ปี56จะร้ายแรงเหมือนหลายๆคนพูดหรือไม่?

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย interpoo, 29 ธันวาคม 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. dang_sa

    dang_sa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +59
    ทำไมหาอีก กระทู้นึงของน้องปู ไม่เจอคะ ใครเจอช่วยลิงค์ให้หน่อยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
     
  2. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
  3. พ้นเกิด

    พ้นเกิด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +26
    สับขาหลอกอยู่ครับ ถ้าโดนดักได้ก็เสียชื่อภัยพิบัติโลกแย่
    ไปๆมาๆระวังอ่าวไทยนะครับ...
     
  4. หญิงกาญจน์

    หญิงกาญจน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2012
    โพสต์:
    312
    ค่าพลัง:
    +222

    ช่วงไหนคะ ภายในเดือนนี้หรือเปล่าจะได้บอก พ่อ แม่ ค่ะ

    กลัวว่าคุณปูจะแม่นตลอดอ่ะ:'(

    เราจะรอดมั้ยเนี่ย:'(
     
  5. Famnakub

    Famnakub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    239
    ค่าพลัง:
    +1,677
    -ขอโทษค่า พอดีคุยกันเรื่องแผ่นดินไหวเพราะตัวเองห่วงคนทางบ้านที่กาญจน์ คุณปูบอกว่าห่วงแผ่นดินไหวที่พม่า แถวรอยเลื่อนแม่จัน สับสนนิดหน่อย กับข่าวทาง ดร.เทพพนมที่ระบุที่เขื่อนศรีฯ ขอโทษพันครั้ง ที่ทำให้ตกใจ โหสินะคะ สุมาเต๊อะ...
     
  6. interpoo

    interpoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    2,970
    ค่าพลัง:
    +19,781
    ++++ บทความนี้ยาวมาก แต่ก็อยากให้อ่านกัน เพราะสักวันนึงมันอาจจำเป็นก็ได้ ++++

    ++++ บทความนี้ส่วนใหญ่ผมคัดลอกมากจากข้อมูลท้ายเล่มของหนังสือการ์ตูนที่ชื่อว่า 51 มหาวิบัติวันสิ้นโลก หรือในชื่อญี่ปุ่นว่า

    Kanojo wo Mamoru 51 no Houhou ซึ่งเอื้อเฟื้อข้อมูลโดยคุณ มิโนรุ วาตานาเบะ นักเขียนประจำศูนย์ควบคุมและป้องกันภัยพิบัติของประเทศญี่ปุ่น ++++

    อนึ่ง บทความนี้เกืดขึ้นเนื่องจากเห็นหลายๆท่านตื่นตัวมากขึ้นกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นถี่เหลือเกินในช่วง2-3ปีที่ผ่านมา

    และล่าสุดวันนี้ก็เกิดแผ่นดินไหวและซึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น หลายท่านก็พากันใจหายไปตามๆกัน

    ตัว ผมเองก็คุยผ่านเมลกับเพื่อนที่ไปทำงานที่นั่น และค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อยว่าคนที่นั่นแตกตื่นเพียงชั่วโมงแรกหลังจาก เกิดเหตุการณ์เท่านั้น

    คำตอบที่ได้รับคือ ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติในประเทศนั้นถูกฝึกให้เตรียมพร้อมรับมือภัยธรรมชาติในรูปแบบต่างๆเป็นประจำอยู่แล้ว

    ผมเลยมองย้อนกลับมาที่ประเทศไทย ที่นานทีปีหนถึงจะเจอภัยธรรมชาติหนักๆสักครั้ง

    แผ่นดินไหวนี่ไม่ต้องพูดถึง โอกาสเกิดต่ำมากเพราะไม่ได้อยู่ตรงรอยต่อของเปลือกโลก

    แต่ อย่างว่าครับ รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม ผมจะขอนำเสนอข้อมูลวิธีป้องกันและช่วยเหลือตัวเองและผู้อื่นเวลาที่เราประสบ ภัยแป่นดินไหวไว้ในนี้นะครับ

    เพราะถ้ามันเกิดขึ้น คงไม่มีฮีโร่หรือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเราแน่ๆ

    สิ่งที่จะช่วยเราได้คือ สติ การตัดสินใจและปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเท่านั้น จึงจะทำให้เราสามารถช่วยตัวเองและผู้อื่นให้รอดตายได้

    จากผู้ที่เคยประสบแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เคยบอกว่า "เหมือนเข้าไปอยู่ในรถผสมปูน"

    จง ลืมความเชื่อเก่าๆเสียที่ว่าเวลาเกิดแผ่นดินไหวให้หลบอยู่ใต้โต้ะ ความเป็นจริงถ้าเกิดแผ่นดินไหวขนาด6ริตเตอขึ้นไป ผู้ที่อยู่ในตึก อาคาร หรือบ้านเรือนจะอันตรายมาก

    แรงสั่นสะเทือนจะทำให้ข้าวของและเฟอร์นิเจอร์ในบ้านกระเด็นไปมา บ้านอาจจะหลุดลอยออกจากฐานและพังทลาย

    และ ระยะเวลาสั่นสะเทือนนั้นไม่แน่นอน อาจจะแค่10วินาทีหรือนานหลายนาที ซึ่งในตอนนั้นเราต้องรีบตัดสินใจทันทีว่าสั่นสะเทือนขนาดนี้เราควรอยู่ที่ ไหน

    ถ้าสั่นแค่นิดหน่อยๆแค่น้ำในแก้วน้ำสั่นๆหรือเพียงมึนหัวนิดๆ ก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไรมาก

    แต่ ถ้าสั่นหนักถึงขนาดหนังสือบนชั้นกระเด็นออกมา โคมไฟแกว่งเป็นวงกว้าง หรือโต้ะเคลื่อนที่ได้ รีบออกมาจากที่พักหรืออาคารเถอะครับ อยู่ต่อคุณอาจโดนฝังทั้งเป็นก็ได้

    +++++++

    ท่อใต้ดินลอย พื้นดินกลายเป็นคลอง

    เป็น ที่ทราบกันว่าถนนหนทางบ้านเรานั้นดีเสียเหลือเกิน และพื้นที่ส่วนใหญ่ก็เป็นดินอ่อน ดังนั้นสิ่งที่คุณจะเจอแน่ๆหากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงนั่นคือ

    ปรากฎการณ์ดินเหลวตัว โดยที่พื้นดินจะอุ้มน้ำใต้ดินจนทำให้ดินกลายสภาพเป็นโคลน

    และท่อใต้ดินหรือท่อระบายน้ำที่ฝังตเวอยู่ก็จะลอยตัวขึ้นมา ทำให้ยากต่อการเดินทางและการคมนาคมในจุดเกิดเหตุจะเป็นอัมพาต

    ที่ เลวร้ายกว่านั้นก็คือ การที่ดินเหลวตัวนั้นจะทำให้ฐานของตึกที่เป็นเสาฝังลงไปในพื้นดินอาจเกิดการ โยกตัวหรือหัก ทำให้ความสามารถในการรองรับหรือประคองตึกลดต่ำลง และพังทลายในที่สุด

    จึงอย่างที่บอกไว้เบื้องต้นครับ ลืมความเชื่อเก่าๆเสียว่าอยู่แต่ในบ้าน/ตัวอาคารปลอดภัยที่สุด ถ้าเกิดแผ่นดินไหวระดับรุนแรง เราอาจถูกฝังทั้งเป็นก็ได้

    +++++++

    สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าแผ่นดินไหวคือ อาฟเตอร์ช้อค

    เมื่อเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง สิ่งที่ตามมาเสมอคืออาฟเตอร์ช้อค ระยะเวลาในการเกิดอาฟเตอร์ช้อคนั้นก็ไม่แน่นอน

    จากสถิติของศูนย์ควบคุมภัยพิบัติประเทศญี่ปุ่นบันทึกไว้ว่า อาฟเตอร์ช้อคที่เร็วที่สุดคือเกิดหลังจากแผ่นดินไหว 7นาที

    และที่ร้ายกว่านั้นคือมีอาฟเตอร์ช้อคเกิดหลังอาฟเตอร์ช้อคอีกรอบหลังจากผ่านไป 40นาที

    บางครั้งก็ต้องรอกันครึ่งวันเลยทีเดียว เช่นแผ่นดินไหวทางตอนบนของจังหวัดมิยางิในวันที่ 26 กค. 2003 เกิดแผ่นดินไหวระดับ 5.5

    หลังจากนั้นราว7ชั่วโมง ก็เกิดอาฟเตอร์ช้อคที่มีแรงสั่นสะเทือน 6.2

    ดัง นั้นต่อให้เรารอดจากแผ่นดินไหวไปแล้วก็ตาม เราก็ยังต้องตื่นตัวเสมอเพื่อรับมือกับอาฟเตอร์ช้อคที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร และจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด

    ถึงรอดจากแรงสั่นสะเทือน แต่ก็จงระวังตัวจากภัยระลอก2

    อย่าง ที่เห็นในข่าวครับ ถ้าเกิดแผ่นดินไหวในทะเล สิ่งที่จะเกิดตามมาคือคลื่นยักษ์สึนามิ ซึ่งทั้ง2สิ่งนี้ทำให้ตึกรามบ้านช่อง ถนนหนทางและสะพานพังถล่ม

    สิ่งเหล่านี้เราจะถือว่าเป็นภัยระลอกแรก

    แต่ภัยระลอก2ก็คือ ไฟไหม้ น้ำหยุดเดิน ไฟฟ้าดับ ซึ่งเป็นการทำให้ผู้ประสบภัยต้องลำบากยิ่งกว่าเดิม

    โดยเฉพาะไฟไหม้นั้นอันตรายมากหากคุณอาศัยอยู่ในเขตชุมชนแออัด หรืออาศัยอยู่ในตึกสูง

    ดังนั้นจงระวังผลกระทบจากแผ่นดินไหวนี้ให้ดีๆนะครับ

    +++++++

    พายุหมุนไฟ เรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นจริง

    เวลา ที่เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่หลังแผ่นดินไหว สิ่งที่จะเกิดตามมาก็คือเปลวเพลิงก่อตัวเป็นรูปร่าง ความร้อนทั้งหลายลอยตัวสู่ท้องฟ้าผสมกับมวลอากาศเย็น

    และก่อตัวเป็น พายุหมุนในท้ายที่สุด ซึ่งมักจะเกิดขึ้นได้ง่ายในพื้นที่โล่งกว้าง พายุหมุนนี้จะแรงมากจนสามารถดูดคนที่อยู่แถวนั้นขึ้นไปได้

    และเนื่องจากพายุลูกนี้มีส่วนประกอบของไฟและความร้อน ผู้ที่โดนดูดเข้าไปก็จะอยู่ในสภาพ ย่างสด ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่รอด

    ที่ญี่ปุ่นเคยมีผู้เสียชีวิตเพราะพายุหมุนไฟนี้ถึง38000คน จากผู้ที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว40000คนเชียวนะครับ น่ากลัวมากๆ

    +++++++

    14 นาทีแห่งความเป็นและความตาย

    จากสถิติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ โกเบ โอซาก้า และอาวาจิ จะมีผู้เสียชีวิตภายใน14นาทีหลังเกิดเหตุถึง 80%

    และในพื้นที่ๆเกิดเหตุ หากเลย72ชั่วโมงไปแล้วอัตราการรอดชีวิตจะต่ำมาก และการช่วยชีวิตก็จะทำได้ยากขึ้น

    ดังนั้น ในช่วงเวลาหลังเกิดเหตุมีแต่ผู้ที่รอดชีวิตเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตด้วยกันได้

    หากไม่เหนือกว่าบ่าแรง ไม่จำเป็นต้องรอให้ ตำรวจ หน่วยพยาบาล หรือหน่วยกู้ภัยมาก็ได้ครับ พยายามช่วยเท่าที่จะช่วยได้ไปก่อน

    อย่างน้อยก็จะสามารถยื้อชีวิตหรือบรรเทาอาการบาดเจ็บให้น้อยลงจนกว่าจะถึงมือหมอได้ครับ

    4 สิ่งที่ต้องพกติดตัวยามเกิดภัยพิบัติ

    1. โทรศัพท์มือถือ - ถือเป็นของสำคัญที่สุด เพื่อเอาไว้โทรบอกคนอื่นว่าเราปลอดภัยดีหรือไม่ ถึงแม้หลังเกิดเหตุจะใช้การไม่ได้ทันที

    แต่ไม่นานหลังจากนั้นก็จะใช้การได้ ดังนั้นอย่าลืมพกแบทสำรองหรือที่ชาจเอาไว้นะครับ

    2. วิทยุ - เชื่อว่ายุคนี้ไม่มีใครพกวิทยุไปไหนมาไหนแน่ๆ แต่เมื่อถึงเวลาพยายามหาวิทยุเอาไว้จะเป็นการดีครับ เพื่อติดตามข่าวสารที่จำเป็นอย่างใกล้ชิด

    และแน่นอนคือ อย่าลืมหาถ่านสำรองเอาไว้ด้วยล่ะ

    3. น้ำดื่มใส่ขวด - หลังจากเกิดภัยพิบัติ น้ำดื่มที่เราพกติวตัวไว้นั่นแหละคือน้ำแห่งชีวิตองเราเลยล่ะ แต่อย่าดื่มรวดเดียวหมดล่ะครับ

    ค่อยๆจิบทีละน้อยเพื่อให้หายคอแห้งเท่านั้น และที่สำคัญเก็บขวดเปล่าติดตัวเอาไว้ เพื่อเอาไว้เก็บน้ำจากแหล่งน้ำที่หาได้

    น้ำยังสามารถใช้ล้างแผลได้อีกด้วย จำเป็นมากจริงๆครับ และหากหวังน้ำจากศูนย์ผู้ประสบภัย ให้คิดไว้เลยว่ามักจะใช้เวลา2-3วัน

    จึง จะมีการตั้งศูนย์ผู้ประสบภัยตามจุดต่างๆ และเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามีน้ำเหลือมาถึงเรา หรือมีน้ำในแท้งค์น้ำแต่ไม่มีขวดหรือภาชนะเพียงพอ

    ดังนั้นเก็บขวดเปล่าไว้กับตัวจะดีที่สุดครับ

    4. กระดาษชำระและผ้าเช็ดหน้า - คนเราต้องขับถ่ายกันอยู่แล้ว และในเวลาที่เกิดภัยพิบัติ หลังจากท่านถ่ายหนักท่านจะใช้อะไรทำความสะอาดล่ะครับ

    น้ำล้าง เหรอ...ไม่นะ สถานการณ์นั้นน้ำมีไว้กินและทำความสะอาดแผลเท่านั้น ใช้กระดาษชำระหรือเศษผ้าเท่านั้นครับ อย่าเอาน้ำไปเสียกับเรื่องไร้สาระแบบนั้น

    และที่สำคัญ กระดาษชำระยังใช้ปฐมพยายามได้ด้วยนะ

    +++++++

    ผ้าอนามัยใช้ห้ามเลือดได้ดีนักแล

    ยามใดที่เกิดแผ่นดินไหว ก็มักจะมีของหล่นลงมาหรือกระจกแตก เราอาจจะเห็นคนรอบตัวหัวแตกหรือบาดแผลอาบไปด้วยเลือดกันบ้าง

    เมื่อ เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น สิ่งแรกที่เราต้องมองหาคือ กระดาษทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้า เพื่อใช้ในการเช็ดเลือดและมองหาปากแผลว่าหนักขนาดไหน

    ในกรณีที่ เลือดไหลไม่หยุด การใช้ผ้าพันแผลไว้ก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่จะดีที่สุดถ้าใช้ผ้าอนามัย เพราะมันมีคุณสมบัติในการซับเลือดได้ดี อีกทั้งยังสะอาดอีกด้วย

    การห้ามเลือดนั้นก็ไม่ยาก ถ้าบาดแผลอยู่ที่แขนหรือขา ก็ให้เอาผ้าผูกเหนือแผลไว้เพื่อลดการไหลของเลือดไปยังแผล แล้วค่อยนำสิ่งที่จะใช้ห้ามเลือดกดปากแผลและผูกเอาไว้

    สิ่งสุดท้าย ที่ห้ามลืมก็คือ การกุมมือผู้บาดเจ็บและพยายามพูดให้กำลังใจ เพราะเวลาที่เกิดเหตุการณ์เหล่านี้มักจะทำให้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ยิ่งตัวเองเป็นผู้บาดเจ็บด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่

    การทำให้ผู้ป่วยครองสติเป็นปกติได้นั้นสำคัญไม่แพ้กันเลยนะครับ

    +++++++

    น้ำคือสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่กลับมาหลังสุด

    เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นในเมืองใหญ่สาธารณูปโภคจะถูกตัดขาดในช่วงเวลาหนึ่ง

    รัฐบาลญี่ปุ่นเคยคาดการณ์ไว้ว่าการฟื้นฟูสาธารณูปโภคหลักๆต้องใช้เวลาแตกต่างกันไปดังนี้

    โทรศัพท์ 2 สัปดาห์ / ไฟฟ้า 6 วัน / น้ำประปา 1 เดือน

    2อย่าง แรกอาจไม่หนักหนาเท่าไร แต่น่ำประปานี่สิครับ ขนาดประเทศไฮเทคอย่างญี่ปุ่นยังต้องใช้เวลาถึง1เดือนกว่าจะฟื้นฟูได้ แล้วประเทศเราจะขนาดไหนกันล่ะเนี่ย

    สิ่งที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ ลืมเรื่องอาบน้ำไปซะ พยายามกักตุนน้ำให้ได้มากที่สุด ตัวเหม็นหัวเหนียว ก็ยังดีกว่าอดน้ำตายใช่ไหมครับ

    คนที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย อัตรารอดจะค่อนข้างต่ำ

    เคยดูหนังจำพวกหนีตายอะไรพวกนี้ไหมครับ สังเกตุไหมครับว่าสิ่งที่พวกตัวเอกทำแทบทุกเรื่องคืออะไร?

    วิ่ง ปีน กระโดด ทำสิ่งใช้แรงและพลังงานทั้งหลาย เรื่องจริงก็เหมือนกันครับ ความฟิตของร่างกายก็เป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการเอาตัวรอด

    ใครจะรู้ว่าเมื่อไรคุณจะต้องวิ่งหนีคลื่นสึนามิ หรือของที่คลื่นพัดมาด้วยจำพวกรถหรือของใหญ่ต่างๆ

    หรือแม้แต่เวลาไฟไหม้ หลังจากสำรวจควันและทิศทางลมแล้ว การวิ่งหนีให้พ้นจากต่ำแหน่งใต้ลม หรือการพาตัวเองออกจากควันไฟ

    ล้วน แล้วใช้ความอึดทางร่างกายและจิตใจทั้งนั้นครับ คนที่ร่างกายอ่อนแอไม่ค่อยได้ออกกำลังกายจะอันตรายมากหากเข้าไปอยู่ใน สถานการณ์เช่นนี้

    ดังนั้น มาออกกำลังกายกันไว้ก่อนดีกว่าครับ นอกจากทำให้สุขภาพดีและหุ่นดีแล้วมันอาจทำให้เรารอดตายยามเกิดเหตุฉุกเฉินก็ได้นะ

    +++++++

    นั่งลงแล้วตะโกนว่า "ใจเย็นๆ!"

    เวลาที่เกิดแผ่นดินไหว ไม่ว่าใครก็ต้องตกใจและตื่นตระหนกด้วยกันทั้งนั้น ในสมองจะคิดอะไรไม่ออกและว่างเปล่า

    สิ่งที่คนทั่วไปมักจะทำก็คือวิ่งๆๆแล้วก็วิ่ง แต่ถ้าอยู่ในซอยหรือถนนแคบๆ การที่ต่างคนต่างวิ่งจะทำให้เกิดการเหยียบกันตาย

    ถ้าเป็นไปได้ สิ่งที่ควรทำคือสูดหายใจลึกๆแล้วตะโกนให้ดังที่สุดว่า "นั่งลง!! ใจเย็นๆ!!"

    การทำแบบนี้จะช่วยเรียกสติของผู้คนที่กำลังแตกตื่นให้กลับมาได้ไม่มากก็น้อย

    ถือเป็นจิตวิทยามวลชนอย่างหนึ่งเอาไว้รับมือความวุ่นวายของฝูงชน เพราะไม่มีอะไรเท่าฝูงชนแตกตื่นขาดสติอีกแล้วนะครับ

    +++++++

    ส้นรองเท้าน่ะหักทิ้งไปซะ และอย่าสวมถุงน่องเด็ดขาด

    2สิ่งนี้ไม่ได้ช่วยให้การเอาตัวรอดสูงขึ้นเลยครับ กลับกันจะต่ำลงด้วยซ้ำ

    ส้น รองเท้าที่แหลมและสูง ทำให้หนีได้ช้าและลำบากต่อการเดินติดต่อกันเป็นเวลานานในพื้นที่หลายระดับ หารูหรือช่องเล็กๆ สอดส้นเข้าไปแล้วหักมันออกมาเลยครับ

    เสียรองเท้าคู่โปรดก็ยังดีกว่าเสียชีวิตใช่ไหมล่ะครับ

    ถุงน่อง จะอันตรายมากหากอยู่ในพื้นที่ไฟไหม้ เพราะถ้าถูกไฟลวกทั้งๆที่สวมถุงน่องอยู่ มันจะเป็นอะไรที่แย่สุดๆเลยล่ะครับ

    ไนล่อนที่เหลวและร้อนเยิ้มติดแน่นกับขา มันทำให้ทรมาณสุดๆไปเลยนะ ถ้าเป็นไปได้ถอดเก็บไว้ก่อนเถอะครับ

    +++++++

    อาชญากรรมทางเพศ สาวๆจงพึงระวัง

    ถึง จะเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่นี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงที่มากับภัยแผ่นดินไหว หลังจากเกิดเหตุสภาพจิตใจของผู้ประสบภัยส่วนมากจะดิ่งลงเหว

    เพราะมองไปทางไหนก็เจอแต่ซากปรักหักพังและความเสียหาย ใครจะรู้ครับว่าจะมีสวะสังคมบางกลุ่มที่จ้องจะหาประโยชน์จากเหตุการณ์ร้ายแรง

    หรือแม้แต่คนธรรมดาแต่ศีลธรรมถูกทำลายสิ้นเพราะความสิ้นหวัง และที่ควรระวังที่สุดคือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล

    เพราะมันอาจทำให้เกิดความสบายใจลืมทุกข์ แต่มันก็ทำให้สติหายไปด้วยเช่นกัน

    เวลาปกติยังมีบ่อยไปครับเรื่องที่เมาเลยฉุดผู้หญิงข่มขืน แล้วนับประสาอะไรกับเวลาที่เลวร้ายชวนสิ้นหวังแบบนั้น

    คุณมิโนรุ วาตานาเบ้ ผู้เอื้อเฟื้อข้อมูลเรื่องนี้ เคยไปทำข่าวแผ่นดินไหวที่โกเบในปี 1995 บอกว่าถึงแม้ไม่มีข้อมูลทางการออกมา

    แต่จากการเข้าไปพบเจอกับผู้ประสบภัยในพื้นที่ก็พบว่ามีการข่มขืนเกิดขึ้นจริง

    เช่น ผู้หญิงเข้าไปในที่ลับตาคนเพื่อปลดทุกข์ แล้วก็ถูกคนร้ายที่ซุ่มรออยู่จัดการก่อคดี หรือชวนเหยื่อไปทานอาหารในอาคารแล้วจัดการก่อคดี

    หรือแม้แต่อาสาสมัครผู้หญิงที่ถูกล่อลวงให้ไปทำแผล และจากนั้นก็ถูกล่อลวงไปในที่ลับตาคนและก่อคดี

    จุดร่วมสำคัญที่คุณวาตานาเบ้พบก็คือ "คนร้ายได้ดื่มเหล้าเข้าไปก่อนก่อเหตุ"

    และอย่าได้หวังพึ่งตำรวจครับ เพราะเวลานั้นทุกคนต่างก็มีงานตึงมือกันอยู่แล้ว

    ทางที่ดีผมขอแนะนำสาวๆทั้งหลาย หลังจากเกิดภัยพิบัติแล้ว เป็นไปได้หาอะไรมาปิดๆส่วนที่มันชะเวิบชะวาบไว้หน่อย

    ล้างเครื่องสำอางออกซะ อย่าทำตัวให้เป็นที่ยั่วอารมณ์ของเพศตรงข้ามมากนัก พยายามหาเพื่อนผู้ชายที่ไว้ใจได้(ไว้ใจได้จริงๆน่ะ)

    หรืออยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ๆไว้ก็จะดีมาก เพราะอย่างน้อยสาวๆกลุ่มใหญ่ก็คงพอช่วยกันพวกหื่นกามได้พอสมควร

    เพราะผู้ชายเวลาขาดสติ หน้ามืด หื่นขึ้นสมองเนี่ย มันทำได้ทุกอย่างนะครับ

    ตัวผมเองก็เป็นผู้ชาย และรู้ดีว่าเวลาหน้ามืดตามัวมันเป็นยังไง แหะๆๆ

    ระบบการเรียงลำดับผู้บาดเจ็บของแพทย์กู้ภัย

    การรักษาพยาบาลเวลาเกิดภัยพิบัติ ส่วนมากจะใช้ระบบ TRIAGE หรือการเรียงลำดับผู้บาดเจ็บ นั่นคือ "รักษาผู้ที่มีอาการสาหัสก่อน"

    เนื่องจากการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงนั้นชั่วพริบตาก็จะมีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก มิหนำซ้ำอุปกรณ์การแพทย์ทั้งหลายก็อาจได้รับความเสียหาย

    ประกอบกับสาธารณูปโภคก็อาจเป็นอัมพาต เครื่องมือและบุคลากรก็มีจำกัด

    หมอ จะละเลยผู้ที่มีอาการสาหัสที่อาจถึงแก่ชีวิตไม่ได้โดยเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้ผู้ที่อาการสาหัสและอาจเสียชีวิตหากไม่ได้้รับการรักษาก็จะถูกพา ตัวไปเข้ารับการรักษาก่อน

    ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะมีผู้ประสบภัยแขนขาดขาหักอยู่ตรงหน้าก็ตาม แต่หากเห็นว่าไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตก็จะได้รับการรักษาทีหลัง

    หรือแม้แต่ต่อให้สาหัส แต่ต่อให้เข้ารับการรักษาก็ไม่รอดอยู่ดี ก็จะถูกบอกปัดไม่ให้เข้ารับการรักษา

    ระบบ นี้อาจดูโหดร้าย แต่ถ้าลองคิดดูดีๆแล้วถือว่าเป็นระบบที่เหมาะสมมาก หากมองในมุมที่ต้องการรักษาชีวิตผู้ประสบภัยไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ครับ

    +++++++

    จงเตรียมใจไว้ว่า จะไม่ได้กลับบ้านในเร็ววันแน่นอน

    หลังจากที่เกิดภัยพิบัติร้ายแรงในเมืองใหญ่ แน่นอนว่าการคมนาคมจะเป็นอัมพาต

    ถ้าบ้านอยู่ใกล้ๆและเดินกลับได้ก็ดีไป แต่ถ้าอยู่ไกลมากๆ และไม่น่าที่จะเดินไหว

    สิ่งที่ต้องทำก็คือพยายามประคองสติเอาไว้ หาสิ่งยังชีพให้ได้มากที่สุด และค่อยๆเดินทางครับ

    และอย่ารีบ ยิ่งรีบร้อน สภาพจิตของเราเองนั่นแหละที่จะยิ่งเตลิดจนอาจคุมไม่อยู่

    เวลานั้นขอให้ยึดหลัก ช้าแต่ชัวร์ เอาไว้ดีกว่าครับ

    สำหรับผู้ที่มาจากต่างจังหวัด ถ้าเป็นไปได้หากกลับไปยังที่พักไม่ได้ และติดต่อกับคนรู้จักไม่ได้

    ก็อยู่แถวๆที่เกิดเหตุคอยช่วยเหลือผู้ประสบภัยคนอื่นๆระหว่างที่รอความช่วยเหลือก็จะดีมากๆเลยครับ

    +++++++

    ป้องกันตัวเองจากข่าวลือที่เข้ามากระทบจิตใจ

    เรื่องนี้ก็สำคัญไม่แพ้กันครับ เพราะนอกจากน้ำและอาหาร ข่าวสารก็เป็นสิ่งที่เราต้องติดตามตลอด

    ซึ่งในช่วงนี้ข่าวลือจะมีเยอะมาก และต้องใช้วิจารณญาณการกรองข้อมูลให้ดีที่สุดนะครับ

    เช่นว่ามีข่าวลือว่าจะเกิดอาฟเตอร์ช้อคหรือคลื่นสึนามิกำลังพัดเข้ามา ข่าวลือพวกนี้จะทำให้เกิดความแตกตื่นและความวุ่นวายมาก

    และที่แย่กว่านั้นก็คือ ข่าวลือเกี่ยวกับคน ในญี่ปุ่นช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งงใหญ่ในเขตคันโตก็มีข่าวลือว่า

    ชาว ต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่นรวมตัวกันก่อความวุ่นวาย ทำให้เกิดจลาจลผู้ที่อยู่ในเขตประสบภัยไล่ทำร้ายฆ่าเข่นชาวต่างชาติที่ไม่ รู้อิโหน่อิเหน่ไปเป็นจำนวนมาก

    ในบ้านเราที่ผมกลัวว่าจะเกิดขึ้นก็คือ ข่าวลือจำพวกว่า พวกเสื้อสีนั้นสีนี้ฉวยโอกาสก่อความวุ่นวายในพื้นที่อะไรทำนองนี้น่ะครับ

    อย่างไรเสีย สิ่งที่ควรทำที่สุดก็คือฟังข่าวจากวิทยุหรือจากเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงไว้ จะเป็นการดีกว่าไปฟังจากปากต่อปากนะครับ

    +++++++

    บอร์ดฝากข้อความ

    เคยเห็นในหนังประสบภัยที่ผู้คนพากันไปแปะกระดาษข้อความบอกถึงความเป็นไปของตัวเองหรือจุดนัดพบไหมครับ

    หากเกิดขึ้นจริง การทำเช่นนี้นก็จะดีไม่น้อยในกรณีที่เราพลัดหลงกับกลุ่มเพื่อนหรือคนรู้จักและต้องการนัดหมายจุดนัดพบให้ไปเจอกัน

    หรือการบอกว่าที่ไหนมีศูนย์ผู้ประสบภัย มีกี่จุด จุดไหนอยู่ตรงไหนบ้าง ห่างกี่เมตรกี่กิโลเมตร

    ซึ่งจะสามารถช่วยผู้ประสบภัยที่จะผ่านมาทีหลังและไม่รู้เหนือรู้ใต้ว่าจะยังไงไปทางไหนดีได้มากทีเดียวครับ

    +++++++

    ผมหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับใครก็ตามที่ได้อ่านและต้องไปอยู่ในเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนั้นนะครับ

    สำหรับ ผมนั้นจำเป็นมากๆเลยล่ะ เพราะผมคิดจะไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น ซึ่งคงไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะได้เจอกับเหตุการณ์แบบนี้รึเปล่า ดูข่าววันนี้ก็เสียวใช่เล่นเลยครับ

    และสำหรับผู้ที่อยู่ในไทย ถึงแม้ว่าประเทศเราค่อนข้างโชคดีที่ไม่ได้ตั้งอยู่ตรงรอยต่อของเปลืองโลก และระดับน้ำในอ่าวไทยค่อนข้างตื้น

    ทำให้ยากต่อการเกิดสึนามิหลังแผ่นดินไหว แต่อย่างไรเสียกันไว้ดีกว่าแก้ครับ รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม

    หวังว่าถ้าวันนั้นมาถึง ข้อมูลนี้น่าจะช่วยพวกท่านได้ไม่มากก็น้อยครับผม

    และสุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณ คุณมิโนรุ วาตานาเบ้ ผู้เอื้อเฟื้อข้อมูล และนักวาดการ์ตูนเรื่อง 51 มหาวิบัติวันสิ้นโลก คุณอุซามารุ ฟุรุยะ

    ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความน่ากลัวและวิธีเอาตัวรอดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้อย่างสนุกสนานและยอดเยี่ยมไว้ณ.ที่นี้ครับผม

     
  7. interpoo

    interpoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    2,970
    ค่าพลัง:
    +19,781
    อันข้างบนอ่ะ ต้องเชื่อเค้านะ เพราะญี่ปุ่นผ่านเรื่องแผ่นดินไหวมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว... เค้าเก่งกว่าเราเยอะ... เตรียมตัวกันยังค่ะ รับทุกภัยพิบัติ จะน้ำท่วม พายุ แผ่นดินไหว เศรษฐกิจแย่ รับกันนะ... เพราะเราซวยเองมาเกิดใน พ.ศ.นี้ พ.ศ.ที่โลกเราแย่ที่สุด
     
  8. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,300
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,126
    ที่อเมริกาตอนโดน พายุแคทเธอรีน่า

    ตอนอเมริกาโดนพายุแคทเธอรีนน่ามีพวกหื่นกามเหมือนที่ลงไว้เลย (ดูจากข่าวทีวีหรือนสพ.)

    สาธุด้วยครับ ดีมากๆ รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหามจริง ๆ
     
  9. dome47

    dome47 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +33
    คุณปู บอกว่า พ.ศ. นี้เเย่สุด ตกใจมากกกกครับ
    เเต่ก็จะเตรียมตัวเเละเตรียมใจ เเละเตรียมพร้อมไว้ครับ
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
     
  10. dang_sa

    dang_sa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +59
  11. พ้นเกิด

    พ้นเกิด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +26
    คุณปูเกี่ยวไรกับท่านพระอินทร์รึป่าวนะ
     
  12. PorPaturkom

    PorPaturkom Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +52
    ดูคำทำนายคุณปูค่อนข้างตรงนะ เเต่อยากรู้ว่ามีเคยแบบพลาดมั้ยค่ะ
    เเบบเห็นเหมือนจะรุนเเรงมากเเต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น เพื่อจะได้ลุ้นบ้าง
    ไม่อยากให้เกิดเลยเเต่มันก็คงห้ามไม่ได้ คงได้เเต่เตรียมตัวเตรียมใจ
    อย่างน้อยเราก็โชคดีที่มีโอกาสรับรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างในวันข้างหน้า
    คงได้แต่ภาวนาอย่าให้รุนเเรงมากเลย
     
  13. minzeejung

    minzeejung Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +31
    มาให้กำลังใจคุณปูนะคะ
     
  14. buccaneer81

    buccaneer81 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +70
    นั่งลงแล้วตะโกนว่า "ใจเย็นๆ!" ชอบตรงเนี้ยครับ อยากให้เก็บคำนี้ไว้แล้วนำไปใช้เมื่อเวลานั้นมาถึง
     
  15. natatik

    natatik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2012
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +3,607
    เห็นด้วยค่ะ เพราะถ้าขืนไม่นั่ง ขามันก็ต้องวิ่งไป ใจมันคงจะเย็นไม่ได้แน่นอน อิอิ
     
  16. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    ไม่ถือว่าซวยครับ โชคดีด้วยซ้ำ เห็นตัวทุกข์กันถนัดๆดีครับ ++
     
  17. interpoo

    interpoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    2,970
    ค่าพลัง:
    +19,781
    ส่วน ภัยพิบัติทางใต้ ก็จะไหวอยู่แบบนี้อีกนานเลย... ใครที่ไม่มั่นใจว่า บ้านตัวเอง จะแข็งแรงพอ ให้ซ่อมแซม หรือย้ายมาก่อนชั่วคราว เพราะปูเห็นบ้านทรุด ตึกร้าว อีกแน่ๆ ตอนนี้ ถึงจะไหวน้อย แต่ไหวบ่อยๆ โครงสร้างบ้านเก่า ก็จะไม่ไหวละคะ... ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ :cool: ...
     
  18. interpoo

    interpoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    2,970
    ค่าพลัง:
    +19,781
    :cool: ถูกต้องค่ะ... ย่าปู อายุ 95 เขายังบอกเลยว่า ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน... เราโชคดีเนอะ ได้เห็นภัยพิบัติกันชัดๆ ...
     
  19. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949


    ทุกวิกฤต ย่อมมีโอกาสเสมอ
    เพียงแต่ว่าเราจะเลือกที่จะทำให้มันเป็นโอกาสหรือเปล่า
    โอกาสทางโลก หรือโอกาสทางธรรมครับ
     
  20. Thrinai

    Thrinai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +555
    ผมว่าสมัยก่อนไม่มี TV หรือ Internet เวลาเกิดภัยพิบัติที่อื่นที่ไม่ใช่แถวบ้านก้ไม่น่าจะรู้นะครับ แต่ที่แน่ๆย่าคุณปูต้องผ่านสงครามโลกมาแน่นอนครับ...
    เพราะโลกมีภัยไม่จากธรรมชาติก็มีภัยจากมนุษย์ เสมอๆล่ะครับมันเป็นแบบนี้และจะเป็นแบบนี้ต่อไป:cool:
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...