ทรงพิมพ์...เป็นเหรียญลักษณะทรงกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.8 เซนติเมตร ด้านหน้า เป็น พระบรมฉายาลักษณ์ขณะทรงผนวช ประทับนั่งเต็มองค์ อยู่ตรงกลางลักษณะเหรียญ และ พระปรมาภิไธย และ พระฉายา ด้านหลังเป็นรูปเจดีย์ทอง วัดบวรนิเวศวิหาร และข้อความจารึก เสด็จ ฯ สมโภช พระเจดีย์ทอง ฯ
4.ประเภทและจำนวนสร้าง 5 เนื้อ คือ.....1.เนื้อทองคำ…..2.เนื้อเงิน.....3.เนื้ออัลปาก้า…..4.เนื้อทองแดง…..และ5.เนื้อฝาบาตร ( ทองเหลือง )
เหรียญในหลวงทรงผนวช วัดบวรนิเวศ พ.ศ.2508 มี 2 บล๊อค คือ บล๊อคธรรมดา กับ บล๊อค นิยม - หน้าเว้า -เจดีย์เต็ม (ผลิตโดยกองกษาปณ์ กรมธนรักษ์ กระทรวงการคลัง ซึ่ง ปั้นปูนปาสเตอร์ เป็นแบบแม่ แม่พิมพ์ จะงดงามด้วยภาพมิตินูนต่ำ ผิดกับ ช่างเอกชน จะเป็นพิมพ์นูนสูง เพราะใช้การแกะแม่พิมพ์เหล็ก ด้วยมือ )
5. พระนาม ภูมิพลอดุลยเดช หมายถึง ผู้ทรง กำลังอำนาจ ไม่มีอะไรจะเทียมในแผ่นดิน ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ที่ทรงแผ่พระมหากรุณาธิคุณ แก่เหล่าอาณาประชาราษฎร์ ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข โดยไม่มีอำนาจใดจะมาบดบังได้

เหรียญในหลวง ทรงผนวช เป็น พระบารมีปกเกล้า แก่ ผู้มีไว้สักการะบูชา เป็นยิ่งนัก………. นับแต่วันที่พระองค์ทรงครองราชย์ ไทยทั้งชาติร่มเย็นเป็นสุขศรี สำนึกว่าพระมหาบารมี คุ้มชีวี คุ้มหล้าประชาไทย เกิดมาชาตินี้ มิเสียชาติ อยู่ใต้เบื้องบาทมิหม่นหมอง ขอพระเกียรติเกรียงไกรในสากล ภูมิพลจักรีวงศ์ทรงพระเจริญ……….