บุคคลที่เป็นพระอรหันต์แล้วยังคิดที่จะสึกหรือไม่ ?

ขอบคุณ ครับ ได้ ความรู้ อีก แล้ว

 

ถามให้หน่อยแล้วถ้าถูกจับสึกเพราะโดนใส่ร้ายล่ะจะเป็นอย่างไร.....

 

ถ้าถูกลั่นแกล้งไม่ถือว่าสึกครับ พระวินัยว่าเหมือนถูกโจรชิงจีวรไป เหมือนอดีตพระพิมลธรรมแห่งวัดมหาธาตุถูกผู้มีอำนาจทางสงฆ์และทางโลกกลั่นแกล้งใส่ร้ายจนถูกบังคับจับสึก แต่ท่านปวารณาขอยึดพระวินัยไม่ยอมกล่าวคำขอสึก ท่านก็นั่งสมาธิไปแม้ถูกจับเปลื้องจีวรบังคับให้ใส่ชุดขาว แต่ท่านก็ปฏิบัติแบบพระต่อไปในคุกอยู่หลายปีจนศาลยกฟ้องหมด ท่านก็กลับมานุ่งจีวร คณะสงฆ์ก็ยอมรับ ส่วนผู้ี่ที่ใส่ร้ายท่านและออกคำสั่งเล่นงานท่านก็โดนกรรมตามสนองเห็นทันตา

 

พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ชินะ ปัญชะระ ปะริตตัง มังลัคคะตุ สัพพะทา

 

ผมได้รับฟังมาว่า เมื่อถึงความเป็นพระอรหัตน์แล้ว ท่านก็ไม่ต้องการอะไรอีก หากอยู่ในเพศฆราวาส ไม่เกิน 1 วันบ้าง ไม่เกิน 7 วันบ้าง ก็จะปรินิพพาน เพราะสุขอื่นยิ่งกว่าไม่มี ขันฑ์ 5 เป็น ภาระอันหนัก

อีกประการเพศฆราวาส ไม่มีกำลังพอที่จะรองรับ คุณความดีของพระอรหันต์ได้

ผิดถูกประการได้โปรดตักเตือนครับ

 

กลัวแต่ว่าจะไม่ถึงจริงนะสิ

 

"สูทั้งหลายจงมาดูโลกนี้อันตระการตาประดุจดังราชรถ ซึ่งคนเขลาหมกอยู่ ผู้รู้หาข้องอยู่ไม่"
ผู้มีปัญญาย่อมไม่กระโจนเข้าไปในกองไฟฉันใด
เพศฆราวาสนั้นเต็มไปด้วยความทุกข์การมีพันธะความกระทบกระทั่งนาๆประการ การหาเลี้ยงชีพซึ่งมีภาระและกระทบอารมณ์อยู่เป็นประจำ
ผู้มีปัญญามองเห็นสภาวะความเป็นจริงอันนี้ ย่อมพยามหลีกหนีออกห่าง ฉันนั้น

 

อนุโมทนาครับ ... ปุถุชนทั่วๆไป (รวมทั้งผมด้วย) เต็มไปด้วย ความสงสัย สงสัยเรื่องตัวเอง ไม่พอยังไป สงสัยเรื่องท่านผู้อื่น ขนาดเรื่องของพระอริยบุคคล ก็เอามาสงสัยอีก วิจิกิจฉา เต็มหัวใจ ... นิวรณ์ ข้อนี้ แก้ยาก !!!

 

สำหรับผมฟันธงยังสึกได้อยู่
เพศนักบวชไม่ใช่ตัวบงว่าสำเร็จมรรคผล
ความเพียรตาหากบุคคลจะ
ล่วงพ้นทุกข์เพราะความเพียร
ของแบบนี้ถ้ารู้เห็นด้านเดียว
ก็จะเป็นภัยที่ร้ายมากกว่า

 

-ต้องรักษาพรหมจรรย์ด้วยครับ เพราะ เทวดา/พรหม ที่สำเร็จก็มีมากมายครับ

สาธุ

 

ยังสึกได้ถ้าหันซ้ายหันขวา

 

ผู้ใดสำเร็จบรรลุพระอรหันต์แล้ว ต้องออกบวชภายใน 7 วัน มิฉะนั้นหัวจะแตกออกเป็น 7 เสี่ยง เพราะศีลที่จะรองรับได้คือ 227 ข้อ เท่านั้น พระอรหันต์มีจิตสิ้นแล้วกิเลสทั้งปวง ไม่กระทำด้วยกาย วาจา ใจ ที่จะเบียดเบียนผู้ใดแม้แต่น้อยนิด

 

อย่าพึ่งฟันธงครับ เดียวธงหัก (deejai)

 

พระอรหันต์ก็คือพระอรหันต์ในโลกแห่งความเป็นจิงนั้นไม่สามารถที่จะพิสูจน์สิ่งต่างๆๆได้เว้นแต่บุคคลผู้นั้นบำเพ็ญบารมีมามากแค่ไหนการที่ใครจะบอกว่าท่านโน้นท่านนี้เป็นพระอรหันต์สิ่งที่ใช้ชี้วัดนั้นคืออะไรอาจจะเป็นมากกว่าที่คิดก้ได้ถ้าความรู้สึกของคนเราเป็นเหมือนกันหมดก็คงดี แต่คนเราต่างจิตต่างใจ กัน บางท่านอาจจะไม่เปิดเผยตัวตนแต่บางท่านอาจจะเปิดเผยตัวตนมีเยอะแยะไปแร้วใวครจะรู้ได้ จะเป็นพระอรหันต์หรือไม่นั้นการห่มผ่าไม่จำเป็นหรอกนะคะอิฉันว่า เพราะห่มผ้าเพื่อปกปิดร่างกายแต่ห่มใจนั้นต้องผ่าร่างออกมาถึงจะห่มได้ดังนั้นคนเราต้องดูที่ใจมากกว่า สิ่งต่างๆๆในโลกยังมีอีกเยอะจะรู้หรือไม่เท่านั้นเอง สิ่งที่รู้ก็คือ คุณทำความดีกันบ้างหรือยัง สักวันความจิงก็คงจะปรากดเองว่า ความมหัศจรรย์นั้นมันเป็นอย่างไร ถ้าอยากรู้ต้องลองทำดูนะความดีหน่ะ ไม่เสียหลายหรอก ไม่ใช้เงินก็ได้มีเยอะแยะไปเอาไปคิดดูเล่นๆๆนะคะ

 

ขอออกความเห็นแบบโง่ๆ สักนิดนะครับ

ขนาดพวกท่านยังไม่ได้เป็นพระอรหันต์ ยัง ไม่อยากเกิด ไม่อยากอยู่กันเลย ถ้ารู้จักพระนิพพานแล้ว

แล้วพระอรหันต์ล่ะ ท่านจะอยากอยุ่ไปทำไมบนโลกนี้ เพราะท่านเห็นทุกข์ทุกอย่าง ของโลกหมดสิ้นแล้ว

เป็นท่านจะอยากอยู่กันมั้ย อย่าว่าแต่สึกเลย เอาแค่

อยากอยู่บนโลกแม้เพียงลมหายใจเข้าออกท่านจะอยากอยู่หรือเปล่าก็ไม่ทราบ

จบความเห็นแบบโง่ๆ ของ ข้าพเจ้าเท่านี้ครับ

 

เห็นด้วยเต็มร้อยจ้า เหตุและผล ลงตัวจ้า