เว็บพลังจิต ปฎิทินพลังจิตธรรมสัญจร 54

มารู้จักสถานที่ ๆ จะไปในทริปนี้กันเถอะ

๑. วัดธรรมยาน (หลวงพ่อยิ้ม)
ตั้งอยู่ที่ เลขที่ ๔๐๐ หมู่ ๘ บ้านเขาน้อย ต.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ปัจจุบัน มีพระปลัดวิรัช โอภาโส เป็นเจ้าอาวาส

​

​

สมเด็จพระพุทธธรรมยาน (หลวงพ่อใหญ่ ๑๕ ศอก)

ประดิษฐานอยู่ภายในมหาวิหารพระใหญ่ ๑๕ ศอก ณ วัดธรรมยาน ต.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์​

<table style="margin-left: auto; margin-right: auto; width: 613px; height: 8px;" border="0"><tbody><tr><td>
</td><td>
</td><td>
</td></tr></tbody></table>ขอบคุณที่มา : เว็บวัดธรรมยาน



๒. พระครูเวฬุคณารักษ์ (หลวงปู่เวิน) วัดน้ำวิ่งวราราม

<center> </center>

พระกัมมัฏฐานที่มีวัตรปฏิบัติดีงาม จนเป็นที่รู้จักของชาวเพชรบูรณ์ ในห้วงเวลานี้ พุทธศาสนิกชนคงไม่ปฏิเสธชื่อของหลวงปู่เวิน กัลยาณธัมโม หรือพระครูเวฬุคณารักษ์ ด้วยครองตนอยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์อย่างสมถะ ไม่สะสมทรัพย์สินใดๆ มักน้อย ถือสันโดษ เป็นพระที่มีเมตตาธรรมสูง เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง

ปัจจุบัน หลวงปู่เวิน สิริอายุ ๗๙ พรรษา ๕๙ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดน้ำวิ่งวราราม ต.บ้านโภชน์ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ และเจ้าคณะอำเภอหนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์

อัตโนประวัติ
พระครูเวฬุคณารักษ์ มีนามเดิมว่า เวิน พลจันทร์ทึก เกิดเมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๔๗๑ ที่บ้านหนองซำ หมู่ที่ ๑๖ ต.ดงบัง อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ในช่วงวัยเยาว์ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่โรงเรียนในหมู่บ้าน กระทั่งอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๔๙๑ ณ พัทธสีมาวัดศรีโพธิ์ทอง ต.บ้านหัวดง อ.นาดูน จ.มหาสารคาม โดยมีพระครูจันทรสีลคุณ เจ้าคณะอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย วัดทองนพคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการบุญ ปภัสสโร วัดนาสีนวล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายาว่า กัลยาณธัมโม หมายความว่า ผู้มีธรรมอันงดงาม

ภายหลังอุปสมบทอยู่อุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์ และศึกษาพระธรรมวินัย-พระปริยัติธรรม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ ต่อมามีโอกาสไปกราบฝากตัวเป็นศิษย์พ่อใหญ่นู พระปฏิบัติ สายหลวงปู่เสาร์ จ.อุบลราชธานี เพื่อศึกษาวิทยาคมและการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานในระหว่างศึกษาสรรพวิชา ท่านและพ่อใหญ่นูได้ออกธุดงควัตรไปตามป่าเขาแถบชายแดนประเทศกัมพูชา ที่มีเส้นทางทุรกันดาร เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายนานาชนิดเป็นเวลานานกว่า ๖ เดือน ฉันเพียงข้าวเหนียวกับน้ำตาลปึกวันละ ๑ มื้อ ปลงผม ๒ ครั้งต่อเดือน เพื่อทดสอบความอดทนปรากฏว่า ท่านได้ปรารภความเพียร จนเป็นที่พอใจของพ่อใหญ่นู กระทั่งพ่อใหญ่นูได้ถ่ายทอดสรรพวิทยาคมจนหมดสิ้น ท่านได้กราบลาพระอาจารย์เดินทางกลับมายังบ้านเกิดอีกครั้งหนึ่ง ก่อนออกเดินท่องธุดงควัตรอีกครั้งเพื่อปฏิบัติกัมมัฏฐานไปตามป่าเขา ในระหว่างธุดงค์ยังได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้ และได้รับคำแนะนำในเรื่องการปฏิบัติกัมมัฏฐานจากพระลูกศิษย์สายหลวงปู่มั่น

พ.ศ.๒๔๙๘ หลวงพ่อบุญถม กตปุญโญ วัดโคกม่วง ต.หนองบัวใต้ อ.โนนสังข์ จ.อุบลราชธานี สหธรรมิกร่วมสำนักวัดป่าสายปู่มั่น ได้นิมนต์หลวงปู่เวิน ให้มาช่วยสร้างอุโบสถ เนื่องจากเห็นว่าท่านเป็นผู้มีฝีมือในการก่อสร้าง ท่านจึงรับด้วยความยินดี และช่วยหลวงพ่อบุญถมสร้างอุโบสถจนเสร็จเรียบร้อย

พ.ศ.๒๕๐๗ ได้เดินธุดงควัตรผ่านมาตามเทือกเขาเพชรบูรณ์ เดินทางมาถึง อ.หนองไผ่ และได้พบกับพระอาจารย์ประสงค์ สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดหนองแจง ได้นิมนต์ให้ท่านอยู่จำพรรษาและสร้างเสนาสนะภายในวัดหนองแจงมีความเจริญพัฒนาก้าวหน้า คณะสงฆ์จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้แต่งตั้งให้ท่านเป็นเจ้าคณะตำบลบ้านโภชน์ ปกครองพระภิกษุ-สามเณร ดูแลกิจการของคณะสงฆ์ แต่หลวงปู่ยังมิได้หยุดนิ่งเฉย ยังได้ลงมือทำการบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะ กุฏิ ศาลาการเปรียญวัดวาอารามต่าง ๆ ให้สมบูรณ์ ใช้ประกอบศาสนกิจได้อย่างลงตัว ในห้วงเวลานั้นตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอหนองไผ่ว่างลง คณะสงฆ์จังหวัดเพชรบูรณ์ จึงได้แต่งตั้งให้หลวงปู่เป็นเจ้าคณะอำเภอ รวมทั้งได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูเวฬุคณารักษ์

พ.ศ.๒๕๑๗ ญาติโยมบ้านน้ำวิ่ง ต.บ้านโภชน์ ได้ไปนิมนต์หลวงปู่ให้มาอยู่จำพรรษาที่วัดน้ำวิ่ง ซึ่งเป็นวัดสร้างขึ้นใหม่ แต่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น หลวงปู่จึงได้เดินทางมาจำพรรษาที่วัดน้ำวิ่งแต่นั้นมา พร้อมกับชักชวนพุทธบริษัทร่วมกันก่อสร้างเสนาสนะ ถาวรวัตถุ กุฏิ อุโบสถ ศาลาการเปรียญ จนสำเร็จเรียบร้อย กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศเกียรติคุณยกย่องให้วัดน้ำวิ่งเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง

ด้วยความที่หลวงปู่เป็นพระที่มีความคิดทันสมัย ก้าวไกล ไม่หยุดนิ่ง ท่านได้ขยายที่วัดให้กว้างไกลออกไปเพื่อประโยชน์การก่อสร้างเสนาสนะ ถาวรวัตถุ และเมื่อเห็นว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ละแวกใกล้เคียงวัด ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในฤดูแล้ง หลวงปู่ได้ขุดสระขนาดใหญ่กักเก็บน้ำ ทำน้ำประปา ให้ชาวบ้านต่อท่อประปาไปใช้ตามบ้านเรือน ทำให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ดีเป็นสุขกันทั่วหน้า

ในด้านการอบรมเผยแผ่ธรรม หลวงปู่เวินเป็นพระนักปฏิบัติธรรม จึงได้ชักชวนให้ญาติโยมปฏิบัติกัมมัฏฐานเจริญสติภาวนา ทุกวันพระหลวงปู่จะลงมาสนทนาธรรมกับญาติโยมที่มารักษาศีลอุโบสถศีลเป็นประจำ ทำการสร้างกุฏิกัมมัฏฐานหลายสิบหลัง เพื่อให้พระภิกษุสามเณรและญาติโยมได้เจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน คำสอนที่หลวงปู่เวิน พร่ำสอนญาติโยมอยู่ตลอดเวลาว่า เหตุที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในสังคม ทั้งในครอบครัว สถานที่ทำงาน เกิดจากที่คนทั่วไปไม่ช่วยกันขจัดปัดเป่าอุปสรรคขวางกั้น อันเป็นกิเลสที่สกัดกั้นไม่ให้บรรลุในธรรม ตัวกิเลสนี้มี ๕ ประการ ได้แก่ นิวรณ์ คือ กามฉันทนิวรณ์ ได้แก่ความพอใจ ลุ่มหลง รักใคร่ในอารมณ์ที่ชอบใจ มีรูปเป็นต้น พยาบาทนิวรณ์ คือ การปองร้ายผู้อื่น อิจฉาริษยาผู้อื่น ถีนมิทธนิวรณ์ เป็นผู้ตกอยู่ในจริตวิตกคือ มีความหดหู่ และเคลิบเคลิ้ม อุทธัจจกุกุจจนิวรณ์ มีจิตฟุ้งซ่าน และรำคาญ แสวงหาในอารมณ์ที่ไม่เหมาะสมและสุดท้าย คือ วิจิกิจฉานิวรณ์ มีความลังเล ไม่ตกลง ไม่เป็นตัวของตัวเอง มีจิตไม่สงบและนิ่ง การที่จะละสิ่งเหล่านี้ได้ก็ด้วยการเจริญสติภาวนาและปฏิบัติกัมมัฏฐาน อันเป็นที่สุดของการปฏิบัติเพื่อลดละเลิกและหลงจากกิเลสตัณหาทั้งปวง

แม้วัยจะล่วงเข้าสู่บั้นปลายชีวิตแล้ว แต่หลวงปู่ยังคงมีสุขภาพแข็งแรงและยังไม่หยุดที่จะพัฒนาวัดวาอาราม ล่าสุดหลวงปู่กำลังทำการก่อสร้างมหาเจดีย์ศรีเพชรบูรณ์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้าที่ได้รับมาจากประเทศศรีลังกา สำหรับให้ประชาชนได้มากราบนมัสการ รวมทั้งเป็นปูชนียสถานให้อยู่ในใจของชาวพุทธทั่วไป ตลอดระยะเวลาอันยาวนานกว่า ๗๐ ปี หลวงปู่เวิน เป็นพระเถระที่มากด้วยคุณูปการต่อพระพุทธศาสนาอย่างยิ่งยวดรูปหนึ่ง ท่านเป็นอาจารย์ผู้ประเสริฐ เป็นนักภาวนาชั้นเลิศ

ขอบคุณที่มา : หลวงปู่เวิน วัดน้ำวิ่ง




๓. หลวงปู่อ่ำ ธมฺมกาโม วัดธุดงคสถานสันติวรญาน

​

หลวงปปู่อ่ำ ธมฺมกาโม หรือ พระครูสันติวรญาน เป็นพระมหาเถระผู้ใหญ่ที่พุทธศาสนิกชนทั่วไปกราบไหว้ยกย่องนับถือในวัตรปฎิ บัติและปฎิปทา รวมทั้งการทเศนาสอนธรรมกัมมัฎฐานด้วยคำเทศนาหรือบทธรรมของท่าน ส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องการปฎิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ภัยในชีวิตประจำวัน

หลวง ปู่อ่ำ เป็นพระสายวัดป่าที่เน้นเรื่องการปฎิบัติวิปัสนากัมมัฎฐานเป็นด้านหลัก และเป็นศิษย์รุ่นกลางของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์สายปฎิบัติวิปัสนาชื่อดัง ปัจจุบันหลวงปูอ่ำ ธมมฺกาโม สิริอายุ ๘๓ พรรษา ๔๒ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสันติวรญาน ต.วังศาล อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์

ติดตามอ่านอัตโนประวัติและชาติภูมิของหลวงปู่แบบเต็มอิ่มได้ที่ คลิก

ขอบคุณที่มา : เว็บวัดญานสันติวรญาน



๔. หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดห้วยตูมสุทธาวาส

​

หลวงพ่อสวัสดิ์ โสตถิโก เจ้าอาวาสวัดห้วยตูมสุทธาวาส ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ เป็นแบบอย่างที่ดีในวัตรปฏิบัติธรรมใต้ร่มพระพุทธศาสนา ที่มีความเคร่งครัดและสามารถยึดเหนี่ยวดวงใจของพุทธศาสนิกชนให้หันหน้ามุ่ง สู่พระธรรมอย่างถ้วนหน้า อีกทั้งท่านเป็นพระนักพัฒนา ทำคุณประโยชน์ให้กับจังหวัดเพชรบูรณ์มาโดยตลอด

ชาติภูมิ
หลวงพ่อสวัสดิ์ เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๔๘๓ ที่หมู่บ้านทุ่งสะเดา หมู่ที่ ๗ ต.ช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายเลี้ยด แซ่เฮงและนางทองดี เหล่าสำโรง มีน้องร่วมท้อง ๕ คน หลวงพ่อสวัสดิ์เป็นคนโต ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ข้าวโพด-ปลูกผัก ชีวิตเยาว์วัยเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ณ โรงเรียนวัดกกเก้า เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๐ จนถึงชั้นประถมปีที่ ๓ พ่อแม่ได้ย้ายครอบครัวไปอยู่ ต.จันเสน หมู่ ๑ ในปี พ.ศ.๒๔๙๓ ได้เข้าเรียนต่อชั้นประถมปีที่ ๔ ที่โรงเรียนวัดจันเสน ต.จันเสน อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์

เมื่อจบการศึกษาชั้นประถม ๔ ได้ไปอาศัยอยู่กับตาและยายโดยไปช่วยตาและยายทำนา หลังจากนั้นอาจารย์ศรีนคร อาจารย์ใหญ่โรงเรียนวัดจันเสน ตามให้ไปศึกษาต่อชั้นมัธยม จนจบชั้นมัธยมปีที่ ๓ ในสมัยนั้น หลังจากนั้นพอออกจากโรงเรียนแล้ว ได้เข้าไปทำงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ กระทั่งอายุ ๓๐ ปี ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๑๔ ณ วัดจันเสน ต.จันเสน อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยมีพระครูนิสัยจริยคุณ (หลวงพ่อโอด) เจ้าอาวาสวัดจันเสน เจ้าคณะอำเภอตาคลี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูลำไย สัมปุณโณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระปลัดบุศย์ ติกขปญโญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ตลอดระยะเวลาของการครองสมณเพศ นอกจากศึกษาพระปริยัติธรรม จนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอกแล้ว ท่านได้ช่วยหลวงพ่อโอด สร้างศาลาการเปรียญวัดจันเสน ได้สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม ได้สร้างโรงครัว ฯลฯ จนได้รับความไว้วางใจให้เป็นเลขานุการเจ้าคณะอำเภอตาคลี ท่านได้ช่วยสางภารกิจทางคณะสงฆ์พอสมควร หลังจากนั้นท่านได้ย้ายสังกัดวัด ไปอยู่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ หลวงพ่อสวัสดิ์ เคยธุดงควัตรฝึกกัมมัฏฐานอยู่หลายปี สมัยนั้นท่านเคยไปสนทนาธรรมกับหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกองเพล จ.หนองบัวลำภู หลวงพ่อชา สุภัทฺโท วัดหนองป่าพง อ.วา รินชำราบ จ.อุบลราชธานี หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียง ดาว จ.เชียงใหม่ ยามว่างจากกิจการคณะสงฆ์ ท่านก็เข้าอยู่ปริวาสกรรมเพื่อฝึกสมาธิจิตให้เข้มแข็ง เมื่อออกปริวาสแล้วก็ออกเดินธุดงค์จาริกไป รวมเวลาแล้วสิบกว่าปี ครั้งสุดท้ายได้จำพรรษาที่เขาแม่ทรัพย์ ซึ่งอยู่ห่างวัดห้วยตูมสุทธาวาส ๓ กิโลเมตร ญาติโยมได้นิมนต์ให้หลวงพ่อสวัสดิ์ มาอยู่จำพรรษาที่วัดห้วยตูมสุทธาวาส

ในด้านวิทยาคม สมัยนั้นท่านได้ศึกษาและรับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อโอด ส่วนวิชาโหราศาสตร์ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กวัด ตั้งแต่อายุ ๘ ขวบจากหลวงปู่โป่ง ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์องค์แรก

หลวงพ่อสวัสดิ์ กล่าวปรารภอยู่เสมอว่า "ใน โลกนี้ไม่มีอะไรและไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้เราดีได้นอกจากจิตของเราตั้งไว้ ดีแล้ว รู้จักพอก่อสุขทุกสถาน คุณธรรมนำความคิดชีวิตนี้ต้องการอะไรเมื่อเราตายไปจะเอาความดีหรือความชั่ว ติดตัวไป อำนาจวาสนาก็ดี สังขารทั้งหลายก็ดี ย่อมเสื่อมและเปลี่ยนไปตามกาลเวลา"

ด้วยนิสัยที่มีความเมตตา พูดน้อย ถ่อมตนไม่หยิ่งด้วยเกียรติ ไม่ทะเยอทะยานในลาภยศสรรเสริญ มีสมณสัญญา สันโดษและมัธยัสถ์ เคร่งครัดในสิกขาวินัย ยินดีในสิ่งที่ได้ใช้ในสิ่งที่มี ยินดีและพอใจตามมีตามได้ ชอบการสงเคราะห์ช่วยเหลือ เกี่ยวกับการศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรมทำให้ได้รับการยกย่องจากพระสงฆ์ด้วย กันและพุทธศาสนานิกชนโดยทั่วไป

ขอบคุณที่มา : http://www.pra.kachon.com

 

สาธุค่ะ

รับทราบและปรับปรุงรายชื่อให้แล้วค่ะ

 

​

 

รับทราบและปรับปรุงรายชื่อให้แล้วค่ะ

(ว่าง ๘ ที่)




๑. กำหนดการรับสังฆทานบ้านวิริ<wbr>ยบารมี -ตารางเดินรถตู้บริการ คลิก
๒. เรียนเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพมหากุ<wbr>ศลงานเข้า-ออกนิโรธกรรมครูบาวิ<wbr>ฑูรย์ ชินวโร ๑๗-๒๕ ก.ย. คลิก
๓. ธรรมเฉพาะกิจ (๖) พิธีหล่อพระ "หลวงพ่อเหลือ" วัดธรรมยาน-ไหว้พระ จ.เพชรบูรณ์ ๓๑ ก.ค. คลิก
๔. ธรรมเฉพาะกิจ (๗) พิธียกยอดฉัตร "สมเด็จองค์ปฐม" -ฉลองอายุวัฒนมงคล ๕๓ ปีหลวงพ่อโนรี วัดหนองหญ้าปล้อง จ.กาญจนบุรี ๒๔ ก.ค. คลิก
๕. ธรรมสัญจร (๙) กฐินสร้างพระอุโบสถวัดรัตนานุ<wbr>ภาพ จ.นราธิวาส ๑๔-๑๗ ต.ค. คลิก
๖. ประมวลภาพทริปแอ่วหละปูน อิ่มบุญอุ่นรักพระแม่เจ้<wbr>าจามเทวี คลิก

 

รับทราบและปรับปรุงรายชื่อให้แล้วค่ะ

 

อานิสงส์การสร้างสมเด็จองค์ปฐม

​

ลุง ๒ ลุง นายบัญชีกับลุงพุฒิ (หมายถึงท่านพระยายม) ท่านบอกว่า การสร้างองค์ปฐมนี่ท่านเปลี่ยนบัญชีใหม่ เอาบัญชีมาให้ดู บอกนี่.... บัญชีเล่มนี้ (คือว่าเป็นอีกเล่มหนึ่งจากที่ ๆ จดธรรมดา) "บัญชีสีทอง" เป็นทองคำล้วนทั้งเล่มเลย ท่านบอกถ้าสร้างองค์ปฐมลงบัญชีเล่มนี้โดยเฉพาะ ก็แสดงว่าคนที่จะสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมทำได้ยาก คือว่าเป็นพระพุทธเจ้าต้นพระพุทธเจ้าทั้งหมด และการทำบุญเนื่องในการสร้างวิหารก็ดี สถานที่ก็ดี เอาของไปประดับก็ตาม พวกนี้ลงบัญชีสีทองหมด คือไม่หมายความต้องมีเงินมากเสมอไป ที่เขามีน้อย ๅ บาทสองบาท สิบสตางค์ ยี่สิบสตางค์ พวกนี้เอาไปใส่แท่น อย่างนี้ลงบัญชีสีทองหมด ก็ถามว่าบัญชีสีทองหมายถึงอะไร ท่านบอกมันหมายถึงกลับไม่ได้ เพราะพระพุทธเจ้าทุกองค์ต้องโมทนาหมด

การหล่อองค์ปฐมด้วยทองคำนี่ อานิสงส์จะเหมือนกับหล่อพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน แต่ว่าต่่างกันอยู่นิดหนึ่งที่ไปนิพพานเร็ว ไปนิพพานเร็วมากเพราะเขาเข้าบัญชีสีทองไม่ใช่ตัวทอง บัญชีทั้งเล่มเป็นทอง ลงบัญชีเล่มนั้น


ขอบคุณที่มา : บางตอนของหนังสือประวัติศาสตร์การสร้างสมเด็จองค์ปฐม โดยพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง อุทัยธานี

 

ไปไม่ได้แต่อนุโมทนาบุญร่วมกันได้ น้องรุ่งส่งชื่อ-สกุล มาให้พี่ทาง PM เดี๋ยวพี่จะเขียนชื่อลงในแผ่นทองหล่อพระให้ค่ะ

ได้ทั้งสองที่ค่ะ เพราะยังไม่ถึงวันปิดรับ พี่จะจัดรถเพิ่มทุก ๑ คันในกรณีมีสมาชิกครบ ๑๐ คน แต่ถ้าไม่ครบ รถตู้ ๑ คันสามารถรองรับได้สูงสุด ๑๑ คนค่ะ (รวมที่นั่งสำรองข้างคนขับ)

 

รับทราบและปรับปรุงรายชื่อให้แล้วค่ะ

รับทราบและอนุโมทนาค่ะ ติดตามอ่านรายละเอียดเพิ่มเ้ติมได้ที่ เรียนเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพมหากุศลงานเข้า-ออกนิโรธครูบาวิฑูรย์ ชินวโร ๑๗-๒๕ ก.ย.๕๔

 

นับถอยหลังอีก ๙ วัน
กับพิธีเททอง-หล่อพระ "หลวงพ่อเหลือ" สมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก ๓๒ นิ้ว วัดธรรมยาน


​