สนทนากับพระเจ้า การพูดคุยที่ไม่ธรรมดา!!!

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Equal, 31 มีนาคม 2012.

  1. Equal

    Equal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +195
    บางส่วนจากหนังสือสนทนากับพระเจ้า การพูดคุยที่ไม่ธรรมดา เล่ม ๑ พิมพ์ครั้งที่ ๒

    โดย นิล โดนัลด์ วอลซ์

    สำนักพิมพ์ โอ้ พระเจ้า พับลิชชิ่ง www.ohmygodbooks.com

    เป็นไกด์ไลน์ให้กับใครที่กำลังปฏิบัติสติปัฏฐานสี่ ได้พิจารณาถึงสิ่งที่อาจกำลังเกิดขึ้นกับตัวเอง ได้มีแนวทางอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยให้มั่นใจในการปฏิบัติมากขึ้น


    ผมจะตั้งใจฟังเสียงจากวิญญาณให้ดีที่สุดได้ยังไงครับ? ถ้าหากวิญญาณคือนายจริงๆ ละก็ ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าผมได้รับบันทึกสั่งงานมาจากเบื้องบนจริงๆ?

    สิ่งแรกที่เธออาจจะทำคือ เอาให้ชัดว่าวิญญาณแสวงหาสิ่งใดและหยุดตัดสินเสียที<O:p</O:p
    ผมกำลังตัดสินวิญญาณของผมเองหรือครับเนี่ย?
    ตลอดมาเลยล่ะ ฉันเพิ่งแสดงให้เธอเห็นไปเองว่าเธอตัดสินตัวเองอย่างไรในการปรารถนาที่จะตาย ... และยังตัดสินตัวเองเรื่องในการมีชีวิตอยู่ด้วย มีชีวิตอยู่อย่างแท้จริงนะ เธอตัดสินตัวเองเรื่องการอยากหัวเราะ อยากร้องไห้ อยากชนะ อยากแพ้ อยากมีประสบการณ์ถึงความหรรษาและความรัก เรื่องนี้เลยที่เธอตัดสินตัวเองเป็นพิเศษ

    ผมทำอย่างนั้นเหรอ?

    เธอไปได้ความคิดมาจากไหนสักแห่งหนึ่งนี่ล่ะว่าการฏิเสธความเบิกบานของชีวิตคือสิ่งประเสริฐ การไม่เฉลิมฉลองชีวิตคือความสูงส่ง เธอบอกตัวเองว่าการปฏิเสธคือคุณความดี

    พระองค์กำลังบอกว่ามันไม่ดีใช่มั๊ยครับ?
    มันไม่ได้ดีหรือเลว มันเป็นแค่การปฏิเสธ ถ้าเธอรู้สึกดีหลังจากปฏิเสธตัวเอง ในโลกของเธอก็คือความดี แต่ถ้าเธอรู้สึกแย่ มันก็คือสิ่งไม่ดี แต่ส่วนใหญ่แล้วเธอตัดสินไม่ได้ เธอปฏิเสธตัวเองในเรื่องนั้นเรื่องนี้เพราะเธอบอกตัวเองว่าเธอควรทำอย่างนั้น แล้วเธอก็พูดว่ามันเป็นสิ่งดีที่ควรต้องทำ แต่ก็สงสัยอยู่ไม่วายว่าทำไมตัวเธอไม่เห็นจะรู้สึกดีเลย

    ฉะนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำก็คือหยุดตัดสินตัวเองเสียที จงเรียนรู้ว่าอะไรคือความปรารถนาของวิญญาณแล้วไปตามนั้น ... จงไปกับจิตวิญญาณ
    สิ่งที่วิญญาณแสวงหาคือความรู้สึกสูงสุดของความรักเท่าที่เธอจะจินตนาการถึง นี่คือความต้องการของจิตวิญญาณและเป็นจุดหมายของมัน วิญญาณตามหาความรู้สึก ไม่ใช่ความรู้แต่เป็นความรู้สึก มันมีความรู้เรียบร้อยแล้ว ทว่าความรู้เป็นแนวคิด ขณะที่ความรู้สึกเป็นประสบการณ์ วิญญาณต้องการรู้สึกถึงตัวเอง เพราะฉะนั้นจึงรู้จักตัวเองผ่านประสบการณ์ของตัวเอง
    ความรู้สึกสูงสุดคือประสบการณ์การเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งทั้งหมด นี่คือ การหวนกลับคร้งยิ่งใหญ่สู่สัจจะซึ่งวิญญาณเพรียกหา นี่คือความรู้สึกของรักสมบูรณ์แบบ
    รักสมบูรณ์แบบเปรียบดั่งสีขาวหมดจด หลายคนคิดว่าสีขาวคือภาวะไม่มีสี หาใช่เช่นนั้น มันคือการรวมกันของทุกสี สีขาวคือสีอื่นที่มีอยู่ทุกสีผสมรวมกัน
    เช่นเดียวกัน รักเองไม่ใช่ภาวะที่ปราศจากอารมณ์ใดๆ (เกลียด โกรธ กำหนัด ริษยา โลภ) แต่คือการรวมทุกความรู้สึกเข้าไว้ มันคือผลบวกของทั้งหมด คือจำนวนรวม คือทุกสิ่ง
    การที่วิญญาณจะมีประสบการณ์ถึงรักอันสมบูรณ์แบบได้ มันจึงต้องมีประสบการณ์ถึงทุกความรู้สึกของมนุษย์
    ฉันจะกรุณาต่อผู้ที่ฉันไม่เข้าใจได้อย่างไร ฉันจะให้อภัยผู้อื่นได้อย่างไรถ้าไม่เคยมีประสบการณ์นั้นกับตัวเอง เราจึงเห็นทั้งความเรียบง่ายและความน่าครั่นคร้ามในการเดินทางของจิตวิญญาณ เราจึงเข้าใจในที่สุดถึงสิ่งที่มันกำลังทำ ...

    จุดประสงค์ของวิญญาณมนุษย์ก็คือ การมีประสบการณ์ทั้งหมดของมัน เพื่อว่ามันจะเป็นได้ทั้งหมด
    จะรู้บนได้อย่างไรถ้าไม่เคยรู้ล่างมาก่อน จะรู้ซ้ายได้อย่างไรถ้าไม่รู้ขวา จะรู้อุ่นได้หรือถ้าไม่รู้จักหนาว จะรู้จักความดีหรือถ้าปฏิเสธความชั่วร้าย ชัดเจนว่าวิญญาณไม่อาจเลือกเป็นสิ่งใดได้หากไม่มีสิ่งใดให้เลือก เพราะวิญญาณจะมีประสบการณ์ถึงความสง่างามของตัวเองได้นั้น มันต้องรู้ก่อนว่าอะไรคือความสง่างาม ซึ่งไม่อาจทำอย่างนั้นได้ถ้าไม่มีอย่างอื่นนอกจากความสง่างาม วิญญาณจึงรู้ว่าความสง่างามจะตั้งอยู่ได้ก็ต่อเมื่อมีความไม่สง่างามดำรงอยู่ วิญญาณจึงไม่เคยประนามสิ่งไม่สง่างามเลย ทว่าจะอวยพรที่ได้เห็นส่วนหนึ่งของตนในนั้นซึ่งจะต้องมีอยู่ เพื่อให้ส่วนอื่นๆ ของตัวเองปรากฏขึ้นมาได้ <O:p></O:p>
    :cool: :cool: :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 มีนาคม 2012
  2. Equal

    Equal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +195
    นี่เป็นภารกิจใหญ่ซึ่งต้องใช้เวลาหลายภพชาติ เพราะเธอมันรีบร้อนพิพากษาตัดสิน และชอบเรียกสิ่งต่างๆ ว่า “ผิด” “เลว” หรือ “ยังไม่พอ” แทนที่จะอวยพรบรรดาสิ่งที่เธอไม่ได้เลือก



    เธอยังทำสิ่งที่แย่ยิ่งกว่าการประนามอีกนั่นคือ พยายามทำอันตรายสิ่งต่างๆ ที่เธอไม่เลือก เธอหาทางที่จะทำลาย หากมีผู้คน สถานที่ หรือสิ่งใดๆ ที่เธอไม่เห็นด้วย เธอจะโจมตี ถ้ามีศาสนาอื่นที่ขัดแย้งกับศาสนาของเธอ เธอก็จะทำให้พวกนั้นเป็นฝ่ายผิด หากมีความคิดใดตรงข้ามกับความคิดเธอ เธอก็จะเยาะเย้ย หากมีมโนคติใดนอกเหนือไปจากของเธอ เธอจะปฏิเสธ เธอได้ทำผิดพลาดเพราะเท่ากับเธอสร้างจักรวาลแค่เพียงครึ่งเดียว และเธอไม่อาจแม้แต่จะเข้าใจครึ่งหนึ่งของตนเมื่อเธอปฏิเสธอีกครึ่งที่เหลือของตัวเอง

    วิ้ว! พระองค์จุดประกายผม!

    ถ้าพระเจ้าจุดประกายเธอไม่ได้แล้วผีนรกที่ไหนจะทำได้ล่ะ?
    พระองค์ชอบพูดเล่นอย่างนี้เรื่อยหรือเปล่าเนี่ย?

    ฉันไม่ได้พูดเล่นนะ ฉันหมายความตามนั้นจริงๆ ลองอ่านดูใหม่สิ
    โอ ผมเข้าใจล่ะ ไม่รู้สินะ ผมเคยชินแต่พระเจ้าที่ดูจริงจังกว่านี้นะ
    อืม ... ขออะไรหน่อยได้ไหม อย่าจำกัดฉันเลยนะ แล้วก็อย่าทำอย่างนั้นกับตัวเองด้วย

    หมายความว่าไงครับ?

    หมายความว่าเธอไม่มีวันแพ้ในเกมนี้น่ะสิ เธอไม่อาจไปผิดทางได้ มันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของแผนการนี้ ไม่มีทางเลยที่จะไปไม่ถึงที่ที่เธอกำลังจะไป ไม่มีทางที่เธอจะพลาดจุดหมายไปได้ หากพระเจ้าคือจุดหมายของเธอละก็ เธอโชคดีแล้วล่ะ เพราะพระเจ้าใหญ่โตมากจนเธอไม่มีทางพลาดเป้าได้

    นั่นล่ะที่เป็นความกังวลข้อใหญ่ ความวิตกกังวลนั้นก็คือ ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม เราได้ทำผิดพลาดจนไม่อาจได้พบหรืออยู่ร่วมกับพระองค์

    หมายถึงไม่ได้ไปสวรรค์น่ะหรือ?
    ครับ! เราทุกคนกลัวตกนรกกันทั้งนั้นแหละ

    เธอจึงเริ่มพาตัวเองไปที่นั่นเพื่อจะได้ไม่ต้องไปที่นั่น อืม ... เป็นยุทธวิธีที่น่าสนใจ


    นี่นำพาผมไปสู่อีกคำถามหนึ่ง ทำไมพระองค์ไม่แก้ไขโลกนี้ให้มันเข้าที่เข้าทางล่ะ แทนที่จะปล่อยให้มันตกนรกไปอย่างนี้?

    แล้วทำไมเธอไม่ทำล่ะ?

    ผมไม่มีอำนาจนั้น?

    ไร้สาระน่า ตอนนี้เธอมีอำนาจและความสามารถที่จะยุติความอดอยากในโลกได้ตั้งแต่วินาทีนี้และเริ่มรักษาโรคร้ายต่างๆ ได้ทันที จะเป็นอย่างไร ถ้าฉันบอกเธอว่าการแพทย์ของพวกเธอนั่นเองที่เหนี่ยวรั้งการรักษาไว้ ไม่ยอมรับรองการรักษาและกระบวนการแพทย์ทางเลือก เพราะมันไปสั่นคลอนโครงสร้างวิชาชีพ “ผู้บำบัด” เข้าให้ จะเป็นอย่างไรถ้าฉันบอกเธอว่ารัฐบาลของประเทศต่างๆ ไม่อยากยุติความอดอยากหรอก เธอจะเชื่อฉันไหมล่ะ?

    เป็นเรื่องยากที่ผมจะยอมรับได้ ผมรู้ว่ามันเป็นทัศนะของคนจำนวนมากในสังคม แต่ก็ไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ คงไม่มีหมอคนไหนปฏิเสธการรักษา ไม่มีผู้นำคนไหนอยากเห็นประชาชนในชาติของตนตายหรอก?
    <O:p</O:p
    ก็ใช่ ... ไม่มีแพทย์คนไหนในเชิงปัจเจก ก็ถูก ... ไม่มีผู้นำคนใดเป็นการเฉพาะ การแพทย์และการเมืองถูกทำให้เป็นสถาบันและสถาบันดังกล่างก็ต่อสู้กับสิ่งที่ว่านี้ บางครั้งมันลึกซึ้งมาก บางทีก็เป็นไปแบบไม่รู้ตัว แต่ก็เลี่ยงไม่พ้นอยู่ดี เพราะสำหรับสถาบันพวกนั้นมันคือความอยู่รอด?

    ฉันจะยกตัวอย่างที่ง่ายและเห็นชัดอันหนึ่งคือ แพทย์ตะวันตกปฏิเสธความสามารถในการรักษาโรคของแพทย์ตะวันออก เพราะการยอมรับแพทย์ตะวันออก รวมทั้งวิธีบำบัดแบบทางเลือกว่าอาจรักษาโรคบางอย่างได้ จะเป็นการฉีกทำลายโครงสร้างที่ก่อร่างสถาบันนี้ขึ้นมา?

    นี่ไม่ใช่เพราะเจตนาร้ายแต่เป็นลักษณะแฝงเร้น วิชาชีพแพทย์ไม่ได้ทำอย่างนั้นเพราะตนชั่วร้าย แต่เพราะรู้สึกกลัว?

    แล้วความทุกข์ล่ะครับ การทนทุกข์คือวิธีหรือหนทางเพื่อไปถึงพระเจ้าใช่มั๊ย? บางคนบอกว่ามันคือหนทางเดียวเท่านั้น

    ฉันไม่ได้ชอบความทุกข์หรอกนะ แล้วใครที่บอกว่าฉันยินดีกับมันแสดงว่าไม่รู้จักฉันจริง
    ความทุกข์ไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับประสบการณ์มนุษย์เลย ไม่ใช่แค่ไม่จำเป็นเท่านั้นนะแต่ยังไม่ฉลาด ไม่สบาย และไม่ดีต่อสุขภาพเธอด้วย


    ถ้างั้น ทำไมถึงได้มีความทุกข์มากมายนัก? ก็ถ้าพระองค์คือพระเจ้าทำไมถึงไม่ยุติมันเสียล่ะ ในเมื่องพระองค์ก็ไม่ชอบมากถึงขนาดนั้น?

    ฉันทำให้สิ้นสุดแล้ว เธอต่างหากที่ไม่ยอมใช้เครื่องมือที่ฉันให้ไว้เพื่อบรรลุสิ่งนั้น
    เธอเข้าใจไหมว่าความทุกข์ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตัวเหตุการณ์ แต่เกี่ยวกับปฏิกิริยาที่ผู้คนมีต่อเหตุการณ์นั้นๆ ต่างหาก

    สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนเธอรู้สึกอย่างไรกับมันถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
    ฉันได้ให้เครื่องมือแก่เธอเพื่อที่จะตอบสนองและมีปฏิกิริยาต่อหตุการณ์ในลักษณะที่จะช่วยลด (จริงๆ คือขจัด) ความเจ็บปวดลง แต่เธอก็ไม่ใช้

    โทษนะครับ แต่ว่าทำไมพระองค์ถึงไม่ขจัดเหตุการณ์เหล่านั้นออกไปเสียเลยล่ะ?

    แนะได้เข้าท่า แต่โชคไม่ดีที่ฉันไม่มีอำนาจควบคุมเหตุการณ์ต่างๆ หรอก

    พระองค์น่ะหรือควบคุมเหตุการณ์ไม่ได้?

    ก็ไม่ได้น่ะสิ เหตุการณ์คือสิ่งที่เกิดขึ้นบนพื้นที่และเวลา ซึ่งเธอสร้างขึ้นจากการเลือก และฉันจะไม่มีวันแทรกแซงการเลือกนั้น เพราะการทำอย่างนั้นคือการหักล้างเหตุผลที่ฉันสร้างเธอมาตั้งแต่แรกตามที่อธิบายไปก่อนหน้านี้
    บางเหตุการณ์เธอสร้างขึ้นโดยเจตนา บางเหตุการณ์เธอดึงดูดเข้าสู่ชีวิตโดยรู้ตัวบ้างไม่รู้ตัวบ้าง และบางเหตุการณ์ (ภัยธรรมชาติขนาดใหญ่อาจจัดรวมอยู่ในหมวดนี้) ก็ถูกปัดให้เป็นเรื่องของ “ชะตากรรม” ไป

    แม้กระทั่ง “ชะตากรรม” (Fate) ในที่นี้ก็คือตัวย่อของ “From all thoughts everywhere” หรือ “จากทุกๆ ความคิดในทุกหนแห่ง” หรืออีกนัยหนึ่งคือ จิตสำนึกของโลกนั่นเอง

    มีหลายคนพูดว่า โลกอยู่ในกระเช้าที่กำลังดิ่งลงนรก ระบบนิเวศน์ของเรากำลังจะสิ้นใจ ดาวเคราะห์ของเรากำลังประสบภัยพิบัติร้ายแรงทางภูมิศาสตร์ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรือกระทั่งถึงขั้นแกนโลกเอียง มีคนที่บอกว่าจิตสำนึกรวมหมู่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ได้ เราสามารถช่วยโลกได้โดยใช้ความคิดของเรา

    ความคิดที่แปรเปลี่ยนเป็นการกระทำ ถ้ามีคนมากพอจากทุกแห่งเชื่อว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยโลกละก็ เธอจะช่วยโลกไว้ได้ แต่ต้องด่วนเลยนะ เพราะความพินาศมากมายได้เกิดขึ้นมานานแล้ว จะต้องอาศัยการเคลื่อนย้ายกระบวนทัศน์ครั้งใหญ่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 เมษายน 2012
  3. Equal

    Equal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +195
    [FONT=&quot]พระองค์หมายความว่าถ้าเราไม่ทำ เราจะได้เห็นโลกและสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลกถูกทำลายงั้นหรือครับ?[/FONT]
    [FONT=&quot]
    กลับไปที่เรื่องความทุกข์อีกครั้งนะครับ เราไปได้ความคิดมาจากไหนว่าความทุกข์เป็นสิ่งดี เช่น นักบุญ “ทนทุกข์โดยไม่ปริปาก”
    ?[/FONT]
    [FONT=&quot]
    นักบุญ “ทนทุกข์โดยไม่ปริปาก” จริงแต่ไม่ได้หมายความว่าความทุกข์เป็นสิ่งดีนะ ผู้อยู่บนทางแห่งการเคี่ยวกรำตนเองจะทนทุกข์โดยไม่ปริปากเพราะเข้าใจดีว่าความทุกข์ไม่ใช่วิถีของพระเจ้า หากแต่เป็นสัญญาณที่บ่งชัดว่ายังมีบางอย่างที่ต้องเรียนรู้ถึงวิถีแห่งพระเป็นเจ้าอยู่ มีบางอย่างที่ยังต้องระลึกให้ได้
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    คุรุที่แท้ไม่ได้ทนทุกข์โดยไม่ปริปาก ทว่าเพียงปรากฏให้เห็นว่าทุกข์โดยไม่พร่ำบ่น เหตุผลที่คุรุไม่พร่ำบ่นก็คือเขาไม่ได้กำลังทุกข์อยู่หรอก แต่แค่กำลังประสบกับกลุ่มสถานการณ์ที่เธอเรียกว่าเกินทานทนเท่านั้น
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    เราพุ่งความสนใจไปยังสิ่งใดเราจะทำให้สิ่งนั้นเป็นจริงขึ้นมา คุรุรู้เรื่องนี้ดี เขาจึงกำหนดตัวเองให้เลือกแต่สิ่งที่ต้องการให้เป็นจริงเท่านั้น
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    เธอทุกคนเคยทำแบบนี้ในบางครั้ง ในบรรดาพวกเธอไม่มีคนไหนเลยที่ไม่เคยทำให้ตัวเองหายปวดหัวหรือไปหาหมอฟันด้วยความเจ็บปวดน้อยลงเพียงเพราะเธอตัดสินใจให้เป็นอย่างนั้น
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    คุรุเองก็ตัดสินใจแบบเดียวกันเพียงแต่ในเรื่องที่ใหญ่กว่า
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเราไปได้ความคิดมาจากไหนกันว่าความทุกข์เป็นสิ่งดี
    ?[/FONT]
    [FONT=&quot]
    ฉลาดดีที่ยืนยันคำถามเดิม ภูมิปัญญาเก่าแก่เรื่องการทนทุกข์โดยไม่ปริปากถูกตีความไปผิดๆ จนเดี๋ยวนี้มีผู้คนมามายเชื่อ (หลายๆ ศาสนาถึงกับสอน) ว่าความทุกข์เป็นสิ่งดีและความรื่นเริงเบิกบานคือความชั่ว เธอจึงตัดสินว่าหากใครสักคนเป็นมะเร็งแล้วเก็บงำไว้กับตนเอง เขาคนนั้นคือนักบุญ แต่ถ้าใครบางคน (เอาประเด็นล่อแหลมเลยนะ) มีอารมณ์ทางเพศสูงและแสดงออกอย่างเปิดเผย หล่อนคือคนบาป
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    โอ ... พระเจ้าใช้ประเด็นล่อแหลมจริงๆ แหละ แล้วยังฉลาดเปลี่ยนสรรพนามจาก “เขา” เป็น “หล่อน” อีกด้วยนะ จะสื่ออะไรบางอย่างใช่มั๊ย
    ?[/FONT]
    [FONT=&quot]
    ก็แค่จะแสดงถึงอคติทางเพศของพวกเธอเท่านั้นแหละ เธอไม่ชอบที่จะคิดว่าผู้หญิงมีอารมณ์กระตือรือร้นทางเพศ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าหล่อนจะแสดงออกมาอย่างเปิดเผยหรอกนะ
    [/FONT]
    [FONT=&quot]เธอชอบนึกภาพผู้ชายที่กำลังจะตายในสนามรบโดยไม่ร้องครวญครางมากกว่าภาพผู้หญิงร่วมรักด้วยเสียงครวญครางบนถนน [/FONT]
    [FONT=&quot]
    แล้วพระองค์ไม่เป็นอยางนั้นหรือ
    ?[/FONT]
    [FONT=&quot]
    ฉันไม่มีคำพิพากษาไปในทางใดทางหนึ่งหรอก แต่เธอน่ะมีคำพิพากษาให้ทุกอย่างเลย ฉันขอแนะนำว่า เพราะการตัดสินพิพากษาของเธอนั่นแหละที่ทำให้เธอไม่ร่าเริง เบิกบาน และเพราะความคาดหวังของเธอเองที่ทำให้เธอไม่มีความสุข
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    ผมจะรู้ได้ยังไงว่าที่พระองค์พูดมาเป็นความจริง
    ?[FONT=&quot] ผมจะรู้ได้ยังไงว่านี่พระเจ้าพูด ไม่ใช่จินตนาการเลยเถิดของผมเอง[/FONT]?[/FONT]
    [FONT=&quot]
    เธอถามอย่างนี้มาครั้งหนึ่งแล้วนะ คำตอบของฉันก็ยังเหมือนเดิม นั่นคือแล้วมันต่างกันตรงไหน
    ?[FONT=&quot] ถ้าหากทุกอย่างที่ฉันพูดมานั้น “ผิด” แล้วเธอคิดหาวิธีที่จะใช้ชีวิตได้ดีกว่านี้หรือเปล่าล่ะ[/FONT]?[/FONT]
    [FONT=&quot]
    ฉันจะบอกคำนี้กับเธอเพื่อช่วยเธอให้พ้นจากความสับสนนั่นคือ อย่าเชื่อแม้แต่คำเดียวที่ฉันพูด แต่ให้ลองใช้ชีวิตตามนั้นดู ลองมีประสบการณ์แบบนั้นดู จากนั้นก็ลองทำแบบอื่นตามที่เธออยากจะสร้างสรรค์ขึ้น สุดท้ายจงมองดูประสบการณ์ของเธอเพื่อจะค้นพบความจริงของตัวเอง
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    วันหนึ่งเมื่อเธอกล้าหาญพอ เธอจะมีประสบการณ์ถึงโลกใบที่เห็นว่าการร่วมรักดีกว่าการก่อสงคราม วันนั้นแหละเธอจะชื่นชมยินดี
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    ผมอยากเห็นชีวิตของตัวเองเป็นไปเพื่อวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณ อยากให้ชีวิตคือการแสดงออก และมีประสบการณ์ถึงส่วนที่ผมรักมากที่สุดในตัวเอง คือส่วนของความรักความเมตตา ความอดทน การให้ และการช่วยเหลือ ส่วนที่ฉลาด รอบรู้ ให้อภัย และ ... รัก
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ฟังดูเหมือนเธอกำลังอ่านหนังสือเล่นนี้อยู่ยังไงยังงั้นเลย[/FONT]
    [FONT=&quot]
    ความจริงก็คือผมอยากทำมากกว่าแค่มีชีวิตรอด ผมดิ้นรนให้อยู่รอดมาตลอดหลายต่อหลายปีและสังเกตว่าตัวเองยังอยู่ที่จุดเดิม แต่ผมอยากให้การดิ้นรนต่อสู้นี้จบลงเสียที ผมเห็นว่าแค่มีชีวิตรอดพ้นวันต่อวันถือว่าเป็นการกระเสือกกระสนดิ้นรนอยู่ดี ผมอยากทำมากกว่าแค่การเอาชีวิตรอด ผมอยากรุ่ง

    :boo::boo::boo:
    [/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 เมษายน 2012
  4. Ong

    Ong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +12,861
    กำลังหาอ่านเลยครับ ขอบคุณมากครับ
     
  5. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,032
    รอเล่ม 3 แปลไทยอยู่ค่ะภาษาปะกิตมิสันทัด รอนานแสนนานแว๊วว เมื่อไหร่คุณอัฐพงศ์จะแปลเสร็จซักกะที
     
  6. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,032
    มีเล่ม 1,2 ค่ะ สนใจอยากอ่านมั้ย ยินดีส่งไปให้ค่ะ
     
  7. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
  8. Equal

    Equal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +195
    [FONT=&quot]ฉันจะตอบความจริงของเธอทีละประโยคนะ เราจะได้ติดตามและวิเคราะห์คำตอบได้ง่ายๆ [/FONT]
    [FONT=&quot]เธอไม่ได้อยู่ใน “เกมจิตวิญญาณ” หรอก เธอแค่วนเวียนอยู่ตรงขอบๆ เท่านั้น ฉันยอมรับว่าที่ผ่านมาเธอได้มองดูมัน หยอกเล่นกับมัน เข้ามาทดลองดูเป็นครั้งคราว แต่ฉันก็ยังไม่รู้สึกจริงๆ เลยว่าเธอได้ผูกมัดตนเองกับเกมนี้จริงๆ จนเมื่อไม่นานมานี้ [/FONT]
    [FONT=&quot]
    มาทำความเข้าใจกันก่อนนะว่า “การอยู่ในเกมจิตวิญญาณ” หมายถึงอุทิศทั้งร่างกาย จิตใจ และวิญญาณทั้งหมดของเธอต่อกระบวนการสร้างสรรค์ตัวตนให้เป็นตามฉายาลักษณ์ของพระเจ้า[/FONT]

    [FONT=&quot]
    นี่คือกระบวนการบรรลุตัวตนตามที่รหัสนัยตะวันออกหมายถึง และเป็นความรอดดังศาสนวิทยาตะวันตกมากมายได้อุทิศตนให้[/FONT]

    [FONT=&quot]
    คือการสำนึกรู้อย่างเต็มเปี่ยมวันต่อวัน ชั่วโมงต่อชั่วโมง ขณะต่อขณะ คือการเลือกและเลือกใหม่ทุกๆ ห้วงขณะ คือการสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง สร้างอย่างตื่นรู้และมีจุดมุ่งหมาย คือการใช้เครื่องมือแห่งการสร้างสรรค์ ดังที่เราได้คุยกันมา ด้วยความตระหนักและด้วยเจตนารมณ์สูงส่ง[/FONT]

    [FONT=&quot]
    ถ้าจุดประสงค์ของชีวิตเธอคือการได้ครอบครองสิ่งที่เรียกว่าความมั่นคงแล้ว ฉันก็เห็นและเข้าใจล่ะว่าทำไมเธอถึงรู้สึกว่าตัวเอง “เข้าใกล้บ้านอนาถาเข้าไปทุกที” แต่การประเมินนี้ก็ยังเปิดช่องแก้ไขให้ถูกต้องได้นะ เพราะด้วย “การจ่าย” ของฉัน สิ่งดีๆ ทุกอย่างรวมทั้งประสบการณ์แห่งความมั่นคงทางโลกจะเข้าสู่ชีวิตเธอ[/FONT]

    [FONT=&quot]
    การจ่ายของฉัน (ซึ่งก็คือ “ค่าจ้าง” ที่เธอจะได้รับเมื่อ “ทำงานให้ฉัน") จะรวมสิ่งต่างๆ มากมายไม่เฉพาะความสุขทางจิตวิญญาณเท่านั้น เธอยังจะได้ความสะดวกสบายทางวัตถุด้วย แต่ที่กลับตาลปัตรก็คือ เมื่อเธอมีประสบการณ์ความสุขทางจิตวิญญาณที่ฉันมอบให้แล้ว สิ่งที่เธอจะกังวลเป็นเรื่องสุดท้ายกลับเป็นความสะดวกสบายทางวัตถุไป[/FONT]

    [FONT=&quot]
    กระทั่งความสะดวกสบายทางโลกของคนในครอบครัว เธอก็จะไม่กังวลถึงอีก ด้วยเมื่อเข้าสู่ระดับจิตสำนึกของพระเจ้าแล้ว เธอจะเข้าใจว่าเธอไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อวิญญาณของมนุษย์คนใด แม้จะเป็นสิ่งดีที่เราปรารถนาให้ทุกดวงวิญญาณมีความสุข แต่วิญญาณแต่ละดวงจะต้องเลือก (และกำลังเลือก ชะตากรรมของตนเองในทุกขณะ)[/FONT]

    [FONT=&quot]
    ชัดเจนว่าการทำร้ายหรือทำลายผู้อื่นโดยเจตนาไม่ใช่การกระทำอันสูงสุด และก็ชัดเจนว่าการละเลยความต้องการของผู้ที่เธอเป็นเหตุให้เขาต้องพึ่งพิงเธอนั้นเป็นการไม่เหมาะสม [/FONT]

    [FONT=&quot]งานของเธอคือส่งเขาสู่การพึ่งตนเอง และสอนเขาให้เร็วและสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ว่าจะไปต่ออย่างไรโดยไม่มีเธอ เพราะเธอจะไม่เป็นสิ่งดีในชีวิตเขาตราบที่เขายังต้องพึ่งพาเธอเพื่อจะมีชีวิตรอด แต่เธอจะเป็นพรต่อเขาอย่างแท้จริง หากพวกเขาตระหนักได้ว่าเธอไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป [/FONT]
    [FONT=&quot]
    โดยนัยเดียวกัน ขณะเวลายิ่งใหญ่ที่สุดของพระเจ้าคือห้วงยามที่เธอตระหนักว่าเธอไม่ต้องการพระเจ้าแล้ว [/FONT]

    [FONT=&quot]
    ครูที่แท้ไม่ใช่ผู้ที่มีนักเรียนมากที่สุด แต่คือผู้สร้างครูมากที่สุด[/FONT]

    [FONT=&quot]
    ผู้นำที่แท้ไม่ใช่ผู้ที่มีบริวารมากที่สุด แต่คือผู้สร้างผู้นำมากที่สุด [/FONT]

    [FONT=&quot]
    กษัตริย์ที่แท้ไม่ใช่ไพร่ฟ้าประชาชนมากที่สุด แต่คือผู้นำคนเข้าถึงความสูงส่งได้มากที่สุด[/FONT]

    [FONT=&quot]
    บรมครูที่แท้หาใช่ผู้ที่มีความรู้มากที่สุด แต่คือผู้ที่ทำให้คนมากที่สุดเข้าถึงความรู้ [/FONT]

    [FONT=&quot]
    และพระเจ้าที่แท้ก็ไม่ใช่ผู้ที่มีข้ารับใช้มากที่สุด แต่คือผู้ที่รับใช้มากที่สุด เพราะฉะนั้นจึงได้เป็นพระเจ้าของคนทั้งหลาย [/FONT]

    [FONT=&quot]
    ด้วยว่านี่คือจุดหมายและความรุ่งโรจน์ของพระเจ้า นั่นคือ ทุกคนจะไม่รู้สึกว่าพระเจ้าคือสิ่งมิอาจเอื้อมอีกต่อไปแต่จะรู้จักในฐานะสิ่งที่เลี่ยงไม่พ้นแทน [/FONT]

    [FONT=&quot]
    ฉะนั้นเวลานี้ในฐานะพ่อแม่ สามีภรรยา หรือผู้เป็นที่รักของใครก็ตามจงหาทางที่จะไม่ทำให้ความรักของเธอเป็นเหมือนกาวที่เชื่อมติด แต่เป็นดั่งแม่เหล็กที่ดึงดูดในคราวแรกแล้วหมุนกลับและผลักออก เพื่อไม่ให้ผู้ที่เธอดึงดูดเข้ามาเริ่มเชื่อว่า พวกเขาต้องติดหนึบอยู่กับเธอเพื่อจะมีชีวิตรอด ไม่มีอะไรจะห่างไกลความจริงและทำลายพวกเขาได้มากกว่านี้อีกแล้ว [/FONT]

    [FONT=&quot]
    ให้ความรักของเธอขับเคลื่อนคนที่เธอรักออกสู่โลก สู่ประสบการณ์เต็มเปี่ยมว่าพวกเขาคือใคร ด้วยการนี้เธอจึงแสดงถึงความรักที่แท้จริง

    (kiss)(f)(ping-love(deejai)(one-eye)(eek)(tm-love)qsquchearr:VO:z2:z4:z6:z8
    [/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 เมษายน 2012
  9. Equal

    Equal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +195
  10. Ong

    Ong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +12,861
    ใจดีจัง สนใจมากเลยครับ
     
  11. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ย่อสั้นๆหน่อยครับ ผมขี้เกียจอ่านยาวๆพระเจ้ามีจริงเหรอ
     
  12. Equal

    Equal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +195
    การปฏิบัติลุได้ด้วยความเพียร มรรคมีองค์ ๘ อริยสัจ ๔ ...

    คนที่รอผู้อื่นมาบอก ก็จะมัวแต่สงสัย ...

    สาธุธรรม ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นเทอญ _/|\_
     
  13. Ong

    Ong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +12,861
  14. WILAILAK999

    WILAILAK999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +119
    ไม่อยากไห้สงครามโลก2015 กับโลกแตก2013 เลยอะ พระเจ้าช่วยด้วยT^T
     
  15. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    >ไม่อยากไห้สงครามโลก2015 กับโลกแตก2013 เลยอะ พระเจ้าช่วยด้วยT^T

    โลกไม่แตกหรอก
     
  16. Peet

    Peet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +324
    มีต่อไหมครับ
    อยากอ่านต่ออีก
    หนังสือก็หาไม่ได้แล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...