จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. ่jarunee

    ่jarunee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +1,917
    สาธุโมทนาบุญคะ

    สวัสดีคะ ขออนุญาติเรียกคุณครูวิทย์นะคะ
    กราบขอบพระคุณที่เมตตารับไว้เป็นลูกศิษย์คะ
    ยังไงก็รบกวนช่วยสอน ช่วยแนะนำให้มากๆเลยนะคะ
    จะพยายามคะ

    ปล.มีเมลของคุณครูวิทย์แล้วคะ แล้วเรื่องการบ้านขอเวลาเรียบเรียงก่อนนะคะแล้วจะส่งไป

    ด้วยความเคารพคะ

    (ขอบคุณน้องโจสำหรับเมลคะ)
     
  2. Plapersia

    Plapersia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2012
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +775

    สวัสดีค่ะพี่วิทย์ ฮ่าๆ ไม่ได้เข้ามาตอบ มาส่งการบ้านซะนาน นั่งอ่านอย่างเดียว ไม่ก็ไปแชทกับพี่หว้าที่ชุมชนจิตเกาะพระ อิอิ

    ขออนุญาติพ่อ(พี่)ภู อ้างถึงเรื่อง กรรม ที่เคยถามไว้นะคะ

    อยาจะบอกว่ามันมีวิธีหนีอยู่นะคะ หนีอะไร? หนีกรรม

    หนีกรรมได้ยังไงล่ะ? ก็ทำบุญ ทำจิตเกาะพระ นี่แหละค่ะ

    ใครคิดว่าตัวเองมีกรรมเยอะ กรรมน้อยก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะกรรมดี กรรมชั่ว กรรมบัง? ก็สามารถทำบุญหนีกรรมกันได้

    แล้วหนีไปไหนละ หนีไปนิพพานไงค่ะ

    แต่ไม่แนะนำให้คิดทำกรรมชั่วเพิ่ม แล้วค่อยทำบุญหนีเอานะคะ อันนี้ท่าทางพระท่านจะไม่ปลื้ม!!! ดีไม่ดีนี่บาปหนักกว่าเก่าอีกนะคะ

    อยากให้ทุกคนที่เคยจิตตก เพราะเรื่องกรรมของตัวเอง มีกำลังใจกันเยอะๆนะคะ ทำจิตเกาะพระกันนะคะ แล้วอย่าลืมส่งบุญ แผ่เมตตาไปให้เจ้ากรรมนายเวรของเราด้วยนะคะ

    ปล.แวะไปแชทที่เว็บจิตเกาะพระด้วยกันก็ได้นะคะ ส่งการบ้านแบบสดๆ คุยกันสดๆ รับของมากมายจากคนปล่อยของ(ธรรมะนะคะ ธรรมะคะ)
    ชนิดที่ว่า ไล่อ่านกันไม่ทัน สนุกมากเลยนะคะ แถมได้ธรรมะเล็กน้อยกันอีกด้วย:cool:
     
  3. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    ยินดีครับ เต็มใจรับครับผม

    มีอะไรส่งมาได้เลยครับ

    เราจะเดินไปด้วยกัน
     
  4. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    ดีแล้วครับ
    เดี๋ยวจะเข้าไปเยี่ยมครับผ้ม
     
  5. Plapersia

    Plapersia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2012
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +775
    ขอสมัครลงชื่อยืนยันสิทธิ์ อีกคนนะคะ พี่ภู^^

    อย่าลืมเก็บตกเด็กคนนี้ด้วยนะคะ อิอิ

    ตอนนี้ไม่ค่อยได้ส่งการบ้านเท่าไหร่ เพราะมัวแต่คุยกะพระท่านค่ะ ฮ่าๆ
    ส่งการบ้านกะพระแทนซะงั้น

    วันนี้ขอส่งการบ้านนะคะ

    ตอนนี้ของร้อนๆมาเสิร์ฟบ่อยมากๆเลยละค่ะ แต่พอเจอก็พยายามจะไม่ไปตามมันนะคะ
    ในใจก็คิดว่า คิดถึงพระไว้ คิดถึงพระท่านไว้ แล้วพิจารณาไปถึงเหตุผลที่แท้จริงของการกระทำที่ได้รับมา
    ตอนนี้ทิวยึดคำว่า ไม่รู้ เป็นหลักนะคะ คิดว่าเค้าไม่รู้(ความจริงของเรา)
    ก็เลยทำออกมาแบบนั้น อย่าไปโกรธเค้าเลย พยายามคิดแบบนี้ตลอดที่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ค่ะ

    จนมาวันนี้ เมื้อกี้เลยดีกว่า ได้รับมอบหมายงานให้ทำ พอเราทำออกมาได้ไม่ดี
    เค้าก็ว่าเราอีกเหมือนเคย ส่งดูถูกมาอีกเหมือนเคย แต่คราวนี้กลับไม่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง
    เหมือนเมื่อก่อนค่ะ คงจะเพราะไม่ได้พบหน้ากันตรงๆด้วย มีประตูกั้นอยู่

    แต่เรากลับคิดไปเหมือนกับว่า เราได้รับคอมเม้นจากอาจารย์(แบบปกติที่เคยเจอ)ซะงั้น
    ความรู้สึกก็คือว่า เรื่องนี้ มันเบาขึ้นสำหรับทิวนะคะ ไม่ได้โกรธหนักเหมือนเมื่อก่อน
    แล้วเราก็กลับไปแก้ไปทำใหม่(เหมือนกับที่เคยทำกับอาจารย์)ก็เท่านั้น ไม่ได้คิดอะไรมาก เหมือนแต่ก่อน

    รู้สึกดีขึ้นเอยะเลยนะคะ ที่ทำได้ขนาดนี้ อ่าวๆๆ ไม่ได้ๆ ต้องรีบลงกฏไตรลักษณ์ด่วนๆ เพลินกับปิติครั้งนี้มากไปนิดนึง แหะๆ ^^

    จบการบ้านวันนี้ค่ะ ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2012
  6. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    ก็สวัสดีเช่นกันครับคุณวิทย์
    ข้าพเจ้าก็ทำไปเรื่อยๆตามประสาวาสนาบารมีของข้าพเจ้าแหล่ะครับ
    ทุกวันนี้ก็ไม่ค่อยจะอยากอะไรเท่าไรแล้วครับ
    ก็พยายามทำเกือบทั้งวันทั้งคืนอยู่แล้ว ยกเว้นตอนลืมกับตอนหลับน่ะครับที่ไม่ได้ทำ
    ไม่เครียดครับ ชิวๆสบายๆอยู่แล้ว ทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ทำ ทำไปเรื่อยๆแหล่ะครับ
    ขอบพระคุณที่เป็นกำลังใจครับ
    ขอให้เจริญในธรรมทุกๆท่านครับ
     
  7. 99kansita

    99kansita เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +310
    สวัสดีค่ะ พี่ภู
    ชะแว่บบบบ...เก้าโผล่มาเจอประกาศบัญชีทองของพี่ภูพอดี
    อืม เก้า...ศีลห้าเป็นปกติ ปัจจุบันพิจารณากรรมบท 10 ให้มั่นคงทุกเวลา
    มีกลุ่มปฏิบัติธรรมไหมคะ ขอลงชื่อจองล่วงหน้านะคะ:VO
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    ปุ่ม"อนุโมทนา"กลับมาแล้วเลยย้อนกลับไปตั้งแต่หน้าแรกเหนื่อยเลยค่ะ แต่ก็ดีที่อ่านคําสอน"จิตเกาะพระ" ยํ้าๆซํ้าๆจากท่านอาจารย์ ทําให้บัวใต้นํ้าเจริญขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง กรุณาอย่าปิดกระทู้นะค่ะท่านภูcatt1
     
  9. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    การทำจิตเกาะพระ มิใช่เป็นเรื่องที่เหลวใหลกันเลย​


    ก็ลองสอบถามอาการ หรืออารมณ์ของคนที่ทำได้ หรือแม้นกระทั่งตนก็ตอบตนเองได้ เช่นกัน

    ทำจิตเกาะพระ มีแต่ดี มีแต่ได้ คือได้อารมณ์ที่ดีดีของตนกลับมา ได้บุญของตนกับมา ได้กลับเข้ามาเดินเส้นทางสายกลาง
    มีปลายทางสูงสุดของจิต ก็คือ พระนิพพาน
    คำว่า นิพพาน แต่สำหรับผู้ที่มัวแต่คิดนึก อย่างนี้ไม่ถึงแน่นอน
    แต่สำหรับผู้ไม่มัวลังเล สงสัย คือรีบตั้งหน้า ตั้งปฎิบัติกันตั้งแต่วินาทีนี้ ลมหายใจนี้ อันนี้มีสิทธิ์ หรือ จิตถึงพระนิพพานไว
    การปฎิบัติไม่ต้องไปดูผู้อื่น แต่ถ้าใครกำลังดูผู้อื่นอยู่นั้น ผู้นั้นก็ถือว่าตนเองประมาทแล้ว เพราะขณะที่เรากำลังดูคนอื่นปฎิบัติอยู่นั้น บางคนทำได้ บางคนก็ทำไม่ได้ อย่าไปเสียเวลาดู แต่ขอให้ดูตนเอง ถามตนเองว่า ตัวเราทำได้หรือยัง?

    จุดเด่นของการทำจิตเกาะพระ
    1.สติเกิดบ่อย
    2.เรา(จิต)เป็นสมาธิ และไปจนถึงจิตทรงฌานง่ายดาย บางทีเราเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป ว่ารู้ตัวอีกทีนึงว่า เรามีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมไปแล้ว รู้แทบทุกอิริยาบถ หรือที่เรียกว่า สติสัมปชัญญะ นั่นเอง
    3.แต่ถ้าจิตผู้ใด เกาะอยู่กับพระ หรือจิตวนเวียนอยู่กับพระ ก็คอยสังเกตตนเองดูกันนะว่า จะไม่ค่อยจะรู้สึกว่าตนเองเป็นทุกข์
    หรือใจปล่อยวางได้ง่ายขึ้น ให้อภัยคนก็ง่าย เพราะจิตเราเริ่มจะเข้าสู่ความสงบ จิตเข้าสู่ดินแดนเมตตา ดินแดนจิตผู้เป็นพรหม หรือพรหมวิหาร4 จิตเข้าเขตแดนวิมุตติ
    เพราะจิตของเราอยู่ในเขตบุญ และเป็นเขตนี้หล่ะ! ที่จิตใจมนุษย์ชอบอยู่กัน มิใช่จิตไปวิ่งตามกิเลส หรือกระแสโลกกัน

    พี่ภู ไม่ต้องการอะไรจากผู้ใด เป็นการตอบแทน
    เพียงแต่อยากให้พวกเราทำจิตเกาะพระกันสำเร็จ
    เพราะนั่นจะหมายถึง เราจะรู้สึกว่าตนเองมีทุกข์กันน้อยลงไป จนถึงไม่มี
    สรุปแล้ว ไม่อยากให้พวกเราเป็นทุกข์ โดยเฉพาะทุกข์ทางใจ เพราะถ้าเกิดขึ้นกับผู้ใดแล้ว จะไม่มีใครช่วยเราได้เลย
    แม้นกระทั่ง คนที่ใกล้ตัวเราที่สุด ก็ยังแกะเอาความทุกข์ใจออกมาไม่ได้เลย

    ยกจิตกันให้สูงกว่าขันธ์5 ก็คือ...
    รูป1 หมายถึง ร่างกาย คือไม่นำจิตไปยึด แต่เกี่ยวข้องได้ เพราะจิตอยู่มานาน
    นาม4 หมายถึง เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ คือเรานำจิตออกมาจากนามทั้งสี่กันให้ได้
    แต่อย่าไปคิดต่อนะว่า เราจะทำอย่างไร ถึงบอกไปก็ไม่เข้าใจกันอยู่
    พี่ภูกำลังจะหมายถงว่า ให้พวกเราลองไปทำจิตเกาะพระกันดูเอง แต่ถ้าสติเรามีมากขึ้น จิตเราก็จะนิ่งสงบมากขึ้นเป็นเงาตามตัว และในขณะนี้ ท่านก็จะทราบถึงความเป็นจริง หรือเริ่มจะเข้าถึงธรรมชาติจิตตนเองแล้ว เพราะเราเริ่มรู้จักจิตตนเองมากขึ้น รู้ตัวสึกตัวมากขึ้น รู้ไปรู้มา ในที่สุดเราก็พบจิตเดิมแท้ของตนเอง เมื่อสติตามทันจิตเมื่อไหร่ เราก็จะเข้าใจธรรมชาติจิตของตนกันเมื่อนั้น

    และสิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือ อยากมีส่วนช่วยพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะสมเด็จองค์ปฐม และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    อาจจะเป็นอันน้อยนิดก็ตามที อยากช่วยลดภาระกรรม อยากทำหน้าที่แทนท่านบ้าง อยากเผยแผ่พระธรรม
    อยากช่วยนำพาจิต ดวงจิตระลึกถึงพระพุทธเจ้ากันให้มาก ในฐานะที่ท่านมีพระธรรมให้พวกเราได้มีโอกาสเรียนรู้กัน จนหลายดวงจิตหลุดพ้นกันมากมาย
    อยากเป็นผู้นำพาดวงจิตระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัยกันให้มาก
    ช่วยยกจิตของผู้ที่กำลังตกอยู่ภายใต้กิเลสแห่งตน หรือ จิตที่กำลังตก

    สุดท้ายก็คือ ไม่อยากเห็นพวกเราเป็นทุกข์ โดยเฉพาะทุกข์ทางใจกัน

    เพราะเหตุผลหลักๆ ก็คือ เราไม่สนใจดูจิต ดูแลจิตตนเอง
    เมื่อจิตไม่เข้าใจอย่างเดียวแล้้ว
    เพราะฉะนั้น เราเองก็จะไม่มีทางจะเข้าใจ เราก็จะเป็นทุกข์ไปแบบนี้ตลอดไป ตราบใดเราไม่สนใจที่จะเรียนรู้จัก คำว่า ทุกข์
    ที่แท้ทุกข์เรานั้น ก็คือ ร่างกายของเราดีๆ นี่เอง

    แต่ถ้าบุคคลใดเข้าใจ หรือไม่รู้สึกเป็นทุกข์ใจกัน ก็เพราะว่า เราเข้าไปถึงกระแสจิตของตนเอง หรือจิตตนเองเข้าไปถึงกระแสธรรม

    และถ้าเราจะเข้าใจคนทั้งโลกใบนี้ได้ เราจะต้องเข้าใจตนเองก่อน
    แต่ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว เราเองนี่แหล่ะ! จะคอยคิดจะเข้าข้างตนเอง(วันยันค่ำ)
    หรือไม่เห็นมีคนจะเข้าใจเราเลย
    อันนี้เป็นเพราะ มิจฉาทิฏฐิ หมายถึง ความเห็นผิด การเห็นกงจักรเป็นใบบัว
    ปัจจัยให้เกิดมิจฉาทิฏฐิ มี 2 อย่าง ได้แก่
    ปรโตโฆสะ คือ การโฆษณาแต่บุคคลอื่น เสียงจากผู้อื่น ฟังคำบอกเล่าชักจูงของผู้อื่น
    อโยนิโสมนสิการ คือ การทำในใจโดยไม่แยบคาย การไม่ใช้ปัญญาพิจารณา ความไม่รู้จักคิด การปล่อยให้อวิชาครอบงำ ตรงกันข้ามกับคำว่า โยนิโสมนสิการ

    แต่ถ้าผู้ใดอยากจะเปลี่ยนนิสัยตนจาก มิจฉาทิฎฐิ มาเป็นสัมมาทิฎฐิ (ความเห็นชอบ)
    กันละก็จะมีเพียงแต่ เจริญกรรมฐาน หรือการปฎิบัติธรรม
    เช่น ทำจิตเกาะพระเป็นต้น
    (หาเรื่อง จบจนได้)
     
  10. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    แหม๊! พูดอย่างนี้แล้ว ใครจะใจดำทิ้งกันได้ลงคอ
    คนในกระทู้นี้ น่ารักทุกๆท่านเลย
    ผมน่ะทิ้งได้แต่กายของตนเอง เท่านั้นแหล่ะ!
    แต่มิอาจจะทอดทิ้งชาวจิตเกาะพระ ชาวจิตบุญๆ พวกเราทั้งหลายกันหรอกจ้า!!!

    แต่อย่าหายไปไหนกันนานนักนะ เดี๋ยวผมจะให้ชาวจิตบุญถอดจิตตามถึงที่เลย""" 555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 มิถุนายน 2012
  11. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    นักภาวนา หรือผู้ปฎิบัติธรรม อย่าเพิ่งไปรีบตามหาธรรม ตามหาความจริงกันเลย ​


    ถ้าในเมื่อเราเองก็ยังไม่เข้าใจจิตของตนเองดีเลย เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้อง มาดูจิต ถึงจะเห็น หรือจะรู้จิตของตนเอง ยิ่งใครขยันดูบ่อยๆ สติก็จะมากขึ้น และจิตก็จะยิ่งนิ่งตามไปด้วย แต่พอจิตของเรายิ่งนิ่งมากเท่าไหร่ เราก็จะเข้าไปถึงจิต ธรรมชาติของจิตตนเองมากเท่านั้น
    ความนิ่งนี้แหล่ะ จะยิ่งทำให้เรารู้มาก รู้กว้าง รู้ลึก รู้ในสิ่งที่คนอื่นๆไม่รู้
    เมื่อเราสามารถเข้าไปถึงกระแสจิตของเองได้แล้ว และอีกไม่นานนัก เราก็จะพบธรรม ธรรมชาติ หรือความจริงทุกๆอย่าง
    ตามที่ตนเองอยากรู้มานาน หาคำตอบจากผู้ใดก็พบเจอ ถึงแม้นมีใครพยายามบอกกับเรามากเท่าไหร่ เราก็จะไม่เก็ต ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ก็เพราะเหตุฉะนี้ ก็คือ จิตของเราไม่นิ่ง อย่างเดียวเลย

    แค่เริ่มทำจิตเกาะพระกันนิดเดียว รางวัลครั้งแรกที่จิตเกาะพระติดกัน ก็คือ อาการปิติ สุข
    ก็ลองๆไปถามท่านที่เคยผ่านมาแล้ว เช่น น้ำตาร่วงรินไหลเคลียแก้มโดยที่เราแทบไม่รู้ตัวกันด้วยซ้ำไป
    (อันนี้ต้องไปถามน้องหญิงเล็ก หรือลูกหว้า เป็นการส่วนตัวกันดูนะ สำหรับท่านนี้เกิดปิติมาก จนน่ากลัว คือเธอร้องไห้ทั้งคืน ไม่ยอมหลับยอมนอน เป็นทั้งอาทิตย์ สองอาทิตย์ 5555 ไม่ได้เผากันนะ(เกรียมรึยัง?) แต่ยกมาเป็นธรรมทาน)
    ไหนๆก็พูดถึงตรงนี้กันแล้ว พี่ภูคิดว่าก็มีจำนวนไม่น้อย ที่ไม่กล้าเปิดเผย เพราะจะอาย หรือด้วยเหตุใดก็ตามที
    พี่ภูขอฝากตรงนี้นิดนึง ก็คือ ทำจิตเกาะพระ เราขอให้จิตเกาะพระได้แนบแน่นก็พอ เราจะทราบกันได้ตรงนี้เองว่า จิตเกาะพระกันติดหรือยัง ขอให้พวกเราคอยสังเกตอาการของจิตของตนตรงนี้กันง่ายๆก็คือ เกิดปิติตามที่กล่าวไปแล้ว
    จะเกิดมากหรือน้อยไม่สำคัญ เหตุที่เกิดปิตินั้น ก็คือ จิตเริ่มเกาะพระติดกันแล้ว เมื่อใครเป็นอย่างนี้ก็พยายามทำให้มากขึ้น
    จนจิตรวมเมื่อไหร่ คราวนี้จิตเกาะพระแนบแน่นยิ่งไปแล้ว ครั้งๆต่อไป เราก็แค่มีสติรู้ตัวบ่อยๆว่า จิตเราอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไร หรือกำลังมีอาการ อารมณ์อย่างไร ดูแค่นี้เอง อย่าไปขัดขวางการทำงานของจิตกันนะ
    แต่ถ้าผู้ใดเข้าไขัดขวางแล้ว จะเสียโอกาสการเข้าถึงจิต ธรรมชาติแห่ง หรือกระแสจิตกันเลยทีเดียว
    เมื่อจิตผ่านปิติ

    เมื่อผ่านปิติ ต่อไป จะพบกับจิตยิ้ม เกิดขึ้นมาจากจิตนิ่งสงบ ความสุขมันผุดออกมาจากภายใน จิตในจิตของตนเอง
    (อันนี้น้องทิวลิปกำลังเป็นอยู่ จนน้องเขาต้องกลับมาถามตนเองว่า เราเป็นบ้าไปรึเปล่า?)"""555 ลองไปถามเธอเอาเองนะ ไม่ได้เผากันนะ ยกเพื่อเป็นธรรมาทาน)
    ใครด่ายังอมยิ้มได้ พวกเราก็คิดดูเอาเองก็แล้วกัน แต่ก็ดีกว่าอมทุกข์กันเน๊อะ!
    ตอนนี้เธอเริ่มสบายไปแล้ว จากเมื่อก่อนจิตเธอหลอนมาก สภาวะแวดล้อมก็ไม่อำนวย แต่ยังดีนะ ที่ภายในของเธอดีมาก บุญยังนำพาให้รอดได้
    และครูเพ็ญกำลังจับตามองจิตของเธออยู่ และน้องคนนี้ อีกไม่นานจิตจะยกตามรุ่นพี่ๆเขา

    เมื่อจิตผ่านสุข เพราะจิตทรงสมาธิ ทรงฌานต่ำๆ นั่นเอง
    แต่เมื่อไหร่ จิตทรงฌานสูง สูงเกือบจะถึงสี่ จิตจะผ่านสุข คือสุขจะหายไป อันนี้ขอให้เราเทียบจากตำรากันดูก็ได้ สำหรับผู้(จิต)ที่ยังมาไม่ถึงกัน ขอให้ดูลำดับฌาน 1-2-3-4 หรือองค์ฌาน5
    เช่น จิตทรงฌาน 1 จะประกอบด้วยองค์ฌาน5 ได้แก่ วิตก วิจาร ปิติ สุข เอกัคคตา
    จิตทรงฌาน 4 จะประกอบด้วยองค์ฌาน2 ได้แก่ เอกัคคตา แต่จะมีอุเบกขา(ความวางเฉย) เข้ามาเพิ่มทีหลัง
    (เพิ่มเติม http://palungjit.org/smati/k40/smabat.htm )

    (จิต)ของนักภาวนา ส่วนใหญ่ก็มักจะไม่เจริญในธรรมก็เพราะว่า จิตไปติดสุข จากฌาน บางท่านหลงนึกว่าตนเองบรรลุธรรมก็มี เพราะว่ามันรู้สึกว่า เป็นสุขเหลือเกิน(นึกว่าจิตตนเองที่อยู่ณ.ขณะนี้ ไม่มีที่ใดเป็นสุขเท่านี้อีกแล้ว แต่ที่ไหนได้ พอมารู้ตัวอีกทีนึงว่า เมื่อฌานถอย ฌานเสื่อม จิตก็จะไปวิงตามกระโลก แล้วในที่สุดก็ไปรับทุกข์มาจนแล้วจนรอด)
    นี่ขนาดจิตทรงฌานมันยังมีความสุขกันมากถึงขนาดนี้ แต่หารู้ไม่ ยังมีความสุขยิ่งกว่าความสุขที่จิตเกิดฌาน ทรงฌาน นั่นก็คือ ญาณ(ยาน)

    แต่จิตเราจะต้องผ่านการทำวิปัสสนา หรือพิจารณาธรรมกันก่อน
    เมื่อผ่านวิปัสสนากันแล้ว ทุกๆธรรม ทุกๆที่จิตไปเรียนรู้มานั้น จะต้องน้อมจิตขณะที่วิปัสสนากันอยู่นั้น ให้น้อมจิตลงมาพระไตรลักษณ์กันให้หมด
    จิตจึงจะเ้ข้าไปถึงธรรมชาติที่แท้จริง ความเป็นธรรมดา หรือที่เราเรียกกันว่า จิตไปพบสภาวธรรม(สัจธรรม คือ สภาวะที่มีที่เป็นอยู่ตามธรรมดาของมัน) หรือสภาวธรรมอยู่ที่การปฏิบัติเพื่อเข้าถึงธรรม กาย จิต อารมณ์ บ่มนิสัย
    แนวปฏิบัติ ตามจริต จับจุด เข้าใจ ทำได้ ทำเป็น ทำทัน รู้เท่าทัน เข้าถึงกฏพระไตรลักษณ์ เข้าถึงผล
    ธรรมะ ธรรมดา สูงสุดคือสามัญ
    จุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุด อยู่ที่เดียวกันฯ

    และจิตจึงจะยอมละ ปล่อย วางกับสิ่งสมมุติที่เราเรียกกันนั้นได้
    เราถึงจะรู้สึกสบายกาย รู้สึกสบายใจ หรือเบากาย เบาใจ หรือจิตโล่ง โปร่งเบา เป็นต้น
    เมื่อผู้ปฎิบัติได้ฌานเป็นพื้นที่ดีแล้ว จงโปรดทำวิปัสสนาต่อไป คือใช้สติปัญญากันต่อไป
    พวกเราถึงจะหลุดพ้น คำว่า กองแห่งทุกข์ หรือ วัฎฎจักร

    บำเพ็ญเพียรกันต่อไป จนกว่าจิตจะยก จิตจะอยู่เหนือขันธ์5 นั่นแหล่ะ!
    ถึงจะมีสิ่งมากระทบจิตตนก็ตามที จะไม่มีผลต่อจิตใจของตนแล้ว
    เมื่อจิตเข้าถึงความเป็นธรรมดา ธรรมชาติ หรือกฎไตรลักษณ์
    จิตถึงจะสงบ จึงจะวางเฉย หรือเข้าอุเบกขากันได้

    แต่พระอรหันต์ ท่านมักจะแอบเขา สัญญาเวทยิตนิโรธ(นิโรธสมาบัติ)คือการเข้าไปดับสัญญา ความจำมั่นหมายรู้ หรือตัดความรู้สึกใดๆกับ กายกับจิตแบบชั่วคราว แต่จะอาศัยฌานสูงเป็นหลัก
    สัญญาเวทยิตนิโรธ เป็นสมาธิขั้นที่ ๙ ถือว่าเป็นสมาธิสูงสุดของพระพุทธศาสนาของพวกเรา

    ว่างก็เลยมานั่งบ่นธรรมะให้ฟังกัน
    อย่าไปคิดว่าผมมาสอนธรรมะกันเลยนะ นึกเสียว่ามาแ่บ่งปันธรรมะกัน มาแบ่งปันความสุขกันและกัน

    จบ...
     
  12. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [​IMG]

    แผนภูมิอย่างนี้ พวกเราปฎิบัติกันไหวม่ะ!
    แต่ถ้าทำจิตเกาะพระกันนะ จิตจะกระโดดข้ามกันอย่างง่ายดาย


    ดูตัวอย่างคุณแสงจันทร จิตยกก็ยังไม่ทันรู้ตัว เพราะสติตามไม่ทันจิต นั่นเอง และถ้าสติตามทันจิตได้เมื่อไหร่ จิตจะเข้าสู่วิปัสสนาทันที
    พวกเราไม่ต้องไปรู้ธรรมะมากกันหรอก เดี๋ยวถ้าพวกเราสามารถเข้าไปได้ถึงกระแสจิตแห่งตนกันแล้ว ธรรมะก็จะผุดออกมาตามเก็บกันไม่หวอดไม่ไหว จนขี้เกลียดจะเก็บ จนขี้เกลียดจะพูด เพราะทุกธรรมที่ผ่านจิต จิตก็จะวางหมด ได้แต่นั่งรู้อยู่ภายในจิต ในจิตของตน แต่ผู้เดียว
    ใครจะเกิด ใครจะป่วย ใครแก่ ใครจะตายก็เฉยๆ เฉยรู้ภายในนั้น
    จิตจะเป็นอุเบกขาญาณไปโดยอัตโนมัติ
    ทุกข์ก็ไม่มี สุขก็ไม่เอา เหมือนมันไม่มีอะไรเลย
    สุขก็ไม่ใช่ มีแต่ความว่างเปล่า

    พอๆวันนี้ต้องบอกให้พอ มันจะลื่นไหลอีกแล้ว​
     
  13. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ความสุขที่ไม่มีใครมาแย่งไปจากเราได้เลย

    นั่นก็คือ ความสุขที่เกิดจากภายในกาย ภายในใจของตนเอง

    ใครอยากยกจิตของตนเองให้ไวๆ
    1. ให้ไปเริ่มต้นที่ศีลก่อน ถือโอกาสนี้สำรวจเรื่องศีลของตนเองเสีย
    เรารักษาศีลหยาบครบหรือยัง? (ศีล5)
    เอาแค่เจตนาเป็นหลักก็พอ เพราะศีลมีหลายระดับ บุญก็มีหลายระดับ ธรรมะก็มีหลายระดับ
    แล้วเราจะเอาอะไรมาวัดผล
    ตอบว่า จิตใจเรานี่แหล่ะ!
    อย่างอื่นอย่าไปสนใจ ขอให้เราสนในเรื่อง จิตของตนเอง เป็นหลักก่อน
    ผู้ใดฝึกฝนจิตมาดี หรือ จิตยิ่งละเอียดเท่าใด ศีล บุญ หรือว่าธรรมะก็จะสูงตามจิตของตนไปด้วย

    2. ต่อไปสำรวจเรื่องกรรม โดยในที่นี้ขอเน้นเรื่อง กรรมไม่ดี
    ไม่ต้องตกใจว่าเราจะมีกรรมอะไรไม่ได้ มีด้วยกันทุกคนนั่นแหล่ะ! นับตั้งแตอดีตชาติ ที่เราจำกันไม่ได้ เป็นต้น
    แต่ขอให้เราสนใจเรื่องจิตก่อน แก้ไขที่ต้นเหตุก่อน หยุดกรรมไม่ดีก่อน แล้วเราก็หมั่นสร้างแต่กรรมดี แต่ในปัจจุบัน
    ส่วนกรรมไม่ดีในอดีต ไม่ต้องเสียเวลาไปขุดมันขึ้นมาอีก เพราะมันไม่มีประโยชน์
    นี่ขนาด องคุลิมาล หรือ พระองคุลิมาลเถระ เป็นบุคคลสำคัญในยุคต้นแห่งพุทธศาสนา โดยเฉพาะตามพุทธประวัติพุทธฝ่ายเถรวาท เดิมนั้นเป็นโจรปล้นฆ่าคน แต่ภายหลังมีศรัทธาในพุทธศาสนา ได้กลับใจบวชเป็นพระภิกษุ และบรรลุเป็นพระอรหันต์ กันได้เลย
     
  14. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ก่อนอื่นจะต้องโมทนาสาธุ...สาธุ เป็นล้านๆครั้งก่อน ถึงจะสะใจ
    เพราะคุณแสงจันทร์เธอมีทุกข์มากเหลือเกิน อยู่กับทุกข์ ยอมที่จะเรียนรู้กับทุกข์ นี่คือ หนทางของผู้มีปัญญาเขากระทำกัน
    เพราะต่างก็รู้กันดีว่า ร่างกายของเรานั้นก็เปรียบเสมือนโรงงานผลิตทุกข์ดีๆนี่เอง เราเกิดมาหนีทุกข์กันไม่พ้นหรอก
    แต่เราจะอยู่กับทุกข์ได้โดยที่เราไม่ต้องเป็นทุกข์กับมัน
    พูดง่ายๆก็คือ จับจิตแยกออกจากกายซะ! นั่นพูดง่าย แต่ทำยาก

    เห็นเธอเกาะกระทู้มาตั้งนานแล้ว แต่ผมเห็นล่าสุด ที่เธอเห็นธรรมะที่ผมกำลังแสดงให้กับน้องทิวลิป ก็คือเรื่องคุณแม่ของน้องทิวลิป ผมก็แนะนำไปตามภาษา และในฐานะที่อาบน้ำร้อนมาก่อน จึงได้แนะนำสำหรับผู้ที่กระทำล่วงเกินกับคุณพ่อ คุณแม่ หรือบุพการี หรือผู้มีพระคุณ
    เมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ก็ให้พวกเรารีบๆไปขอขมากันซะไวๆ ก่อนที่จะหมดโอกาส เพราะถ้าท่านจากเราไปแล้ว มันจะส่งผลกรรมไม่ดีกับเราทันที เช่น ทำมาหากินไม่ค่อยราบรื่น ไม่เจริญในศีล ในธรรม
    บางท่านทำมาเต็มที่แล้ว แต่กลับไม่ได้ดี และแล้วโอกาสทองบางท่านก็หลุดลอยไปซะง่ายๆ โดยเฉพาะผู้มีความเพียรน้อยละก้อ จะเลิกทำทันที

    แต่สำหรับคุณแสงจันทรเธอก็ไวดีเหมือนกัน ผมจำได้ว่า เธออ่านธรรมะที่ผมสนทนากับน้องทิวลิปอยู่นั้น คุณแสงจันทรเธอเห็นธรรม ตกเย็นรีบซื้อพวงมาลัยไปขอขมาคุณแม่ของเธอ (ใครจะเรียนแบบเธอก็ตามใจนะ)
    และอีกไม่นานนัก ก็ไม่มีอะไรไปหยุดยั้งจิตของเธอ ขณะทำจิตเกาะพระไปเพลิน อีกไม่นานก็ได้ข่าวเธอว่า จิตเธอยกขึ้นไปเรียร้อยแล้ว สบายไปแล้ว
    เธอยกอย่างไร ก็ดูธรรมะที่เธอเอ๋ยมากันดู เพราะทุกคำพูดจะพูดออกมาจากข้างในนั้น ทุกท่านจะพอสัมผัสได้ ว่าคนที่พูดส่งเดช กับพูดแบบมีสาระมันผิดกัน โดยสิ้นเชิง

    กรณีของแสงจันทรใครจะหาว่าเป็นเพราะความบังเอิญ อันนี้ผมไม่ทราบ เพราะจิตผมจะไม่เสียเวลาไปคิด โดยเฉพาะ อกุศล
    พยายามให้พวกเรานำจิตเกาะพระกันเข้าไว้ เพราะเหมือนเราที่กำลังทำจิตเกาะพระกันอยู่นั้น จึงเปรียบเสมือนนำจิตเป็นฝากพระ หรือนำจิตไปเกาะแต่ฝ่ายบุญกุศลแล้ว


    ไม่รู้เป็นอย่างไร เวลาเห็นคนพ้นทุกข์นี่นะ มันหายเหนื่อย มันสบายรู้สึกโล่งๆ สบายๆ บอกไม่ถูก
    บางคนที่ยังไม่เข้าใจ คำว่า จิตยก
    จิตยก คืออะไร มันเป็นอย่างไร ก็ลองไปตามอ่านกันดูก็แล้วกันนะว่า พวกจิตยกนั้น
    อาาการ อารมณ์ของพวกเขาเป็นอย่างไร
    ดูพวกเขาเป็นทุกข์ หรือเป็นสุขกันมากน้อยเพียงไร
    เมื่อจิตปฎิเสธกายหยาบนั้น มันรู้สึกเช่นไร
    สำหรับผู้ที่กำลังจะหนีภัยพิบัติอยู่ณ.เวลานี้ ก็ไม่รู้จะพูดกันอย่างไร ถึงจะรู้เรื่อง
    ผมมีทางเดียวก็คือ นำจิตพวกเราเกาะพระ เกาะบุญกุศลกันดีกว่า เกาะไป เกาะมา จิตยกโดยไม่รู้ตัวกัน เพราะเรื่องจิตเป็นเรื่องภายใน มิใช่ภายนอก มิใช่เรื่องกาย
    เมื่อจิตคนเราไม่ไปยึดกายของเราเพียงอย่างเดียว แล้วที่เหลือเราจะไปยึดอะไรกันอีกเล่า
    ที่คนเป็นทุกข์กันได้ทุกวันนี้กัน ก็เพราะว่านำจิตไปยึดร่างกาย ก็เท่ากับนำจิตไปจมอยู่กับกองทุกข์ นั่นเอง

    สงสัยวันนี้จะวันเก็บ และก็กด...555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 มิถุนายน 2012
  15. Plapersia

    Plapersia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2012
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +775
    ขออนุโมทนาบุญพันๆครั้งค่ะพี่เพ็ญ เมื่อคืนนอนหลับสบายมากเลย ^^

    แล้ววันนี้พ่อภูน่ารักจัง กิ๊วกิ๊ว >< (เอาธรรมะมาฝากเยอะมาก เย้!)

    เลยเอาของมาเซ่น ฮ่าๆ

    เอามาให้คนที่เข้ามาอ่านธรรมะ และพี่ๆชาวจิตบุญทุกๆคนด้วยนะคะ


    ปาท่องโก๋-สังขยา กับโจ๊ก รับอรุณค่ะ^^

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ทิวกลัวพี่ๆติดคอกัน

    เลยเอาน้ำเต้าหูมาเพิ่มค่ะ ฮ่าๆ

    [​IMG]

    ปล.เดี๋ยวนี้ชักเริ่มสนุกกับการเล่นเสิร์ฟข้าวเสิร์ฟน้ำ ฮ่าๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2012
  16. preechaniy

    preechaniy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +2,356
    ผมขอลงชื่อด้วยครับ Preechaniy
     
  17. tom tana

    tom tana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +833
    ขอลงชื่อด้วยคนนะคะ ติดตามธรรมะของคุณภูมาจากกระทู้สัญญาณฟ้าค่ะ ตอนนี้เร่งทำความเพียรจิตเกาะพระอยู่ค่ะ
     
  18. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    โมทนาสาธุ เอาแล้วมั้ยล่ะ ครูเพ็ญเราจะได้ครูสอนจิตเกาะพระอีกท่านแล้ว ดัชตะลุยทางโทรศัพท์วันนี้เจอแต่เช้าสี่สายเลย
    คุณแสงจันทร ตั้งจิตอธิษฐานกับท่านพ่อเพื่อทำงานเพื่อท่านพ่อ
    เป็นครูสอน ช่วยยกระดับจิตผู้คนค่ะ โมทนาสาธุอีกครั้งค่ะ
     
  19. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    โมทนาสาธุจ๊ะคุณนกชาย จิตเกาะพระจิตนิ่งจิตเบาสบาย แล้วปล่อยวางทุกอย่าง จิตเรียนรู้ถึงที่มาของตน เพราะโดยแท้แล้วจิตของเรา
    ไม่มีใดๆเป็นจิตที่บริสุทธิ์ แต่ที่คนเราเป็นอยู่โดยรวมทั้งหมดทั้งมวลนี้
    ก็เพราะกิเลสทั้งเพ เอ๊าพวกเราอ่านกันแล้ว คุณนกชายบอก
    เอาจิตมาเกาะพระ เร๊วววววววววววววววววว
     
  20. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    สวัสดีค่ะ คุณวาริน ยินดีต้อนรับเข้ามาเป็นชาวจิตเกาะพระกันอีกท่าน ขอโมทนาสาธุในความเพียรของคุณวารินค่ะ ดัชนีชอบจริงๆ ใครที่มีความเพียร จริตนี้มาเหมือนกันค่ะ เอ๊า เป็นกำลังใจให้ค่ะ
    ความเพียรมีสม่ำเสมอกำลังใจมาไม่ขาดสาย ส่งรายงานการปฎิบัติจิตเข้ามาได้นะคะ หากไม่อยากออกรายการ pm ก้อได้ค่ะ
    ขอให้เจริญในธรรม และ ตั้งจิตตรงไปนิพพานให้มั่นตั้งแต่นี้ไปค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...