เว็บพลังจิต สามัคคี 3 อย่าง;รวมกระทู้ที่ลบแล้ว,ยังไม่ลบเรื่องการเมืองร้อนแรงและกระทู้ร้อนฯอื่นๆ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด, 28 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,277
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,490
    <center>ว่าด้วยสามัคคี ๓ อย่าง

    </center> [๒๑๑] คำว่า บัณฑิตทั้งหลายกล่าวการไม่แสดงตนในภพนั้นว่า เป็นความพร้อมเพรียง มีความว่า

    • ความพร้อมเพรียง ได้แก่ สามัคคี ๓ อย่าง คือ คณะสามัคคี ๑ ธรรมสามัคคี ๑ อนภินิพพัตติสามัคคี ๑.

    • คณะสามัคคีเป็นไฉน?
    ภิกษุ ทั้งหลายแม้มาก พร้อมเพรียงกัน ชื่นชมกัน ไม่วิวาทกัน เป็นดังว่าน้ำเจือด้วยน้ำนม แลดูกันและกันด้วยจักษุเป็นที่รักอยู่ นี้ชื่อว่า คณะสามัคคี.
    • ธรรมสามัคคีเป็นไฉน?
    สติ ปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘ ธรรมเหล่านั้นย่อมแล่นไป ผ่องใส ประดิษฐานด้วยดี พ้นวิเศษโดยความเป็นอันเดียวกัน ความขัดแย้งกันแห่งธรรมเหล่านั้นย่อมไม่มี นี้ชื่อว่า ธรรม สามัคคี.
    • อนภินิพพัตติสามัคคีเป็นไฉน?
    ภิกษุ ทั้งหลายแม้มาก ย่อมปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ความเป็นของบกพร่องหรือเต็มล้นไปแห่งนิพพานธาตุของภิกษุเหล่านั้น ย่อมไม่ ปรากฏ นี้ชื่อว่า อนภินิพพัตติสามัคคี.
    คำ ว่า ในภพ คือ นรก เป็นภพของพวกสัตว์ที่เกิดในนรก กำเนิดดิรัจฉาน เป็นภพ ของพวกสัตว์ที่เกิดในกำเนิดดิรัจฉาน เปรตวิสัย เป็นภพของพวกสัตว์ที่เกิดในเปรตวิสัย มนุษยโลกเป็นภพของพวกมนุษย์ เทวโลกเป็นภพของพวกเทวดา.
    คำ ว่า บัณฑิตทั้งหลายกล่าวการไม่ แสดงตนในภพนั้นว่า เป็นความพร้อมเพรียง คือ บัณฑิตทั้งหลาย กล่าว บอก พูด แสดง แถลง อย่างนี้ว่า ภิกษุใดปฏิบัติแล้วอย่างนี้ ไม่พึงแสดงตนในนรก กำเนิดดิรัจฉาน เปรตวิสัย มนุษยโลก เทวโลก การไม่แสดงตนของภิกษุนั้น เป็นความพร้อมเพรียง คือ ข้อนั้นเป็นการปกปิด เป็นการควร สมควร เป็นอนุโลม เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า บัณฑิตทั้งหลายกล่าวการไม่แสดง ตนในภพนั้นว่า เป็นความพร้อมเพรียง.
    เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า บัณฑิตทั้งหลาย กล่าวการไม่แสดงตนในภพนั้น ของภิกษุผู้ประพฤติ หลีกเร้น ผู้คบที่นั่งอันสงัดว่า เป็นความพร้อมเพรียง.

    ที่มา
    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๑ ขุททกนิกาย มหานิทเทส ชราสุตตนิทเทสที่ ๖ [๒๑๑]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 มิถุนายน 2011
  2. ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,277
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,490
    กาม...มีโทษมากกว่าที่คิด

    [๑๙๘]

    • ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่า เป็นโทษของกามทั้งหลาย?
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย กุลบุตรในโลกนี้ เลี้ยงชีวิตด้วยความขยันประกอบศิลปใด คือ

    ด้วยการนับคะแนนก็ดี
    ด้วยการคำนวณก็ดี
    ด้วยการนับจำนวนก็ดี
    ด้วยการไถก็ดี
    ด้วยการค้าขายก็ดี
    ด้วยการเลี้ยงโคก็ดี
    ด้วยการยิงธนูก็ดี
    ด้วยการเป็นราชบุรุษก็ดี
    ด้วยศิลปอย่างใดอย่างหนึ่งก็ดี
    ต้องตรากตรำต่อความหนาว
    ต้องตรากตรำต่อความร้อน
    งุ่นง่านอยู่ด้วยสัมผัสแต่เหลืบ ยุง ลม แดด และสัตว์เสือกคลาน
    ต้องตายด้วยความหิวระหาย​
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้นี้ ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ ที่เห็นๆ กันอยู่ มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นตัวบังคับ เกิดเพราะเหตุแห่งกาม ทั้งหลายทั้งนั้น

    • ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าเมื่อกุลบุตรนั้นขยัน สืบต่อ พยายามอยู่อย่างนี้ โภคะ เหล่านั้นก็ไม่สำเร็จผล
    เขาย่อม
    เศร้าโศก
    ลำบาก
    รำพัน
    ตีอก
    คร่ำครวญ

    ถึงความหลงเลือนว่า
    ความขยันของเราเป็นโมฆะหนอ
    ความพยายามของเราไม่มีผลหนอ​
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้นี้ก็เป็น โทษของกามทั้งหลาย ... เกิดเพราะเหตุแห่งกามทั้งหลายทั้งนั้น.

    • ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าเมื่อกุลบุตรนั้นขยัน สืบต่อ พยายามอยู่อย่างนี้ โภคะเหล่านั้น สำเร็จผล
    เขากลับเสวยทุกข์
    โทมนัส

    ที่มีการคอยรักษาโภคะเหล่านั้นเป็นตัวบังคับว่า​
    ทำอย่างไร พระราชาทั้งหลาย ไม่พึงริบโภคะเหล่านั้นไปได้
    พวกโจรพึงปล้นไม่ได้
    ไฟไม่พึงไหม้
    น้ำไม่พึงพัด
    ทายาทอัปรีย์พึงนำไปไม่ได้

    เมื่อกุลบุตรนั้นคอยรักษาคุ้มครองอยู่อย่างนี้
    พระราชาทั้งหลาย ริบโภคะเหล่านั้นไปเสียก็ดี
    พวกโจรปล้นเอาไปเสียก็ดี
    ไฟไหม้เสียก็ดี
    น้ำพัดไปเสียก็ดี
    ทายาทอัปรีย์นำไปเสียก็ดี

    เขาย่อม
    เศร้าโศก
    ลำบาก
    รำพัน
    ตีอก
    คร่ำครวญ

    ถึงความหลงเลือนว่า
    สิ่งใดเคยเป็นของเรา
    แม้สิ่งนั้นก็ไม่เป็นของเรา

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้นี้ ก็เป็นโทษของกาม ทั้งหลาย ... เกิดเพราะเหตุแห่งกามทั้งหลายทั้งนั้น.

    • ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นตัว บังคับ เพราะเหตุแห่งกามทั้งหลายนั้นแล
    แม้พระราชาทั้งหลายก็วิวาทกันกับพวกพระราชา
    แม้พวกกษัตริย์ก็วิวาทกันกับพวกกษัตริย์
    แม้พวกพราหมณ์ก็วิวาทกันกับพวกพราหมณ์
    แม้คฤหบดี ก็วิวาทกันกับพวกคฤหบดี
    แม้มารดาก็วิวาทกับบุตร
    แม้บุตรก็วิวาทกับมารดา
    แม้บิดาก็วิวาทกับบุตร
    แม้บุตรก็วิวาทกับบิดา
    แม้พี่ชายน้องชายก็วิวาทกันกับพี่ชายน้องชาย
    แม้พี่ชายก็วิวาทกับ น้องสาว
    แม้น้องสาวก็วิวาทกับพี่ชาย
    แม้สหายก็วิวาทกับสหาย

    ชนเหล่านั้นต่างถึงการทะเลาะ แก่งแย่ง วิวาทกันในที่นั้นๆ ทำร้ายซึ่งกันและกัน
    ด้วยฝ่ามือบ้าง
    ด้วยก้อนดินบ้าง
    ด้วยท่อนไม้บ้าง
    ด้วยศาตราบ้าง

    ถึงความตายไปตรงนั้นบ้าง
    ถึงทุกข์ปางตายบ้าง

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้นี้ ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย ... เกิดเพราะเหตุแห่งกามทั้งหลายทั้งนั้น.

    • ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นตัวบังคับ เพราะเหตุแห่งกามทั้งหลายนั้นแล
    ฝูงชนต่างถือดาบและโล่ห์สอดแล่งธนู วิ่งเข้าสู่สงคราม ปะทะ กันทั้ง ๒ ข้าง
    เมื่อลูกศรทั้งหลายถูกยิงไปบ้าง
    เมื่อหอกทั้งหลายถูกพุ่งไปบ้าง
    เมื่อดาบทั้งหลาย ถูกกวัดแกว่งอยู่บ้าง

    ฝูงชนเหล่านั้นต่างก็
    ถูกลูกศรแทงเอาบ้าง
    ถูกหอกแทงเอาบ้าง
    ถูกดาบตัดศีรษะเสียบ้าง

    ในที่นั้น พากันถึงตายไปตรงนั้นบ้าง
    ถึงทุกข์ปางตายบ้าง

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้นี้ ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย ... เกิดเพราะเหตุแห่งกามทั้งหลายทั้งนั้น.

    • ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นตัว บังคับ เพราะเหตุแห่งกามทั้งหลายนั้นแล
    ฝูงชนถือดาบและโล่ห์สอดแล่งธนู ตรูกันเข้าไปสู่ เชิงกำแพงที่ฉาบด้วยเปือกตมร้อน
    เมื่อลูกศรถูกยิงไปบ้าง
    เมื่อหอกถูกพุ่งไปบ้าง
    เมื่อดาบถูกกวัดแกว่งบ้าง

    ชนเหล่านั้นต่าง
    ถูกลูกศรแทงบ้าง
    ถูกหอกแทงบ้าง
    ถูกรดด้วยโคมัยร้อนบ้าง
    ถูกสับ ด้วยคราดบ้าง
    ถูกตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง

    ในที่นั้น พากัน
    ถึงตายไปตรงนั้นบ้าง
    ถึงทุกข์ปางตาย บ้าง

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้นี้ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย ... เกิดเพราะเหตุแห่งกามทั้งหลายทั้งนั้น.

    • ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นตัวบังคับ เพราะเหตุแห่งกามทั้งหลายนั้นแล ฝูงชน
    ตัดที่ต่อบ้าง
    ปล้นอย่างกวาดล้างบ้าง
    กระทำการปล้น เรือนหลังเดียวบ้าง
    ดักปล้นในหนทางบ้าง
    สมสู่ภรรยาคนอื่นบ้าง

    พระราชาทั้งหลาย จับคนนั้นๆ ได้แล้ว ให้กระทำกรรมกรณ์ต่างๆ
    เฆี่ยนด้วยแซ่บ้าง
    เฆี่ยนด้วยหวายบ้าง
    ตีด้วยไม้ค้อนบ้าง
    ตัดมือเสียบ้าง
    ตัดเท้าเสียบ้าง
    ตัดทั้งมือทั้งเท้าเสียบ้าง
    ตัดหูเสียบ้าง
    ตัดจมูกเสียบ้าง
    ตัดทั้งหู ทั้งจมูกเสียบ้าง

    กระทำกรรมกรณ์
    ชื่อพิลังคถาลิก [หม้อเคี่ยวน้ำส้ม] บ้าง
    ชื่อสังขมุณฑกะ [ขอดสังข์] บ้าง
    ชื่อราหูมุข [ปากราหู] บ้าง
    ชื่อโชติมาลิก [พุ่มเพลิง] บ้าง
    ชื่อหัตถปัชโชติก [มือไฟ] บ้าง
    ชื่อเอรกวัตติก [นุ่งหนังช้าง] บ้าง
    ชื่อจีรกวาสิก [นุ่งสร่าย] บ้าง
    ชื่อเอเณยยกะ [ยืนกวาง] บ้าง
    ชื่อพลิสมังสิก [กระชากเนื้อด้วยเบ็ด]บ้าง
    ชื่อกหาปณกะ [ควักเนื้อทีละกหาปณะ] บ้าง
    ชื่อขาราปฏิจฉก [แปรงแสบ] บ้าง
    ชื่อปลิฆปริวัตติก [วนลิ่ม] บ้าง
    ชื่อปลาลปีฐก [ตั่งฝาง] บ้าง
    รดด้วยน้ำมันที่ร้อนบ้าง
    ให้สุนัขกัดกินบ้าง
    เสียบที่หลาวทั้งเป็นบ้าง
    ใช้ดาบตัด ศีรษะเสียบ้าง

    คนเหล่านั้นถึงตายไปตรงนั้นบ้าง
    ถึงทุกข์ปางตายบ้าง

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้นี้ ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ที่เห็นๆ กันอยู่ มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นตัวบังคับ เกิดเพราะเหตุแห่งกามทั้งหลายทั้งนั้น.

    • ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นตัวบังคับ เพราะเหตุแห่งกามทั้งหลายนั้นแล
    ฝูงชนต่างประพฤติ
    กายทุจริต
    วจีทุจริต
    มโนทุจริต

    ชนเหล่านั้น ครั้นประพฤติ
    กายทุจริต
    วจีทุจริต
    มโนทุจริตแล้ว

    เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก ย่อมเข้าถึง
    อบาย
    ทุคติ
    วินิบาต
    นรก

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้นี้ ก็เป็นโทษของกามทั้งหลาย เป็นกองทุกข์ ในสัมปรายภพ มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นตัวบังคับ เกิดเพราะเหตุแห่งกาม ทั้งหลายทั้งนั้น.


    ที่มา

    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ ๓. มหาทุกขักขันธสูตร ว่าด้วยกองทุกข์ใหญ่ เรื่องอัญญเดียรถีย์ [๑๙๘]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 มิถุนายน 2011
  3. ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,277
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,490
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 มิถุนายน 2011
  4. ผู้เตือน warn

    ผู้เตือน warn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +688
  5. เขามอ

    เขามอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +539
    เราสนใจ ใฝ่แต่ ธรรม ของ พระบรมศาสดา วันนี้ วันวิสาขะบูชา ควรน้อมนำธรรมของพระพุทธองค์ มาปฏิบัติ
     
  6. kotak50

    kotak50 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +163
    ความเห็นผมนะ ไม่ใช่แน่นอน สำหรับคนในรูปนี้นะ
    ยังๆๆๆ บารมีๆๆๆๆๆ ยังไม่มี แล้วไม่ได้มาช่วย แก้ไข
    ความแตกแยก ความแบ่งฝ่ายละนะ ไม่ใช่บุคคลใคทำนายแน่นอนละ
    55555555555555555555555555
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คำทำนายของหลวงพ่อสด จันทสโร
    โอวาทหลวงพ่อ ฯ เขียนบันทึกเป็นคำกลอน
    เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม พุทธศักราช 2495​

    โอ น่าอนาจแท้ สยามเฮย
    ภา รัฐจัดพิภพ เพริศแพร้ว
    สี เจ็ดเดชไกรกลบ กลาดเกลื่อน
    ฤา ใครจะยิ่งแก้วมรกต ล้ำค่าควรเมือง

    ไว้เป็นมรดกธรรม
    ความต่อไปนี้เปิดออกอ่าน
    เมื่อดอกไม้สีเหลืองทองเบ่งบานทั่วบุรี
    ประชาชี จะปิติ ยิ้มสดใส
    แต่อกไหม้ หนอนกิน ข้างในสิ้น
    จะมีพวก กาฝาก คอยกัดกิน
    เพื่อให้ได้ สิ่งถวิล สมจินตนา...​

    โอวาทหลวงพ่อ ฯ ให้ไว้เพื่อป้องกัน
    แผ่นดินแยก แตกเป็นสอง ปกครองยาก
    เกิดวิบาก ทุกข์เข็ญ ระส่ำระสาย
    เกิดการปราบ จลาจล ชนล้มตาย
    เลือดเป็นสาย น้ำตานอง สองแผ่นดิน

    ที่มา http://www.arayun.com/foretell.htm
     
  8. chingthailand

    chingthailand Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2006
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +38
    ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ

    ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ

    หมายถึงว่าถ้าเป็นหญิง ให้ระวัง แต่เมื่อผ่านยุคปกครองด้วยหญิงแล้ว
    บ้านเมืองจะดีึขึ้นนะเหรอ แปลงี้เปล่า
     
  9. Yurichan

    Yurichan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +97
    ถ้าตามคำทำนาย ก็ต้องระวังผู้นำผู้่หญิง จะรุนแรงเหมือนน้ำเชี่ยวกราก
     
  10. Abhidol

    Abhidol สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +14
    เธอคือใคร..ผมไม่รู้จัก..ขี่ม้าขาว..กับ..ผ้าขาว..มันต่างกันน๊ะครับ
     
  11. peerayuth

    peerayuth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    627
    ค่าพลัง:
    +1,004
    ถ้าจะให้ใกล้เคียงที่สุด ผมมั่นใจว่าองค์สมเด็จพระเทพฯคือบุคคลในคำทำนาย พระองค์ทรงได้บรรลุธรรมถึงขั้นสคทาคามีในปัจจุบัน เปรียบเสมือนสตรีขี่ม้าขาวอย่างแท้จริง
     
  12. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,962
    คิดเหมือนกันครับ:cool:
     
  13. รักษ์11

    รักษ์11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +516
    จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคทามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง = The Hero

    ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ = ตัวผู้ปกครอง

    ที่เป็นหญิง ต้องระวังตัวด้วย (เพราะสายน้ำเชี่ยวกราก= อันตรายยังอยู่ทุกฝีก้าว

    1.1 ความขัดแย้งยังรุงแรงอยู่ 1.2 จะมีการรอบทำร้ายกันได้)

    ยินดีที่ได้ร่วมแสดงความคิดเ็ห็น กับทุกๆท่านครับ

    ไปก่อนครับ ไปทรงฌาณสมาบัติ ดับนิวรณ์ธรรม

    <<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
     
  14. numphol aryupha

    numphol aryupha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +1,156
    เห็นด้วยครับ แต่ถ้ามาด้วยความสามารถของตัวเองก็ok ดั่งเช่นท้าวสุรนารีท้าวเทพกษัตรี และสมเด็จศรีสุริโยทัย ไม่ใช่แห่แหนกันมาล่วงหน้าแบบนี้ ไม่ได้ใช้ความสามารถตัวเองเลย แทงหวยถูกตั้งแต่หวยยังไม่ออก ถ้ายังเป็นนอมินีแบบนี้บ้านเมืองวุ่นวายแน่ (สังเกตุดูเวลาพูดเปิดใจยังดูโพยอยู่เลย ไม่ได้ความคิดตัวเอง )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 พฤษภาคม 2011
  15. กรึงไกร

    กรึงไกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +295
    บารมีไม่ถึงครับ คงไม่ใช่
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ผมคิดว่าน่าจะหมายถึง ภา รัฐจัดพิภพ เพริศแพร้ว นะครับ
     
  17. Phusaard

    Phusaard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    436
    ค่าพลัง:
    +349
    แสดง ความคิดเห็นก็ มีสติ ใจเย็นๆ กันหน่อยนะครับ ไม่อยากให้ ดราม่าเหมือนหลายๆกระทู้
     
  18. vijit_j

    vijit_j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    739
    ค่าพลัง:
    +2,866
    [​IMG]

    แบบเนี้ยหรอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2011
  19. สวรรค์ค8

    สวรรค์ค8 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2011
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +8
    จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคทามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง

    ข้าพเจ้า ว่าไช่นะ ถึงเวลาแล้ว

    พยาเหยี่ยวขาว เกิดจาก อาจม อันสกปรก

    สุดท้ายก็กลายเป็น พยาเหยี่ยวเหนือเวหา

    อันน่าครั่นคร้าม สง่างาม

    จะรอดูครับ ไม่นานเกินรอ
     
  20. tum399

    tum399 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,908
    ตื่น ตื่น ตื่น ตื่นได้แล้ว ไม่ใช่แน่นอน
     

แชร์หน้านี้

Loading...