อานุภาพ คำภาวนาว่า "พุทโธ" ของข้าพเจ้า

ผมชอบทำสมาธิตั้งแต่เด็ก ผมภาวนาคำว่า "พุทโธ" โดยการอ่านจากหนังสือพระกรรมฐานที่มารดา นำมาจากวัดที่ไปทำบุญมา
เมื่อภาวนา "พุทโธ" ครั้งแรกจิตใจก็เงียบสงบดีครับ และต่อมา เมื่อภาวนา
"พุทโธ" ผมก็สามารถเห็น ภูต ผี ปีศาจ ได้ แต่ผมก็เลยเลิกภาวนาไปช่วงหนึ่งครับ และต่อมา เมื่อภาวนา "พุทโธ" อีก เป็นคำภาวนาที่พาผมไปยังดินแดนมหัศจรรย์ต่างๆที่กล่าวไว้ได้ทั้งหมด
ซึ่งคำภาวนาอย่างอื่นนั้น ผมก็เคยลองใช้เหมือนกันครับ เช่น
"นะมะพะทะ" เมื่อภาวนาร่างกายจะรู้สึกปั่นป่วนในระยะแรก และดูเหมือน
ธาตุไฟในร่างกายนั้นจะสูงขึ้น แสดงถึงการเหมาะสำหรับ
การแสดงฤทธิ์ทางใจต่างๆ เช่น วิชาตาทิพย์ อย่างนี้เป็นต้นครับ
ส่วนวิชชาธรรมกายที่ใช้คำภาวนาว่า "สัมมาอรหัง" นั้น ผมก็เคยลองปฏิบัติดูครับ รู้สึกว่า เมื่อได้ฌานแล้วจะเกิดองค์ปฐมมรรคลอยขึ้นมาแทนที่นิมิตที่ถูกกำหนดขึ้นนะครับ มันก็จะทำให้คนปฏิบัตินั้นติดอยู่ในนิมิตนั้นได้
ถ้าไม่มี ครูบา อาจารย์ แนะนำต่อไปครับ และก็จะแก้ไขยากเมื่อติดอยู่ครับ
ส่วนคำว่า "อามันโต อารักโข" ที่พวก ฤษี ชีไพร หรือคนที่ชอบฝึกอรูปฌานนั้นใช้ เมื่อภาวนาไปเรื่อยๆ คำภาวนานี้ ก็จะทำให้ กายวิญญาน หรือความู้สึกทางกายของผู้ภาวนานั้นหายไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็รู้สึกเงียบสงบ แต่จะใช้พระคาถาอาคมควบคู่ไปด้วยนั้นไม่ได้ เพราะองค์ประกอบไม่ครบครับ
สรุปแล้วในความรู้สึกของผม หรือจริตของผมนั้น ผมว่าภาวนา "พุทโธ"
นี่แหละครับดีที่สุด เมื่อตอนที่ผมไปยังดินแดนที่เรียกว่า โลกวิญญานนั้น
เมื่อพวกเขาจะมาทำร้าย แค่ภาวนา "พุทโธ" พวกเขาก็กลัวแล้วครับ แล้วเพื่อนๆสมาชิก มีความคิดเห็นอย่างไร เกี่ยวกับคำภาวนา "พุทโธ" ครับ

 

"พุทโธ" กว้างใหญ่ไม่มีประมาณ ใหญ่ครอบโลกธาตุอนันตจักรวาลทั้งหมด เป็นคำมงคล ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

 

ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆที่นำมาให้อ่านครับ

 

ประเด็นในส่วนเรื่องของคำภาวนา ผมขอกล่าวดังนี้ครับ...

โหมดท่องเที่ยวแบบเราจิตออกไปเองนะครับ..ไม่ใช่ภพภูมิเข้ามาเองในทุกกรณี.และไม่ใช่กรณีการขอบารมีสำหรับการฝึกความสามารถพิเศษบางอย่างนะครับ....
...ถ้าเปรียบการมองเห็นเหมือนเรามองหน้าจอสี่คอมพิวเตอร์ Laptop ที่เป็นสี่เหลี่ยมนะครับ....​

1.คำว่า พุทโธ
เหมือนมองผ่านจอแบนที่มุมทั้งสี่ด้านยังมืดอยู่ต้องสังเกตุดีๆนะครับจนคล้ายๆกับว่ามองผ่านวงกลม.หรือ ที่เรียกว่าตาแมว.และสภาพแวดล้อมการเห็นจะไม่เห็นรายละเอียดมากนักของบริเวนรอบๆของสิ่งที่เราเห็นนั้น.เหมือนๆเราไปแอบดูเค้า..และการที่จิตออกไปนั้นจะไปแบบเผลอหรือไม่รู้ตัว.แต่ว่าสามารถใช้สติควบคุมการออกไปได้ว่าจะไปหรือไม่ไป.และในส่วนการฝึกความสามารถพิเศษมุมมองที่เห็นก็เหมือนดังที่กล่าวข้างต้น..ประมาณนั้น...
2.ส่วนคำภาวนาว่า นะมะพะทะ และ สัมปะจิตฉามิ

ดีกว่าคำว่า พุธโธ ในเรื่องสภาพแวดล้อมการเห็นและมุมมองการเห็นที่กว้างขึ้นทั้งสองคำและแยกได้ค่อนข้างยากว่า ระหว่าง นะมะฯและ คำว่า สัมปะฯ คำไหนสภาพแวดล้อมบริเวนสิ่งที่เรากำลังมองดูในครั้งแรกอย่างไหนมีรายละเอียดชัดเจนมากกว่ากันเพราะว่าใกล้เคียงกันมาก..แต่คำว่า สัมปะฯ จะทำให้จิตรู้สึกเย็นและสบายกว่าคำว่านะมะฯ และคำว่าสัมปะฯถ้าเราชำเรืองดูสภาพแวดล้อมจะปรากฎให้เห็นเองไม่เหมือน พุทโธที่ต้องใช้วิธีอื่น.แต่ทั้งสองคำการออกไปเราจะรู้ว่าออกแต่จะบังคับและควบคุมไม่ให้ออกได้ยากลักษณะคล้ายๆคำภาวนาในหมวดที่ใช้ฝึกกสิณ.. เพราะถ้าไปควบคุมการออกจิตเค้าจะซ่อนและบดบังตัวเองซึ่งเราอาจหาไม่เค้าไม่เจอ.แต่ตัวสติจะรู้และคอยควบคุมได้และตามได้ในขณะที่ออกไปแล้วแต่เหมือนรู้.แต่ว่าสติจะไม่เด่นชัดเหมือนภาวนาพุทโธ.และการฝึกเรื่องของความสามารถพิเศษบางอย่างภายใต้บารมีเป็นไปได้และก็เหมาะสมกว่า.พุทโธ..​

3. โสตัสตะภิญญา

สภาพแวดล้อมการมองเห็นที่ชัดเจนดูแล้วเหมือนครบทุกรายละเอียดเปลี่ยนสลับเป็นฉาำกๆมีเพิ่มเติมรายละเอียดต่างๆเข้ามาจากต้นฉบับ.ไม่ได้เหมือนกับแค่มองผ่านจอแบนหรือผ่านตาแมวเสมือนว่าคล้ายกับว่ายื่นดูอยู่ในสถานที่นั้นๆ..การออกแบบไม่รู้ตัวหรือเผลอเหมือน คำว่าพุทโธ.ประมาณนี้..​

ส่วนคำภาวนาแบบอื่นๆไม่รู้ไม่เคยทำเพราะไม่ชอบ..
อนุโมทนาครับ

 

ขอบคุณที่นำมาเล่าให้ฟังค่ะ
สำหรับเราเอาแค่สงบ ก็พุท-โธ ดีกว่าค่ะ
ถูกจริตที่สุด อธิษฐานด้วย
นิมิตไม่เอา ฤทธิ์ไม่เอา
ขอดวงตาเห็นธรรมอย่างเดียว
นะมะพะทะเคยค่ะ แต่ไม่ชอบ
ชอบพุทโธมากกว่าเย็นๆ สบาย สบาย
ขออนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุค่ะ^/\^

 

อนุโมทนาในธรรมทานนะคะ ดิฉันเองก็ติดคำภาวนาพุทโธ และชอบ(ถนัด)มากกว่าคำภาวนาแบบอื่นๆ

 

ช่วยดูให้หน่อยว่าพ่อผมไปเกิดที่ไหนครับ

 

พุทโธ ครอบจักรวาล คำเดียวพอ

 

ภาวนา พุทโธ เหมือนกันค่ะ เพราะว่าไม่มีคำไหนประเสริฐที่สุดเท่าพุทโธอีกแล้ว สำหรับตนเอง ท่านคุรุวาโร เมตตาแนะนำให้เจนเดินจงกลม ตามแนวทาวอีกแบบหนึ่งนั้น ใจไม่ไปค่ะท่าน เลยไม่ได้ไปศึกษาว่าคำบริกรรมนั้นใช้ว่าอย่างไร เลยตัดสินใจว่า จะใช้พุทโธเท่านั้น ถึงแม้ว่าการปฎิบัติจะไม่ก้าวหน้าเท่าไหร่ก็ตาม แต่จะขอยึดมั่นคำบริกรรม " พุทโธ " ไปจนกระทั่งสิ้นลม

 

" "พุทโธ"ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย คำว่า"พุทโธ"เพียงคำเดียวเท่านั้น คือพลังแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลายรวมอยู่กับคำว่า"พุทโธ"นี้ทั้งนั้น "

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

 

เห็นจริงเหรอป่าวดวงอะไรต่อดวงอะไรน่ะ เห็นเอาหรือนึกเอา

 

คุณเข้าใจไปเองมั้งครับ การที่ไม่ชอบภาวนาคำอื่นมันเป็นเรื่องของจริตตัวเองนะครับ อย่าเอามาเผยดีกว่าครับ

 

ผมเคยลองใช้มาหมดแล้ว แต่พอภาวนาไปเรื่อยๆ ก็จะกลับมา พุทโธ เหมือนเดิม
ผมเลยไม่เอาคำอื่นแล้ว จะเอา พุทโธ นี้ล่ะให้จิตมันเกาะ มันอาศัย พุทโธๆๆๆๆๆๆ

 

โมทนาครับ ออกจากโลกทิพย์ให้ได้ในเร็ววันนะครับ จะได้ขึ้นอรูปฌาน2ต่อไป

 

ไปเที่ยวสนุกไหมครับ...ไม่เบื่อบ้างหรือครับ

 

สวรรค์นั้นสนุกครับ แต่ดินแดนอื่นนั้น น่าพิศวงครับ อรูปฌานสองนั้นต้องเป็นพระถึงจะขึ้นนะครับ
ขอให้เจริญในธรรม

 

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา เมื่อขบวนรถของพระองค์ท่านเสด็จผ่าน กระผมก็ตั้งจิตว่าขอภาวนาว่า พุทโธ ตลอดไปเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน กระผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อรักษาสัจจะนี้ไว้ ผมเชื่อว่าเมื่อเรารักษาพุทโธไว้ในใจ พุทโธย่อมรักษาเราเหมือนกัน พุทโธ... พุทโธ... พุทโธ...สาธุ

 

หลวงตามหาบัวสอนว่าให้ท่องพุทโธ..พุทโธ..พุทโธ..ครับ

 

ทุกวันนี้ เข้าุพุทธ ออกโธ..ยกเว้นช่วงที่จิตเป็นทิพย์ครับ..หรือกรณีที่จิตไม่สงบโดยไม่ทราบสาเหตุใช้ระลึกสัมผัสลมหายใจแทน..

 

อุปาทาน ปรุงแต่ง ไม่มีไรดีกว่ากันหรอกคับ แล้วแต่ชอบแบบไหนก้อภาวนากันไป สุดท้าย
เข้าฌาณก้อไม่ได้เอาคำภาวนาไปด้วย ไม่ต้องพูดถึงนิพพานเลย