พระพุทธรูป...(ความจริงในสังคม)

พระพุทธรูป...(ความจริงที่คนงมงาย คนไร้เหตุผล รับไม่ได้)


..........................................................................

..........................................................................

..........................................................................

..........................................................................

..........................................................................

..........................................................................

 

ถ้ามองด้วยความงมงายก็ไม่เกิดประโยชน์ ถ้ามองแบบสุดโต่งก็ไม่เกิดประโยชน์
ถ้ามองอย่างใช้ปัญญาก็เกิดประโยชน์ ถ้ามองเพื่อเป็นอุบายก็เกิดประโยชน์

แต่เรื่องนึงที่ลืมไม่ได้ และไม่ควรมองข้าม
ในสมัยพุทธกาล สาวกของพระพุทธองค์แกะสลักไม้เป็นตัวแทนของพระพุทธองค์
เมื่อพระพุทธองค์ทรงทราบ ก็สั่งให้เผาเสียทั้งหมด

 

แค่มองการตอบคำถามของพระอาจารย์ก็รู้ว่าท่านนั้นสุดโต่ง....ไม่สุภาพ...

พระพุทธรูปถือเป็น อุทเทสิกเจดีย์ คือสิ่งที่สร้างขึ้นมาสมมุติว่าเป็นพระพุทธเจ้า อุทิศ เป็นเจดีย์แห่งการเคารพแทนพระพุทธเจ้า..รำลึกในความดีของพระพุทธเจ้า..ไม่ต่างจากพระบรมรูปต่างๆของกษัตริย์ เช่น พระบรมรูปทรงม้า ก็เป็นสิ่งที่เป็นเหมือนตัวแทนเพื่อลำรึกในความดีของท่าน....

ถูกต้องว่าการบูชานั้นไม่เกิดประโยชน์เพราะพระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอน แต่ถ้าหากว่าเราเห็นพระพุทธรูปแล้วเราระลึกในความดีและคำสอนของท่านเพื่อน้อมนำมาปฏิบัติ อันนี้จะถือได้ว่าเป็นเหตุแห่งความดีไม....

คนเราจะทำความดีมันต้องมีเหตุแห่งการระลึกได้....ไม่ว่าอะไรที่เป็นเหตุให้ระลึกนึกถึงความดี...ก็ถือว่ามีความสำคัญ...บุคคลแต่ละคนมันไม่ได้เหมือนกันนะ....เชื่อไมว่าถ้าไม่มีพระพุทธรูปเพื่อให้คนละลึกนึกถึงความดีของท่านและเป็นอนุสรณ์แด่พระองค์ท่าน..ป่านนี้พระพุทธศาสนาล่มไปนานแล้ว.....เพราะไม่มีเหตุแห่งการระลึกได้นั้น.....

คำสอนสำนักนี้โดนคณะสงฆ์ท่านวิจารย์มาทั่งเมืองว่าสุดโต่ง....ใครอ่านก็พิจารณาเอาแล้วกันนะ.....ผมก็ยึดตามพระพุทธเจ้าเช่นกัน เพราะเมื่อเห็นพระพุทธรูปก็ระลึกถึงความดีของท่าน พระท่านว่าเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน เป็นทางแห่งความดี....ไม่ทราบเหมือนกันว่าเจ้าสำนักนี้ท่านจะตอบอย่างไร.....

 

มีอยู่ตรงใหนเหรอ....ศึกษามายังไม่เคยเห็น....

 

พระพุทธรูปขวางมรรคผลนิพพาน