หลวงปู่สรวง (เทวดาเล่นดิน) พูดถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้...

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Specialized, 30 สิงหาคม 2008.

  1. GUYTHUM

    GUYTHUM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1,354
    ค่าพลัง:
    +1,088
     
  2. แมวน้ำ9

    แมวน้ำ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    689
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +512
    กราบโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ น่ากลัวแทนพวกคิดทำร้าย(ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์) จริงๆนะคะ แต่จะว่าไปคนพวกนี้เค้าก็ไม่เชื่อเรื่องนี้อยู่แล้ว...ไม่ทราบว่าเป็นการปลอบใจตัวเองหรือปล่าว.... แถมยังกล้า"ท้า"ท่านอีกด้วยค่ะ "เค้าว่ายังไงก็ไม่เกิดๆ" น่าเศร้าใจจริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2011
  3. แมวน้ำ9

    แมวน้ำ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    689
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +512
    หลวงตาสรวงช่วยคนคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย

    ในบรรดาเรื่องราวที่เป็นแนวอภินิหารของหลวงตาสรวง,เรื่องที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่ผมชอบที่สุด

    คุณบุญเลิศเล่าว่า,ลูกศิษย์เมืองจันทบุรีชื่อคุณนก มารับเอาตัวหลวงตาสรวงไปพักที่บ้านของเธอ ใกล้ชายแดนเขมร คลับคล้ายว่าอยู่ในเขตคลองลึก จำชื่อหมู่บ้านไม่ได้

    โดยรับเอาตัวหลวงตาไปก่อนหวยออกไม่กี่วัน
    คือมีแผนจะเอาหวยจากหลวงตานั่นเอง

    หลวงตาก็ได้ให้หวยจนคุณนกและชาวบ้านถูกกันถ้วนทุกคน

    หลังถูกหวยแล้ว คุณนกยังคงรั้งตัวหลวงตาไว้ไม่ปล่อยให้กลับ ตั้งใจให้อยู่บอกหวยงวดต่อไปอีกงวด ทั้งยังขัดกระแสต้องการให้หลวงตาอยู่ต่อไปจากชาวบ้านไม่ได้

    งวดต่อมาหลวงตาให้หวยถูกอีก
    คนรวยหวยมากกว่างวดที่แล้ว หลายคนที่เชื่อมั่นทุ่มแทงได้เงินมากมายกันทั้งหมู่บ้าน

    คุณนกทำท่าจะรั้งตัวหลวงตาไว้อีก ไม่ยอมให้หนีกลับศรีสะเกษ

    ร้อนถึงคุณบุญเลิศซึ่งพักอยู่บ้านในเมืองอุบล

    "ผมฝันครับ, ฝันว่าหลวงตามาหา บอกให้ช่วยไปรับที อยากกลับแล้ว..เรื่องฝันเห็นหลวงตามาบอกให้ไปรับ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก คือก่อนหน้านั้นก็ฝันมาหลายหน ทุกหนก็เป็นเรื่องจริงๆคือหลวงตาต้องการให้ไปรับ จึงรีบขับรถออกจากบ้านไปเมืองจันทน์ทันที"

    พอไปถึงหลวงตาวิ่งมาหาที่ประตู แสดงอาการดีใจ จะขึ้นรถกลับ ใครก็ทัดทานไม่อยู่
    ชาวบ้านแห่กันมาล้อมรถ ต้องเจรจากันนิดหน่อย เขาจึงยอมให้พาหลวงตากลับ

    ก่อนกลับชาวบ้านทุกคนพากันมาถวายเงิน
    รวมๆแล้วได้40,000บาทถ้วนพอดี

    ปกติหลวงตาไม่รับเงิน ใครถวายจะส่งคืน ถ้าเซ้าซี้จะให้รับไว้ หลวงตาจะเผาเงินนั้นทิ้งต่อหน้าต่อตา
    ท่านว่า
    "ของไม่ดี คนตีกัน ฆ่ากัน แย่งชิงกันก็เพราะสิ่งนี้ เงินเป็นของไม่ดี"

    แต่ว่าคราวนี้แปลกท่านรับเงินทั้งหมดไว้แล้วใส่เก็บลงย่าม

    ต้องเข้าใจธรรมชาติของหลวงตากับคนขับรถ(คุณบุญเลิศ) เมื่อหลวงตาขึ้นรถแล้ว จะไปที่ไหนจะไปหนใด ก็สุดแต่หลวงตาจะชี้นิ้วให้ขับไป
    ท่านให้ขับเลาะไปตามถนนเลียบชายแดน ผ่านหมู่บ้านแปลกๆไปเรื่อย จนกระทั่งผ่านหมู่บ้านเล็กๆ(จำชื่อไม่ได้) หมู่บ้านนี้อยู่ใกล้อรัญประเทศ คือห่างจากอรัญฯราว15-20กม.เท่านั้น

    เพียงแค่ผ่านเลยหมู่บ้านมาไม่ไกลเท่าไหร่
    หลวงตาล้วงเงิน 40,000 บาทโยนออกหน้าต่างทิ้งตรงข้างทาง

    "ผมเบรคตัวโก่งเลยครับ,จะถอยรถกลับไปเก็บเงิน,หลวงตาบอกไม่เอาๆเงินของเขา ทิ้งไปๆ"
    คุณบุญเลิศนึกเสียดายจนร้อนรนอยู่ในใจ
    "เงินตั้ง40,000นะ ใครไม่เสียดาย แทนที่จะโยนทิ้ง ยกให้เราก็ยังจะดีกว่า ทีนี้ใจมันก็คิดแต่เรื่องเงิน จะหาทางกลับไปเอาเงินนั้นให้ได้ พอดีมองเห็นวัดอยู่ริมทาง เลี้ยวเข้าไป ส่งหลวงตาขึ้นไปบนศาลา บอกว่าหลวงตาคอยอยู่นี่ก่อน ผมมีธุระ ขอไปทำธุระเดี๋ยวเดียวจะกลับมา"

    หลวงตาหัวเราะหยุมๆไม่ว่าอะไร

    ย้อนรถกลับมาบริเวณที่หลวงตาโยนเงินทิ้ง จอดรถหาอย่างไรก็ไม่เจอ

    "แน่ใจว่าจำไม่ผิด ตรงนี้แน่นอน แต่หาไม่พบ ฉุกใจคิดได้ว่าอาจมีใครเก็บเอาไป จึงขับรถไปที่หมู่บ้านใกล้ๆที่เพิ่งผ่านมา เห็นคนออกันอยู่ศาลากลางบ้านเป็นกลุ่มใหญ่ จอดรถเดินเข้าไปถาม มีใครเห็นถุงเงิน40,000บ้างไหม เป็นเงินหลวงตา ท่านลงไปถ่ายอุจาระตรงข้างทางแล้วลืมไว้"

    คุณบุญเลิศโกหกไปตามเรื่อง

    "ผมนี่แหละครับเก็บไปได้" ชายผู้หนึ่งออกมารับเรื่องนี้อย่างองอาจผึ่งผาย
    "โอ๊ย,ดีหลาย นึกว่าจะสูญเงินไปแล้ว ว่าแต่ไปเห็นเงินนี้ได้ยังไง"
    "ผมจะไปผูกคอตายแถวนั้น เห็นถุงเงิน เปิดมานับดู มี 4 หมื่นพอดีเลย"
    "อ้าว,จะฆ่าตัวตายทำไม แล้ว4หมื่นน่ะพอดีอะไร"
    "ผมเอาที่เอาบ้านไปจำนองเขาไว้4หมื่น ไม่มีเงินไถ่ เขากำลังจะมายึด พอ่แม่พี่น้องผมจะไม่มีที่อยู่ พากันลำบากเพราะผม กลุ้มใจคิดหาทางออกไม่เจอ เป็นความผิดของผมที่ทำให้พ่อแม่พี่น้องเดือดร้อน
    เงินค่าไถ่ก็หาไม่ได้เลยคิดอยากตาย"
    "........."
    "ผมเอาเงินที่เก็บได้มาที่นี่ บอกผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านให้มาเป็นพยาน ว่าเงินนี้ผมเก็บได้ สงสัยว่าจะเป็นเงินของพระอยู่เหมือนกัน รอว่าถ้าไม่มีใครมาขอรับเงินคืน ผมจะเอาเงินนี้ไปไถ่บ้าน เมื่อพ่อลุงมาบอกว่าเป็นเงินพระลืมไว้ ผมก็จะคืนให้"

    คุณบุญเลิศถึงกับซึม
    เดินกลับมาที่รถ สตาร์ทเครื่องไม่พูดไม่จา
    ชาวบ้านมองตามงงๆ
    ก่อนออกรถจึงกล่าวว่า
    "เงินนี่หลวงตาไม่ได้ลืมไว้หรอก หลวงตาท่านให้เจ้านั่นแหละ เอาไปไถ่บ้านเถอะ"
    "เดี๋ยวก่อนครับหลวงตาที่ไหน"
    "เจ้าไม่รู้จักหรอก รีบไปซะ,เอาไปไถ่บ้านเร็วๆก่อนจะถูกยึดนะ"

    ว่าแล้วก็ออกรถไปด้วยหัวใจเบิกบานเป็นสุข
    นึกเคารพรักหลวงตามากกว่าเก่าอีกไม่รู้กี่เท่า

    ส่วนชายชาวบ้านผู้คิดสั้น มองตามรถจนหายลับไปจากสายตา
    เขาไม่มีทางเข้าใจอะไรได้เลย
    ไม่มีวันเข้าใจ
     
  4. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    มนุษย์ล้วนมีวาระกรรมของตน ศีลห้ารักษาให้มั่นเป็นเกราะคุ้มภัย ตราบใดที่ไม่ทรยศต่อแผ่นดิน บ้านนี้เมืองนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษามาก มีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงบุญญาธิการบารมีมาก ครูบาอาจารย์หลายองค์ท่านสอนสั่งไว้ดีแล้วค่ะ อนุโมทนาท่านเจ้าของกระทู้
     
  5. thol

    thol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    257
    ค่าพลัง:
    +837
    ขออนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
    ผมขอกราบหลวงปู่สรวงด้วยจิตและใจ
     
  6. แมวน้ำ9

    แมวน้ำ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    689
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +512
    เหลือเวลาอีกไม่ถึงปีแล้วค่ะ วันนี้ 4-4-2554 สาธุ สาธุ สาธุ
     
  7. แมวน้ำ9

    แมวน้ำ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    689
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +512
    ต่อไปนี้ พ.ศ. 2555 คนเก่งอยู่ในเมืองไทย อยู่ที่ไหนก็ตามแต่ มุมไหนก็แล้วแต่ พ่อ - แม่ - ญาติพี่น้อง ไม่ต้องสู้ จะตายหมด น้ำทะเลตีข้างล่างได้ครึ่งโลกแล้ว ไม่ใช่ครึ่งประเทศนะ ครึ่งโลกแล้ว มาบอกให้หยุดนะ ไม่ต้องอยากชนะกันให้ออกไป อย่ามีเวร อย่ามีกรรม

    ครั้งที่สองบอกอีก เป็นภาษาเขมรว่า ให้ออกก่อน


    "พวกที่ทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ออกไปก่อน นางนาคเป่าน้ำน้ำทะเลเต็มไปหมด"

    ให้มันไปแต่พวกนี้ ประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ กลับเข้ามาก็ตีท่วมภูเขา มีทั้งดินมีทั้งโคลน

    "พวกทำไม่ดีตายหมด" แกว่า...เทวดาตัดสินเอง เจ้ากรรมนายเวรตัดสินเอง หลวงพ่อไม่กลัว(ลป.สรวง) แล้วก็ไม่หนีด้วย หลวงพ่อนี่ในตัวสังขละ ท่านสร้างมาหลายวัดเหมือนกัน ไปอยู่ที่นั่นเขาเอาระเบิดเข้าไป สามปีมอบตัวกันหมด ที่ถนนดินแดงหลวงพ่อก็ไป

    ถาม - ที่ หลวงปู่สรวง พูดหมายความว่ายังไง ?

    ตอบ - แปลว่า ไม่ต้องกลัว 2555 นางนาคเป่าน้ำ ท่วมทั้งน้ำทั้งดิน ตายวอดวาย คนที่ไม่ดีตายหมด คนดีไม่ตาย

    "คนดีมันเป็น ไม่ตายจะรอด"

    ท่านบอกให้คอยดู แต่มาเป่านี่มันปี 2547 - 2550 ไม่ใช่สึนามินะ นางนาคสิเป่า ปี 55 แถวเราน้ำไม่มี เขาว่านางนาคเอาขึ้นข้างบน สามวันสามคืนก็เป็นลูกเห็บ ลูกที่หนึ่ง ลูกที่สอง ถูกใครตายระเนระนาด อย่าให้ถึงขนาดนั้น "คนดีไม่ตาย"

    แกว่างั้นนะ ถ้าคนมีศีลห้าไม่ถูก ก็เรา ไม่ได้กบฎพระเจ้าอยู่หัว คนที่กบฎ คนที่อยากชนะ ผืนแผ่นดินนี้ตายแน่ จะยึดแผ่นดินเป็นหลักแค่นั้นแหละ ปีนี้นาคไม่ขึ้นที่หนองคาย นาคไม่ขึ้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  8. แมวน้ำ9

    แมวน้ำ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    689
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +512
    [​IMG]
    เพื่อเป็นการเผยแผ่บารมีธรรมของหลวงปู่สรวง จึงขออนุญาตนำเรื่องนี้มาลงและขอขอบคุณ ทิพยจักร ผู้เขียน มา ณ โอกาสนี้

    เรื่องราวของหลวงปู่สรวงแห่งทุ่งละลมเป็นเรื่องราวที่เล่าขานมานานหลายต่อหลายชั่วอายุคน ว่ามีพระอริยะเจ้าองค์หนึ่งมีอายุยืนยาวหลายร้อยปี มีผู้พบเห็นมาตั้งแต่รุ่นทวด รุ่นปู่ย่าตายายจนกระทั่งรุ่นลูกรุ่นหลาน แต่ท่านก็ยังคงสภาพอยู่อย่างนั้นอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งยังมีปาฏิหาริย์สารพัด เป็นเรื่องเหนือโลก เหนือความคิด ความคาดหมายของปุถุชนธรรมดา โดยกล่าวกันว่าท่านเดินตากฝนไม่เปียก ดำน้ำได้เป็นชั่วโมงๆ ล่องหนหายตัว เดินย่นย่อระยะทาง รักษาโรคภัยไข้เจ็บให้หายได้อย่างน่าอัศจรรย์ และมีอีกหลายต่อหลายเรื่อง เรียกว่าเป็นเรื่องเล่าที่ไม่รู้จบ ล้วนมีแต่ความน่าอัศจรรย์พิศวงในตัวท่านทั้งนั้น
    ความเป็นมาจริงๆของเรื่องหลวงปู่สรวงนั้นไม่มีใครทราบประวัติท่านแน่ชัด เพราะท่านไม่เคยบอกใคร ใครถามท่านว่าท่านจำไม่ได้ เขาเรียกเราว่าสรวงก็สรวง คำพูดคำตอบของหลวงปู่สรวงนั้น ฟังดูแล้วหากพิจารณาดีๆท่านมีความมุ่งหมายให้ผู้ถามผู้ฟังทั้งหลายเลิกยึดตัวตน เข้าหาธรรมแท้ ความปล่อยวางเป็นหลัก อย่างไรก็ตามด้วยความเป็นปุถุชนคนธรรมดา ก็ยังอยากรู้เรื่องราวของท่านว่าท่านคือใคร แม้ไม่รู้ก้อยากรู้ปาฏิหาริย์ของท่านอยู่ดี ซึ่งแท้จริงไม่ใช่เรื่องหลุดพ้นแต่อย่างใด
    หลวงปู่สรวง ท่านเป็นสรณะที่พึ่งของชาวสุรินทร์ ชาวศรีษะเกศ และทั้งผู้ศรัทธาทั้งใกล้และไกล รวมๆแล้วก็น่าจะมีผู้นับถือท่านอยู่ทั่วประเทศ เพราะกิติศัพท์ของท่านนั้นเลื่องลือจริงๆ ไม่ว่าการให้โชคลาภ การโปรดผู้ยากให้พ้นจากความทุกข์ทั้งการกินอยู่ การเงิน ต่างๆ ผู้ที่ท่านโปรดล้วนได้รับความสุขกายสุขใจ เปรียบดังว่าได้ตายแล้วเกิดใหม่ มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม ดังนั้นจึงมีผู้คนจำนวนมากต่างพยายามแสวงหาที่จะพบท่านให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิตเพื่อเป็นบุญวาสนา บางท่านได้เจอแต่บางท่านก็ผิดหวัง แต่กระนั้นหากมีความเชื่อความศรัทธาอย่างแน่นแฟ้นว่า หลวงปู่สรวงท่านเป็นพระผู้วิเศษมีจิตเป็นทิพย์ท่านย่อมรู้เรื่องราวที่เราอธิษฐานถึงท่านด้วยความจริงใจ และมีหลายต่อหลายคนที่ได้ประสบปาฏิหาริย์จากการอธิษฐานถึงหลวงปู่สรวงโดยการอธิษฐานต่อหน้ารูปของท่านบ้างหรือแม้แต่พนมมือขอบารมีท่านก็ยังมี
    ตัวผู้เขียนเองนั้นไม่เคยได้กราบหลวงปู่สรวง แต่ได้ยินเรื่องเล่าของท่านจากหลวงปู่ครูบาอาจารย์ที่เคยได้ติดตามท่าน อย่างหลวงพ่อสร้อย วัดเลียบราษฏ์บำรุง ท่านเล่าว่าท่านเองพบเห็นหลวงปู่สรวงมาแต่เล็ก หลวงปู่สรวงท่านปักผ้าขาวไว้ที่ไหน ชาวเขมรอพยบที่หนีภัยสงครามจะมารวมกันอยู่บริเวณเพราะรู้กันว่าจุดที่หลวงปู่ปักผ้าขาวไว้ ลูกระเบิดไม่เคยตกลงมาสักครั้ง เพราะบารมีหลวงปู่คุ้มครอง ยามที่ชาวบ้านที่หนีตายจากภัยสงครามอดอยากหิวโหย ด้วยขาดแคลนอาหารการกินนั้นหลวงปู่สรวงท่านจะมีหม้อข้าวเล็กนำมาหุงจากนั้นก็ตักข้าวให้กับผู้ลี้ภัยสงครามทุกคน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อหม้อเล็กๆที่เด็กใช้เล่นกันนั้นกลับสามารถมีข้าวเพียงพอแก่ความต้องการทุกคนอย่างน่าอัศจรรย์
    สมัยเด็กหลวงพ่อสร้อยหรือเด็กชายสร้อยสมัยนั้น เคยถูกชวนจากหลวงปู่ให้เดินจากศรีษะเกศไปจังหวัดจันทบุรี ด้วยว่ามีคหบดีท่านหนึ่งจากจันทบุรีนิมนต์ท่านให้ไปฉันเพลที่บ้าน หลวงปู่ตอบตกลงพอถึงวันนัด หลวงปู่ปลุกเด็กชายสร้อยแต่เช้าตรู่ตอนตีสี่ จากนั้นทั้งหลวงปู่สรวงกับเด็กชายสร้อยต่างก็ตั้งหน้าตั้งตาเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดมุ่งหมาย เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง แสงแดดก็เริ่มแรงกล้าขึ้นทุกขณะ เด็กชายสร้อยก็เริ่มหมดแรงเพราะเดินมานานหลายชั่วโมง และไม่มีทีท่าว่าจะถึงสถานที่นัดหมายของเจ้าภาพนั้นได้ มันจะเป็นไปได้อย่างไรด้วยการเดินเท้าเปล่าจากศรีษะเกษไปจันทบุรี ที่สุดเมื่อเด็กชายสร้อยรู้สึกเหนื่อยจนใจจะขาดแล้วนั้น ก็เอ่ยปากถามหลวงปู่สรวงขึ้นว่า หลวงปู่มันจะถึงหรือเนี่ย หลวงปู่สรวงตอบว่าเดินตัดทุ่งนาที่เห็นนี่ก็ถึงบ้านเจ้าภาพแล้ว เด็กชายสร้อยคิดว่าหลวงปู่พูดหลอกตน เพราะมันไม่น่าเป็นไปได้อย่างแน่นอน มันจะเป็นไปได้อย่างไรเล่ากับการเดินด้วยเท้าเปล่า แต่เด็กชายสร้อยก็อดทนเดินตามหลวงปู่ไป เมื่อพ้นจากเขตทุ่งนาเด็กชายสร้อยก็เข้าไปถามคนละแวกนั้นว่าที่นี่ที่ไหน คำตอบที่ได้คือ เขตจังหวัดจันทบุรี คำตอบที่ออกมาจากปากคนแถวนั้นเป็นสิ่งที่เด็กชายสร้อยแทบไม่เชื่อ แต่ก็เป็นไปแล้ว พักเดียวหลวงปู่สรวงก็พาเด็กชายสร้อยขึ้นไปบนบ้านเจ้าภาพ ทันเวลาฉันเพลพอดี
    เรื่องอัศจรรย์เช่นนี้มีอีกมาก หลวงพ่อสร้อยเคยเล่าว่าบางครั้งท่านนั่งรถตู้จากกรุงเทพไปทุ่งละลมเพื่อกราบหลวงปู่สรวง พอรถวิ่งเข้าเขตทุ่งละลมบางครั้งเห็นหลวงปู่สรวงท่านเดินดุ่มๆอยู่ข้างหน้าไม่ไกลนักท่านก็บอกคนขับรถว่าให้ขับแซงหน้าหลวงปู่ขึ้นไปจะได้รับหลวงปู่ขึ้นรถ คนขับก็เหยียบเกียร์เร่งหมายให้ทันหลวงปู่สรวงที่เดินอยู่ข้างหน้าไม่ไกลนัก แต่แปลกอะไรเช่นนั้นรถเร่งความเร็วเท่าไหร่ระยะห่างระหว่างหลวงปู่กับรถยังเท่าเดิม และทุกคนก็เห็นว่าหลวงปู่ท่านเดินเนิบๆอย่างมที่ท่านเคยเดินและหลวงปู่เองก็ชราแล้วไม่ได้เดินเร็วสักหน่อยแล้วทำไมรถถึงตามไม่ทัน เมื่อหลวงพ่อสร้อยฉุกคิดได้ ท่านจึงบอกให้รถหยุด จากนั้นท่านจึงเดินลงไปตามหลวงปู่สรวง ก็เดินทันนับเป็นเรื่องอัศจรรย์เกี่ยวกับการเดินหนย่นระยะทางที่หลวงปู่สรวงท่านแสดงให้เห็นเป็นประจักษ์
    พวกเราชาวภาคกลางคนกรุงเทพเรียกท่านว่าหลวงปู่สรวง แต่สำหรับคนศรีษะเกษจะเรียกท่านว่าลูกตาเบ๊าะ หรือลูกตาเอ็อว แปลว่าพระดาบส แม้ว่าหลวงปู่สรวงจะสิ้นไปแล้วแต่ท่านก้ยังอยู่ในความทรงจำและเป้นอีกตำนานของพระผู้วิเศษแห่งภูตะแบง
     
  9. แมวน้ำ9

    แมวน้ำ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    689
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +512
    กราบโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
     
  10. แมวน้ำ9

    แมวน้ำ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    689
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +512
  11. แมวน้ำ9

    แมวน้ำ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    689
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +512
    [​IMG]<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  12. แมวน้ำ9

    แมวน้ำ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    689
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +512
    [​IMG]
    เหตุการณ์ที่วัดไพรพัฒนา

    เวลาประมาณ 19.00 น. ในขณะที่หลวงพ่อพุฒกำลังสนทนากับพระลูกวัดก็ได้มีรถเข้ามาจอดจำนวน 4 คัน โดยมีนายสาด ลงมาแจ้งกับหลวงพ่อพุฒว่าหลวงปู่สรวงมรณภาพแล้ว หลวงพ่อพุฒอึ้งไปขณะหนึ่ง ก็ได้ถามว่ามรณภาพที่ไหน นายสาดตอบว่าที่โรงพยาบาล และได้นำศพของท่านมาพร้อมกับรถนี้แล้ว หลวงพ่อพุฒจึงได้ลงไปเปิดประตูรถดู และได้กราบลงบนตักของหลวงปู่ และได้จับตามร่างกายและหน้าอกของหลวงปู่ดู และก็รู้สึกได้ว่าท่านได้ละสังขารจริงๆ และถามลูกศิษย์ที่นำสังขารหลวงปู่มา ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ลูกศิษย์ทุกคนรวมทั้งนายสัญชัยได้บอกว่าจะนำสังขารของหลวงปู่ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านขยุง หลวงพ่อพุฒ บอกว่าให้เดินทางไปก่อนแล้วอาตมาจะตามไป ขบวนรถทั้ง 4 คันก็ได้เคลื่อนออกจากวัดไพรพัฒนาจะไปยังวัดบ้านขยุง หลวงพ่อพุฒจึงครองจีวรเตรียมอุปกรณ์เรียกหาพระลูกวัดก่อนจะออกเดินทางได้อธิษฐานว่า “สาธุ ถ้าหากหลวงปู่มีความประสงค์จะให้ลูกหลานได้เป็นผู้บำเพ็ญกุศล ก็ขอให้หลวงปู่ได้กลับมาที่วัดด้วยเถิด” แล้วก็ได้นั่งรถติดตามไปที่บ้านขยุงแต่ไปถึงแค่บ้านโคกชาด มีรถหลายคันจอดอยู่และได้ให้สัญญาณไฟ จึงได้จอดดูแล้วปรากฏว่าเป็นรถที่จะนำสังขารหลวงปู่ไปที่วัดบ้านขยุง ได้บอกหลวงพ่อพุฒว่าให้กลับไปที่วัดไพรพัฒนา แล้วก็ขับออกนำหน้า หลวงพ่อพุฒก็ได้นั่งรถตามมา พอมาถึงวัดเห็นรถที่มีสังขารหลวงปู่จอดอยู่ที่ด้านทิศตะวันออกของศาลา จึงได้บอกว่าอย่าพึ่งทำอะไรให้อยู่อย่างนี้ก่อน และได้สั่งให้พระลูกวัดจัดเตรียมสถานที่ตั้งศพบนสาลา ส่วนหลวงพ่อพุฒเองได้นำธูปเทียนมากราบไหว้ขอขมาลาโทษ และนิมนต์ร่างของหลวงปู่ขึ้นมาตั้งตรงสถานที่ๆ จัดไว้บนศาลา และได้จุดธูปอธิษฐานว่า “ หากเป็นความประสงค์ของหลวงปู่จะให้ลูกหลานบำเพ็ญกุศลในที่นี่จริง ก็ขอให้ดำเนินการไปโดยเรียบร้อย และขอให้มีลูกศิษย์ของหลวงปู่ได้มาร่วมบำเพ็ญกุศลโดยทั่วกัน” ต่อจากนั้นได้ดำเนินการบำเพ็ญกุศลให้กับหลวงปู่อย่างที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
    นี่คือเหตุการณ์ทั้งหมดว่าเหตุใด สรีระของหลวงปู่สรวงจึงได้มาตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่บ้านไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ
     
  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,277
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    เมื่อประมาณสิบปีก่อน พระอาจารย์และเหล่าสหธรรมิค ได้เห็นลูกเห็บขนาดใหญ่ แข็ง
    ตกลงถล่มบ้านเรือนพินาศ เลยบอกๆกันให้ทำที่หลบ่ของแข็งจากข้างบนด้วย

    หลังคาลอนธรรมดา ทนไม่ได้แน่ ถ้าทำบ้านสองชั้น ให้มีพื้นที่ที่มีหลังคาแข็งแรงเป็นพิเศษเช่นทำเป็นดาดฟ้าไว้หลบของแข็งจากข้างบน

    ทำอย่างน้อยสองชั้นเพื่อหลบน้ำท่วมขึ้นมาชั้นบนได้

    ทำทุ่น และบ้านบนทุ่น เผื่อว่าจะลอยไปไหนได้ แต่บ้านบนทุ่น ต้องมีที่หลบของแข็งจากฟ้า เช่นลูกเห็บด้วย


    ทำเครื่องกรองน้ำแบบง่ายๆ แบบที่ทหารและตชด.ใช้ ลองติดต่อทหารช่างดูจะได้ต้นแบบมา คือ ถ้าตักน้ำที่มีโคลนใส่ น้ำจะออกมาใส ดื่มได้

    เผื่อว่า ต้องใช้ชีวิตในช่วงน้ำท่วมได้หลายวัน

    อีกมากมาย ทยอยเล่า แทรกไป ....ขอบคุณครับ....
     
  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,277
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    หลายครั้ง หน่วยทำฝนเทียมของโครงการหลวง ขึ้นทำฝนเทียมสกัดไม่ให้มีพายุลูกเห็บ
    เมื่อเดือนก่อน ก็ที่ทางเหนือ แถวเชียงใหม่

    ด้วยพระบารมีองคสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล ประชาชนจึงพ้นภัย
    แต่ทุกวันนี้ คนชั่วก็ยังตั้งเว็บ โพสหลายอย่างที่ทำลายพระองค์
     
  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,277
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    ขอบคุณและอนุโมทนาสำหรับเรื่องราวดีๆของหลวงปู่ท่าน
    เสียดายที่ท่านเพิ่งละสังขารสิบกว่าปีมานี้เอง ผมคงไม่มีวาสนาเลยไม่ได้กราบตอนท่าน
    ทรงสังขาร

    แต่แค่มองภาพ แล้วนึกถึง สังฆังสรณังคัจฉามิ ได้สิ่งดีๆ เข้ามาในกายและใจ ที่ตีค่าไม่ได้


    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  16. แมวน้ำ9

    แมวน้ำ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    689
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +512
    กราบโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
     
  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,277
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    เช่นกันครับคุณแมวน้ำ9 บางครั้งผมโพสอะไรอ่านดูแข็งๆทื่อๆ อย่าถือสานะครับ ใจจริงไม่มีอะไร เป็นมิตรกับทุกคนเสมอ ขอบคุณครับ
     
  18. แมวน้ำ9

    แมวน้ำ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    689
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +512
    ได้อ่านวันสุดท้ายก่อนหลวงปู่ท่านจะมรณะภาพ ท่านเมตตาเหลือเกินค่ะ อ่านแล้วน้ำตาไหลเลย ได้อ่านคำทำนายของท่าน ท่านพยายามที่จะบอก(พวกที่คิดไม่ดีให้กลับใจ) แต่ไม่ทราบว่าพวกเขาจะเข้าใจหลวงปู่ท่านหรือปล่าว? ......กราบโมทนาค่ะ
     
  19. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,277
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450

    มีพระปฏิบัติดีสายหลวงปู่มั่นที่รู้จักกันทั่วประเทศท่านมารับผ้าป่าที่เชียงใหม่
    ท่านยังพูดให้ฟังเลยว่า " สังเวช ที่เห็นคนนับไม่ถ้วนพากันเดินลงนรก.."
     
  20. แมวน้ำ9

    แมวน้ำ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    689
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +512
    กราบโมทนา สาธุ ค่ะ คุณนักรบเงา อยู่เชียงใหม่ เป็นลูกหลาน(ท่านท้าวรณกาจพนาสูรย์-องค์เขียวๆใจดี) โชคดีจังเลยค่ะ:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...