ผีมีจริง...ตอนสร้างเมรุเผาศพเสร็จเพราะมีเว็บพลังจิตใช้งบเกือบล้าน(ป่าช้าโบราณ)

สู้ สู้ค่ะ.... อย่าท้อ^^

 

...อนุโมทนาสาธุครับ ท่านพระอาจารย์และทุกๆท่าน
...สรุปไม่ว่าใครก็ตามเกิดมาแล้วมีภาระหน้าที่กันทั้งนั้นตั้งแต่เกิด
...เป็นเด็กก็มีหน้าที่เรียน เป็นผู้ใหญ่ทำมาหาเลี้ยงชีพและครอบครัว
...เป็นพระสงฆ์ก็ยังมีหน้าที่เกี่ยวกับการเผยแพร่พระพุทธศาสนากิจของสงฆ์ฯลฯ
...ทุกคนมีหน้าที่กันไม่เว้นแม้แต่ ในหลวง ของเราท่านดูแลทุกข์สุขของ ปชช.คนไทย
...ด้วยหน้าที่นี่แหละครับ คือการต้องเรียนรู้กับชีวิตอย่างใช้ สติและปัญญา
...อะไรคือความพอดี ของหน้าที่ในแต่ละบุคคล กฏแห่งกรรมบางทีก็เลือกสรรมาเป็นแผนที่ชีวิตให้แล้ว
...แต่สิ่งที่เป็นสัจธรรมและเป็นความจริงที่สุดที่คนเราชาวพุทธไม่ต้องเรียนรู้เองแบบคลำทางสะเปะสะปะไร้ทิศทาง
...นั่นคือคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ท่านเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างเป็นภพเป็นชาตินานเหลือเกิน
...จนมีคำตอบให้มนุษย์ได้เรียนรู้ มีครบทุกแง่มุมก็ว่าได้เรียกว่าถ้าเป็นยา ก็เป็นยาครอบจักรวาล
...หยิบขึ้นมาทานเมื่อไร โรคนั้นก็ทุเลาเบาบางจนหายสนิทไปในที่สุด
...แต่เพราะมนุษย์ทั้งหลายไปเพลินและติดกับกิเลสที่มนุษย์ด้วยกันเองบัญญัติไว้ว่าถ้าจะรวยต้องอย่างนี้นะ
...ถ้าจะเป็นนายคนมีอำนาจต้องอย่างนี้นะ และก็มีตัวอย่างให้เห็นด้วยในสังคม
...มนุษย์จึงเกิดความเชื่อในรูปแบบของมนุษย์ที่ติดอยู่กับ กิเลส ตัณหา อุปาทาน อวิชชา อกุศลกรรม ฯลฯ
...ถ่ายทอดกันมาเป็นรุ่นๆจาก ปู่ ย่า ตา ยาย มาถึง พ่อ แม่ จนยุคของตัวเอง เป็นสัญญาสืบทอดต่อๆกันมาจนเป็นความเชื่อ
...จะเห็นได้ว่าทุกคนอยากรวยๆๆ และก็รวย รวยเสร็จอยากมีอำนาจชื่อเสียง พอมีอำนาจก็อยากจะมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีกไม่รู้จักพอ
...เพราะสังคมไทยหรือสังคมโลกยอมรับนับถือคนด้วยเงินและอำนาจล้วนๆ ยิ่งปัจจุบันการเคารพนับถือความเป็นมนุษย์ที่เป็นคนดีกลับน้อยไปเรื่อยๆ
...สังคมไทยวันนี้จึงถึงทางตัน มีแต่การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น เพื่อดันสถานะภาพของตัวเองให้สังคมยอมรับกันได้ใส่หน้ากากเข้าหากัน
...ซึ่งพระพุทธเจ้าไม่ได้สอนเช่นนี้เลย แสดงว่าอะไร นั่นหมายถึงไม่มีใครสนใจการประคองชีวิตแบบในแนวพุทธกันจริงๆจังๆอย่างที่ชาวพุทธควรปฏิบัติ
...แม้แต่ไปวัดแทนที่จะไปฟังธรรมหาความสงบหาความรู้เพื่อลดความทุกข์ กลับมุ่งแสวงหาแต่ ลาภ ยศ สรรเสริญ ซึ่งวัดส่วนใหญ่วันนี้ก็ตอบสนองตามกิเลสของคน
...ใครได้รุ่นนี้ รุ่นนั้น รวยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่มีจนกันสักคน ที่จนคือคนไม่มีปัญญานั่นแหละ ราคาเท่าไรก็สู้ไม่ถอย
...บางทีก็ต้องนำความจริงมากล่าวอ้างกันบ้างเพื่อจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันครับ
...ฉนั้นการปรับเปลี่ยนวิธีคิดบางครั้งอาจต้องใช้เวลา จากการใช้สติและปัญญาพิจารณาจากประสบการณ์และการเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน
...ถ้าเรียนรู้ได้เร็วก็จะเข้าใจชีวิตในมุมที่ถูกต้อง ไม่ต้องไปค้นหาอ่านตำราฝรั่งคนนั้นคนนี้หรือคนรวยที่ประสบความสำเร็จให้เสียเวลากัน
...ตำราของพระพุทธเจ้านี่แหละอ่านได้ทั้งชีวิตเลยและทำให้ชีวิตเป็นปกติที่ควรจะเป็นมากที่สุดแล้วครับ
...เกิดเมื่อไหร่ก็ทุกข์เมื่อนั้น แต่จะทำอย่างไรให้ทุกข์น้อยที่สุด หรือไม่ทุกข์อีกเลย ตถาคตของเราชาวพุทธ ท่านบอกไว้หมดครบทุกความต้องการเรียบร้อยแล้ว
...เหลือแต่พุทธบุตร ของท่านเท่านั้นจะเลือกแบบไหนท่านก็มิได้ทรงห้ามแต่ประการใด เป็น ประชาธิปไตย๑๐๐%
...๓ โลกธาตุที่มีให้เลือก นรก โลก สวรรค์ เกิดเมื่อไรเป็นเมื่อไร ยังไม่หมดทุกข์แน่ๆ
...จะหมดจดต้อง นิพพาน ดับทุกอย่าง เหลือแต่ความว่างเปล่า เหลือเพียงจิตประภัสสรเท่านั้น สุขนิรันดร ไม่มีแม้แต่เพศ ไม่มีธาตุ๔ ขันธ์๕ และไม่มีอะไรให้เกิดทุกข์ได้อีกเลย
...นิพพานัง ปรมังสุขัง นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ

 

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุจจาระ, ปัสสาวะ, น้ำลาย, น้ำหนอง, เลือด แม้มี
ประมาณน้อย ก็มีกลิ่นเหม็นฉันใด เราย่อมไม่สรรเสริญภพ(ความวนเวียนเป็นนั่น
เป็นนี่) แม้มีประมาณน้อย โดยที่สุด แม้เพียงลัดนิ้วมือเดียวฉันนั้น."

เอกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๐/๔๖ ​

 

<center>ธรรมที่มีความทะยานอยากเป็นมูล ๙ อย่าง</center> ในข้อนั้น ธรรมที่มีความทะยานอยากเป็นมูล ๙ อย่างเป็นไฉน ?
๑. เพราะอาศัยความทะยานอยาก จึงมีการแสวงหา
๒. เพราะอาศัยการแสวงหา จึงมีลาภ
๓. เพราะอาศัยลาภ จึงมีการวินิจฉัน
๔. เพราอาศัยการวินิจฉัน จึงมีความกำหนัด (หรือความคิด) ด้วยอำนาจแห่งความพอใจ
๕. เพราะอาศัยความกำหนัดด้วยอำนาจแห่งความพอใจ จึงมีการฝังใจ
๖. เพราะอาศัยการฝังใจ จึงมีการหวงแหน
๗. เพราะอาศัยการหวงแหน จึงมีความตระหนี่
๘. เพราะอาศัยความตระหนี่ จึงมีการอารักขา
๙. เพราะมีการอารักขาเป็นเหตุ จึงมีการจับท่อนไม้ การจับศัสตรา การทะเลาะ การแตกแยก การกล่าวขัดแย้งกัน การชี้หน้ากัน การพูดส่อเสียด การพูดปด และธรรมที่เป็นบาปอกุศลอีกเป็นเอนก
นี้คือธรรมที่มีความทะยานอยากเป็นมูล ๙ อย่าง.

อภิธัมมปิฎก ๓๕/๕๒๗ ​

 

อนุโมทนาสาธุ คุณโยมเเดนนี่ ขอให้เจริญยิ่งๆขึ้นไปในธรรม
เตรียมใจ เสร็จงานผ้าป่าวัดป่าบ้านหนองผักเเว่น
25-26 ก.พ.2555 พระอาจารย์ จะพาไปอินเดีย เเดนนี่มีศรัทธาอยู่เเล้วจะยิ่งศรัทธา จนหาที่เปรียบไม่ได้ พระอาจารย์ ไปอินเดียครั้งเเรก พระอาจารย์ขอพูดภาษาชาวบ้านคือ เหมือนพระอาจารย์ ได้กลับมาบ้านเกิดตัวเองที่จากไปนานเเสนนาน ไม่กลัวความลำบากอะไรทั้งนั้น เเม้กายพร้อมมอบถวายชีวิต
เเด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอาจารย์พูดไม่ออกบอกไม่ถูก บรรยายไม่ได้ ต้องไปสัมผัสด้วยตัวคุณโยมเอง...เเล้วทั้งคุณโยมnahpee เเละคุณโยมเเดนนี่ จะบอกว่า คุ้นๆเหมือนเคยอยู่มาก่อน เรื่องจริงหลวงปู่ดี ท่านก็เป็น เกิดปิตินานมาก เเต่ให้อธิบายออกมาไม่หมด...

 

ครับพระอาจารย์ อนุโมทนาบุญกับทุกท่านในที่นี้ด้วยครับ

 

ตำราของพระพุทธเจ้านี่แหละอ่านได้ทั้งชีวิตเลยและทำให้ชีวิตเป็นปกติที่ควรจะเป็นมากที่สุดแล้วครับ
...เกิดเมื่อไหร่ก็ทุกข์เมื่อนั้น แต่จะทำอย่างไรให้ทุกข์น้อยที่สุด หรือไม่ทุกข์อีกเลย ตถาคตของเราชาวพุทธ ท่านบอกไว้หมดครบทุกความต้องการเรียบร้อยแล้ว
...เหลือแต่พุทธบุตร ของท่านเท่านั้นจะเลือกแบบไหนท่านก็มิได้ทรงห้ามแต่ประการใด เป็น ประชาธิปไตย๑๐๐%
...๓ โลกธาตุที่มีให้เลือก นรก โลก สวรรค์ เกิดเมื่อไรเป็นเมื่อไร ยังไม่หมดทุกข์แน่ๆ
...จะหมดจดต้อง นิพพาน ดับทุกอย่าง เหลือแต่ความว่างเปล่า เหลือเพียงจิตประภัสสรเท่านั้น สุขนิรันดร ไม่มีแม้แต่เพศ ไม่มีธาตุ๔ ขันธ์๕ และไม่มีอะไรให้เกิดทุกข์ได้อีกเลย
...นิพพานัง ปรมังสุขัง นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ<!-- google_ad_section_end -->
อนุโมทนาสาธุ ตรงใจที่สุด คงไม่ต้องอธิบายต่อ...

 

...สาธุ สาธุ สาธุ ครับท่านพระอาจารย์
...เวลาใช้จิตภายในพูดตัวอักษรที่พิมพ์จะออกมาลื่นไหลโดยอัตโนมัติ
...บางทีผมกลับไปอ่านซ้ำ ก็ยังแปลกๆใจตนเองเลยครับ

 

เด็ก2คนนี้น่ารักดี เมื่อวานมาช่วยงานจนเย็น มอมเเมมไปหมด...
วันนี้มาเล่นน้ำจนเลอะไปหมดต้องจ้างให้กลับบ้านคนละ20บาท
เผลอเเป๊บเดียวหันกลับมาอีกที...หายตัวได้ ไปเเล้วซื้อขนมซะเเล้ว
เด็กหนอ...เด็ก ใสซื้อจริงๆ เหมือนผ้าขาวที่สะอาด พระในวัดพูดว่า
อาจารย์ศรี ช่วยเป็นเจ้าภาพบวชเณร ลิง2ตัวนี้หน่อยนะ... ช่วงปิดเทอมใหญ่
อาตมารีบตอบยินดีบวชเณรง่ายๆ ไม่ยุ่งยากบาตร จีวร ให้ฟรีๆ เเต่มีข้อเเม้ว่า
ห้าม ซนเหมือนลิง จะพาไปฝึกที่วัดป่าที่ร้อยเอ็ดด้วย อาตมามานั้งคิด เเล้วเด็กขนาดนี้
จะทนหิวได้เหรอ..อาตมาคิดเดี๋ยวพาลูกหลานเขาไปลำบากปาบเปล่าๆ
ไม่มีทีวีให้ดูอีกด้วย พรุ่งนี้จะถามเด็กอีกที
หากจะบวชก็ไม่ไช่เรื่องยากอะไร บวชเข้าเเล้วมันยากมากกว่า
(พรุ่งนี้จะต้องถามให้เเน่ใจ ถ้าอยากบวชจริงๆ ยังมีเวลาอีกหลายเดือน)<!-- google_ad_section_end -->

 

...อนุโมทนาสาธุด้วยเลยครับ ท่านพระอาจารย์
...หน้าตาเด็กคนนี้พอมีแววบุญ แถมมาช่วยงานที่วัดซะด้วย
...เป็นเด็กทั่วๆไป อาจไปนั่งเล่นเกมส์หน้าจอคอมฯ
...ถ้ากล่อมได้และยินดีบวช ผมขอมีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพด้วยก็แล้วกันครับท่าน

 

น้องน่ารักนะคะพระอาจารย์ ถ้าเค้าได้บวชตอนนี้นี่ถือว่ากำไรชีวิตมหาศาลทีเดียว เพราะกว่าshelaจะรู้จักกับคำว่าปฎิบัติ ที่ไม่รวมภาคบังคับต้องเรียนพระพุทธศาสนาที่โรงเรียนนี่ก็ปาเข้าเบญจเพสแล้ว อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

 

ชีวิตคุณ กับดิฉันเหมือนกันเลยนะค่ะ ลุกเลี้ยงยาก เรื่องงานมาเป็นระลอก เหนื่อย ไม่ค่อยได้พักผ่อน การปฏิบัติพุดตามตรงคือ ไม่ค่อยคืบหน้า แต่ก็หมั่นปฏิบัติไม่ขาด อาจจะไม่ทุกวัน แต่ก็ทำเกือบทุกวัน แต่ใจระลึกถึงเสมอแม้แต่ยามนอน เดิน นั่ง ผ้คนรอบข้างด้วย ดูเอาพิจรณาเอา การปฏิบัติ หากลูกไม่โตกว่านี้ดิฉันก็คงทำได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ก็ทำจนถึงที่สุด
เพราะบางวันเหนื่อยล้ามาก ต้องนอนพักผ่อน ฝืนไม่ได้ เพราะเราต้องทำงาน ลูกก็นอนไม่เต็มที่ ตื่นตลอดคืน เราเลยพักผ่อนไม่เพียงพอ บางวันนอนไม่เกิน 3-4 ชั่วโมง วันไหนแฟนเมาเหล้าก็อย่านอนเลยดีกว่า ไม่อยากพูด แต่ก็ไม่ใส่ใจ ปล่อยวาง ไม่คิด ก็สบายใจ วันนี้เรายังได้แค่นี้ แต่อีกไม่นานเราต้องได้มากกว่านี้แน่นอน ดิฉันเป็นกำลังใจให้คุณด้วยนะค่ะ
สู้ๆๆๆๆๆๆค่ะ

 

...อนุโมทนาสาธุกับคุณปริมนทร์ 29 และคุณ shela
...ผมมองเห็นความทุกข์ของลูกผู้หญิงชัดเจนขึ้นในวันนี้
...เพราะผมก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เคยทำให้ภรรยาผมทุกข์ใจสุดๆเช่นเดียวกัน
...ซึ่งก็เป็นความเลวในสัญญาเดิมๆที่ติดมา โชคดีว่าภรรยาผมเธอเป็นคนดีจริงๆ
...เธอทนทุกข์ทรมานมามากกับความหลงผิดของผมเรื่องผู้หญิงโชคดีที่เธอและลูกสาวอันเป็นที่รักของเราทั้งสอง
...คือทุกสิ่งทุกอย่างให้เรื่องที่กำลังจะเลวร้ายกลับคืนมาสู่สภาพปกติเหมือนเมื่อเรายังรักกันใหม่ๆเช่นเดิม
...วันนี้ผมเห็นใครนอกใจภรรยาก็ได้แต่ปลง เตือนได้ก็จะเตือน เตือนไม่ได้ก็คงเป็นเรื่องของกรรมใครกรรมเขา
...วันนี้ก็ได้ชดเชยสิ่งที่ทำให้เขาเสียใจสูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจไปได้แล้วในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
...การอภัยให้กันเป็นสิ่งที่ประเสริฐทีสุดที่มนุษย์พึงควรกระทำต่อกันและจะกลายเป็นความรักความเมตตาซึ่งกันและกันไปในที่สุด
...ก็ขอเป็นกำลังใจให้ลูกผู้หญิงทุกคนฝ่าฟันอุปสรรคความทุกข์ในหลายๆเรื่องที่รุมเร้าทุกๆด้าน ที่เข้าใจได้ว่าหนักจริงๆ
...จงสลายผ่อนคลายลงไปด้วยความดีภายในจิต ที่ระลึกต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อปลดความทุกข์ให้เบาบางลงไปสักวัน
...การทำความเพียรปฏิบัติภาวนาไม่ต้องไปฝืนครับ ควรทำเมื่อใจสงบปล่อยวาง ว่างจากสิ่งกระทบจากภายนอก
...วันละเล็ก ละน้อยสะสมไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก กำหนดจิตได้ทุกเวลา ยืน เดิน นั่ง นอน
...ที่สำคัญ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เขาค่อยๆเห็นความดีของเราบ่อยๆเดี๋ยวจิตใจเขาก็อ่อนลงได้
...ความทุกข์ต่างๆก็จะปลดล็อคคลายตัวลง ความสุขหรือทุกข์น้อยก็จะเป็นรางวัลเข้ามาแทนที่ให้กับชีวิตเอง
...แต่สุดท้ายถ้าเบื่อ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย นิพพานเท่านั้นขอชาติปัจจุบันนี้เลยครับ

 

ขอบคุณค่ะ ณิชก็ขอใหคุณปริมนทร์ผ่านเรื่องยากๆในชีวิตไปได้เช่นกันนะคะ

 

อนุโมทนาสาธุค่ะคุณnahpee shela เองก็หวังว่าเราจะสามารถประคองชีวิตตัวเองและครอบครัวให้ดีสุดความสามารถ(ถึงแม้บางครั้งเราจะเหนื่อยมากกว่า)แต่เป็นหน้าที่เพราะเรามีห่วงคือลูก มนุษย์มีหน้าที่สำคัญไม่กี่อย่างในชีวิต ซึ่งกว่าshelaจะหาหน้าที่ตัวเองเจอก็ตอนที่มีทุกข์นี่ล่ะึค่ะ ทุกข์สามารถทำให้เรามีสติได้ขึ้นมาเช่นกันนะคะ ตอนเด็กตั้งใจเรียนเป็นเด็กดีของพ่อแม่ มีครอบครัวก็เลี้ยงดูปกครองอบรมลูกให้เป็นคนดี ฟังดูเหมือนจะง่ายไม่มีอะไรยาก แต่ชีวิตไม่ได้ราบเรียบ ในทุกขณะชีวิตจะมีเรื่องทั้งดีและร้ายเข้ามาเป็นเสมือนตัวเชื่อมชีวิต(เรียกไม่ถูก)เพียงแต่มันจะแย่กว่าหรือดีมากกว่าเท่านั้น กว่าจะผ่านทุกอย่างมาได้ในแต่ละครั้งนี่ทำเขวไปมาก เพราะไม่มีวิธีแก้ปัญหาให้กับตัวเองรู้จักแต่การแก้ชีวิตแบบรูปธรรมแต่ไม่รู้จักในเรื่องของคุณธรรมเลย กว่าจะรู้จักนี่ก็เจอศึกหนักเสียก่อน ทำให้ต้องดิ้นหาที่ดับ ตอนเด็กมีปัญหาพ่อแม่และเงินสามารถแก้ได้ แต่หลุดมาอยู่กับโลกของตัวเองแล้ว ไม่มีใครดับทุกข์ให้เราได้เลยจริงๆ ดีนะคะที่มาเจอเว็บนี้ เลยมีโอกาสมารู้จักธรรมะได้เร็วขึ้น(แต่ยังไม่ดีเท่าที่ควร เพราะหลุดกับอารมณ์บ่อยมากค่ะ) ยังแอบนึกนะคะว่าเราแต่งงานเร็วมีครอบครัวเร็วนี่ก็จูงให้เรามาเจอธรรมะเร็ว หาไม่แล้วถ้ายังไม่แต่งงานคงอยู่แต่ที่อโคจรอย่างเดิมแน่นอน นึกย้อนในเรื่องเก่าๆเรานี่ก็บาป นึกว่าเรียนดีแล้วพ่อแม่สบายใจ เที่ยวเก่งใช้เงินพ่อแม่เก่งแล้วคงไม่เป็นไรเพราะเราเรียนดี คิดแค่นั้นจริงๆ เรียนจบแค่ปีเดียวแต่งงาน รู้ซึ้งเลยค่ะ เฮ้อ ทุกวันนี้คิดได้ว่า การใช้ชีวิตนี่ไม่ง่ายๆจริงๆเพราะเราไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล เราไม่ได้ยิ่งใหญ่เลย หากอยู่แบบไม่เจียมตัวประมาทกับชีวิตนี่ต้องลำบากแน่นอน ทั้งขณะที่มีลมหายใจและหมดลม นี่ก็คิดได้เลยพยายามสอนลูกให้เป็นคนดี มีสติ ฉลาดในการใช้ชีวิตให้ตามวัย ยิ่งเป็นลูกสาวด้วยทั้งคู่นี่ ยิ่งต้องประคองให้ดีที่สุดเพราะเราเองก็มีประสบการณ์มาก่อน สาธุค่ะ

 

ดิฉันติดตามกระทู้นี้อยู่เป็นประจำและคอยอนุโมทนาบุญกับคุณน้าพี คุณแดนนี่ คุณปรมินทร์29 คุณณิช คุณ shela และท่านอื่นๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง ดิฉันเป็นคนเขียนไม่เก่งไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเล่าเรื่องอะไรดี ส่วนใหญ่เลยได้แต่เป็นคนคอยตามอ่าน แย่จัง..

วันนี้ดิฉันได้แจ้งให้ทางพระอาจารย์จิรวัฒน์ทราบว่า ได้โอนเงินไปให้อีกรอบแล้วค่ะ จากญี่ปุ่น โอนเป็นเงินเยนทั้งสิ้น 75,000 เยน คำนวนแล้วน่าจะได้เป็นเงินไทยจำนวนประมาณ 28,000 บาทเศษๆ เงินจำนวนนี้ดิฉันขอตั้งจิตถวายเป็นสังฆทานในงานทอดกฐินซื้อที่ดินให้แก่วัดป่าหนองผักแว่นทั้งหมด (คงจะสามารถเป็นเจ้าภาพซื้อที่ดินได้ 1 ไร่กับอีกเล็กน้อย) ขอให้องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ปัจเจกพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงอนุโมทนา และขอพระบาีีรมีของท่านช่วยให้โครงการต่างๆำสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ดิฉันขออุทิศบุญนี้ให้กับพ่อแม่ (ที่ยังมีชีวิตอยู่) และเ้จ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงด้วย

หากจะมีอานิสงค์ใดที่ดิฉันจะได้รับ ขอให้เป็นไปโดยปัจจัยให้หมดสิ้นความโลภ โกรธ หลง โดยสิ้นเชิงและเข้าสู่นิพพานในชาติภพอันใกล้ หา่กยังไม่ถึงนิพพานเพียงใด ขอให้ได้เกิดเป็นมนุษย์ฺอยู่ในพระพุทธศาสนา เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิฝักใฝ่ในธรรมไม่หลงผิด เป็นผู้ได้พบกัลยาณมิตรและครู บาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฎิบัติชอบผู้ให้ความสว่างทางพุทธิปัญญา เป็นผู้มีปัญญาและความเพียร มีดวงตาเห็นธรรม และถึงพร้อมด้วยศีลสมบูรณ์ทุกชาติไป

ดิฉันเองเป็นแค่พนักงานกินเงินเดือนทั่วไป ไม่ได้ร่ำรวย แต่ตั้งใจไว้ว่าจะพยายามอย่างเต็มกำลังมากน้อยเท่าที่ทำได้เพื่อร่วมกับทุกๆท่านช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนา ทุกๆอย่างที่ำทำวันนี้ขอถวายบูชาแด่พระรัตนตรัย ดิฉันเชื่อว่าการที่มีโอกาสได้ร่วมทำบุญกับทุกท่าน มาจากกรรมสัมพันธ์อันดีที่เราเคยมีร่วมกันในอดีตชาติ ยังไงก็ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ สาธุ

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ

 

...อนุโมทนาสาธุ กับคุณณิช คุณปริมนทร์29 คุณshela คุณ chocolate kiss ครับ
...ต่อแต่นี้ไปตั้งแต่ปี 2012 สถานการณ์รอบๆตัวเราไม่ว่าภัยธรรมชาติ ภัยพิบัติต่างๆ
...อาจจะทำให้ชีวิตเราๆทุกคนเกิดอาการจิตสะเทือนหวั่นไหว ถึงขั้นเครียดกันได้
...และไม่ใช่เกิดเฉพาะประเทศไทย เหตุการณ์ต่างๆจะเกิดทั่วทุกมุมโลกอย่างที่คาดไม่ถึงกัน
...nahpee ได้ยินมาว่าจะเป็นยุคที่ต้องฝึกสติให้มั่นคงกับตนเองไว้มากๆ คือการฝึกจิตให้แข็งแกร่งเพื่อเผชิญกับความแปรปรวนหลายๆอย่าง
...ถึงขั้นที่บอกกันว่าหนุ่มสาวที่แต่งงานกันใหม่ๆ ช่วงเวลานี้อย่าเพิ่งมีลูกกัน เพราะแค่ตนเองก็เกือบจะเอาตัวเองไม่รอดกันอยู่แล้ว
...ซึ่งอาจจะไม่ได้เกี่ยวกับชีวิตในครอบครัวตรงๆแต่จะเกี่ยวข้องกับเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติที่คาดเดาได้ยาก
...จึงควรติดตามสถานการณ์ของภัยพิบัติทางธรรมชาติที่นับวันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ควรตระหนก และก็ไม่ควรประมาท ทำจิตให้มีสติและปัญญาเข้าไว้
...เมื่อเหตุการณ์ข้างหน้าเกิดขึ้นฉับพลัน จะได้แก้สถานการณ์ได้อย่างมีขั้นตอนที่วางแผนไว้ล่วงหน้า
...ถ้าได้อ่านกระทู้เกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์ก็จะรู้ว่า ระบบสุริยะจักรวาล กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงซึ่งมีผลกระทบต่อโลกเราด้วยอย่างแน่นอนรวมมาถึงประเทศไทย
...ส่วนกระทู้ครูบาอาจารย์ที่มีอภิญญาสูงทั้งในอดีตและปัจจุบัน ต่างก็ทำนายทายทักว่าปี 2555 หรือ 2012 อาจมีเหตุการณ์ต่างๆมากมายซึ่งตรงกับนักวิทยาศาสตร์
...ซึ่งความน่าจะเป็นก็มีเปอร์เซนต์ที่น่าพอจะเชื่อถือได้ ความน่าจะเกิดก็อาจเป็นจริงขึ้นมาได้เช่นกัน อย่างกรณีเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา
...ซึ่งไม่มีใครเชื่อ แต่ก็เกิดขึ้นแล้วจนเกิดความเสียหายและสูญเสียชีวิต 600 กว่าชีวิตแม้จะไม่ค่อยเป็นข่าว
...ฉนั้นนอกจากชีวิตธรรมดาๆที่ต้องดิ้นรนกันปกติในชีวิตครอบครัวแล้ว เหตุการณ์รอบบ้านก็ต้องติดตามด้วยเพื่อจะได้รู้เท่าทันจะได้ไม่ประมาท
...ก็ขอให้ทุกท่านตั้งสติกันไว้ให้ดี ด้วยการศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า หมั่นทำความดีกันไว้ทุกๆวัน รักษาศีล๕ กันได้ก็พึงรีบปฏิบัติกันไว้
...เพราะลมหายใจเข้า ลมหายใจออกของเรา จะหยุดเมื่อไหร่ด้วยเหตุการณ์ใดๆไม่มีใครบอกได้
...และถ้าลมหายใจจะต้องหยุดลง อย่างน้อยจิตภายในของเราจะต้องมีเป้าหมายให้ชัดเจนกันไว้จะไปที่ไหน
...พระพุทธเจ้าจึงสอนว่า จงอย่าประมาทกับความตาย ต้องพิจารณาอยู่ตลอดเวลาทุกสิ่งทุกอย่างไม่เที่ยงแท้แน่นอน นี่คือความจริงของชีวิต
...ถ้าทางธรรมที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนก็ คือ "การเตรียมตัวก่อนตาย" นั่นเองครับ
...หวังว่าคงไม่ทำให้เครียดกันยิ่งขึ้น เพราะกระแสข่าวตรงนี้เริ่มขยายวงกว้างไปเรื่อยๆแล้วขอเพียง มีสติและใช้ปัญญาอย่าตระหนกแต่ก็ไม่ประมาทก็พอแล้วครับ

 

อนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ

 

ไม่ว่าปีหน้าจะเกิดภัยพิบัติร้ายแรงอย่างไรก็ขอให้ทำใจให้หนักแน่น ในวิกฤต
ย่อมมีโอกาสเสมอ และอยากให้รู้ว่าคนที่ได้มาเกิดในยุคนี้ล้วนแล้วแต่เป็นผู้
ที่ปรารถนาที่จะมาเกิดอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพราะความบังเอิญหรือเพราะความซวย

สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๔

แล้วพวกเราก็อธิษฐานกัน ขอถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเทอญ ไม่ดูความทุกข์สักทีแล้วเมื่อไรจะถึงพระนิพพาน พวกเราส่วนใหญ่ลงมาก่อนเวลา ในเมื่อลงมาก่อนเวลา ก็ต้องไปขออนุญาตเทวดาชั้นผู้ใหญ่ ให้ท่านช่วยรับรองให้ เทวดาที่ท่านรับรองให้ก็ต้องเป็นเจ้านายใหญ่ ก็คือ ท่านปู่พระอินทร์ แล้วก็รวม ท่านย่า ไปด้วย

ท่านย่า เคยบอกว่า ถ้าใครไม่ยอมพิจารณาให้เห็นทุกข์แล้วอยากจะไปนิพพาน ก็จะต้องโดนบังคับให้ทุกข์ เพราะฉะนั้น..ใครที่รู้สึกว่าชีวิตกูลำบากฉิบหายเลย ถ้าอยากจะสบายขึ้นให้รีบพิจารณาทุกข์ให้ชัดเจน ท่านจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาบังคับ

ลองนึกดูว่าถ้าเราเลี้ยงวัว วัวตัวไหนที่น่ารัก เดินอยู่ในทาง จะไปโดนตีโดนเฆี่ยนได้อย่างไร ? ส่วนประเภทที่แวะเกะกะข้างทางไม่พอ แล้วยังไปกินข้าวชาวบ้านเขาอีก ก็ต้องโดนไม้ คราวนี้พอเจ็บพอลำบากขึ้นมาก็โวยวาย หารู้ไม่ว่าตัวเองไม่ยอมเดินไปดีๆ เอง"

"ฉะนั้น..รีบกลับไปพิจารณาเห็นทุกข์ให้ชัด จะได้ไม่ต้องถูกบังคับให้ทุกข์ วิธีบังคับให้ทุกข์ที่อาตมาเห็นมาส่วนใหญ่จะเป็น โรคมะเร็ง เจ็บปวดสาหัสดีนักแล อยากหายจากโรคมะเร็งให้รีบพิจารณาทุกข์ให้ชัด แต่อาตมาไม่ยืนยันว่าจะหายจากโรคมะเร็ง เพียงแต่บอกให้รู้ว่า ถ้าตั้งใจไปพระนิพพานต้องเห็นทุกข์จนเบื่อร่างกายนี้ก่อน