พศ(พุทธศาสนา) เถระสมาคม เตรียมขับนักบวชเกษมออกจากพระศาสนา

เจ้าคณะจังหวัด และ พศ และเถระสมาคม ส่งเรื่องไห้ตำรวจ

เอาผิดสามข้อหาร้ายแรง ถึงขั้นถูกจับสึก

1 บุกรกป่าสงวน

2เหยียบย่ำพระศานา (เอามือตบหน้าพระพุทธรูป เหยียบ เผา)

3 ประพฤติตัวไม่หมาะสม ในสมะเพศ


ยังไงก็โดนจับสึกแน่ๆ เพราะเจ้าคณะภาคจังหวัด จะส่งกลับต้นสังกัด

ทางต้นสังกัด ขอนักบวชเกษม ก็ไม่ขอรับกลับ

สรุป โดนขับออกจสาำกเพพชรบูรณ์ ไม่มีที่อยู่ สุดท้ายก็ต้องสึก

 

ที่นักบวชเกษม มีวันนี้ ก็เพราะเกิดเจากกรรม ที่ตนเอง ทำไว้ทั้งสิ้น

 

แจ้งกองปราบฯสอบพระเกษม

นาย สงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายรวมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสน์ กษัตริย์ กล่าวว่า ในวันที่ 27 ก.ย. เวลา 13.30น. ตนจะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปรามให้เข้าทำการสืบสวน สอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีพระเกษมเนื่องจากพระเกษมเจตนากระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกรรมต่าง วาระต่อเนื่องกัน​

คือ 1. พระเกษมได้บังอาจกระทำความผิดโดยการกระทำด้วยประการใดๆแก่พระพุทธรูป หรือวัตถุอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาพุทธของหมู่พุทธศาสนิกชน อันเป็นการเหยียดหยามนั้นถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุก 1-7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ​

2. พระเกษม ได้บุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของทางราชการ หรือ อันเป็นที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ โดยเพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมด หรือ แต่บางส่วนในการสร้างสำนักสงฆ์ หรือที่พัก ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่ง เมื่อพระสงฆ์ทำผิดในข้อนี้ ถือว่า อาบัติปราชิกตามพระธรรมวินัย ที่พระพุทธเจ้าได้บัญญัติไว้คือ 1. การเอาของหรือทรัพย์ที่เจ้าของมิได้ให้แม้เพียง 1 เฟื้อง ก็ถือว่าขาดจากความเป็นพระภิกษุตั้งแต่ต้น​

นาย สงกานต์ กล่าวต่อไปว่า ดังนั้นนับตั้งแต่วันที่พระเกษม มาครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นหรือป่าสงวน จึงถือว่าพระเกษมขาดจากการเป็นพระ และจะถือว่าพระเกษม บังอาจแต่งกาย เป็นพระภิกษุหรือนักบวชในศาสนาพุทธโดยมิชอบ ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 208 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับอีกด้วย 3. พระเกษม บังอาจกระทำความผิดต่อพระภิกษุ ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ในการปกครองคณะสงฆ์ ซึ่งถือเป็นเจ้าพนักงานตามความในประมวลกฎหมายอาญาแห่งพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 มาตรา 45​

โดย การขัดคำสั่งเจ้าคณะปกครองซึ่งถือเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย และได้บังอาจใส่ความเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะใหญ่ฝ่ายธรรมยุต หรือคณะกรรมการมหาเถรสมาคม ในทำนองว่ามีความประพฤติไม่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย หรือท้าทายคณะสงฆ์โดยกล่าวหาว่า ไม่กล้ามาสอบสวน อันเป็นการพูดจาเชิงดูหมิ่นและให้พุทธศาสนิกชนเข้าใจผิดได้ อันเป็นการใส่ความคณะสงฆ์ หรือคณะสงฆ์อื่น อันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย หรือความแตกแยก ถือเป็นความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ​

แหล่งที่่มาของข่าว​

หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก​

 

หากยินดีในความวิบัติของคนอื่น กรรมนั้นจะเปนของเรา

เรืองแบบนี้เมื่อเกิดขึ้น ต้องใช้พรหมวิหารสี่

คือ
เมตตา
กรุณา
มุทิตา
และอุเบกขา

จะจริงหรือไม่จริง
ไม่ควรสร้างข่าวต่อ ทำอย่างอื่นจะเปนประโยชน์ต่อตนเองมากกว่า
เราไม่มีหน้าที่
เราควรทำตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์
ควรมีเมตตา
และอุเบกขา
ในเรื่องนี้

น่าจะหยุดขยายความได้แล้ว
เห็นลงหลายกระทู้แล้ว
น่าจะเพียงพอ
ใคร ๆ ก็ทราบข่าวแล้ว

 

เสนอข่าวดี ๆ บ้าง
จะเปนการสร้างกุศล
เวปจะได้ไม่เครียด

ลองดูนะคะ

 

เจ้าคณะอำเภอ-เจ้าคณะตำบลส่ายหน้า ยอมรับหมดปัญญาตักเตือน "พระเกษม" ชี้ทำให้วงการสงฆ์สั่นคลอน



<table width="650" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td valign="top" width="90" align="left">
</td> <td valign="top" width="560" align="left"> <style>p { margin: 0px; }</style>
เมื่อวันที่ 24 กันยายน พระครูกันตศีลาภิยุต เจ้าคณะอำเภอหล่มเก่า–น้ำหนาว วัดดอนไชย อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า เรื่องการว่ากล่าวตักเตือน พระเกษม อาจิณฺณสีโล เจ้าสำนักสงฆ์ป่าสามแยก ต.วังกลาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ที่แสดงกริยาไม่สำรวมทั้งถีบโต๊ะเก้าอี้และด่าทอในวีดีโอที่ถูกเผยแพร่บน เว็บไซต์ยูทูบ นั้น ว่า ยังไม่ได้รับแจ้ง แต่เรื่องราวของพระรูปนี้ได้รับทราบญาติโยมแล้ว รู้สึกเบื่อหน่ายแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ถ้าท่านทำแล้วดังก็ปล่อยให้ท่านทำไป ยอมรับหมดหนทางที่จะไปทำอะไรได้

"การพระเกษมต่อต้านการกราบไหว้พระพุทธรูปและยังตบพระพักตร์พระพุทธรูปหน ก่อน อาตมาก็ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว ยิ่งมาได้ยินอีกถึงการแสดงสิ่งต่างๆ ที่สงฆ์เขาไม่ทำกัน อาตมาก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี ในพระไตรปิฏกก็ไม่ได้บอกให้พระสงฆ์ไปแสดงอากัปกิริยาที่ชาวโลกติเตียนเยี่ยง นั้น พุทธองค์สอนเพียงแต่ให้อดทนสำรวมกายวาจาใจและให้ถือศีลถึง 227 ข้อ ยอมรับว่าได้ยินเรื่องนี้แล้วเหนื่อยหน่ายจริงๆ"พระครูกันตศีลาภิยุตกล่าว

ด้านหลวงปู่ทิม จาคจิตโต เจ้าคณะตำบลวังกวาง วัดดงคล้อ อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า พฤติกรรมของพระเกษมทำให้วงการสงฆ์สั่นคลอนไปหมด ส่วนจะให้อาตมาไปว่ากล่าวตักเตือนคงทำไม่ไหว ก่อนหน้านี้เคยเข้าไปก็ถูกโต้ตอบกลับมา คงต้องให้ทางสำนักพุทธศาสนาจังหวัดมาดำเนินการจะดีกว่า



</td></tr></tbody></table>

 

ความโกธร เกลียด เปนอกุศลที่เกิดขึ้นในจิตคน
เปนไฟตัวหนึ่งในไฟสาม
ยิ่งเราทำได้สำเร็๋จ
เขาได้รับความพินาศเพราะเราเปน
คนเกลียดชังเขาเพราะเราเสนอ
กรรมคือ เราจะหาความสุขไม่ได้
ตลอดชีวิต
ทำอะไรก้ล้มเหลว
พึงมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์
บาก เราก็เคยทำ
กราม เราก็เคยก่อกันแล้วทั้งสิ้น
ไม่มีใครดีกว่าใครเท่าไร

เราควรหยุด เพื่อไม่ก่อเกิดภพ
หยุดสร้างภพ ชาติก็ไม่เกิด
เรืองเช่นนี้
ผุ้มีสติ ก็จะพิจารณาได้
พึงใช้ธรรมะ หลาย ๆ ข้อหน่อย

พึงยุติเรื่องบาดหมาย
สร้างกระแส ความปั่นป่วน

สร้างแต่กรรมดี
เท่าั้นั้น
โลกจะน่าอยู่

 

สิ่งที่มนุษย์ทำได้
คือ สร้างกุศล อกุศล และไม่สร้างทั้งสองอย่าง
สร้างกุศลและ อกุศล เราก็ต้่องกลับมาเกิดอีก
แต่เมื่อสร้างกุศล เราก็ได้ใช้ผลของบุญ
สร้างอกุศล เราก็ได้ใช้ผลของกรรม บาอ อกุศล
เมื่อไม่สร้างทั้งสองสิ่ง ก็หยุดการส้รางภพ
ไม่มีภพ กรรมเราลดน้อยถอยลง

พึงสร้างความมีเมตตา ให้เกิดขึ้นในใจ

 

จำเป็นครับ ผมไม่มีอคติ กับนักบวชเกษม

แต่เพื่อปกป้อง พรัะพุทธศาสนา จำเป็นต้อง ทำครับ

 

ขอไห้ไปใช้ชีวิต ในเพศฆารวาส หรือคนธรรมดา หรือปุถุชน (ปุถุชน =คนที่ทยังหนาแน่นไปด้วยกิเลส)

จะทำอะไรก็ตามสบายเลยครับ ทีนี้

 

ขอให้เจตสิกในฝ่ายดี เกิดขึ้นในจิตใจ
เสนอข่าวอื่นที่บันเทิงใจบ้างก็ดี
เพราะตอนนี้ คนก็เครียดหลายเรื่องแล้ว

 

ปกป้องศาสนาเปนเืรื่องที่สรรเสริญค่ะ
แต่เราควรหยุดบาปอกุศลที่จะเกิดขึ้นด้วยจะดี
ไม่ใช่เราปกป้องแล้ว เราเจ็บตัว
ไม่ใช่วิธีที่ควรทำค่ะ
เมื่อมีจิตที่คิดดี
กรรมดีจะปรากฏ
สาธุ

 

พึงเจริญเมตตา เอาไว้นะคะ
เมตตาบารมี เปนธรรมข้อเก้าในบารมี ๑๐ ทัศ
ทำให้เต็มข้อหนึ่งข้อใดในบารมี ๑๐ ทัศ ก็สามารถได้บารมีเต็มได้

เมื่อบารมีเต็ม ก็บรรลุธรรมได้

สาธุการ

 

คุณทำดีแล้วครับ

 

ศาสนาดำรงอยู่แน่ค่ะ ไม่ต้องเปนห่วงอะไร
เราควรเปนห่วงตัวเอง
ว่าชาตินี้ เราจะเปาอะไรติดตัวไปข้างหน้า
เราควรได้อะไรจากการประพฤติ ปฏิบัติดี

เราแก้คนอื่นไม่ได้
เราแก้ใครไม่ได้
เราทำได้ เฉพาะตัวเราเอง
เมื่อมีสัจจะต่อพพุทธศาสนา
เร่งกันปฏิบัติตนเอง ดีที่สุด สาธุการ

 

นี้เป็นตัวอย่าง....พิจารณาดูเอาเถิดท่านทั้งหลาย
บุคคลผู้ หลง ยึดติดในสมมุติ ไม่รู้จักสมมุติ และละวางสมมุติไม่เป็น
บุคคลผู้ไม่เข้าถึงพระรัตนตรัย แต่อยู่ใต้อำนาจของพญามาร
จงพิจารณาด้วยอุเบกขาในอุเบกขา เถิด
อกุศลจิตใดที่กระทบจากเรื่องนี้ เกิดที่จิตก็วางลงที่จิตเถิด
บุคคลผู้ไม่รู้จักคุณของสมเด็จพระพุทธองค์
ไม่ควรได้รับการยกย่องหรือบูชาเอาไว้ในพระพุทธศาสนา
เหนือนลูกที่ไม่รักพ่อแม่ ไม่รู้จักคุณข้าวแดงแกงร้อน ทั้งที่อยู่ที่กิน
มีปัจจัย ๔ ให้อาศัยอยู่ได้เพราะ สมเด็จพ่อทั้งนั้น
ช่างน่าสงสารจริง

 

อนุโมทนา ในแนวทางของ คุณแสนสวาทครับ
(เดาว่าต้องเคยศึกษาพระอภิธรรม)

ปัญญาเป็นแสงสว่าง
เพราะทำให้มองเห็นทุกสิ่งตามความเป็นจริง

 

ถ้ามันหนัก ก็วางมั่งก็ได้นะครับ

เจ้าของกระทู้

ไปศึกษาพระไตรปิฎกให้ครบแล้วก็มาแย้งในเนื้อหาดีกว่า

จะได้รู้ว่าอันไหนถูกอันไหนผิด