ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

mead · 28 กรกฎาคม 2011

พี่นักเขียนฯ ส่งรูปถ่ายมาฝากครับ
บอกว่าวันนี้ ที่เมือง Lawrence ร้อนจัดถึง 113F (45C)
เป็น Hotdog ของจริงเลยครับ...

ว่าจะค้นหาเนื้อหาที่เกี่ยวกับสัตว์บางชนิดที่สัมพันธ์กับมนุษย์มาแปล
จำพวก ปลาวาฬ โลมา และสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัข และแมว
ที่มีอะไรน่ารู้อยู่เบื้องหลังหรือการเลื่อนระดับของสัตว์เหล่านี้ มาฝาก
ตอนนี้เจออยู่เรื่องนึงของท่านเมตาทรอน หวังว่าไม่จ๊ะกับคุณชยุตอีก อิอิ

Senju · 28 กรกฎาคม 2011

mead said: ↑

พี่นักเขียนฯ ส่งรูปถ่ายมาฝากครับ
บอกว่าวันนี้ ที่เมือง Lawrence ร้อนจัดถึง 113F (45C)
เป็น Hotdog ของจริงเลยครับ...

ว่าจะค้นหาเนื้อหาที่เกี่ยวกับสัตว์บางชนิดที่สัมพันธ์กับมนุษย์มาแปล
จำพวก ปลาวาฬ โลมา และสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัข และแมว
ที่มีอะไรน่ารู้อยู่เบื้องหลังหรือการเลื่อนระดับของสัตว์เหล่านี้ มาฝาก
ตอนนี้เจออยู่เรื่องนึงของท่านเมตาทรอน หวังว่าไม่จ๊ะกับคุณชยุตอีก อิอิ

Click to expand...

ขอบคุณมากน่ะครับที่นำรูปมาให้ดู นอนแช่น้ำแข็งกันเลยทีเดียว ว่างๆก็มาแปลให้หน่อยน่ะครับน่าติดตามมากเลยครับ

LadyOfLight · 28 กรกฎาคม 2011

พี่ mead พูดเรื่องสัตว์เลี้ยง แล้วสนใจเหมือนกันนะคะ จะรออ่านนะ *-*

เพราะแมวที่บ้าน พวกมันก็ช่างรู้ดีกันซะเหลือเกิน

เช่นเวลาไหนเราอารมณ์บ่จอย เรายังไม่ทันส่งเสียงหรือแสดงอากัปกิริยาอะไรเลย

พอเราเดินออกมาจากห้อง มันก็เตรียมหลบเตรียมหลีกกันสุดริด -..-

(สงสัยรังสีอำมหิตของเราจะแผ่ซ่าน ในช่วงเวลานั้น 5555+)

แต่หลายครั้งๆที่เราแว้ดๆแหวๆใส่พวกมัน แต่ไม่ได้โกรธจริงๆหรือหงุดหงิดเล็กน้อยๆ

มันจะรี่เข้ามาหา ไม่กลัวอะไร ทั้งๆที่แวดเสียงดัง แถมทำท่าทางว่าจะตีมันอีกตะหาก *-*

คิดว่า ถ้าเราสังเกตอาการของพวกมันดีๆ เราก็จะรู้ตัวเองได้ด้วยว่า

เรากำลังมีพลังงานลักษณะไหนอยู่

light In june · 28 กรกฎาคม 2011

mead said: ↑

สตีฟ: และถ้าหากสิ่งที่ว่าไม่ได้เกิดขึ้นใน [วันที่] นี้ แล้วอะไรล่ะ?
ท่านคงจำได้ว่าเมื่อพวกเขาไม่ได้ทำให้มันเกิดขึ้นจริงๆในเดือนตุลาคม 2008
หรือในพฤศจิกายน --ธันวาคม. 2009 จากนั้น เราต้องรอกันอีกนานมากเลย
มันจะเป็นเหมือนกรณีที่ผ่านมาหรือไม่ครับ ?

มหาเทพไมเคิล: ไม่หรอก

สตีฟ: เอ่อ ถ้าเช่นนั้น, ถ้ามันไม่ได้เกิดขึ้นใน [วันที่]
มันจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ หรือหลังจากที่ว่านี้ ว่าถูกต้องหรือไม่ครับ?

มหาเทพไมเคิล: มันจะเกิดขึ้นก่อนสิ้นปี โดยไม่ต้องคำนึงถึง

สตีฟ: ดีครับท่าน ผมไม่แน่ใจว่าคนจำนวนมากจะได้รับการปลอบโยน
ด้วยความคิดจากการรออีกหกเดือน เห็นจะยาก .. นะครับ

มหาเทพไมเคิล: มันเป็นไปได้อย่างมากไม่น่าที่จะเป็นหกเดือน

สตีฟ : จริงหรือครับ?

Click to expand...

น่าสนใจมากค่ะ ติดตามอ่านมาพักนึงแล้ว
คือไม่เข้าใจนิดนึงคะว่า ถ้าหากพวกเขา มนุษย์ต่างมิติเขามีวิธีย้อนกลับสู่อดีตได้
แต่ทำไมเขาถึงไม่รายงานผลกลับไปในอดีต-อนาคตตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงล่ะคะ
เช่น หากรู้ อดีต-อนาคต ว่าจะต้องเปิดเผยตัว หรือจะทำอะไรในช่วงเวลาไหน จะเหมาะสมที่สุด...
ก็ย้อนกลับไปแจ้งผลในก่อนหรือหลังสักสองสามเดือนอะไรแบบนี้น่ะคะ...เค้าทำได้มั๊ยคะ?
ใครก็ได้ ช่วยตอบหน่อยค่ะ

mead · 28 กรกฎาคม 2011

LadyOfLight said: ↑

พี่ mead พูดเรื่องสัตว์เลี้ยง แล้วสนใจเหมือนกันนะคะ จะรออ่านนะ *-*

เพราะแมวที่บ้าน พวกมันก็ช่างรู้ดีกันซะเหลือเกิน

เช่นเวลาไหนเราอารมณ์บ่จอย เรายังไม่ทันส่งเสียงหรือแสดงอากัปกิริยาอะไรเลย

พอเราเดินออกมาจากห้อง มันก็เตรียมหลบเตรียมหลีกกันสุดริด -..-

(สงสัยรังสีอำมหิตของเราจะแผ่ซ่าน ในช่วงเวลานั้น 5555+)

แต่หลายครั้งๆที่เราแว้ดๆแหวๆใส่พวกมัน แต่ไม่ได้โกรธจริงๆหรือหงุดหงิดเล็กน้อยๆ

มันจะรี่เข้ามาหา ไม่กลัวอะไร ทั้งๆที่แวดเสียงดัง แถมทำท่าทางว่าจะตีมันอีกตะหาก *-*

คิดว่า ถ้าเราสังเกตอาการของพวกมันดีๆ เราก็จะรู้ตัวเองได้ด้วยว่า

เรากำลังมีพลังงานลักษณะไหนอยู่
Click to expand...

เลี้ยงแมวเหมียวไว้ด้วยเหรอครับ น้องโซ่ น่ารักดี
สัตว์เลี้ยงเหล่านี้เค้าก็มีรายละเอียดบางอย่างที่สะท้อนตัวเจ้าของด้วยนะครับ
เท่าที่มีข้อมูลอยู่น่ะ เค้าบอกว่าสุนัขคือสหายและผู้คุ้มครอง
แม้จะอายุสั้น (ไม่ถึง 15 ปี อย่างเก่งก็ 20 ปี)
แค่เค้ามีสิทธิ์เลือกสถานที่เกิดได้ด้วย เพื่อมาอยู่กับเจ้าของที่เค้าต้องการ
เค้าเลือกมาเลยล่ะ...ว่าจะต้องมาอยู่กับใครบ้าง?
ส่วนแมวนี่จะออกแนวลึกลับหน่อย บางแห่งให้ความเคารพบูชา
เค้าเกี่ยวข้องกับ มิติที่ 4 มีหน้าที่ดูแลป้องกันพลังงานเชิงลบด้วย

แต่ทั้งหมดนี้ เป็นไปบนพื้นฐานของความรัก
การเอาใจใส่ ดูแลกัน เพื่อเติมเต็มให้กันทางด้านพลังงานด้วยน่ะครับ
การที่เราสังเกตปฎิกริยาต่างๆจากสัตว์เลี้ยง ก็ทำให้มองเห็นตัวตนของเราได้ชัดขึ้นด้วยนะครับ อิอิ

ส่วนคำถามของน้อง light 2 นี่
ขอให้เกียรติคุณชยุตหรือเพื่อนๆมาตอบก่อนแล้วกันนะครับ

Chayutt · 28 กรกฎาคม 2011

light In june said: ↑

น่าสนใจมากค่ะ ติดตามอ่านมาพักนึงแล้ว
คือไม่เข้าใจนิดนึงคะว่า ถ้าหากพวกเขา มนุษย์ต่างมิติเขามีวิธีย้อนกลับสู่อดีตได้
แต่ทำไมเขาถึงไม่รายงานผลกลับไปในอดีต-อนาคตตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงล่ะคะ
เช่น หากรู้ อดีต-อนาคต ว่าจะต้องเปิดเผยตัว หรือจะทำอะไรในช่วงเวลาไหน จะเหมาะสมที่สุด...
ก็ย้อนกลับไปแจ้งผลในก่อนหรือหลังสักสองสามเดือนอะไรแบบนี้น่ะคะ...เค้าทำได้มั๊ยคะ?
ใครก็ได้ ช่วยตอบหน่อยค่ะ
Click to expand...

โอ..คำถามในลักษณะนี้ พวกเราเคยตอบกันไปหลายครั้งแล้วหละครับ
ตอบแบบยาวเหยียดเลยก็มี..

เอางี้นะครับ เพื่อเป็นการไม่ต้องตอบซ้ำอีก ผมจะขออนุญาต
แปะลิงค์ให้ตามไปอ่านนะครับ..

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ลก-มันจะไม่เป็นจริงอีกต่อไปแล้ว.294735/page-5

................................................................................

ตัวอย่างบางตอนข้อเนื้อหาครับ...

...ตอนนี้เรามาถึงเรื่องกาลเวลาบ้าง ต่างมิติเขาบอกตรงกันหมดทั้ง 100% ว่า ในมิติที่สูงกว่า
หรือในระดับปรมัตถ์ที่ไร้กาลเวลาแล้ว มันไม่มีหรอกนะกาลเวลาหนะ
พวกเขาจะมองเห็นเราพร้อมๆกันหมด ทุกภพ ทุกชาติ ทุกกาลเวลาของชีวิตเราเลยทีเดียว
พวกเขาพูดเป็นเสียงเดียวกันหมดว่า

"อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต มันมีอยู่ และเป็นอยู่ พร้อมกันหมด ในเวลาเดียวกัน ที่นี่ และเดี๋ยวนี้"

เพราะฉะนั้น "ปัจจุบันขณะ" คือ คีย์เวิร์ด คือกุญแจสำคัญ และคือจุดตัดของทุกๆกาลเวลา
คือจุดหมุน คือจุดเปลี่ยนของทุกๆกาลเวลา

พออ่านมาถึงตรงนี้ มีใคร get เรื่องการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 บ้างหรือยัง ว่าทำไมต้องให้
"กำหนดสติรู้ ให้อยู่ในปัจจุบันขณะ" เพราะปัจจุบันขณะ คือจุดที่มีอำนาจมากที่สุดของเรา

และประเด็นสำคัญอีกอย่างก็คือ ทุกครั้งที่เราทำอะไรไปก็ตาม ในปัจจุบันขณะนี้
มันก็จะไปส่งผลกระทบกับทั้งอดีต และ อนาคต พร้อมกันไปด้วยเสมอ แบบ real-time
มีใครไม่เข้าใจคำว่าแบบ real-time ไหมครับ?

จะยกตัวอย่างอะไรดีหละ ผมก็นึกไม่ออกเหมือนกัน แต่ประมาณว่า สมมุติว่า
ในอดีต เราเคยทำสิ่งนี้ และเคยรู้จักคนๆนี้ และในอนาคต ผลของการกระทำนั้น
มันก้จะมีแนวโน้มว่าจะให้ผลไปแบบนี้ๆด้วย แต่ปัจจุบัน ถ้าเราเปลี่ยนวิถีชีวิตไป
ถ้าเราเปลี่ยนพฤติกรรมไป ไม่ทำเหมือนที่เคยทำแล้ว เส้นทางในอนาคต
ของเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเป็นไป มันก็จะเปลี่ยนไปด้วย และรวมถึงเหตุการณ์ในอดีต
มันก็จะถูกเปลี่ยนไปด้วยพร้อมๆกัน แบบ real-time และสิ่งที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
และผู้คนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก็จะถูก update ข้อมูลใหม่นั้นไปด้วยพร้อมๆกันนั้นด้วย
แบบ real-time เพราะฉะนั้น สมมุติว่าเราเคยรู้จักคนๆนั้น แต่พอเราเปลี่ยนปัจจุบันแล้ว
เราก็จะไม่รู้จักคนๆนั้นอีกต่อไป และทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับคนๆนั้น ก็จะสาบสูญไป
และทุกๆคนก็จะถูก update ข้อมูลลงไปใหม่ว่า เราไม่เคยรู้จักคนๆมาก่อนเลย
โดยที่จะไม่มีใครเลย รวมทั้งตัวเราเองด้วย ที่จะสังเกตได้ว่า มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
เพราะมันเป็นอัตโนมัติ มันเหมือนเป็นแค่ เรื่องเกี่ยวกับพลังงานและการรับรู้เท่านั้นเอง
เพราะมันไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร นอกเหนือจากพลังงานล้วนๆ

นี่คือความหมายของการเปลี่ยนแปลงอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ตามนัยยะของต่างมิติครับ
ชัดเจน ตรงตัว ตามที่ผมโพสต์ไปแล้วนั่นแหละครับ ไม่มีอะไรน่างง...

Chayutt · 28 กรกฎาคม 2011

ตรงนี้แถมให้นะครับ เป็นข้อความจากครายออน ที่คุณ kindred แปลไว้
และผมก็กำลังเกลา และ เตรียมที่จะโพสต์ให้อ่านอยู่ครับ

แต่ขอคัดลอกมาเพียงบางส่วนให้อ่านก่อน เกี่ยวกับเรื่องนี้แหละครับ

.....................................................................

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
เรื่อง: ภาวนา และ สมาธิ (Prayer and Meditation)

วันที่: 20 มีนาคม 2004
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
สถานที่: Reno, Nevada

ผู้แปล: คุณ kindred

ที่มา:
KRYON - Prayer & Meditation

... ดังนั้น, ฉันขอถามว่า: อะไรจริงและอะไรไม่จริง? ฉันเคยบอกพวกคุณมาหลายครั้งแล้วว่า

อนาคตไม่ได้ถูกกำหนดไว้ก่อนล่วงหน้า
แต่ความเป็นไปได้อันหลากหลายนั้น มีอยู่จริงแท้แน่นอน

ซึ่งในขณะที่กำลังมีการประชุมที่ Reno อยู่นี้ ผู้อ่านทั้งหลายที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่
ก็กำลังถูกมองเห็น ในฐานะที่เป็นศักยภาพแห่งความเป็นไปได้

พวกคุณแต่ละคน กำลังแต่งแต้มพลังงานลงไป
ในภาพวาดแห่งพลังงานอันมหัศจรรย์อยู่
ซึ่งพลังงานในปัจจุบันขณะนั้นๆ จะช่วยให้พวกคุณ และจักรวาล
สามารถพยากรณ์ถึงสิ่งที่พวกคุณอาจจะทำในอนาคตได้

สิ่งนี้ไม่ใช่การกำหนดไว้ล่วงหน้า แต่เป็นการวัดค่า
จากศักยภาพแห่งความเป็นไปได้มากกว่า

อย่างที่พวกเราเคยกล่าวถึงไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า ถ้าพวกคุณได้ยินเสียงเพลงจากเครื่องเล่นเสียงสมัยใหม่ของตัวเอง
แล้วพวกคุณก็พยากรณ์ว่าเดี๋ยวเพลงมันก็จะจบ นั่นทำให้พวกคุณกลายเป็นหมอดูหรือเปล่า?

เปล่าเลย ทั้งหมดที่พวกคุณทำก็คือ แค่ระบุว่า สิ่งนั้นๆ มันจะทำในสิ่งที่มันถูกออกแบบมาให้ทำ...
เว้นเสียแต่ว่ามันจะเปลี่ยนไปได้ด้วยตัวมันเองเท่านั้น

ความแตกต่างระหว่างเครื่องเสียงกับพวกคุณก็คือ ตอนนี้มีพวกคุณหลายคนที่เข้าใจแล้วว่า
พวกคุณสามารถเปลี่ยนเพลงนั้น เมื่อไหร่ก็ได้ที่พวกคุณต้องการ...

............................................................................[FONT=&quot]
[/FONT]

mead · 28 กรกฎาคม 2011

light In june said: ↑

น่าสนใจมากค่ะ ติดตามอ่านมาพักนึงแล้ว
คือไม่เข้าใจนิดนึงคะว่า ถ้าหากพวกเขา มนุษย์ต่างมิติเขามีวิธีย้อนกลับสู่อดีตได้
แต่ทำไมเขาถึงไม่รายงานผลกลับไปในอดีต-อนาคตตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงล่ะคะ
เช่น หากรู้ อดีต-อนาคต ว่าจะต้องเปิดเผยตัว หรือจะทำอะไรในช่วงเวลาไหน จะเหมาะสมที่สุด...
ก็ย้อนกลับไปแจ้งผลในก่อนหรือหลังสักสองสามเดือนอะไรแบบนี้น่ะคะ...เค้าทำได้มั๊ยคะ?
ใครก็ได้ ช่วยตอบหน่อยค่ะ
Click to expand...

เรื่องนี้มันซับซ้อนหน่อยครับคุณ lights (no. 2)

ขอเสริมอีกนิดเพื่อจะช่วยให้นึกภาพออกน่ะครับ
ถึงว่า แม้ อดีต -อนาคต มีอยู่ เป็นอยู่ และดำเนินไปอย่างเป็น"ปัจจุบัน"ก็ตาม
แต่ก็ไม่มีอะไรที่ถูก "แช่แข็ง" เอาไว้เช่นนั้นตลอดไปครับ
พลังงานในจักรวาลมันยังไหลเข้าออกไม่เคยหยุดนิ่ง
มันเคลื่อนที่ไปบนเส้นทางของมัน มีวงโคจรที่แน่นอน แถมยังมีการจัดการที่ดีด้วย

ในโลกสามมิติเองก็มีข้อจำกัดบางอย่าง
และมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่มีอิทธิพลต่ออดีตและอนาคตด้วย
ถ้าพลังงานยังไม่ถึงจุดสูงสุดของมัน มันก็จะแสดงตัวออกมาไม่ได้
รายละเอียดยังคงเปลี่ยนแปลงได้เสมอ แต่จะไม่หนีจากแผนหลักน่ะครับ
มองให้เข้าใจง่ายหน่อยก็คือ เหตุการณ์ทั้งหลายมันก็ยังคงเป็น
"รูปแบบหรือแผนการ" บนเวลาที่เป็นภาพลวงตานี้ก็ได้ครับ

เราจะเห็นว่าชาวมายัน ที่เค้ารู้จักธรรมชาติและวัฐจักรของเวลา
พร้อมกับทราบถึงแผนเหล่านี้ จึงระบุวันเวลาปริศนา (21-12-12) เอาไว้ล่วงหน้า
ที่ท้าทายความสามารถของคนรุ่นนี้ ให้ต้องนั่งขบคิดเอาไว้ไงครับ

mead · 28 กรกฎาคม 2011

Chayutt said: ↑

ตรงนี้แถมให้นะครับ เป็นข้อความจากครายออน ที่คุณ kindred แปลไว้
และผมก็กำลังเกลา และ เตรียมที่จะโพสต์ให้อ่านอยู่ครับ

แต่ขอคัดลอกมาเพียงบางส่วนให้อ่านก่อน เกี่ยวกับเรื่องนี้แหละครับ

.....................................................................

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
เรื่อง: ภาวนา และ สมาธิ (Prayer and Meditation)

วันที่: 20 มีนาคม 2004
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Lee Carroll
สถานที่: Reno, Nevada

ผู้แปล: คุณ kindred

ที่มา:
KRYON - Prayer & Meditation

... ดังนั้น, ฉันขอถามว่า: อะไรจริงและอะไรไม่จริง? ฉันเคยบอกพวกคุณมาหลายครั้งแล้วว่า

อนาคตไม่ได้ถูกกำหนดไว้ก่อนล่วงหน้า
แต่ความเป็นไปได้อันหลากหลายนั้น มีอยู่จริงแท้แน่นอน

ซึ่งในขณะที่กำลังมีการประชุมที่ Reno อยู่นี้ ผู้อ่านทั้งหลายที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่
ก็กำลังถูกมองเห็น ในฐานะที่เป็นศักยภาพแห่งความเป็นไปได้

พวกคุณแต่ละคน กำลังแต่งแต้มพลังงานลงไป
ในภาพวาดแห่งพลังงานอันมหัศจรรย์อยู่
ซึ่งพลังงานในปัจจุบันขณะนั้นๆ จะช่วยให้พวกคุณ และจักรวาล
สามารถพยากรณ์ถึงสิ่งที่พวกคุณอาจจะทำในอนาคตได้

สิ่งนี้ไม่ใช่การกำหนดไว้ล่วงหน้า แต่เป็นการวัดค่า
จากศักยภาพแห่งความเป็นไปได้มากกว่า

อย่างที่พวกเราเคยกล่าวถึงไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า ถ้าพวกคุณได้ยินเสียงเพลงจากเครื่องเล่นเสียงสมัยใหม่ของตัวเอง
แล้วพวกคุณก็พยากรณ์ว่าเดี๋ยวเพลงมันก็จะจบ นั่นทำให้พวกคุณกลายเป็นหมอดูหรือเปล่า?

เปล่าเลย ทั้งหมดที่พวกคุณทำก็คือ แค่ระบุว่า สิ่งนั้นๆ มันจะทำในสิ่งที่มันถูกออกแบบมาให้ทำ...
เว้นเสียแต่ว่ามันจะเปลี่ยนไปได้ด้วยตัวมันเองเท่านั้น

ความแตกต่างระหว่างเครื่องเสียงกับพวกคุณก็คือ ตอนนี้มีพวกคุณหลายคนที่เข้าใจแล้วว่า
พวกคุณสามารถเปลี่ยนเพลงนั้น เมื่อไหร่ก็ได้ที่พวกคุณต้องการ...

............................................................................
Click to expand...

คำตอบจาก cryon ชุดนี้ก็แจ่มชัดมากครับ น่าอ่านอีกแล้ว

ผ่านมาจริงๆ · 29 กรกฎาคม 2011

mead said: ↑

คุณไม่สามารถเดินเข้าไปในโลกใหม่แห่งความรัก ...
หากคุณไม่บริสุทธิ์อย่างหมดจดในความรัก
คุณจะทำอย่างไร ที่จะดำรงอยู่ในความรักอันบริสุทธิ์ของคุณได้ล่ะ
หากคุณไม่อนุญาตตัวคุณเอง กลายเป็น "ความรัก
แต่ละท่านล้วนมีทางเลือกอิสระ ที่ซึ่งคุณสามารถเลือกที่จะคิด

เพื่อให้มันกลายเป็นวิถีชีวิตของคุณเอง จริงหรือไม่ล่ะ?
Click to expand...

อย่างไร ??
บริสุทธิ์อย่างหมดจดในความรัก ?

ทำอย่างไร ที่จะดำรงอยู่ในความรักอันบริสุทธิ์ ?

ตัวคุณเอง กลายเป็น "ความรัก ?

ช่วยนำทางไปให้ได้ใกล้ชิดกับความหมายนี้ด้วยนะ..

จาก..คนไปไม่ถูก

Chayutt · 29 กรกฎาคม 2011

ฐนา said: ↑

อย่างไร ??
บริสุทธิ์อย่างหมดจดในความรัก ?

ทำอย่างไร ที่จะดำรงอยู่ในความรักอันบริสุทธิ์ ?

ตัวคุณเอง กลายเป็น "ความรัก ?

ช่วยนำทางไปให้ได้ใกล้ชิดกับความหมายนี้ด้วยนะ..

จาก..คนไปไม่ถูก
Click to expand...

ลองเข้าไปอ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ตามลิงค์นี้นะครับ

http://palungjit.org/threads/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3.292054/

...................................................

เพราะฉะนั้น นี่คือเหตุผลว่าทำไมพวกเราจึงจะพูดกับคุณต่อ
เรื่อง “ความรัก” เพราะว่ามันต้องพึ่งพา “ความรัก” เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
สถานที่แบบนั้น มันจึงจะปรากฎขึ้นมาให้พวกคุณเห็นได้

เพราะว่าพวกคุณไม่สามารถที่จะเดินเข้าไปใน “โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยความรัก” ได้
ถ้าพวกคุณไม่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอันบริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน

พวกคุณจะสามารถเข้าไปอาศัยอยู่ในสิ่งที่
พวกคุณสร้างสรรมันขึ้นมาด้วยความรักล้วนๆได้อย่างไร
ถ้าพวกคุณไม่ยินยอมให้ตัวเองกลายเป็นความรักซะก่อน

พวกคุณแต่ละคนมีอิสระในการเลือกเป็นของตนเอง เพราะฉะนั้น วิถีทางที่พวกคุณ “เลือกที่จะคิด”
ก็จะกลายมาเป็น “วิถีทางแห่งการดำรงชีวิต”ของพวกคุณเอง ใช่หรือไม่?

.............................................................

สรุปสั้นๆตามข้อความที่คัดลอกมาข้างบนนี้ก็คือ:

โลกยุคพลังงานใหม่ จะเต็มไปด้วยความรัก-ความเมตตา ซึ่งความรักแบบปราศจากเงื่อนไข
ก็คือพลังงานที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูงที่สุด และมีพลังอำนาจมากที่สุดในจักรวาล
ดังนั้น เมื่อสภาวะรอบๆตัวเราทั้งหมด มันกำลังสั่นสะเทือนอยู่ ด้วยระดับพลังงานสูงๆแบบนั้น
ถ้าพวกเราไม่ทำให้ตัวเอง (ร่างกายทุกกาย และ จิตใจ อารมณ์ ความคิด)
มีระดับความสั่นสะเทือนที่สอดคล้อง และเข้ากันได้กับระดับพลังงานระดับนั้นแล้ว พวกเราจะมีชีวิตรอดได้อย่างไร?
เพราะอย่างน้อย ตามที่แมทธิวเคยบอกไว้ ก็คือ ร่างกายเนื้อของพวกเรา จะทนทานความถี่ระดับนั้นไม่ไหว
จนต้องตายไปเอง

เพราะฉะนั้น สิ่งที่พวกเราต้องทำก็คือ ยกระดับความสั่นสะเทือนของร่างกายทุกกาย
จิตใจ อารมณ์ และความคิดของตัวเอง ให้มีระดับความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้นๆ จนสอดคล้องกับโลกใหม่ที่ว่านั้น

ระดับความสั่นสะเทือนที่สุงขึ้นของกาย คืออะไร? ก็คือการมีสุขภาพแข็งแรง
เซลทุกเซลในร่างกาย สามารถดูดซับแสงสว่างได้มากขึ้น ปราศจากพลังงานลบอุดตันอยู่
และในท้ายที่สุดก็คือ เปลี่ยนโครงสร้างเซลจาก carbon base ไปเป็น crystalline base
(เหมือนกระดูกของพระอริยเจ้าทั้งหลายที่กลายเป็นพระธาตุใสๆนั่นหรือเปล่านะ ไม่แน่ใจ)

ส่วนอารมณ์ ความคิด และจิตใจ อันนี้ไม่น่าจะมีข้อสงสัยใช่ไหมครับ ว่าควรทำอย่างไร
ก็โดยการคิดบวก รวมถึง การวางอารมณ์ หรือทรงอารมณ์ ให้อยู่ในคุณงามความดี
และมีแต่ความรัก-ความเมตตา อย่างเป็นธรรมชาติ และเป็นปกติวิสัยหนะสิครับ

อันนี้ เรายังไม่พูดถึง "วิธีการ" หรือ "เครื่องมือ" ที่จะพาไปให้ถึงเป้าหมายเหล่านี้หนะนะครับ
เพราะว่ามีสอนกันอยู่แล้ว ทุกที่ ทั่วโลก นั่นก็คือ "สมาธิ และ ภาวนา" และอื่นๆอีกมากมายครับ

..................................................................

mead · 29 กรกฎาคม 2011

ฐนา said: ↑

อย่างไร ??
บริสุทธิ์อย่างหมดจดในความรัก ?

ทำอย่างไร ที่จะดำรงอยู่ในความรักอันบริสุทธิ์ ?

ตัวคุณเอง กลายเป็น "ความรัก ?

ช่วยนำทางไปให้ได้ใกล้ชิดกับความหมายนี้ด้วยนะ..

จาก..คนไปไม่ถูก
Click to expand...

มาแชร์อีกหน่อยนะครับ

ข้อความนี้เขาพูดถึง"ที่สุดของความรัก"น่ะครับ
ความไร้เงื่อนไข ความบริสุทธิ์แท้จริง ความอดทน อดกลั้น ให้อภัย
ซึ่งในโลกทุกวันนี้อาจแทบไม่มีให้เห็นเท่าไหร่
แต่มันก็เป็นสิ่งที่ดำรงอยู่ในความคิดของเราทุกคนอยู่แล้ว

ส่วนพลังงานที่เป็นอันตรายมากๆ พวกความโกรธ ความโลภ ความหลง
ที่เราเห็นกันจนชินเหล่านี้ไม่ได้รับอนุญาติให้ผ่านเข้าไปสู่โลกใหม่...
หากเราไม่ได้กลายเป็นความรักที่บริสุทธ์ซะเองนะครับ
แน่นอนอยู่แล้วว่ามีการคัดกรอง คัดแยก ซึ่งจะทำหลอกๆกันก็คงไม่ได้ครับ

มีเทคนิคง่ายๆที่ทำได้ทันทีเลย
ให้ลองหลับตาผ่อนคลาย ทำตัวให้รู้สึกเหมือนเด็กๆดูครับ
เด็กๆที่มีความรู้สึกรักพ่อรักแม่ ปล่อยพรั่งพรูออกมา
เพราะมันคือรักที่ไม่มีเงื่อนไขแท้จริง รู้สึกถึงมันให้ได้ และนำมันออกมาครับ
เด็กเล็กๆ เค้ามีความอ่อนโยน บริสุทธิ์ เคารพและเชื่อฟัง..
หรืออย่าง สัตว์เลี้ยงเขาก็รักเราอย่างบริสุทธืแท้จริง
เราก็ควรดูแลโอบกอดเค้าให้ได้อย่างที่เค้ารู้สึกกับเราด้วยนะครับ

มีคำจำกัดความของเรื่องนี้..มาฝากอีกหน่อยครับ

"ความรัก" คือความจริง คือสิ่งสร้างสรรค์ คือความมีชีวิตชีวาเบิกบาน และการขยายตัวฯ
ส่วนอีกด้านหนึ่ง "ความกลัว" คือ การวิ่งหนีความจริง ความหวาดระแวง ความทุกข์ การหดตัว ฯ

เราทุกคนอาจเหมือนลูกตุ้มที่แก่วงไปมาอยู่ระหว่างสองขั้วนี้ครับ ขึ้นๆลงๆได้ตลอดเวลา
หากเรา เลื่อนปุ่มปรับไปทางความรักมากหน่อย และคงสภาวะนั้นเอาไว้ให้นานๆ
เราก็จะมีความสุข เบิกบาน ยิ้มหัวเราะได้ แม้ต้องเจอกับพายุโหมกระหน่ำ

สำหรับผู้ที่เลือกอาศัยอยู่ในความรัก ...
เขาจะเห็นภาพของความงามของโลก
โลกที่มีความสงบสุข...โลกที่มีความเคารพรัก การตระหนักถึงผู้อื่น ฯ

หากตกอยู่ในความหวาดกลัว...
มันจะเจอแต่เรื่องหรือประสบกับการสูญเสีย ของหาย ขโมยขึ้นบ้าน
หากจินตนาการสารพัดเกี่ยวกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นบ่อยๆ
มองเห็นภาพในโลกเกี่ยวกับการทำลายล้าง ก็จะประสบเหตุซะเอง

และหากเราต้องเลือกคำสั่งสุดท้าย ระหว่าง "ความรัก" กับ "ความกลัว" เราจะเลือกอะไร?

(เหมือนเหรียญมีสองด้านน่ะครับ)

light In june · 29 กรกฎาคม 2011

ขอบคุณพี่ๆสำหรับคำตอบค่ะ พอเข้าใจเรื่องความจริงของเวลาขึ้นเยอะเลยค่า
หลายอย่างมันไม่ได้คงที่ เหมือนที่เคยเข้าใจ รู้สึกถึงการขยายตัวของความรู้ที่ไม่สิ้งสุดได้เลยค่ะ
ยังไงจะติดตามอ่านและเป็นกำลังใจให้นะค่ะ
ไว้สงสัยอะไรเข้ามาถามใหม่ ขอบคุณมากกกกกกกกกค่ะ

ผ่านมาจริงๆ · 29 กรกฎาคม 2011

ขอบคุณทั้งหมดทั้งมวลค่ะ คุณ chayutt คุณMead และทุกๆคน

ภาพประกอบสวยมากๆ ค่ะ

Kama-Manas · 29 กรกฎาคม 2011

ภาพประกอบสวยงามมากครับ อ่านข้อมูลนี้แล้ว ผมคงต้องกลับโลกใบเก่า คงไม่มีโลกใบใหม่สำหรับคนอย่างผม เพราะผมรักใครไม่เป็น... นอกจากรักตัวผมเอง ความรักของผมมีแต่เงื่อนไขและกฎเกณฑ์ ตัวของผมมีแต่พลังงานเก่าเต็มไปหมดเลยครับ แม้ว่าส่วนลึกผมรู้สึกโหยหาอะไรบางอย่าง แต่ผมไม้รู้จริงๆว่าผมโหยหาอะไร? ตอนเด็กๆผมชอบนั่งมองท้องฟ้า มีแต่คำถามเต็มไปหมด กลางคืนมักนอนไม่หลับ(สมัยเด็กๆ)คิดจินตนาการไปเรื่อย เรามาจากไหน? เรามาทำไม? เรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? รู้สึกไม่มีความสุข เริ่มหาคำตอบจากหนังสือต่างๆ เปลี่ยนศาสนามาก็หลายครั้ง ก็มาสรุปคำตอบในกระทู้คุณ"ชยุต"นี่แหละครับ เหนื่อยดีเหมือนกันในการมีชีวิตอยู่ บ่นไปตามFEELน่ะครับ 55555

mead · 29 กรกฎาคม 2011

ถักธรรม said: ↑

ภาพประกอบสวยงามมากครับ อ่านข้อมูลนี้แล้ว ผมคงต้องกลับโลกใบเก่า คงไม่มีโลกใบใหม่สำหรับคนอย่างผม เพราะผมรักใครไม่เป็น... นอกจากรักตัวผมเอง ความรักของผมมีแต่เงื่อนไขและกฎเกณฑ์ ตัวของผมมีแต่พลังงานเก่าเต็มไปหมดเลยครับ แม้ว่าส่วนลึกผมรู้สึกโหยหาอะไรบางอย่าง แต่ผมไม้รู้จริงๆว่าผมโหยหาอะไร? ตอนเด็กๆผมชอบนั่งมองท้องฟ้า มีแต่คำถามเต็มไปหมด กลางคืนมักนอนไม่หลับ(สมัยเด็กๆ)คิดจินตนาการไปเรื่อย เรามาจากไหน? เรามาทำไม? เรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? รู้สึกไม่มีความสุข เริ่มหาคำตอบจากหนังสือต่างๆ เปลี่ยนศาสนามาก็หลายครั้ง ก็มาสรุปคำตอบในกระทู้คุณ"ชยุต"นี่แหละครับ เหนื่อยดีเหมือนกันในการมีชีวิตอยู่ บ่นไปตามFEELน่ะครับ 55555
Click to expand...

การที่เรายอมรับความจริงว่าเราเป็นใคร มาจากไหน หรือมาทำอะไรอยู่ที่นี่ ?
นั่นคือเรากำลังเข้าใกล้ความรักที่บริสุทธิ์มากขึ้นแล้วนะครับ
คุณถักธรรมรักและเข้าใจตัวเองแบบนี้ มันชัดเจนดีแล้ว
ความรักไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ เป็นรักเล็กๆที่มีความสมบูรณ์ในตัวมันก็พอครับ
กฎเกณฑ์เงื่อนไข มันก็มีกันทุกคนหล่ะ..ไม่มีใครปราศจากเงื่อนไข 100 % จริงๆหรอกนะ
ก็หวังว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเราจะรู้สึกถึงมันได้ดียิ่งขึ้นครับ
ความสงบสุขและทัศนคติที่ดีต้องมาก่อน แล้วองค์ประกอบอื่นๆในการเปลี่ยนแปลงจะตามมาครับ
เพราะเราไม่ได้ถูกแขวนอยู่อย่างโดดเดี่ยวเลย มันมีการถักทอและถักธรรม แบบชื่อคุณนั่นล่ะครับ

วันนี้คุยแต่เรื่องรักๆ เบิกบานดีครับ แปะให้อีกหนึ่งรูป (อิอิ)

lomdadbaimai · 29 กรกฎาคม 2011

ขอขอบคุณทีมงานแปลจริง ๆ นะคะ แม้เราจะยังไม่สามารถทำความเข้าใจกับเนื้อหาเหล่านี้ได้ แต่ทำให้เรารู้สึกว่า ชีวิตนี้มีความหวัง

อันที่จริงตัวเราตกอยู่ในท่ามกลางพลังงานเก่ามานานมาก จนมีมิตรคนนึงก้าวกลับเข้ามาในชีวิตของเราและได้กล่าวกับเราว่า "เราจะต้องมีความสุขแม้ในท่ามกลางความทุกข์" เราเถียงเขาว่า แล้วจะทำยังไง พร้อมกับยกตัวอย่างร้าย ๆ แบบหายใจไม่ออกให้ฟัง แต่เธอก็ยังยืนยันเช่นเดิม

เวลาผ่านมาสักพัก เราเข้าใจแล้วค่ะ เธอต้องการจะสื่ออะไร

ขอบคุณทีมงานอีกครั้งนะคะ เราจะค่อย ๆ กระดึ้บ กระดึ้บ อ่านต่อไปค่ะ

LadyOfLight · 29 กรกฎาคม 2011

พี่มีดกล่าวตอบคุณถักธรรมได้แจ่มมากเลยค่ะ

............

อ่านข้อความของคุณ lomdadbaimai แล้ว

ทำให้นึกถึงบทสรุปตอนจบของหนังเรื่อง sucker punch ค่ะ

ลองหามาดูสิคะ อาจทำให้คุณ get ได้มากโขเลยล่ะค่ะ *-*

เพราะมันเต็มไปด้วยการเสียสละเพื่อคนอื่น และพลังอำนาจที่แท้จริงก็คือ ตัวเราเอง *-*

fly_pig

Senju · 29 กรกฎาคม 2011

LadyOfLight said: ↑

พี่มีดกล่าวตอบคุณถักธรรมได้แจ่มมากเลยค่ะ

............

อ่านข้อความของคุณ lomdadbaimai แล้ว

ทำให้นึกถึงบทสรุปตอนจบของหนังเรื่อง sucker punch ค่ะ

ลองหามาดูสิคะ อาจทำให้คุณ get ได้มากโขเลยล่ะค่ะ *-*

เพราะมันเต็มไปด้วยการเสียสละเพื่อคนอื่น และพลังอำนาจที่แท้จริงก็คือ ตัวเราเอง *-*

fly_pig
Click to expand...

ผมเพิ่งดูวันนี้เองครับ อิอิ ^^

mead · 29 กรกฎาคม 2011

ใช่เรื่อง"อีหนูดุทะลุโลก" รึเปล่าครับ
พล๊อตหนังเค้าเจอเรื่องร้ายๆ แล้วพยายามจะหนีออกมาจากความเป็นจริง
ไปสู่โลกแห่งจินตนาการและความฝัน...
แนวแอคชั่นแฟนตาซีด้วย เข้าท่าดีไว้จะหามาดูครับ

ว่าแต่ขีวิตเรา ถ้าเจอเรื่องหนักๆโหดๆ ก็ไม่ง่ายนักที่จะหลุดออกมานะครับ
เพราะคนที่อยู่ในสภาพการณ์นั้นจริงๆ แทบจะมิดแปดด้านเลย..
แต่ในความมืดมิดก็มีแสงสว่างแต้มเป็นประกายแวปๆ...ใช่แว่นขยายส่องหาเอาหน่อยก็จะพบครับ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=BoSHh_zF4eo"]‪The Wave of Love‬‏ - YouTube[/ame]

ชอบ VDO ชุดนี้อย่างบอกไม่ถูก เหมือนมีความหมายที่ซ๋อนเอาไว้หลายๆจุด
เป็นระบบเชิงเส้นในการสร้างสรรพสิ่งของจักรวาล
พอเราถอด"รูปทรง" ออกมาให้เป็น "เส้น"จะพบอะไรที่เชื่อมโยงสัมพันธ์กันอยู่จริงๆ น่าสนใจอ่ะ

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

mead เป็นที่รู้จักกันดี

ไฟล์ที่แนบมา:

Hot Dog.jpg

Senju Active Member

LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

light In june สมาชิกใหม่

mead เป็นที่รู้จักกันดี

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

mead เป็นที่รู้จักกันดี

mead เป็นที่รู้จักกันดี

ผ่านมาจริงๆ เป็นที่รู้จักกันดี

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

mead เป็นที่รู้จักกันดี

light In june สมาชิกใหม่

ผ่านมาจริงๆ เป็นที่รู้จักกันดี

Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

mead เป็นที่รู้จักกันดี

ไฟล์ที่แนบมา:

love.png

lomdadbaimai เป็นที่รู้จักกันดี

LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

Senju Active Member

mead เป็นที่รู้จักกันดี

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ไฟล์ที่แนบมา:

Hot Dog.jpg

ไฟล์ที่แนบมา:

love.png

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา