พุทธานุสสติ แห่งกฐินสามัคคี

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย aprin, 4 ตุลาคม 2011.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ขออนุโมทนาในกุศลกิจของศรัทธาญาติโยมทุกคน ที่ต่างสามัคคีกันน้อมนำผ้ากฐิน มาถวายแด่พระสงฆ์ที่จำพรรษาถ้วนไตรมาสในอารามนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา บัดนี้กิจแห่งการถวายผ้ากฐินสัมฤทธิผลแล้ว อาตมาขอปรารภเหตุแห่งการถวายผ้ากฐินในวันนี้สักเล็กน้อย เพื่อเพิ่มพูน ศรัทธาปสาทะของญาติโยมให้มากขึ้น

    เมื่อวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา กำนันโตได้ปรารภกับกรรมการวัด ถึงพระบรมราโชวาทที่พระราชทานเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๒ ความตอนหนึ่งว่า “..ความสุข ความสวัสดีของข้าพเจ้าจะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีความเจริญ มั่นคง เป็นปกติสุข ความเจริญ มั่นคงนั้น จะสำเร็จผลเป็นจริงได้ ก็ด้วยทุกคนทุกฝ่ายในชาติ มุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มกำลัง ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยความสุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น..” แล้วจึงปรึกษากันว่าปีนี้การถวายผ้ากฐินควรจัดแบบจุลกฐิน เพราะจะได้สอนชาวบ้านในตำบลนี้ให้เข้าใจ เข้าถึงนัยยะแห่งพระมหากรุณาธิคุณที่ปรากฏในพระบรมราโชวาท ซึ่งที่ประชุมมีฉันทานุมัติตามนั้น แล้วก็ระดมความคิดเพื่อบริหารจัดการงานจุลกฐินให้ถูกต้องตามจารีตประเพณีของบุรพชน

    เบื้องต้น กำหนดวันที่จะถวายผ้ากฐิน ซึ่งถ้าเป็นจุลกฐิน จะต้องเป็นวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ หรือวันลอยกระทง แต่ปีนี้วันลอยกระทงตรงกับวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ซึ่งเป็นการไม่สะดวกต่อการจัดงาน จึงปรารภกันว่าน่าจะจัดถวายผ้ากฐินในวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๔ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๑๒ แทน เพราะทุกคนสามารถที่จะมาร่วมงานได้ จึงนำความปรึกษาอาตมาเพื่อขอจองกฐิน ซึ่งทางวัดก็ไม่ขัดข้อง อนุโลมตามที่ปรารภกัน

    จากนั้น กำนันโตก็แต่งตั้งให้ผู้ใหญ่ไก่เป็นผู้รับผิดชอบ ในการจัดเตรียมพื้นที่สำหรับปลูกฝ้าย ซึ่งก็เป็นที่ดินของวัด ครั้นถึงวันที่ ๑๖ มิถุนายน วันพระ ๑๕ ค่ำ หลังฟังพระธรรมเทศนาแล้ว ผู้ใหญ่ไก่ก็ระดมลูกบ้านมาเตรียมดินปลูกฝ้าย ช่วยกันเก็บวัชพืช ไถพรวนดินให้ร่วนซุย ที่ริมขอบแปลงก็ปลูกสมุนไพรที่ป้องกันแมลงไม่ให้มารบกวนต้นฝ้าย แล้วนิมนต์พระสงฆ์มาประพรมน้ำพระพุทธมนต์รอบแปลง

    ก่อนวันเข้าพรรษา กำนันโตให้สำรวจสาวพรหมจรรย์ ในตำบล ว่ามีจำนวนเท่าไร แล้วถามความสมัครใจว่าจะเป็นสาวเก็บฝ้ายไหม ถ้าเต็มใจ ก็ต้องสมาทานรักษาศีลตลอดพรรษา สาวพรหมจรรย์ทุกคนสมัครใจทำหน้าที่นี้ด้วยความภูมิใจ บ้านไหนแม่เคยทำหน้าที่เก็บฝ้าย ลูกสาวก็อยากทำตามแม่ อีกประการหนึ่งงานจุลกฐินเป็นงานใหญ่ ไม่ได้จัดกันบ่อย จึงเป็นเหตุให้สาวพรหมจรรย์ในตำบลข้างเคียงมาสมัครเป็นสาวเก็บฝ้ายหลายคน

    วันที่ ๑๖ กรกฎาคม วันเข้าพรรษา หลังจบพระธรรมเทศนาแล้ว กำนันโตอาราธนาให้อาตมาปาฐกถาธรรมเรื่องการรักษาศีล การรักษาธรรม และการรักษาขนบธรรมเนียมจารีตประเพณีของชาติและท้องถิ่น ให้สาวเก็บฝ้ายและทายกทายิกาที่จะร่วมพิธีปลูกฝ้ายฟัง

    หลังจากนั้นก็อาราธนาพระสงฆ์ไปสวดชัยมงคลคาถา ในการเริ่มต้นปลูกฝ้าย โดยกำนันโตนำชาวบ้านหยอดเมล็ดฝ้ายในหลุมที่ผู้ใหญ่ไก่และคณะได้จัดเตรียมไว้ ฝ่ายที่รับหน้าที่บริการอาหารเครื่องดื่มก็ทำงานกันเต็มที่ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ แดดไม่ทันร้อนก็หยอดเมล็ดฝ้ายที่เตรียมไว้จนหมด ผู้ใหญ่ไก่และคณะรับภาระในการดูแลบำรุงรักษาให้ต้นฝ้ายเจริญงอกงามสมบูรณ์ ถ้ามีวัชพืชขึ้นมากเกินกำลังตน ก็ระดมบอกกล่าวกันให้มาช่วยกำจัดวัชพืช คอยระวังไม่ให้น้ำขังในแปลงฝ้าย แปลงฝ้ายจึงงอกงามไพบูลย์เป็นประจักษ์แห่งความสามัคคีของทุกคน

    เมื่อวันตักบาตรเทโว วันที่ ๑๓ ตุลาคม ที่ผ่านมา หลังตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ทำวัตรเช้าแล้ว กำนันโตได้จัดประชุมเตรียมงานจุลกฐิน ลงรายละเอียดถึงทุกฝ่าย กำหนดหน้าที่ให้ตรงตามความสามารถของแต่ละคน วางปฏิทินงานให้ทุกคนได้ทราบถึงเวลางานของฝ่ายตน แล้วซักซ้อมทำความเข้าใจในเนื้อหาของแต่ละฝ่ายโดยละเอียด ช่วยกันคิดถึงข้อบกพร่องที่อาจจะเกิดขึ้น และแนวทางการแก้ไข กว่าจะเสร็จก็บ่ายโข มีข้อสังเกตที่ต้องขอชมเชยไว้สักหน่อยก็คือ ในการประชุมครั้งนี้ เห็นมีพูดปรึกษากันแต่เฉพาะคนที่รู้เรื่องราวในหน้าที่ความรับผิดชอบ ส่วนคนอื่นอาจเสนอความคิดเห็นได้บ้างตามทัศนคติของตน ทำให้การประชุมมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    เมื่อวานนี้ส่วนเตรียมงานก็เข้ามาที่วัด เตรียมสถานที่ อุปกรณ์ ตามที่กำหนดไว้ในการประชุม ร่วมแรงร่วมใจทำงานกันโดยเต็มใจ เวลา ๐๐.๐๐ น. กำนันโตก็ให้สาวพรหมจรรย์เก็บฝ้าย แล้วทยอยส่งมาให้ผู้เฒ่าผู้แก่คนหนุ่มสาวช่วยกันตีฝ้าย แล้วนำมาปั่นกรอเป็นเส้นด้าย งานนี้คนช่วยกันมาก ใช้เวลาไม่นานก็ได้เส้นด้ายสำหรับทอผ้าจำนวนมาก เมื่อสาวพรหมจรรย์เก็บฝ้ายเสร็จ หน่วยทอผ้าก็เริ่มงานทอผ้าไปแล้ว งานจึงดำเนินการไม่ขาดตอน

    ครั้นได้ผ้าพอที่จะตัดเป็นไตรจีวรแล้วทิดช้างกับทิดแก้วซึ่งมีความชำนาญในการตัดไตรจีวรก็เข้ามากะเกณฑ์ตัดแบ่งผ้า มอบให้คณะช่างสอยเย็บเป็นผืน แล้วก็ย้อมสีกลัก รีดพับจนเรียบร้อย ทำงานกันไปเรื่อยๆ โดยมีเสียงเพลงพื้นบ้านขับกล่อมให้เพลินใจ งานก็เสร็จพร้อมกันเมื่อจวนเพล ได้ผ้าไตรเต็ม ๑ ไตร ผ้าขาวเป็นผ้ากฐิน ๑ ผืน ส่งให้กำนันโตไปมอบให้ผู้รับผิดชอบจัดกองกฐิน

    เห็นญาติโยมพร้อมเพรียงกันตัดเย็บย้อมผ้าเป็นไตรจีวร ทำให้ระลึกถึงเรื่อง พระอนุรุทธะตัดจีวร ซึ่งมีพรรณนาไว้ว่า เมื่อจีวรของท่านเก่าแล้ว ท่านจึงแสวงหาผ้าในที่ต่างๆ มาเพื่อเย็บเป็นจีวร ในกาลนั้น ภรรยาเก่าในอดีตชาติของพระอนุรุทธเถระ ซึ่งเกิดเป็นเทพธิดาชื่อ ชาลินี สถิต ณ ดาวดึงส์ นางรู้ข่าวของพระเถระโดยทิพยญาณ นางจึงถือผ้าทิพย์ ๓ ผืน ยาว ๑๓ ศอก กว้าง ๔ ศอก ลงจากวิมานเพื่อจะนำผ้ามาถวายท่าน แต่นางได้คิดว่า “ถ้าเราจักถวายผ้าแก่ท่านโดยตรง พระเถระจะไม่รับ” นางจึงวางผ้าไว้ในกองหยากเยื่อที่อยู่ข้างทางที่พระอนุรุทธเถระ จะเดินผ่าน โดยให้ชายผ้าพ้นออกมา

    เมื่อพระอนุรุทธเถระเดินมาเห็นชายผ้านั้น ท่านก็จับที่ชายผ้านั้นและดึงออกมา พิจารณาทราบโดยญาณว่า เป็นผ้าทิพย์ จึงถือเอาด้วยคิดว่า “ผ้านี้เป็นผ้าบังสุกุลอย่างอุกฤษฏ์หนอ” แล้วก็กลับอาราม

    ครั้นถึงวันที่พระอนุรุทธเถระจะทำจีวร พระศาสดามีภิกษุ ๕๐๐ รูปเป็นบริวาร เสด็จไปประทับนั่ง ณ ที่นั้น โดยมีพระเถระผู้ใหญ่ ๘๐ รูปไปนั่งอยู่ในที่นั้นเหมือนกัน อาทิพระมหากัสสปเถระ พระสารีบุตรเถระ พระอานนทเถระเพื่อช่วยเย็บจีวร เหล่าภิกษุสงฆ์กรอด้าย พระศาสดาทรงร้อยด้ายเข้ารูเข็ม พระมหาโมคคัลลานเถระช่วยจัดหาทุกสิ่งที่จำเป็นมาให้

    เมื่อนางชาลินีเทพธิดาเห็นดังนั้นก็นิรมิตกายเข้าไปภายในหมู่บ้าน ชักชวนทายกว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย พระศาสดาทรงทำจีวรแก่พระอนุรุทธเถระ ผู้เป็นเจ้าของเราทั้งหลายวันนี้ อันพระอสีติมหาสาวกแวดล้อม ประทับนั่งอยู่ในวิหารกับภิกษุ ๕๐๐ รูป พวกท่านจงถือข้าวยาคูเป็นต้น ไปวิหาร”

    แม้พระมหาโมคคัลลานเถระนำชิ้นชมพู่ใหญ่มาแล้วในระหว่างภัต ภิกษุ ๕๐๐ รูปไม่อาจเพื่อขบฉันให้หมดได้ ท้าวสักกะทรงทำการประพรมในที่อันเป็นที่กระทำจีวร พื้นแผ่นดินเป็นราวกะว่าย้อมด้วยน้ำครั่งกองใหญ่แห่งข้าวยาคู ของควรเคี้ยวและภัตอันภิกษุทั้งหลายฉันเหลือได้มีแล้ว

    นี้ล่ะเป็นมหากุศลที่ปรากฏเป็นพุทธานุสสติแห่งสามัคคีแก่ชาวเราทั้งหลายในบัดนี้ ขออนุโมทนาในความขวนขวายทำกุศลกิจของท่านทั้งหลาย ที่บำเพ็ญตนตามรอยพุทธบาท สมกับที่บรรพชนได้สั่งสอนมาเป็นอย่างดี

    เวลา ๑๕.๐๐ น. เผดียงสงฆ์ลงประชุมที่โรงอุโบสถ กำนันโตนำศรัทธาญาติโยมประกอบพิธีถวายผ้ากฐิน เมื่อสงฆ์ทำสังฆกิจเสร็จแล้ว ก็มอบให้พระที่ชำนาญการตัดเย็บจีวร นำผ้ากฐินไปตัดเย็บเป็นสบง กำนันโตก็ให้คนไปขึ้นธงจระเข้ เพื่อประกาศให้ชาวบ้านได้รู้ว่าพระสงฆ์ที่วัดนี้ได้รับผ้ากฐินแล้ว

    ปรารภจุลกฐินมาโดยสังเขป ก็เพื่อให้เราทั้งหลายได้ระลึกถึงความสุขใจในการถวายผ้ากฐินในปีนี้ แม้งานจะดูเหมือนมาก แต่เมื่อเราร่วมแรงกายแรงใจเป็นสามัคคีธรรม ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวนั้นก็เป็นพลังอำนวยผลให้งานได้สัมฤทธิผลตามวัตถุประสงค์ บ่งชี้ถึงการบำเพ็ญตนตามพระบรมราโชวาทที่ได้นำมากล่าวไว้ ณ เบื้องต้น เชื่อว่าเมื่อทุกคนได้เข้าใจถึงนัยยะที่สำคัญแห่งพระบรมราโชวาทนี้ ก็จะน้อมนำตนให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ของตน ให้เต็มกำลัง ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยความสุจริตจริงใจโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น สุขอันเกิดจากปฏิบัติตนเช่นนี้ ก็จะเป็นกำลังให้สามารถนำตนไปสู่ความสำเร็จที่ตนปรารถนา ทั้งยังอำนวยผลให้สังคมมีแต่ความวัฒนาสถาพร อันจักส่งผลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประสบความสุข ความสวัสดี ได้เป็นนิตยกาล

    ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการทำกิจการงานใดๆ ที่เป็นบุญเป็นกุศล ย่อมเป็นความพร้อมเพรียงกันที่ก่อให้เกิดสามัคคีธรรมในชุมชน อันนำให้เกิดความสุขสวัสดิ์ ที่เสมอกันทุกคน สมดังพุทธภาษิตที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนพระภิกษุที่พระเชตวันวิหารว่า “...ความสุขนี้แม้ทั้งหมด นับเนื่องด้วยทุกข์ในวัฏฏะทั้งนั้น แต่เหตุนี้เท่านั้น คือ ความเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้า การฟังธรรม ความพร้อมเพรียงของหมู่ ความเป็นผู้ปรองดองกัน เป็นสุขในโลกนี้” แล้วตรัสพระคาถาว่า :-

    สุโข พุทฺธานํ อุปฺปาโท สุขา สทฺธมฺมเทสนา
    สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี สมคฺคานํ ตโป สุโข

    ความเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นเหตุนำสุขมา การแสดงธรรมของสัตบุรุษ เป็นเหตุนำสุขมา ความพร้อมเพรียงของหมู่ เป็นเหตุนำสุขมา ความเพียรของชนผู้พร้อมเพรียงกัน เป็นเหตุนำสุขมา

    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
    ทรงตั้งพระราชหฤทัยในการบริหารราชการแผ่นดินให้ประเทศ มีความวัฒนาสถาพรตลอดไป พระองค์ทรงโปรดให้จารึก พุทธศาสนสุภาษิตความว่า สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี สมคฺคานํ ตโป สุโข ไว้ในตราแผ่นดิน น่าเสียดายที่คนไทยในภายหลังไม่ได้ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในส่วนนี้ จึงมุ่งแสวงหาสิ่งที่ตนปรารถนาด้วยความโลภ อยากได้ในจิตใจ ก่อให้เกิดมหันตภัยขึ้นในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง

    วันนี้ญาติโยมทั้งหลายได้มาประพฤติตนให้พระราชประสงค์ที่ตราไว้ในตราแผ่นดินเป็นจริงขึ้น แม้จะเป็นเพียงงานจุลกฐิน แต่ก็เป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีในจิตใจของตน ให้ผู้อื่นได้ประจักษ์ และอาจจะนำให้เขาผู้หลงมืดด้วยความเขลา ได้รับพุทธิปัญญา นำตนให้สร้างสรรค์สิ่งที่ดีแก่ประเทศไทยสืบต่อไป

    ขอปรารภถึงปฐมเหตุแห่งการถวายผ้ากฐินให้ได้ทราบ ทั่วกันว่า สมัยพุทธกาล ครั้งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน พระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุปาไฐยรัฐจำนวน ๓๐ รูป ล้วนปฏิบัติในอารัญญิกธุดงค์บิณฑปาติกธุดงค์ และเตจีวริกธุดงค์ ได้ตั้งใจเดินทางไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค แต่ท่านเหล่านั้นไม่สามารถจะเดินทางเฝ้าได้ทันในวันเข้าพรรษา จึงต้องจำพรรษา ณ เมืองสาเกต ที่อยู่ห่างจากพระนครสาวัตถีเพียง ๖ โยชน์ ภิกษุเหล่านั้นจำพรรษาด้วยความไม่สงบใจ ด้วยความปรารถนา ที่จะเฝ้าพระผู้มีพระภาค เพื่อได้สดับพระธรรมเทศนา ครั้นถึงออกพรรษา ภิกษุเหล่านั้นทำปวารณาเสร็จแล้ว ก็เร่งเดินทางด้วยความลำบากกายฝ่าฝนที่ยังตกชุก พื้นดินเต็มไปด้วยน้ำ เป็นหล่มเลน จนไปถึงพระนครสาวัตถี แล้วเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ด้วยจีวรชุ่มชื้นด้วยน้ำ

    พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพิจารณาถึงความทุกข์ยาก ในการเดินทางของภิกษุเหล่านั้นแล้ว และด้วยพระมหากรุณาธิคุณในพระหฤทัย พระองค์ทรงรับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุทั้งหลายผู้จำพรรษาแล้วได้กรานกฐิน เพื่อให้คณะสงฆ์ได้มอบผ้ากฐินถวายแด่พระสงฆ์ที่มีจีวรคร่ำคร่า

    ในกาลนั้น นางวิสาขามหาอุบาสิกาได้เฝ้าอยู่ ณ ที่นั้นด้วย นางจึงขอเป็นผู้ถวายผ้ากฐินแด่สงฆ์เป็นปฐม ทำให้พระพุทธองค์ทรงกำหนดสังฆกรรมเรื่องกฐินแก่พระภิกษุไว้เป็นแบบอย่างสืบมา

    การถวายผ้ากฐิน จัดเป็นสังฆทานที่กำหนดกาล คือมีระยะเวลาเพียง ๑ เดือน หลังออกพรรษา เป็นกิจกรรมที่ปรารภความสามัคคีเป็นเบื้องต้น คือในส่วนทายกผู้ขวนขวายจะถวายผ้ากฐิน ก็ต้องพร้อมเพรียงกันจัดดำเนินการหาผ้ากฐินให้พรักพร้อม แล้วน้อมนำมาถวายแด่สงฆ์ เมื่อสงฆ์รับแล้วก็เป็นเสร็จกิจแห่งกฐินของโยม รับอานิสงส์แห่งกุศลสังฆทานนี้ไปตามควรแก่ตน

    ในส่วนของพระสงฆ์ผู้รับผ้ากฐิน ต้องอยู่จำพรรษาในอารามนั้นถ้วนไตรมาส ๓ เดือน และต้องมีพระสงฆ์อยู่ร่วมกันอย่างน้อย ๕ รูป เมื่อรับถวายผ้ากฐินแล้ว ก็ต้องปรึกษาหารือกันเลือกพระสงฆ์ที่ควรแก่การรับผ้ากฐิน โดยทุกรูปมีอิสระในการพิจารณา เมื่อได้พระสงฆ์ผู้ควรรับผ้ากฐินแล้ว ก็ต้องช่วยกันตัดเย็บย้อมผ้านั้นให้เป็นสบง หรืออุตตราสงค์ หรือสังฆาฏิ ให้เสร็จภายในวันนั้น เมื่อเสร็จแล้วก็ต้องร่วมกันอนุโมทนาผ้ากฐินนั้น จึงเป็นเสร็จกิจแห่งกฐิน รับอานิสงส์ได้ตามพระพุทธานุญาต

    ได้พรรณนาถึงการถวายผ้ากฐินที่ทุกคนได้ร่วมกันจัดทำ แล้วน้อมนำมาถวายแด่สงฆ์ในกาลนี้ด้วยตนเอง พอเป็นทางแห่งความเจริญสุขสวัสดิพิพัฒนมงคลแก่ทุกท่านแล้ว จึงขอให้ท่านทั้งหลายได้ตั้งใจระลึกถึงกุศลผลบุญแห่งการถวายผ้ากฐินนี้ ให้เป็นตบะเดชะแห่งสุขในจิตใจของตน แล้วตั้งจิตอธิษฐานขออำนาจแห่งบุญนี้ จงอำนวยผลให้ตนและครอบครัวเกิดสุขสวัสดิมงคลทุกเมื่อ แล้วตั้งใจน้อมนำกุศลนี้ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ แห่งเราทั้งหลาย

    ขออำนาจแห่งบุญนี้จงอำนวยอิฏฐวิบุลมนุญผลให้พระองค์ทรงเจริญพระราชสิริสวัสดิพิพัฒนมงคลพระชนมสุขทุกประการ ขอพระพลานามัยจงแข็งแรง และขอให้พระองค์ทรงสัมฤทธิผลในพระราชกิจที่ทรงตั้งพระราชหฤทัยปรารถนาทุกประการ ขอให้ประเทศไทยและพระพุทธศาสนาได้วัฒนาสถาพรสืบไปจนชั่วลูกหลานด้วยเทอญ

    อาตมภาพก็ขอให้ทุกท่านจงได้รับผลานิสงส์ในการถวายผ้ากฐินนี้ตามปรารถนาทุกประการ ขอยุติธรรมีกถาแต่เพียงนี้ เจริญพร

    (จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 131 ตุลาคม 2554 โดย พระพจนารถ ปภาโส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม)
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    Dhamma and Life - Manager Online
     
  2. baimaingam

    baimaingam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    634
    ค่าพลัง:
    +880
    ขออนุโมทนาบุญนี้ด้วยเทอญ
    ...หันหลังคืนฝั่ง พ้นจากทะเลทุกข์...
     
  3. เทพกามาวจร

    เทพกามาวจร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +3
    เคย........

    เมื่อ.....เคยนำญาติโยม นั่งสมาธิ โดยไม่ต้อง กำหนด อะไรทั้งนั้ แต่ให้เพ่งมอง พระพุทธรูป ที่เป็นพระประธานที่อยู่เบื้องหน้า

    โดยให้เพ่งมอง แบบลืมตา ไม่ต้องหลับตา มันจะทำให้เกิดสมาธิได้ดีกว่า บางคนพอหลับตา จิตจะฟุ้ง พอลืมตา จ้องมองพระพักตรของพระผู้มีพระภาคเจ้า (เป็นพระพุทธรูปที่ไม่ใช่พระอริยสาวก หรือ พระเกจิ นะ)

    และมองที่ใบหน้าอันอิ่มเอิบ ยิ้มแย้มของท่าน ปรากฎว่า 99 เปอร์เซ็นต์ สามารถควบคุมจิต ไม่ให้ส่งออกได้

    **ผลก้อคือ การได้เข้าเฝ้า ต่อหน้าพระพักตรของพระผู้มีพระภาคเจ้า โดยเฉพาะตน เลยทีเดียว

     
  4. ttt2010

    ttt2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +905
    อนุโมทนาสาธุกับผู้ที่โพสข้อความข้างต้นด้วยครับ<!-- google_ad_section_end -->
    บุญอันใดที่ท่านกระทำขอส่งผลให้กับท่านในวันนี้ด้วยเทอญ<!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...