ช่วยสอบอารมณ์ผมหน่อย...

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ฟางว่าน, 2 มิถุนายน 2012.

  1. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    พระศรีหลังอานไม่มี มีแต่พระศรีอริยะเมตไตรย์ ไม่ได้บ้า เดือดเนื้อร้อนใจแล้วกราบขอโทษท่านซะ หลายคนจาบจ้วงพระพุทธเจ้า ก็เพราะไม่รู้จริง...
     
  2. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ทำอะไรใครที่ไหนไว้เยอะ แต่ถ้าทำคุณงามความดีน่ะเยอะ โปรดขอทานเป็นพระโสดาบัน โปรดลูกไก่เป็นพระโสดาบัน โปรดสุนัขเป็นพระปัจเจกพระพุทธเจ้า โปรดควายเป็นพระสกทาคามี เป็นต้น...
     
  3. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ เป็นวิศวกร..........
     
  4. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    คุณบอกว่าผมไม่เข้าใจความหมายของอนัตตา งั้นผมถามคุณหน่อยอนัตตาแปลว่าอะไร แก้มาดิ...
     
  5. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    กูไม่ได้บรรลุคฤหัสถ์ผล กูเป็นพระอนาคามี...
     
  6. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    มึงนั่นแหละไอ้oatthidet เลิกประกาศตัวเป็นพระอริยะ พระอริยะพ่อมึงสิโง่กว่าหมาที่กูโปรดมันเป็นพระปัจเจกพระพุทธเจ้าอีก...
     
  7. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ที่ไปทำอะไรโง่ๆไว้ก้แก้ตัวนะครับ...
     
  8. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    พระพุทธเจ้าท่านสูง จากศิษย์เอกของพระพุทธเจ้า...
     
  9. action_jai

    action_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2007
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +241

    ....ถ้าเห็นอนัตตา...แล้วคุณจะอยากเป็นโน่นเป็นนี่ไปทำไม...มันสมควรแก่การเป็นแล้วหรือ...เป็นอะไรแล้วได้อะไร....


    ....หากท่านเป็นพระอริยะ แล้วจะทำให้ท่านมีความสุขหรือ....
    ....ความเข้าใจว่าท่านได้เป็นแล้ว ทำให้ท่านทุกข์หรือไม่...
    ...การเป็นอะไรก็ตามในโลกใบนี้ มันทำให้มีความสุขได้แน่หรือ...
    ...อะไรที่เป็นแล้วไม่ทุกข์บ้าง ไม่ว่ากษัตริย์ นักบวช เศรษฐี ปุถุชน...
    ......มันมักจะพ่วงความทุกข์มาด้วยอยู่เสมอใช่หรือไม่.....
    ....การเป็นอะไรที่ไม่อยากเป็นก็เช่นกัน มันก็เป็นอีกด้านของความอยากไปให้พ้น...ก็เป็นทุกข์
    ...เป็นคนธรรมดาที่ไม่อยากเป็น เพราะมันไม่มีอะไร...ก็เป็นทุกข์
    ....เป็นคนที่ไม่รู้ทางไปนิพพาน ไม่รู้วิธีดับทุกข์....ก็เป็นทุกข์
    ....เป็นคนที่ผู้อื่นไม่เข้าใจ....ก็เป็นทุกข์
    ....สุดท้าย...แม้คิดว่าตนรู้ธรรม...ก็เป็นทุกข์
    ....ดังนั้น ยอมรับตนเองได้...แม้จะไม่ได้มีความสุขล้นเหลือ แต่ก็ไม่ทำให้เป็นทุกข์...

    .....ท่านว่าจริงหรือไม่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 มิถุนายน 2012
  10. action_jai

    action_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2007
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +241
    ธรรมเหล่าใด
    เป็นไปเพื่อความกำหนัดย้อมใจ
    เป็นไปเพื่อสะสมกองกิเลส
    เป็นไปเพื่อความอยากใหญ่
    เป็นไปเพื่อความไม่สันโดษ
    เป็นไปเพื่อความคลุกคลีกันเป็นหมู่เป็นคณะ
    เป็นไปเพื่อความเกียจคร้าน
    เป็นไปเพื่อความเลี้ยงยาก
    นั่นไม่ใช่ธรรม ไม่ใช่วินัย ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า
    แต่ถ้าหากว่าข้อปฏิบัติการกระทำ หรือคำสอนเหล่าใด
    เป็นไปเพื่อความคลายกำหนัดย้อมใจ
    เป็นไปเพื่อคลายความทุกข์
    เป็นไปเพื่อไม่สะสมกองกิเลส
    เป็นไปเพื่อความไม่คลุกคลีกันเป็นหมู่คณะ
    เป็นไปเพื่อความขยันหมั่นเพียร
    เป็นคนเลี้ยงง่าย
    นั้นเป็นธรรมเป็นวินัยของพระพุทธเจ้า

     
  11. โปรเซดอน

    โปรเซดอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +171
    ได้กลิ่นไม่ค่อยดี โปรดระวังอสูรปลา่เผา
     
  12. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    1. แล้ววววว.........พระศรีที่ท่านกล่าวถึง อยู่ที่ไหนครับ ตัวอยู่ไหนครับ จะได้กราบถูกครับ...

    2.ที่ว่าหลายคนจาบจ้วงพระพุทธเจ้า เพราะไม่รู้จริง งั้น ที่รู้แล้วจริง คือ รู้ ยังไงครับ ว่ามาสิครับ อยากฟัง ..
     
  13. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    กระทบกระทั่งด้วยคำพูดหรือเสียง หรือการอ่านก็นำมาเป็นอุบายในการละความโกรธ ความโกรธนั้นไม่ดีเลย อุบายในการละคืออย่าไปถือว่าเป็นเราเป็นของเรา ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่ใช่อัตตาตัวตน ตัวตนเราก็อนัตตา มันก็ไม่มีอะไรมากนอกจากธรรมดำกับธรรมขาว ธรรมดำคือเสพกาม ธรรมขาวคือปราศจากกาม ผมแนะว่าไม่เสพกามน่ะมีความสุขกว่า เรื่องปัญญาคนปัญญาอ่อนมันก็ปะทะคารมกับพระพุทธเจ้าได้ แต่ใจนี่สิ การบรรลุธรรมเช่นเป็นพระอรหันต์นั้นเป็นที่ใจ เมื่อใจหมดอาสวะกิเลสก็ได้ความสุข ความสุขแท้ในเส้นทางมรรคผลนิพพานคือความสงบ จะนิพพานก็ต้อง 1.ทาน 2.ศีล 3.ภาวนา และฝากบอกทุกท่านด้วยว่า ธรรมะไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง อย่าคิดหรือปฏิบัติเหมือนกับว่าธรรมะข้าใครอย่าแตะ สัตว์นรกเขายังมีการฟังธรรมเลย การปฏิบัติตนให้ดีทั้งทางกาย วาจา ใจ นั่นแหละคือธรรมทั้งปวง...
     
  14. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    เฉยๆ...ใจมันว่างจากอาสวะกิเลสจะให้ว่าไง ว่างก็คือว่าง แต่ที่ไม่ว่างก็ทำตัวเอง ถ้าได้สติก็ไม่ทำตัวเอง ทำตัวเองก้เป็นทุกข์ ถามด้วยการเตือนสตินะ เคยรู้บ้างมั๊ยว่าตายแล้วไปไหน อธิบายตรงนั้นผมจบแล้วก็น่าจะเข้าใจ เมื่อไม่เข้าใจก้แล้วแต่คุณเองละกัน...
     
  15. กาน้ำ

    กาน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +153
    ผมสงสัยว่าผมบรรลุธรรมขั้นไหน
    ผู้บรรลุธรรมแม้แต่พระอริยะเบื้องต้นอย่างพระโสดาบัน ท่านเลิกสงสัยแล้ว เพราะท่านดับวิจิกิจฉาได้เป็นสมุจเฉท

    ผมจะให้ข้อมูล โดยเฉพาะสอบเทียบกับสังโยชน์ 1.รูปร่างกายผมเห็นว่าไม่ใช่เรา เป็นอนัตตา คือบังคับบัญชาไม่ได้
    เป็นสัญญา (ความจำ) ที่เคยได้อ่าน ได้ยิน ได้ฟัง ได้ท่องจำมา

    2.ผมเคารพและศรัทธาพระรัตนตรัย
    เคารพคุณธรรมของพระพุทธเจ้า คุณของพระธรรม คุณธรรมของพระอริยะ๔คู่๘บุรุษ
    ศรัทธาคือการหยั่งลงเชื่ออย่างสนิทใจ ไม่คลอนแคลนในพระพุทธเจ้า ในพระธรรมวินัย ในพระอริยะ๔คู่ ๘บุรุษ

    3.ผมรักษาศีล 5 ศีลผมบริสุทธิ์ประมาณ 95%
    ศีลพระอริยะ วัดกันที่กุศลกรรมบถ ๑๐ / ศีล ๘
    ศีล ๕ เป็นศีลรักษาเบื้องต้นของปุถุชน

    4.ผมมีเจตนาออกจากการเสพกาม เลิกเที่ยวมาหลายปีแล้ว ยังช่วยตัวเองวันละครั้ง แต่อสุจิเหือดหมดแล้ว และกระทำแค่ 5-10 วินาทีผมก็หยุด
    -การเที่ยวคือการออกไปมีอะไรกับผู้หญิงอื่นที่เจ้าของไม่อนุญาติ ( พ่อแม่, สามี) ผิดข้อกาเม
    -การช่วยตัวเอง คือการสร้างความสุขด้วยมือเพื่อให้ตัวเองพอใจ
    -หากอสุจิเหือดจริง หมายถึงหมดความต้องการแล้ว วันละครั้ง ๕-๑๐ วินาทีคงไม่มีทางเกิดขึ้นอีกเลย และมือคงจับพระไตรปิฏกอ่านแทน

    5.ไม่มีความขัดใจ ส่วนความโกรธและความไม่พอใจมีบ้างแต่ก็พยายามทำอยู่
    อาการขัดใจ ขุ่นเคืองใจ เหนื่อย เพลีย เบื่อ เซ็ง โกรธ ไม่พอใจ เป็นอาการของโทสะทั้งสิ้น

    6.ไม่มีความกำหนัดยินดีในรูปใน post jung ดูวันละคั้งๆละ 4-5 นาที แต่ไม่มีอารมณ์ เพียงแต่เป็นความเคยชิน
    ถ้าเคยชินทางธรรมมากกว่าจะไม่มีเหตุปัจจัยให้คลิกเข้าไปดูอีกเลย

    7.อรูปราคะผมยังไม่เข้าใจ
    อรูปราคะ (ราคะที่ไม่มีรูป, ไร้รูป) หมายถึงอาการที่อยากและติดข้อง (โลภะ) ในอรูปฌานและอรูปภพ

    8.ไม่ถือเนื้อถือตัว เข้ากับคนได้ทุกระดับชั้น
    การเข้ากับผู้อื่นได้ไม่มีแปลว่าไม่ถือเนื้อถือตัว มานะเป็นกิเลสอย่างละเอียดดับด้วยคุณธรรมของพระอรหันตร์

    9.ไม่ฟุ้งไม่ปรุงเรื่องกาม ถ้าฟุ้งฟุ้งเรื่องจินตนาการตอนตัวเองบวชเป้นพระแล้วแสดงธรรม มีคนมาฟังเป็นพันๆคน
    อุทธัจจะ (ฟุ้งซ่าน) เป็นกิเลสละเอียดดับด้วยคุณธรรมของพระอรหันตร์ โดยมากจะซ่านไปกับสิ่งที่ตัวเองพอใจและชอบ

    10.อวิชชายังไม่รู้แต่ที่เข้าใจคือรู้จักทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค นอกจากนี้ชอบทำบุญให้ทาน ชอบให้ธรรมะเป็นธรรมทาน
    เวลามีความไม่พอใจก้จะอุเบกขาหรือปลีกตัวออกมา ชอบฟังเพลงฟังทุกวัน และชอบไปวัดป่าบ้านตาดไปฏิบัติธรรม
    ครั้งละ 1-2 ชั่วโมงแล้วจึงเดินทางกลับบ้าน และไม่กินปลา(คาว) และเป้นคนศรัทธาธรรมสูง...
    -อวิชชา (โมหะ)
    เป็นกิเลสละเอียดดับด้วยคุณธรรมของพระอรหันตร์
    -ทำบุญให้ทาน ธรรมทาน เป็นการขัดเกลาลดความตระหนี่ (มัจฉริยะ) ได้ทั้งอโทสะกับอโลภะ
    -เวลาไม่พอใจใช้อุเบกขาดับไม่ได้ การปลีกตัวออกมาเป็นการลดการปะทะ ไม่สั่งสมอารมณ์โกรธไปมากกว่านี้
    -การฟังเพลงเป็นโลภะปรุงพร้อมกับโมหะ ให้พอใจลื่นไหลไปกับเสียงเพลง
    -ไปวัดกับอยู่บ้าน หากเจริญสติเป็นปกตินิสัยอยู่ที่ไหนก็ไม่ต่างกัน
    -ไม่ทานปลา แต่ทานเนื้อสัตว์อื่นเรียกได้ว่าทานเนื่อสัตว์
    -ศรัทธาธรรมสูงเป็นเรื่องดี หากประกอบด้วยปัญญา

    ขอคำชี้แนะจากท่านผู้รู้ด้วยนะครับ ต่อไปนี้ไม่มีอาการวีนอีกแล้ว ได้สติแล้วครับ...อ้อ! จบปริญญาตรีวิศวะไฟฟ้าครับ...
    มีสติใช่ว่าจะมีปัญญา
    แต่การมีปัญญานั้นหมายความว่าสติได้เกิดขึ้นก่อนหน้านี้แล้ว


     
  16. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ชัดเจน :cool:
     
  17. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    เก่งจัง พ่อคุณ เอาตัวให้รอดก่อนเหอะ แล้วค่อยไปสอนคนอื่น อย่าเก่งแต่ปาก
     
  18. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    พูดได้ดีๆ บางคนทำตัวเหมือนบ้าๆบอๆ แต่จริงๆแล้วอาจไม่เป็นอย่างที่คนทั่วไปเห็น

    แต่บางคนทำตัวเหมือนผ้าขาว เหมือนคนเก่ง แต่จริงๆแล้ว ไม่มีอะไรที่สมราคาคุยเลย.........
     
  19. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    แหม อ่านตั้งแต่หน้า 1 ถึงหน้านี้ ยอมรับว่าอ้ายเสมากล้าจริงๆ.............
     
  20. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ขอบพระคุณที่เตือนสติครับ ได้ยินแล้วก็นึกถึงคำพูดของหลวงพี่เล็ก วัดท่าขนุน ที่ผมบอกสภาวะจากการปฏิบัติของผม แล้วหลวงพี่เล็กท่านบอกว่า เป็นสภาวะปกติธรรมดา ของจิตที่ละเอียดขึ้น... ทำให้ผมรู้ว่าผมยังต้องเพียรต่ออีกมากครับ แต่อย่างน้อยก็ยังดี ว่า ผมมาถูกทางแล้ว

    แล้วท่าน khomeraya หละครับ เมื่อไหร่จะเริ่มปฏิบัติยกระดับจิตใจ เลิกเป็นเถรใบลานเปล่าเสียที?

    จากจิตอุเบกขา ของคนที่อยู่ดีๆ เจอหมามันขู่ ก็เข้าไปกวนมัน จนมันกัด แล้วยังปล่อยวางได้ กลายเป็นจิตของคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้น ศีลธรรมเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ นะครับ

    อ่านเรื่องพิสดารของผู้ชดใช้กรรม โดยยินยอมให้หมากัด ได้ที่นี่
    http://palungjit.org/posts/2805914

    ป.ล. เจ้ากรรมนายเวร จะยินดีกว่า เมื่ออโหสิกรรม จากการได้รับบุญ นะครับ การไปเจ็บตัวชดใช้ อันนี้เป็นการชดใช้กรรมแบบธรรมดาสามัญ ตั้งแต่ระดับเดรัจฉาน จนถึงมนุษย์ผู้ยังไม่เกิดปัญญาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...