พื้นที่ปลอดภัยยามเกิดอภิมหันตภัย ในจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทย

จากเรื่องของพระนางมัลลิกา ขนาดพระนางเป็นถึง
อัครศาสนูปถัมภก ก่อนตายจิตตกเพียงนิดเดียว
ยังต้องไปเกิดในยมโลก เดชะบุญด้วยผลของกรรมดี
ที่ทำมาตลอด จึงได้ไปอยู่เพียงแค่ 7 วัน และคุณผู้อ่าน
ลองคิดดูก็แล้วกัน ถ้าเป็นอย่างพวกเรา ทำบุญบ้าง
ทำบาปเป็นนิจศีล แล้วถ้าเกิดตายขึ้นมา เราจะไปอยู่
ณ แห่งหนใด ถ้าเรายังใช้ชีวิตในทางที่ประมาทอย่างทุกวันนี้

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->

 

เอ้า..ยกตัวอย่างอีกเรื่อง เดี๋ยวผู้อ่านจะจิตตกไปเสียหมด
ว่าขนาดพระที่ได้บวชในสมัยพระพุทธเจ้าทั้งที
ยังไปเำกิดเป็นเล็น หรือทำความดีมาทั้งชีวิต
จิตตกแว๊บเดียวก่อนตายก็ยังลงนรกได้ เดี๋ยวจะ
ไม่มีกำลังใจทำความดีกันไปเสียก่อน

เรื่องเล่าของนายแคล้ว ธนิกุล

" กรณีของเจ้าพ่อเมืองหลวง คุณแคล้ว ธนิกุล
ซึ่งถูกกลุ่มมือปืนล้อมยิงจนเสียชีวิตคารถยนต์
ตามเนื้อข่าวนั้น ที่ข้างตัวคุณแคล้วมีปืนสั้นตกอยู่
หนึ่งกระบอก คาดว่าคุณแคล้วคงคิดจะต่อสู้ป้องกันตัว
เมื่อคิดจะต่อสู้ป้องกันตัว ภาวะของจิตขณะนั้น น่าจะ
เป็นอย่างไร อกุศลไช่ไหม ในเมื่อมึงคิดจะฆ่ากู
กูก็จะฆ่ามึง ชาติเสือต้องไว้ลาย ขณะที่คิดฆ่าเขา
จิตเป็นอกุศลใช่ไหม

 

แต่ถ้าใครจำภาพข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้ คุณแคล้วตาย
ในขณะที่อมอะไรไว้ในปาก อมพระสมเด็จวัดระฆัง จิตสุดท้าย
ยึดเหนี่ยวพระสมเด็จ(พระพุทธเจ้า)เป็นที่พึ่ง คุณแคล้วโชคดีมาก
ที่มีพระสมเด็จติดตัวตลอด แม้จะเอาชีวิตไม่รอด แต่คุณแคล้ว
ก็รอดครั้งสำคัญ คือ รอดจากนรก เพราะหลังจากที่คุณแคล้ว
ตายวันเดียว

เขาทราย กาแลคซี่ ขึ้นชกมวยป้องกันตำแหน่งไว้ได้ มีการมอบ
รางวัลบนเวที มีผู้เห็นคุณแคล้วปรากฎตัวอยู่บนเวที ผ่านจอ
โทรทัศน์ หลังจากนั้นอีกหนึ่งวัน หนังสือพิมพ์ไทยรัฐลงข่าวว่า
มีผู้เห็นคุณแคล้วแต่ชุดสากลเดินเข้าไปในสมาคมมวย
แห่งประเทศไทย

 

แล้วถัดมาอีกหลายปี หลวงปู่โง่น โสรโย เขียนหนังสือ
เรื่องพระพี่นางสุพรรณกัลยา ท่านเล่าว่า คุณแคล้วเอา
รถลีมูซีนมารับท่านไปส่งที่วัด นั่น....

ผี คุณแคล้ว เอารถลีมูซีนผี มารับท่านไปส่งถึงวัด
เป็นการยืนยันว่า คุณแคล้วไม่ตกนรก แต่เป็นเทวดา
เพราะว่าเทวดาเท่านั้นจึงจะแสดงฤทธิ์ สร้างกุศลเช่นนั้นได้
นี่อย่างไร ขณะจิตสุดท้ายที่เป็นกุศล ระลึกยึดเหนี่ยวใน
พระสมเด็จมีพุทธานุสสติ จึงมีสิทธิ์ที่จะเสวยผลจากข้อมูล
ที่เป็นบวกก่อน

แต่ในลักษณะเช่นนี้ นานเท่าใดจึงจะใช้ข้อมูลที่เป็นกุศลนั้นหมดไป
ก็กี่วินาทีที่ระลึกถึงพระสมเด็จ เพียงแค่หนึ่งวินาที จิตเกิดดับไปแล้ว
สี่ล้านล้านขณะ หนึ่งวินาทีได้ตั๋วตั้งสี่ล้านล้านใบ
(ท่านเปรียบเทียบกับการดูภาพยนต์...ป้าเม)
ตั๋วหนึ่งใบดูหนังได้สองชั่วโมง (ท่านสมมติ...ป้าเม) ถามว่า

คุณแคล้วจะเป็นเทวดาได้นานแค่ไหน???

 

ลองฟังคำตอบจากหลวงตาม้าเอาเอง:
(หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ จังหวัดเชีัยงใหม่)

คัดจาก หลวงตาม้าสอนศิษย์ > หลวงตา....ที่ผมรู้จัก
w.watthummuangna.com/board/archive/index.php/t-3145.html

ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเคยถามหลวงตาท่านว่า...

หลวงตาค่ะ...ถ้าเรายังไม่ถึงระดับพระอริยบุคคล อย่างเช่น
พระโสดาบัน เรายังตัดสังโยชน์ไม่ได้ ก็มีสิทธิ์ไปอบายภูมิ
ได้ใช่ไหมค่ะ..

.....ไม่ได้...ถ้าเรายึดไตรสรณคมได้นะ...อบายภูมิไม่ใช่ที่ไป

อ้าววว..งั้นถ้าคนเกิดมาแล้วทำเลวทั้งชาติ ตอนตาย
จับพระได้ก็ไม่ลงนรกซิค่ะ...หลวงตา

.....ใช่...ก็อย่าง***งัย ตอนตายจับพระได้ ตอนนี้ยังเป็นเทวดาอยู่เลย

งั้นก็เป็นได้ไม่นานซิค่ะ..หลวงตา เพราะทำไม่ดีไว้มาก

.....นานนะ...ขึ้นอยู่กับบารมีของพระที่จับด้วย

ยังงั้นถ้าคนทำไม่ดีไว้ ตอนตายจับพระได้ จะไปใช้กรรมตอนไหนล่ะค่ะ

....ยังงัยก็ต้องชดใช้........

 

พระพุทธเจ้าตรัสว่า

"ผู้ถือเอาพระรัตนตรัย อันประกอบด้วยอุดมคุณอย่างนี้นั้น
ชื่อว่าพ้นจากอบาย ทั้งยังจะได้เกิดในเทวโลก"

"ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ได้ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะแล้ว
จักไม่เข้าสู่อบายภูมิ ครั้นละจากอัตภาพของมนุษย์แล้ว
ย่อมยังกายของเทพให้บริบูรณ์"

"ผู้ถึงพระรัตนตรัย อันประกอบด้วยคุณอันอุดมอย่างนี้
ชื่อว่าจะเป็นผู้บังเกิดในนรกเป็นต้นย่อมไม่มี อนึ่งพ้นจาก
การบังเกิดในอบายแล้ว ยังจะเกิดขึ้นในเทวโลกได้เสวยมหาสมบัติ"

“คนที่ไม่เคยใส่บาตร ไม่เคยฟังเทศน์ ไม่เคยยกมือไหว้
นึกถึงชื่อตถาคตอย่างเดียว ตายแล้วไปสวรรค์ไม่ใช่
นับร้อย นับพัน นับเป็นโกฏิ”

มีพุทธพจน์รองรับเต็มไปหมด อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่า
จากพุทธดำรัส ใช้คำว่า ผู้ถึงพระรัตนตรัย ได้ถึงพระพุทธเจ้า
เป็นสรณะแล้ว ผู้ถือเอาพระรัตนตรัย

ไม่ใช่เป็นการนึกถึงเล่น ๆ แต่อย่างใด ต้องมีการใส่ใจ
เอาใจลงไปใส่ ลงในพระพุทธเจ้า และพระรัตนตรัย
หรือศรัทธาเลื่อมใส เช่น นายแคล้ว ธนิกุล เขาทำอย่างนั้น
อยู่เสมอมา วาระสุดท้ายก็อมสมเด็จไว้ เขาจึงไม่ตกนรก

นายแคล้ว ธนิกุล อมสมเด็จไว้ในปาก ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า ขึ้นสวรรค์

 

จังหวัดที่อยู่ติดกับทะเล เช่น สมุทร...ทั้งหลายและก็ภาคใต้ทั้งหมด
ไม่เป็นที่ปลอดภัยทั้งสิ้น คิดแค่ใกล้ ๆ ในหลักของภูมิศาสตร์ ขณะนี้
น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และจังหวัดที่อยู่
ติดทะเลทั้งหมดจะไม่โดนเชียวหรือ ยังไม่รวมถึงภัยธรรมชาติต่้าง ๆ
ที่ทยอยเกิดขึ้นอีก และรวมถึงญาณสัมผัสของท่านผู้รู้หลาย ๆ คน
ก็ได้เตือนออกมาแล้ว อย่าคิดว่าจะปลอดภัยเลย ให้เตรียมขยับขยาย
หาที่พักพิงสำรองเผื่อเอาไว้ได้แล้ว ถ้ามีทุนอยู่บ้าง ก็หาซื้อที่กันไป
แต่ถ้าไม่มีทุนจะไปอยู่ที่ไหน เดี๋ยวผู้เขียนจะทยอยลงให้ว่า

เราจะมีที่อยู่อาศัยยามภัยพิบัติได้อย่างไร โดยลงทุนให้น้อยที่สุด

ยังไม่ได้จังหวะเขียนสักที เพราะต้องทยอยลงไปทีละตอน
เดี๋ยวเนื้่อหาจะกระโดดไปกระโดดมา ผู้อ่านจะงงกันเปล่า ๆ
เอาเป็นว่า ผู้เขียนแนะนำว่า ถ้าอยู่แถว ๆ กรุงเทพฯ ก็ดูจุดหมายเอาไว้
ถ้าเป็นภาคเหนือให้เลยจังหวัดนครสรรค์ไปแล้ว แต่ถ้าเป็นทางอีสาน
ให้เริ่มตั้งแต่จังหวัดสระบุรีไปก่อน เพราะสระบุรีมีถ้ำอยู่เยอะ และ
มีรอยพระบาทเป็นที่ประดิษฐานอยู่ปากประตูไว้ให้แล้วค่ะ

ช่วงนี้มีคำเตือนให้ระวังเรื่องสตอร์มเซิร์จ จังหวัดที่ติดทะเลทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นฝั่งอ่าวไทยหรือฝั่งอันดามัน ช่วยเฝ้าระวังกันหน่อยนะค่ะ
เพราะจะมาแบบไม่ทันรู้ตัว

 

อ่านเรื่อง แคล้ว ธนิกุล ที่คุณ ไ เขียนแล้วทำให้นึกอะไรขึ้นอย่าง

กรณีที่คนถูกระดมยิงด้วยอาวุธปืนในรถยนต์ และตัวเองควักปืนออกมาต่อสู้
จิตหรือความคิดตอนนั้น มีเพียงสัญชาตญาณการเอาตัวรอดจากการถูกยิง
และปืนที่ยิงสวนออกไปนั้นเพียงเพื่อต้องการระงับหรือเพื่อหยุดมิให้อีกฝ่ายระดมยิง
ไม่ได้ตั้งใจฆ่าหรือสังหาร หรือเรียกสั้นๆว่า ยิงเพื่อป้องกันตัว
เมื่อจิตขณะนั้นมิได้ตั้งใจฆ่า บังเอิญกระสุนนั้นไปถูกคนร้าย อย่างนี้ถือว่า ศีลข้อหนึ่งขาดหรือไม่
และถ้าบังเอิญถูกยิงเสียชีวิต เขาจะตกนรกเลยหรือไม่

 

ถึงแม้ว่าเราจะเตรียมย้ายถิ่นฐานในตอนนี้ แต่พอวันข้างหน้าที่เกิดสงครามขึ้นที่ ๆ เราควรจะอาศัยก็คือตามถ้ำเหรอคะ แค่คิดก็เหนื่อยซะแล้ว

 

storm surge สาเหตุหลักมาจาก ลม
tsunami สาเหตุหลักมาจาก ดิน

สองมหันตภัยมาจากความไม่สมดุล-ความไม่เสถียร ของโลกทั้งสิ้น

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> จะดูว่ากรรมใดเป็นบาปหรือเป็นบุญ พระพุทธเจ้า
ชี้ให้มองที่ประธานของกรรมคือ เจตนา

ศึกษาได้จาก <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
การฆ่าคน?

��æ�����ҧ�� ����繺һ - ��ҹ �.Ǫ�����

������ʺ�§�������§��� - �ѧ�ij

 

ตั้งใจจะเขียนอธิบายให้คุณ porpao เสียหน่อยว่า การอพยพนั้นขึ้นอยู่กับ
ปัจจัยรอบด้านเป็นสำคัญ แต่พอเขียนอธิบายแล้ว จะยาวมาก ขอสรุป
ให้ตอนท้ายจะดีกว่า เดี๋ยวผู้เขียนจะพลอยหลงประเด็นไปด้วยอีกคน

 

ติดตามอ่านตลอดค่ะ ได้ความรู้หลากหลายดี ขอบคุณมากค่ะ

 

ช่วงนี้ขอเน้นเรื่องธรรมะมากหน่อย เพราะยามเมื่อ
เกิดภัยพิบัติ การอยู่รวมกับคนหมู่มากก็ดี หรือการมี
สติในการตั้งรับก็ดี เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานั้น
การที่จะรอดปลอดภัยต้องปฏิบัติทั้งทางโลกและ
ทางธรรมไปพร้อม ๆ กัน "ธรรมะเป็นเครื่องค้ำจุนโลก"
ความหมายก็บอกอยู่ตรงตัวแล้ว

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->ก่อนที่มนษย์เราใกล้จะตายนั้น สังเกตว่าธาตุแตก
หรือที่เรียกว่าธาตุไฟแตก ซึ่งถ้าเป็นคนที่ดูแลคนเจ็บป่วย
ใกล้ตาย จะทราบเลยว่ามีลักษณะอย่างไรบ้าง
โดยส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายกัน คือถ่ายอุจาระ
ออกมาเป็นสีดำสนิท ซึ่งไม่ใช่อาการท้องเสีย
บางคนไม่ทราบก็จะนึกว่าใช่

 

เมื่อคนใกล้ตายโดยทั่วไปจะมีลักษณะอารมณ์ 3 อย่าง
เกิดขึ้นปรากฏเป็นอารมณ์ของปฏิสนธิจิต ที่จะชักนำ
ให้ไปเกิดในภพภูมิต่างๆ อารมณ์ทั้ง 3 มีดังนี้

1. กรรมารมณ์ เป็นอารมณ์ของกรรมที่ตนเคย
กระทำไว้ มาปรากฏให้เห็นในขณะจิตที่กำลังใกล้ตาย
เช่น ถ้าตนเคยฆ่าวัวเพื่อขายเนื้อเป็นประจำ ภาพที่
ตัวเองเคยฆ่าจะมาปรากฏ ด่าพ่อว่าแม่ เคยทะเลาะ
เบาะแว้งหรือดื่มเหล้าเป็นปกติ ลักขโมยของเป็นปกติ
ภาพเหล่านี้จะมาปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนเหมือนกับ
ที่ตัวเองเคยทำไว้ไม่ผิดเพี้ยน แล้วจิตก็ยึดเอาภาพเหล่านั้น
เป็นอารมณ์กรรมารมณ์นี้ จะมีผลต่อจิตที่จะทำให้ไปเกิดในภพภูมิต่างๆ

 

2. [FONT=&quot]กรรมนิมิตตารมณ์[FONT=&quot] หากกรรมารมณ์ไม่ปรากฏ
ให้คนที่ใกล้จะตายเห็น[/FONT][FONT=&quot]ก็จะมีกรรมนิมิตตารมณ์
มาปรากฏ ได้แก่[/FONT][FONT=&quot]อุปกรณ์ที่ตนใช้กระทำดีหรือชั่ว
ในอดีตมาปรากฏให้เห็น [/FONT][FONT=&quot]เพราะตามธรรมดาใน
การประกอบกรรมทุกชนิด ส่วนมากจะมีอุปกรณ์
เครื่องมือ เช่น[/FONT][FONT=&quot]ฆ่าวัว ก็ต้องมีมีด ค้อน เป็นต้น
เป็นเครื่องมือ หรือทำบุญ ก็จะมีไทยธรรม [/FONT][FONT=&quot]
มีเครื่องใช้ไม้สอยในการประกอบบุญ เช่น
ขันใส่ข้าว ทัพพีตักอาหารใส่บาตร[/FONT][FONT=&quot] เป็นต้น
อุปกรณ์เหล่านี้จะมาปรากฏเป็นกรรมนิมิต
ในขณะจิตใกล้จะดับ[/FONT][FONT=&quot] ซึ่งภาพที่เห็นจะแจ่มชัด
เพียงใด สุดแต่ใครจะทำดีชั่วด้วยสิ่งใด[/FONT][FONT=&quot] บ่อยมาก
เพียงใด เมื่อจิตยึดหน่วงไว้เป็นอารมณ์[/FONT][FONT=&quot]
ภาพเหล่านั้นจะมีผลต่อความหมองหรือใสของใจ[/FONT][/FONT]

 

[FONT=&quot]3. คตินิมิตตารมณ์[FONT=&quot] หากกรรมนิมิตตารมณ์ไม่ปรากฏ
คตินิมิตตารมณ์จะปรากฏให้เห็น ได้แก่ นิมิต[/FONT][FONT=&quot]ต่างๆ
ที่จะบ่งบอกถึงภพภูมิที่ตนจะต้องไปเกิด ปรากฏให้
เห็นเด่นชัด[/FONT][FONT=&quot] บางทีก็เป็นภาพที่ตนไม่เคยเห็นมาปรากฏ
[/FONT][FONT=&quot]แต่บางทีก็เป็นภาพที่ตนเคยเห็นครั้งที่เป็นมนุษย์
มาปรากฏ เช่น[/FONT][FONT=&quot]ภาพสัตว์หรือมนุษย์ เป็นต้น[/FONT][/FONT]

 

คนที่ใกล้จะตายแล้วอาการหวาดกลัวสามารถแก้ไขได้
บางคนเกิดอาการหวาดกลัวล่วงหน้าเป็นเวลาเดือน
ครึ่งเดือน สามารถแก้ไขทำให้ผ่องใส หายหวาดกลัวได้
โดยเราต้องฉลาดในการปรับจิต ต้องดูว่าคนนั้นชอบอะไร
ถ้าชอบพระเครื่อง หาพระเครื่องที่เขาชอบไปวางไว้
ข้างหน้า ชอบพระพุทธรูปรุ่นไหนก็หารุ่นนั้นไปวางไว้
และชวนคุย สิ่งที่ต้องชวนคุย คือต้องปรารภถึงบุญกุศล
ที่ได้เคยทำมาแล้ว เคยไปทำอะไรๆมา พูดชวนให้
ระลึกถึง พ่อไปทอดกฐินที่โน่นมา นึกได้ไหม
ไปทอดกฐินที่นี่มา นึกได้ไหม ไปให้ทานที่นั่นมา
นึกได้ไหม ต้องพยายามเตือนใจบ่อยๆ พอเตือนใจบ่อยๆแล้ว
ระลึกถึงได้ จิตก็จะผ่องใสก่อนตาย เมื่อตายแล้วก็ไปสู่สุคติภูมิ

 

[FONT=&quot]บุคคลที่ไม่เคยได้ยินเรื่องตาย พอได้ยินปั๊บก็หวาดกลัว
แต่พอได้ยินบ่อยๆเกิดรู้สึกเฉยๆ คนไม่เคยเห็นศพ
เห็นแล้วตกใจ แต่เห็นบ่อยๆเห็นแล้วธรรมดา
พระพุทธเจ้าท่านสอนให้เราคุ้นเคยกับความตาย
ด้วยการนึกถึงความตายบ่อยๆ ท่านสอนให้เราระลึกถึง
ความตาย ระลึกว่าเราจะต้องตาย ระลึกอย่างหายใจ
เข้าไม่ออกก็ตาย หายใจออกไม่เข้าก็ตาย ความตาย
ต้องเกิดขึ้นกับเราแน่นอน ตอนก่อนนอนเคยนึก
อย่างนี้ไหมว่าเราจะต้องตาย ฝึกหัดอย่างนี้กันไว้บ้างนะ
จะได้ประโยชน์[/FONT]

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=233236

 

[FONT=&quot]สมัยพุทธกาลมีพระรูปหนึ่งชื่อพระอนุรุทธะ ท่านอาพาธหนัก
ต่อมาท่านหายป่วย [FONT=&quot]เพื่อนพระจึงถามว่า ท่านหายได้
เพราะอะไร ท่านบอกว่าเพราะ เจริญสติปัฏฐาน ๔[/FONT] [FONT=&quot]
คือการมีสติรู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรม พูดสั้น ๆ[/FONT] [FONT=&quot]คือ
รู้เท่าทันในกายและใจ[/FONT] [FONT=&quot]สติช่วยให้เราเห็นความทุกข์
ทางกาย โดยไม่เข้าไปเป็นผู้ทุกข์[/FONT] [FONT=&quot]ช่วยประคองใจ
ไม่ให้เข้าไปในความทุกข์ หรือกระสับกระส่ายไปกับกาย
พูดง่าย ๆ[/FONT] [FONT=&quot]คือแม้ปวดกาย แต่ไม่ปวดใจ กายกระสับ
กระส่าย แต่จิตไม่กระสับกระส่าย[/FONT] [FONT=&quot]อันนี้ต้องอาศัยสติ
เพราะถ้าเราไม่มีสติ[/FONT] [FONT=&quot]จิตมันก็จะไปจมอยู่กับความทุกข์
ทางกาย การมีสมาธิก็ช่วยได้[/FONT][/FONT]

http://www.budnet.org/peacefuldeath/node/9
หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม [FONT=&quot]http://www.danpranipparn.com/web/anser/anser[FONT=&quot]27.[/FONT][FONT=&quot]html[/FONT][/FONT]