ผีมีจริง...ตอนสร้างเมรุเผาศพเสร็จเพราะมีเว็บพลังจิตใช้งบเกือบล้าน(ป่าช้าโบราณ)

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย พระจิรวัฒน์ ญาณวโร, 7 กรกฎาคม 2011.

  1. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,962
    บางครั้ง หลวงพี่ลอง ตั้งชุมนุมเทวดา แล้วอธิฐานขอพระพิรุณดูบ้างก็ได้ครับ

    ทุกวันนี้มีแต่คนด่าฝน แล้วคนพวกถูกฝนไม่ค่อยได้ มักป่วยง่ายด้วย
    ลองขอท่านอย่างน้อยท่านอาจจะให้ฝนซาลงบ้าง อย่างดีก็หยุดจนกว่าเราทำกิจเสร็จ



    (ผมเคยมีประสบการณ์ถึงได้พูดได้จำได้ว่าตอนนั้นกำลังจะไปทำบุญพอดีขออธิฐานขอไปเลยครับ)




    โอม พิรุณเทวา นะมะฮา
     
  2. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    วันนี้วัดบ้าน(ธาตุอัมพวัน)ในหมู่บ้านมีงานทอดกฐินญาติโยมนิมนต์ ทั้งวัดป่าวัดบ้านไปฉันข้าวในหมู่บ้าน รวมกันทั้ง2วัดเจ้าภาพคือคุณโยมเสริมฤทธิ์ หวายฤทธิ์ รองผ.อ.เขตพื้นที่การศึกษาที่1 จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเจ้าภาพใหญ่เพื่ออุทิศบุญกุศล ไปถึงโยมพ่อผู้เป็นที่รักคือคุณ พ่อประยูร หวายฤทธิ์ อตีดนักการภารโรงคนเเรกโรงเรียนบ้านหนองผักเเว่น อาตมาได้บริจาคร่วมบุญเป็นเงิน700บาท ด้วยเหตุที่โยมเสริมฤทธิ์ หวายฤทธิ์เป็นโยมเพื่อนของอาตมามาตั้งเเต่ป.2 นั้นเองเห็นโยมเเม่จิตปิติในบุญกุศลเลย อดมาเล่าให้ญาติโยมฟังไม่ได้ รวบรวมปัจจัยถวายวัดบ้านธาตุอัมพวัน ไปเป้นจำนวน5หมื่นกว่าบาท เพื่อสมทบทุนสร้าง
    สิมน้ำ(อุโบสถ์)ไว้ในพระพุทธศาสนา นับว่าน่ายินดีเเละอนุโมทนาสาธุเป็นอย่างยิ่งเหตุเนื่องจากสิมดังกล่าว ที่สำหรับพิธีอุปสมบทพระภิกษุที่มีศรัทธา เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึง10กิโลขออนุโมทนาสาธุกับเจ้าภาพ(คุณครูหน่อย)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2011
  3. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    มโนกรรมก็เป็นการกระทำที่เกิดจาก จิตใจ การกระทำทั้งหมดจิตใจต้องมีเจตนาเสียก่อน กรรมที่มีผลออกมา วิบากคือผลของกรรม ที่จะมีผลเกิดขึ้น มันต้องมีเจตนามีเจตจำนง อยู่ในจิตใจของเรา เจตจำนงในจิตใจก็คือมโนกรรม ถ้าจะพูดในแง่ หนึ่ง มโนกรรมก็เป็นกรรมที่หนักที่สุด เพราะว่าเป็นตัวบังคับ บัญชาการกระทำการพูด ยิ่งโดยเฉพาะการคิดนึก ทรรศนะ การ มองโลกมองตัวเอง มองโลกรอบตัวเรา มโนกรรมเป็นสิ่งที่สร้างทิฐิ ความเห็น สร้างความอยาก สร้างความยึดมั่นถือมั่น สร้างความ เห็นแก่ตัว สร้างความรู้สึกที่มองคนอื่น หรือมองโลกรอบตัวเรา ด้วย ไม่เป็นไปตามความเป็นจริง อันนี้กรรมหนักมากคืออวิชชาและมิจฉาทิฐิ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรียกว่าหนักที่สุดก็ว่าได้ เลยเป็นส่วนที่มันมีผล ที่เราควรจะระมัดระวังมากที่สุดคือวิบาก ผลที่เกิดขึ้นมันก็เกิดจาก มโนกรรมเป็นตัวนายตัวบังคับบัญชา ถ้าหากเราไม่นึกเสียก่อน เราก็ ไม่พูดเราก็ไม่ทำ แต่เราก็นึกก่อนเป็นมโนกรรม แต่จึงเป็นเหตุที่เรามา เช่น เรามาปฏิบัติกรรมฐานมาฝึกหัดจิตใจ เพื่อให้สามารถที่จะ รับผิดชอบจิตใจของตัวเองได้
     
  4. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    อนุโมทนาสาธุ คำถามของคุณโยมปริมนทร์29 ตอบไม่ยากนะคุณโยม เเต่ต้องอธิบายยาว...อาตมาขอติดไว้ก่อน จะตอบหลังจากทอดกฐินวันที่19ตุลาคม2554 ผ่านไปเเล้วอย่าลืมติดตามนะคุณโยมผู้สนใจทุกท่าน อาตมามีปัญหาเรื่องความเร็วของเน็ต อย่างลงรูปน้ำท้วมวัดก็ช้ามากๆจนต้องเอาไว้ก่อน ใจเย็นนะคุณโยม ที่อาตมานำเรื่องมโนกรรมมาลงเนื่องจากอาตมารับสายคุณโยมจากทางบ้านที่ผิดหวังจากความรัก เเล้วกำลังคิดสั้น อยากฆ่าตัวตาย อาตมาไม่อยากให้คุรโยมท่านนั้น ต้องตกนรกเพราะจิตที่คิดฆ่าตัวตาย หากลงมือยิ่งไม่ไม่ผุดได้เกิดเพราะว่าเป็นกรรมที่หนักมาก...อาตมาได้ขอบิณบาตรชิวิตเขาไว้ได้เเล้ว(อาตมาไม่ขอเปิดเผยชื่อนะคุณโยม) ขอให้ผู้ที่กำลังอ่านอยู่ในขณะนี้ ช่วยเขียนส่งกำลังให้คุณ(ญา)นามสมมุติด่วน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2011
  5. khuntun

    khuntun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2007
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +324
    จากข้อความของหลวงพี่จิรวัฒน์ ญาณวโร ที่เขียนมานี้ ผมขอเป็นกำลังใจให้คุณ ญา นะครับ ขอให้คุณญา สู้ๆกับชีวิตต่อไปนะครับ เเละ น้อมนำธรรมมะเป็นที่พึ่งของจิตใจต่อไปนะครับ ^^
     
  6. ปรมินทร์29

    ปรมินทร์29 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +156
    นึกถึง พ่อแม่ ไว้นะค่ะ กว่าท่านจะเลี้ยงเรามาจนโต ขอให้ท่านเจริญในธรรมด้วยค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ สู้เพื่อตัวคุณเอง อนุโมทนา:cool:
     
  7. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    อีก1วันก็บุญกฐินวัดป่าบ้านหนองผักเเว่นเเล้ว คุณโยมท่านใดจะต่อยอดกฐินเพื่อสมทบทุนซื้อดินรถละ220บาท เพื่อปรับที่ ถมที่วัดก้ขอเชิญร่วมบุญได้นะคุณโยมอนุโมทนาสาธุๆ
     
  8. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...นมัสการ พระจิรวัฒน์ ญานวโรและอนุโมทนาสาธุด้วยครับ
    ...ที่นำเรื่องจิตวิญญานในอีกมิติที่ตาเนื้อคนทั่วๆไปไม่สามารถสัมผัสได้
    ...แต่สำหรับผู้ที่ฝึกมโนยิทธิและอภิญญาถือเป็นเรื่องปกติไม่ได้ลึกลับอะไรเลย(ผมไม่ได้ฝึกนะครับ)
    ...เคยคุยกับผู้ที่ฝึกจนชำนาญจิตวิญญานมีทุกที่รอบๆตัวเรานี่แหละแทบจะเดินชนกันแต่อยู่คนละมิติ
    ...แต่ที่บางคนไม่ได้ฝึกอะไรแต่ก็มีโอกาสเจอะเจอเพราะคลื่นพลังงานตรงกันหรือเคยผูกพันกันมาก่อนในอดีตชาติ
    1. นายฐานวัฒน์-นางยุวดี-น.ส.อภิญห์พร สุระพิพิธ
    ขอร่วมบุญถมดิน 10 คันเป็นเงิน 2,200.-บาท
    2.พลอากาศโทชลอ-นางชะโลม สุระพิพิธ 3 คัน 660.-บาท

    รวมโอนเงินให้ทั้งสิ้น 2,860 .- บาท จะโอนให้วันนี้ 18 ต.ค. 54 ไม่เกินบ่ายโมงครับ


    ***ได้โอนเงินให้เรียบร้อยแล้วครับ จำนวน 2,860.- บาทเมื่อวันที่ 18 ต.ค.54 เวลา 11.24 น. จาก ธ.กรุงไทย

    ...ส่วนประสบการณ์ตามหัวข้อกระทู้ของท่านฯก็พอมีให้ขนหัวลุกอยู่บ้างครับ
    ...มีโอกาสแล้วจะมาถ่ายทอดให้ฟังกันแต่เชื่อว่าวิญญานหรือผีมีชัวร์ครับ
    ...ส่วนศีล๕ มีความสำคัญกับการดำเนินชีวิตของคนเราอย่างไร???
    ...และการละเมิดศีล มีผลกับชีวิตต้องรอชดใช้กรรมชาติหน้ามั๊ย?หรือเห็นกันชาตินี้เลย
    ...ลองเข้าไปอ่านกระทู้ของผมได้จากประสบการณ์ชีวิตจริงที่ผ่านมาครับ
    http://palungjit.org/posts/4999421
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2011
  9. samaice

    samaice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +1,018
    วันที่ทำรายการโอน: 18/10/2011 04:51:27 AM.
    บัญชีผู้รับโอน: 258-0-07503-8
    ธนาคารผู้รับโอน: KRUNG THAI BANK
    ชื่อผู้รับโอน: พระจิรวัฒน์ ญาณวโร
    จำนวนเงิน (บาท): 2000.00
    ชื่อผู้โอน:
    ข้าพเจ้า พงศ์ภรณ์ สามีและลูก ร่วมทำบุญกฐิน ซื้อที่ดินถมวัด จำนวน 9 คัน อนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2011
  10. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...ไม่ทราบว่าคุณ "ญา" ที่ผิดหวังเรื่องความรักอย่างรุนแรงจะมีโอกาสเข้ามาอ่านหรือเปล่า
    ...พยายามศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ลึกลงไปแล้วจะเข้าใจได้ลึกซึ้งจนมีทางออกของความทุกข์
    ...ว่าชีวิตในโลกใบนี้มีสิ่งสมมุติมากมายให้เราได้เรียนรู้และต่อสู้โดยเฉพาะความทุกข์ที่เข้ามาในชีวิตเป็นช่วงๆของวัยตลอดเวลา
    ...เกิด ดับ เกิด ดับ อยู่แบบนี้ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอนสักเรื่อง สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือคำสอนของพระพุทธเจ้าเที่ยงแท้แน่นอนถ้าศึกษาอย่างต้องการที่จะเข้าใจ
    ...อย่าคิดหนีความทุกข์โดยการทำลายชีวิตตัวเองเลยครับ บาป!!!! มากๆ
    ...เพราะผู้ที่ยังรัก คุณญา อย่างเต็มหัวใจแม้จวบจนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของท่าน คือ คุณพ่อ คุณแม่ ของคุณญานั่นแหละครับ
    ...และหาก คุณญา เป็นอะไรไปก่อนหมดอายุขัย ท่านทั้ง 2 จะเสียใจและทุกข์ทรมานใจขนาดไหนที่ให้ความรักเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอม
    ...คนรักคนเดียวที่เขาไม่ใยดีกับคุณญา อย่าไปให้ความสำคัญอะไรมากไปกว่า ชีวิตของตัวคุณญาเองดีกว่า
    ...คุณค่าของชีวิตคนเราอยู่ที่การรู้จักที่จะรักตนเองดูแลเอาใจใส่ตนเองเพื่อทำสิ่งดีๆตอบแทนให้กับ คุณบิดา มารดา คุณครูบาอาจารย์ ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมโลกอีกมากมาย
    ...หรือการได้เห็นสัจจะธรรมของชีวิตบนโลกใบนี้ก็เป็นกำไรที่ทำให้เราได้เรียนรู้จนตาสว่าง
    ...ชีวิตมันก็แค่นี้เองเมื่อมีโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์ ดีใจ เสียใจ สมหวัง ผิดหวัง สุขใจ ทุกข์ใจ ฯลฯทุกสิ่งมีสองด้านเสมอๆ
    ...สิ่งที่ควรกระทำคือสั่งสมสร้างความดีต่อสู้กับกิเลสรอบข้างที่เป็นเสมือนครูที่สอนเราดีกว่าจะชนะกิเลสเหล่านี้ได้อย่างไร
    ...แล้วจะรู้ว่าไม่ว่าใครก็ตาม เกิด แก่ เจ็บ ตาย เสมอเท่าเทียมกัน เกิดเมื่อไรเจอทุกข์แน่ๆ
    ...แต่ถ้าเรารู้ต้นเหตุแห่งทุกข์แล้วพยายามหาวิธีดับทุกข์ในวิธีที่ถูกต้องอย่างมีสติและใช้ปัญญา
    ...คำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่แก้ปัญหาทุกอย่างให้คลายลงและเป็นปกติไปได้ในที่สุด
    ...จากการคิดสั้นๆ ลองคิดยาวๆ ดูมั่งสิครับ ลองถือศีล๕ ให้ครบ
    ...ดูลมหายใจของตนเองบ่อยๆ หายใจเข้าก็นึกถึง "พุท" หายใจออกก็นึกถึง "โธ"
    ...จะสั้นจะยาวก็ดูตรงจุดที่เรารู้สึกว่าสบายๆที่สุดแล้วจะรู้ว่า ชีวิตมีคุณค่ากว่าความรักปลอมๆนั่นเสียอีก
    ...อยากให้ทดสอบทางเลือกในหนทางพ้นทุกข์ที่ถูกต้องและจะเป็นประโยชน์กับชีวิตที่ต้องพึ่งลมหายใจเข้าออกของปัจจุบันกาลตลอดเวลาของคุณญา
    ...แล้วจะพบกับความสุขที่แท้จริงในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแน่ๆ ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • nipanung.jpg
      nipanung.jpg
      ขนาดไฟล์:
      431.6 KB
      เปิดดู:
      68
  11. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ***ประสบการณ์ผีผี ของผม ขออนุญาตนำมาเล่าเพื่อเป็นวิทยาทานก็แล้วกัน
    ...คนไม่เคยเห็น คนไม่เคยสัมผัส หรือคนรุ่นใหม่ที่ติดอยู่กับเทคโนโลยีและกระแสวัตถุนิยมคงเห็นเป็นเรื่องไร้สาระ
    ...วิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถพูดออกมาได้อย่างเต็มปากด้วยต้องพิสูจน์ออกมาได้ชัดเจนจับต้องได้มีผลสรุปทางการวิจัยเขียนเป็นทฤษฎีว่าด้วยหลังความตาย
    ...แต่ก็มีนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มที่ศึกษาพุทธศาสนาอย่างเข้าใจลึกซึ้งโดยการปฏิบัติภาวนาอย่างจริงจังหรือการเข้าสมาธิเพื่อพิสูจน์สิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นทางกายเนื้อ
    ...กลับสัมผัสทางกายจิตได้ซึ่งเป็นการพิสูจน์ที่ไม่สามารถอธิบายได้เป็นสาธารณประโยชน์แต่เป็น ปัจจัตตัง เฉพาะตนที่มีโอกาสสัมผัสได้ด้วยตนเองเท่านั้น

    ...สำหรับผม แม้เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นนานแล้วประมาณปี 2524-2525 แต่ยังจำได้ไม่เคยลืมเลือน
    ...เหตุการณ์นี้เกิดที่บ้านภรรยา อยู่แถวๆ แยกลาดหญ้า วงเวียนใหญ่ซึ่งจะเกิดขึ้นโดยตรงกับผมเพียงคนเดียว
    ...เพราะทุกครั้งที่เกิดขึ้นหันไปทางไหนทั้งภรรยา และลูกสาวหลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ
    ...ในขณะที่ผมเหงื่อแตก ขนลุกซู่ซ่า ท่องคาถาอะไรก็ไม่ได้ผลได้แต่คอยเวลาเมื่อไรจะสว่างสักที555
    ...เรื่องผีอำเกิดขึ้นบ่อยมาก จนรู้สึกว่าก็ต้องดิ้นต่อสู้กันไป อาการเหมือนของหนักๆมาทับอกแล้วขยับลำบากที่สำคัญมันมีอาการขนลุกชันซู่ซ่าเข้ามาด้วยนั่นสิ สำคัญ
    ...เพราะถ้าถามแพทย์ก็คงสรุปว่าระหว่างหลับลึกคงไปทับอะไรโดยไม่รู้ตัวจึงเกิดรู้สึกเช่นนั้น (ก็หมอไม่ได้เป็นเองนี่)
    ...แต่ทุกครั้งที่เป็นจะเหมือนคนครึ่งหลับครึ่งตื่นมีหรี่ตาหรือสะบัดแรงๆให้หลุดจากการบังคับของบางสิ่งบางอย่างร่วมด้วย
    ...ส่วนที่ชัดเจนที่สุดคืนหนึ่งในหลายๆคืนที่ผ่านไป รู้สึกว่ามีใครบางคนนั่งอยู่ทางปลายเท้าที่นอน
    ...และเมื่อหรี่ตาดูเห็นเป็นสภาพผู้หญิงนั่งท่าก้มหน้าแบบคนเศร้าใส่ชุดด้วยผ้าบางเบาแต่เปียกไปด้วยน้ำ ผมยาวๆถึงเอวก็เปียกด้วยร้องไห้ฮือๆแบบหนาวสั่นอยู่อย่างนั้น
    ...โชคดีที่เธอไม่ได้หันหน้ามามองตรงๆแค่นี้ระบบหัวใจก็เต้นครึกโครมทำงานหนักอยู่แล้ว ขนหัวลุก ตามแขน ขามันดูแข็งไปหมด
    ...ได้แต่ท่องพุทโธๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆแล้วก็หลับตารอเวลาจนกว่าจะสว่างซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมาก
    ...จนเช้าเสียงไก่ขันจึงโล่งใจแต่ยังจำได้แม่นทุกเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ช่างเขย่าอารมณ์ได้มิลืมเลือน
    ...เล่าให้ภรรยาฟัง รู้เรื่องหรือได้ยินเสียงเรียกบ้างหรือเปล่า???? หลับสบายไม่รู้เรื่องอะไรเลย
    ...ด้วยที่พอจะมีจิตสัมผัสที่6 อยู่บ้างแบบกล้าๆกลัวๆ และมีครูบาอาจารย์ที่พอจะปรึกษาสิ่งที่เกิดขึ้นว่าคืออะไรกันแน่ ความฝัน หรือความจริง????
    ...ก็จำเป็นต้องขับรถจากวงเวียนใหญ่ดิ่งไปยัง วัดหลักสี่ บางเขน ติดทางรถไฟแถวๆดอนเมืองนั่นแหละ
    ...20-30 ปีที่แล้วคนดอนเมืองหรือ ทหารอากาศที่ชอบเรื่องไสยศาสตร์ถูกคุณไสยของเข้าตัวถ้าไม่รู้จัก อาจารย์เล็กวัดหลักสี่ เป็นไม่มี
    ...ท่านดังมากๆ ใครโดนของเข้าตัวหรือมีโรคภัยแปลกๆที่แพทย์รักษาไม่หาย ทางเลือกนอกกฎวิทยาศาสตร์ทางการแพทยฺก็คือครูบาอาจารย์ที่ศึกษาด้านฤทธิ์เดช อาคม
    ...ผมเข้าไปพบท่าน ท่านนั่งดูทางในแป๊บเดียวผลที่ออกมาก็คือออออออออออ!!!!!!!!
    ...เธอที่ผมเห็นเมื่อคืนมีตัวตนจริง เธอชื่อรัชนี เกิดอุบัติเหตุตกน้ำตาย แล้วเธอเกาะมากับผมระหว่างการเดินทางระหว่างนั่งรถกลับจากทำงานนั่นแหละจนมาถึงบ้าน
    ...แล้วทำไมเธอถึงมาได้ขนาดนั้น ก็เป็นเรื่องสัญญานความถี่ในการสื่อสารระหว่างเธอกับผมมันป๊ะสมดุลย์กันพอดี
    ...และเธอก็คงรู้ว่าถ้ามาปรากฎให้ผมเห็น คงจะได้รับบุญจากผมแน่นอนเธอถึงลงทุนมาให้ผมเห็นจนขนหัวลุกไปหมด
    ...แต่ที่ดีคือเธอไม่ได้ติดตามมาเพื่อเหตุผลจากความอาฆาตพยาบาท มาเพื่อขอส่วนบุญเท่านั้นเพราะเธอหนาวจนตัวสั่น โล่งใจไปเฮ้ออออ!!!!
    ...อาจารย์เล็ก ท่านแนะนำให้ซื้อเสื้อผ้าครบชุดทำทานให้กับขอทานหรือผู้ด้อยโอกาสแล้วระบุชื่อเพื่ออุทิศบุญให้กับ คุณรัชนีโดยตรง
    ...หลังจากนั้นให้ไปไหว้สมเด็จพระเจ้าตากสินที่วงเวียนใหญ่ จำได้ช่วงนั้นเป็นงานประจำปีของท่านมีมหรสพ 7 วัน 7 คืน
    ...ก็ตั้งจิตอธิษฐานต่อท่านขออุทิศส่วนกุศลให้ คุณรัชนี ไปสู่สุคติภพ พ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
    ...ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เห็นคุณรัชนี มารบกวนระหว่างนอนหลับอีกเลย
    ...นับเป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยลืมเลือนเลยครับแม้จนวันนี้
    ...แล้วคุณล่ะ เคยมีประสบการณ์กันบ้างหรือเปล่า????
     
  12. ปรมินทร์29

    ปรมินทร์29 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +156
    เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับดิฉันที่จะเล่าต่อไปนี้ไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือไม่จริงนะค่ะ
    :boo: เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนนั้นดิฉันก็อายุประมาณ 18 นี่แหล่ะ ไปเที่ยวงานกาชาติอุบลฯ แม่พาไปกะพ่อเลี้ยง และป้า ไปถึงที่นั่นก็ค่ำ นั่งรถประจำทางไป แฟนแม่ทำงานเป็นคนเก็บตั๋ว ไปพักที่บริษัทที่แฟนแม่ทำงานอยุ่ ไปถึงก็อาบน้ำ กินข้าว แล้วก็ไปเที่ยว พอไปเที่ยวก็ต้องมานอนพักผ่อน ที่นั่นเป้นบริษัทรถเก่าๆ ตึกเก่าๆ มีที่จอดรถบัส และที่ล้างรถ รวมทั้งห้องครัว และห้องนอนสำหรับพนักงาน 1 ห้อง นอกนั้นเขาก็พากันนอนตามรถ ตามแคร่ กันบ้าง กอ่นที่จะนอนก็มีคนงานที่บริษัทเขาว่าระวังนะ ระวังมีคนไปเยี่ยมตอนนอน เราก็เอ๊ะ ที่นี่คงมีไรแน่ๆ แต่ก็ไม่เป็นไร ทุกครั้งที่ดิฉันจะนอนหรืออยู่ที่ไหนก็ตามจะสวดมน แล้วก็บอกเจ้าที่เจ้าทางทุกครั้ง พอเข้าไปนอนดิฉันนอนด้านข้าง แม่ ป้านอนอีกข้างหนึ่ง ก็หลับไป น่าจะราวๆ 6 ทุ่มได้ ดิฉันก็ฝันไป แต่เหมือนไม่ได้ฝันเลย เหมือนลืมตาและรับรู้ทุกอย่าง ได้มีผู้หญิงผมยาว แต่งตัวด้วยชุดไทย สีเขียว ผิวขาว หน้าขาวมาก ทาปากแดง ได้มายืนอยู่ใต้เตียงแล้วยิ้ม จากนั้นเธอก็ได้นั่งลงแล้วจับที่ท้าวของดิฉัน ดิฉันรู้สึกกลัว แต่ก็ไม่ได้เอะอะอะไร แล้วเธอก็ยื่นมือมาที่เท้าของดิฉัน แล้วเธอก็พูดขึ้นมาว่า จะมาทาเล็บให้ ไม่ต้องกลัว ไม่ทำอะไร ส่วนดิฉันเหรอค่ะ ก็กลัวอยู่แต่ก็พอควบคุมตัวเองได้ แล้วตอบเธอไปว่า ไม่ต้องหรอกค่ะ เท้าหนูสกปรก ไม่ต้องทาหรอกค่ะ แกก็บอกว่า ไม่เป็นไร มาจะทาให้แล้วแกก็มาจับเท้าดิฉัน แต่ในความรู้สึกนั้นมือของเธอเย็นมาก เธอเป็นผีที่สวยมากในฝันนั้น ดิฉันก็พยามยามดิ้นรนให้ตัวเองตื่น เพราะรู้สึกตัวเสมอ ดิ้นไปดิ้นมาก็ตื่น มองซ้ายมองขวาไม่เห็นอะไร ก็เขยิบเข้าไปใกล้แม่ จนติดเลย แล้วก็หลับต่อ แล้วก็ฝันอีก เธอบอกว่าไม่ต้องกลัวไม่ทำอะไร จะทาเล็บให้เฉยๆ ทีนี้เอ้าดิ้นใหญ่เลย ตื่นขึ้นมาอีก มองหาอีกก็ไม่เจอ เลยพูดในใจว่า หนูขอพักคืนนึงค่ะแล้วก็จะกลับมาเที่ยวเฉลยๆไม่ต้องมากวนหนูหรอกนะค่ะ และดิฉันก็นอนต่อจนเช้า ไม่ได้ฝันอะไรอีก แต่เหมือนความจริงมากๆ เหมือนว่าเราไม่ได้หลับเลย ในขณะที่เธอมาหาในฝัน พอตื่นเช้ามาลุงคนขับรถ แกก็ถามว่า ทุกคนเจออะไรมั๊ย ดิฉันก็เลยเล่าให้ทุกคคนฟัง ทุกคนก็ว่าลักษณะท่าทางของเธอให้ฟัง ตรงเป๊ะ เรื่องราวของเธอคือเธอผูกคอตายที่นี่ แต่ตรงที่เธอผูกคอตายนั้น เขาลื้อทิ้งหมดแล้ว แต่ดวงวิญญาณของเธอยังอยู่ ก็จบ ด้วยประการละชะนี้ค่ะเรื่องราวของดิฉัน อาจจะไม่น่ากลัว เท่าไรแต่ก็นำมาแชร์ให้อ่านกันค่ะ ยังมีอีกหลายเรื่องค่ะ เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังใหม่นะค่ะ สาธุ
    :boo::boo:
     
  13. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    อนุโมทนาสาธุคุรโยมทั้ง2ท่านเป็นอย่างมาก ที่สละเวลามาช่วยเขียน วันนี้อาตมาติดงานทอดกฐินยังไม่ว่างเลย...ขอเชิญคุณโยมnahpeeเเละคุณโยมปรมณทร์29 เขียนต่อเลย ดีมากทั้ง2คน อาตมาว่างเมื่อไหร่จะเขียนต่อทันทีพร้อมลงรูปงานทอดกฐินวัดป่าให้ดูด้วย
    อนุโมทนาสาธุๆ
     
  14. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...อนุโมทนาสาธุ กับงานกฐินฯครับท่าน พระจิรวัฒน์ ญาณวโร
    ...และก็ชื่นชมกับประสบการณ์ของ คุณปริมนทร์29 เป็นวิญญานที่น่ารักดี
    ...ได้ทำบุญไปให้เธอหรือเปล่าครับ โดยเฉพาะยาทาเล็บสวยๆ
    ...แสดงว่าเธอจะต้องหน้าตาดีและยังรักสวยรักงาม

    ***เรื่องนี้เป็นวิญญานที่ใช้การสื่อสารด้วยเสียงทางมือถือเขามาเตือนภัยครับ
    ...เราเคยมีรถมือสองที่ไม่ทราบที่มาที่ไปแต่รู้สึกจะมีผ้าสีผูกไว้เล็กๆแถวก้านไฟเลี้ยวสีเขียว
    ...เป็นรถเก๋ง 4 ประตูยี่ห้อ toyota ภรรยาผมเป็นคนซื้อแต่ผมก็ไปช่วยดูเห็นว่าโอเค
    ...จิตใจปลอดโปร่งโล่งสบายไม่อึดอัดแน่นหัวใจถือว่าใช้ได้ตามความรู้สึกลึกๆ
    ...ไม่เคยมีปัญหาใดๆระหว่างการใช้งานก็รู้สึกว่าปลอดภัยไม่มีอุบัติเหตุใดๆกับรถคันนี้
    ...จำได้ว่าเราขับรถคันนี้ลุยได้ทุกที่แม้จะเข้าไปเจออุปสรรคถนนแบบ offroad โดยไม่ตั้งใจก็ตาม
    ...มีอยู่ทริปหนึ่งเรามุ่งเหนือไปเที่ยวภูชี้ฟ้าเพื่อหาความหนาวเย็นและถ่ายรูปแสงอาทิตย์ที่สันดอย
    ...ก็เหมือนอย่างนักท่องเที่ยวทั่วๆไปนั่นแหละครับมีความสุขกับการขับรถแล้วก็ไปกางเต๊นท์นอนดูดาวบนท้องฟ้าดูธรรมชาติ
    ...หลังจากพักผ่อนจนอิ่มเอมกับธรรมชาติก็ขับลงมาทางเชียงใหม่กะว่าจะตียาวเข้า กทม.จะได้ไม่ต้องค้างคืนคิดถึงบ้านแล้ว
    ...แต่ขณะที่ขับลงเขามาใกล้ถึงตัวเมืองเชียงใหม่มีเสียงเหมือนเสียงโลหะอี๊ดๆมาโดยตลอดแต่ไม่ได้สนใจมาก
    ...ระหว่างใกล้ถึงที่ราบมีเสียงโทรศัพท์เข้ามือถือรุ่น สากกะเบือ โมโตโรล่าสมัยก่อน
    ...ภรรยาผมรับสายผมเหลือบไปเห็นเธอฟังอยู่นานแบบหน้าตาพิกลๆไม่ได้พูดตอบโต้ใดๆ
    ...ผมก็เอะใจขึ้นมานิดๆ พอดีเห็นอู่อยู่ข้างหน้ากะว่าจะให้ช่างตรวจเช็คเสียงที่ดังสักหน่อยว่ามันเสียงอะไร
    ...ระหว่างนั้นผมก็ถามภรรยาว่าใครโทรมาหรือ???? หน้าเธอซีดๆแบบไม่ค่อยปกติ
    ...เธอเล่าว่าเป็นเสียงแหบๆแบบคนแก่ ต่อว่าทำไมจึงเอาพวงมลัยปลอมมาวางไว้ที่หน้ากระจกรถใช้ของจริงไม่ได้หรือ???? เป็นคุณจะงงมั๊ยครับ!!!!!!!!
    ...เราก็เลยนั่งวิเคราะห์กันในรถนั่นแหละคงไม่ธรรมดาซะแล้วเหลือบไปเห็นพวงมลัยที่แกะด้วยสบู่วางตรงหน้ากระจกเลยร้องอ๋อ?????
    ...ปกติเราจะมีการซื้อพวงมลัยสดไว้หน้ารถเสมอๆแต่พอดีภรรยาเขาไปซื้อพวงมลัยสบู่จากงานแสดงสินค้า otop มาเห็นว่าสวยก็เลยใช้แทนประหยัดดีด้วย
    ...เพราะภรรยาเขาก็พอมีอะไรพิเศษกับรถคันนี้เหมือนกันเคยฝันมั๊งเป็นผู้ชายสูงอายุแต่ก็มาดี
    ...คำตอบจึงเกิดขึ้นในใจ แต่ที่น่าตกใจไม่ใช่เรื่องพวงมลัยสบู่ซะแล้ว
    ...หลังจากที่ให้ช่างตรวจสภาพที่มาของเสียงเหมือนโลหะกรีดกระทบกันปรากฎว่า!!!!!
    ...ผ้าเบรคล้อหมดครับ จนเนื้อโลหะสีกันจนเป็นเสียง ซึ่งถ้าขับกลับ กทม. วันนี้????
    ...สิ่งที่ต้องพบก็คือทางลงเนินแถวๆเส้นทางถ้ำขุนตาล ครับซึ่งชันพอให้นึกภาพออกว่าอะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้เพราะเบรคแตก!!!!!!
    ...สรุปเราต้องนอนเชียงใหม่อีก 1 คืนรอให้ทางอู่เขาซ่อมเสร็จในตอนเช้าวันจันทร์เพราะอะหลั่ยเบิกยังไม่ได้เป็นวันอาทิตย์
    ...เป็นไงครับ บางสิ่งที่เราคาดไม่ถึงก็มีความสัมพันธ์กันโดยเฉพาะการเตือนภัยอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
    ...แต่วันนี้รถคันดังกล่าวได้ขายไปแล้วเพราะระยะหลังๆเสียและซ่อมบ่อยมากๆแต่ก็บอกเขาเหมือนกันนะครับก็ไม่มีอะไร
    ...แล้วจะพยายามรื้อฟื้นประสบการณ์ที่ผ่านมา มาเล่าสู่กันฟังสิ่งที่อยู่ในธรรมชาติร่วมกับเรานี่แหละแต่อาจต่างภพต่างมิติกันเท่านั้นเอง
     
  15. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...มาต่อกันอีกสักเรื่องก็แล้วกัน พยาบาลจิ้มเข็ม
    ...ใครเคยเฝ้าผู้ป่วยตาม ร.พ.ของรัฐ ซึ่ง อาคารผู้ป่วยส่วนใหญ่ อืมมมม!!!!
    ...ยิ่งออกมานอกเมืองอันศิวิไลซ์แล้วยิ่ง วิเวกวังเวง มีบรรยากาศจริงๆ
    ...เรื่องนี้ภรรยาผมเธอเป็นผู้ได้รับการติดต่อคล้ายๆคุณปริมนทร์29
    ...ขณะที่เธอไปนอนเฝ้าคุณแม่เธอที่ป่วย ณ ร.พ.ของรัฐแห่งหนึ่งแถวๆปากเกร็ด นนทบุรี
    ...คืนหนึ่งในขณะที่เธอหลับแบบเคลิ้มๆคล้ายครึ่งหลับครึ่งตื่น
    ...เธอรู้สึกว่ามีคนเข้ามาในห้องผู้ป่วยใน(พิเศษ)คืออยู่กัน 2 คน แม่ ลูก
    ...และเมื่อพยายามมองดูเห็นเป็นพยาบาลชุดขาวเปิดประตูเข้ามาพร้อมหลอดสลิงซ์ยาฉีด
    ...พร้อมที่จะทำการฉีดยาให้ภรรยา แต่ภรรยาผมได้พยายามตะโกนออกไปว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรเหมือนความฝันกึ่งจริง
    ...แล้วเธอก็ปัดมือพยาบาลคนนั้นจนรู้อีกทีก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาท่ามกลางความว่างเปล่าภายในห้อง
    ...ปฏิกริยาก็คงจะเหมือนๆกับหลายๆคนที่มีประสบการณ์แบบนี้หัวใจเต้นโผงผางระทึกใจแน่นอน
    ...รุ่งสางขึ้นมาเธอจึงได้ลองถามพยาบาลที่ประจำ ward นั้นดูปรากฎว่า
    ...เธอที่มาน่าจะเป็นพยาบาลรุ่นพี่ที่ป่วยและเสียชีวิตที่ ร.พ.แห่งนี้และมีคนเคยเจอคล้ายๆที่ภรรยาผมเล่าให้ฟัง
    ...นั่นแสดงว่าก่อนที่เธอจะเสียชีวิตเป็นพยาบาลคงทุ่มเทการดูแลรักษาคนไข้อยู่ตลอดเวลา
    ...หลังเสียชีวิตเธอก็ยังคงเป็นห่วงภาระหน้าที่ๆเธอรักเพื่อดูแลผู้ป่วยนั่นเอง
    ...แต่บังเอิญว่าภรรยาของผมเป็นแค่ผู้เฝ้าไข้และไม่ได้ป่วยอะไรเท่านั้นเองครับ
     
  16. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ใครชอบดื่มและเที่ยวกลางคืนแล้วขับรถกลับบ้านคนเดียวมั่ง?????
    ...สมัยวัยหนุ่มของผมก็เป็นประเภทเฮไหนเฮนั่นชอบสนุกสนาน
    ...บางทีก็มีน้องๆสาวๆไปร่วมแจมด้วยขาไปก็สนุกดีหรอกเนอะ
    ...แต่ขากลับมักแยกย้ายกันกลับบ้านตี 2 ตี3 โน่นแหละ
    ...และบังเอิญว่าทุกครั้งที่มาถึงสี่แยกนี้อาการเหม็นแบบที่ขนหัวลุกมักโชยมาเสมอๆ
    ...ก็ต้องเปิดกระจกลงเพื่อระบายกลิ่นออกไปและจะได้เห็นรถและผู้คนบ้าง
    ...เพราะอุดอู้อยู่ในรถเปิดแอร์และนั่งมาคนเดียวมันรู้สึกพิกลๆอยู่กระจกหลังแทบไม่อยากจะมองด้วยซ้ำไป
    ...กลัวไปป๊ะกับสิ่งที่ไม่สมควรที่จะเห็น ในใจก็นึกถึงแต่หลวงปู่โต๊ะ ที่เคารพนัถือนั่นแหละเลยค่อยดีขึ้นมาหน่อย
    ...ส่วนสี่แยกนี้จะเป็นแค่ อุปาทาน หรือเปล่า??? ขอบอกว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่
    ...เพราะมันได้กลิ่นเหม็นเหมือนซากศพซ้ำๆกันอยู่หลายหนแต่ไม่ปรากฎตัวตนแต่อย่างใด
    ...จึงแค่กลัวๆกล้าๆอยู่เล็กๆอาศัยว่าอธิษฐานจิตขอพึ่งบารมีหลวงปู่ฯที่ห้อยคอไว้ช่วยคุ้มครองลูกด้วย
    ...จงเป็นสุขเป็นสุขเถิดผู้มาเยี่ยมเยียน พอเลยสี่แยกนี้ไปสักพักกลิ่นก็หายไป
     
  17. ปรมินทร์29

    ปรมินทร์29 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +156
    สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นก็ต้องขอตอบคุณ nahpee นะค่ะ ว่าดิฉันไม่ได้ไปทำบุญให้เธอเลย เนื่องจากยังเป็นไวรุ่นแล้วก็ไม่ได้คิดไรมาก จนกระทั้งทุกวันนี้รู้ว่าอะไรเป็นไรมากขึ้น แต่ก็ทำบุญและก็อุทิศบุญที่ทำให้เธอแล้วในตอนนี้ก็ไม่รู้เธอจะได้รับมั๊ยนะค่ะ
    ในเรื่องส่วนตัว ดิฉันไม่รู้ว่ามีเซนหรือเปล่านะ เวลาใครจะเป็นอะไรก็มักจะมีเรื่องราวเกิดขึ้นกับดิฉันเสมอ อย่างเช่น คิ้วกระตุก ข้างขวา รับรองได้เลยวันนั้นต้องมีเรื่อง และแล้วผ่านไปไม่นานก็เป็นความจริง ไม่รถรั่วก็ทะเลาะกะแฟน ไม่งั้นก็ตังหาย หรืออะไรก็ตามแต่ที่ไม่ดี จะเกิดขึ้นประจำ และมีอีกอย่าง ที่ทางผู้ใหญ่มักถือกัน ว่า หากฟันว่าฟันหลุดออกจะมีญาตผู้ใหญ่เสีย ดิฉันก็ตลอดค่ะฝัน ครั้งนั้นผ่านมาได้ ประมาณ 4-5 ปีแล้วละค่ะ นอนหลับอยู่ ก็ฝันไปว่า นอนกัดฟันตัวเอง เป็นนานถึง 2 เดือน ในฝันนั้นจะเป็นคล้ายๆว่า เรานอนกัดฟัน แล้วเลือดก็ออกเต็มปาก แต่ก็ไม่ได้หลุดออกมา อยู่อย่างนั้นเกือบทุกคืน จนมาเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็ว่าถ้าฝันแบบนี้คงต้องเป็นข่าวร้ายไม่ญาตเสียก็ต้องเกิดเรื่อง และในคืนสุดท้ายที่ฝันนั้น กัดฟันตัวเอง ฟันหลุดออกมา 2 ซี่ แต่อีก 2 ซี่หัก เหมือนจะออกแต่ก็ไม่ออกแต่เลือดเยอะมาก ผ่านไปไม่ถึงอาทิตย์ ลุงเสียชีวิต ผ่านไปอีกไม่ถึงเดือน พ่อเลี้ยงโดนจับเข้าคุก ผ่านไปอีก ไม่ถึงเดือน ป้ากับลุง โดนตำรวจจับอีก เอ้า ครบกับฟันที่หักและหลุดเลย 4 ซี่ แต่ป้ากับลุง ถูกปล่อยตัวออกมาเพราะไม่มีอะไร ส่วนพ่อเลี้ยง ติดคุก ไม่ได้ออกมา (คดียาเสพติด 25 ปี แกเคยโดนจับแล้ว 1 ครั้ง 8 ปี ออกมาทำอีก คราวนี้ คงไม่ได้ออก คงตายแน่แท้ หรืออย่างไร ไม่ได้แช่ง แต่เขาว่ากันค่ะเลยว่าตาม ก็คงจะใช่เพราะตอนนี้แกก็ 40 ละ ถ้าออมาก็คง แก่) และฝันอยู่ตลอดว่าฟันหลุด ก็มีญาตเสียตามมาบ่อยๆ ไม่ก็คนรอบข้างที่คุ้นเคย และวันที่คุณตาเสียผ่านมานี้ก็คิ้วขวากระตุกตั้งแต่ตื่นนอน ตี 5 ยันเย็น ถึง 2 ทุ่ม ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ก็คิดอยุ่ว่า เอ๊ะทำไม วันนี้มันกระตุก ทั้งวันเลย คิดว่าคงมีอะไรเกิดขึ้นกับเราแน่นอน ไม่เงินหาย ก็คงทะเลาะกับแฟน แต่ไม่ ผลสุดท้ายคือคุณตาจากเราไปนั่นเอง เห้อไม่ให้เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ เป็นประจำและตลอดเลย บางทีนั่งทำงานอยู่ก็เห็นเงาคนเดินผ่าน บางทีทำความสะอาดร้านอยู่ก็เหมือนมีผุ้ชายตัวใหญ่ๆ วิ่งผ่านเราไปเฉยเลย มีครั้งหนึ่งทำงานอยู่ตัวเองยืนอยู่อีกด้านของโต๊ะทำงาน จะมี ที่กดกินน้ำ เรามองไปก็เป็นพี่ทีทำงานด้วยกันยืนกดกินน้ำอยุ่ แล้วพอเงยหน้าไปมองอีกทีไม่เห็นเพียงแค่ เราก้มหน้าแล้วก็เงยหน้าแป๊บเดียวหายไปละ แล้วเราก็มองไปที่หน้าร้าน อ้าวพี่แกนั่งทำงานอยู่ เอ๊ะทำไมไวจังเลยร้องถามไปว่า เมื่อกี้พี่มากินนำไม๊ พี่แกตอบว่าไม่ นั่นทำงานอยู่นินานแล้ว อ้าวแล้วเมื่อกี้ใครหว่า เอาละสิ เห็นบ่อยๆ นะที่ทำงานที่เก่าค่ะ แต่ไม่รู้ว่าอุปทานไปเองหรือว่าเห็นจริงๆ ก็มีเยอะแยะค่ะกับสิ่งที่มองไม่เห็น ไม่รู้ว่าจะเป้นความจริงหรือว่าดิฉันคิดไปเองเพียงคนเดียว ยังไงก็จะมาเล่าให้ฟังอีกครั้งหน้านะค่ะ มีเยอะค่ะ
    หลวงพี่ หายป่วยหรือยังค่ะ ตอนนี้ดิฉัน เป็นต่อจากหลวงพี่แล้วละค่ะ แต่ก็ยังทำงานได้ เป็นไข้หวัด ยังไงก็ขอให้หลวงพี่หายเร็วๆน่ะค่ะ อนุโมทนา สาธุ
     
  18. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    เจริญพรวันนี้อาตมามีเรื่องฝากมาเล่าจากท่านผู้ใหญ่บ้านสมพรเป็นญาติของอาตมาเอง
    ปัจจุบันเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านหนองผักแว่นเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 46-47 ใน
    ช่วงที่มีการฆ่าตัดตอนเยอะๆ ท่านผู้ใหญ่กำชับว่าต้องเอามาเล่าให้ได้ ท่านบอกว่าผีมี
    จริงๆ เห็นกันรวดเดียวถึง 7 คน เรื่องมีอยู่ว่าวันหนึ่งท่านผู้ใหญ่เดินผ่านไปบริเวณ
    ขนำนากับเพื่อนอีก 6 คน อยู่ดีๆ เพื่อนของผู้ใหญ่ก็เรียกท่าน "ผู้ใหญ่ตรงนั้นมีคนอยู่"
    ท่านผู้ใหญ่ก็คิดในใจว่าจะมีคนอยู่ได้ไงเวลานั้นมัน 5 ทุ่มแล้ว จะมีคนเดินยังไง แต่
    เมื่อมองไปกลับเห็นเป็นเงาสีขาวสูงๆ เนื่องจากมีคนอยู่มากก็เลยสั่งคนให้ล้อมหน้าล้อม
    หลังแถมยิงปีนขู่อีก แต่ท่านกลับต้องแปลกใจที่เงานั้นมันเหมือนกับไม่สนใจเสียงขู่เลย
    แม้แต่น้อย ท่านบอกว่าธรรมดาเป็นคนก็ต้องตกใจกลัวแล้วเล่นล้อมแล้วยิงปืนขู่แบบนี้
    แต่นี่กลับไม่เลย แล้วที่ทำให้ท่านผู้ใหญ่แปลกใจมากที่สุดก็คือเงาสีขาวสูงๆ ที่เห็นอยู่
    นั้นมันค่อยๆ หายไปกับพื้นคือเห็นเงาเตี้ยลงเรื่อยจนกระทั่งหายไปกับพื้นบริเวณขนำ
    นาที่ไปตรวจ เมื่อแวะกลับไปตรวจตอนเช้าก็พบว่ามีสร้อยคอตกอยู่บริเวณนั้น ท่าน
    ก็คิดว่าถ้าเป็นคนก็ต้องเอาสร้อยคอไปด้วยไม่ทิ้งไว้แบบนี้หรอกเมื่อประติดประต่อเรื่อง
    ราวได้ก็ทราบว่าผีที่เห็นน่าจะเป็นผีของคนลาวที่เคยเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลท่านหนึ่งสุด
    ท้ายก็เลยโดนฆ่าตัดตอนแล้วปัจจุบันยังเชื่อว่าศพฝังอยู่ที่วัดป่าหนองผักแว่นจำนวน 3
    ศพ แต่ไม่ทราบว่าฝังไว้บริเวณไหนเมื่อเหตุการณ์เกิดใหม่ๆ มีคนเห็นรอยขุดใหม่ 3
    รอยที่วัดด้วย เพระไม่มีใครอย่างยุ่งกับท่านผู้มีอิทธิพลคนดังกล่าว เรื่องราวจึงเริ่มเงียบ
    หายไปพร้อมกับเรื่องราวน่าพิสวงที่ยังคงเป็นปริศนาอยู่
     
  19. sirakarn001

    sirakarn001 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +74
    ขอ อนุโมทนา กับหลวงพ่อที่เล่าสู่กันฟัง ด้วยคะ โดยส่วนตัวแล้ว ผีมีจริงแน่นอน เพราะเคยเห็นในความฝัน (ฝันเห็นในช่วงเช้ามืดของวันพระ ) ช่วงนั้นกำลังจะนำกฐินไปทอดที่อีสาน ท่าน( พระที่ฝันเห็น )คงมาขอส่วนบุญของกฐินนะคะ โยมก็ทำให้ท่านคะ กราบนมัสการ
     
  20. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ขอเล่าบ้างครับ พอดีมางานกฐินวัดป่าหนองผักแว่นครับ ครั้งนี้เจอเข้ากับตัวเลย
    ครับ ครั้งก่อนจุดธูปบอกเจ้าที่เลยไม่เจออะไรผิดปกติ เริ่มจากการนอนก่อนเลย
    เนื่องจากว่าเหนื่อยมากวันนั้นเลยนอนเร็วประมาณ 2 ทุ่ม แต่แปลกมากที่เรานอน
    จนเต็มอิ่มแล้วคือเหมือนกับนอนมา 8-9 ชั่วโมง แล้วตื่นขึ้นมามองนาฬิกาพบว่า
    เวลาแค่ 4 ทุ่มกว่าเท่านั้นเอง ผมก็คิดว่านาฬิกาต้องเสียแน่ๆ เลยเรานอนไป
    ขนาดนั้นจะเป็น 2 ชั่วโมงได้ยังไง ก็ลุกออกมากำลังจะเดินไปกุฏิอื่นแต่เห็นเวลา
    จากมือถือก็บอกว่า 4 ทุ่มกว่าเหมือนกัน ผมก็เลยตกใจเลยเพราะความรู้สึกเหมือน
    นอนไปเยอะมาก เรื่องนี้พระอาจารย์บอกว่าท่านก็เคยเป็นเหมือนกันที่นี่ ผมเลย
    ต้องนอนต่อไป แต่ก็ต้องตื่นขึ้นมาอีกเพราะได้ยินเสียงหมาที่พระอาจารย์เลี่ยงไว้ทั้ง
    2 ตัว เจ้าเซเว่นกับเจ้าหมี หมาพันธ์ไทยหอนขึ้นพร้อมๆ กัน เสียงดังมาก ผม
    ก็มองไปที่ๆ ผมนอนอยู่ก็เห็นเป็นเงาคล้ายๆ นิมิตครึ่งหลับครึ่งตื่นเห็นเป็นผู้ชายใส่
    กางเกงขาสั้น เสื้อเชิตแต่มองหน้าไม่ชัดความรู้สึกนั้นเหมือนกับเขาเป็นชาวบ้านที่นี่
    เมื่อตื่นนอนก็เลยสอบถามพระอาจารย์เรื่องที่เห็นในนิมิตว่าเขามาหาผมเรื่องอะไร
    พระอาจารย์ก็ตอบว่าเขามาขอส่วนบุญ เพราะบางทีญาติเขาไม่ได้ทำบุญให้ หรือ
    สมัยที่เขายังมีชีวิตมีความประมาทในชีวิต ไม่เคยเข้าวัด ทำบุญ เมื่อตายไปแล้ว
    ก็เลยกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน สัมภเวสีผีไร้ญาติจำพวกนี้ ต้องรอรับส่วนบุญจาก
    คนอื่นหรือญาติของตน ถึงตรงนี้แล้วผมเลยอยากชวนทุกท่านให้ทำบุญกุศล หาก
    ไม่มีเวลากสามารถทำบุญที่บ้านก้ได้ โดยการปลีกเวลาซัก 20-30 นาทีเพื่อสวด
    มนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิเป็นการบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระองค์ทรงตรัส
    ว่าประเสริฐอย่างยิ่ง ดังคำที่ท่านตรัสว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต"
    ได้เวลาที่ผมจะขอตัวไปทำวัตร สวดมนต์เย็นกับพระอาจารย์ จิรวัฒน์ ญาณวโร
    แล้วครับ ขอทุกท่านน้อมจิตน้อมใจมาร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00341.JPG
      DSC00341.JPG
      ขนาดไฟล์:
      110.8 KB
      เปิดดู:
      3,646
    • DSC00340.JPG
      DSC00340.JPG
      ขนาดไฟล์:
      139.8 KB
      เปิดดู:
      90
    • DSC00342.JPG
      DSC00342.JPG
      ขนาดไฟล์:
      104.6 KB
      เปิดดู:
      75
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...